ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO SNSD] EMPIRE LOVE

    ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER 7 [100% Complete]

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 56


    CHAPTER 7

    ตอนที่ 7

     

              ฉันตื่นขึ้นมาในยามสายของอีกวันเพราะฤทธิ์ยานอนหลับชนิดรุนแรง ตื่นขึ้นมาก็พบเคลวินที่นอนฟุบหลับอยู่ข้างๆตัวฉัน แสงแดดในยามสายของวันช่างแรงจ้า บานเกล็ดที่ถูกเปิดทิ้งไว้ปล่อยให้แสงลอดผ่านเข้ามาทำให้ฉันที่รู้สึกสะลืมสะลือถึงกับต้องขยี้ตา

     

    “เคลวิน..” ฉันเรียกชื่อพร้อมกับสะกิดคนที่ฟุบหลับอยู่อย่างแผ่วเบา “เคลวิน..ตื่นสิ”

     

    “อืม..” เสียงหนาที่แหบแห้งครางออกมาเบาๆ ฉันมองเคลวินที่ใช้มือหนาขยี้ผมสีบลอนด์ทองของเขาจนดูไม่เป็นทรง จะว่าไปใบหน้าคมของเคลวินตอนตื่นนอนก็ดูเซ็กซี่ไปอีกแบบ “มีอะไรเหรอเจสซี่?”

     

    “ช่วยปิดบานเกล็ดให้ฉันหน่อยสิ,แสงมันส่องเข้ามามันแสบตาน่ะ” ฉันชี้ไปที่บานเกล็ด เคลวินเห็นอย่างนั้นก็เดินไปรูดปิดบานเกล็ดทันที แสงแดดก็ค่อยๆ จางหายไป..ก่อนที่แสงเทียมจากหลอดไฟที่ติดอยู่บนฝ้า เพดานจะสว่างขึ้นมาแทน

     

    “ขอบคุณ..” ฉันพูดในลำคอเบาๆ ก่อนจะเอนตัวลงนอนต่อ เคลวินใช้มือหนาของเขาช่วยดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ฉันจนถึงช่วงหน้าอก ฉันไม่ได้พูดว่าอะไรพลางหลับตาลงนอนพักผ่อน

     

    ก๊อก ก๊อก

     

    “ใครมาน่ะ?” ฉันลืมตาขึ้นอีกครั้งเพราะได้ยินเสียงคนเคาะประตู ฉันไม่รู้ว่าคนที่มาเยี่ยมฉันในยามสายนี้คือใคร เคลวินก็ยักไหล่เหมือนกับต้องการจะสื่อว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน 

     

    “ไปเปิดประตูเถอะ..” ฉันพูดพร้อมกับจะค่อยๆ ประคองตัวเองให้ลุกขึ้น

     

    “สงสัยจะเป็นคุณพยาบาลมาตรวจอาการของฉัน..” ฉันมองไปที่ประตูบานสีขาวสะอาดตามแบบฉบับโรงพยาบาลอย่างเบื่อๆ ฉันจะต้องมานอนโทรมอยู่ที่โรงพยาบาลไปอีกนานแค่ไหนเนี่ย? ไม่ได้ช้อปปิ้งมาสองสามวันแล้วฉันรู้สึกเหมือนใจจะขาดใจตาย

     

    “งั้นฉันไปเปิดประตูแล้วนะ..” เคลวินพูดพลางหันหลังให้ฉันแล้วเดินไปเปิดประตูบานสีขาวสะอาด เปิดก็ดีฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครมา

     

    แอ๊ด..

     

    “...” ทำไมเคลวินถึงเงียบไปล่ะ? ใครมากัน? ฉันขมวดคิ้วเข้ากันอย่างสงสัย ร่างสูงของเขายังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่มีการขยับเขยื้อน แปลกจริงแฮะ

     

    “ใครมาน่ะเคลวิน? ทำไมไม่ให้เขาเข้ามาล่ะ?”

