ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียเก็บมาเฟีย ซีรี่ย์ชุด เทพบุตรมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 3-1

    • อัปเดตล่าสุด 27 มี.ค. 59


    ถ้าไม่อยากให้พ่อของคุณหยุดหายใจ ก็เดินออกมาจากหอเงียบๆ รถสีดำทะเบียน ตร 9999 จอดรออยู่หน้ามหาวิทยาลัย

     

    ยาหยีขยุ้มกระดาษแผ่นเล็กๆ แน่น ใบหน้างามซีดเผือดจนลินดาที่กำลังยืนดื่มน้ำอยู่ข้างๆ ต้องเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

    “ทำไมหน้าซีดจังเลยลูกหยี ไหนดูสิจดหมายเขียนว่าอะไร”

    ยาหยีเบี่ยงตัวหลบลินดาที่พยายามจะแย่งจดหมายในมือไปอ่านอย่างสุดความสามารถ เพราะมั่นใจดีว่าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป บิดาของตัวเองอาจจะไม่ปลอดภัย

    นี่ใช่ไหมคือสิ่งที่พ่อของหล่อนหวาดกลัว นี่ใช่ไหมคือสิ่งที่ท่านสั่งให้หล่อนหนี แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น

    “ไม่มีอะไรหรอกลินดา แค่จดหมายขอความรักเท่านั้น”

    ลินดาหรี่ตามองด้วยความไม่เชื่อ เพราะเพื่อนของหล่อนคนนี้โกหกเก่งที่ไหนกันล่ะ

    “ถ้างั้นขอดูหน่อยสิ อย่าหวงไปหน่อยเลยน่า”

    “ฉันอายน่ะลินดา เอ่อ...เดี๋ยวเธอขึ้นไปบนหอพักก่อนนะ ฉันมีธุระนิดหน่อย”

    ยาหยีตัดบท ในใจกระวนกระวายยิ่งนักด้วยนึกเป็นห่วงสวัสดิภาพของบิดา แม้จะไม่รู้ว่าเจ้าของจดหมายเป็นใคร แต่หล่อนก็ต้องเสี่ยง หล่อนยอมปล่อยให้บิดามีอันตรายไม่ได้

    “ธุระ? คนอย่างเธอเนี่ยนะมีธุระ ไม่อยากจะเชื่อ ร้อยวันพันปีไม่เคยไปไหนกับเขาสักที มันแปลกๆ นะพฤติกรรมของเธอน่ะ หรือว่าแอบมีกิ๊กกันยะยายลูกหยี”

    ด้วยความทุกข์ใจทำให้ยาหยีไม่มีกะจิตกะใจจะปฏิเสธหรืออธิบายใดๆ กับลินดาอีก หญิงสาวพยักพเยิดหน้าส่งเดช และนั่นก็ทำให้ลินดาถึงกับห่อปาก ตาโตเท่าไข่ห่าน

    “นี่เธอแอบซุกกิ๊กไว้จริงๆ เหรอ โอ้...ไม่น่าเชื่อว่าจะรอดพ้นสายตาของฉันไปได้ เธอนี่เก็บได้เงียบเชียบจริงๆ เลยนะยายลูกหยี” ลินดาทำสุ้มเสียงเหลือเชื่อ ก่อนจะโบกไม้โบกมือให้เพื่อนรักรีบไปตามนัด

    “ไปเถอะ แล้วอย่าลืมพามาแนะนำให้ฉันรู้จักบ้างล่ะ”

    ยาหยีถอนใจออกมาด้วยความเครียด พยักหน้ารับส่งๆ ออกไป

    “อืม...ฉันอาจจะกลับค่ำสักหน่อย แต่รับรองไม่เกินสี่ทุ่มเวลาที่หอปิดแน่นอน”

    “ไม่ต้องรีบกลับก็ได้แม่คุณ บางทีกิ๊กของเธออาจจะอยากให้เธออยู่ถึงเช้าก็ได้ ว่าแต่มาเรียนให้ไหวก็แล้วกันนะ”

    ลินดายิ้มกว้าง จ้องหน้ายาหยีด้วยสายตาล้อเลียน ก่อนที่แม่คุณจะเดินฮัมเพลงขึ้นบันไดหอพักไป ยาหยีเป่าลมออกจากปากหนักๆ ขณะคลี่กระดาษที่ตัวเองขยำจนยับยู่ยี่ออกมาอ่านอีกครั้ง สมองหวาดหวั่นต่อความปลอดภัยของบิดาเหลือเกิน

    “พ่ออย่าพึ่งเป็นอะไรไปนะคะ ลูกหยีกำลังจะไปช่วยพ่อ”

    สาวน้อยรีบจ้ำอ้าวออกไปยังหน้าหอพัก กวาดตามองหารถสีดำที่ตัวเองท่องจำทะเบียนรถมาในสมองจนขึ้นใจ และเพียงเดินพ้นออกมาจากหน้ามหาวิทยาลัย สายตาของหล่อนก็ปะทะเข้ากับรถสีดำคันยาวเฟื้อยคันหนึ่งที่จอดนิ่งอยู่ด้านซ้ายมือ สาวน้อยรีบขยับเดินเข้าไปหยุดใกล้ๆ แล้วก็ต้องยกมือขึ้นปิดปากเมื่อเห็นทะเบียนของเจ้ารถคันยาวตรงหน้าถนัดถนี่

