ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    No "Love" lost [Exo x Fx]

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 1 : Kiss in my dream

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 56


    1

     


               ฉันมาถึงมหาลัยโดยการนั่งรถเมลล์มาในวันนี้ เพราะไม่อยากรบกวนคุณลุงซอกโฮมากไปกว่านี้แม้ท่านจะอาสาให้คนรถมาส่งแต่ฉันก็ปฎิเสธไป เพราะแค่ย้ายข้าวย้ายของเข้ามาอยู่ในบ้านของท่านก็เป็นการรบกวนท่านมากเกินพอแล้ว

     

    “เฮ้อ...” ฉันรู้สึกดีที่มาถึงที่คณะทันเวลาพอดี แต่มีบางสิ่งทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจนิดๆ นั้นคือผู้คนรุมมองอะไรกันอยู่แถวบันไดทางขึ้นคณะกัน...จะมีคนมีชื่อเสียงมาเรียนที่คณะนี้หรือย่างไร? ถึงได้ยืนมะรุมมะตุ้มขวางทางเดินแบบนั้น..

     

    หมับ!

     

    “ฟู่ว..มาทันเวลาพอดีเป๊ะเลย เธอมานานรึยังคริสตัล? กว่าฉันจะหาคณะนี้ได้เกือบตายแหน่ะถามคนนั้นก็บอกว่าไปทาง ถามคนนี้ก็บอกว่าไปอีกทาง ฉันเลยไม่เชื่อใครแล้วลองเชื่อตัวเองเดินหาเองเรื่อยๆ สุดท้ายก็เจอสักที!! เฮ้อ...”

     

    ซอลลีที่จู่ๆ วิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้เอามือเอื้อมมาแตะที่ไหล่ของฉัน มาถึงยังไม่พอแถมบ่นออกมาเป็นชุด แถมท่าทางของเธอยังเหนื่อยหอบ ดูเหมือนว่าซอลลีคงจะตะลอนหาคณะมนุษยศาสตร์ทั่วมหาลัยนั้นคงเป็นความจริง...

     

    “ฉันมาถึงก่อนเธอแค่ไม่กี่นาทีเอง ดีแล้วแหละที่โชคเข้าข้างนำทางพาให้เธอมาทัน”

     

    ฉันกับซอลลีเราสอบเข้ามหาลัยนี้เดียวกันได้ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญมาก และการที่เราเลือกเรียนคณะมนุษยศาสตร์เหมือนกันอีกก็ยิ่งถือเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ดูเหมือนว่าซอลลีคงจะเป็นเพื่อนแท้ที่ฟ้าลิขิตมาให้ฉัน ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น..

     

    “อ้ายยยยยยยย! รถของรุ่นพี่จงอินมาแล้ว”

     

    จู่ๆ ก็มีรถ Ferrari สีแดงเพลิงคันหนึ่งพุ่งเข้ามาเกือบเฉียดฉันที่ยืนคุยกับซอลลีอยู่ ถ้าเกิดว่าซอลลีดึงฉันให้หลบไม่ทันป่านนี้ฉันคงจะได้ไปนอนแอดมิดที่โรงพยาบาลแล้วแหละ แต่นั้นก็ทำให้ฉันกับซอลลีเซล้มกันหน้าแทบจะถูกับพื้นดิน

     

    ..ขับรถประสาอะไรกันมองไม่เห็นคนบ้างเลยรึยังไงกัน!..

     

    “เป็นอะไรไหมซอลลี? เจ็บตรงไหนรึเปล่า?” ฉันพูดพร้อมกับช่วยซอลลีปัดเศษดินที่ติดอยู่แถวกระโปรงของซอลลีออก ฉันจ้องมองรถ Ferrari สีแดงคันนั้นอย่างไม่สบอารมณ์นัก

     

    “ไม่เป็นไรหรอก เธอก็ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

     

    “อืม..รถคันนั้นขับรถประสาอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือเลย! แย่จริงๆ เลย อย่างนี้มีเคลียร์!!

