ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : MF :: Full stop [4] [NoteApp]
MF :: Full stop [4]
....
ห้องกว้างเงียบสงัดจนแทบจะได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจแผ่วเบาของตัวเอง ลมแรงๆของเครื่องปรับอากาศตัวยักษ์เป่าใส่กัน.. รู้สึกหนาวจนต้องกระชับเสื้อหนาวให้แน่นขึ้น.. ฉันทอดถอนหายใจเบาๆก่อนจะพยายามเพ่งสมาธิจดจ่ออยู่กับตัวอักษรมากมายตรงหน้าอีกครั้ง
ทุกครั้งที่เข้าห้องสอบฉันมักจะมีเวลาเหลือพอที่จะกลับมาทบทวนข้อที่ไม่มั่นใจเสมอ.. และมันก็มักจะทำให้ฉันปวดหัวได้เสมอด้วยเช่นกัน.. วันนี้ก็เหมือนเดิม..
.
.
"ถ้าข้อไหนคุ้นๆแต่นึกไม่ออก หายใจลึกๆนะคะพี่นท หลับตาตั้งสมาธิดีๆแล้วลองคิดอีกทีนะ แอปทำประจำเลย"
.
.
เสียงหวานๆและรอยยิ้มให้กำลังใจของใครบางคนปรากฎชัดขึ้นมาในห้วงความคิด ฉันปิดตาลงชั่วครู่ สูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดแล้วค่อยๆผ่อนมันออกมาช้าๆ มือขวาหยิบดินสอสีดำเข้มขึ้นมาอีกครั้ง ลงมือฝนสีดำลงในวงกลมเล็กๆนั้นจนเต็ม ก่อนจะระบายยิ้มกับตัวเองอย่างพอใจ
วิธีของแอปเปิ้ลก็ไม่เลวเลยจริงๆ.. ขอบคุณนะเด็กป่วน..
.
.
.
"ไอ้นท.. คืนนี้ไปลั้ลลากันเหอะ แกไม่ไปนานแล้วนะเว้ย!" ทันทีที่เดินออกมาจากห้องสอบ ไอ้เพื่อนตัวแสบก็ปรี่เข้ามากอดคอกันไว้ทันที พลางฉีกยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดียิ่งกว่าถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลที่หนึ่ง
จริงๆก็พอเข้าใจอารมณ์ที่ดีเกินพิกัดของเจ้าเพื่อนคนนี้อยู่นะ ก็การสอบของคณะแพทย์แต่ละครั้ง เป็นเหมือนการเข้าสนามรบที่ทหารแต่ละคนต้องเตรียมตัวกันหนักและนานแบบสุดๆ จะมากระหน่ำเอาวันสองวันก่อนสอบมีหวังโดนปามีดออกมาจากกระดาษคำถามแทงปักตัดขั้วหัวใจ นอนตายอย่างไม่ค่อยสงบคาห้องสอบแน่ๆ เพราะงั้นเมื่อไหร่ที่เห็นเด็กคณะนี้ยิ้มร่า เริงรื่นผิดมนุษย์มนา วิฉัยฉัยแรกที่ควรมีอยู่ในหัวคือ ไอ้พวกนี้มันเพิ่งสอบเสร็จแน่ๆ
"คืนนี้หรอ?" ฉันเอียงคอถามมุกเบาๆ ก็จริงอยู่ที่ฉันไม่ได้ไปเที่ยวอะไรแบบนั้นมานานมากแล้ว ตั้งแต่ก่อนจะมีเรื่องสอบเข้ามาเสียอีก ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน อยู่ๆก็รู้สึกเบื่อไปซะเฉยๆ เหมือนมันมีอย่างอื่นในชีวิตที่ทำให้มีความสุขได้มากกว่าการไปเที่ยวกลางคืน.. เอิ่ม.. หรือเราจะอยู่กับยัยคุณหนูเจ้าระเบียบนั่นมากไปจนตายด้านไปแล้วว่ะ
แต่ที่สำคัญ.. วันนี้ฉันก็มีนัดแล้วด้วยสิ..
.
.
.
ในห้องที่มืดมิดมีเพียงแสงสว่างจากดวงไฟเล็กๆของโคมไฟตั้งโต๊ะสีฟ้าอ่อน ฉันไล่สายตาผ่านตัวอักษรบนหน้ากระดาษทีละตัวอย่างช้าๆ พยายามทำความเข้าใจทุกๆบรรทัดที่อยู่บนนั้นอย่างตั้งใจ แต่ก็ต้องเผลอถอนหายใจเบาๆกับตัวเองอยู่บ่อยครั้งเพราะความยากและเยอะของเนื้อหาตรงหน้ามันช่างบั่นทอนจิตใจกับสมองน้อยๆนี้เสียเหลือเกิน
"เฮ้ออออออออ..." ฉันพ่นลมหายใจเสียงดัง ไหนไอ้เพื่อนเจ้าป่าลูกรักคนเก่งของอาจารย์วอร์ดอายุรกรรมบอกว่าเวลาอ่านหนังสือให้ปิดไฟทั้งห้อง เปิดแต่โคมไฟตั้งโต๊ะแล้วจะมีสมาธิและจำได้ง่ายขึ้นไงวะ!!!
.
.
"พี่นทคะ" หลังจากถอดใจนอนฟุบลงกับโต๊ะได้ไม่นาน เสียงเรียกกับแรงสะกิดกันเบาๆที่หัวไหล่ก็ปลุกให้ฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
"ว่าไงแอปเปิ้ล นอนไม่หลับหรอ.. ในตู้เย็นมีนมอยู่ กินได้นะ พี่ซื้อมาให้เราอะ" ฉันงัวเงียยกมือขยี้ตาตัวเองสองสามที หันมองที่นาฬิกาก็พบว่าตอนนี้มันตีหนึ่งกว่าๆแล้ว ยัยคุณหนูอนามัยนี่ยังไม่นอนอีกหรอเนี่ย
"เปล่า แอปเห็นช่วงนี้พี่นทอ่านหนังสือดึกทุกวัน ก็เลย.. เข้ามาดู.. พี่นทไปนอนดีๆบนเตียงมั้ย" เธอพูดเบาๆ แสงไฟจากหลอดนีออนดวงเล็กๆ ยังมีความสว่างมากพอที่จะทำให้ฉันมองเห็นใบหน้าขาวเจือสีชมพูระเรื่อคล้ายคนกำลังขวยเขินนั่นได้บ้าง..
เออะ... เขิน.. เขินใครวะ? ฉันหรอ?!?!
"แอปซื้อนี่มาให้พี่นทด้วยนะ" ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ใช้สมองไตร่ตรองถึงที่มาของใบหน้าแดงๆนั่น เธอก็ยื่นขวดสีขุ่นเล็กๆมาให้กันเสียก่อน
"โห แอป! ซื้อมาทำไมเนี่ย เปลืองอะ รู้มั้ยว่าในโฆษณาที่บอกว่ากินแล้วฉลาดอะไรนั่นมันโกหกทั้งนั้นแหละ!" ฉันโวยวายขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าเจ้าขวดนั่นมันคือซุปไก่สกัดยี่ห้อดัง ก็ฉันเคยเรียนมาว่ามันไม่ได้ดีเด่นอะไรอย่างที่โอ้อวดไว้นักนี่นา
พอได้บ่นอย่างที่ใจคิดก็กลับมาให้ความสนใจกับหนังสือตรงหน้าต่อ.. แต่แล้วก็รู้สึกถึงบรรยากาศอึมครึมบางอย่างที่ลอยขมุกขมัวอยู่รอบๆตัว..