    ตร 9999 ทะเบียนรถสวยๆ แบบนี้คงไม่มีทางซ้ำกันแน่

    ยาหยียืนนิ่งงัน ตัวแข็ง เท้าตาย จ้องมองประตูรถที่ถูกเปิดออกด้วยสายตาตื่นตระหนก ผู้ชายที่นั่งหน้าคู่กับคนขับก้าวลงมาจากรถและเดินตรงเข้ามาหาหล่อน

    “เชิญครับ คุณยาหยี โรจน์มหามงคล”

    “จะพาฉันไปไหนคะ”

    คำพูดของหล่อนคงตลกมาก ผู้ชายในชุดสูทสีดำทะมึนตรงหน้าถึงได้ระบายยิ้มออกมา

    “ขึ้นรถเถอะครับ นายน้อยรอคุณอยู่”

    “นายน้อย?” สาวน้อยทวนคำพูดของคู่สนทนาด้วยความประหลาดใจ

    “คุณจะได้คำตอบทุกอย่าง ถ้าคุณได้พบกับนายน้อย เชิญครับ”

    ผู้ชายตรงหน้าของหล่อนผายมือเชื้อเชิญอีกครั้ง ก่อนจะเดินนำไปที่รถคันงาม ผู้ชายคนนั้นก้มศีรษะคล้ายกับแสดงความเคารพเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูในส่วนของห้องผู้โดยสารออก และหันมาหาหล่อน

    “ขึ้นรถเถอะครับ”

    ยาหยีไม่มีทางเลือกใดๆ อีก หล่อนจำเป็นต้องเสี่ยง ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เรื่องราวใดๆ แน่ชัดนัก แต่ชื่อของบิดาทำให้หล่อนหมดทางเลือก

    เมื่อก้าวขึ้นมานั่งบนรถคันงามหรูหรา หญิงสาวจึงได้รู้ว่าไม่ได้มีแค่หล่อนคนเดียวในห้องโดยสารนี้ ผู้ชายคนหนึ่งนั่งเอนกายพิงกับเบาะรถด้วยท่าทางผ่อนคลาย ความมืดสลัวที่เกิดจากดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าและฟิล์มสีดำสนิททำให้หล่อนมองหน้าผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างกายไม่ถนัดนัก

    แต่...กลิ่นหอมจางๆ จากร่างกายของคนนั่งใกล้ๆ กลับทำให้สมองของหล่อนนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเช้าที่ผ่านมา หล่อนก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ แบบนี้จากตัวของผู้ชายนัยน์ตาสีเขียวจัดคนนั้นเช่นกัน หล่อนจำกลิ่นนี้ได้ดีทีเดียว เพราะมันไม่ใช่กลิ่นหอมธรรมดา แต่มันเป็นกลิ่นกายของนักล่าผู้เก่งฉกาจ นักล่าที่เตรียมพร้อมจะขย้ำเหยื่อผู้น่าสงสาร นักล่าที่แสนอันตรายยิ่งสำหรับหัวใจของสตรี

    “คุณคือผู้ชายเมื่อเช้าใช่ไหมคะ” แม้จะพยายามบังคับเสียงให้ราบเรียบยังไง แต่มันก็ยังสั่นไหวจนอดสมเพชตัวเองไม่ได้

    “เก่งนี่ ที่จำผมได้” อยู่ๆ ไฟก็สว่างไสวขึ้นมาในพริบตา และสิ่งที่เห็นตรงหน้าก็ตอกย้ำความคิดของหล่อนได้เป็นอย่างดี

    ใช่...ผู้ชายตาดุคนนั้นจริงๆ ด้วย

    “คุณ...”

    ริมฝีปากสุดเซ็กซี่ของผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ คลี่ออกน้อยๆ ดวงตาสีเขียวจัดจับจ้องมาที่ใบหน้าของหล่อนเขม็ง

    “ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง ยาหยี โรจน์มหามงคล”

    เขาเรียกหล่อนเต็มยศเลยทีเดียว จำได้ว่าเมื่อเช้าที่พบกันเขาก็เรียกหล่อนแบบนี้ นี่เขารู้จักหล่อนได้ยังไงกันนะ หรือว่าผู้ชายคนนี้คือเจ้าของจดหมายข่มขู่ฉบับนั้น ความคิดนี้ทำให้หญิงสาวขยับถอยห่างจนแทบจะหลุดเข้าไปอยู่ในร่องประตู

    “คุณเป็นเจ้าของจดหมายนั้นใช่ไหมคะ”

    คอร์เนลเหยียดยิ้มหยัน

    “ถูกต้อง ผมเป็นคนสั่งให้ลูกน้องเขียนมันขึ้นมาเอง และคุณก็ใจกล้าพอที่จะก้าวขึ้นมาบนรถกับผม”

    ลำคอสาวแห้งผากเมื่อได้สบกับดวงตาเหี้ยมเกรียมของบุรุษสุดหล่อข้างกาย ความหวาดหวั่นเต้นเร่าอยู่ในกระแสเลือด แม้เขาจะหล่อ แม้เขาจะมีอำนาจอย่างรุนแรงต่อร่างกายและหัวใจของหล่อน แต่เขาก็ได้ชื่อว่าเป็นคนไม่ดี...คนที่กำลังจะทำร้ายพ่อของหล่อน

    “พ่อฉัน...พ่อของฉันอยู่ไหน”

    ยาหยีกัดปากแน่น ไม่ชอบเสียงหัวเราะของเขาเลยให้ตายสิ มันน่ากลัวจนหล่อนแทบเป็นลม มือบางที่กุมกันไว้เย็นเฉียบ เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามไรผม

