ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : chapter 2 [2]
'ค่ะแม่ แอปสบายดี'
'ค่ะ แอปก็คิดถึงแม่นะคะ รักษาสุขภาพด้วยนะ'
ฉันกดวางสายจากแม่ ก่อนจะนั่งมองดูโทรศัพท์สีขาวราคาแพงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งได้มาจากยัยนักร้องขี้เก๊กเมื่อเที่ยงของวันนี้
.
.
.
"เอานี่" ยัยคุณนทยื่นโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ป้ายแดง ที่ยังนอนนิ่งอยู่ในกล่องสีขาวขนาดประมาณสามคูณห้านิ้วให้ฉัน
"ให้ฉันทำไมคะ?" ฉันถามเธอ ก็ที่ฉันต้องการคือโทรศัพท์เครื่องเก่าของฉันที่เธอเพิ่งจะยึดไปเมื่อคืนนั่นต่างหาก นึกแล้วยังเคืองไม่หาย ตอนแรกบอกเจ็บเท้าเดินไม่ไหว แต่พอฉันคุยโทรศัพท์ไปขัดหูเธอเข้าหน่อย ก็รีบปรี่มายึดโทรศัพท์ฉันไปเฉยเลย.. ยัยคนขี้เก๊ก ยัยนักร้องเอาแต่ใจ ไอ้คนไม่มีเหตุผลลลลลลลลลล!!!!! คอยดูนะ ถ้าทำอีก ฉันจะฟ้องกรมแรงงานนนน!!!
"ฉันทำโทรศัพท์เธอเสียไปแล้ว เมื่อกี้เดินผ่านร้านขายมือถือ เลยซื้อเครื่องนี้มาแทน" คนขี้เก๊กตอบหน้าตาย.. ทำโทรศัพท์เสีย?!?! โอ้ยยยยย คนบ้าอะไรเนี่ย!!
ฉันยืนตาค้างในคำตอบที่เธอทำเหมือนเป็นเรื่องสุดแสนจะธรรมดา ก่อนที่เธอจะยัดเยียดกล่องโทรศัพท์ใบนั้นใส่มือฉัน
"ฉันขอเครื่องเก่าคืนได้มั้ยคะ ฉันจะเอาไปซ่อมเอง" ฉันบอกเธอ ฉันอยากได้โทรศัพท์เครื่องเดิมของฉันคืนมากกว่า เครื่องนี้มันแพงเกินไปสำหรับฉัน มันแพงเกินไปที่ฉันจะรับมาจากเธอ
"ฉันโยนทิ้งไปแล้ว.. ใช้เครื่องนี้แหละ! อย่าเรื่องมากได้มั้ย!" เออะ .. โยนทิ้งไปแล้วววววววววว!!!!!
ฉันยืนตาค้างเป็นครั้งที่สอง นี่พวกคนรวยเขาเป็นกันแบบนี้ทุกคนรึปล่าวนะ โอ้ยยย ให้ตายสิ นี่ถ้าเป็นลูกเป็นหลาน แม่จะจับตีให้ก้นลายเลย คอยดู!
ยัยคุณนทหยิบกล่องโทรศัพท์จากมือฉันไปถือไว้อีกครั้ง เธอแกะกล่อง แล้วเลื่อนปลายนิ้วบนหน้าจอไปมาก่อนจะส่งมันกลับมาให้ฉันอีกที
"เลิกยืนแข็งทื่อเป็นก้อนหินซะที! ใช้นี่แหละ ฉันไปทำงานต่อแล้ว แค่บังเอิญผ่านมาแถวนี้เลยแวะเอาขึ้นมาให้" เธอบอกฉันแล้วเดินรีบๆออกไปจากห้อง ทิ้งฉันให้ยืนแข็งเป็นก้อนหินถูกสาปอย่างที่เธอว่าต่อไปอีกสักพักใหญ่
.
.
.
ฉันเลื่อนนิ้วบนหน้าจอ ก่อนจะเซฟเบอร์โทรศัพท์ของแม่ไว้ในcontacts เป็นอันว่า ตอนนี้ฉันมีสองหมายเลขที่เซฟไว้ในเครื่อง หนึ่งคือเบอร์ของแม่ที่ฉันเพิ่งจะเซฟลงไปเองเมื่อตะกี้.. เป็นเบอร์เดียวที่ฉันจำได้ขึ้นใจ.. สองคือเบอร์ของคนขี้เก๊กที่เธอเซฟให้ฉันเมื่อเที่ยง
หึ.. นี่กะจะไม่ให้ฉันได้ติดต่อสื่อสารกับชาวโลกเขาเลยรึไงยะ.. ไอ้คนขี้เก๊ก ยัยโหดเอ้ย!
ฉันเลื่อนดูหมายเลขสิบตัวของเธออีกครั้ง ก่อนจะเปลี่ยนชื่อcontact เสียใหม่จาก 'นท' ที่เธอเซฟไว้ให้ในครั้งแรกเป็น 'คนขี้เก๊ก'
ฉันนั่งอมยิ้มให้กับโทรศัพท์.. อืมมมม.. แบบนี้สิ เหมาะกว่าเยอะเลย..
.
.
เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น ฉันเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่ฝาผนัง.. แปลกจังเพิ่งจะสี่โมงครึ่ง ทำไมวันนี้ยัยคุณนทขี้เก๊กนี่กลับซะเร็วเชียว
"โหยยยยยยย พี่นท แอบซุกสาวไว้ในคอนโดด้วยหรอเนี่ยยยยย!!" ทันทีที่ฉันเปิดประตูห้อง เสียงใสที่ฟังไม่คุ้นหูก็ดังขึ้น
"แหมมมม ซิลว่าแล้วววว ทำไมไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามในห้อง ที่แท้ก็..." ผู้หญิงร่างท้วมยิ้มแปลกๆให้ฉัน ก่อนจะหันไปจ้องหน้าคนขี้เก๊กด้วยสายตาเป็นประกายอย่างมีความนัย
"บ้าน่าซิลวี่! ซุกสาวอะไร! พี่เป็นผู้หญิงนะ!!" ยัยคุณนทหน้าแดงแปร๊ด สาวเท้าอย่างเร็วเข้ามาในห้อง
"แล้วจะเขินทำไมพี่นท ฮ่าๆๆๆ ก็ซิลไม่รู้นี่.. เห็นเคยมีฟงมีแฟนกับเค้าซะที่ไหน ผู้ชายมาจีบก็ไม่สน ผู้หญิงมาอ่อยก็ไม่ชอบ.. แต่จะว่าไป คนนี้ส๊วยสวยนะพี่นท อิอิ" เธอพูดพลางเดินเข้ามาใกล้ฉัน พินิจพิจารณาใบหน้าฉันอยู่พักใหญ่จนฉันเริ่มชักจะเขินๆ ก่อนจะถือวิสาสะหมุนตัวฉันไปหนึ่งรอบ
"ซิลว่า... สวยขนาดนี้ให้เล่นเป็นนางเอก mv คู่กับพี่ตูมตามแทนพี่ดีมั้ยพี่นท พี่จะได้ไม่เสียอารมณ์เวลาถูกอิตาพี่ตูมตามฉวยโอกาสเอาไง" เธอหันไปพูดกับคนขี้เก๊กที่เดินเลี่ยงไปกินน้ำอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
"ไม่ต้อง!! หยุดคิดเลยซิลวี่!!!!" คนขี้เก๊กตะโกนเสียงดัง สาธุ ขอให้เส้นเสียงพัง ร้องเพลงไม่ได้ไปสองวัน
"แหมมมม มีหวงซะด้วย ฮ่าๆๆๆ" เอิ่ม... สองคนนี้นี่ปกติเค้าเล่นกันแบบนี้รึปล่าวนะ
"หวงบ้าอะไร ใครจะไปหวงยัยเปิ่นนี่! จะมาคุยงานไม่ใช่รึไง รอตรงนั้นแหละ เดี๋ยวพี่ไปหยิบงานในห้องก่อน" คนขี้เก๊กหน้าเปลี่ยนสีขึ้นมาอีกรอบ เธอพาร่างเล็กๆหายเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง.. เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ายัยคุณนทนี่ก็มีมุมขี้อายกับชาวบ้านเค้าเหมือนกัน นึกว่าดีแต่ปั้นหน้าขรึม กัดคนอื่นไปวันๆเสียอีก
.
.
"เธอชื่ออะไรหรอ" สาวร่างท้วมอารมณ์ดีจูงมือฉันมานั่งด้วยกันที่โซฟา ก่อนจะเอ่ยถามชื่อฉันพร้อมรอยยิ้มสดใส
"แอปเปิ้ลค่ะ เรียกแอปเฉยๆก็ได้" ฉันยิ้มตอบเธอ ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงที่อัธยาศัยดีแบบนี้จะสนิทชิดเชื้อกับคนอย่างยัยโหดนั่นได้..
"ฉันชื่อซิลวี่ เป็นผู้จัดการส่วนตัวของพี่นท เราน่าจะรุ่นเดียวกันนะแอปเปิ้ล ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ" เธอจับมือฉันเขย่าไปมาสองสามที ก่อนจะส่งรอยยิ้มสดใสให้ฉันอีกครั้ง
"แปลกนะ พี่นทน่ะไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัวของเธอนักหรอก รายนั้นน่ะติสท์แตก โลกส่วนตัวสูงปรี๊ดเชียว ขนาดฉันเป็นผู้จัดการส่วนตัวแท้ๆ ถ้าไม่ใช่เรื่องสำหลักสำคัญก็อย่าหวังจะมาเหยียบที่นี่ซะให้ยาก"
"หรอคะ.."