     

    “...”

     

    “เคลวิน..”

     

    “กลับไป! กูบอกให้มึงกลับไป!

     

    หืม? กลับไป? กลับไปอะไรของเคลวินกัน? ฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรเลย แล้วคนที่มาหาฉันคงจะไม่ใช่คุณพยาบาลที่มาตรวจอาการของฉันแน่นอน..เขาไม่มีทางที่จะพูดจาไม่สุภาพกับคุณพยาบาลอย่างนี้แน่นอน

     

    “กลับไปอะไรเหรอเคลวิน? นายไล่ใคร? แล้วใครมาหาฉัน?” ฉันยิงคำถามที่สงสัยใส่เคลวินอย่างเป็นชุด แต่ก็ไม่ได้รับอะไรตอบกลับมาจากเขาเลย “เคลวิน”

     

    “อะไรกันเคลวิน..ฉันบอกแล้วไงว่าฉันแค่มาเยี่ยม..คนที่ฉันรัก” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากภายนอกอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เสียงของเคลวิน แต่เป็นเสียงของอีกคน..น้ำเสียงของคนที่ฉันรู้สึกคุ้นเคย อย่าบอกนะว่าคนที่ยืนอยู่ข้างนอกนั้นคือ ลีทงเฮ

     

    ..เรื่องทุกอย่างมันชักจะสนุกขึ้นมาซะแล้วสิ..

     

    “เคลวิน..อย่าเป็นคนเสียมารยาทแบบนี้สิ คุณทงเฮเขาอุตส่าห์มาเยี่ยมฉัน นายจะปล่อยให้เขายืนให้เมื่อยขาอยู่ข้างนอกอย่างนั้นเหรอ?”

     

    “ฉันบอกให้นายกลับไปซะทงเฮ..อย่า-มา-ยุ่ง-กับ-คู่-หมั้น-ของ-ฉัน!” ทงเฮแสยะยิ้มออกมา ก่อนจะเดินชนไหล่แกร่งของเคลวินเข้ามาภายในห้อง ใบหน้าคมของเคลวินมองตามทงเฮอย่างอาฆาต..ในมือของทงเฮมีช่อดอกไฮเดรนเยียร์สีม่วงที่ฉันชอบ

     

    “สวัสดีคะคุณทงเฮ” ฉันยิ้มก่อนจะกล่าวทักทายทงเฮพร้อมกับรับช่อดอกไฮเดรนเยียร์สีม่วงมาไว้ในมือ ฉันไม่ได้สนใจเคลวินที่มีสีหน้าเกรี้ยวกราดเลยสักนิด ทำไมจะต้องแคร์คนนิสัยไม่ดีอย่างเขาด้วย? เคลวินเองก็ทำฉันเอาไว้เจ็บแสบเหมือนกัน

     

    “ผมตกใจแทบแย่ที่ได้ยินข่าวว่าคุณป่วยจนต้องนอนรักษาที่โรงพยาบาล..” ทงเฮดึงมือข้างซ้ายของฉันไป ก่อนจะบรรจงซับจูบลงที่หลังมือของฉัน “หายไวนะครับ คุณคนสวย..”

     

    “งั้นนายก็คงกลับไปได้แล้ว..คู่หมั้นฉัน ฉันดูแลเองได้” เคลวินพูดแทรกขึ้น ก่อนที่จะรีบมาดึงข้อมือของฉันไว้ซะก่อน สายตาดุจดั่งเหยี่ยวของทั้งคู่จับจ้องกันราวกับมีสิ่งที่คุ้นเคืองอยู่ในใจ ราวกับไฟบรรลัยกัลที่ประทุขึ้นอีกครั้ง สถานการณ์ตอนนี้น่าอึดอัดได้ที่เลยแหละ “ออกไปได้แล้ว..”

