((chilly love)) >> สาวอารมณ์ร้าย กับ นายหน้าหวาน - ((chilly love)) >> สาวอารมณ์ร้าย กับ นายหน้าหวาน นิยาย ((chilly love)) >> สาวอารมณ์ร้าย กับ นายหน้าหวาน << : Dek-D.com - Writer

    ((chilly love)) >> สาวอารมณ์ร้าย กับ นายหน้าหวาน <<

    ...เมื่อเธอ...นักเรียนคนใหม่ของโรงเรียนย้ายมาอยู่ห้องเดียวกับ 'เขา' บุคคลกวนประสาท!! ตัวอันตรายของสาวๆ แล้วเรื่องราวจะเป็นยังไง? เมื่อหนึ่งคนแสนจะกวน ส่วนอีกสาวก็ป่วนไม่แพ้กัน!!

    ผู้เข้าชมรวม

    249

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    249

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 ม.ค. 52 / 15:53 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                             เรื่อง  “รักวุ่นวายของ ... สาวอารมณ์ร้ายกับนายหน้าหวาน” 

      ท่ามกลางแสงแดดระอุที่แผดเผาลงมายังลานจอดรถ  บ่งบอกได้ดีว่านี่เป็นเวลาสายจนเกือบจะหมดคาบเรียนแรกแล้ว   สาวน้อยผมยาวคนหนึ่งกระหืดกระหอบวิ่งเข้ามาในห้องเรียนของระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1  ผมยาวที่รวบไว้ลวกๆบ่งบอกได้ดีว่าเธอรีบร้อนเพียงใด  
      “เอ่อ  ขออนุญาตเข้าห้องค่ะ”  ฉันตะโกนออกไป ขณะที่คุณครูประจำห้องนี้กำลังยืนเทศนานักเรียน  เอ้ย!  อบรมบ่มเพาะจิตใจนักเรียนอยู่หน้าห้อง
      “ อืม  เข้ามาได้”   เสียงเข้มของคุณครูบ่งบอกถึงความเข้มงวดเรื่องระเบียบวินัยได้เป็นอย่างดี  และฉันอาจจะโดนตีจนก้นลายแน่ๆ  ถ้าเกิดว่าฉันไม่ใช่ ‘นักเรียนใหม่’  ของที่นี่
      ตึก  ตึก  ตึก~!!  เสียงหัวใจฉันเต้นระส่ำระส่ายด้วยความเกรงในสายตาอันทรงพลังที่จ้องตรงมาราวกับว่าจะแผดเผาให้ฉันเป็นผุยผง  น่ากลัวชะมัดเลย  ฉันคิดถูกหรือเปล่าเนี่ยที่ย้ายมาอยู่โรงเรียนประจำจังหวัดแห่งนี้  ให้ตายเถอะ  ย้ายกลับตอนนี้ยังทันหรือเปล่า  โฮ~!!T^T
      ฉันก้าวเข้าไปในห้อง 1 ก้าว  ถือว่าฤกษ์ดีที่ไม่ก้าวสะดุดประตูซะก่อน  สายตาฉันกวาดมองไปทั่วๆห้องเพื่อหาที่นั่งที่ดีที่สุด (ที่นั่งที่อาจารย์จะมองไม่เห็น)  จากการสังเกตดูแล้ว  ห้องนี้จัดที่นั่งเป็น 6 แถว  โดย 3 แถวแรกที่ติดกับประตูให้ผู้หญิงนั่ง  ส่วนที่นั่งอีก 3 แถวฝั่งที่ติดกับหน้าต่างให้ผู้ชายนั่ง  เมื่อกวาดสายตาไล่หาที่นั่งทีละแถวแล้วฉันถึงกับขนลุกซู่  ไม่จริง!   กะ  กะ  ก็ที่นั่งมันเหลือที่เดียวนี่น่า!  โฮ~!~~  T^T