"อืม ฉันถึงแปลกใจที่เห็นแอปอยู่ที่นี่.. ที่สำคัญฉันไม่เคยเห็นพี่นทเค้าเขินใครแบบเมื่อกี้หรอก คนแบบนั้นเขินเป็นซะทีไหน.. สงสัย...พี่นทจะชอบแอปนะ.." ซิลวี่พูดพร้อมส่งรอยยิ้มแปลกๆให้ฉันอีกครั้ง ประโยคสุดท้ายของซิลวี่ทำใบหน้าฉันร้อนผ่าวขึ้นมาทันที.. ถึงฉันจะไม่ได้คิดอะไรกับพี่นทของเธอ แต่มันก็อดเขินกับสายตาและคำพูดที่ตรงไปตรงมาแบบนั้นไม่ได้
"ฉันหมายถึง.. ถูกชะตาน่ะ.. อิอิ" ซิลวี่รีบพูดแก้เมื่อเห็นว่าฉันนั่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก.. ให้ตายสิ! อย่าว่าแต่ถูกชะตาเลย ยัยขี้เก๊กนั่นเกลียดฉันยังกะอะไร
"พี่นทน่ะ ถึงจะเอาแต่ใจไปบ้าง ปากเสียมากไปหน่อย แถมยังชอบเต๊ะท่าว่าโหดนักหนา แต่จริงๆแล้วพี่นทเป็นคนดีมากๆเลยล่ะ ถ้าไม่ได้พี่นทป่านนี้ฉันก็คงนอนกินแกรบอยู่ส่วนไหนของโลกก็ไม่รู้.." ซิลวี่พูดด้วยน้ำเสียงและสายตาที่ชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง.. ความจริงแล้วฉันก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าคนขี้เก๊กคนนี้ จริงๆแล้วเป็นประเภทปากร้ายแต่ใจดี.. อยู่ด้วยกันมาหลายวันฉันก็พอจะดูออกว่าเธอไม่ได้ร้ายอย่างที่เธอพยายามจะแสดงออกมานักหรอก นั่นทำให้ฉันกล้าที่จะพูดคุยกับเธอได้มากขึ้น ก็ตอนแรกที่เจอกันเล่นวางมาดซะฉันหงอเลย ให้ตายเถอะ
"อะแฮ่ม! คุยอะไรกัน.. นินทาฉันอยู่รึปล่าวเนี่ย.." คนขี้เก๊กแกล้งกระแอมไอเสียงดัง ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวข้างๆฉัน แอบเห็นซิลวี่ส่งสายตาประหลาดให้เธอนิดหน่อยก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติเมื่อเห็นว่าฉันมองอยู่
"งั้นฉันขอตัวนะคะ" ฉันเห็นว่าคงไม่เหมาะที่จะอยู่ฟังพวกเธอคุยงานกัน ปล่อยให้คุยกันสองคนท่าจะดีกว่า
"ไม่ต้องหรอก นั่งด้วยกันนี่แหละ เรียนนิเทศมาไม่ใช่หรอ" คนขี้เก๊กจับมือฉันให้นั่งลงข้างๆเธออีกครั้ง สายตาเธอยังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คบนโต๊ะนั่นไม่กระพริบ
"เธอคิดว่าไง.." เธอหันหน้ามามองฉัน ก่อนจะเปิดประเด็นยิงคำถามใส่ฉันทันที และนั่นคือประโยคที่ถือเป็นการเริ่มต้นคุยงานในครั้งนี้.. พวกเราคุยงานกันอยู่หลายชั่วโมง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ฉันได้ใช้ความรู้ที่สู้อุตส่าห์เล่าเรียนมาถึงสี่ปีให้เป็นประโยชน์ เป็นครั้งแรกที่ยัยคุณนทนี่ตั้งใจฟังฉันพูดได้จนจบประโยค แถมยังมีท่าทีสนใจกับความคิดเห็นที่ฉันเสนอไปอีกด้วย และก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เห็นเธอในโหมดขึงขังตั้งอกตั้งใจกับงานตรงหน้า ผิดกับคนขี้เก๊กจอมกวนประสาทที่ฉันเจออยู่ทุกวันราวกับเป็นคนละคนกันอย่างนั้นแหละ
จะว่าไปเธอคนนี้คงมีอีกหลายมุมที่ฉันยังไม่เคยเห็น.. จริงๆแล้วคุณเป็นคนยังไงกันแน่นะคุณนท..
.
.
"เอาเป็นว่าแบบนี้แล้วกัน พรุ่งนี้เจอกันนะซิลวี่ กลับไปได้แล้ว" คนขี้เก๊กพูดพลางปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เอิ่ม... แต่ยัยนี่ไม่เคยเรียนมารยาทไทยบ้างรึไงนะ เสร็จงานปุ๊บก็ไล่แขกปั๊บ
"โหยยยยย พี่นท ไล่กันเลยหรอ ซิลหิวอะ ขอกินอะไรก่อนไม่ได้รึไง เนอะแอปเนอะ" ซิลวี่พูดพลางพาตัวมาเกาะแขนฉันไว้อย่างต้องการหาพรรคพวก สายตาที่ยัยขี้เก๊กส่งมาทางฉันทำเอาฉันรู้สึกร้อนๆหนาวๆแปลกๆ นี่ถ้าฉันเกิดเข้าข้างซิลวี่จะโดนไล่ตะเพิดไปอีกคนมั้ยเนี่ย
"หิวก็กลับไปกินที่บ้านสิ!" เออะ.. ยัยคนไม่มีมารยาท..
"แหนะ อยากอยู่กับแอปเปิ้ลสองคนอะดิ นานๆจะเลิกงานเร็วอยากอยู่กับแอปนานๆล่ะสิ ซิลรู้หรอก" ยัยคุณนทสำลักน้ำลายทันทีที่ซิลวี่พูดจบ หน้าขึ้นสีแดงสดราวกับใช้โปรแกรมโฟโต้ชอปช่วยแต่ง นั่นยิ่งทำให้ซิลวี่ได้ใจแกล้งเธอซะยกใหญ่..
"ก็ได้ๆๆ อยากจะอยู่อยากจะไปก็ตามใจแกแล้วกัน!" เธอตอบปัดๆพลางเดินหนีไปกินน้ำอีกครั้ง.. ให้ตายสิ ไม่อยากจะเชื่อ ยัยคุณนทนี่ขี้อายขนาดนี้เลยหรอเนี่ย!
