[ S F ] - fanfic T i m e S t a n d . chanbeak * - [ S F ] - fanfic T i m e S t a n d . chanbeak * นิยาย [ S F ] - fanfic T i m e S t a n d . chanbeak * : Dek-D.com - Writer

    [ S F ] - fanfic T i m e S t a n d . chanbeak *

    '' ชานยอล นายไม่เคยหายไปไหนเลยไม่ว่าฉันจะพยายามจะลืมนายขนาดไหน . . นายยังชัดเจนในทุกๆการกระทำ . . และในความทรงจำ ''

    ผู้เข้าชมรวม

    301

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    301

    ความคิดเห็น


    11

    คนติดตาม


    15
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 56 / 23:47 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
                                        






                                           :


                                                                        สวัสดีค่าทุกๆคน :D



                                                                                           


                                        นี่คือคำทักทายจกไรเตอร์ผู้ที่ไม่สามารถคิดนามปากกาได้ดีกว่านี้
                                       ' เอฟน้อยหอยสังข์ ' ชื่อตลกล่ะสิ แต่ยังไงก็อยากให้จำกันให้ได้นะคะ :D
                                        ลงแฟนฟิคเรื่องแรกเลยเริ่มที่ชอร์ตฟิคก่อน ยังไงถ้าไม่รบกวนเกินไป
                                        คอมเม๊นซักนิดนึงจะเป็นพระคุณอย่างสูงเลยล่ะคะ *กอด*
                                        มีอะไรก็รีเควสกันได้ตามสบายเลยนะคะ เพราะฝืมือยังอ่อนหัดมาก ฮ่าๆๆ
                                        นี่เป็นการเล่นบอร์ดเด็กดีครั้งแรก ใช้เวลาไปนานมากกับการศึกษาโค้ด ;-;
                                        ผิดพลาดประการใดขอกราบขอโทษด้วยนะ
                                        ปล.ขอบคุณที่เข้ามาแวะชมค่ะ *แ๊บ๊วใส่* >_____<
                                        


                                   
                                           ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคะ :)  //แกแต่งดราม่าไม่ใช่หรา

                                         แปะแบนนอร์ค่ะ ไม่รู้ว่า sf จำเป็นต้องมีรึเปล่า อ่อนหัดมากนี่พูดเลย ;_;
                                                       



                                              




    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
                                   








                                                                            ‘’ แบคฮยอน . . . . ! ’’


               ชายร่างสูงตะโกนเสียงดังจากรั้วหน้าบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ หวังให้คนที่นอนหลับอยู่ชั้นบนของบ้านได้ยิน เด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มที่นอนอยู่บนเตียงเริ่มรู้สึกตัว  

                                           ‘’ อื๋อ . . ‘’ ร่างเล็กหยีตาด้วยความงัวเงียแล้วลุกบิดขี้เกียจ ก่อนจะเดินไปเปิดม่านหน้าต่างห้องนอนหาเจ้าของเสียง ชายร่างสูงในชุดเสื้อสีขาว ทับด้วยแจ๊กเก็ตสีน้ำเงินเข้มที่ขับกับกางเกงยีนส์ ยืนเกาะรั้วยิ้มหน้าระรื่น ข้างๆรถสปอร์ตคู่ใจ แสดงท่าทีตื่นเต้นเมื่อเห็นร่างเล็กโผล่หน้ามาหา
       
      ‘’ แบคฮยอน .. วันนี้สัญญาว่าจะไปเที่ยวกับผมน้า ! ‘’




                                                                  ( Baekhyon Part)

                  ผมยิ้มรับคนร่างสูง ก่อนจะลงมาเปิดประตูบ้านต้อนรับเขา ให้ตายสิ ' ชานยอล ' นี่หล่อไม่เว้นวันหยุดราชการเลยจริงๆ

      ‘’ ขอโทษนะ . . แบคนอนดึกน่ะ ยอลเข้ามารอในบ้านก่อนสิ ‘’   ผมปั้นหน้ายิ้มให้ปกติที่สุด ทั้นๆที่ใจเต้นระส่ำไปหมดแล้ว

       ‘’ อ่า . . ยอลมาก่อนเวลาด้วยแหละ ฮ่าๆ ‘’ ร่างสูงพูดแล้วอมยิ้ม พลางเกาหัวแก้เขิน  นี่คือ ‘ ชานยอล ‘ คู่บั๊ดดี้ของผมครับ คู่บั๊ดดี้ที่ผมแอบชอบมานานจะสี่ปีแล้ว ก็ตลกดีที่เขาไม่เคยรู้เลย . .