"เออะ... พี่พูดเล่น... โหยยย เนี่ย พี่โคตรชอบเลยแอป! ขอบใจนะ แหม น่ารักจัง ห่ะๆๆๆ" ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าแดงๆที่ดูน่ารักเมื่อกี้ก็เปลี่ยนเป็นยืนจ้องเขม็งมาอย่างน่ากลัวแทน น่ากลัวจนฉันไม่สามารถจะรีรอได้นานกว่านี้สักวินาที ต้องรีบหยิบขวดซุปไก่สกัดในมือเธอมาบิดฝาดังเป๊าะ แล้วยกซดรวดเดียวจนหมดเกลี้ยงไม่เหลือซักหยด
"โหหหหห นี่ ซุปไก่เทพแน่ๆ! กินแล้วตื่นเลย!! สุดยอด!!! สมองส่งกระแสประสาทเปรี๊ยะๆๆจนพี่รู้สึกได้เลยเนี่ย!!!" ฉันพูดพลางทำหน้าตาตื่นเต้นราวกับกำลังถ่ายโฆษณาชวนเชื่อ ขายของตามทีวีตอนดึกๆ
"พี่นท!!!!" แอปเปิ้ลใช้ฝ่ามือตีเข้าที่หัวไหล่ฉันอย่างแรง ก่อนจะย่นจมูกใส่กันทันที เอิ่ม... เพิ่งรู้ว่าตัวเองก็โรคจิตอยู่เหมือนกัน มองเห็นคนงอนว่าน่ารักไปซะได้ทั้งๆที่เมื่อก่อนก็ไม่เป็น
จะว่าไป.. ไอ้ซุปไก่สกัดนั่น ถึงจะไม่ได้ทำให้ฉลาดปราชเปรื่องขึ้นมา แต่ก็ทำให้อารมณ์ของฉันดีขึ้นได้อย่างน่าประหลาด..
.
.
"พี่นท.. สอบเสร็จแล้วรีบกลับมานะคะ" คุณหนูเจ้าระเบียบพูดขึ้นอีกครั้งหลังจากพยายามทำให้ฉันไปนอนหลับดีๆบนเตียงไม่สำเร็จ
"หืมมม ทำไมหรอ แอปมีอะไรรึเปล่า" ฉันเลิกคิ้วถามเธอเบาๆ ความจริงมันก็กลายเป็นเรื่องปกติไปซะแล้วที่ฉันจะรีบกลับคอนโดทุกๆวันหลังเลิกเรียน ก็ตั้งแต่มีแอปเปิ้ลมาอยู่ด้วยกันมันก็เหมือนมีแรงอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายในคอยกระตุ้นให้ฉันกลับมาที่นี่อย่างสม่ำเสมอ วันไหนกลับมาไม่เจอเธอก็พาลจะหงุดหงิดไปหมด สงสัยฉันจะเริ่มคุ้นชินกับการที่มีเด็กป่วนคนนี้มาคอยวุ่นวายอยู่ใกล้ๆกันแล้วล่ะมั้ง
แต่ก็นั่นแหละ.. ฉันทำแบบนั้นจนเริ่มจะติดเป็นนิสัย จนเดี๋ยวนี้เธอก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้ฉันรีบกลับมาหากันเหมือนเมื่อก่อนแล้วนี่นา..
"พี่นทมีนัดแล้วหรอ.." แอปเปิ้ลเอ่ยถามเสียงแผ่ว รอยยิ้มบนใบหน้าหวานจางหายไปจนฉันต้องรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที
"ถ้างั้น.. ถือว่าแอปจองตัวพี่นทแล้วนะ ห้ามเบี้ยวนัดแอปด้วย!"
.
.
.
"เฮ้ย! ทำไมต้องคิดนานวะ.. ช่วงนี้แกแปลกๆไปนะนท เที่ยวก็ไม่เที่ยว สาวๆก็ไม่สนใจ ไหนจะน้องพลอย พี่แกรนด์ หนูนา แล้วก็คนนู้นคนนี้แกก็บอกเลิกไปหมด แถมพอเลิกเรียนปุ๊บก็รีบกลับคอนโด ทำอย่างกับมีอะไรดีๆซ่อนอยู่ในห้องอย่างนั้นแหละ.." มุกพูดพลางหรี่ตามองมาอย่างคาดคั้น เล่นเอาฉันต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ
ไอ้เพื่อนบ้า ฉลาดจริงเชียว!
"บ้า! ใครจะไปซ่อนผู้หญิงไว้ในห้องได้!!" ฉันตอบปัดๆ หลบสายตาอย่างมีพิรุธ ให้ตายสิ! กะล่อนกับใครตั้งมากมายไม่เคยพลาดท่าเสียฟอร์มสักครั้ง แต่ทำไมกับเรื่องยัยคุณหนูนั่นมันถึงได้เก็บความรู้สึกยากเย็นแบบนี้เนี่ย!
"ไอ้นท!!!! ฉันยังไม่ได้พูดว่าแกซ่อนผู้หญิงสักคำเลยนะ....." เพื่อนแสบพูดพลางเดินมาจ้องหน้ากันทันที รู้สึกเย็บวาบไปทั้งตัว.. ไอ้บ้านทททททททท! เผลอหลุดออกไปได้ไงเนี่ยยยยยยยยยย!!!!
"ไม่รู้แหละ ถ้าคืนนี้แกไม่ไป ฉันจะไปกินเหล้าที่คอนโดแกแทน! จะพาสาวๆไปด้วยเลย โอเคนะ!"
"เฮ้ย! ไม่ได้!!!" ฉันปฏิเสธเสียงแข็งทันที ก็จะให้ไปได้ไงเล่า!
.
.
.
ฉันค่อยๆไขกุญแจเข้าห้องช้าๆ พยายามทำตัวเบาหวิวคล้ายนักย่องเบาลอบเข้าบ้านดึกๆ ก็ตอนนี้มันปาเข้าไปตีสองแล้ว กลัวว่าถ้าเกิดทำเสียงดังขึ้นมาคนที่นอนอยู่ในห้องจะได้ยินเข้า เมื่อกี้ก็อุตส่าห์ปลีกตัวพิมพ์ข้อความส่งมาให้กันว่าไม่ว่าง ไม่รู้แอปเปิ้ลจะได้รับรึเปล่า.. ใจจริงก็อยากจะโทรมาบอกเองเหมือนกัน แต่ถูกไอ้เพื่อนตัวแสบจ้องจะจับผิดอยู่เรื่อย แค่กระดิกนิ้วกดข้อความได้ก็นับว่าเก่งกาจมากแล้วนะเนี่ย
วันนี้ฉันไม่ได้ซัดแอลกอฮอล์เข้ากระแสเลือดมากมายอย่างที่ควรจะเป็น แถมจะมองไปทางไหนก็รู้สึกเบื่อไปหมด แสงสีมากมายไม่ได้ช่วยทำให้สมองตื่นตัว เสียงเพลงดังกระหึมไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกสนุกเหมือนทุกๆครั้ง สาวๆที่พากันสะบัดกายไปมาก็ไม่ได้ดูเย้ายวนน่าค้นหาอย่างที่ควรจะเป็น
ให้ตายสิ! หรือเราจะตายด้านไปแล้วจริงๆวะ...