"อร๊ายยย พี่นทใจดีจัง ไปเถอะแอป รีบไปทำอาหารกันดีกว่า โอ้ยยยย ซิลหิ๊วหิว" ซิลวี่ยิ้มร่า จูงมือฉันไปยังห้องครัวทันที
.
.
.
"แอป พรุ่งนี้ไปดูพี่นทถ่าย mv ด้วยกันมั้ย" ซิลวี่เอ่ยถามฉันขณะที่กำลังช่วยกันทำอาหารอยู่ในครัว
"แอปไปได้ด้วยหรอ" ถึงจะกลัวยัยคุณนทนั่นจะวีนแตกใส่ แต่ฉันก็ยังอยากไปอยู่ดี ฉันอยากจะไปดูการทำงานแบบนั้นจริงๆสักครั้งว่ามันเป็นยังไง ก็ฉันเรียนด้านนี้มาโดยตรง ยังไงฉันก็อยากจะได้เห็น อยากจะได้สัมผัสบ้าง สักครั้งก็ยังดี
"ได้สิ.. ก็แอปอุตส่าห์ช่วยพวกเรานี่นา ไปเถอะ ไม่มีใครว่าหรอก แค่บอกว่าแอปเป็นคนของพี่นทก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรแล้ว" ซิลวี่ยิ้มบอกฉัน คำว่า 'คนของพี่นท' ทำฉันรู้สึกแปลกๆนิดหน่อย แต่ช่างเถอะ จะเรียกฉันว่าอะไรก็ตามใจ ขอแค่ฉันได้ไปเห็นสักครั้งก็พอ.. ก็ฉันอยากไปนี่..
"ไม่มีใครว่า.. แต่ฉันนี่แหละจะว่า.." เสียงเย็นๆดังขึ้นมาจากด้านหลัง.. เอิ่ม.. ไม่รู้ว่ายัยคนขี้เก๊กนี่แอบมาฟังเราคุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมประโยคเมื่อกี้ก็ดับความหวังของฉันจนหมด... หึ อะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ แค่นี้ก็ไม่ได้!
"โหยยย พี่นท ให้แอปไปนะ แค่นี้เอง นะนะ แอปเรียนนิเทศมา ให้แอปไปดูเถอะ" ซิลวี่ที่แสนดีช่วยอ้อนยัยคนขี้เก๊กให้ฉัน แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สะทกสะท้านกับการกระทำนั่นสักนิด
"ไม่เอาหรอก ขืนให้ยัยเปิ่นนี่ไปด้วย เกิดทำงานพังขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ" เออะ.. ยัยขี้เก๊ก ยัยโหด ยัย... โอ้ยยยย กวนประสาทจริงๆ!
"พี่นทอะ! ใจร้าย! เอ๊ะ... หรือพี่นทไม่อยากให้แอปเจอพี่ตูมตาม.... แหนะ กลัวพี่ตามจะจีบแอปใช่มั้ย หวงแอปอะดิ๊...." เหมือนวันนี้ต่อมขี้อายของคนขี้เก๊กจะไวกว่าปกติ ถูกกระตุ้นนิดหน่อยก็หน้าแดงไม่หยุด.. แต่แบบนี้น่ารักกว่าตอนเก๊กโหดตั้งเยอะ.. เอ๊ะ หรือฉันจะเปลี่ยนชื่อใน contact จาก 'คนขี้เก๊ก' เป็น 'คนขี้อาย' ดีนะ.. อิอิ
"บ้า!! ไม่ใช่สักหน่อย" เธอตอบปัดพัลวัน ทำท่าจะเดินหายไปอีกครั้ง
"น้ำอยู่นี่พี่นท! ไม่ต้องเนียนหนีไปกินน้ำเลย.. ให้แอปไปเถอะ นะนะ แอปอยากไปจะตาย เนอะแอปเนอะ" ซิลวี่พูดพลางหันมาพยักเพยิดให้ฉันพยักหน้าตอบรับตามอย่างว่าง่าย ก่อนที่เธอจะเดินมากระซิบใส่หูฉันเบาๆว่าให้ฉันเดินไปอ้อนพี่นทสักหน่อย แป๊บเดียวเห็นผล..
เออะ... ฉันกลัวผลที่เธอว่าจะเป็นการถูกด่ากลับมาแรงๆสักทีสองทีมากกว่าน่ะสิ...
.
.
"เอ่อ.. ให้ฉันไปด้วยนะคะ ฉันอยากไปจริงๆนะ นะคะ นะคะ" ฉันลองทำตามที่ซิลวี่บอก ทำใจกล้าเดินเข้าไปหาคนขี้เก๊ก ยิ้มหวานให้เธอหนึ่งสเต็ป ก่อนจะลูบแขนเธอเบาๆไปมา ตอนนี้ให้ฉันลองอะไรถ้ามันไม่เหลือบ่ากว่าแรงฉันก็จะทำทั้งนั้น ทำไงได้.. ก็ฉันอยากไปจริงๆนี่นา
แต่ให้ตายสิ ทำแบบนี้แล้วรู้สึกเขินชะมัด! ก็ฉันเคยอ้อนใครแบบนี้ที่ไหนกัน.. เอิ่ม... ถ้าไม่นับพี่มุก.. พี่มุกแค่คนเดียว..
เฮ้อ.... ไม่รู้ทำไมพี่มุกต้องเข้ามาวนเวียนอยู่ในความคิดของฉันอยู่เรื่อยๆ ทั้งๆที่พยายามจะลืมตั้งหลายที.. แต่พอเผลอ ภาพวันเก่าๆของเราก็ฉายซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในสมองของฉันอยู่แบบนั้น ครั้งแล้วครั้งเล่า..