                 ผมแต่งตัวด้วยเสื้อสีขาวแขนกุด กับกางเกงยีนส์ขาสั้นสามส่วนที่พับตรงปลาย ชานยอลคงจะรอจนหลับไปแล้วล่ะมั้ง ก็ผมเล่นแต่งตัวซะนานขนาดนี้ ก็วันนี้มันวันพิเศษนีนา . . ผมเดินมาที่ห้องโถง รอยยิ้มยังคงติดอยู่บนใบหน้าเขา มันไม่เคยจางหายไปเลยด้วยซ้ำ

      ‘’ แบคฮยอน ! น่ารักสุดๆเลย ! ‘’ ร่างสูงชมผมห้วนๆอย่างไม่ลังเล เกิดผมเขินจนหัวใจวายใครจะรับผิดชอบบบ ! 

                '' วันนี้ไปกินไอติมกันนะๆๆๆ ร้าน CWC เปิดใหม่ใกล้ๆฟิวเจอร์ เค้าบอกว่าดังมากเลยล่ะ ! '' 
                '' อ่า . . จริงเหรอ งั้นก็โอเคเลยครับ '' ผมเสนอไอเดียทริปเที่ยวสำหรับวันนี้ ซึ่งชานยอลก็เห็นดีด้วย เค้ายิ้มอย่างละมุนให้ราวกับว่าผมเป็นเด็กน้อยอ้อนขอขนม . . อันที่จริงเขาก็ตามใจผมทุกทีน่ะแหละ
       
                 ไม่นานเท่าไรเราก็มาถึง เราก็เดินลัดเลาะเข้าไปในซอยเล็กๆอีกหน่อย แต่ไม่นานก็หาเจอเพราะร้านสีสันฉูดฉาดกับสไตล์การตกแต่งหน้าร้านที่โดดเด่นสุดๆ

                 ‘’ หวา ! สุดยอดเลย สวยกว่าในรูปอีกแหน่ะ ดูสิๆ ‘’ ผมตาลุกวาวเป็นประกายแล้วชี้ๆไปข้างหน้าบ่งบอกคนตัวสูงให้รู้ถึงอารมณ์ที่กำลังตื่นเต้นสุดๆ คนตัวสูงเลยหัวเราะคิกคักกับท่าทีของผม
                  ‘’ ขำอะไรน่ะชานยอล ! ‘’ ผมทำปากเบะใส่เขา คนเขากำลังตื่นเต้นอยู่นะไม่เห็นจะมีอะไรน่าขำซะหน่อย
                  ‘’ อ่า . . . ไปนั่งกันเถอะ เมื่อยขาแล้ว . . ‘’ ชานยอลรีบเบี่ยงประเด็นเมื่อเห็นใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์ของผม เขาจูงมือผมไปนั่งที่โต๊ะริมติดหน้าต่าง เป็นโต๊ะเตี้ยๆและเบาะรองนั่งสีชาเขียวนุ่มๆแบบญี่ปุ่น อา . . สุดยอดไปเลย !

                   พนักงานหน้าตาจิ้มลิ้มในชุดอาราเล่เดินมาหาเราพร้อมกับรอยยิ้มสดใส เธอวางเมนูบนโต๊ะแล้วเอ่ยถาม
        ‘’ จะรับอะไรดีคะ อ้อ ! ตอนนี้เมนูแอลมอนด์ดีไลท์โยเกิร์ตกำลังเป็นที่นิยมค่ะ ดิฉันแนะนำ ‘’ พนักงานตัวเล็กพูดพลางชี้ให้ผมดูภาพไอศรีมถ้วยโตตรงกลางแผ่นเมนู
      ‘’ งั้นเอาหนึ่งที่ครับ ‘’ ผมพูดแล้วชูหนึ่งนิ้ว  
       
                  ชานยอลยังคงเปิดเมนูกลับไปกลับมาด้วยหน้าตาที่เคร่งเครียด จะซีเรียสไปไหนเนี่ย ? อยากรู้จังว่าจะสั่งอะไร


      ‘’ ช๊อกโกแลตหนึ่งก้อนครับ ! ‘’ เขาสั่งด้วยสีหน้าภูมิใจแล้วปิดเมนูยื่นให้พนักงาน  

                   ........อืม ผิดหวังนิดๆ -_-

      ‘’ ของแบคน่ากินจัง ‘’ เขามองที่ผมแล้วอมยิ้ม หลังจากที่เราต่างกินไอติมที่ตัวเองสั่งเงียบๆกันมาสักพัก
      ‘’ กินก็ได้นะ ‘’ ผมยิ้มรับตาหยีตอบ เพราะเริ่มรู้สึกเขินกับท่าทีคนตรงหน้า ที่จ้องผมซะแทบไม่ยอมละสายตา

       ชานยอล . . คนบ้า

      หยุดทำให้เขินซะทีสิ !