     

    “เสียมารยาทจริงๆ เลยเคลวิน..คุณทงเฮเขาเพิ่งมาได้พักเดียวเอง นายจะใจร้ายใจดำให้เขากลับไปแล้วเหรอ? นั่งลงก่อนเถอะคะ..ขอบคุณนะคะที่คุณอุตส่าห์มาเยี่ยมฉันถึงที่นี้” ฉันหันไปทำหน้าดุใส่เคลวิน ก่อนจะบอกให้ทงเฮนั่งลง ฉันวางช่อดอกไม้ลงที่โต๊ะตัวเล็กข้างตัวอย่างยิ้มๆ

     

    “เจสซี่!” เคลวินเดินเข้ามาประชิดตัวฉันพร้อมกับใช้มือหนาของเขากระชากข้อมือของฉันอย่างแรง

     

    “โอ้ย! มันเจ็บนะเคลวิน!” ฉันหันไปตวาดใส่เขา “ปล่อย”

     

    “ไหนว่านายดูแลคู่หมั้นของนายได้ยังไงล่ะ!? ถ้าวิธีดูแลคู่หมั้นของนายเป็นแบบนี้เห็นทีว่าฉันคงไม่ยอมให้มันเป็นแบบนี้แน่! ปล่อยคุณเจสซี่ซะ นายไม่เห็นรึยังไงว่าเธอป่วยอยู่!?”

     

    “คู่หมั้นของฉัน ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน! อย่าสะเออะเข้ามายุ่ง!

     

    !!!

     

    ทงเฮผลักที่ไหล่กว้างของเคลวินออก ทั้งคู่จ้องกันด้วยสายตาที่ดูไม่เป็นมิตร..ในดวงตาของทั้งคู่ฉายภาพไฟที่กำลังแผดเผา ความเคืองขุ่นที่อยู่ในใจของทั้งคู่กำลังล้นทะลักออกมา..ดังภูเขาไฟที่ดับสนิทกำลังประทุขึ้นอีกครั้ง อีกไม่นานความโกรธนั้นจะเป็นดั่งลาวาที่เผาไหม้..เผาไหม้เราทั้งสามคน

     

    “โอ้ย!” ฉันนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดเมื่อมือหนาของเคลวินกระชากดึงข้อมือของฉันอย่างแรง ฉันเจ็บแทบน้ำตาซึม เจ็บปวด..เป็นเพียงความรู้สึกเดียวที่ฉันรู้สึกได้ในตอนนี้

     

    “โธ่เว้ย!

     

    ผลั้วะ!!

     

    กำปั้นขวาของทงเฮปะทะลงที่ใบหน้าคมของเคลวินทันที ใบหน้าคมหันไปตามแรงชก ความรู้สึกกลัว..เข้ามาแทนที่ทุกอย่าง ทำไมฉันถึงต้องรู้สึกเจ็บทุกครั้ง เวลาที่เคลวินเจ็บปวด ทั้งๆที่ฉันควรจะสะใจหรือดีใจกับมันเสียมากกว่า ทำไมกัน? ทำไมน้ำตาถึงได้พาลจะไหลออกมาอยู่เรื่อยเลย

     

    “นายเคยรู้บ้างไหม!? ว่าคุณเจสซี่ต้องเจ็บปวดมาเพราะนายสักเท่าไหร่!? ตลอดเวลาที่ผ่านมานายเคยทำตัวเป็นคู่หมั้นที่ดีบ้างไหม!? ฉันไม่น่ายอมให้นายหมั้นกับเจสซี่ง่ายแบบนี้เลย!

     

    “...”

     

    “คุณทงเฮ..พอเถอะคะ..ฉันขอร้อง”

     

    ทงเฮชี้หน้าเขาอย่างเอาเรื่อง แต่เคลวินกลับมีสีหน้านิ่งเฉย ไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา นั้นแหละคือสิ่งที่ฉันกลัวที่สุด..ยิ่งเคลวินเป็นแบบนี้ยิ่งน่ากลัว ยิ่งเขาไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา มันก็เหมือนกับว่าเราอยู่ใกล้จุดเสี่ยงมากเท่านั้น เขาจะระเบิดออกมาตอนไหนไม่มีใครรู้..