    “เราจะคุยกันเมื่อถึงบ้านของผม...ซึ่งก็อีกไม่ไกล”

    และทุกอย่างก็เงียบกริบลง ยาหยีกัดปากแน่นเพื่อข่มความหวาดกลัวในอกเอาไว้สุดกำลัง ผู้ชายหน้าตาดีคนนี้น่ะเหรอที่พ่อของหล่อนหวาดกลัว สาวน้อยถอนใจออกมา ความเครียดบีบเกร็งอยู่ภายในจนสมองแทบจะระเบิดออกมา

    ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตอนนี้หล่อนกำลังตกอยู่ในเงื้อมมือของมัจจุราชที่หล่อที่สุดในสามโลก หญิงสาวคร่ำครวญอยู่ในอกด้วยความทุกข์ใจ สมองไม่สั่งการอีกเลยจนกระทั่งรถคันงามที่นั่งอยู่จอดสนิทลงนั่นแหละ หล่อนถึงรู้สึกตัว

    ประตูฝั่งของหล่อนถูกเปิดออกจากด้านนอก ผู้ชายคนเดิมที่ลงไปคุยกับหล่อนที่หน้ามหาวิทยาลัยกล่าวเชื้อเชิญด้วยท่าทางสุภาพ

    “เชิญครับ”

    แม้จะหวาดกลัวผู้ชายสุดหล่อที่นั่งข้างๆ ยิ่งนัก แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุอันใดหล่อนถึงห้ามสายตาของตัวเองไม่ให้หันไปมองพ่อคนร่างยักษ์ไม่ได้เลย แล้วแก้มก็ต้องแดงก่ำเมื่อพบว่าเขากำลังจ้องมองมาที่หล่อนเช่นกัน และด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหิวกระหายที่เจ้าตัวปกปิดเอาไว้ไม่ทันอีกต่างหาก

    ยาหยีตัวสั่นเทามากกว่าเดิมหลายร้อยเท่า รีบลนลานก้าวลงจากรถอย่างรวดเร็ว แล้วก็ต้องอ้าปากค้างเป็นรอบที่สองเมื่อได้เห็นสิ่งก่อสร้างเบื้องหน้า

    คฤหาสน์...ไม่...มันน่าจะเป็นวังของพวกเจ้าชายมากกว่า สวยงาม หรูหรา และใหญ่โต บ่งบอกฐานะของเจ้าของได้เป็นอย่างดี...ตำแหน่งอภิมหาเศรษฐี

    “เข้าไปข้างในสิ”

    น้ำเสียงราบเรียบของผู้ชายที่หล่อนไม่อยากจะสบตาเลยดังขึ้นใกล้ๆ หญิงสาวรีบรวบรวมสติก้าวตามคนตัวโตเข้าไปข้างในทันที และก็แทบอยากจะวิ่งหนีออกมาซะให้รู้แล้วรู้รอดเมื่อพบว่าตัวเองต่ำต้อยยิ่งกว่าเจ้าหนูสกปรกเสียอีกเมื่อเทียบกับความหรูหราของคฤหาสน์หลังนี้

    ห้องรับแขกที่ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงระยับเบื้องหน้าทำให้หล่อนแทบไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปยืนอยู่ภายในนั้น ก็ดูสิ แม้กระทั่งพรมปูพื้นสีสวยที่ตัวเองเหยียบย่ำอยู่ก็ยังดูมีราคาค่างวดมากกว่าเนื้อตัวของหล่อนด้วยซ้ำไป

    ทุกสิ่งทุกอย่างในคฤหาสน์หลังงามนี้ดูมีราคาสูงไปซะหมดทุกอย่าง มันดูแพงระยับจนหล่อนไม่กล้าแม้แต่จะทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวใกล้ๆ เพราะกลัวว่ามันจะเลอะคราบคนจนของตัวเอง สาวน้อยถอนใจออกมาแรงๆ ตั้งใจจะหันไปพูดกับพ่อคนร่างยักษ์ แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะผู้ชายคนนั้นอันตรธานหายไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้

    “จะไปก็ไม่บอกสักคำ คนบ้า”

    หญิงสาวบ่นอุบด้วยความไม่พอใจ กำลังจะเดินเลี่ยงออกไปยังประตูกระจกที่เชื่อมกับระเบียงไม้ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อหูได้ยินเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง ยาหยีหันไปมองตามเสียงเรียก แล้วก็พบกับแม่บ้านวัยกลางคนคนหนึ่งเดินมาหยุดที่กลางห้อง

    “นายน้อยให้มาเชิญคุณขึ้นไปพบค่ะ”

    “ที่ไหนคะ?” ความหวาดหวั่นระลอกใหม่พุ่งขึ้นมาอีกแล้ว

    “ห้องทำงานค่ะ ตามดิฉันมา”

    แม่บ้านในชุดฟอร์มเรียบร้อยเดินนำหล่อนขึ้นมาบนบันไดโค้งที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องสีสันสวยสดเล่นลายลวดอย่างประณีต สาวน้อยห่อปากอีกครั้งด้วยความทึ่งจัดเมื่อแสงวาบวับของราวบันไดที่ทำด้วยทองเหลืองสะท้อนเข้ามาในดวงตา ดูสวยงามราวกับกำลังอยู่บนสวรรค์ยังไงยังงั้น

    และเพียงไม่นานหล่อนก็มาหยุดอยู่หน้าประตูไม้แกะสลักบานใหญ่ แม่บ้านวัยกลางคนยกมือขึ้นเคาะประตูเบาๆ

    “นายน้อยคะ เธอมาแล้วค่ะ”