      ทันใดนั้นชานยอลก็รีบย้ายร่างของตัวเองมานั่งฝั่งเดียวกับผม ! ผมตกใจจนอ้าปากค้าง พอเริ่มได้สติก็ตีเข้าไปที่แขนคนตัวใหญ่อย่างเต็มแรง

      ‘’ ชานยอลจะเบียดทำไมเล่า ! ‘’
      ‘’ ก็กินไม่ถนัดอ่า . . ‘’ คนตัวสูงพูดเสียงอ่อยๆแล้วทำหน้าบู่ใส่ผม พลางลูบแขนข้างที่โดนผมตีไปเมื่อกี๊แสดงความเจ็บ
      ‘’ น่าเชื่อมากเลยเนอะ ‘’ ผมเบะปากใส่เขาเป็นเชิงว่า ‘ ข้ออ้างเห่ยๆ ผมไม่ใช่เด็กอนุบาลนะ ‘

      ทั้งๆที่ในใจ ไม่ได้โกรธเลยสักนิด . .

      ‘’ อ้ามม . . ‘’ ชานยอลคว้าช้อนไอติมผมตักเข้าปาก เหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด เห็นแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้
      ‘’ แบคฮยอน อ้ามม ‘’ ชานยอลตักไอติมมาจ่อที่ปากของผม ผมส่ายหัวยิกๆเป็นเชิงว่า ‘ อายคนอื่นเขา ‘ เจ้าตัวเลยแสดงอาการกระฟัดกระเฟียดเป็นเด็กๆใส่ผม เห็นอย่างงั้นเลยต้องเออออตาม
      ‘’ ก็ได้ๆ อ้าม . . ‘’
      ‘’ แบคฮยอนน่ารักไม่เปลี่ยนเลย ‘’ แล้วผมก็ยอมกินแต่โดยดี ลูกอ้อนแบบนี้ก็แพ้มันซะทุกทีสิน่า . .


                     ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มกว่าๆครับ หลังจากที่เรากินไอติมเสร็จเราก็ไปเดินเล่นเพลินๆกันต่อในฟิวเจอร์ พอเริ่มมืดผมเลยชวนเขากลับ ชานยอลจับมือผมแน่น แล้วจูงมือผมเดินมาที่รถราวกับคุณแม่ที่เป็นห่วงลูกสุดๆยังไงยังงั้น

      ปึง !

      ผมปิดประตูรถ ก่อนที่ชานยอลจะสตาร์ทรถ ผมก็นึกได้ว่า ผมมีอะไรบางอย่างจะพูดกับเขา . .

       ‘’ ชานยอล . . ‘’

      ‘’ หืม . . ว่าไงครับ ? ‘’

      ‘’ ชานยอล . . . ชอบแบคฮยอนไหม ? ‘’

      ‘’ ช . .ชอบ . . ชอบสิ ! แบคฮยอนเป็นคู่หูที่ดีที่สุดในโลก ฮ่าๆ ‘’

      ชานยอลเบี่ยงประเด็นอย่างเห็นได้ชัด ผมมั่นใจว่าเขารู้ความหมายที่ผมสื่อ . . . เพียงแต่เขาเลือกที่จะไม่ตอบ ก็แค่นั้น . .

      ‘’ ชานยอล . . อย่าทำแบบนี้สิ ‘’


       . .  . . เมื่อคนข้างๆเงียบไป บรรยากาศอึดอัดก็แทรกเข้ามาทันที ราวกับผมทำอะไรผิดไปซะแบบนั้น น้ำตาเริ่มรื้นขึ้นบริเวณดวงตา ผมพูดสิ่งที่ต้องการจะพูดมาสี่ปีออกไปแล้ว ไม่รู้ว่าน้ำตาเริ่มไหลเพราะเสียใจ ดีใจ ตื่นเต้น หรืออาจจะทั้งหมด . .

      ‘’ แบคแค่อยากรู้ว่า . . ทุกๆ การกระทำตลอดสี่ปีของชานยอล . . มันหมายความว่ายังไง . .ชานยอลชอบแบคฮยอน เหมือนที่แบคฮยอนชอบชานยอลหรือเปล่า . . ‘’


          เขายังคงเงียบ ไม่ได้แสดงสีหน้าหรือคำพูดใดใดออกมาทั้งสิ้น นี่คือคำตอบจากเขา . . อย่างนั้นเหรอ ?


      ‘’ ขอโทษนะ . . แบคฮยอนตัดใจเถอะ . .‘’


      ‘’ ฮึก . . แล้วที่ผ่านมาล่ะชานยอล ฮึก . .ไม่เคยชอบแบคฮยอนบ้างเหรอ ? ‘’

      ผมถามคำถามที่ไม่ควรจะเอ่ยออกไป แม้ว่าคำตอบจากเขามันชัดเจน ก็ยังเลือกที่จะงี่เง่า

      งี่เง่าและไม่ยอมรับความจริง . .