.
.
พี่มุกคะ.. ถ้าพี่จะหายไปจากชีวิตแอปแบบนี้น่ะ ช่วยคืนหัวใจกลับมาให้แอปสักทีสิ.. อย่าปล่อยให้แอปต้องทรมานกับการคิดถึงพี่อยู่ข้างเดียวแบบนี้เลย.. ได้โปรดเถอะ..
.
.
"เอ่อ.... อยากไปจริงๆหรอ" เสียงเบาๆของคนที่ฉันยืนลูบแขนไปมาเมื่อกี้ดึงฉันกลับมาสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง
"เอ่อ..... ถ้าเธออยากไปมากขนาดนั้น.. ฉันให้ไปก็ได้.."
"อะไรนะคะ??" เออะ เมื่อกี้ฉันได้ยินอะไรผิดรึปล่าวนะ ยัยขี้เก๊กนี่จะให้ฉันไปด้วยจริงๆหรอเนี่ย!!!
"หูหนวกรึไง.. ฉันบอกว่าให้เธอไปได้ แต่ถ้าเธอยังเซ้าซี้ฉันอยู่แบบนี้ฉันจะเปลี่ยนใจจริงๆด้วย!" เธอพูดเร็วๆ แล้วแกะมือฉันออก ก่อนจะยืนลูบลำคอไปมาอยู่แบบนั้นพักใหญ่
.
.
.
เออะ... นี่ตกลงที่เธอยอมให้ฉันไปนี่เพราะลูกอ้อนฉันเมื่อกี้รึปล่าวนะ... แต่ช่างเถอะ โอ้ยยยยยยย ดีใจจังเลยยยย!!!
/////////////////////////////////////
หรือเพลงแพ้ใจจะเป็นของน้องแอปเปิ่น.....??? พี่นทรีบๆละลายหัวใจน้องแอปเปิ้ลหน่อยเร้วววว มัวแต่เขินอยู่ได้!
'ค่ะ แอปก็คิดถึงแม่นะคะ รักษาสุขภาพด้วยนะ'
ฉันกดวางสายจากแม่ ก่อนจะนั่งมองดูโทรศัพท์สีขาวราคาแพงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งได้มาจากยัยนักร้องขี้เก๊กเมื่อเที่ยงของวันนี้
.
.
.
"เอานี่" ยัยคุณนทยื่นโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ป้ายแดง ที่ยังนอนนิ่งอยู่ในกล่องสีขาวขนาดประมาณสามคูณห้านิ้วให้ฉัน
"ให้ฉันทำไมคะ?" ฉันถามเธอ ก็ที่ฉันต้องการคือโทรศัพท์เครื่องเก่าของฉันที่เธอเพิ่งจะยึดไปเมื่อคืนนั่นต่างหาก นึกแล้วยังเคืองไม่หาย ตอนแรกบอกเจ็บเท้าเดินไม่ไหว แต่พอฉันคุยโทรศัพท์ไปขัดหูเธอเข้าหน่อย ก็รีบปรี่มายึดโทรศัพท์ฉันไปเฉยเลย.. ยัยคนขี้เก๊ก ยัยนักร้องเอาแต่ใจ ไอ้คนไม่มีเหตุผลลลลลลลลลล!!!!! คอยดูนะ ถ้าทำอีก ฉันจะฟ้องกรมแรงงานนนน!!!
"ฉันทำโทรศัพท์เธอเสียไปแล้ว เมื่อกี้เดินผ่านร้านขายมือถือ เลยซื้อเครื่องนี้มาแทน" คนขี้เก๊กตอบหน้าตาย.. ทำโทรศัพท์เสีย?!?! โอ้ยยยยย คนบ้าอะไรเนี่ย!!
ฉันยืนตาค้างในคำตอบที่เธอทำเหมือนเป็นเรื่องสุดแสนจะธรรมดา ก่อนที่เธอจะยัดเยียดกล่องโทรศัพท์ใบนั้นใส่มือฉัน
"ฉันขอเครื่องเก่าคืนได้มั้ยคะ ฉันจะเอาไปซ่อมเอง" ฉันบอกเธอ ฉันอยากได้โทรศัพท์เครื่องเดิมของฉันคืนมากกว่า เครื่องนี้มันแพงเกินไปสำหรับฉัน มันแพงเกินไปที่ฉันจะรับมาจากเธอ
"ฉันโยนทิ้งไปแล้ว.. ใช้เครื่องนี้แหละ! อย่าเรื่องมากได้มั้ย!" เออะ .. โยนทิ้งไปแล้วววววววววว!!!!!
ฉันยืนตาค้างเป็นครั้งที่สอง นี่พวกคนรวยเขาเป็นกันแบบนี้ทุกคนรึปล่าวนะ โอ้ยยย ให้ตายสิ นี่ถ้าเป็นลูกเป็นหลาน แม่จะจับตีให้ก้นลายเลย คอยดู!