     

    ฉันไม่รีรอช้ารีบเดินตรงปลี่เข้าไปหารถคันสีแดงเพลิงคนนั้นที่เพิ่งจอดสนิทด้วยอารมณ์โมโห โดยไม่สนใจเสียงรอบข้างเลยสักนิด อย่างนี้ต้องต่อว่าสักหน่อยแล้วทำนิสัยแบบนี้ได้ยังไงเห็นว่ามีคนก็น่าจะชะลอบ้างก็ดี! แถมยังขับผ่านไปแบบไม่ใส่ใจอีก!

     

    ก๊อก ก๊อก

     

    “แน่จริงมาคุยกันหน่อยสิ คิดว่ารวยแล้วจะทำอะไรตามใจได้รึยังไง!

     

    กระจกฝั่งที่นั่งคนขับถูกลดลงจนเห็นใบหน้าของคนขับได้ชัดเจน เฮอะ..คนอะไรหน้าตาก็ดีไม่น่าจะมีนิสัยแย่ถึงขนาดนี้...ใบหน้าคม บวกกับดวงตาและคิ้วเข้ม ผิวคล้ำของเขาไม่ได้ทำให้ดูเป็นจุดด้อยแต่อย่างใด นั้นกลับทำให้เขาดูเซ็กซี่มากขึ้น และผมสีดำถูกซอยไล่ยาวจนมาถึงท้ายทอย... 


                ไม่ได้นะ
    ! เธอกำลังคิดอะไรอยู่คริสตัล! เธอควรจะต่อว่าเขาสิ!...ใช่!อย่างนี้มันต้องด่าสั่งสอน!

     

    “มีอะไรหรือครับคุณ? จะมาขอเบอร์โทรศัพท์ผมหรือว่าจะมาจีบผมล่ะเนี่ย? หรืออย่าบอกนะว่าคุณหลงเสน่ห์ของผมซะแล้ว” ฉันทำหน้าเบ้ด้วยความไม่พอใจ ใครเขาอยากจะมาจีบคนที่ทำให้ตัวเองเกือบตายกันเล่า..ไม่มีทางซะหรอก! คนอะไรหลงตัวเองชะมัด!

     

    “ฉันขอบอกว่าไม่มีทางที่ฉันจะทำทั้งสองอย่าง! และก็ไม่มีวันจะหลงเสน่ห์คุณด้วย ฉันแค่อยากจะมาเตือนคุณว่าช่วยขับรถให้มันดูถนนหนทางดูคน ดูตาม้าตาเรือบ้างได้ไหม? ขับรถแบบคุณเนี่ยคนอื่นเขาเดือดร้อนนะรู้ไหม!? คุณรู้ไหมว่าถ้าฉันหลบไม่ทันฉันจะโดนอะไรบ้าง!?”

     

    “ก็ช่วยไม่ได้ก็คุณดันไปยืนขวางถนนให้รถชนเอง...จริงไหมล่ะ? แม่สาวน้อย” รอยยิ้มของเขาช่างร้ายกาจเสียจริง เป็นรอยยิ้มที่พิฆาตใจสาวๆ ได้แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัว ว่าแต่เรื่องที่ฉันไปยืนขวางถนนนั้นก็เป็นเรื่องจริงตามที่เขาพูด...

     

    “เอ่อ..ก็ไม่รู้แหละ! คุณขับรถมาเห็นคนก็น่าจะชะลอๆ ลงบ้างสิ! เอาเถอะ..ฉันไม่อยากจะเสวนาอะไรกับคนที่พูดไม่รู้เรื่องอย่างคุณอีกต่อไปแล้ว ลาก่อน!” ฉันหันหลังเตรียมกำลังจะเดินหนีเขา แต่จู่ๆ ก็ถูกคว้าข้อมือเอาไว้ซะก่อน

     

    “จุ๊บ!

