ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO SNSD] EMPIRE LOVE

    ลำดับตอนที่ #6 : CHAPTER 5 [100% Complete]

    • อัปเดตล่าสุด 29 มิ.ย. 56


    CHAPTER 5

    ตอนที่ 5

     

              17.00 pm, ภัตตาคารหรูแห่งหนึ่งในปารีส

     

    แสงสีส้มทองของพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ำ ฉันเดินทางมาถึงที่ภัตตาคารหรูตามที่นัดกับทงเฮได้ทันเวลา ฉันถอนหายใจออกก่อนจะสูดเอาอากาศแถวนั้นเข้าปอดไปเต็มๆ เพื่อที่จะพยายามจะทำตัวเองให้ผ่อนคลาย..การที่จะนัดเจรจากับทงเฮนั้น ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะหาโอกาสพบกับลีทงเฮได้ยาก แต่สำหรับฉันนั้น..มันเป็นอะไรที่ง่ายเสียยิ่งกว่าการปลอกกล้วยเข้าปากซะอีก

     

    ..เพียงแค่ฉันเอ่ยคำเดียวลีทงเฮก็พร้อมและยอมทำตามทุกอย่าง..

     

    “สวัสดีครับ,มาดามเจสซี่ เชิญทางนี้ครับ” บริกรหนุ่มที่ยืนอยู่แถวนั้นโค้งให้พอเป็นพิธี ก่อนจะเดินนำฉันเข้าไปภายในโซนวีไอพีอย่างรู้งาน “คุณลีทงเฮรอคุณอยู่ตรงนั้นครับ..” บริกรหนุ่มผายมือไปที่โต๊ะที่ตั้งอยู่บริเวณข้างในสุดของร้าน ดูเป็นส่วนตัว ก่อนที่บริกรหนุ่มคนนั้นจะเดินลับหายไป และกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับเมนูอาหาร

     

    ..ไม่ผิดหวังเลยที่ฉันนัดเจรจากับลีทงเฮ..

     

                “เชิญครับ” ทงเฮลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้ตัวหรูที่นั่งอยู่ ก่อนจะใช้มือเพียงข้างเดียวเลื่อนเก้าอี้ตัวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขาอย่างรู้งาน ฉันยิ้มแบบลวกๆ ให้เขาก่อนจะเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ตัวนั้น

     

    “คุณมานานแล้วเหรอคะ?”

     

    “ก็ไม่นานเท่าไหร่หรอกครับ,พอผมบินมาจากมิลานมาถึงที่ปารีส ผมก็ตรงดิ่งมาที่นี้ เพื่อจะพบ คุณยังไงล่ะครับ..จุ๊บ” ยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาถูกส่งตรงมาที่ฉัน ก่อนที่หลังฝ่ามือของฉันจะถูกริมฝีปากของเขาซับจูบลงอย่างนุ่มนวล แต่ใบหน้าของฉันก็ยังคงไม่แสดงความรู้สึกใดๆ “ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งครับ..”

     

    “ยินดีเช่นกันคะ,คุณลีทงเฮ”

     

    “อยากดื่มอะไรสักหน่อยไหมครับ? อย่างเช่น..สปาร์กลิงไวน์ [2] สักแก้ว” นอกจาก เคลวิน ไค เทา และเซฮุนที่รู้ว่าฉันชอบดื่มสปาร์กลิงไวน์ยังมีลีทงเฮอีกคนที่รู้ว่าฉันชอบดื่มไวน์ชนิดนี้ เพราะฉันเป็นคนคออ่อน ไวน์ดีกรีไม่แรงมากจึงเหมาะกับคนอย่างฉัน ข้อมูลเกี่ยวกับฉันแบบนี้ไม่ค่อยมีใครรู้หรอก ถ้าหากคนคนนั้นไม่สำคัญกับฉันจริงๆ

     