ยัยคุณนทหยิบกล่องโทรศัพท์จากมือฉันไปถือไว้อีกครั้ง เธอแกะกล่อง แล้วเลื่อนปลายนิ้วบนหน้าจอไปมาก่อนจะส่งมันกลับมาให้ฉันอีกที
"เลิกยืนแข็งทื่อเป็นก้อนหินซะที! ใช้นี่แหละ ฉันไปทำงานต่อแล้ว แค่บังเอิญผ่านมาแถวนี้เลยแวะเอาขึ้นมาให้" เธอบอกฉันแล้วเดินรีบๆออกไปจากห้อง ทิ้งฉันให้ยืนแข็งเป็นก้อนหินถูกสาปอย่างที่เธอว่าต่อไปอีกสักพักใหญ่
.
.
.
ฉันเลื่อนนิ้วบนหน้าจอ ก่อนจะเซฟเบอร์โทรศัพท์ของแม่ไว้ในcontacts เป็นอันว่า ตอนนี้ฉันมีสองหมายเลขที่เซฟไว้ในเครื่อง หนึ่งคือเบอร์ของแม่ที่ฉันเพิ่งจะเซฟลงไปเองเมื่อตะกี้.. เป็นเบอร์เดียวที่ฉันจำได้ขึ้นใจ.. สองคือเบอร์ของคนขี้เก๊กที่เธอเซฟให้ฉันเมื่อเที่ยง
หึ.. นี่กะจะไม่ให้ฉันได้ติดต่อสื่อสารกับชาวโลกเขาเลยรึไงยะ.. ไอ้คนขี้เก๊ก ยัยโหดเอ้ย!
ฉันเลื่อนดูหมายเลขสิบตัวของเธออีกครั้ง ก่อนจะเปลี่ยนชื่อcontact เสียใหม่จาก 'นท' ที่เธอเซฟไว้ให้ในครั้งแรกเป็น 'คนขี้เก๊ก'
ฉันนั่งอมยิ้มให้กับโทรศัพท์.. อืมมมม.. แบบนี้สิ เหมาะกว่าเยอะเลย..
.
.
เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น ฉันเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่ฝาผนัง.. แปลกจังเพิ่งจะสี่โมงครึ่ง ทำไมวันนี้ยัยคุณนทขี้เก๊กนี่กลับซะเร็วเชียว
"โหยยยยยยย พี่นท แอบซุกสาวไว้ในคอนโดด้วยหรอเนี่ยยยยย!!" ทันทีที่ฉันเปิดประตูห้อง เสียงใสที่ฟังไม่คุ้นหูก็ดังขึ้น
"แหมมมม ซิลว่าแล้วววว ทำไมไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามในห้อง ที่แท้ก็..." ผู้หญิงร่างท้วมยิ้มแปลกๆให้ฉัน ก่อนจะหันไปจ้องหน้าคนขี้เก๊กด้วยสายตาเป็นประกายอย่างมีความนัย
"บ้าน่าซิลวี่! ซุกสาวอะไร! พี่เป็นผู้หญิงนะ!!" ยัยคุณนทหน้าแดงแปร๊ด สาวเท้าอย่างเร็วเข้ามาในห้อง
"แล้วจะเขินทำไมพี่นท ฮ่าๆๆๆ ก็ซิลไม่รู้นี่.. เห็นเคยมีฟงมีแฟนกับเค้าซะที่ไหน ผู้ชายมาจีบก็ไม่สน ผู้หญิงมาอ่อยก็ไม่ชอบ.. แต่จะว่าไป คนนี้ส๊วยสวยนะพี่นท อิอิ" เธอพูดพลางเดินเข้ามาใกล้ฉัน พินิจพิจารณาใบหน้าฉันอยู่พักใหญ่จนฉันเริ่มชักจะเขินๆ ก่อนจะถือวิสาสะหมุนตัวฉันไปหนึ่งรอบ
"ซิลว่า... สวยขนาดนี้ให้เล่นเป็นนางเอก mv คู่กับพี่ตูมตามแทนพี่ดีมั้ยพี่นท พี่จะได้ไม่เสียอารมณ์เวลาถูกอิตาพี่ตูมตามฉวยโอกาสเอาไง" เธอหันไปพูดกับคนขี้เก๊กที่เดินเลี่ยงไปกินน้ำอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
"ไม่ต้อง!! หยุดคิดเลยซิลวี่!!!!" คนขี้เก๊กตะโกนเสียงดัง สาธุ ขอให้เส้นเสียงพัง ร้องเพลงไม่ได้ไปสองวัน
"แหมมมม มีหวงซะด้วย ฮ่าๆๆๆ" เอิ่ม... สองคนนี้นี่ปกติเค้าเล่นกันแบบนี้รึปล่าวนะ
"หวงบ้าอะไร ใครจะไปหวงยัยเปิ่นนี่! จะมาคุยงานไม่ใช่รึไง รอตรงนั้นแหละ เดี๋ยวพี่ไปหยิบงานในห้องก่อน" คนขี้เก๊กหน้าเปลี่ยนสีขึ้นมาอีกรอบ เธอพาร่างเล็กๆหายเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง.. เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ายัยคุณนทนี่ก็มีมุมขี้อายกับชาวบ้านเค้าเหมือนกัน นึกว่าดีแต่ปั้นหน้าขรึม กัดคนอื่นไปวันๆเสียอีก
.
.
"เธอชื่ออะไรหรอ" สาวร่างท้วมอารมณ์ดีจูงมือฉันมานั่งด้วยกันที่โซฟา ก่อนจะเอ่ยถามชื่อฉันพร้อมรอยยิ้มสดใส
"แอปเปิ้ลค่ะ เรียกแอปเฉยๆก็ได้" ฉันยิ้มตอบเธอ ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงที่อัธยาศัยดีแบบนี้จะสนิทชิดเชื้อกับคนอย่างยัยโหดนั่นได้..