    “ให้เข้ามาได้”

    เสียงห้วนจัดแต่กระนั้นก็ทุ้มหูได้อย่างไม่น่าเชื่อดังขึ้นหลังบานประตูใหญ่ ยาหยีกัดปากแน่นเพื่อข่มความหวาดกลัวเอาไว้

    หล่อนจะต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อหว่านล้อมให้เขาล้มเลิกความคิดที่จะทำร้ายบิดาให้จงได้ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม

    ประตูถูกเปิดออก และแม่บ้านคนนั้นก็ผายมือเชิญหล่อนเข้าไปข้างใน

    “เชิญค่ะ”

    หญิงสาวหมดทางเลือก จำต้องก้าวเข้าไปภายในห้องทำงานใหญ่โตของมัจจุราชผู้หล่อเหลาคนนั้น ประตูถูกปิดลงอีกครั้ง และคราวนี้หล่อนก็ได้เผชิญหน้ากับผู้ชายตาดุตามลำพังอีกครา

    “นั่งก่อนสิ”

    คนตัวโตที่ยืนมองออกไปนอกหน้าต่างเอ่ยขึ้นเสียงเรียบๆ แต่กระนั้นมันก็สามารถทำให้กายสาวไร้เรี่ยวแรงได้อย่างน่าใจหาย จนหล่อนต้องรีบเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มราคาแพงระยับตามคำเชื้อเชิญของพ่อคนตาดุอย่างไม่มีทางเลือก

    “ฉันอยากรู้ว่าคุณทำอะไรพ่อของฉัน”

    เมื่อสามารถหายใจได้ปกติแล้ว ยาหยีก็เริ่มต้นเจรจาทันทีโดยไม่คิดจะรอเวลาใดๆ อีก และก็รู้ว่าตัวเองพลาดไปถนัดตาเมื่อเขาหันกลับมาหาประสานสายตาด้วยตรงๆ

    พลันนั้นโลกทั้งใบของหล่อนก็หยุดหมุน ลมหายใจติดแหง็กอยู่แค่ลำคอ กายสาวร้อนผ่าวราวกับถูกสายฟ้าฟาดเข้าใส่ หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งเลิกจากการวิ่งมาราธอนมา รู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดทางเพศที่มีต่อกันชัดเจนเต็มหัวใจ เขาหล่อ หล่อจนคนมองอย่างหล่อนแทบลืมหายใจ

    “ใจเย็นสิสาวน้อย”

    เขาเคลื่อนกายเข้ามาหยุดยืนค้ำศีรษะอยู่เบื้องหน้า แสงไฟจากโคมไฟระย้าบนเพดานห้องที่ส่องกระทบลงมานั้นยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับเขาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

    เขานี่แหละคือเทพบุตรในฝันของสาวๆ ตัวจริง

    สาวน้อยคิดอย่างวิงเวียน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองจะมีความรู้สึกโหยหาต่อผู้ชายตรงหน้ารุนแรงถึงเพียงนี้ ยาหยีพยายามข่มความคิดน่าละอายใจเอาไว้ในอก ก่อนจะแข็งใจเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาอีกครั้ง

    “เชิญพูดธุระของคุณมา ฉันต้องรีบกลับหอ”

    คอร์เนลหัวเราะหึๆ ในลำคอคล้ายกับกำลังถูกใจอะไรสักอย่าง ขณะทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวตรงหน้าของหญิงสาว สายตาคมกริบมองสำรวจร่างอรชรในชุดนักศึกษาสีขาวสะอาดด้วยความพึงพอใจแบบบุรุษเพศแท้ๆ

    “จะรีบกลับไปทำไมล่ะ ไม่ห่วงพ่อของตัวเองแล้วหรือ”

    แน่นอนคำพูดนี้ของเขาช่วยหยุดทุกความระแวดระวังในใจของยาหยีได้ทั้งหมด ดูสิ ยามเจ้าหล่อนทำหน้าตาตื่นตกใจแบบนี้ก็ยิ่งดูสวยงามไปอีกแบบ

    น่ารักน่ามอง แล้วก็น่า...

    คอร์เนลหยุดความคิดนั้นเอาไว้เพียงแค่ในใจ กัดฟันข่มเจ้าความปรารถนาจะกระชากร่างอรชรนั้นเข้ามาฟัดให้หายคลั่งเอาไว้สุดความสามารถ แปลกใจเหลือเกินที่ตัวเองเกิดความรู้สึกหิวกระหายขึ้นมารุนแรงถึงเพียงนี้ ตั้งแต่แรกเห็นเจ้าหล่อนที่หน้าหอพักนักศึกษาเมื่อเช้านี้แล้ว

    ชายหนุ่มกัดฟันข่มเจ้าความรู้สึกระยำนั้นเอาไว้เต็มที่ เขาไม่มีทางจะตกบ่วงสวาทของผู้หญิงคนไหนหรอก และยิ่งเป็นลูกสาวของไอ้คนทรยศอย่างแม่สาวตรงหน้าด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เขาคงแค่อยากจะเปลี่ยนรสชาติบนเตียงจากสาวยุโรปมาเป็นสาวเอเชียกระมัง

    “พ่อของฉันล่ะ คุณคงไม่ได้ทำอะไรท่านใช่ไหม”

    “ถ้าคุณขัดใจ ก็ไม่แน่”

    ทั้งๆ ที่ตอนแรกตั้งใจจะใช้ผู้หญิงคนนี้ล่อให้ไอ้คนทรยศมันมาติดกับเท่านั้น แต่ทำไมเขาถึงอยากได้เจ้าหล่อนบนเตียงนอนด้วยล่ะ