     

    จู่ๆ เขาก็บรรจงประทับริมฝีปากลงที่หลังมือของฉัน เหล่าแฟนคลับของเขาที่ยืนมองอยู่แถวนั้นถึงกับมองฉันด้วยสายตาพิฆาต หมอนี้กล้าดียังไงถึงได้ทำแบบนี้กับคนเพิ่งรู้จักกันเนี่ย! น่าเกลียดที่สุดเลย!

     

    “ไอ้บ้า! นายทำอะไรของนายเนี่ย! ปล่อยนะ!

     

    สรรพนามที่ฉันใช้เรียกเขาเปลี่ยนไปทันที จาก คุณเปลี่ยนเป็น นาย แทนเพราะรู้สึกว่าคำว่าคุณมันจะให้เกียรติคนที่บ้ากามอย่างเขามากจนเกินไป ฉันสะบัดมือออกก่อนจะเดินฝ่าฝูงสัตว์ป่าที่เรียกว่าชะนีไปอย่างยากลำบากเพราะสายตาที่พวกเธอมองฉันมันช่างพาขนลุกเสียจริง...

     

    .............................................................................

     

     "บาย กลับบ้านดีๆ นะซอลลี"

     

    ฉันโบกมือลาซอลลีที่ขอตัวกลับไปก่อน เพราะฉันชอบจะไปที่หอสมุดก่อนกลับบ้านทุกครั้ง หนังสือเล่มโปรดของฉันก็มาจากที่นั้นด้วย...

     

    "อืม อย่ากลับบ้านดึกนักล่ะ มันอันตรายรู้ไหม?"

     

    "ครับผม คริสตัลคนนี้จะรีบกลับบ้านให้ตรงเวลาครับ ฮ่าๆ"

     

    หลังจากที่ซอลลีขึ้นรถเมลล์กลับบ้านไปแล้ว ฉันก็เดินเลี่ยงมาอีกทางเพื่อไปที่หอสมุดทันที วันนี้ฉันเลือกที่จะใช้ทางลัด ถึงแม้ว่าทางจะเปลี่ยวหน่อยแต่มันก็ใช้เวลาน้อยลงในการเดินทาง

     

    กึก กึก กึก

     

    ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าของคน..เหมือนว่ากำลังมีคนเดินตามฉันมาอยู่ตลอดตั้งแต่แยกกับซอลลีที่ป้ายรถเมลล์แล้ว พอฉันหยุดเดินเสียงฝีเท้านั้นก็หยุดลงด้วย

     

    กึก กึก กึก

     

    ฉันเริ่มเดินอีกครั้งเสียงฝีเท้านั้นก็ตามฉันมาอีกครั้ง มันทำให้ฉันเริ่มรู้สึกกลัวและหวาดระแวง...

     

    "ใครหน่ะ? ออกมานะอย่ามาทำให้ฉันกลัวแบบนี้!"

     

    ฉันทำใจดีสู้เสือหันหลังกลับไปเพื่อมองหาเจ้าของเสียงฝีเท้านั่น...แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า...ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย ช่วงนี้ทำไมเซนส์เรื่องความรู้สึกของฉันมันถึงได้ทำงานดีผิดปกตินักนะ

     

    "อ้ายยยย!"

     

    พอฉันหันหน้ากลับมาอีกทีก็พบผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่ยืนหน้าโหดรออยู่ ฉันร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ!

     

    "เฮ้อ..ตกใจหมดเลย นึกว่าโจรขโมยที่ไหนที่แท้ก็เป็นพวกเธอนี่เอง มีอะไรกับฉันอย่างนั้นเหรอ?"

     

    "เธอคือเด็กใหม่ใช่ไหม?"

     

    "อืม ฉันเพิ่งเข้าไปเรียนในคณะนั้นได้ประมาณสองสามเดือนแล้วแหละ ยินดีที่ได้รู้จักนะ พวกเธอคงจะเรียนอยู่ที่มหาลัยนานแล้วใช่ไหม?"