     

    “ถ้าเป็นฉัน..ฉันจะไม่มีวันทำให้คุณเจสซี่มีน้ำตาสักหยด แต่นาย! นายกลับทำมัน! นายทำให้เธอต้องร้องไห้เสียใจ! มันหลายครั้งแล้วที่ฉันต้องเห็นเธอเป็นแบบนี้!” ร่างโปร่งของทงเฮตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อของเคลวินทันที “นายเคยสำนึกบ้างไหม!?”

     

    “ฮึ!

     

    “นี้นายยังมีหน้ามายิ้มอีกเหรอ!? ไอ้หน้าตัวเมียเอ้ย! คนอย่างมึงไม่คู่ควรกับผู้หญิงดีๆ แบบนี้เลยสักนิด! มึงมันไม่สมควรมีเธออยู่ข้างกายเลยด้วยซ้ำ!

     

    ผลั้วะ!!

     

    “พะ..พอ ฮึก..เถอะคะคุณทงเฮ..ฉะ..ฉันขอร้อง”

     

    “อย่าห้ามผมเถอะเจสซี่..คนอย่างเขาควรจะรู้อะไรซะบ้าง! ไม่ใช่โง่ดักดานอะไรแบบนี้” ทงเฮตะคอกใส่หน้าเขา ทุกอย่างทำให้ฉันรู้สึกปวดหัว..สับสน ฉันได้แต่สะอื้นออกมา..ระบายความเครียดที่อยู่ภายในใจ

     

    ..ฉันเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นเคลวินถูกทำร้าย..

     

    ..หัวใจของฉันนิ่งสงบราวกับว่ามันหยุดเต้นลงเมื่อเห็นเขาต้องเจ็บปวด..

     

    ผลั้วะ!!

     

    “พ..พอสักที ยะ..อย่าทำร้ายเขา”

     

    ผลั้วะ!!

     

    “พอสักที..ได้โปรด..” ฉันใช้มือกุบขมับด้วยความเจ็บปวด อาการปวดมันแล่นผ่านเข้ามาในโสตประสาทของฉันอีกครั้ง ยิ่งฉันห้ามเท่าไหร่..ฉันก็ยิ่งเหนื่อยมากเท่านั้น น้ำตาของฉันมันพรั่งพรูไหลออกมาไม่รู้จักหยุดจักหย่อน

     

    “ฉันบอกให้หยุด!! หยุดได้แล้ว! ฉันปวดหัวจะไปทะเลาะกันที่ไหนก็ไป!

     

    “เจสซี่..”

     

    “ฮึก..เคลวิน..ฉันปะ..ปวดหัวจัง..”

     

    “โธ่เว้ย!

     

    เสียงที่ทุ้มต่ำที่ดังเรียกชื่อของฉัน ฉันยังคงจำได้ดี..เคลวินเสียงของเขา ร่างสูงของเขาผลักให้ร่างของทงเฮผละออกจากตัว ก่อนที่เขาจะเดินตรงปลี่เข้ามาหาฉัน อ้อมกอดที่อบอุ่นของเขามันกลับมาอีกครั้ง..ใบหน้าคมของเคลวินมีบาดแผล  โลหิตสีแดงสดไหลออกมาตามปากแผลของเขา..ถ้าปลายนิ้วของฉันมันซึมซับความเจ็บปวดจากเขามาได้..มันคงจะดีกว่านี้

     

    “คุณเจสซี่..คะ..คือผม..”

     

    “ฮึก..”

     

    “หุบปากเน่าๆ ของนายแล้วรีบออกไปตามหมอมาจะดีกว่า ถ้านายยังไม่อยากให้เจสซี่เป็นอะไรไปมากกว่านี้! เร็วสิ! ถ้าเจสซี่เป็นอะไรขึ้นมาฉันจะฆ่านาย!