      ทั้งๆที่ควรจะเตรียมใจไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว . .


      ‘’ ขอโทษนะ . . จะเกลียดชานยอลก็ได้ เราไม่ต้องเจอกันอีกเลยก็ได้ แต่ชานยอลอยากให้แบคฮยอนตัดใจ เราเป็นแฟนกันไม่ได้จริงๆ ‘’




                     นี่มันชัดเจนพอแล้ว . . เลิกบ้าซะทีแบคฮยอน ! สี่ปีที่ผ่านมา ผมเป็นแค่บั๊ดดี้ของเขา ไม่ใช่อย่างอื่น . . อย่างอื่นแบบที่ผมคิดกับเขา


      ‘’ วันนี้แบคฮยอนกลับเองนะ ฮึก . . ‘’

      ผมเปิดประตูรถเตรียมจะออกไป ไปจากที่ตรงนี้ ไปให้พ้นๆหน้าคนใจร้ายเสียที

      ‘’ แล้วก็ . . . ขอบคุณจริงๆสำหรับทุกอย่างนะ . . ฮึก . . ‘’



                            ผมเดินเหม่อลอยมานั่งที่ป้ายรถประจำทาง ไม่นึกเลยว่าประโยคประโยคเดียวจะเปลี่ยนความสัมพันธ์ของผมกับชานยอลได้ขนาดนี้ ยังไงก็ตาม ผมคงไม่กล้าพอที่จะไปเจอเขาอีกแล้วจริงๆ













                            . . สี่เดือนแล้วที่เราไม่ได้ติดต่อกันเลย . . สี่เดือนที่ไม่มีคนพาไปตระเวนเที่ยว . . สี่เดือนแล้วที่ไม่เห็นแม้แต่เงาคนตัวสูงเจ้าของรอยยิ้มอันสดใส . . . . . จะคิดถึงกันบ้างไหมนะ ? ผมยังคงใช้ชีวิตไปตามปกติ แม้จะไม่ค่อยราบลื่นซักเท่าไร แต่ผมคิดว่าอีกไม่นานหรอก . . อีกไม่นานผมคงจะอยู่โดยไม่มีเขาได้อย่างปกติจริงๆสักที . . อีกไม่นาน



                                ผมเดินขึ้นไปที่ห้องนอนหลังจากที่เพิ่งกลับมาจากมหาวิทยาลัย เพราะตารางเรียนที่แน่นเอี๊ยดและความคิดที่คอยเอาแต่จะฟุ้งซ่าน ทำให้ผมไม่ค่อยได้นอน ผมจึกสามารถนอนหลับได้ทุกเวลา แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาบ่ายสามก็เถอะ . . ผมเดินโซชัดโซเซเข้ามาในห้อง แต่เพราะความซุ่มซ่ามจึงเผลอไปชนเข้ากับชั้นเก็บของ ของกระจุกระจิกที่ผมตั้งเรียงไว้พากันตกลงมากระจายเกลื่อนพื้น เสียงกร๊อกแกร๊กดังระงม ผมบรรจงลงไปหยิบพวกมันขึ้นทีละชั้นด้วยความง่วง . .

                                ฉับพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นกล่องเก็บของสีฟ้าขนาดเท่าฝ่ามือที่อยู่ใต้เตียง . . ผมเอื้อมไปหยิบมันช้าๆ ราวกับกลัวว่ามันจะบุบสลายหายไป แกรก ! รูปโพลารอยด์นับสี่สิบกว่าภาพของผมกับชานยอลอยู่ในกล่องใบนี้ . . ใช่ . . ผมยังจำเขาได้ดี จำได้ราวกับว่าเขาไม่เคยหายไปไหน จำได้ดีเหมือนกับเพิ่งเจอกันเมื่อวาน


      . . คิดถึงจัง . .

      ‘ แบคฮยอนกินจุสุดๆ จากชานยอล ฮ่าๆๆๆๆ ‘

      ‘ 120910 ชานยอลขี้กลัวชะมัด แค่บ้านผีสิงยังไม่ยอมเข้า :P ‘

      happybirthday นะแบคกี้ อยู่ด้วยกันไปนานๆนะ . . . ‘



                   ข้อควานที่เขียนติดอยู่ที่ภาพยังคงชัดเจน เหตุการ์ณในตอนนั้นวนเข้ามาในหัวราวกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน . . มันยังชัดเจนอยู่เสมอ ใช่ ผมไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกต่อไปแล้วว่าผมอยู่ได้โดยไม่มีเขา เขายังคงอยู่ในความทรงจำ และทุกๆการกระทำ มันยังคงชัดเจน ผมก็แค่หลอกตัวเองไปวันๆเท่านั้น . .

