คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 4-2
ซีรี่ย์ชุด The Billionaire demon's virgin mistress Erotica Vol.2: สามีเถื่อน
ตอนที่ 4-2
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นสองสามครั้ง และมันก็ทำให้คนที่เผลอหลับไปรู้สึกตัวตื่นขึ้น
“นี่เราเผลอหลับไปตอนไหนเนี่ย” หญิงสาวมองออกไปทางหน้าต่าง ก่อนจะพบว่าดวงดาวพราวขึ้นเต็มท้องฟ้าแล้ว
“มืดแล้วนี่น่า”
ปัง! ปัง!เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกสองครั้ง
วรันธาราหันไปมอง ก่อนจะร้องตะโกนถามออกไป “ใครคะ ป้าเดซี่หรือเปล่า”
ไม่มีเสียงตอบกลับมา แต่เสียงกำปั้นกระทบบานประตูยังคงดังซ้ำขึ้นอีกหลายครั้ง“รอสักครู่นะคะ”หญิงสาวรีบก้าวลงจากเตียง และกำลังจะเดินไปถึงประตูห้องอยู่แล้วเชียว แต่เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้
ถ้าไม่ใช่ป้าเดซี่ล่ะ แต่เป็นคนอื่น?
เมื่อคิดได้แบบนี้ หญิงสาวจึงถลันกลับไปที่เตียง และมองหารอยแผลเป็นปลอมที่วางเอาไว้ “อยู่ตรงไหนนะ”
ในขณะที่หล่อนพยายามมองหาอุปกรณ์อำพรางใบหน้า เสียงเคาะประตูก็ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง แต่คราวนี้มีเสียงดังตามติดมาด้วย
“เควิน...!” หญิงสาวครางในลำคอด้วยความตื่นตกใจ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่มองหาสิ่งที่ต้องการเจอพอดี
“มา... มาได้ยังไงเนี่ย”
“เปิดประตูหน่อยครับ”
“แป๊บ...แป๊บนะคะ” วรันธารารีบปั้นเสียงแก่ชรา พร้อมกับรีบเอารอยแผลเป็นปลอมปิดที่ใบหน้าอย่างรวดเร็ว
“มาแล้วค่ะ”หล่อนรีบวิ่งไปที่ประตูห้อง ยืนรวบรวมความกล้าอยู่สองสามอึดใจก็ตัดสินใจเปิดออกไป
เควิน คาสโตรเซ่นยืนจังหาอยู่ตรงหน้า ความหล่อเหลาของเขากระแทกใส่หน้าของหล่อนทุกครั้งที่ได้พบเห็น หัวใจของหล่อนสะท้าน ต้องใช้ความพยายามมากมายนักกว่าจะละสายตาจากความสมบูรณ์ของชายหนุ่มได้
“คุณ... เควินมาธุระอะไรกับยายเหรอคะ”
เควินอมยิ้มให้เป็นอันดับแรก ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ขอผมเข้าไปข้างในได้ไหมครับ”
ไม่ได้! หล่อนปฏิเสธในใจ แต่นอกใจจำต้องยิ้มและเอ่ยอนุญาตอย่างไม่มีทางเลือก
“ได้... ได้สิคะ เชิญค่ะ”
ห้องพักของหล่อนคับแคบลงถนัดตาเมื่อมีผู้ชายรูปร่างสูงราวกับตึกสิบชั้นอยู่ภายใน
“เอ่อ คุณเควินมีธุระอะไรกับยายเหรอคะ” หล่อนถามคำถามเดิมอีกครั้ง เพราะเขายังไม่ยอมตอบ
หลังจากตวัดสายตาสำรวจภายในห้องพักของหญิงชราตรงหน้าอย่างละเอียดลออแล้ว เควินจึงเลื่อนสายตามาจ้องหน้าคู่สนทนาแทน“วันนี้ทำความสะอาดห้องของผมเป็นยังไงบ้างครับ”
วรันธารารู้สึกไม่ต่างจากการถูกเอามีดแหลมจี้ลงบนหัวใจ หรือว่าเควินจะรู้ หรือว่าเขาสงสัย ไม่นะ... ไม่นะ...!
“เอ่อ ก็ดีค่ะ มี... มีอะไรหรือเปล่าคะ”
พ่อเจ้าประคุณสุดหล่อระบายยิ้มอีกแล้ว แต่ทำไมนะดวงตาสีน้ำเงินอมดำคู่นั้นกลับไม่ให้ความรู้สึกเช่นเดียวกับริมฝีปากหยักสวยเลย
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่จะชมเชยว่ายายทำความสะอาดได้ดีมาก”
วรันธาราลอบเป่าปากอย่างโล่งอก “ขะ ขอบคุณค่ะ มันเป็นหน้าที่ของยายอยู่แล้วค่ะ”
เควินจ้องหน้าคู่สนทนา ก่อนจะมองเลยไปยังเตียงสีขาวเล็กแคบที่อยู่ด้านหลังของวรันธารา
“ยายดูวัยรุ่นมากนะครับ”
“คุณ... เควินหมายถึง...”