ฉันสะบัดหน้าไปมาหลายครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อในความคิดของตัวเอง ก่อนจะเอื้อมมือจะไปกดสวิตช์ไฟที่ฝาฝนัง และทันทีที่ห้องทั้งห้องสว่างขึ้นฉันกลับยิ่งต้องสะบัดหน้าแรงขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ปรากฎอยู่ตรงหน้ากันในตอนนี้
โต๊ะกว้างเต็มไปด้วยอาหารมากมาย กลางโต๊ะมีเค้กช็อกโกแลตก้อนโตที่ดูผ่านๆก็รู้ว่าเจ้าก้อนนี้ไม่ได้ถูกถอยออกมาจากร้านเบเกอรี่ที่ไหนแน่ๆ.. แต่ปกติแอปเปิ้ลทำอาหารเป็นซะที่ไหนกัน.. เฮ้ย! นี่เธอตั้งใจทำมันเพื่อฉันหรอเนี่ย?
นั่นสิ.. ว่าทำไมหลายวันมานี้ถึงได้ยินเสียงดังออกมาจากในห้องครัวบ่อยๆ..
โอ้ยยยยยย ไอ้นท!! นึกอยากจะเอาหัวโขกกำแพงหลายๆทีที่ผิดสัญญากับแอปเปิ้ลอย่างไม่น่าให้อภัย ไม่คิดเลยว่าแค่ฉันสอบเสร็จเธอจะตระเตรียมอะไรไว้ให้กันมากขนาดนี้
"แอปเปิ้ล.." คำพูดเบาๆหลุดออกมาจากปากคล้ายคนไร้สติ ฉันยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองเบาๆ กระพริบตาถี่ๆหลายทีเพื่อเรียกสติคืนกลับมา ก่อนจะก็รีบวิ่งลนลานเข้าไปเปิดประตูห้องนอนของแอปเปิ้ลทันทีเมื่อสำนึกได้
.
ฉันค่อยๆเดินฝ่าความมืดสนิทของห้องที่เย็บเฉียบด้วยเครื่องปรับอากาศอย่างระมัดระวัง ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่หน้าเตียงนอนกว้างที่มีร่างบางๆนอนตะแคงเข้ามาหากัน
"แอปเปิ้ล พี่ขอโทษ.." สองขาทรุดตัวลงนั่งข้างๆเธอ เอ่ยปากกระซิบคำขอโทษเบาๆข้างใบหูคนที่กำลังนอนหลับตานิ่งอยู่บนนั้น ฉันยกมือขึ้นเกลี่ยปลายผมที่ตกลงมาปรกใบหน้าหวานอย่างเบามือ ก่อนจะรู้สึกได้ถึงการขยับเขยื้อนตัวอย่างแรงของคนบนเตียง
แอปเปิ้ลที่ฉันคิดว่าหลับไปแล้วพลิกตัวนอนตะแคงไปอีกข้างหนึ่งของเตียงนอน แถมยังยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงไว้ราวกับไม่อยากให้ฉันยุ่งกับเธออย่างนั้นแหละ
ฉันยันตัวขึ้นยืน เดินไปเปิดไฟ ก่อนจะกลับมานั่งใกล้ๆเธออีกครั้ง
"แอปเปิ้ล.. พี่ขอโทษ อย่าโกรธพี่เลยนะ.. เนี่ย.. พี่หิ๊วหิว ยังไม่ได้กินอะไรสักคำเลย ไปนั่งกินข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ" ฉันพูดพลางดึงผ้าห่มที่คลุมทั้งร่างของเธอไว้ลงมาให้พอเห็นใบหน้าหวานนั้นได้สะดวกขึ้น และทันทีที่ได้เห็นฉันก็แทบอยากจะยกมือขึ้นมาทึ้งหัวตัวเองให้ขาดไปซะจริงๆ
ภาพผู้หญิงที่กำลังนอนนิ่ง น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้างตรงหน้า ทำหัวใจของฉันเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก ไม่แน่ใจว่ามันเป็นเพราะความรู้สึกผิด หรือจริงๆแล้วมันมีอะไรที่มากกว่านั้นกันแน่..
"พี่นทโกหก.. กลิ่นเหล้ากับน้ำหอมติดเสื้อฟุ้งขนาดนี้ยังจะมาพูดอีก.." แอปเปิ้ลพูดเสียงสั่น ยกมือขึ้นปาดน้ำตาอย่างลวกๆ เนื้อความในประโยคเล่นเอาฉันต้องใช้มือจับเสื้อที่ใส่อยู่ขึ้นมาใกล้จมูก แล้วก็ต้องเบี่ยงหน้าหนีมันซะเอง
ถึงคืนนี้จะไม่ได้กินเหล้าอะไรมากมาย หรือว่าไปใกล้ชิดกับผู้หญิงคนไหน แต่สถานที่แบบนั้นก็ทำให้กลิ่นพวกนี้ติดมากับเสื้อผ้าได้ไม่ยากนัก
"ขอโทษนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะผิดสัญญา แต่ว่า.."
"ช่างมันเถอะค่ะ จริงๆแอปก็แค่คนเข้ามาขออยู่ด้วย พี่นทคงรำคาญจะแย่ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ พรุ่งนี้แอปว่าจะไปแล้วล่ะ" แอปเปิ้ลพูดพลางยกผ้าห่มขึ้นหมายจะพามันขึ้นไปปิดหน้าปิดตาอีกครั้ง แต่ก็ถูกฉันจับเอาไว้ก่อน
ฉันแตะตัวแอปเปิ้ลเบาๆ ก่อนจะค่อยๆประคองเธอขึ้นมานั่งคุยกันตรงๆเพื่อที่จะได้ปรับความเข้าใจกันได้ง่ายขึ้น แปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกันที่ต้องแคร์เด็กป่วนคนนี้ถึงขนาดนี้ แต่เมื่อกี้ที่เธอพูดว่าจะไปจากกันมันทำให้ใจหายอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ
"แอปเปิ้ล.. พี่น่ะ.. ปกติแล้วก็ไม่ชอบหรอกนะที่มีใครมาอยู่ด้วยแบบนี้.."
"…"
"แต่แอปรู้มั้ย.. ตั้งแต่แอปมาอยู่ด้วย พี่ต้องกลับมาคอนโดทุกวัน.. เรื่องผู้หญิงพี่ก็ไม่สนใจ เรื่องเที่ยวนี่ก็เหมือนกัน ถ้าเพื่อนพี่มันไม่คะยั้นคะยอให้ไปพี่ก็ไม่ได้อยากจะไปสักนิด.. ตอนแรกพี่ก็นึกว่าเป็นเพราะแอปที่เข้ามาวุ่นวายในชีวิต ทำให้พี่กลายเป็นแบบนี้.. แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่.. ที่พี่เปลี่ยนไปมันไม่ใช่เป็นเพราะแอปที่เข้ามาวุ่นวาย แต่เป็นเพราะพี่ชอบ.. พี่ชอบที่มีแอปอยู่ด้วยกันแบบนี้.."