    “ก็ได้คะ” บริกรหนุ่มที่ยืนรออยู่แล้ว ได้ยินอย่างนั้นก็หยิบขวดไวน์สีเขียวทึบที่แช่อยู่ในถังไม้โอ๊คชั้นดีมาเทลงที่แก้วทิวลิป แชมเปญ[3]ที่วางอยู่ตรงหน้าของฉัน “ต้องขออภัยด้วยนะคะ..ถ้าเกิดฉันเมาขึ้นมา อาจเป็นเพราะฉันไม่ได้ดื่มมาสักพักแล้วน่ะคะ”

     

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ,ผมเข้าใจ”

     

    พอบริการหนุ่มรินไวน์ให้ทั้งฉัน และทงเฮเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินออกไปทันที ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะเหมาโซนนี้ทั้งโซน..เพราะตั้งแต่ที่เข้ามาฉันก็ยังไม่เห็นแขกคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่เลย ทงเฮยกไวน์ขึ้นมาจิบอย่างสบายใจ เป็นโอกาสอันดีที่ฉันจะเข้าเรื่องสักทีสินะ

     

    “ฉันขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ..จะได้ไม่เสียเวลา”

     

    “จะรีบไปไหนกันครับ..คุณเพิ่งจะได้ดื่มไปแก้วเดียวเองนะครับ” ฉันมองเขาด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนจะยกไวน์ขึ้นมาจิบ เพื่อดับความโกรธแค้นที่มีต่อเคลวินอยู่ในใจ ตอนนี้ฉันหงุดหงิด หงุดหงิดที่ทำอะไรไม่ได้ “แต่สีหน้าคุณไม่ค่อยดีนัก..งั้นก็บอกผมมาเถอะครับ,ที่รัก ผมยินดีจะช่วยเหลือคุณ”

     

    ฉันแสยะยิ้มออกอย่างพอใจ หลังจากที่ได้ยินคำพูดของทงเฮที่ฟังดูเข้าหู ไวน์ที่เหลือเพียงนิดหน่อยถูกฉันกระดกเข้าลำคอไปจนหมด เคลวิน..นายนอนรอคอยรับความเจ็บปวดจากฉันไปได้เลย ฉันจะเสิร์ฟมันถึงที่เลยแหละคะ..ที่รัก

     

    ถึงแม้ว่าฉันจะต้องสูญเสียอะไรไป..แต่ขอให้ฉันได้แก้แค้นคนที่ทรยศหักหลังฉันสักครั้งก็ยังดี! ฉันต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น..แกล้งทำเป็นโง่ ไม่รู้เรื่องรู้ราวไปอีกนานสักแค่ไหนกัน ฉันเจ็บปวด..แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ ฉันร้องไห้..เขาไม่เคยแม้แต่จะมองเห็น ความรู้สึกนึกคิดและจิตใจของฉัน..คงจะเป็นแค่สสารที่มองไม่เห็นซึ่งลอยอยู่รอบๆตัวเขาสินะ..

     

    “ถ้าฉันบอกคุณ..คุณจะเชื่อฉันไหมคะ?”

     

    “ไม่มีครั้งไหนที่ผมไม่เชื่อคุณหรอกครับ”

     

    “แล้วถ้าฉันอยากให้คุณช่วยฉันทำเรื่องหนึ่ง คุณจะช่วยฉันไหมคะ?”

     

    “ได้ครับ แต่..มันก็มีข้อแลกเปลี่ยนอยู่เหมือนกันนะครับ” ทงเฮแสยะยิ้มร้ายที่มุมปาก ก่อนจะใช้นิ้วชี้ของเขาเกี่ยวพันเส้นผมสีน้ำตาลคาราเมลของฉันเล่น “คุณจะยอมทำตามข้อแลกเปลี่ยนของผมเหรอครับ? ถ้าผมช่วยคุณ”

     

    ฉันไม่รู้หรอกว่าข้อแลกเปลี่ยนของเขาคืออะไร ในใจของฉันมีแต่ความเจ็บปวดที่สั่งสม..มันเจ็บปวด ทรมานเหลือเกิน ฉันไม่เคยได้ยิ้มอย่างจริงใจสักครั้ง..หลังจากที่ฉันรู้เรื่องราวทั้งหมด แต่ละวันฉันต้องแสร้งยิ้ม ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เคลวิน..นายจะเคยรู้ไหมว่าฉันต้องทรมานใจสักเพียงไหน เมื่อไหร่ลมพายุอย่างนายจะสงบลงสักที..เมื่อไหร่ลมพายุอย่างนายจะเลิกทำลายล้างต้นกล้าอ่อนๆอย่างฉันสักที ฉันทั้งเหนื่อยล้า อ่อนแรง เจ็บปวด..