     

    ฉันแนะนำตัวอย่างเป็นมิตร แต่สีหน้าของพวกเธอนี้สิกลับบูดบึ้งเหมือนกับคนอารมณ์ไม่ดีซะอย่างนั้น สถานการณ์ช่างไม่น่าไว้ใจอะไรอย่างนี้

     

    "เธอรู้จักกับรุ่นพี่จงอินงั้นเหรอ?"

     

    ใครคือจงอินกัน? ฉันไม่เห็นยักรู้จักมักคุ้น ฉันทำสีหน้างงเป็นการตอบคำถามแทน

     

    "ก็รุ่นพี่คนที่เธอหาเรื่องแล้วเขาก็จูบมือเธอเมื่อเช้ายังไงล่ะ! จำได้รึยัง!? ยัยเด็กใหม่!! เธอเป็นอะไรกับเขากันแน่!?"

     

    "อ่อ! ไอ้บ้ากามเมื่อเช้านั้นน่ะเหรอ? ฉันไม่รู้จักเขาหรอกนะ ใครจะไปอยากรู้จักคนนิสัยแย่อย่างนั้นกัน...ที่สำคัญฉันเพิ่งเข้าไปเรียนที่มหา'ลัยได้แค่ไม่กี่เดือน ฉันยังไม่รู้จักใครมากนักหรอก"

     

    ฉันว่ายัยพวกนี้จะต้องเป็นเหล่าแฟนคลับของไอ้จงอินอะไรนั้นหน่ะแน่นอนเลย ตามมาหาเรื่องกันถึงที่เลยนะยัยพวกนี้ น่ากลัวจริงๆ คนสมัยนี้

     

    "นี่! ยัยเด็กใหม่พูดอะไรระวังปากบ้างนะ อย่าทำตัวกร่างให้มันมากนัก! เธอรู้ไหมว่ารุ่นพี่จงอินคือใคร!? เขาเป็นถึงหนุ่มฮอตประจำมหา'ลัยเลยนะ"

     

    "ทำไมฉันจะต้องรู้จักไอ้จงเอินจงอินอะไรนั้นด้วย!? หมอนั้นมีความสำคัญพอที่ฉันจะต้องรู้จักด้วยเหรอ!? ก็เป็นแค่หนุ่มฮอตที่ทำตัวแล้วก็ทำนิสัยแย่ๆ ไปวันๆ แค่นั้นเอง"

     

    ผลัก!

     

    "โอ้ย! เธอมาผลักฉันทำไม!? ฉันไปทำอะไรให้อย่างนั้นเหรอ!?"

     

    ฉันไม่เข้าใจกับกระทำที่ป่าเถื่อนแบบนี้ของพวกเธอเลย ฉันยังไม่ทันได้ไปทำอะไรให้พวกเธอเลยจริงๆ ฉันก็แค่ตักเตือนคนที่ชื่อ จงอินว่าให้ขับรถดีๆ แค่นั้นเอง

     

    "ฉันขอเตือนเธอไว้เลยนะยัยเด็กใหม่ อย่าให้ฉันเห็นว่าเธอเข้าใกล้รุ่นพี่จงอินอีก! ไม่งั้นเธอจะโดนหนักกว่านี้แน่!"

     

    ไม่รู้ว่าเธอเอาสเปรย์ที่ใส่น้ำอะไรมาฉีดเข้าที่หน้าของฉัน ฉันแสบตาจนต้องหลับตาเอาไว้ ฉันมองอะไรไม่เห็นเลย...ทุกอย่างมืดมิดไปหมด..

     

    กึก กึก กึก

     

    ..ฉันได้ยินเพียงแต่เสียงฝีเท้าที่ไกลออกไปเรื่อยๆ..

     

    "ช่วยด้วย!! ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย!!" ฉันตะโกนขอความช่วยเหลือออกไปอย่างสุดเสียง แต่ก็ไม่มีใครสนใจให้ความช่วยเหลือฉันเลย

     

    "ช่วยด้วย!!"

     

    กึก กึก กึก

     

    เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ นั้นอาจจะเป็นเสียงฝีเท้าของพวกคนใจร้ายพวกนั้นก็ได้ พวกเธอจะวกกลับมาทำร้ายฉันอีกอย่างนั้นเหรอ...