วรันธาราหันหลังกลับไปมองบนเตียงตามที่สายตาของเควินจ้องอยู่ ก่อนที่ใบหน้าจะซีดเผือด โทรศัพท์ของหล่อนวางอยู่บนเตียง ทำไมหล่อนสะเพร่าแบบนี้นะ
“อ้อ... ยาย... ยายชอบไอโฟนน่ะค่ะ มันทันสมัยดี แต่ก็ใช้ไม่ค่อยเป็นหรอก...”
“หรือครับ”
“ค่ะ...”
วรันธาราเสหลบสายตาคาดคั้นของเควิน เนื้อสาวสั่นเทาจนแทบจะซ่อนเอาไว้ไม่มิด
“เอาเป็นว่าผมไม่กวนเวลาพักผ่อนของยายแล้วล่ะครับ หวังว่าพรุ่งนี้เราคงได้พบกันอีก”
เควินพูดแปลกๆ แต่เพราะความหวาดกลัวทำให้หล่อนไม่ได้ใส่ใจมันนัก ตอนนี้ต้องเอาเหตุการณ์ตรงหน้าให้รอดเสียก่อน
“เอ่อ... เดินกลับดีๆ นะคะ”วรันธารารีบเดินมาส่งเควินที่ปากประตูทันที
“ขอบคุณครับ”
เควินหันมายิ้มให้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้รอยยิ้มที่เห็นมันดูเลือดเย็นจนน่าเส้นขนที่แผ่นหลังลุกชัน
“อ้อ ผมลืมบอกไป... แผลเป็นของยายมหัศจรรย์ดีนะครับ เช้าอยู่ข้างซ้าย พอค่ำๆ อยู่ข้างขวา”
วรันธาราอ้าปากค้าง รีบยกมือขึ้นกุมหน้าของตัวเอง
“เอ่อ... คือ... คือว่า...”
หล่อนพยายามจะหาข้อแก้ตัว แต่เควินเดินหายไปในความมืดเสียแล้ว ทิ้งให้วรันธาราจมดิ่งอยู่กับความผิดพลาดครั้งร้ายแรงที่สุดในชีวิตตามลำพัง
“เขา... เขาเหมือนจะรู้... เขาเหมือนจะรู้ว่าเรา...”
หญิงสาวปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนา พลางเดินกลับไปกลับมาราวกับหนูติดจั่น
“จะทำยังไงดีล่ะ คิดสิ คิดสิธาร คิดสิ...” ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาราวกับคนบ้า
ต้องไป... ต้องออกไปจากที่นี่ ใช่... นี่แหละคือทางรอดเดียวที่มี เพราะเควินคงจะรู้แล้ว คงจะรู้หมดแล้วว่าหล่อนไม่ใช่ยายแก่อย่างที่พยายามแสดงออกเขาฉลาดเหลือเกิน ในขณะที่หล่อนก็สะเพร่าอย่างไม่น่าให้อภัย
วรันธารารีบตรงปรี่ไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากตู้ จากนั้นก็เก็บข้าวของทุกชิ้นของตัวเองยัดลงไปในนั้น ก่อนจะเฝ้ารอ... เฝ้ารอเวลาที่จะสามารถเดินทางออกไปจากคฤหาสน์คาสโตรเซ่นอย่างปลอดภัย
แสงไฟสีเหลืองนวลที่ติดอยู่ตามขอบผนังปูนยังคงให้ความสว่างเหมือนเดิมและมันก็ช่วยให้หล่อนสามารถมองเห็นทางเดินได้ง่ายดายยิ่งขึ้นวรันธารากระชับกระเป๋าเดินทางในมือแน่น เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดภายในอุ้งมือมากมายทั้งๆ ที่อากาศในตอนนี้ไม่ได้ร้อนอบอ้าวเลยสักนิด มันหนาวเหน็บเสียมากกว่า
หล่อนต้องไปจากที่นี่... ต้องรีบไปให้เร็วที่สุด ก่อนที่หน้ากากแห่งคำโกหกจะถูกกระชากออกด้วยมือของเควิน คาสโตรเซ่น ผู้ชายที่ฉลาดล้ำลึกคนนั้น
“อีกนิดเดียว...”
หญิงสาวพึมพำเบาๆ ในลำคออย่างให้กำลังใจตัวเอง ขณะที่สองเท้าก้าวไปข้างหน้าด้วยความรีบเร่ง มือเล็กข้างหนึ่งยกขึ้นจับชายผ้าคลุมหน้าเอาไว้แน่น เมื่ออีกไม่เกินสองร้อยเมตรจะถึงป้อมยามที่มีผู้ชายตัวใหญ่โตถึงสามคนยืนเฝ้าอยู่
“จะรีบไปไหนล่ะครับ... คุณยาย...”