"ฉันชื่อซิลวี่ เป็นผู้จัดการส่วนตัวของพี่นท เราน่าจะรุ่นเดียวกันนะแอปเปิ้ล ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ" เธอจับมือฉันเขย่าไปมาสองสามที ก่อนจะส่งรอยยิ้มสดใสให้ฉันอีกครั้ง
"แปลกนะ พี่นทน่ะไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัวของเธอนักหรอก รายนั้นน่ะติสท์แตก โลกส่วนตัวสูงปรี๊ดเชียว ขนาดฉันเป็นผู้จัดการส่วนตัวแท้ๆ ถ้าไม่ใช่เรื่องสำหลักสำคัญก็อย่าหวังจะมาเหยียบที่นี่ซะให้ยาก"
"หรอคะ.."
"อืม ฉันถึงแปลกใจที่เห็นแอปอยู่ที่นี่.. ที่สำคัญฉันไม่เคยเห็นพี่นทเค้าเขินใครแบบเมื่อกี้หรอก คนแบบนั้นเขินเป็นซะทีไหน.. สงสัย...พี่นทจะชอบแอปนะ.." ซิลวี่พูดพร้อมส่งรอยยิ้มแปลกๆให้ฉันอีกครั้ง ประโยคสุดท้ายของซิลวี่ทำใบหน้าฉันร้อนผ่าวขึ้นมาทันที.. ถึงฉันจะไม่ได้คิดอะไรกับพี่นทของเธอ แต่มันก็อดเขินกับสายตาและคำพูดที่ตรงไปตรงมาแบบนั้นไม่ได้
"ฉันหมายถึง.. ถูกชะตาน่ะ.. อิอิ" ซิลวี่รีบพูดแก้เมื่อเห็นว่าฉันนั่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก.. ให้ตายสิ! อย่าว่าแต่ถูกชะตาเลย ยัยขี้เก๊กนั่นเกลียดฉันยังกะอะไร
"พี่นทน่ะ ถึงจะเอาแต่ใจไปบ้าง ปากเสียมากไปหน่อย แถมยังชอบเต๊ะท่าว่าโหดนักหนา แต่จริงๆแล้วพี่นทเป็นคนดีมากๆเลยล่ะ ถ้าไม่ได้พี่นทป่านนี้ฉันก็คงนอนกินแกรบอยู่ส่วนไหนของโลกก็ไม่รู้.." ซิลวี่พูดด้วยน้ำเสียงและสายตาที่ชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง.. ความจริงแล้วฉันก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าคนขี้เก๊กคนนี้ จริงๆแล้วเป็นประเภทปากร้ายแต่ใจดี.. อยู่ด้วยกันมาหลายวันฉันก็พอจะดูออกว่าเธอไม่ได้ร้ายอย่างที่เธอพยายามจะแสดงออกมานักหรอก นั่นทำให้ฉันกล้าที่จะพูดคุยกับเธอได้มากขึ้น ก็ตอนแรกที่เจอกันเล่นวางมาดซะฉันหงอเลย ให้ตายเถอะ
"อะแฮ่ม! คุยอะไรกัน.. นินทาฉันอยู่รึปล่าวเนี่ย.." คนขี้เก๊กแกล้งกระแอมไอเสียงดัง ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวข้างๆฉัน แอบเห็นซิลวี่ส่งสายตาประหลาดให้เธอนิดหน่อยก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติเมื่อเห็นว่าฉันมองอยู่
"งั้นฉันขอตัวนะคะ" ฉันเห็นว่าคงไม่เหมาะที่จะอยู่ฟังพวกเธอคุยงานกัน ปล่อยให้คุยกันสองคนท่าจะดีกว่า
"ไม่ต้องหรอก นั่งด้วยกันนี่แหละ เรียนนิเทศมาไม่ใช่หรอ" คนขี้เก๊กจับมือฉันให้นั่งลงข้างๆเธออีกครั้ง สายตาเธอยังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คบนโต๊ะนั่นไม่กระพริบ
"เธอคิดว่าไง.." เธอหันหน้ามามองฉัน ก่อนจะเปิดประเด็นยิงคำถามใส่ฉันทันที และนั่นคือประโยคที่ถือเป็นการเริ่มต้นคุยงานในครั้งนี้.. พวกเราคุยงานกันอยู่หลายชั่วโมง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ฉันได้ใช้ความรู้ที่สู้อุตส่าห์เล่าเรียนมาถึงสี่ปีให้เป็นประโยชน์ เป็นครั้งแรกที่ยัยคุณนทนี่ตั้งใจฟังฉันพูดได้จนจบประโยค แถมยังมีท่าทีสนใจกับความคิดเห็นที่ฉันเสนอไปอีกด้วย และก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เห็นเธอในโหมดขึงขังตั้งอกตั้งใจกับงานตรงหน้า ผิดกับคนขี้เก๊กจอมกวนประสาทที่ฉันเจออยู่ทุกวันราวกับเป็นคนละคนกันอย่างนั้นแหละ
จะว่าไปเธอคนนี้คงมีอีกหลายมุมที่ฉันยังไม่เคยเห็น.. จริงๆแล้วคุณเป็นคนยังไงกันแน่นะคุณนท..
.
.