"ขอโทษนะแอปเปิ้ล พี่ไม่ได้ตั้งใจทำให้แอปเสียใจ.. พี่ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้จริงๆ.." ฉันค่อยๆใช้มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าของแอปเปิ้ลมาประสานสายตากันตรงๆ แม้จะตอบตัวเองไม่ได้ว่าความรู้สึกประหลาดๆที่เต็มตื้นอยู่ในหัวใจตอนนี้มันคืออะไร แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าฉันชอบ.. ฉันชอบให้เธออยู่ใกล้ๆกันแบบนี้..
"พี่นท.." แอปเปิ้ลมองหน้ากัน รอยยิ้มบางๆที่ปรากฎขึ้นบนใบหน้าสวยเป็นยิ่งกว่าแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่ดึงดูดให้ฉันขยับเข้าใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งริมฝีปากของเราสัมผัสกันได้พอดี
ฉันค่อยๆประทับสัมผัสแผ่วเบานี้อย่างนุ่มนวลและอ่อนโยนที่สุด มันเป็นสัมผัสในแบบที่ฉันไม่เคยให้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน เธอคนนี้เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ฉันอยากจะทะนุถนอมไม่ให้เสียน้ำใจแม้สักนิด อยากจะค่อยๆละเลียดทุกความรู้สึกนี้ช้าๆ อยากจะเก็บเกี่ยวรสชาติความหอมหวานมากมายทีละน้อย ทีละน้อย..
แต่ก็เป็นเพราะผู้หญิงตรงหน้าคนนี้อีกนั้นแหละที่ทำให้ฉันหลงใหลเคลิบเคลิ้มได้มากมายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มันมากกว่าครั้งแรกที่เราจูบกันวันนั้นเสียอีก.. จูบคราวนี้ของเราทำให้หัวใจฉันเต้นถี่อย่างเร็วยิ่งกว่าการวิ่งรอบสนามสักสิบรอบ..
ฉันใช้มือจับใบหน้าของเธอเอาไว้เพื่อที่จะให้เรามอบสัมผัสนี้ให้กันและกันได้อย่างแนบแน่นมากขึ้น และทันทีที่ทำแบบนั้นร่างกายของฉันมันก็ร้อนขึ้นจนแทบทนไม่ไหว แอปเปิ้ลเป็นคนแรกที่ทำให้ฉันแทบคลั่งตายเพราะอารมณ์วาบหวามที่เริ่มประทุขึ้นมา..
เธอกำลังทำให้ฉันทรมานกับความร้อนรุ่มนี้ทั้งๆที่เธอแทบจะไม่ได้ทำอะไรสักนิด..
ฉันค่อยๆดันร่างบางลงไปนอนบนเตียงนุ่นนั้นอีกครั้ง.. ก่อนจะเลื่อนสัมผัสร้อนๆเปลี่ยนตำแหน่งไปยังซอกคอหอมกรุ่น แล้วประทับจูบอย่างหลงใหล จนกระทั่ง..
"เฮ้ย!! แอป!!!" ฉันเปิดเปลือกตาขึ้นในทันทีเมื่อรู้สึกถึงวัตถุตันๆที่คุ้นเคย คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยสัมผัสมันมาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนจะต้องกระโดดเด้งออกจากตัวเธออย่างตกใจสุดขีดเมื่อก้มลงไปเห็นเครื่องช็อตไฟฟ้าในมือเธอเต็มๆสองตา
ให้ตายสิ! ฉันลืมไอ้เครื่องบ้านี่ไปได้ยังไง! นี่แอปถึงขนาดพกมันไว้ข้างเตียงเลยหรอเนี่ย!!!
"หิวไม่ใช่หรอพี่นท! ไปนั่งรอข้างนอกเลย! เดี๋ยวแอปออกไปอุ่นกับข้าวให้ก่อน" แอปเปิ้ลพูดขึ้นอย่างเขินๆ ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงสดอย่างชัดเจน มือที่จับเครื่องช็อตไฟฟ้าถูกยกขึ้นมาข่มขู่กันแบบทีเล่นทีจริง เอิ่ม.. จริงๆแล้วจะออกแนวเขินกันเสียมากกว่า เห็นแบบนั้นมันทำให้ฉันเผลอระบายยิ้มออกมาในทันที
น่ารักจัง..
"ยิ้มอะไรเล่า!!" แอปเปิ้ลผลแดงยกมือขึ้นตีหัวไหล่กันอย่างแรง ก่อนจะก้มหน้างุดๆออกจากเตียง ยิ่งเห็นแบบนั้นมันยิ่งทำให้ฉันฉีกยิ้มกว้างมองตามเธอไปเรื่อยๆ
เพิ่งรู้ว่าแอปเปิ้ลเวลาเขินเนี่ย.. น่ารักซะไม่มี..
แต่แล้วอยู่ๆแอปเปิ้ลก็หยุดเดินทั้งๆที่ยังไม่ทันก้าวเท้าออกจากห้อง เธอหันหลังกลับและก้าวอย่างเร็วมาหาฉัน ก่อนจะประทับสัมผัสเบาๆที่ริมฝีปาก สัมผัสเบาๆแค่เสี้ยววินาทีก่อนที่เธอจะวิ่งหายออกจากห้องไปในทันที
ตอนนี้หัวใจมันเต้นแรงจนฉันยกมือขึ้นมาแตะขึ้นมาที่หน้าอกข้างซ้ายนั้นเบาๆ.. หรือมันจะถึงเวลาแล้วที่ฉันควรจะหยุดหัวใจดวงนี้ไว้ที่ใครสักคนอย่างจริงๆจังๆเสียที...
//////////////////////////////
มีคนบอกว่าอ่านฟิคเรื่องนี้แล้วอยากเป็นหมอด้วย โห ดีใจจัง ! แต่ก็มีคนบอกว่าอ่านแล้วไม่อยากเป็นหมอเหมือนกัน 555 แต่ว่าจริงๆแล้วไอ้ที่เสือนทเล่ามันยังไม่ได้เสี้ยวนึงของการเรียนหมอเลยมั้ง เพราะงั้นใครที่อ่านแล้วไม่อยากเป็นหมออย่าเพิ่งนะ! 55
ปล. จริงๆแล้วมันควรจะจบลงตรงนี้แหละ! แต่เราคิดว่าอาจจะต่อไปอีกสักนิด(ถ้าไม่ขี้เกียจ) เพราะมีคนขอไว้ (หร๊อออออ? 55)
ปล.2 ดูๆแล้วพี่เสือนทไม่ได้ตายด้านหรอกนะ.....
เสร็จแน่ๆเลย ต้องเสร็จแน่ๆเลย
ก็พนันกันได้เลยว่าผมต้องเสร็จคุณแน่ๆเลย
เพราะผมมันแพ้คนสวย..