     

    หมับ!

     

    จู่ๆ ร่างของฉันก็ลอยขึ้นเหนือพื้น ฉันรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมแขนนั้น และนั้นทำให้ฉันรู้ว่ายังมีคนดีๆ อยู่บนโลกนี้อยู่

     

    ..ฉันไม่สามารถที่จะมองเห็นใบหน้าของผู้ที่ช่วยเหลือชีวิตของฉันได้ ฉันแสบตามากจนไม่อยากจะลืมตาเลย...ฉันอยากเห็นหน้าเขาคนนี้จัง.. 

     
    ...............................................................

     

    เปลือกตาอันหนักอึ้งของฉันค่อยลืมขึ้นช้าๆ ฉันเห็นเพียงแค่แสงไฟริบหรี่ ของหลอดไฟนีออนที่ติดอยู่บนฝ้าเพดานเพียงเลือนลางเท่านั้น ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะชัดเจนขึ้น

     

    "ตื่นแล้วเหรอคะ? เป็นยังไงบ้างคะ? การมองเห็นชัดเจนรึเปล่าคะ?"

     

    พยาบาลพูดพร้อมกับเลื่อนมาเปิดม่านสีขาวสะอาดถามขึ้น ตอนนี้ท้องฟ้าบ่งบอกว่าเวลานี้กำลังเข้าสู่ช่วงพลบค่ำ แสงไฟที่ส่องสว่างจากตึกสูงที่เรียงรายนั้นดูสวยงามจับใจ

     

    "ก็ปกติคะ เอ่อ..ว่าแต่คุณคนที่.."

     

    "จะหมายถึงคุณคนที่ช่วยคุณไว้ใช่ไหมคะ? เขาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้คุณแล้วก็กลับไปแล้วแหละคะ ดีนะค่ะที่เขาพาคุณมาโรงพยาบาลทันถ้าช้ากว่านี้อาจจะอันตรายไปมากกว่านี้ก็ได้"

     

    พยาบาลยิ้มให้ฉันก่อนจะเดินออกไป คนที่ช่วยชีวิตฉันเขาคือใครกัน? ฉันยังไม่ทันได้ขอบคุณเขาคนนั้นเลย..ถ้าไม่ได้เขาดวงตาของฉันอาจจะบอดสนิทเลยก็เป็นได้ ฉันเป็นหนี้บุญคุณของเขาคนนั้นจริงๆ

     

    Rrrrrr

     

    คุณลุงคังซอกโฮ

     

    ฉันลืมไปเสียสนิทว่ายังไม่ได้โทรไปรายงานกับคุณลุงเลยว่าเกิดอะไรขึ้น

     

    "สวัสดีค่ะคุณลุง..."

     

    (คริสตัลทำไมเรายังไม่กลับบ้านอีก มีเรียนเหรอ? แต่ทำไมถึงเรียนถึงดึกขนาดนี้ได้)

     

    "เปล่าค่ะ..หนูไม่ได้มีเรียนหรอกค่ะ แต่มีอุบัติเหตุเล็กๆ เกิดขึ้นน่ะค่ะ"

     

    (จริงเหรอ? เราเป็นอะไรมากรึเปล่า? จะให้ลุงไปหาไหม?)

     

    "ไม่ต้องหรอกคะ หนูไม่เป็นอะไรมากเดี๋ยวอีกสักหน่อยหนูก็กลับบ้านแล้วแหละคะ"

     

    (งั้นกลับบ้านดีๆ ล่ะ ลุงจะรออยู่ที่บ้าน)

     

    "ค่ะ.."

     

    เห็นทีฉันคงจะต้องรีบกลับบ้านซะแล้ว ไม่งั้นคงทำให้คุณลุงเป็นห่วงไปมากกว่านี้ ฉันรู้สึกขอบคุณเขาคนนั้นจริงๆ ที่ช่วยฉันไว้ ถึงแม้ฉันจะไม่เคยเห็นหน้าคร่าตาของเขาก็เถอะ

     

    ..และฉันก็คงเข็ดกับคนที่ชื่อจงอินไปอีกนาน..