เสียงคุ้นหูแต่แสนจะกระด้างดังอยู่ด้านหลังไม่ไกลนัก เท้าบอบบางของวรันธาราชะงักกึก สรรพางค์กายสั่นเทาราวกับกำลังอยู่ท่ามกลางพายุร้าย
หล่อนจำได้ดี... จำเสียงทุ้มที่เจือเอาไว้ด้วยความเย่อหยิ่งแบบนี้ได้ดี จะเป็นใครไปได้ล่ะถ้าไม่ใช่...
“คุณ... เควิน...” กระเป๋าเดินทางในมือร่วงลงกองกับพื้น พร้อมๆ กับสองเท้าที่ซอยถี่ระรัวเพื่อจะหนีออกไปให้พ้นจากคฤหาสน์หลังงาม แต่มัจจุราชที่ไล่ตามหลังมากลับไม่ยอมให้หล่อนทำได้สำเร็จ
“โอ๊ย... ปล่อย... ปล่อยฉันนะคะ”
ไม่ช้าร่างเล็กของหล่อนที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในคราบของหญิงชราแล้วก็ตกอยู่ในเงื้อมือของเควินในที่สุด
“ปล่อย... ปล่อยสิคะ”
หล่อนดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ และก็พยายามอย่างใหญ่หลวงที่จะซ่อนใบหน้าเอาไว้ใต้ผ้าคลุม
“เกิดอะไรขึ้นหรือครับคุณเคน” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ยินเสียงก็รีบวิ่งเข้ามาสมทบ
“ไม่มีอะไรหรอก พวกนายกลับทำหน้าที่ของตัวเองเถอะ”
“แต่...”
“ทางนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
เมื่อนายจ้างยืนยันหนักแน่น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสามคนจึงจำต้องล่าถอยออกไปและก็ทิ้งให้หล่อนเผชิญหน้ากับจอมมารร้ายอย่างเควิน คาสโตรเซ่นตามลำพัง
“ทีนี้ก็ถึงเวลากระชากหน้ากากแล้วล่ะ”
“คุณพูดบ้าอะไร ปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ”
เขาปล่อยจริงๆ นั่นแหละ แต่ปล่อยหล่อนให้หงายหลังลงกับพื้นอิฐ มือของหล่อนก็มัวแต่พะวงอยู่กับการรับน้ำหนักตัวเอง ทำให้ปล่อยผ้าคลุมหน้าหลุดร่วงไปโดยไม่ทันระวัง และแน่นอนว่าเควินได้เห็นหน้าตาที่แท้จริงของหล่อนอย่างชัดเจน
“นึกเอาไว้แล้วเชียว ว่ามันต้องเป็นแบบนี้”
วรันธาราหน้าซีดเผือด ตอนนี้ความลับไม่เหลืออะไรให้ผู้ชายตรงหน้าค้นหาอีกแล้ว เพราะเขาเห็นทุกอย่าง
“ฉัน... ฉัน...”
กรามแกร่งสีเขียวที่มีไรหนวดขึ้นสวยงามขบกันแน่น ดวงตาคมกริบที่เคยเป็นสีน้ำเงินอมดำยามนี้ลุกเป็นไฟ
เขากำลังโกรธ กำลังเดือดดาลสุดขีด
“คุณเป็นใครกันแน่?!”
“ฉัน...” วรันธาราไม่เคยหวาดกลัวสิ่งใดเท่าอารมณ์ของเควินมาก่อนเลย หล่อนตัวสั่น ลมแทบจับ
“ฉัน... ฉันขอโทษ ฉัน... ขอโทษ...” หล่อนพยายามยกมือไหว้วิงวอนเขา แต่เขาไม่ให้มันกับหล่อนเลย
“ผมถาม หูแตกหรือไง คุณเป็นใคร?!”
“ฉัน... ฉันอยากได้งานทำ ก็เลย... ก็เลย...”
หล่อนรู้ว่าเขาเกลียดนักข่าวมาก หล่อนจึงไม่อาจจะบอกความจริงออกไปได้ แต่กระนั้นก็ไม่อาจจะปกปิดเขาได้นาน เมื่อไม่ช้าเควินก็กระชากร่างของหล่อนให้ลุกขึ้นยืนเผชิญหน้า พร้อมกับคลำร่างกายของหล่อนเพื่อหาโทรศัพท์มือถือ และแน่นอนว่าเขาเจอมัน
“อย่า... เอาคืนมานะ”
“คิดว่าผมจะโง่ ขนาดยอมให้คุณเข้ามาหลอกถึงถิ่นได้ง่ายๆ หรือ แม่นักข่าวคนสวย...”
“คุณรู้...?!”
ใบหน้าของเควินมีรอยยิ้มหยัน แต่ดวงตาของเขายังลุกเป็นไฟเหมือนเดิม
เขากำลังโกรธจัด!
“ก็แค่สันนิษฐาน แต่การเช็คโทรศัพท์ของคุณ จะทำให้ผมรู้ความจริงทุกอย่าง จริงไหม”
ความคิดเห็น