     

    ..แต่สักวันหนึ่งต้นกล้าอ่อนๆอย่างฉันจะกลายเป็นไม้ใหญ่ที่แข็งแรงพอที่จะหยุดลมพายุนั้นเสียที..

     

    “บอกข้อแลกเปลี่ยนของคุณมาสิคะ..ถ้ามันน่าฟังฉันอาจจะยอมทำตาม”

     

    “เป็นภรรยาของผม..ตลอดไป”

     

    “...” คำพูดของทงเฮทำให้ฉันอึ้งไปชั่วขณะ ฉันไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบนี้ ฝั่งดีกับฝั่งร้ายในสมองของกำลังทะเลาะถกเถียงกันอยู่ภายในใจอันอ่อนไหวของฉัน

     

    ..ฝั่งดีบอกว่าฉันไม่ควรจะยอมรับข้อแลกเปลี่ยนที่งี่เง่านี้เลยสักนิด..

     

    ..ส่วนฝั่งร้ายกลับบอกว่ามันเป็นหนทางเดียวที่ทำให้ฉันแก้แค้นได้..

     

    ฉันควรจะทำอย่างไรดี? ใจหนึ่งก็รักเคลวินแทบขาดใจ..แต่อีกใจหนึ่งก็เกลียดแทบเข้ากระดูกดำ มีทางเลือกให้ฉันเพียงแค่นี้เองหรือ? ทำไมทุกอย่างมันถึงได้เป็นแบบนี้ไปได้..มันไม่น่าตลกเลยสักนิด

     

    “ฉะ..ฉัน”

     

    “ผมคิดไว้อยู่แล้วแหละครับ..ว่ามันต้องเป็นแบบนี้..ผมเข้าใจครับ ว่าตอนนี้หัวใจของคุณก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไป..หัวใจของคุณยังคงเหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยน แค่ผมได้มาเจอคุณในวันนี้..ก็โชคดีแล้วแหละครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ..ถ้าหากคุณจะปฎิเสธผม”

     

    “ขอเวลาให้ฉันคิด..ให้ฉันคิดและไตร่ตรองดูก่อนจะได้ไหมคะ? ตอนนี้ถึงแม้ฉันจะยังตอบคุณไม่ได้..แต่ขอเวลาให้ฉันคิดดูก่อนจะได้ไหมคะ..ขอร้องล่ะ..”

     

    มือของฉันเลื่อนไปกุมที่มือหนาของทงเฮ ฉันออกแรงบีบเบาๆ นัยน์ตาของเขาช่างดูเศร้าหมองนัก..ทำไมนะ? ทั้งๆ ที่ทงเฮทำดีกับฉันถึงขนาดนี้แล้ว..แต่หัวใจของฉันก็ยังเหมือนเดิม ทำไมกัน! ทำไมหัวใจของฉันต้องเต้นแรงกับเคลวินเพียงคนเดียว..ฉันไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย น้ำตาของฉัน..ไหลออกมาอีกแล้ว ทำไมคนอย่างฉันถึงได้อ่อนแอนักนะ..อะไรก็ร้องไห้ ฉันไม่ชอบน้ำตาของตัวเองเลย!