;P
....
ห้องกว้างเงียบสงัดจนแทบจะได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจแผ่วเบาของตัวเอง ลมแรงๆของเครื่องปรับอากาศตัวยักษ์เป่าใส่กัน.. รู้สึกหนาวจนต้องกระชับเสื้อหนาวให้แน่นขึ้น.. ฉันทอดถอนหายใจเบาๆก่อนจะพยายามเพ่งสมาธิจดจ่ออยู่กับตัวอักษรมากมายตรงหน้าอีกครั้ง
ทุกครั้งที่เข้าห้องสอบฉันมักจะมีเวลาเหลือพอที่จะกลับมาทบทวนข้อที่ไม่มั่นใจเสมอ.. และมันก็มักจะทำให้ฉันปวดหัวได้เสมอด้วยเช่นกัน.. วันนี้ก็เหมือนเดิม..
.
.
"ถ้าข้อไหนคุ้นๆแต่นึกไม่ออก หายใจลึกๆนะคะพี่นท หลับตาตั้งสมาธิดีๆแล้วลองคิดอีกทีนะ แอปทำประจำเลย"
.
.
เสียงหวานๆและรอยยิ้มให้กำลังใจของใครบางคนปรากฎชัดขึ้นมาในห้วงความคิด ฉันปิดตาลงชั่วครู่ สูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดแล้วค่อยๆผ่อนมันออกมาช้าๆ มือขวาหยิบดินสอสีดำเข้มขึ้นมาอีกครั้ง ลงมือฝนสีดำลงในวงกลมเล็กๆนั้นจนเต็ม ก่อนจะระบายยิ้มกับตัวเองอย่างพอใจ
วิธีของแอปเปิ้ลก็ไม่เลวเลยจริงๆ.. ขอบคุณนะเด็กป่วน..
.
.
.
"ไอ้นท.. คืนนี้ไปลั้ลลากันเหอะ แกไม่ไปนานแล้วนะเว้ย!" ทันทีที่เดินออกมาจากห้องสอบ ไอ้เพื่อนตัวแสบก็ปรี่เข้ามากอดคอกันไว้ทันที พลางฉีกยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดียิ่งกว่าถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลที่หนึ่ง
จริงๆก็พอเข้าใจอารมณ์ที่ดีเกินพิกัดของเจ้าเพื่อนคนนี้อยู่นะ ก็การสอบของคณะแพทย์แต่ละครั้ง เป็นเหมือนการเข้าสนามรบที่ทหารแต่ละคนต้องเตรียมตัวกันหนักและนานแบบสุดๆ จะมากระหน่ำเอาวันสองวันก่อนสอบมีหวังโดนปามีดออกมาจากกระดาษคำถามแทงปักตัดขั้วหัวใจ นอนตายอย่างไม่ค่อยสงบคาห้องสอบแน่ๆ เพราะงั้นเมื่อไหร่ที่เห็นเด็กคณะนี้ยิ้มร่า เริงรื่นผิดมนุษย์มนา วิฉัยฉัยแรกที่ควรมีอยู่ในหัวคือ ไอ้พวกนี้มันเพิ่งสอบเสร็จแน่ๆ
"คืนนี้หรอ?" ฉันเอียงคอถามมุกเบาๆ ก็จริงอยู่ที่ฉันไม่ได้ไปเที่ยวอะไรแบบนั้นมานานมากแล้ว ตั้งแต่ก่อนจะมีเรื่องสอบเข้ามาเสียอีก ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน อยู่ๆก็รู้สึกเบื่อไปซะเฉยๆ เหมือนมันมีอย่างอื่นในชีวิตที่ทำให้มีความสุขได้มากกว่าการไปเที่ยวกลางคืน.. เอิ่ม.. หรือเราจะอยู่กับยัยคุณหนูเจ้าระเบียบนั่นมากไปจนตายด้านไปแล้วว่ะ
แต่ที่สำคัญ.. วันนี้ฉันก็มีนัดแล้วด้วยสิ..
.
.
.
ในห้องที่มืดมิดมีเพียงแสงสว่างจากดวงไฟเล็กๆของโคมไฟตั้งโต๊ะสีฟ้าอ่อน ฉันไล่สายตาผ่านตัวอักษรบนหน้ากระดาษทีละตัวอย่างช้าๆ พยายามทำความเข้าใจทุกๆบรรทัดที่อยู่บนนั้นอย่างตั้งใจ แต่ก็ต้องเผลอถอนหายใจเบาๆกับตัวเองอยู่บ่อยครั้งเพราะความยากและเยอะของเนื้อหาตรงหน้ามันช่างบั่นทอนจิตใจกับสมองน้อยๆนี้เสียเหลือเกิน
"เฮ้ออออออออ..." ฉันพ่นลมหายใจเสียงดัง ไหนไอ้เพื่อนเจ้าป่าลูกรักคนเก่งของอาจารย์วอร์ดอายุรกรรมบอกว่าเวลาอ่านหนังสือให้ปิดไฟทั้งห้อง เปิดแต่โคมไฟตั้งโต๊ะแล้วจะมีสมาธิและจำได้ง่ายขึ้นไงวะ!!!
.
.
"พี่นทคะ" หลังจากถอดใจนอนฟุบลงกับโต๊ะได้ไม่นาน เสียงเรียกกับแรงสะกิดกันเบาๆที่หัวไหล่ก็ปลุกให้ฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
"ว่าไงแอปเปิ้ล นอนไม่หลับหรอ.. ในตู้เย็นมีนมอยู่ กินได้นะ พี่ซื้อมาให้เราอะ" ฉันงัวเงียยกมือขยี้ตาตัวเองสองสามที หันมองที่นาฬิกาก็พบว่าตอนนี้มันตีหนึ่งกว่าๆแล้ว ยัยคุณหนูอนามัยนี่ยังไม่นอนอีกหรอเนี่ย
"เปล่า แอปเห็นช่วงนี้พี่นทอ่านหนังสือดึกทุกวัน ก็เลย.. เข้ามาดู.. พี่นทไปนอนดีๆบนเตียงมั้ย" เธอพูดเบาๆ แสงไฟจากหลอดนีออนดวงเล็กๆ ยังมีความสว่างมากพอที่จะทำให้ฉันมองเห็นใบหน้าขาวเจือสีชมพูระเรื่อคล้ายคนกำลังขวยเขินนั่นได้บ้าง..
เออะ... เขิน.. เขินใครวะ? ฉันหรอ?!?!
"แอปซื้อนี่มาให้พี่นทด้วยนะ" ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ใช้สมองไตร่ตรองถึงที่มาของใบหน้าแดงๆนั่น เธอก็ยื่นขวดสีขุ่นเล็กๆมาให้กันเสียก่อน
"โห แอป! ซื้อมาทำไมเนี่ย เปลืองอะ รู้มั้ยว่าในโฆษณาที่บอกว่ากินแล้วฉลาดอะไรนั่นมันโกหกทั้งนั้นแหละ!" ฉันโวยวายขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าเจ้าขวดนั่นมันคือซุปไก่สกัดยี่ห้อดัง ก็ฉันเคยเรียนมาว่ามันไม่ได้ดีเด่นอะไรอย่างที่โอ้อวดไว้นักนี่นา
พอได้บ่นอย่างที่ใจคิดก็กลับมาให้ความสนใจกับหนังสือตรงหน้าต่อ.. แต่แล้วก็รู้สึกถึงบรรยากาศอึมครึมบางอย่างที่ลอยขมุกขมัวอยู่รอบๆตัว..