     

    แผ่นหลังของทงเฮที่ไกลออกไปช่างเลือนลางนัก ความเจ็บปวดยังคงแล่นผ่านสมองซีกขวาของฉันไปเรื่อยๆ มันบีบรัดจนฉันแทบจะขาดใจตาย อ้อมกอดของเคลวินที่แน่นขึ้นเรื่อยๆ ฉันซุกใบหน้าลงที่อกแกร่งของเขา หวังเพียงแค่ว่าทำแบบนี้ความเจ็บปวดจะเลือนหายไป..

     

    “ไม่เป็นไรนะ..เจสซี่..ฉันอยู่ตรงนี้ เคลวินวูของเธออยู่ตรงนี้..เธอจะต้องไม่เป็นอะไรตราบใดที่ยังมีฉันอยู่เคียงข้างเธอ..” เขากระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ฉันรู้สึกอบอุ่น..ไม่เคยรู้สึกปลอดภัยเท่านี้มาก่อน ฉันหลับตาลง..เพียงไม่นานทุกอย่างก็เกิดขึ้น..มันรวดเร็วจนฉันคาดไม่ถึง

     

    ฉันกระชับอ้อมแขนของตัวเองให้แน่นขึ้นพร้อมกับหลับตาลง..ฉันรู้สึกได้ว่าในวันพรุ่งนี้ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป..รู้สึกเหมือนว่ากำลังจะมีอะไรเกิดขึ้นในไม่ช้านี้..

     

    [ต่อคะ]

     

    ……………………………………………………………..

     

                มาเก๊า, ฮ่องกง

     

    “เฮ้อ..ถึงสักที เหนื่อยจะแย่”

     

    เชวจีน่าบ่นอุบออกมาพร้อมกับมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเองไปพลางๆ เธอหยิบ i-phone 4 สีขาวขึ้นมาถ่ายรูปตนเองเพื่ออัพเดตลงบนโลกไซเบอร์ตามประสาเซเลบ(ตกอับ)อย่างเธอ แต่คนที่ตกอับและถังแตกอย่างเธอก็ไม่ได้เจียมเนื้อเจียมตัวเลยสักนิด จีน่ายังคงใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยเช่นเดิมทุกวัน และนั้นก็เป็นสาเหตุที่เธอยอมทรยศเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของตนเองเพียงเพื่อความอยู่รอด

     

    ..ในใจเชวจีน่าก็รู้สึกผิดต่อเพื่อนตนเองไม่ใช่น้อย..

     

    แต่จะให้ทำยังไงได้ถ้าไม่ทำก็เท่ากับอดตายซึ่งคนอย่างเชวจีน่าไม่มีทางยอมให้เป็นแบบนั้นเด็ดขาด!!

     

    “ทำไมคนของเคลวินยังไม่มารับสักทีเนี่ย? คอยดูนะ..ถ้ามาช้ากว่านี้จะบอกให้เคลวินไล่ออกเลย แย่จริงเลย!

     

    ใบหน้าเรียวเริ่มบูดบึ้ง เธอมองนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารที่เดินผ่านไปผ่านมาอย่างหงุดหงิด ผ่านไปหลายนาทีก็ไม่เห็นว่าจะมีวี่แววคนของเคลวินเลยสักคน แต่ทันใดนั้น..สายตาของเธอไปสะดุดกับผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในฝูงชน เขาช่างดูโดดเด่น น่าหลงใหล และหล่อเหลาอะไรเช่นนี้..ราวกับว่าเขาหลุดออกมาจากเทพนิยาย..