      ‘’ ฮะๆ ‘’ ผมหลุดหัวเราะเมื่อเห็นภาพที่ผมโดนแอบถ่ายตอนหลับ

      ‘ เวลาหลับก็ยังน่ารักอยู่เลย :) ‘

      ‘’ ฮะๆๆๆ . . ฮะ ฮึก ฮึก . . ‘’ จากเสียงหัวเราะกลับกลายเป็นเสียงสะอื้นเมื่อไรก็ไม่รู้

      . . ไร้สาระน่าแบคฮยอน นายควรจะลืมเขาได้แล้ว . . .


      ‘’ ฮึก . . แบคฮยอนคิดถึงชานยอลนะ . . . ‘’

      .


      .


      .


      .




                                       แสงอรุณยามเช้าลอดม่านเข้ามาในห้องนอนสีครีมสไตล์วินเทจ กระทบเข้ากับใบหน้าชายหน้าสวยที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียง คนตัวเล็กหยีตาด้วยความรำคาญแล้วพลิกตัวไปอีกข้าง . .


      [ กริ๊ง . . กริ๊ง . . ]   เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือคู่ใจดังขึ้น มือขาวๆเอื้อมไปคว้ามันที่ใต้หมอน


      ‘’ ฮัลโหล ‘’

      ( แบคฮยอน นี่เซฮุนนะ มาเยี่ยมกันที่โรงบาลหน่อยสิ เบื่ออะ )

      ‘’ อ่ะ . . แล้วเป็นอะไร ? ‘’

      ( ขาหัก ต้องเข้าเฝือก เนี่ยมาที่โรงบาลคิมฮยอนซีตรงข้ามมหาลัยอะ ห้อง 640...)

      ‘’ อืมเดี๋ยวไป ‘’

      [ ติ๊ด ]




                      . . . มึนหัวชะมัด อืม . . เซฮุนอยู่ห้องไหนนะ 6 4 0 ? เหมือนจะมีเลขต่อรึเปล่านะ ? ไปดูก่อนแล้วกัน แอ๊ด . . . ผมค่อยๆแง้มประตูเข้าไปดู ชายร่างใหญ่นอนหันหลังอยู่บนเตียง . . ผมดำนี่นา . .เข้าผิดห้องซะแล้ว รีบไปเงียบๆดีกว่า ฟึบ ! ชายหนุ่มบนเตียงหันพลิกตัวมาอีกข้าง นั่นทำให้ผมได้เห็นหน้าเขาชัด ๆ

      ‘’ ช . . ชานยอล ! ‘’

      ผมเบิกตากว้างทันทีที่เห็นบุคคลที่คุ้นเคย รีบวิ่งเข้าไปหาโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ชานยอลในสภาพอิดโรย เขาผอมลงและหน้าซีดมาก บอกผมทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น ! ?

      เขาค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วปั้นรอยยิ้มเสแสร้งให้ผม . . ‘’ บ . .แบคฮยอน . .’’
      เขาน้ำตาคลอเบ้าและทักทายผมด้วยเสียงที่แหบพร่า แต่ผมน่ะร้องไห้ไปนานแล้ว น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลอาบแก้มอย่างหยุดไม่อยู่ . .



      ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ !?

      ‘’ ค. . คิดถึง . .บ . .แบค ‘’ เสียงติดๆขัดๆของเค้าฟังดูทรมานมาก มันบีบหัวใจของผมเรื่อยๆจนแทบจะแตกสลายไปตรงนี้ . .


      พยาบาลหน้าหมวยเดินเข้ามาในห้องโดยที่เราไม่ทันรู้สึก เธอแตะที่ไหล่ของผมเบาๆ แล้วบอกว่า

      ‘’ เวลานี้ คนไข้ต้องพักผ่อนนะคะ ‘’

      พยาบาลส่งสายตาให้ผมราวกับจะปลอบใจ เมื่อผมรู้ว่ากำลังรบกวนเขาอยู่จึงยอมทำตามแต่โดยดี

      ‘’ เดี๋ยวจะมาเยี่ยมใหม่นะ ‘’

      ชานยอลยิ้มให้ผมแล้วค่อยๆหลับตาลง เมื่อเราออกจากห้องกันมาแล้ว ผมจึงเอ่ยถามพยาบาลคนนี้ทันทีโดยไม่ลังเล

      ‘’ เขาเป็นอะไรครับ ? ‘’ ผมถามเสียงสั่นเพราะความกลัว . . กลัวสิ่งที่กำลังจะได้ยิน

             ‘’ คุณชานยอลเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวค่ะ พักรักษาตัวมา 2 – 3 ปีแล้ว ช่วนสี่เดือนให้หลังอาการเริ่มทรุดหนักลงเรื่อยๆ จึงต้องย้ายมานอนที่โรงพยาบาลเพื่อการดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะ . .’’