    “คุณหมายความว่ายังไงคะ”

    หล่อนไม่ชอบเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความเหี้ยมโหดแบบนี้ของผู้ชายตรงหน้าเลย ยาหยีคิดด้วยความหวาดหวั่น มองหนุ่มหล่อตรงหน้าด้วยความหวาดระแวง

    คอร์เนลขยับตัวพิงกับพนักโซฟา ยกขากำยำขึ้นตวัดไขว้ทับกับขาอีกข้างด้วยท่าสบายๆ หญิงสาวเม้มปากแน่นขณะที่สายตามองตามลำขาเพรียวที่ซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงขายาวสีดำเนื้อดีด้วยท่าทางชื่นชมจนปิดไม่มิด

    เขาดูดีไปทั้งเนื้อทั้งตัว และทุกอิริยาบถ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเสื้อผ้าจะทำให้คนๆ หนึ่งดูสมบูรณ์แบบได้มากถึงเพียงนี้ แต่ผู้ชายคนนี้จำเป็นต้องพึ่งเสื้อผ้าเหรอ ความหล่อเหลาของเขาสะท้อนออกมาอย่างแรงกล้าทั้งๆ ที่ไม่ต้องอาศัยเสื้อผ้าราคาแพงพวกนี้ด้วยซ้ำ

    ผู้ชายตรงหน้าทั้งหล่อเหลาและก็ดูอันตรายในเวลาเดียวกัน

    “พ่อของคุณขโมยเพชรของผมไป ซึ่งมันมีความสำคัญกับผมมาก”

    “ไม่จริง! ฉันไม่มีวันเชื่อคำพูดของคุณหรอก คุณใส่ร้ายพ่อของฉัน พ่อของฉันไม่ใช่ขโมยและไม่มีวันเป็นด้วย พ่อทำงานสุจริต”

    สาวน้อยเถียงออกมาโดยแทบไม่ต้องคิด แน่นอน หล่อนเชื่อว่าพ่อของหล่อนไม่มีทางเป็นขโมยไปได้ ถึงแม้ว่าท่าทางของบิดาเมื่อหลายวันก่อนจะมีพิรุธมากมายก็ตามที

    “จะโกหกผมหรือว่าบัญชีของคุณไม่มีเงินเข้ามาเป็นจำนวนมาก”

    ยาหยีหน้าซีดเผือดกับสิ่งที่ได้ยิน ใช่...บัญชีของหล่อนมีเงินเข้ามามากมายถึงสิบล้านบาท แต่ถึงยังไงหล่อนก็ยังไม่มีทางเชื่อว่าบิดาของตัวเองเป็นขโมย พ่ออาจจะได้โบนัสจริงๆ อย่างที่พูดก็ได้

    “พ่อบอกว่าเป็นโบนัส เจ้านายใจดีเลยให้หลายเดือน”

    คอร์เนลเค้นเสียงหัวเราะออกมา จ้องหน้าสาวน้อยตรงหน้าเขม็ง

    “ผมคงลืมแนะนำตัวเองไปสินะ ผมคอร์เนส ซีร์ยานอฟ เจ้านายของพ่อคุณไง”

    คราวนี้คนฟังถึงกับอ้าปากค้าง พูดไม่ออกเอาซะดื้อๆ หล่อนจำได้ จำได้ดีเสมอว่าคนที่พ่อของหล่อนไปทำงานด้วยนั้นชื่ออะไร คอร์เนล ซีร์ยานอฟ ลูกชายของอดีตมาเฟียในกรุงมอสโก และถึงแม้ว่าเขาจะประกาศตัวว่าชัดเจนว่าไม่ใช่ มาเฟีย อีกแล้ว แต่หล่อนมั่นใจพันเปอร์เซ็นต์เลยว่านายคอร์เนล ซีร์ยานอฟคนนี้จะต้องเหี้ยมโหดไม่แพ้ผู้เป็นพ่อของตัวเองอย่างแน่นอน หรือบางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เอ๊ะ! ถ้าอย่างนั้น พ่อของหล่อนก็กำลังตกอยู่ในอันตรายสินะ!

    “คอร์เนล ซีร์ยานอฟ...” สาวน้อยเอ่ยชื่อของผู้ชายตรงหน้าอย่างเลื่อนลอย

    “ใช่ ผมคือคอร์เนล ซีร์ยานอฟ คนที่พ่อของคุณขโมยเพชรของผมไปยังไงล่ะ คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมไม่ได้โกหก”

    แม้น้ำเสียงของผู้ชายตรงหน้าจะราบเรียบ แต่หญิงสาวรู้ดีว่าภายใต้ความนิ่งเฉยมันต้องกำลังอัดแน่นไปด้วยไฟโทสะอันแรงกล้าอย่างแน่นอน ก็นัยน์ตาสีเขียวจัดของเขาบอกอย่างนั้น

    “ฉัน...ไม่เชื่อ...”

    “อย่าปฏิเสธความรับผิดชอบไปหน่อยเลยสาวน้อย อยากให้พ่อตายอย่างนั้นหรือ”

    ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะใช้วิธีสกปรกแบบนี้เพื่อให้ได้ผู้หญิงสักคนมาขึ้นเตียง พวกหล่อนยินดีจะกระโดดขึ้นเตียงของเขา ขอเพียงแค่เขากระดิกนิ้วเรียกเท่านั้น แต่ทำไมกับผู้หญิงคนนี้ เขาถึงต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมถึงเพียงนี้นะ ความจริงเขาควรจะจับหล่อนไปขังเอาไว้ และรอให้พ่อของหล่อนเดินเข้ามาติดกับเท่านั้นไม่ใช่หรือ แล้วทำไมเขาถึงไม่ทำล่ะ?