"เออะ... พี่พูดเล่น... โหยยย เนี่ย พี่โคตรชอบเลยแอป! ขอบใจนะ แหม น่ารักจัง ห่ะๆๆๆ" ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าแดงๆที่ดูน่ารักเมื่อกี้ก็เปลี่ยนเป็นยืนจ้องเขม็งมาอย่างน่ากลัวแทน น่ากลัวจนฉันไม่สามารถจะรีรอได้นานกว่านี้สักวินาที ต้องรีบหยิบขวดซุปไก่สกัดในมือเธอมาบิดฝาดังเป๊าะ แล้วยกซดรวดเดียวจนหมดเกลี้ยงไม่เหลือซักหยด
"โหหหหห นี่ ซุปไก่เทพแน่ๆ! กินแล้วตื่นเลย!! สุดยอด!!! สมองส่งกระแสประสาทเปรี๊ยะๆๆจนพี่รู้สึกได้เลยเนี่ย!!!" ฉันพูดพลางทำหน้าตาตื่นเต้นราวกับกำลังถ่ายโฆษณาชวนเชื่อ ขายของตามทีวีตอนดึกๆ
"พี่นท!!!!" แอปเปิ้ลใช้ฝ่ามือตีเข้าที่หัวไหล่ฉันอย่างแรง ก่อนจะย่นจมูกใส่กันทันที เอิ่ม... เพิ่งรู้ว่าตัวเองก็โรคจิตอยู่เหมือนกัน มองเห็นคนงอนว่าน่ารักไปซะได้ทั้งๆที่เมื่อก่อนก็ไม่เป็น
จะว่าไป.. ไอ้ซุปไก่สกัดนั่น ถึงจะไม่ได้ทำให้ฉลาดปราชเปรื่องขึ้นมา แต่ก็ทำให้อารมณ์ของฉันดีขึ้นได้อย่างน่าประหลาด..
.
.
"พี่นท.. สอบเสร็จแล้วรีบกลับมานะคะ" คุณหนูเจ้าระเบียบพูดขึ้นอีกครั้งหลังจากพยายามทำให้ฉันไปนอนหลับดีๆบนเตียงไม่สำเร็จ
"หืมมม ทำไมหรอ แอปมีอะไรรึเปล่า" ฉันเลิกคิ้วถามเธอเบาๆ ความจริงมันก็กลายเป็นเรื่องปกติไปซะแล้วที่ฉันจะรีบกลับคอนโดทุกๆวันหลังเลิกเรียน ก็ตั้งแต่มีแอปเปิ้ลมาอยู่ด้วยกันมันก็เหมือนมีแรงอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายในคอยกระตุ้นให้ฉันกลับมาที่นี่อย่างสม่ำเสมอ วันไหนกลับมาไม่เจอเธอก็พาลจะหงุดหงิดไปหมด สงสัยฉันจะเริ่มคุ้นชินกับการที่มีเด็กป่วนคนนี้มาคอยวุ่นวายอยู่ใกล้ๆกันแล้วล่ะมั้ง
แต่ก็นั่นแหละ.. ฉันทำแบบนั้นจนเริ่มจะติดเป็นนิสัย จนเดี๋ยวนี้เธอก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้ฉันรีบกลับมาหากันเหมือนเมื่อก่อนแล้วนี่นา..
"พี่นทมีนัดแล้วหรอ.." แอปเปิ้ลเอ่ยถามเสียงแผ่ว รอยยิ้มบนใบหน้าหวานจางหายไปจนฉันต้องรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที
"ถ้างั้น.. ถือว่าแอปจองตัวพี่นทแล้วนะ ห้ามเบี้ยวนัดแอปด้วย!"
.
.
.
"เฮ้ย! ทำไมต้องคิดนานวะ.. ช่วงนี้แกแปลกๆไปนะนท เที่ยวก็ไม่เที่ยว สาวๆก็ไม่สนใจ ไหนจะน้องพลอย พี่แกรนด์ หนูนา แล้วก็คนนู้นคนนี้แกก็บอกเลิกไปหมด แถมพอเลิกเรียนปุ๊บก็รีบกลับคอนโด ทำอย่างกับมีอะไรดีๆซ่อนอยู่ในห้องอย่างนั้นแหละ.." มุกพูดพลางหรี่ตามองมาอย่างคาดคั้น เล่นเอาฉันต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ
ไอ้เพื่อนบ้า ฉลาดจริงเชียว!
"บ้า! ใครจะไปซ่อนผู้หญิงไว้ในห้องได้!!" ฉันตอบปัดๆ หลบสายตาอย่างมีพิรุธ ให้ตายสิ! กะล่อนกับใครตั้งมากมายไม่เคยพลาดท่าเสียฟอร์มสักครั้ง แต่ทำไมกับเรื่องยัยคุณหนูนั่นมันถึงได้เก็บความรู้สึกยากเย็นแบบนี้เนี่ย!
"ไอ้นท!!!! ฉันยังไม่ได้พูดว่าแกซ่อนผู้หญิงสักคำเลยนะ....." เพื่อนแสบพูดพลางเดินมาจ้องหน้ากันทันที รู้สึกเย็บวาบไปทั้งตัว.. ไอ้บ้านทททททททท! เผลอหลุดออกไปได้ไงเนี่ยยยยยยยยยย!!!!
"ไม่รู้แหละ ถ้าคืนนี้แกไม่ไป ฉันจะไปกินเหล้าที่คอนโดแกแทน! จะพาสาวๆไปด้วยเลย โอเคนะ!"
"เฮ้ย! ไม่ได้!!!" ฉันปฏิเสธเสียงแข็งทันที ก็จะให้ไปได้ไงเล่า!
.
.
.
ฉันค่อยๆไขกุญแจเข้าห้องช้าๆ พยายามทำตัวเบาหวิวคล้ายนักย่องเบาลอบเข้าบ้านดึกๆ ก็ตอนนี้มันปาเข้าไปตีสองแล้ว กลัวว่าถ้าเกิดทำเสียงดังขึ้นมาคนที่นอนอยู่ในห้องจะได้ยินเข้า เมื่อกี้ก็อุตส่าห์ปลีกตัวพิมพ์ข้อความส่งมาให้กันว่าไม่ว่าง ไม่รู้แอปเปิ้ลจะได้รับรึเปล่า.. ใจจริงก็อยากจะโทรมาบอกเองเหมือนกัน แต่ถูกไอ้เพื่อนตัวแสบจ้องจะจับผิดอยู่เรื่อย แค่กระดิกนิ้วกดข้อความได้ก็นับว่าเก่งกาจมากแล้วนะเนี่ย
วันนี้ฉันไม่ได้ซัดแอลกอฮอล์เข้ากระแสเลือดมากมายอย่างที่ควรจะเป็น แถมจะมองไปทางไหนก็รู้สึกเบื่อไปหมด แสงสีมากมายไม่ได้ช่วยทำให้สมองตื่นตัว เสียงเพลงดังกระหึมไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกสนุกเหมือนทุกๆครั้ง สาวๆที่พากันสะบัดกายไปมาก็ไม่ได้ดูเย้ายวนน่าค้นหาอย่างที่ควรจะเป็น
ให้ตายสิ! หรือเราจะตายด้านไปแล้วจริงๆวะ...