                        ผมแทบจะทรุดลงไปตรงนั้นทันที รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน เขาต่อสู้กับโรคบ้าๆนี้มาคนเดียวโดยที่ผมไม่เคยรู้อะไรเลย . . ไม่สิ เขาพยายามจะปกปิดมันด้วยซ้ำ ! เขากลัวผมจะเป็นห่วงงั้นเหรอ ?

      ‘’ แล้วก็ . . ‘’ พยาบาลสาวทำหน้าอึกอักที่จะพูดต่อ ผมพยักหน้าสื่อให้เขารู้ว่าผมพร้อมจะรับฟัง เธอสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพูดต่อว่า

      ‘’ คุณชานยอลเหลือเวลาอีกไม่นานแล้วนะคะ . .อย่างมากที่สุดก็ไม่เกินสองสัปดาห์ เอ่อ . . คุณ . .’’

      ‘’ แบค . .ฮยอนครับ ‘’

      น้ำตาหยดเล็กเริ่มก่อตัว ผมบอกชื่อเธอไปด้วยเสียงสั่น . .

      ‘’ ค่ะ คุณแบคฮยอน ฉันดีใจนะคะที่คุณได้มาเจอเขา คุณคงเป็นคนสำคัญมากๆ รอสักครู่นะคะ ‘’

      เธอเดินไปที่เคาท์เตอร์แล้วกลับมาพร้อมกับสมุดปกหนังสีดำแล้วยื่นให้ผม เธอยิ้มให้ผมบางๆแล้วหันหลังเดินจากไป

      ‘ ไดอารี่ถึงแบคฮยอน ‘

      หัวข้อบนบรรทัดแรกที่สมุดทำให้ผมแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆเปิดอ่านมันทีละหน้า . .

      ‘ 17 พฤษภา 2552

      วันนี้เป็นวันแรกที่ผมรู้ชื่อเขา อา พยอนแบคฮยอนนั่นเอง พอเห็นใกล้ๆแล้วน่ารักกว่าเดิมร้อยเท่าเลยล่ะ ‘



      ผมอมยิ้มทั้งๆที่น้ำตายังคงไหล เขียนอะไรน่ารักๆแบบนี้เป็นด้วยเหรอชานยอล . .

      ‘ วันที่ 19 สิงหาคม 2552 ‘ แบคฮยอนเริ่มสนิทกับเซฮุนมากขึ้น งอนแล้ว ผมน้อยใจนะ :(


       ผมเปิดอ่านไดอารี่เรื่อยๆ มีหลายเรื่องที่ไม่ได้สังเกตว่าเขารู้สึกแบบนี้ ทั้งๆที่เขาเก็บทุกรายละเอียดเกี่ยวกับผมแล้วระบายมันลงไปในสมุดไม่รู้ตั้งกี่หน้า . .

      ‘ วันที่ 16 มกราคม 2556 ‘

      สี่เดือนที่แล้ว ?

      ‘ แบคฮยอน นี่อาจจะเป็นหน้าสุดท้ายของไดอารี่ ผมรู้ข่าวจากคุณหมอมาว่า ผมเหลือเวลาอีกไม่นาน แทบจะไม่ถึงครึ่งปี ผมกะว่าจะบอกลาแบคฮยอน แต่แบคฮยอนดันสารภาพรักกับผมพอดี น่าตลกดีเนอะ ไม่รู้โชคชะตาเล่นอะไร . . ขอโทษนะที่ปฎิเสธแบคฮยอน ผมรักแบคฮยอนมากๆ มากจนไม่สามารถจะรักใครได้เท่านี้อีก ผมขอโทษที่ทำให้เสียใจ แต่ผมอยากให้รู้ว่าผมก็ไม่ต่างไปจากแบคฮยอนเลย ผมอยากให้แบคฮยอนตัดใจจากผม อยากให้แบคฮยอนไปเจอคนที่ดูแลแบคฮยอนแทนผมได้ ผมไม่อยากให้แบคฮยอนเอาหัวใจมาผูกกับคนที่ป่วยเป็นโรคอย่างผม . . ผมหวังว่าซักวัน ไดอารี่เล่มนี้จะอยู่ในมือของคุณ ไม่ว่าวันนี้ผมจะอยู่ หรือจากไปแล้วก็ตาม . . ผมรักแบคฮยอนนะ อยากอยู่กับแบคฮยอนให้นานกว่านี้ ขอโทษหากเคยทำอะไรผิด ผมดีใจมากที่ได้รู้จักแบคฮยอน คุณทำให้ทุกๆนาทีมีค่าและมีความหมายมากๆ ผมเป็นคนที่โชคดีที่สุดเลย



      จะรักแบคฮยอนตลอดไป แบคฮยอนของชานยอล :) ‘




      ผมร้องไห้โฮออกมาโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้ว นี่ใช่ไหมเหตุผลที่เค้าปฎิเสธ

      เพียงเพราะอยากให้ผมไปเจอคนที่ดูแลผมได้แทนเขางั้นเหรอ ?