     

    “เขาชื่ออะไรกันนะ..อยากจะทำความรู้จักกับเขาจัง”

     

    จีน่าพูดกับตัวเองในใจเบาๆ สายตายังคงจับจ้องไปที่พ่อหนุ่มรูปงามที่เดินเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ เธอได้แต่กระพริบตาปริบๆ เพราะไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ขายาวของเขาก้าวเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ จนเขาก้าวมาหยุดอยู่ที่ตรงหน้าเธอ

     

    “...”

     

    “ขอโทษนะครับ”

     

    ใบหน้าคมของเขาทำให้คนอย่างเชวจีน่าใจสั่นได้ถือว่าไม่ธรรมดา ริมฝีปากหยักบางที่น่าเอ็นดูของเขายิ่งทำให้เธออดที่จะเชยชมไม่ได้ เรียกว่ามองมุมไหนก็ไม่มีที่ติเลยสักนิด คนอะไรกันนะถึงได้เพอร์เฟ็คอย่างกับหลุดออกมาจากโลกนิยายได้ถึงขนาดนี้..

     

    “ฉะ..ฉันเหรอคะ?” จีน่าชี้หน้าตัวเองพร้อมกับทำสีหน้าไม่เชื่อสายตาตัวเอง เธอไม่คิดว่าคนหน้าตาดีอย่างเขาจะเป็นเพียงแค่คนงานของเคลวิน นั้นเลยทำให้เธอเข้าใจว่า ไม่มีใครเพอร์เฟ็คบนโลกใบนี้หรอก

     

    “ครับ เอ่อ..คุณใช่คุณเชวจีน่าหรือเปล่าครับ?”

     

    “ใช่คะ ฉันเชวจีน่าคะ แล้วคุณล่ะคะ?”

     

    “ผม..อารอนหยางครับ ผมเป็นคนของคุณเคลวินวูเองครับ ผมต้องขอโทษที่มารับคุณช้า เพราะรถติดน่ะครับเลยทำให้ผมมาช้า” จีน่าพยักหน้าหงึกๆ ว่าเข้าใจ ก่อนจะส่งกระเป๋าเดินทางใบสีชมพูแปร๋ดของเจ้าตัวให้เขาไป

     

    “ทางนี้ครับ”

     

    อารอนพูดพร้อมกับเดินนำจีน่าไปที่รถเมเซเดสเบนซ์สีบลอนด์ทองที่จอดนิ่งสนิทอยู่บนลานจอดวีไอพีที่มีป้ายติดว่า K-Corperation ซึ่งนั้นเป็นบริษัทของเคลวินอีกสาขาหนึ่งในฮ่องกง อารอนไม่พูดให้มากความพลางเปิดประตูด้านหลังคนขับให้เธอ ก่อนจะผายมือไปที่ตัวรถอย่างรู้งาน จีน่าสอดตัวเข้าไปในรถทันทีก่อนที่เขาจะปิดประตูลง

     

    ปัง

     

    เสียงประตูรถฝั่งคนขับถูกปิดลงเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่อารอนขึ้นนั่งประจำที่เรียบร้อยแล้ว จีน่าไม่ได้สนใจอารอนแต่เธอกลับสนใจเจ้าสมาร์ทโฟนที่อยู่ในมือเสียมากกว่า เธอพยายามโทร.หาเคลวินหลายครั้ง หลังจากที่เครื่องบินลงจอด แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จสักครั้ง เคลวินไม่ยอมรับสายจากจีน่าเลยสักครั้ง เธอเลยตัดสินใจยัดเจ้าสมาร์ทโฟนลงไปในกระเป๋าชาแนลของตัวเองเพื่อตัดปัญหา

     

    “จิ๊” จีน่าจิปากด้วยอารมณ์หงุดหงิดก่อนจะหันหน้าไปมองทิวทัศน์ข้างทาง ที่เริ่มจะเป็นป่าแซมไปด้วยบ้านคนบ้างต้นไม้บ้างตึกบ้าง อารอนก็ไม่ได้พูดอะไรแต่เขากลับปล่อยให้เสียงเครื่องปรับอากาศเป็นคนพูดแทน

     

    “เราจะไปที่ไหนกันเหรอคะ?” จีน่าพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบลง

     

    “อ่อ คฤหาสน์ของคุณเคลวินน่ะครับ อีกไม่นานก็ถึงครับ” อารอนพูดพร้อมกับหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปตามทาง ทั้งสองทางไม่มีรถผ่านหรือสวนทางมา นั้นแสดงว่าทางนี้อาจจะเป็นทางไปที่คฤหาสน์ของเคลวิน จีน่าเห็นอย่างนั้นก็วางใจ

     

    .