     

    ริมฝีปากของฉันถูกริมฝีปากของทงเฮประกบจุมพิตลงมา..ฉันอึ้งไปชั่วขณะ แต่ก็หลับตารับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ จูบของเขาไม่ใช่จูบที่รุกล้ำอะไร มีเพียงแต่ความอ่อนโยนและความรักของเขาที่แฝงมากับจูบของเขา ริมฝีปากอุ่นของเขาผละออกก่อนที่เขาจะซับจูบลงที่แก้มที่เปรอะเปื้อนน้ำตาของฉัน ฉันลืมตาขึ้นก็มองเห็นหน้าของทงเฮที่ใกล้จนไม่ถึงเซ็นติเมตรไม้บรรทัด

     

    ..มันคงจะดี..ถ้าคนตรงหน้าของฉันคือคนที่ฉันรักจริงๆ..

     

    “ผมจะรอคำตอบ..รอคำตอบจากคุณเสมอ..ถ้าคุณเสียน้ำตาให้คุณผมจะซับน้ำตาให้คุณเอง แต่ถ้าวันไหนคุณมีความสุขขอให้คุณอยู่กับคนที่คุณรัก..ผมจะยืนมองอยู่ข้างหลังคุณเสมอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จำเอาไว้นะครับ..คนดีของผม” มือหนาของเขาค่อยๆเช็ดน้ำตาแก้มของฉันอย่างนุ่มนวล ทำไมกันนะ..ทำไมฉันถึงไม่ตกหลุมรักคนที่คอยทำดีกับฉันมาตลอดบ้าง..

    .

    .

    .

     

    “ขอบคุณนะคะที่มาส่ง..” หลังจากที่ทานมื้อเย็นกับทงเฮเสร็จก็ตัดสินใจที่จะไปนั่งชมวิวหอไอเฟลยามกลางคืนกับเขาต่อจนเป็นเวลาห้าทุ่มเศษๆ  เขาก็ดึงดันที่จะมาส่งฉันถึงที่นี้แม้ว่าฉันจะปฎิเสธยังไงก็ตาม ทำไมเขาถึงได้ทำดีกับฉันถึงขนาดนี้ด้วย ได้โปรดอย่าทำให้ฉันรู้สึกผิดไปมากกว่านี้เลย..ลีทงเฮ

     

    “ไว้โอกาสหน้าเราคงได้พบกันอีก..ฝันดีคะ”

     

    “ครับ..ผมก็หวังว่าเราจะได้พบกันอีกครับ ฝันดีเช่นกันครับ”

     

    ฉันเปิดประตูรถเมเซเดสเบนซ์ของเขาออกก่อนจะโบกมือลา ฉันรอให้เมเซเดสเบนซ์คันนั้นของเขาหายลับตาไปก่อนจึงเดินเข้าคอนโดของตัวเอง หลายวันนี้มีแต่เรื่องให้คิด..ทั้งเรื่องของเคลวิน ทั้งเรื่องของทงเฮ บางครั้งฉันก็คิดอยู่เหมือนกันว่า ทุกวันนี้ฉันแบกรับอะไรมากไปหรือเปล่า..แต่มันก็ได้แค่คิดสินะ

     

    .

    .

    .

     

    “กลับบ้านได้แล้วหรือไง? หายไปไหนมา..กลับบ้านซะดึกเชียว”

     

    ทันทีที่ประตูห้องของฉันเปิดออกเสียงทุ้มต่ำก็ตามไล่หลังมาทันที ฉันถอนหายใจอออกอย่างหน่ายๆก่อนจะมองเคลวินที่นั่งจิบไวน์อยู่บนเก้าอี้นวมตัวหรู เขาอยู่ในเสื้อยืดสีเทาและกางเกงนอนขายาว..ภายในห้องไร้เงาของจีน่า แสดงว่าเธอคงกลับไปนานแล้ว..ก็แน่สิ นี้มันเที่ยงคืนกว่าๆแล้ว

     

    “ฉันออกไปเจอเพื่อนมา..ไม่ได้เจอกันนานน่ะก็เลยอยู่เที่ยวกันจนดึก” ฉันวางกระเป๋าลงที่โต๊ะตัวกว้าง ก่อนที่จะเปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำออกมาดื่มให้ชื่นใจ ฉันมองสีหน้าที่ยังคงเรียบเฉยของเขาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะพูดต่อด้วยเสียงเรียบ “ฉันบอกนายนอนไปก่อนก็ได้..ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ? ไม่ง่วงเหรอ?”