ฉันสะบัดหน้าไปมาหลายครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อในความคิดของตัวเอง ก่อนจะเอื้อมมือจะไปกดสวิตช์ไฟที่ฝาฝนัง และทันทีที่ห้องทั้งห้องสว่างขึ้นฉันกลับยิ่งต้องสะบัดหน้าแรงขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ปรากฎอยู่ตรงหน้ากันในตอนนี้
โต๊ะกว้างเต็มไปด้วยอาหารมากมาย กลางโต๊ะมีเค้กช็อกโกแลตก้อนโตที่ดูผ่านๆก็รู้ว่าเจ้าก้อนนี้ไม่ได้ถูกถอยออกมาจากร้านเบเกอรี่ที่ไหนแน่ๆ.. แต่ปกติแอปเปิ้ลทำอาหารเป็นซะที่ไหนกัน.. เฮ้ย! นี่เธอตั้งใจทำมันเพื่อฉันหรอเนี่ย?
นั่นสิ.. ว่าทำไมหลายวันมานี้ถึงได้ยินเสียงดังออกมาจากในห้องครัวบ่อยๆ..
โอ้ยยยยยย ไอ้นท!! นึกอยากจะเอาหัวโขกกำแพงหลายๆทีที่ผิดสัญญากับแอปเปิ้ลอย่างไม่น่าให้อภัย ไม่คิดเลยว่าแค่ฉันสอบเสร็จเธอจะตระเตรียมอะไรไว้ให้กันมากขนาดนี้
"แอปเปิ้ล.." คำพูดเบาๆหลุดออกมาจากปากคล้ายคนไร้สติ ฉันยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองเบาๆ กระพริบตาถี่ๆหลายทีเพื่อเรียกสติคืนกลับมา ก่อนจะก็รีบวิ่งลนลานเข้าไปเปิดประตูห้องนอนของแอปเปิ้ลทันทีเมื่อสำนึกได้
.
ฉันค่อยๆเดินฝ่าความมืดสนิทของห้องที่เย็บเฉียบด้วยเครื่องปรับอากาศอย่างระมัดระวัง ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่หน้าเตียงนอนกว้างที่มีร่างบางๆนอนตะแคงเข้ามาหากัน
"แอปเปิ้ล พี่ขอโทษ.." สองขาทรุดตัวลงนั่งข้างๆเธอ เอ่ยปากกระซิบคำขอโทษเบาๆข้างใบหูคนที่กำลังนอนหลับตานิ่งอยู่บนนั้น ฉันยกมือขึ้นเกลี่ยปลายผมที่ตกลงมาปรกใบหน้าหวานอย่างเบามือ ก่อนจะรู้สึกได้ถึงการขยับเขยื้อนตัวอย่างแรงของคนบนเตียง
แอปเปิ้ลที่ฉันคิดว่าหลับไปแล้วพลิกตัวนอนตะแคงไปอีกข้างหนึ่งของเตียงนอน แถมยังยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงไว้ราวกับไม่อยากให้ฉันยุ่งกับเธออย่างนั้นแหละ
ฉันยันตัวขึ้นยืน เดินไปเปิดไฟ ก่อนจะกลับมานั่งใกล้ๆเธออีกครั้ง
"แอปเปิ้ล.. พี่ขอโทษ อย่าโกรธพี่เลยนะ.. เนี่ย.. พี่หิ๊วหิว ยังไม่ได้กินอะไรสักคำเลย ไปนั่งกินข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ" ฉันพูดพลางดึงผ้าห่มที่คลุมทั้งร่างของเธอไว้ลงมาให้พอเห็นใบหน้าหวานนั้นได้สะดวกขึ้น และทันทีที่ได้เห็นฉันก็แทบอยากจะยกมือขึ้นมาทึ้งหัวตัวเองให้ขาดไปซะจริงๆ
ภาพผู้หญิงที่กำลังนอนนิ่ง น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้างตรงหน้า ทำหัวใจของฉันเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก ไม่แน่ใจว่ามันเป็นเพราะความรู้สึกผิด หรือจริงๆแล้วมันมีอะไรที่มากกว่านั้นกันแน่..
"พี่นทโกหก.. กลิ่นเหล้ากับน้ำหอมติดเสื้อฟุ้งขนาดนี้ยังจะมาพูดอีก.." แอปเปิ้ลพูดเสียงสั่น ยกมือขึ้นปาดน้ำตาอย่างลวกๆ เนื้อความในประโยคเล่นเอาฉันต้องใช้มือจับเสื้อที่ใส่อยู่ขึ้นมาใกล้จมูก แล้วก็ต้องเบี่ยงหน้าหนีมันซะเอง
ถึงคืนนี้จะไม่ได้กินเหล้าอะไรมากมาย หรือว่าไปใกล้ชิดกับผู้หญิงคนไหน แต่สถานที่แบบนั้นก็ทำให้กลิ่นพวกนี้ติดมากับเสื้อผ้าได้ไม่ยากนัก
"ขอโทษนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะผิดสัญญา แต่ว่า.."
"ช่างมันเถอะค่ะ จริงๆแอปก็แค่คนเข้ามาขออยู่ด้วย พี่นทคงรำคาญจะแย่ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ พรุ่งนี้แอปว่าจะไปแล้วล่ะ" แอปเปิ้ลพูดพลางยกผ้าห่มขึ้นหมายจะพามันขึ้นไปปิดหน้าปิดตาอีกครั้ง แต่ก็ถูกฉันจับเอาไว้ก่อน
ฉันแตะตัวแอปเปิ้ลเบาๆ ก่อนจะค่อยๆประคองเธอขึ้นมานั่งคุยกันตรงๆเพื่อที่จะได้ปรับความเข้าใจกันได้ง่ายขึ้น แปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกันที่ต้องแคร์เด็กป่วนคนนี้ถึงขนาดนี้ แต่เมื่อกี้ที่เธอพูดว่าจะไปจากกันมันทำให้ใจหายอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ
"แอปเปิ้ล.. พี่น่ะ.. ปกติแล้วก็ไม่ชอบหรอกนะที่มีใครมาอยู่ด้วยแบบนี้.."
"…"
"แต่แอปรู้มั้ย.. ตั้งแต่แอปมาอยู่ด้วย พี่ต้องกลับมาคอนโดทุกวัน.. เรื่องผู้หญิงพี่ก็ไม่สนใจ เรื่องเที่ยวนี่ก็เหมือนกัน ถ้าเพื่อนพี่มันไม่คะยั้นคะยอให้ไปพี่ก็ไม่ได้อยากจะไปสักนิด.. ตอนแรกพี่ก็นึกว่าเป็นเพราะแอปที่เข้ามาวุ่นวายในชีวิต ทำให้พี่กลายเป็นแบบนี้.. แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่.. ที่พี่เปลี่ยนไปมันไม่ใช่เป็นเพราะแอปที่เข้ามาวุ่นวาย แต่เป็นเพราะพี่ชอบ.. พี่ชอบที่มีแอปอยู่ด้วยกันแบบนี้.."