    .

    .

     

    “ถึงแล้วครับ”

     

    ประตูฝั่งด้านหลังคนขับที่มีจีน่านั่งประจำอยู่ถูกเปิดออกโดยคนที่อยู่ข้างนอก เวลาจากสนามบินมาถึงที่คฤหาสน์ของเคลวินใช้เวลาเพียงยี่สิบนาทีเท่านั้น จีน่าเห็นอย่างนั้นก็ก้าวขาลงจากรถคันหรูทันที ร่างบางเหลือบมองคฤหาสน์ที่ถูกตกแต่งสไตล์ยุโรปที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าอย่างพอใจ

     

    “เชิญครับ..มีคนรอพบคุณอยู่ด้านในครับ”

     

     ชายชุดดำคนหนึ่งพูดพร้อมกับเดินนำจีน่าเข้าไปภายในตัวคฤหาสน์ จีน่ามองสำรวจความหรูหรา โอ่อ่า ตระการตาไปพลางๆ ระหว่างที่เดินตามชายชุดดำคนนั้นไป “ถึงแล้วครับ..เชิญครับ” ชายชุดดำพาจีน่ามาหยุดอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่ง ก่อนที่เขาจะแง้มบานประตูไม้โอ๊คออกอย่างช้าๆ จีน่าก้าวเข้าไปภายในห้องก่อนที่ประตูห้องจะปิดลง

     

    ปัง

     

    “อะไรกันเนี่ยคนพวกนี้? อยู่ๆ ดีก็ให้เรามาที่นี้”

     

    จีน่าพูดพร้อมมองสำรวจรอบๆ บริเวณห้อง ห้องนี้มีชั้นหนังสือมากมายแถมยังมีโซฟาหนังสัตว์ชั้นดีจากออสเตรียที่ตั้งอยู่บริเวณมุมห้อง ภายในห้องมีประตูเชื่อมจากอีกห้องหนึ่งไปยังห้องหนึ่ง และแถมยังมีโต๊ะทำงานตัวกว้างวางเด่นเป็นสง่าอยู่กลางห้องเสียด้วย

     

    แอ๊ด..

     

    เสียงประตูถูกเปิดออกพร้อมกับบุคคลที่เข้ามาใหม่ปรากฏร่างเล็กที่เดินเข้ามาภายในชุดเดรสสีครีมเรียบ ใบหน้าสวยหวานเซ็กซี่ พร้อมกับผมสีน้ำตาลเฮเซลนัทที่ปล่อยไล่ยาวจนถึงกลางหลัง เธอจัดว่าเป็นผู้หญิงสวยอีกคนหนึ่งเลยแหละ..จีน่าขมวดคิ้วเข้าหาด้วยความสงสัยว่าเธอคนนี้คือใครกัน..เธอเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่โตแห่งนี้ของเคลวินได้อย่างไรกัน

     

    “ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์คะคุณเชวจีน่า..ฉันเฉินถาวฮวา..ยินดีที่ได้รู้จักคะ”

     

    “เฉินถาวฮวา? ใครกันนะ?” จีน่าพึมพัมกับตัวเองในใจ จากข้อมูลที่เธอทราบมาเคลวินไม่มีพี่สาวหรือน้องสาวเลยสักคน แล้วผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือใครกัน

     

    “ไม่ต้องตกใจไปหรอกคะ..เรายังมีเวลาทำความรู้จักกันอีกเยอะ” ถาวฮวายิ้มกรุ่มกริ่มก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้นวมสีแดงสด ในมือถือถ้วยน้ำชาแบบยุโรปขึ้นมาจิบอย่างสบายใจ “นั่งลงก่อนเถอะคะ..” ถาวฮวาผายมือไปที่เก้าอี้นวมอีกตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ข้างๆ จีน่าเดินตามไปนั่งลงอย่างว่าง่าย

     

    “คุณคือ?”