      นายเสียสละเกินไปแล้วนะชานยอล



                    นับจากวันนั้นผมก็มาเยี่ยมเขาทุกวัน ชานยอลมักจะยิ้มให้ผมทุกครั้งแม้ว่าจะอิดโรยขนาดไหนก็ตาม

      ‘’ ชานยอล . . เหงามากไหม ‘’

      ‘’ จะ . .เหงาได้ไง . . บ . .แบคฮยอนมาเยี่ยม ทุกวัน . . ‘’

      ‘’ ไม่ใช่ . . . สี่เดือนที่ผ่านมา เหงามากไหม ฮึก ‘’

      เขาไม่ตอบ แต่เอื้อมมือมาลูบแก้มของผมแทน รอยยิ้มจางๆผุดขึ้นบนใบหน้า

      รอยยิ้ม . . ที่ทำให้รู้สึกชื่นใจทุกครั้งที่เห็น




                        วันนี้ผมก็เดินเข้ามาในห้องพักของเขาตามปกติ แต่เตียงนั้นกลับโล่ง ไร้ซึ่งเงาของชายตัวสูง

      ความลัวเริ่มเกาะกินหัวใจของผมอีกครั้ง ความรู้สึกต่างๆถาโถมเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่จะสติแตกไปมากกว่านี้ ผมเลยรีบเช็คดูที่ห้องน้ำก่อน


      ไม่มี!!?

                       ผมออกไปข้างนอกหวังจะไปตามหาเขา บางทีเขาอาจจะลงไปที่สวน ? ผมยืนรอลิฟต์อย่างใจจดใจจ่อ ร่างกายร้อนรุ่มไปหมดเพระความกลัว



      กลัวจะเสียเขาไปโดยที่ยังไม่ทันร่ำลา . .


      ตึ๊ง . .

      เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก บุคคลที่ผมตามหาแทบตายก็เดินออกมา . .

      ‘’ ชานยอล ! ‘’

      ผมตะโกนสุดเสียงด้วยความดีใจ รีบเข้าไปกอดเขาทันที

      ‘’ คนบ้า ! . . ทำไมทำแบบนี้ ‘’

      ผมดุเขาทั้งๆที่ไม่ได้โกรธเลยสักนิด น้ำตาไหลอีกแล้ว

      แต่เพราะดีใจมากๆต่างหาก . . . .


      เราคลายอ้อมกอดอันอบอุ่นของกันและกัน ชานยอลยื่นดอกุหลาบสีขาวให้ผม
      ดอกกุหลาบธรรมดา . .

      แต่ในเวลานี้ มันกลับดูวิเศษ

      ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด . . .




      ‘’ ชอบ . .ใช่ไหม ‘’ เขาส่งรอยยิ้มละมุนละไมให้ผม ผมจึงพยักหน้าให้เขาเป็นคำตอบ

      เขาบรรจงจูบลงที่หน้าผากของผม


      รู้สึกมีความสุข . . จนอยากจะหยุดเวลานี้ไว้ตลอดไป . . . .


      เช้าวันนี้ผมก็มาเยี่ยมเขาตามปรกติ . . .


      ไม่อยู่เหรอ ? ลงไปที่สวนอีกล่ะสิ . . ทำไมถึงดื้อแบบนี้นะ !


      ระหว่างทางผมเดินสวนกับคุณพยาบาลคนเดิม จึงยิ้มให้เป็นมารยาท แต่เธอกลับหลบสายตาผม เป็นอะไรของเค้า ?

      ‘’ คุณแบคฮยอน ‘’ พยาบาลเรียกชื่อของผม ผมจึงหันกลับไปหาพร้อมใบหน้าสงสัย

      ‘’ คุณชานยอล อยู่ที่ห้องไอซียูค่ะ ‘’



      .


      .


      .


      .


                          ผมรีบวิ่งตามเธอมาที่ห้องไอซียู มองผ่านกระจกก็รู้แล้วว่าภายในห้องวุ่นวายแค่ไหน . .

      สู้ๆนะชานยอล อย่าเพิ่งจากกันไป . . .  ขอร้องล่ะ . .


                          สิบนาทีให้หลัง คุณหมอก็เดินออกมาจากห้อง ผมรอคำตอบจากปากเขาอย่างใจจดใจจ่อ

      แต่เขากลับสายหน้าให้ผมเป็นคำตอบแทนคำพูด . .