      “เธอไปนั่งตรงแถวหน้าริมสุดที่ติดหน้าต่างแล้วกันนะ  มันเหลือที่เดียวแหละ”  คุณครูพูดขึ้นเสียงดังหลังจากที่เห็นฉันยืนทื่ออยู่นาน  โห  คุณครูอย่าตอกย้ำได้ไหมคะ  หนูรู้แล้วค่ะว่าต้องนั่งตรงนั้น  แต่ขอทำใจหน่อยได้ไหม  อยู่ห่างไกลเพศเดียวกันตั้งมากมาย  โฮ~  ถ้าถูกล่วงเกินใครจะช่วยหนูล่ะเนี่ย  ><  
      “เอาล่ะ ฉันจะเริ่มพูดต่อก็แล้วกันนะ  ระเบียบวินัยและกฎของห้อง......”  คุณครูพูดเรื่องที่ค้างไว้ต่อไปเรื่อยๆ  หลังจากที่ฉันเดินไปนั่งที่นั่งอัปมงคลเรียบร้อยแล้ว  
      “ คาบต่อไปฉันจะปล่อยให้พวกเธอได้ทำความรู้จักกันก็แล้วกันนะ  แล้วอย่าเสียงดังล่ะ  จำที่ฉันบอกไว้ให้ดีด้วย”  คุณครูพูดจบก็มีเสียงนักเรียนบอกทำความเคารพ  เมื่อคุณครูย่างก้าวออกจากประตูไป  ทุกๆอย่างก็อึกทึกครึกโครมเหมือนอยู่ภายในตลาดสด  เสียงดังชะมัดยาดเลย  
      ฉันซบหน้าลงกับพื้นโต๊ะ  ไม่อยากมองหน้าใครและไม่อยากทำความรู้จักกับใครในตอนนี้  ความง่วงเริ่มครอบงำจิตใจส่งผลให้เปลือกตาเริ่มปิดลงช้าๆ  และฉันก็หลับไปในที่สุด...
      “นี่ๆเธอ  ชื่ออะไรหรอ  เราชื่อมุกนะ”  สาวผิวเข้มคนหนึ่งสะกิดฉันให้ตื่นจากนิทรา  ใบหน้าเธอหวานหยาดเยิ้ม  
      “เอ่อ  เราชื่อฟิวส์น่ะ ^o^”  ฉันตอบไปพลางส่งยิ้มที่คิดว่าเป็นยิ้มที่ดีที่สุดในการสร้างสัมพันธไมตรี  นี่คือเพื่อนคนแรกของฉัน  
      หลังจากเวลาผ่านไปเรื่อยๆ  ฉันก็ได้รู้จักคนอื่นๆในห้องมากขึ้น  เริ่มจากมุกและเพื่อนของมุกก็คือ เชลล์  และคนอื่นๆอีกมากมายซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็น ‘ผู้ชาย’ การเรียนฉันก็ไปได้เรื่อยๆ เป็นการปรับตัวที่ไม่ยากนักเพราะฉันเป็นคนเรียนดีอยู่แล้ว (ไม่ได้หลงตัวเองแต่อย่างใดเลยนะเนี่ย)  แต่ฉันก็เกือบไม่รอดอยู่แล้วเหมือนกันในชั่วโมงสังคม  เพราะดันไปตีโต๊ะเป็นจังหวะ โป๊ง  ทึง โป๊ง โป๊ง ทึ่ง ระหว่างที่คุณครูกำลังสอนน่ะสิ  แต่ก็ดีที่เพื่อนๆยังช่วยไว้  โฮะๆ  ^o^
      “นี่เธอ  เพิ่งเข้ามาเรียนใหม่หรอ”  อยู่ๆผู้ชายคนหนึ่งก็เอามือมากั้นทางเดินไว้แล้วเอ่ยถามน้ำเสียงกวนๆ  
      “ ก็เพิ่งเข้าใหม่น่ะ”  ฉันตอบแล้วพยายามดันมืออีตานั่นออกจากทางที่ฉันต้องเดินผ่าน
      “ ไม่ให้ไป”  อยู่ๆพี่แกก็โพล่งออกมาเป็นเหมือนสัญญาณประมาณว่าฉันกับตานี่ต้องเป็นศัตรูกันแน่ๆ  กะว่าจะไม่เป็นอันธพาลแล้วนะ  ถ้านายเจ็บตัวก็ถือว่าทำตัวเองก็แล้วกัน
      “อย่าหาเรื่องกันสิ” ฉันพูดแบบเบื่อๆ  “แล้วก็เอามือนายออกไปด้วย  เกะกะ”  