     

    “รับน้ำชายามบ่ายสักหน่อยไหมคะ?” ถาวฮวาพูดขัดขึ้น จีน่าได้แต่เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงสิ่งที่เธอต้องการรู้ที่สุดในตอนนี้คือ..ถาวฮวาคือใครกัน?.. 

     

    “คือ..ฉัน..คือฉันแค่..อยากจะ”

     

    ไม่รู้อะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอของจีน่า เธอไม่กล้าถามผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ว่าเธอเป็นใคร ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี้ แต่ไม่รู้อะไรถึงทำให้ปากของเธอไม่กล้าที่จะถามออกไป

     

    “สงสัยคุณคงจะต้องการดื่มน้ำชา..เดี๋ยวฉันรินให้นะคะ” ถาวฮวายิ้มพลางหยิบแก้วน้ำชาที่วางคว่ำเอาไว้จากถาดสีทองคำที่วางอยู่ข้างตัว เธอจัดการหงายแก้วเซรามิคสีขาวเรียบก่อนที่จะรินน้ำชายุโรปสีน้ำตาลเจือจางลงไปในแก้ว ไอร้อนสีขาวจากน้ำชาฟุ้งแผ่ขึ้นมาชัดเจนจนเห็นได้ชัด

     

     “นี้คะ..ระวังร้อนนะคะ” ถาวฮวาส่งแก้วให้จีน่าที่นั่งครุ่นคิดอยู่อย่างเป็นมิตร “ทำไมคุณมองหน้าฉันแบบนั้นล่ะคะ?”

     

    “เอ่อ..ฉันขอถามอะไรคุณหน่อยได้ไหมคะ?”

     

    “ฮึ..ถ้าคุณจะถามว่าฉันเป็นใคร..ฉันก็บอกได้คำประโยคเดียวว่าฉันยังบอกคุณตอนนี้ไม่ได้หรอกคะ แต่อีกไม่นานรับรองคุณจะได้รู้สมใจคุณแน่นอนคะ”

     

     

     

     

    มาอัพที่เหลือให้แล้วคะ มีคาแร็คเตอร์เพิ่มมาสองคนด้วย^^ ชอบสองคนนี้มากคะ เลยเอาอิมเมจมาฝากด้วย คนแรกที่เป็นผู้หญิงชื่อซินดี้หวังคะ คนที่ใบตองเอามาเป็นแม่เฉินถาวฮวาของเรานั่นเอง ส่วนคนที่สองที่เป็นผู้ชายชื่อตามในเรื่องเลยคะ อารอนหยาง (Aron Yan)คนนี้อยู่ในวง Fahrenheit ของไต้หวันคะ >< ขอบอกว่าวงนี้หล่อมาก(นอกเรื่องไปไกล)สองคนนี้เป็นดารานักร้องจากไต้หวันคะ แบบดูซีรี่ย์แล้วโดนใจสองคนนี้ก็เลยจับมาใส่นิยายซะเลยนี่



    มีเรื่องสำคัญอีกอย่างจะแจ้งคะ คือ เราใกล้จะสอบกลางภาคแล้วคะ มันรวดเร็วยิ่งกว่าไฮสปีดอินเตอร์เน็ตเสียอีก T^T อาจจะไม่ได้อัพไปหลายวันนะคะจนกว่าจะสอบเสร็จ เง้อ..กู้ดบายเบเบี้กู้ดบาย ;)


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×