    คอร์เนลร้องถามตัวเองด้วยความข้องใจ แต่ก็ไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้ เพราะสมองที่เคยเฉียบคม ตอนนี้กลับทื่อราวกับมีดเก่าเก็บที่ถูกโยนทิ้ง

    ให้ตายเถอะ ทำไมพออยู่ต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ เขาถึงคิดอะไรไม่ออกเลยนะ สมองวนเวียนอยู่กับเรื่องบนเตียงเพียงอย่างเดียวจนน่าตกใจ

    “อย่าทำพ่อนะ”

    “แล้วทำไมถึงคิดว่าผมจะยอมทำตามสิ่งที่คุณต้องการล่ะ ผมเสียหายมากนะสาวน้อย”

    คนตัวโตพูดเสียงนุ่มนวล ขณะโบกมือไล่สาวใช้ที่นำเครื่องดื่มเข้ามาให้ด้วยท่าทางราวกับพระราชา ยาหยีเม้มปากแน่น มือบางกำเข้าหากันแน่นด้วยความเครียดเขม็ง เสียงหัวเราะของเขาช่างไม่ต่างจากมีดโกนดีๆ นี่เอง

    นี่พ่อของหล่อนทำเรื่องน่าละอายแบบนั้นจริงๆ หรือ สาวน้อยร้องถามตัวเอง แล้วก็ต้องก้มหน้ายอมรับความจริงเมื่อสมองนึกถึงเงินจำนวนสิบล้านในบัญชีของตัวเอง และยังท่าทางลุกลี้ลุกลนของบิดาในวันนั้น

    พ่อทำจริงๆ นั่นแหละ พ่อของหล่อนเป็นหัวขโมยที่ผู้ชายตรงหน้ากำลังต้องการตัว

    ความหวาดกลัวแล่นพล่านเข้ามาจับขั้วหัวใจ กิตติศัพท์ของพวกมาเฟียเหี้ยมโหดแค่ไหนทำไมหล่อนจะไม่รู้ คนพวกนี้มักจะตัดสินกันด้วยกระสุนปืน เห็นชีวิตคนเป็นผักเป็นปลา และที่สำคัญตอนนี้พ่อของหล่อนก็กำลังถูกพวกมาเฟียไล่ล่า

    หล่อนยอมไม่ได้ ยอมให้พ่อของตัวเองตกอยู่ในอันตรายไม่ได้ ไม่ว่าจะต้องทำอะไร แลกด้วยอะไร หล่อนก็จะยอมทำทั้งสิ้น ขอเพียงให้ผู้บังเกิดเกล้าปลอดภัยเท่านั้น

    “คุณต้องการอะไรแลกเปลี่ยนคะ” ในที่สุดยาหยีก็ถามออกไปอย่างไม่มีทางเลือก คนฟังระบายยิ้มพึงพอใจออกมา

    “ถามได้ตรงประเด็นดีนี่สาวน้อย”

    “พูดความต้องการของคุณมาเถอะค่ะ”

    หญิงสาวขยับตัวอย่างอึดอัดเมื่อถูกหนุ่มตาสีเขียวจัดจ้องมองร่างกายของตัวเองราวกับกำลังสำรวจสินค้า

    “คุณไง ผมต้องการคุณบนเตียง”

    นี่ไงสิ่งที่หล่อนกำลังรอฟัง นี่ไงสิ่งที่หล่อนอยากรู้ เขาก็ตอบออกมาแล้วนี่ ทำไมหล่อนถึงไม่ตอบโต้อะไรออกไปล่ะ ทำไมถึงนิ่งงัน อ้าปากค้างอยู่แบบนี้

    “คุณว่ายังไงนะคะ?

    คอร์เนลจ้องมองดวงตาสีดำขลับที่เบิกกว้างด้วยความตกใจอย่างทึ่งจัด มีคนเคยบอกหล่อนหรือเปล่าว่าดวงตาของหล่อนสวยเหลือเกิน สวยเหมือนสายตาของนางกวาง

    “คุณได้ยินไม่ผิดหรอกสาวน้อย ผมต้องการให้คุณมาเป็นผู้หญิงของผม”

    “ผู้หญิงของคุณ?

    คราวนี้ชัดเจนเต็มสองหู สิ่งที่ข้องใจ สิ่งที่สงสัยถูกคำพูดของเขาไขจนกระจ่างแจ้ง หัวใจสาวเต้นแรงแทบหลุดออกมาจากขั้ว เมื่อสมองไม่รักดีดันจินตนาการภาพของตัวเองกับผู้ชายหล่อระเบิดคนนี้บนเตียงในสภาพเปลือยเปล่า

    หนุ่มหล่ออมยิ้มออกมาเมื่อเห็นแก้มของสาวตรงหน้าแดงก่ำ เห็นได้ชัดเจนว่าเจ้าหล่อนกำลังคิดไปไกลแค่ไหน

    “ใช่แล้ว หรือคุณว่ามีอะไรที่มีราคามากกว่าค่าตัวของคุณอีกล่ะ”

    เขากวาดมองร่างกายของหล่อนอย่างไม่คิดจะเกรงใจ ยาหยีโกรธจนหน้าดำหน้าแดง คันไม้คันมืออยากจะฟาดเขาสักตุ้บสองตุ้บ

    “ถ้ามีก็บอกมาได้เลยนะ ผมอาจจะลองพิจารณาดู”

    หญิงสาวกัดฟันมองความโอหังของบุรุษรูปหล่อตรงหน้า

    “เงิน...”