     

    “ฉันรอให้เธอกลับมาก่อนน่ะ..จะได้มั่นใจว่าวันนี้เธอกลับบ้านจริงๆ ฉันเป็นห่วงเธอ..เธอก็รู้” น้ำเสียงที่ทำเป็นเหมือนว่าห่วงใยของเขายิ่งทำให้ฉันเบื่อสุดๆ ทำไมคนอย่างเคลวินวูที่ยิ่งใหญ่จะต้องแกล้งแสดงทำเป็นว่าห่วงใยทั้งๆที่ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นด้วยนะ..นั้นเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยเข้าใจ

     

    “ฉันรู้..นายรีบไปนอนเถอะ..ฉันกะว่าจะไปอาบน้ำแล้วค่อยจะเข้านอน” ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา ใบหน้าของฉันไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกไป..ฉันหันหลังให้เขาก่อนจะเก็บแก้วน้ำให้เข้าที่

     

    “เพื่อนของเธอเนี่ย..บอกให้เธอทำน้ำเสียงเย็นชาใส่ฉันอย่างนั้นเหรอ..เพื่อนของเธอคนนั้น..เป็นเพื่อนประเภทไหนกันนะ ที่เธอไว้ใจและยอมดื่มด้วย..” น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้นข้างหลังของฉัน มันใกล้ชนิดที่เรียกได้ว่า..ไม้บรรทัดยังวัดไม่ได้..ลมหายใจอ่อนๆของเขาที่รวยรินข้างๆหูของฉัน..

     

    “...”

     

    “แถมเพื่อนคนนั้นยังรู้อีกด้วย..ว่าเธอชอบดื่มไวน์ประเภทไหน เพื่อนคนนั้นคงสำคัญกับเธอมากเลยสินะ คงสำคัญกว่าฉันที่นั่งรอเธออยู่ที่นี้..”

     

    “ฉะ..ฉันจะไปอาบน้ำ..นายก็รีบๆไปนอนเถอะ พรุ่งนี้นายก็ต้องบินกลับโซลแล้ว ถ้าไปไม่ทันเดี๋ยวตกเครื่องฉันไม่รู้ด้วยนะ”

     

    สถานการณ์ที่น่าอึดอัดเช่นนี้..ฉันจะต้องเจอมันอีกกี่ครั้งเมื่ออยู่กับเขา ฉันรักเขา..และฉันก็เกลียดเขา..ฉันเจ็บปวดและไม่แสดงออก นั้นคือปัญหาที่ฉันประสบพบเจออยู่ตอนนี้ ฉันไม่รอช้ารีบเดินเข้าห้องน้ำไปโดยที่ไม่ลืมที่จะล็อคประตูห้องน้ำเอาไว้

     

     [ต่อ]

     

     

    ปัง! ปัง!

     

    “เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะเจสซี่! ฉันบอกให้เธอเปิดประตูไง!” เสียงประตูที่ถูกเคาะโดยคนที่อยู่ข้างนอกทำให้ฉันรู้สึกกลัว เสียงทุ้มต่ำของเคลวินเวลาตะคอกแล้วช่างน่ากลัวนัก ฉันใช้หลังสั่นของฉันดันประตูไว้ด้วยความกลัว

     

    “...”

     

    “ฉันรู้นะว่าไอ้คนที่เธอออกไปเจอมาวันนี้คือ ไอ้ทงเฮ! ออกมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้นะ! เจสสิก้าจอง!

     

    “...”

     

    เขารู้ได้อย่างไรกันว่าฉันออกไปพบกับทงเฮมา..เขารู้ก็ดี! แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเขาน่ากลัวแปลกๆ ฉันพยายามหายใจเข้าลึกเพื่อไม่ให้ตัวเองสั่นด้วยความกลัว ฉันพยายามตั้งสติก่อนที่จะทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจเสียงของเคลวินที่โวยวายอยู่ภายนอก แต่ยังไงฉันก็ไม่สามารถทำเป็นเมินเขาได้..ตอนที่เคลวินโกรธมันน่ากลัวมากแค่ไหน..ใครใครก็รู้ดี

     

    ปัง! ปัง!