      “ น่ารักซะด้วย  แต่ปากร้ายไปหน่อย  รู้จักกันไว้ก็ดีนะ  เพราะฉันสนใจเธอซะแล้วสิ”
      เมื่อจบประโยคฉันก็ตวัดสายตาไปจ้องหน้าเจ้าของคำพูด  เฮ้ย  นี่ผู้ชายหรือผู้หญิงวะเนี่ย?  ดวงตากลมโตที่ล้อมรอบด้วยขนตายาวเป็นแพทำให้ใบหน้านี้ดูหวานละไม  แต่ก็ตัดกันอย่างสิ้นเชิงกับคิ้วเข้มๆที่พาดตัวอยู่เหนือดวงตากลมโตที่ตอนนี้จ้องเขม็งมาที่ฉันเช่นกัน
      “ แต่ฉันไม่ได้สนใจนาย  แล้วก็เริ่มเกลียดตั้งแต่วินาทีนี้แล้วด้วย”  เมื่อพูดจบฉันก็หันหลังเดินกลับมาที่นั่งตัวเอง  โธ่เว้ย  กะจะแอบไปนั่งงีบหลังห้องซะหน่อย  เซงเลย
      “เดี๋ยวก็รู้ว่าเธอจะเกลียดฉันจริงหรือเปล่า  ฉันชื่อนิวนะจ๊ะที่รัก”  
      และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของสงครามบ้าๆที่ฉันไม่ได้ก่อขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว  ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้เพื่อนของฉันซวยไปด้วย  แต่มันก็ช่วยไม่ได้ที่มุกและเชลล์จะต้องตกที่นั่งลำบากแบบฉัน  ที่นั่งลำบากที่ว่าคือการโดนกลั่นแกล้งอยู่ตลอดน่ะสิ   เอาล่ะ!  ถึงเวลาที่ฉันต้องสู้บ้างแล้ว
      “ฟิวส์  สรุปว่าจะทำตามแผน A นะ  ฉันคิดว่าแค่เล่นๆก็พอแล้ว  อย่าถึงกับรุนแรงเลยนะ”  มุกพูดเบาๆระหว่างที่เรากำลังจะเตรียมตัวเอาคืน  คราวนี้แหละนะ  นายไม่รอดแน่ตานิว!
      “เฮ้ยๆ  มันมาแล้วๆ”  เชลล์รีบวิ่งเข้ามาในห้องเพื่อสื่อสารให้รู้ว่า ‘นิว’  มาแล้ว
      “เริ่มแผน!!”  ฉันพูดให้มุกได้ยินเพื่อเรียกสติ  เพราะดูจากตอนนี้เธอกำลังกลัวมากๆ
      “หวัดดี  ยัยฟิวส์”  เสียงกวนบาทาดังขึ้นพร้อมกับหน้ากวนๆที่วิ่งปรู๊ดปร๊าดเข้ามาในห้อง  ทำให้ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว  อีตานิวก็เข้ามาประชิดตัวซะแล้ว
      “ อืม  หวัดดี”  ฉันตอบเรียบๆก่อนจะค่อยๆถอยหลังไปติดกับหน้าต่างขณะที่นิวเสียรู้เดินตามฉันมาติดๆ  โฮะ  ^o^  แค่คิดก็สะใจแล้ว
      “ เธอเป็นอะไรน่ะ  ยิ้มโรคจิตจัง”  ยึ้ย  จะซวยแล้วยังกวนอยู่อีกนะ
      “ อ๋อ ป่าว  คือว่าฉันมีเรื่องอยากให้นายช่วยน่ะ”  ฉันพูดแล้วชี้มือลงไปที่หน้าต่าง (เราอยู่ชั้น 1 กัน) “คือว่าผ้าเช็ดหน้าของมุกหล่นอยู่น่ะ  ช่วยเก็บให้หน่อยสิ”  ฉันพูดอ้อนๆ รู้สึกสยองตัวเอง  
      “แล้วทำไมฉันต้องเก็บให้เธอล่ะ”  นิวยิ้มกวนๆให้เมื่อเห็นฉันมีท่าทีขัดใจ