    “เงิน?

    คิ้วสีเข้มที่ยาวขนานกับดวงตาคมกริบสีเขียวจัดนั้นเลิกขึ้นน้อยๆ ก่อนจะระบายยิ้มออกมาเมื่อสมองเข้าใจความหมายของคู่สนทนาสาวได้อย่างถ่องแท้

    “อย่าบอกนะว่าจะใช้เงินต่อรองกับผม”

    “มันก็น่าจะได้ผลกับมาเฟียแบบคุณไม่ใช่หรือคะ” แม้จะเกรงกลัวแต่ก็อดจะเหน็บแนมเขาออกไปไม่ได้

    คอร์เนลหัวเราะออกมา หรี่ตามองสตรีตรงหน้าด้วยสายตาเข้มจัด

    “ถ้าผมเป็นมาเฟียจริงๆ พ่อของคุณตายคงตั้งแต่อยู่ในสนามบินกรุงมอสโกแล้วล่ะ”

    คนตัวโตลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปหยุดที่กลางห้อง นัยน์ตาสีเขียวจับจ้องมองมาด้วยสายตาที่คนถูกมองเห็นแล้วแก้มร้อนผ่าวอย่างรุนแรง

    “ผมว่าเงินไม่น่าสนใจเท่ากับเนื้อสาวของคุณหรอกนะ”

    สาวน้อยลุกขึ้นเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ตัวเองคิดว่าเป็นมาเฟียอยู่ตลอดเวลา พลางยื่นข้อเสนอที่คิดว่าดีที่สุดของตนเองให้กับเขา

    “เจ็ดล้านบาท”

    “น้อยไป”

    “สิบล้านบาท”

    หญิงสาวตัดใจนำเงินในบัญชีทั้งหมดออกมาต่อรอง แต่พ่อเทพบุตรสุดหล่อก็ยังส่ายหน้าแสดงอาการไม่พึงพอใจออกมาอีก

    “ถ้าสิบล้านยังน้อยไป แล้วคุณต้องการเท่าไรคะ”

    คอร์เนลยิ้มร้ายกาจ เดินเข้าหาร่างอรชรที่ทำเป็นใจกล้ามาหยุดตรงหน้าของตัวเองด้วยท่าทางคุกคาม

    “แค่เงินในบัญชีของผมในมอสโกที่เดียวก็สามารถถมมหาสมุทรแปซิฟิกได้แล้ว และคุณคิดว่าผมยังจะต้องการเงินจำนวนขี้ปะติ๋วของคุณอีกอย่างนั้นหรือ”

    ยาหยีหน้าซีดเผือด พยายามจะถอยหลังหนีแต่ก็ไม่พ้น ถูกมือใหญ่อบอุ่นของคนตัวโตตวัดรวบเอวคอดเล็กเอาไว้ได้ เขาดึงร่างของหล่อนเข้าไปกอดรัดแน่น และก็บดเบียดท่อนขากำยำเข้าหาอย่างจงใจ สาวน้อยพยายามขัดขืนสุดฤทธิ์

    “ถ้าดิ้นแบบนี้ วันนี้ผมคงไม่ปล่อยคุณไป”

    คำเตือนนุ่มๆ จากคอร์เนลทำให้สาวน้อยที่กำลังดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตายหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดลงในทันที พร้อมๆ กับเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาด้วยความขลาดกลัว

    “ฉันจะหาเงินให้ได้มากที่สุด และจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้พ่อคืนของให้คุณ ฉันต้องทำได้แน่เพราะพ่อรักฉันมาก”

    สาวน้อยพูดขึ้นอย่างมีความหวัง แต่แล้วความหวังอันน้อยนิดนั้นก็มีอันต้องอันตรธานหายไปในพริบตาเมื่อได้ยินคำพูดของคอร์เนล

    “ผมยังยืนยันคำเดิม...ผมต้องการคุณบนเตียง”

    คลื่นความร้อนแผ่ซ่านเข้าใส่ช่องท้องอย่างบ้าคลั่งเมื่อได้ฟังคำพูดหิวกระหายที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของผู้ชายตรงหน้า

    “ผมให้เวลาคุณตัดสินใจหนึ่งคืน”

    เขาก้มต่ำลงมาจนปลายจมูกห่างกันแค่เพียงเส้นด้ายลอดผ่าน กลิ่นกายหอมจางๆ ซึ่งเป็นกลิ่นเฉพาะของผู้ชายคนนี้ฟุ้งเข้ามาในจมูกอย่างรุนแรง หล่อนร้อนผ่าว ความหิวโหยบางอย่างพลุ่งพล่านขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

    “ฉันต้องการหนึ่งอาทิตย์” กัดฟันต่อรองออกไป

    “นานไป”

    อ้อมแขนแข็งแกร่งกระชับร่างของหล่อนแน่นขึ้น จนกายสาวแทบจะหลอมละลายรวมกับร่างกายทรงพลังที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นหนั่นของเขาเสียให้ได้ สาวน้อยแก้มร้อนผ่าวเมื่อหน้าท้องสัมผัสกับความปรารถนาอันแรงกล้าของเจ้าของอ้อมกอด

    “รู้ใช่ไหมว่าผมรอนานไม่ได้”

    “อย่า...”

