คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : ตอนที่ 17-2
ซีรี่ย์ชุด เทพบุตรมาเฟีย:เมียเก็บมาเฟีย
ตอนที่ 17 (ต่อ)
เสียงเคาะประตูห้องแรงๆทำให้ยาหยีที่กำลังนั่งเปิดหนังสือไปมาอย่างคนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสะดุ้งโหยงสาวน้อยหันไปมองรอบๆห้องเพื่อหาลินดาแต่ก็ไม่พบจึงปิดหนังสือที่อ่านมาตั้งชั่วโมงหนึ่งแล้วก็ยังอยู่หน้าเดิมลงวางกับโต๊ะจากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูห้อง
“ใครกันนะไม่มีมารยาทเลยเคาะอยู่ได้”
อดบ่นกับพฤติกรรมของคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งประตูไม่ได้เคาะเอาๆไม่เกรงใจคนอื่นบ้างเลยมือบางกำลูกบิดแล้วก็กระชากมันออกแรงๆกำลังจะเปิดปากต่อว่าแต่ปากก็มีอันต้องค้างเติ่งคำพูดเจ็บๆที่คิดเอาไว้ไหลกลับลงคอไปจนหมดเมื่อคนไร้มารยาทตรงหน้าคือคอร์เนล!
“คอร์เนล!”
ความตกใจทำเอาหล่อนยืนอึ้งกิมกี่อึ้งจนไม่รู้แม้กระทั่งว่าคนตัวโตเดินผ่านประตูเข้ามายืนอยู่กลางห้องตั้งแต่ตอนไหนมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เห็นเขานั่งบนเตียงนอนแคบๆของหล่อนนั่นแหละ
“คุณมาทำไม?”
ปิดประตูเพราะไม่อยากเป็นเป้าสายตาของเพื่อนข้างห้องก่อนจะเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าชายหนุ่มคอร์เนลไหวไหล่ทรงพลังของตัวเองน้อยๆ
“เพื่อนของคุณโทรไปบอกผมว่าคุณโศกเศร้ามากที่ผมไม่มารับ”
“ไม่จริง!และก็กลับไปได้แล้วด้วยไปสิ”
ยาหยีชี้นิ้วไล่ด้วยความขัดเคืองแต่คนถูกไล่กลับดันไม่สะทกสะท้านแม้แต่นิดเดียวแถมยังส่งรอยยิ้มเหยียดหยันใส่หน้าของหล่อนอีกต่างหากแน่ะ
“ออกไปนะ!”
“งั้นเพื่อนของคุณก็โกหกน่ะสิอย่างนี้ผมคงต้องให้คนมาลากไปตัดแขนตัดขาสักหน่อยโทษฐานโกหกมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่”
คำพูดทีเล่นทีจริงของคอร์เนลทำเอายาหยีเบิกตาค้างด้วยความตื่นตกใจซึ่งตรงข้ามกับชายหนุ่มที่แทบจะกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ไม่อยากจะเชื่อว่าแม่สาวน้อยตรงหน้าจะหลอกง่ายหลอกดายแบบนี้
“แล้วนี่หายไปล่ะผมจะได้ให้คนมาลากตัวไป”
“อย่านะอย่าทำอะไรลินดานะ” ยาหยีร้องห้ามเสียงเครือขณะยื่นมือเข้ามาจับต้นแขนของชายหนุ่มเอาไว้อย่างอ้อนวอน
“ได้โปรดอย่าทำลินดานะคอร์เนลได้โปรดเห็นแก่ฉันเถอะ”
คนตัวโตซ่อนยิ้มแกล้งแกะมือนุ่มออกจากแขนตัวเองจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนเดินไปหยุดมองออกไปนอกหน้าต่างห้องยาหยีรีบเดินตามไปหยุดอยู่ข้างหลังทันที
“แต่เพื่อนของคุณโกหกผมผมเป็นมาเฟียจะปล่อยให้ใครมาลูบคมไม่ได้หรอก”
“ก็ไหนเชอรี่บอกว่าคุณไม่ได้เป็นมาเฟียไงคะ”
“ในสายตาของคุณผมเป็นมาเฟียตลอดเวลาไม่ใช่หรือผมก็เป็นแล้วนี่ไงจะตัดแขนตัดขาแม่ลินดาแล้วใส่กล่องพัสดุมาให้คุณเป็นของขวัญวันปีใหม่ก็แล้วกัน”
คอร์เนลทำท่าจะเดินออกไปจากห้องยาหยีไม่มีทางเลือกอื่นใดจึงต้องโผเข้ากอดรัดร่างกำยำเอาไว้เพราะรู้ว่านี่คือวิธีเดียวที่จะหยุดยั้งชายหนุ่มได้
“ได้โปรดอย่าทำอะไรลินดาเลยลินดาอาจจะหวังดี...”