     

    ..................................................................

     

    “คุณคริสตัลเป็นอะไรมากรึเปล่าค่ะ? เห็นคุณท่านบอกป้าว่าคุณมีอุบัติเหตุ”

     

    พอฉันเดินเข้ามาถึงภายในตัวบ้านก็เห็นป้าเยริมที่นั่งรออยู่แถวห้องรับแขก หลังจากที่นั่งแท็กซี่มาแต่กว่าจะมาถึงก็ใช้เวลานานพอสมควร เพราะรถที่ติดกันเป็นแถวยาว ขนาดบ้านของคุณลุงอยู่ห่างจากโรงพยาบาลไม่มากนัก แต่ก็เสียเวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมงกับรถที่ติดแออัด

     

    “แค่อุบัติเหตุเล็กๆ น่ะค่ะป้าเยริม ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ นี่ก็ดึกแล้วป้าเยริมรีบเข้านอนเถอะค่ะ ป้าต้องตื่นเช้าไม่ใช่เหรอค่ะ?” ฉันมองนาฬิกาที่ข้อมือซึ่งมันบ่งบอกเวลาว่าตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มเศษๆ แล้ว

     

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ป้านอนดึกตื่นเช้าอย่างนี้เป็นปกติอยู่แล้วค่ะ ป้าว่าคุณคริสตัลรีบไปอาบน้ำแล้วก็เข้านอนเถอะค่ะ อ่อ! แล้วก็รีบเข้านอนก่อนเที่ยงคืนนะค่ะทำตามที่ป้าบอกด้วยนะค่ะ”

     

    ทำไมต้องรีบเข้านอนก่อนเที่ยงคืนด้วย? จะมีตัวอะไรออกมาฆ่าเราแบบในหนังฆาตรกรรมงั้นเหรอ? ฉันคิดอยู่คนเดียวภายในใจ สงสัยป้าเยริมคงจะเป็นห่วงตามประสาผู้ใหญ่เลยบอกให้รีบเข้านอนมั้ง ฉันยิ้มก่อนจะปลีกตัวออกมาแล้วเดินเข้าห้องนอนทันที

     

    “อ่านหนังสือก่อนแล้วค่อยเข้านอนดีกว่า” ฉันหยิบหนังสือเล่มโปรดที่ยังอ่านค้างไว้ขึ้นมาอ่านอย่างจริงจัง พร้อมกับทรุดตัวนั่งลงที่โต๊ะทำงาน

     

    ฉันอ่านหนังสือเพลินจนเวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงคืน และฉันไม่ได้เข้านอนก่อนเที่ยงคืนตามที่ป้าเยริมบอก ในใจของฉันก็แอบกลัวว่าถ้าไม่รีบนอนก่อนเที่ยงคืนจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นแบบในหนังฆาตรกรรมต่างๆ ที่เคยดูผ่านๆ มา แต่นั้นมันก็แค่หนังไม่ใช่เรื่องจริง ฉันเลยไม่อยากปักใจเชื่อสักเท่าไหร่

     

    “อาบน้ำแล้วก็นอนดีกว่า” ฉันพูดพร้อมกับวางหนังสือแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป  

     

    ซ่า ซ่า

     

    เสียงของน้ำที่ไหลออกมาจากฝักบัวทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายขึ้น รู้สึกว่าวันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน และเพราะคนที่ชื่อจงอินนั้นทำให้ฉันเกือบตาบอด...ชาตินี้หรือชาติไหนขออย่าได้พบได้เจอกับเขาอีกเลย ครั้งนี้อาจจะถือเป็นคราวซวยของฉันก็ได้..

     

    เอี๊ยด..

     

    ฉันได้ยินเสียงประตูของห้องนอนที่เปิดออก กลางดึกสงัดแบบนี้เนี่ยนะ? คนในบ้านก็น่าจะแยกย้ายกันไปนอนหมดแล้วนะ แล้วใครที่มาเปิดประตูห้องฉันกัน...รึฉันจะหูฝาดไปเอง..