    ยาหยีอุทานออกมาด้วยความตื่นตระหนก เมื่อริมฝีปากเร้าใจบดขยี้ลงมาอย่างรุนแรง ประกาศศักดาความเป็นผู้ชนะในเกมนรกนี้ในทุกการเคลื่อนไหว ลิ้นร้อนผ่าวบุกรุกเข้ามาในอุ้งปากสาวของหล่อนอย่างถือสิทธิ์ ความหิวกระหายของเขาผลักดันให้หล่อนหมดทางต่อสู้ลงอย่างสิ้นเชิง

    ในที่สุดหญิงสาวก็ขยับปากเคลื่อนไหวตามอาจารย์ผู้รอบรู้อย่างคอร์เนลด้วยความกระตือรือร้น และนั่นก็ทำให้คนตัวโตถึงกับครางกระหึ่มออกมาด้วยความพึงพอใจ ความไร้เดียงสาที่เจ้าหล่อนแสดงออกมานั้นช่างกระตุ้นแรงปรารถนาในกายให้กระพือขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ทำเอาเขาแทบอดใจรอให้ถึงคืนพรุ่งนี้ไม่ได้เลย

    หนุ่มหล่อกัดฟันแน่น ข่มกายข่มใจผละออกห่างจากร่างอรชรที่ระทดระทวยอยู่ในอ้อมแขนด้วยความยากลำบาก ไอ้เจ้าความต้องการที่อยากผลักแม่คุณให้นอนหงายลงบนพื้นพรมกลางห้อง หรือไม่ก็บนโซฟานุ่ม แล้วจัดการดื่มกินความสาวซะ ช่างมีอำนาจแรงกล้าเสียจริงๆ

    ให้ตายเถอะ เขาไม่เคยต้องตกอยู่ในสถานการณ์ทางเพศที่ตึงเครียดแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต สถานการณ์ที่น่าอึดอัดและแสนปวดร้าว แต่ผู้หญิงที่กำลังยืนตัวสั่นงันงกตรงหน้าสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้ เพียงแค่จูบเดียวเท่านั้น

    คอร์เนลถอยหลังออกห่างโดยอัตโนมัติ เมื่อสมองร้องเตือนออกมาว่าแม่สาวน้อยตรงหน้าคือหายนะตัวเอ้ของตนเอง

    ไม่มีทางหรอก...ผู้หญิงเกรดต่ำ ผู้หญิงข้างถนนอย่างยาหยีน่ะเหรอจะเป็นหายนะสำหรับเขาได้ ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน

    “จูบแรกอย่างนั้นหรือ”

    สติที่เคยถูกครอบงำด้วยแรงปรารถนาลูกใหญ่เริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง และนั่นมันก็ทำให้คนที่ถูกถามถึงกับหน้าแดงก่ำ

    “ฉัน...” ติดอ่างขึ้นมาในพริบตา

    คอร์เนลหัวเราะเบาๆ ในลำคอด้วยความพึงพอใจ พลางหมุนตัวเดินไปหยุดที่ริมหน้าต่างบานเดิมที่หล่อนเห็นเขายืนตอนที่ก้าวเข้ามาในห้องครั้งแรก เขายืนนิ่งคล้ายกับกำลังใช้ความคิด และหล่อนเองก็ไม่โง่พอที่จะทำลายความเงียบสงบนั้นออกไป

    สาวน้อยเป่าปากด้วยความโล่งอกที่สามารถประคองตัวเองให้มาถึงโซฟาได้โดยที่ไม่ล้มลงไปกองกับพื้นให้เสียหน้ามากไปกว่านี้ แต่แล้วจู่ๆ คนตัวโตที่ยืนนิ่งอยู่นานสองนานก็ทำลายความเงียบขึ้นด้วยน้ำเสียงสุดแสนกระด้าง

    “กลับไปซะ”

    เขาหันกลับมามองหล่อนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ในดวงตาคมกริบสีเขียวจัดคู่นั้นดุดันน่ากลัว มันไม่หลงเหลือความหิวกระหายอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว สาวน้อยนั่งนิ่งงันด้วยความสับสน ตามอารมณ์ของคอร์เนลไม่ทัน และยังไม่ทันได้โต้ตอบอะไร พ่อคนตัวโตก็ตวาดลั่นไล่ซ้ำออกมาอีกซะก่อน

    “หูแตกหรือไง บอกให้ไสหัวไปให้พ้น ไปสิ!

    และไม่ต้องรอให้คนเจ้าอารมณ์ไล่ซ้ำ หญิงสาวก็รีบเผ่นออกจากห้องทำงานนั้นในทันที เสียงปิดประตูเบาๆ ช่วยเตือนให้คอร์เนลรู้ว่าตอนนี้แม่ตัวหายนะออกไปพ้นจากรัศมีสายตาของตัวเองแล้ว หนุ่มหล่อถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างยาหยีจะทำให้อารมณ์ของเขาเตลิดไปไกลได้ถึงเพียงนี้

    แค่จูบเดียว แค่จูบเดียวเท่านั้น เจ้าหล่อนก็สามารถปลุกความปรารถนาอันแรงกล้าจากกายของเขาให้ลุกโชนขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ทั้งๆ ที่ผู้หญิงหลายต่อหลายคนที่เขาเลือกขึ้นเตียงต้องใช้วิธีต่างๆ นานากว่าจะปลุกเขาให้ร้อนผ่าวได้แบบนี้ ไม่อยากจะเชื่อ มันเหลือเชื่อเหลือเกิน

    จบตอนค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
    baiboau

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×