“หวังดี?”
นิ้วแกร่งเชยคางมนให้เงยขึ้นประสานสายตากับตัวเอง
“เพื่อนคุณหวังดียังไงไหนลองบอกผมให้เข้าใจหน่อยสิ”
ยาหยีกัดปากแน่นจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีเขียวเข้มดุจมรกตเนื้อดีและก็เหมือนถูกดูดให้หลุดหลงเข้าไปภายในนั้น
“ฉัน...”
“คุณทำไม?”
“ฉัน...เอ่อ...” รอแล้วรอเล่าแม่ยาหยีคนดีก็ยังไม่พูดออกมาสักทีคอร์เนลจึงคำรามออกมาอย่างสิ้นสุดความอดทน
“ถ้าไม่พูดคราวนี้นะผมไม่ฟังแล้วด้วยและคุณก็คงรู้นะว่าจะได้อะไรเป็นของขวัญจากผม”
‘แขนขาลินดาใช่ไหม?ไม่ได้หล่อนปล่อยให้ลินดาต้องมารับเคราะห์กรรมแบบนี้ไม่ได้ลินดาแค่หวังดีเพื่อนของหล่อนแค่หวังดีเท่านั้นเอง’
“ฉันคิดถึงคุณจริงๆแล้วก็ร้องไห้จนตาบวมลินดาคงเห็นเลยสงสารก็เลยโทรไปหาคุณ”
ในที่สุดก็สามารถกัดฟันพูดออกไปได้จนจบประโยคอับอายจนใบหน้าร้อนผ่าวแทบลุกเป็นไฟจนต้องก้มหน้าหลบตาคมกริบและความขัดเขินนี้ก็ทำให้หล่อนไม่ทันสังเกตเห็นว่ามือใหญ่ของคอร์เนลที่เคยทิ้งอยู่ข้างกายนั้นตอนนี้ยกขึ้นมาสวมกอดร่างของหล่อนเอาไว้อย่างแน่นหนา
“ขอร้องอย่าทำอะไรลินดาเลยนะคะลินดาไม่ได้โกหก”
“คุณคิดถึงผมจนร้องไห้จริงๆหรือ”
คอร์เนลถามย้ำเสียงนุ่มนวลขณะใช้ความสามารถส่วนตัวดันร่างอรชรให้ถอยหลังตรงไปยังเตียงนอนขนาดสามฟุตครึ่งที่อยู่ไม่ไกลนักอย่างง่ายดาย
“ฉัน...เอ่อ...ฉัน...แค่รู้สึกอ้างว้างเท่านั้นเอง”
“รักผมหรือเปล่า”
คำพูดนี้ทำให้ยาหยีถึงกับเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาเบิกกว้างกลีบปากเผยอแย้มเย้ายวนชวนให้ขยี้เหลือเกิน
“เอ่อ...”
“รักผมหรือเปล่า”
‘รักสิคะรักมากด้วย’
สาวน้อยร้องตอบคนตัวโตภายในใจแต่ข้างนอกใจหล่อนไม่อาจจะตอบเช่นนี้ออกไปได้หล่อนไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดรักเขาด้วยซ้ำไป
“อีตัวไม่มีสิทธิ์หลงรักนายจ้างหรอกค่ะ”
“แล้วถ้าผมให้สิทธิ์นั้นล่ะคุณจะรับมันไว้หรือเปล่า”
‘นี่เขากำลังล้อเล่นอะไรกับหล่อนหรือเปล่าเขากำลังจะปั่นหัวอะไรหล่อนหรือเปล่าก็ไหนเขาบอกว่าหากหล่อนหลงรักเขาเมื่อไรก็มีแต่หล่อนเท่านั้นแหละที่จะเจ็บปวดแต่นี่...เขากำลังเชิญชวนให้หล่อนบอกรักเขาเสียอย่างนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันนะ?’
ความคิดเห็น