     

    “เจสซี่..ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม..ถ้าเธอยังไม่มาเปิดประตูให้ฉัน..เธอเจอดีแน่!

     

    “ฮึก..”

     

    “หนึ่ง”

     

    “ยะ..อย่าเข้ามา..นะ ฮึก”

     

    ในสมองของฉันปั่นป่วนไปหมด..ฉันรู้สึกผิดต่อเขา แต่ก็ฉันรู้สึกสะใจ..ฉันใช้มือกุบขมับปัดไล่ความวุ่นวายที่อยู่ในสมองออกไป แต่ยิ่งฉันหลับตา..เสียงของเคลวินก็ยิ่งดังมากขึ้นเท่านั้น ฉันปวดหัว..ทำอะไรไม่ถูก..ความเจ็บปวดมันแล่นผ่านเข้ามาที่หัวของฉันอีกแล้ว มันปวด มันทรมาน มันเหมือนมีใครเอาเหล็กหนาตีลงที่กลางศรีษะ..อาการของฉันกำเริบอีกแล้วสินะ..

     

    “ฮึก..ไม่นะ..ยะ..อย่าเข้ามา..”

     

    “สอง..”

     

    “สาม!

     

    ปัง! โครม!

     

    ดวงตาของฉันพร่ามัว..น้ำตาของฉันไหลออกมาด้วยความกลัว ฉันทรุดตัวนั่งกอดเข่าพิงกับอ่างอาบน้ำ..ฉันกำลังกลัวคนที่อยู่ภายนอกนั้น มันน่าอึดอัด มันเจ็บปวด..ฉันไม่ชอบ! ไม่ชอบแบบนี้เลย! ความมืดมิดเข้ามาเยือน..ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะจางหายไป..

     

    .

    .

    .

     

    Lay’s part

     

    ผมเดินลงมาจากฝั่งคนขับของรถเมเซเดสเบนซ์ ก่อนจะเดินเลยไปที่เบาะข้างหลังคนขับแล้วเปิดประตูรถเมเซเดสที่อยู่ฝั่งซ้ายออก ขาเรียวยาวของหล่อนที่นั่งอยู่ก้าวลงมาทำให้ผมรู้สึกเซ็งนิดๆ พอร่างบางก้าวออกไปจนพ้นจากตัวรถแล้วผมจึงปิดประตูรถลง
     

    “อะไรกัน..พาฉันมาที่นี้ทำไม? คุณอี้ชิง แถมยังให้ฉันเก็บกระเป๋าเสื้อผ้ามาตั้งเยอะแยะ”

     

    “คุณเคลวินบอกให้คุณจีน่า บินไปเที่ยวพักผ่อนสักสองสามสัปดาห์แล้วก็ค่อยกลับมาน่ะครับ”

     

    เธอขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย เพียงไม่นาน..สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนมาเป็นยิ้มแย้มมีความสุขทันที ผมไม่เข้าใจจริงๆเลยว่าเจ้านายของผมทำไมถึงได้นอกใจคุณเจสซี่แล้วถึงมาคบกับยัยจีน่าอะไรนี้เนี่ย..ไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีไปกว่าคุณเจสซี่เลยสักนิด

     

    “ก็ดีเหมือนกัน..ช่วงนี้ฉันเหนื่อยๆพอดี แล้วเคลวินเขาไม่ไปกับฉันเหรอ?”