"ขอโทษนะแอปเปิ้ล พี่ไม่ได้ตั้งใจทำให้แอปเสียใจ.. พี่ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้จริงๆ.." ฉันค่อยๆใช้มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าของแอปเปิ้ลมาประสานสายตากันตรงๆ แม้จะตอบตัวเองไม่ได้ว่าความรู้สึกประหลาดๆที่เต็มตื้นอยู่ในหัวใจตอนนี้มันคืออะไร แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าฉันชอบ.. ฉันชอบให้เธออยู่ใกล้ๆกันแบบนี้..
"พี่นท.." แอปเปิ้ลมองหน้ากัน รอยยิ้มบางๆที่ปรากฎขึ้นบนใบหน้าสวยเป็นยิ่งกว่าแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่ดึงดูดให้ฉันขยับเข้าใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งริมฝีปากของเราสัมผัสกันได้พอดี
ฉันค่อยๆประทับสัมผัสแผ่วเบานี้อย่างนุ่มนวลและอ่อนโยนที่สุด มันเป็นสัมผัสในแบบที่ฉันไม่เคยให้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน เธอคนนี้เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ฉันอยากจะทะนุถนอมไม่ให้เสียน้ำใจแม้สักนิด อยากจะค่อยๆละเลียดทุกความรู้สึกนี้ช้าๆ อยากจะเก็บเกี่ยวรสชาติความหอมหวานมากมายทีละน้อย ทีละน้อย..
แต่ก็เป็นเพราะผู้หญิงตรงหน้าคนนี้อีกนั้นแหละที่ทำให้ฉันหลงใหลเคลิบเคลิ้มได้มากมายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มันมากกว่าครั้งแรกที่เราจูบกันวันนั้นเสียอีก.. จูบคราวนี้ของเราทำให้หัวใจฉันเต้นถี่อย่างเร็วยิ่งกว่าการวิ่งรอบสนามสักสิบรอบ..
ฉันใช้มือจับใบหน้าของเธอเอาไว้เพื่อที่จะให้เรามอบสัมผัสนี้ให้กันและกันได้อย่างแนบแน่นมากขึ้น และทันทีที่ทำแบบนั้นร่างกายของฉันมันก็ร้อนขึ้นจนแทบทนไม่ไหว แอปเปิ้ลเป็นคนแรกที่ทำให้ฉันแทบคลั่งตายเพราะอารมณ์วาบหวามที่เริ่มประทุขึ้นมา..
เธอกำลังทำให้ฉันทรมานกับความร้อนรุ่มนี้ทั้งๆที่เธอแทบจะไม่ได้ทำอะไรสักนิด..
ฉันค่อยๆดันร่างบางลงไปนอนบนเตียงนุ่นนั้นอีกครั้ง.. ก่อนจะเลื่อนสัมผัสร้อนๆเปลี่ยนตำแหน่งไปยังซอกคอหอมกรุ่น แล้วประทับจูบอย่างหลงใหล จนกระทั่ง..
"เฮ้ย!! แอป!!!" ฉันเปิดเปลือกตาขึ้นในทันทีเมื่อรู้สึกถึงวัตถุตันๆที่คุ้นเคย คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยสัมผัสมันมาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนจะต้องกระโดดเด้งออกจากตัวเธออย่างตกใจสุดขีดเมื่อก้มลงไปเห็นเครื่องช็อตไฟฟ้าในมือเธอเต็มๆสองตา
ให้ตายสิ! ฉันลืมไอ้เครื่องบ้านี่ไปได้ยังไง! นี่แอปถึงขนาดพกมันไว้ข้างเตียงเลยหรอเนี่ย!!!
"หิวไม่ใช่หรอพี่นท! ไปนั่งรอข้างนอกเลย! เดี๋ยวแอปออกไปอุ่นกับข้าวให้ก่อน" แอปเปิ้ลพูดขึ้นอย่างเขินๆ ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงสดอย่างชัดเจน มือที่จับเครื่องช็อตไฟฟ้าถูกยกขึ้นมาข่มขู่กันแบบทีเล่นทีจริง เอิ่ม.. จริงๆแล้วจะออกแนวเขินกันเสียมากกว่า เห็นแบบนั้นมันทำให้ฉันเผลอระบายยิ้มออกมาในทันที
น่ารักจัง..
"ยิ้มอะไรเล่า!!" แอปเปิ้ลผลแดงยกมือขึ้นตีหัวไหล่กันอย่างแรง ก่อนจะก้มหน้างุดๆออกจากเตียง ยิ่งเห็นแบบนั้นมันยิ่งทำให้ฉันฉีกยิ้มกว้างมองตามเธอไปเรื่อยๆ
เพิ่งรู้ว่าแอปเปิ้ลเวลาเขินเนี่ย.. น่ารักซะไม่มี..
แต่แล้วอยู่ๆแอปเปิ้ลก็หยุดเดินทั้งๆที่ยังไม่ทันก้าวเท้าออกจากห้อง เธอหันหลังกลับและก้าวอย่างเร็วมาหาฉัน ก่อนจะประทับสัมผัสเบาๆที่ริมฝีปาก สัมผัสเบาๆแค่เสี้ยววินาทีก่อนที่เธอจะวิ่งหายออกจากห้องไปในทันที
ตอนนี้หัวใจมันเต้นแรงจนฉันยกมือขึ้นมาแตะขึ้นมาที่หน้าอกข้างซ้ายนั้นเบาๆ.. หรือมันจะถึงเวลาแล้วที่ฉันควรจะหยุดหัวใจดวงนี้ไว้ที่ใครสักคนอย่างจริงๆจังๆเสียที...
//////////////////////////////
มีคนบอกว่าอ่านฟิคเรื่องนี้แล้วอยากเป็นหมอด้วย โห ดีใจจัง ! แต่ก็มีคนบอกว่าอ่านแล้วไม่อยากเป็นหมอเหมือนกัน 555 แต่ว่าจริงๆแล้วไอ้ที่เสือนทเล่ามันยังไม่ได้เสี้ยวนึงของการเรียนหมอเลยมั้ง เพราะงั้นใครที่อ่านแล้วไม่อยากเป็นหมออย่าเพิ่งนะ! 55
ปล. จริงๆแล้วมันควรจะจบลงตรงนี้แหละ! แต่เราคิดว่าอาจจะต่อไปอีกสักนิด(ถ้าไม่ขี้เกียจ) เพราะมีคนขอไว้ (หร๊อออออ? 55)
ปล.2 ดูๆแล้วพี่เสือนทไม่ได้ตายด้านหรอกนะ.....
เสร็จแน่ๆเลย ต้องเสร็จแน่ๆเลย
ก็พนันกันได้เลยว่าผมต้องเสร็จคุณแน่ๆเลย
เพราะผมมันแพ้คนสวย..
;P
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น