      ผมเข้าใจในทันที . . แต่มันรวดเร็วจะจนตั้งตัวไม่ทัน ทั้งๆที่ผมควรจะทำใจได้ตั้งแต่สองอาทิตย์ที่แล้วด้วยซ้ำ . .


                   . . ผมค่อยๆเปิดประตูเข้าไปในสภาพน้ำตานองหน้า ชานยอลหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง มีเครื่องช่วยหายใจและสายระโยงระยางติดที่ตัวเขา พร้อมกับจอแสดงอัตราการเต้นของหัวใจ ที่อ่อนแรงลงเรื่อยๆ

      . . . ตึ๊ด . . . . ตึ๊ด . . . .ตึ๊ด . . . ตึ๊ด


      ‘’ ชานยอล นายรับรู้ใช่ไหม ไม่ต้องตอบฉันหรอกนะ . . . ‘’

      ผมบรรจงลงไปจับมืออันเย็นเชียบของร่างที่อยู่บนเตียง ร่างของชายคนที่ใกล้จะจากผมไป


      ตึ๊ด . . . . .. .ตึ๊ด . . . . ..ตี๊ด


      ‘’ ฉันรักนายมากนะ ไม่เคยรักใครเท่านายมาก่อน . . . ‘’


      ตึ๊ด . . . . . . . .ตึ๊ด . . . . . . . . .








      ‘’ เป็นแฟนกันนะ ‘’


      ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ .  .  .

                      ชานยอลขยับปากจะสื่ออะไรบางอย่าง ในวินาทีสุดท้าย

      ขอบ . . . . .คุณ . . . .นะ


      ตึ๊ด . . . . . . . . . . . . . .




                           เสียงสัญญาณสุดท้ายดังขึ้น บ่งบอกผมว่าเขาจากผมไปแล้ว จากผมไปแล้วตลอดกาล . . .









                               รถเก๋งนิสสันสีส้มจอดลงในสถานที่ที่ไม่ค่อยมีใครอยากจะมาเหยียบสักเท่าไร สุสานข้างโบสถ์ศาสนาคริสต์ ที่ที่รวมบุคคลที่ตายแล้วมาฝังรวมไว้ที่นี่ . . ชายร่างเล็กคนหนึ่งเปิดประตูออกมาข้างนอกพร้อมกับดอกกุหลาบสีขาวดอกหนึ่ง ผิวขาวๆนั้นขับกับแว่นกันแดดสีดำสุดหรูเป็นอย่างดี


      '' ไปเดียวได้นะ ' แบคฮยอน ' ''
      หนุ่มหน้าตาน่ารักตะโกนถามจากในรถ

      '' ได้ๆ รอนี่นะเซฮุน ''







                              ชายหน้าหวานเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าหลุมศพริมแถวสุดท้าย

      .  . . . เขาคุกเข่าลงที่แผ่นสลักหินที่สลักไว้ว่า ' ปาร์ค ชานยอล '



      '' ชานยอล . . ตั้งแต่นายจากไป แบคฮยอนก็เหงามากเลยนะ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก อีกไม่นานแบคฮยอนก็คงชินไปเอง . . ''


      '' คิดถึงกันบ้างรึเปล่า ? แบคฮยอนยังคิดถึงชานยอลอยู่เสมอนะ ไม่เคยเปลี่ยนเลย . . ''


      '' ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ดูและตัวเองด้วยนะ ฮึก . . ฮึก . .’’


      '' สุขสันต์วันครบรอบสามปีนะ ฮึก . .ฮึก . ฉันยังรักนายอยู่ และจะรักนายตลอดไป . .''




      '' . ฉันต้องไปแล้วนะ . .ฮึก ถ้านายรับรู้ . . ก็คิดถึงกันบ้างนะ . . ฮึก ''











      ( THE END )

      จบแล้วค่าทุกคน  หลังจากที่นั่งพิมพ์มาจนรากงอก อย่าเพิ่งฆ่าไรเตอร์เลยนะ เก๊าขอโต้ดด T^T เห็นว่าไหนๆแต่งดราม่าแล้วก็ดราม่าให้มันสุดไปเลยดีกว่า เลยต้องมีจุดจบที่โหดร้ายแบบนี้ ;-; นี่เป็นฟิคเรื่องแรกของไรเตอร์ที่มีนามเห่ยๆว่า เอฟน้อยหอยสังข์ ปล.ไม่ได้ชื่อเอฟแต่ชื่อมีตัวเอฟค่ะ แหะๆๆ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยโนะ แล้วก็อย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ // กราบงามๆสามที ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านจริงๆค่ะ //ปริ่ม (;O;) ยังไงก็ฝากติดตามฟิคเรื่องต่อไปด้วยนะคะ รับรองจะไม่(ทำให้)ผิดหวังแน่นอน เย้ๆๆ  !







      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×