     

    “คงจะไม่หรอกครับ..พอดีคุณเคลวินมีประชุมด่วนน่ะครับ นี้เป็นบัตรเครดิตแล้วก็เอกสารเดินทางของคุณทั้งหมดครับ อีกสิบห้านาทีคุณก็เข้าไปเช็คอินได้เลยนะครับ”

     

    “งั้นก็ส่งมาสิ..เดี๋ยวฉันจะไปจัดการเอง” จีน่าแบมือมารอรับเอกสารจากมือของผม ผมมองเธอด้วยสายตาหน่ายๆก่อนจะวางเอกสารลงบนมือของเธอ  ผมก้มมองนาฬิกาที่อยู่ที่ข้อมือของตัวเอง..ซึ่งตอนนี้มันเลยเวลามามากแล้วที่ผมเสียเวลาไปกับเธอ

     

    “ผมคงต้องขอตัวกลับก่อน..เพราะผมต้องรีบไปจัดเตรียมเอกสาร..ขอให้เที่ยวให้สนุกนะครับ” 


                  End Lay's part

    [ต่อคะ]


              .

    .

    .

     

    “อืม..หิวน้ำ”

     

    ฉันพูดออกมาพร้อมกับเสียงที่แหบแห้ง ลำคอของฉันแทบจะเปล่งเสียงออกมาไม่ได้ มันเหือดแห้งราวกับว่าอยู่กลางทะเลทราย เปลือกตาของฉันค่อยๆลืมขึ้น..ทันใดนั้น..ความเจ็บปวดก็แล่นผ่านโสตประสาทเข้ามา มันทรมานมาก..มากจนฉันแทบจะขาดใจ

     

    “โอ้ย! ปวดหัวชะมัด..”

     

    ฉันใช้มือกุมที่ขมับทั้งสองข้างของตัวเองเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดจากอาการปวดศรีษะ ฉันลืมตาขึ้นพร้อมกับมองไปรอบๆตัวด้วยความงง ห้องสี่เหลี่ยมสีขาว..ไม่มีอะไรพิเศษ มีเพียงดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนที่ถูกจัดวางใส่แจกันเป็นอย่างดี..

     

    แอ๊ด..

     

    เสียงประตูไม้บานสีขาวสะอาดถูกเปิดออกทำให้ฉันสนใจคนที่เดินเข้ามา ใบหน้าของเขาช่างเรียบเฉย..ฉันถอยหลังจนชิดพนักผิงด้วยความกลัว ริมฝีปากของฉันช่างเหือดแห้ง..เส้นเสียงที่ไม่สามารถทำงานได้ในตอนนี้ ฉันอยากจะเรียกร้องให้ใครสักคนช่วย..แต่ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย..

     

    ..ฉันกลัว..ฉันกลัวซาตานร้ายอย่างเขา..

     

    “ตื่นแล้วเหรอเจสซี่? เป็นยังไงบ้างรู้สึกดีขึ้นไหม?” เคลวินเดินเข้ามาประชิดตัวฉันเรื่อยๆ ริมฝีปากของฉันขบเม้มเข้าหากัน ฉันดึงผ้าห่มสีขาวครีมขึ้นมาห่มร่างที่สั่นของตัวเอง..น้ำตาเริ่มคลอมาอยู่ที่เบ้าตา ก่อนมันจะไหลออกมาในที่สุด

     

    “...”

     

    “พูดอะไรหน่อยสิ..อย่าเงียบแบบนี้..เจสซี่” มือหนาของเขาเลื่อนไล้มาคลอเคลียอยู่ที่แก้มของฉัน น้ำตาของฉันยิ่งไหลออกมามากขึ้น..ยิ่งเขาสัมผัสฉันเท่าไหร่..ฉันก็ยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น

     

    “ฮะ..ฮึก”

     

    “เธอร้องไห้ทำไม? ฉันไม่ได้จะทำอะไรเธอสักหน่อย..ฉันไม่ทำร้ายเธอหรอก..อย่าร้องไห้อีกเลย ฉันขอร้อง..เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบ..ที่เห็นเธอร้องไห้”

     

    ยิ่งเขาเข้ามาใกล้ฉันเท่าไหร่...ฉันก็ยิ่งอยากถอยห่างจากเขามากเท่านั้น ฉันเจ็บปวดทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา ยิ่งฉันรักเขามากเท่าไหร่..มันยิ่งดูเหมือนฉันกลายเป็นคนโง่มากขึ้นเท่านั้น อ้อมกอดของเขาไม่มีอีกแล้ว..ไม่มีคำว่าอบอุ่นสำหรับฉันอีกแล้ว..แต่ขอแค่เขายังอยู่กับฉัน..ไม่ทิ้งฉันไปไหน

     

    ..ฉันยอมหลอกตัวเอง..ยอมให้ตัวเองกลายเป็นคนโง่..