      “ แล้วแต่  ไม่เก็บก็ไม่ต้องเก็บ  ฉันเก็บเองก็ได้”  ด้วยอารมณ์โมโหฉันเลยจะปีนหน้าต่างลงไปเก็บผ้าเช็ดหน้าซะเอง  
      “ นี่เธอ!  จะบ้าหรอ  ฉันเก็บให้เอง”  นิวพูดแล้วหันมายิ้มให้ฉันหนึ่งที “หวังว่าคงไม่มีแผนอะไรนะ  แล้วพอเก็บเสร็จแล้วฉันจะมาเอารางวัล”  
      จากนั้นนิวก็ปีนขึ้นหน้าต่างแล้วกระโดดลงไปเก็บผ้าเช็ดหน้าให้  อยู่ๆฉันก็รู้สึกผิดที่จะแกล้งเขาอย่างนี้  ฉันต้องช่วยเขาหน่อยแล้ว
      “ระวัง!”  ฉันตะโกนเสียงดังเมื่อนิวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วมุกผลักหน้าต่างบนที่ตรงกับที่นิวยืนอยู่ออกไปพอดี
      โครม~!!  เสียงหน้าต่างชนกับหน้านิวเต็มๆ  
      ฉันรีบปีนหน้าต่างออกไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น  ฉันไม่ได้เป็นห่วงหมอนี่นะ  แต่กลัวความผิดต่างหากล่ะ  ถ้าเกิดว่านิวไปฟ้องครูล่ะก็  ฉันซวย  ซวย  ซวยอภิมหึมามหาซวย+ซวยซ้ำซวยซ้อนซวยซ่อนเงื่อนแน่ๆ  ก็คุณครูประจำชั้นโหดอย่างกับอะไรดี  (ไม่รอดแน่ๆ)
      เมื่อฉันกระโดดลงจากหน้าต่างไปยืนข้างนิว  ก็เห็นว่านิวหัวแตก!  โอ้จอร์จ
      “คือว่า...ฉันขอโทษ”  ฉันพูดแล้วก้มหน้า  “เป็นอะไรมากไหม  ไปห้องพยาบาลกันนะ”
      “ ไม่ต้องมายุ่ง  เธอโดนดีแน่ยัยตัวแสบ”  นิวกัดฟันพูดแล้วปีนหน้าต่างกลับเข้าไปในห้อง  ให้ตายสิ!  นี่ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เขาเป็นขนาดนี้ซะหน่อย  ก็เขาลุกขึ้นมาเองนี่น่า  ก็แค่อยากจะให้ตกใจที่หน้าต่างเปิดออกไปเองก็แค่นั้น  เอาเป็นว่าฉันขอโทษแล้วนะ  ถ้ายังโกรธอยู่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะว่ายังไงๆที่นายให้เพื่อนๆแกล้งฉันกับที่ฉันแกล้งนายแค่นี้มันลบล้างกันไม่ได้หรอก
      ในที่สุดเรื่องวุ่นๆก็จบลงได้ด้วยดี  ไม่ใช่เพราะว่านิวไม่ฟ้องครูหรอกนะ  แต่เป็นเพราะว่าฉันชิงไปสารภาพผิดกับครูก่อนต่างหากล่ะ เมื่อฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้ครูฟังจนจบแทนที่จะถูกเทศนาและลงโทษ  ครูกลับบอกว่า ‘สมน้ำหน้า’  ซะงั้นแหละ  โฮะๆสะใจโว้ย  ^O^
      “นี่ไปกินข้าวด้วยกันไหม?”  อยู่ๆหัวหน้าห้องก็เอ่ยชวนฉันไปกินข้าวด้วยในเที่ยงวันหนึ่ง
      “ก็ได้  เดี๋ยวฉันบอกมุกกับเชลล์ก่อนละกันนะ”  ฉันพูดแล้วส่งยิ้มให้
      หลังจากที่ฉันหัวหน้าห้องและเพื่อนๆของเขาไปกินข้าวพร้อมๆกันแล้ว  ฉันก็ได้รู้ความลับบางอย่างที่เล่นเอาซะหัวใจแทบวาย       ‘หัวหน้าห้องชอบนิว!!’