     

    ..เวลานี้ใครจะมาเปิดประตูห้องเรากัน..

     

    ฉันไม่ได้ใส่ใจอะไรจึงอาบน้ำต่อเพราะบ้านของคุณลุงมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี พอสมควร เลยไม่คิดว่าจะน่าจะเป็นขโมย แต่คาดว่าน่าจะเป็นป้าเยริมที่เข้ามาเช็คความเรียบร้อยมากกว่า

     

    “อ่า..สบายตัวจัง..” ฉันออกมาจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ นั้นทำให้ฉันรู้สึกสบายตัวและอยากหลับเต็มทีบวกกับอากาศที่เย็นสบายจากเครื่องปรับอากาศด้วยแล้วยิ่งทำให้ง่วงนอนเข้าไปใหญ่

     

    ฉันทิ้งตัวนอนลงที่เตียงกว้าง ดวงตาของฉันจะค่อยๆ ปิดลงภาพทุกอย่างค่อยๆ เรือนลางลงก่อนภาพพวกนั้นจะกลายเป็นความมืดมิด..

     

    ฉันรู้สึกถึงเตียงที่ยุบลงได้ก่อนจะมีบางอย่างทาบทับลงมาที่ตัวของฉัน ภายในความมืดมิดเช่นนี้ ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย...ริมฝีปากของฉันแห้งผากด้วยความกลัว...ร่างกายของฉันไม่สามารถขยับไปไหนได้ราวกับถูกโซ่ตรวนเอาไว้ ฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

     

    ...เรื่อยๆ..

     

    ...เรื่อยๆ..

     

    “อืม...”

     

    ก่อนที่ริมฝีปากของฉันจะถูกทาบทับลงมาด้วยความอ่อนโยน ริมฝีปากนั้นอ่อนนุ่ม น่าค้นหา...ฉันเผลอรับสัมผัสนั้นด้วยความเผลอไผล...ทุกอย่างบนโลกเหมือนกับหยุดเคลื่อนไหว มันยาวนานจนฉันแทบจะขาดใจ..ฉันได้กลิ่นมินต์อ่อนๆ จากลมหายใจนั้น...

     

    ใครกันนะที่ทำเรื่องแบบนี้..

     

    ฟุ่บ!

     

    “เฮ้อ...ฝันไปเหรอเนี่ย ท่าจะโรคจิตแล้วคริสตัลเอ้ย ฝันได้หื่นจริงๆ เลยเรา” ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาในกลางดึกด้วยความฝันที่ไม่เข้าท่าของตัวเอง ฉันฝันถึงฉากโรมานซ์กับใครคนหนึ่ง แต่ทำไมความฝันนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันช่างเหมือนจริงเสียเหลือเกิน...ราวกับว่ามันพึ่งผ่านไปไม่กี่นาทีนี้เอง..

     

    “นอนต่อดีกว่า ฝันบ้าบออะไรกันเนี่ย..ให้ตายเถอะ” ฉันพยายามข่มตาให้หลับลงแต่ด้วยความฝันแปลกๆ นั้นทำให้ฉันรู้สึกขนลุก...ฉันไม่กล้าที่จะหลับตานอนอีกครั้งเลยด้วยซ้ำ

     

          มันคือ...จูบแรกแห่งความฝันของฉัน...










                แวะเอาตอนที่ 1 มาลงไว้ให้แล้วนะค่ะ สนุกหรือไม่สนุกก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนที่จะคอมเม้นต์หรือไม่คอมเม้นต์เลยค่ะ ไรต์เตอร์เรื่องนี้ให้อิสระกับทุกคนอยู่แล้วค่ะ และเข้าใจค่ะว่าทุกคนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง เพราะไรต์เตอร์ก็เคยเป็นนักอ่านเหมือนกันค่ะ ขอบคุณค่ะ ^^ 

     
    BlackForest
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×