     

    ..ขอแค่วันนี้วันเดียว..วันเดียวที่ฉันจะเป็นแบบนี้..

     

    “ทะ..ที่นี้ที่ไหน? ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี้?” ฉันผละออกจากอ้อมกอดของเขา ก่อนจะถามเขาด้วยเสียงแหบแห้ง เหงื่อของฉันที่ไหลออกมาตามไรผม..ทำให้รู้สึกหงุดหงิดนิดๆ

     

    “โรงพยาบาล..เธอจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ?”

     

    มือหนาของเขาค่อยๆเกลี่ยเส้นผมที่ชุ่มเหงื่อออกจากใบหน้าของฉัน เคลวิน..เขากำลังจะทำให้ทุกอย่างมันวุ่นวาย ทุกอย่างที่เขาทำมันช่างคลุมเครือ..เขาเป็นเสือผู้หญิงก็จริง แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่า ผู้หญิงเป็นเพศที่ต้องการความชัดเจน

     

    “อืม..ฉันปวดหัวจนจำอะไรไม่ได้เลย..” ฉันพูดพลางส่ายหน้า

     

    “ฉัน..ขอโทษที่โวยวายใส่เธอ ฉันขอโทษที่ทำให้เธอกลัว..”  

     

    ริมฝีปากของเขาประกบจูบลงมาที่ริมฝีปากของฉัน ไม่ว่าครั้งไหน..หัวใจของฉันก็ยังคงเต้นแรงเสมอ ถึงแม้สมองของฉันจะพยายามสั่งมัน..ว่าไม่ให้เป็นแบบนี้ แต่สุดท้ายไอ้หัวใจบ้าๆนี้มันก็ทรยศฉัน! มันทรยศฉันเหมือนที่เจ้าของมันทำ! เคลวิน..


     [2] = สปาร์กลิงไวน์เป็นการเลียนแบบแชมเปญ
                       [3] = จุดประสงค์หลักก็คือแก้วสำหรับใส่แชมเปญ เพราะต้องการอวดพรายฟองสวยๆ และต้องการเก็บก๊าซในแชมเปญให้นานขึ้น ความจุของแก้วจะประมาณ 6-7 ออนซ์ หากมีการนำไปใส่เครื่องดื่มค็อกเทลก็มักจะเป็นเครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมด้วยสปาร์กกลิ้งไวน์อยู่ด้วย

     

    ตอนนี้ก็ใช้เวลาในการเขียนนานมากเหมือนกันคะ อาจจะพิมพ์ตกหรือมีผิดพลาดอะไรไปบ้างนะคะ เพราะไมเกรนมันกินหัวไรต์เตอร์อยู่ค่า ฮ่าๆ ตอนนี้ทงเฮดูเป็นคนดีเกิดคาดและเฮียคริสก็ดูเป็นคนไม่ดีเกินคาด #จะโดนแม่ยกเฮียรุมไหมเนี่ย - -พยายามอย่าอ่านกวาดนะคะเดี๋ยวจะเก็บรายละเอียดไม่หมด อุอิ วันนี้อารมณ์ดีมากคะ เพราะว่าโปสเตอร์ที่สั่งทำไว้ได้แล้วต้องขอบคุณเมกเกอร์จาก Fuji_juji ที่สละเวลาอันมีค่ามาทำโปสเตอร์ให้นิยายกากๆอย่างนิยายดิฉัน
    *วันนี้มาลงเพิ่มอีก 30 เปอร์เซ็นคงไม่โกรธเค้านะ แบบการบ้านเค้าเยอะมากเลยแหละ ฮ่าๆ หาเวลาปลีกตัวมาอัพแทบไม่ได้ ได้มาอัพแค่นี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว..จริงไหมคะ?*

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×