      ฉันเอาเรื่องนี้ไปบอกให้มุกกับเชลล์รู้ด้วย  ยัยเชลล์บอกว่าสงสัยมานานแล้ว  แต่มุกมีอาการแปลกๆ  แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ลงความเห็นกันว่าฉันไม่ควรไปสนิทสนมกับยัยหัวหน้าห้องอีก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ฉันก็รู้สึกว่ามีรังสีอำมหิตแผ่ออกมาทุกขณะยามที่ฉันและหัวหน้าห้องอยู่ด้วยกัน
      “ฟิวส์  ในห้องน้ำหญิงน่ะมีคนเขียนด่าแกด้วยแหละ”  เชลล์วิ่งหน้าตั้งมาหาฉันที่กำลังทำการบ้านคณิตศาสตร์อยู่อย่างตั้งใจ  
      “และที่สำคัญนะ  รอยเขียนนั้นน่ะเป็นฝีมือของพวกหัวหน้าห้อง” มุกเสริมคำพูดเชลล์อีกที
      “ จริงดิ  จะบ้าหรอฉันเพิ่งย้ายมาแค่เทอมกว่าๆโดนเขียนด่าแล้วหรอเนี่ย”  ฉันพูดอย่างเซงในอารมณ์  ขนาดเชลล์กับมุกอยู่โรงเรียนนี้มาหลายปีแล้วยังไม่มีชื่อพวกนี้แปดเปื้อนบนผนังห้องน้ำเลยซักนิด  พนันได้เลยว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับนิวอีกแน่ๆ
      “แล้วมันเขียนว่าไงล่ะ  นังฟิวส์หน้าด้านแย่งผัวชาวบ้านหรือเปล่า?”  ฉันพูดประชดประชัน
      “ถูกเผงเลย  นี่แกเห็นแล้วหรอ”  เชลล์พูดอึ้งๆ  เอ่อ  ฉันพูดประชดนะมันเป็นจริงหรอเนี่ย
      “งั้นพาฉันไปดูหน่อยว่าตรงไหน  แล้วลบมันทิ้งซะ”  ฉันพูดเสียงเด็ดขาด  และพวกเราก็ต้องโดดหนึ่งคาบเพื่อมาขัดรอยเขียนบ้าๆนั่นที่มันมีอยู่มากกว่า10ที่! ช่วยด้วยนางเอกจะเป็นลม
      “เด็กใหม่โดดเรียนเว้ย” นิวแซวฉันทันทีที่เดินกลับเข้ามาที่ห้อง ตามด้วยเสียงโห่ดังเซ็งเซ่
      “แหม  แถวนี้หมามันหอนใหญ่เลยนะแถมยังหอนส่งต่อกันอีกแน่ะ  ไม่ทราบว่าจะโห่หน้างานศพตัวเองกันแล้วหรอคะ  น่าสมเพชจังเลยนะ”  ฉันพูดกัดฟันอย่างหงุดหงิด
      “ ฟิวส์เป็นอะไรน่ะ”  นิวหุบยิ้มทันทีแล้วถามสีหน้าเครียดๆ
      “เป็นอะไรงั้นหรอ?”  ฉันย้อนถามเสียงขื่นๆ  ในขณะที่มุกกระตุกแขนเสื้อฉันเบาๆเป็นการปรามไม่ให้พูดอะไรออกไป
      “พอเหอะมุก  ฉันจะพูดซักที  ฉันเหลือทนแล้วจริงๆ”  ฉันพูดแล้วเงยหน้าขึ้นเพื่อให้น้ำตาที่เอ่อขอบตาไหลย้อนลงไป
      “ ฟิวส์...  ใครเป็นคนทำให้เธอเป็นอย่างนี้”  นิวถามแววตาบ่งบอกถึงความเป็นห่วงเป็นใย
      “ อย่าทำเป็นไม่รู้ไปหน่อยเลย  ก็นายนั่นแหละ  ตั้งแต่วันที่นายแกล้งบอกว่าสนใจฉัน  นายก็ให้เพื่อนๆแกล้งฉันมาตลอด”  ฉันพูดพยายามกลืนก้อนสะอึกลงคอ
      “ฉันไม่ได้-“        
      “ นายไม่ต้องโกหกหรอกนะ  เพราะว่ายังไงวันนี้ฉันก็จะไม่ทนแล้ว  นายมันเลวมาก  รู้ไหมว่าตอนนี้คนอื่นๆเขามองฉันว่ายังไง  ฉันมันก็แค่ยัยผู้หญิงร่านคนหนึ่งที่แย่งแฟนชาวบ้าน  ได้ยินไหมว่าฉันเลวขนาดไหน  ทุกๆอย่างก็เพราะนาย  เพราะนายคนเดียวเลย!!!”  ฉันระเบิดทุกอย่างออกมาและเหวี่ยงหมัดขวาใส่หน้านิวเต็มแรง  ก่อนจะเดินกระแทกไหล่นิวไป
      “เดี๋ยวก่อน”  นิวกระชากมือฉันอย่างแรง  ทำให้ฉันเสียหลักไป  ในตอนนี้กลายเป็นว่านิวกำลังโอบกอดฉันจากข้างหลังอยู่
      “ฉันไม่ได้สั่งให้ใครแกล้งเธอทั้งนั้น  ฉันจะจัดการเรื่องทุกๆอย่างให้  และจะไม่มีใครมองว่าเธอเป็นผู้หญิงอย่างนั้น  และที่สำคัญเธอไม่ได้แย่งแฟนใครเพราะฉันเป็นแฟนเธอคนเดียว”
      ฉันกลับหลังหันไปเผชิญหน้ากับนิวอีกครั้ง  แก้มข้างซ้ายของเขาแดงเป็นรอยมือ  มุมปากเป็นร้อยช้ำจนเห็นห้อเลือด  นิวค่อยเลื่อนหน้าลงมาใกล้ๆฉันและบรรจงประทับริมฝีปากลงบนปากนุ่มสีกลีบกุหลาบ  เวลาทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่งเสียงทุกๆเสียงเป็นเพียงความว่างเปล่า  มีเพียงเสียงหัวใจเท่านั้นที่ยังคงเด่นชัดบ่งบอกความรู้สึกที่มีต่อกัน  นิวยังจูบฉันอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานความอ่อนหวานละมุนละไมทำให้เกิดอารมณ์พลิ้วไหว  นิวค่อยๆถอนริมฝีปากออกช้าๆ  
      “ฟิวส์  เอ่อ  เป็นแฟนกับผมนะ”  นิวพูดอายๆ ตามมาด้วยเสียงโห่ร้องอย่างล้อเลียนของเพื่อนๆในห้อง  หัวใจฉันเต้นโครมครามจนฉันกลัวว่ามันจะกระเด็นออกจากอกมาอยู่ข้างนอก
      “อะ  อืม”  ฉันพูดเบาๆและพยักหน้านิดหน่อย  และฉันก็ตัดสินใจพูดคำๆนี้ออกไป
      “ฉันชักจะสนใจนายแล้วสิ  อิอิ”  รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทุกๆคนแม้กระทั่ง  คุณครู!!  เฮ้ย  คุณครูมาได้ไงอ่ะ
      ฉันรีบเอามือที่โอบรอบคอของนิวอยู่ทิ้งลงข้างลำตัวแล้ววิ่งไปนั่งที่ของตนเอง  เช่นเดียวกับเพื่อนคนอื่นๆที่วิ่งด้วยความเร็วสูงไม่แพ้กัน
      “เมื่อกี้ที่พวกเธอบอกรักกันน่ะ  ครูเห็นนะ!”  คุณครูพูดเสียงเข้ม  จนฉันไม่กล้าสบตา
      “ พวกวัยรุ่นสมัยนี้!!  เห็นแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้ขอให้รักกันนานๆนะจ๊ะ”  คุณครูพูดด้วยรอยยิ้ม  แล้วตบท้ายด้วยการปรบมือจนเพื่อนๆพากันปรบมือกันทั้งห้อง  ฉันและนิวหันหน้ามาสบตากัน  ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากของเรา  มีเพียงเสียงหัวใจที่ร่ำร้องบอกกันและกันอยู่ในตอนนี้ว่า
      ‘สาวอารมณ์ร้ายคนนี้  จะรัก นายหน้าหวานแสนกวนตลอดไป...’

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×