"เอาเป็นว่าแบบนี้แล้วกัน พรุ่งนี้เจอกันนะซิลวี่ กลับไปได้แล้ว" คนขี้เก๊กพูดพลางปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เอิ่ม... แต่ยัยนี่ไม่เคยเรียนมารยาทไทยบ้างรึไงนะ เสร็จงานปุ๊บก็ไล่แขกปั๊บ
"โหยยยยย พี่นท ไล่กันเลยหรอ ซิลหิวอะ ขอกินอะไรก่อนไม่ได้รึไง เนอะแอปเนอะ" ซิลวี่พูดพลางพาตัวมาเกาะแขนฉันไว้อย่างต้องการหาพรรคพวก สายตาที่ยัยขี้เก๊กส่งมาทางฉันทำเอาฉันรู้สึกร้อนๆหนาวๆแปลกๆ นี่ถ้าฉันเกิดเข้าข้างซิลวี่จะโดนไล่ตะเพิดไปอีกคนมั้ยเนี่ย
"หิวก็กลับไปกินที่บ้านสิ!" เออะ.. ยัยคนไม่มีมารยาท..
"แหนะ อยากอยู่กับแอปเปิ้ลสองคนอะดิ นานๆจะเลิกงานเร็วอยากอยู่กับแอปนานๆล่ะสิ ซิลรู้หรอก" ยัยคุณนทสำลักน้ำลายทันทีที่ซิลวี่พูดจบ หน้าขึ้นสีแดงสดราวกับใช้โปรแกรมโฟโต้ชอปช่วยแต่ง นั่นยิ่งทำให้ซิลวี่ได้ใจแกล้งเธอซะยกใหญ่..
"ก็ได้ๆๆ อยากจะอยู่อยากจะไปก็ตามใจแกแล้วกัน!" เธอตอบปัดๆพลางเดินหนีไปกินน้ำอีกครั้ง.. ให้ตายสิ ไม่อยากจะเชื่อ ยัยคุณนทนี่ขี้อายขนาดนี้เลยหรอเนี่ย!
"อร๊ายยย พี่นทใจดีจัง ไปเถอะแอป รีบไปทำอาหารกันดีกว่า โอ้ยยยย ซิลหิ๊วหิว" ซิลวี่ยิ้มร่า จูงมือฉันไปยังห้องครัวทันที
.
.
.
"แอป พรุ่งนี้ไปดูพี่นทถ่าย mv ด้วยกันมั้ย" ซิลวี่เอ่ยถามฉันขณะที่กำลังช่วยกันทำอาหารอยู่ในครัว
"แอปไปได้ด้วยหรอ" ถึงจะกลัวยัยคุณนทนั่นจะวีนแตกใส่ แต่ฉันก็ยังอยากไปอยู่ดี ฉันอยากจะไปดูการทำงานแบบนั้นจริงๆสักครั้งว่ามันเป็นยังไง ก็ฉันเรียนด้านนี้มาโดยตรง ยังไงฉันก็อยากจะได้เห็น อยากจะได้สัมผัสบ้าง สักครั้งก็ยังดี
"ได้สิ.. ก็แอปอุตส่าห์ช่วยพวกเรานี่นา ไปเถอะ ไม่มีใครว่าหรอก แค่บอกว่าแอปเป็นคนของพี่นทก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรแล้ว" ซิลวี่ยิ้มบอกฉัน คำว่า 'คนของพี่นท' ทำฉันรู้สึกแปลกๆนิดหน่อย แต่ช่างเถอะ จะเรียกฉันว่าอะไรก็ตามใจ ขอแค่ฉันได้ไปเห็นสักครั้งก็พอ.. ก็ฉันอยากไปนี่..
"ไม่มีใครว่า.. แต่ฉันนี่แหละจะว่า.." เสียงเย็นๆดังขึ้นมาจากด้านหลัง.. เอิ่ม.. ไม่รู้ว่ายัยคนขี้เก๊กนี่แอบมาฟังเราคุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมประโยคเมื่อกี้ก็ดับความหวังของฉันจนหมด... หึ อะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ แค่นี้ก็ไม่ได้!
"โหยยย พี่นท ให้แอปไปนะ แค่นี้เอง นะนะ แอปเรียนนิเทศมา ให้แอปไปดูเถอะ" ซิลวี่ที่แสนดีช่วยอ้อนยัยคนขี้เก๊กให้ฉัน แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สะทกสะท้านกับการกระทำนั่นสักนิด
"ไม่เอาหรอก ขืนให้ยัยเปิ่นนี่ไปด้วย เกิดทำงานพังขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ" เออะ.. ยัยขี้เก๊ก ยัยโหด ยัย... โอ้ยยยย กวนประสาทจริงๆ!
"พี่นทอะ! ใจร้าย! เอ๊ะ... หรือพี่นทไม่อยากให้แอปเจอพี่ตูมตาม.... แหนะ กลัวพี่ตามจะจีบแอปใช่มั้ย หวงแอปอะดิ๊...." เหมือนวันนี้ต่อมขี้อายของคนขี้เก๊กจะไวกว่าปกติ ถูกกระตุ้นนิดหน่อยก็หน้าแดงไม่หยุด.. แต่แบบนี้น่ารักกว่าตอนเก๊กโหดตั้งเยอะ.. เอ๊ะ หรือฉันจะเปลี่ยนชื่อใน contact จาก 'คนขี้เก๊ก' เป็น 'คนขี้อาย' ดีนะ.. อิอิ
"บ้า!! ไม่ใช่สักหน่อย" เธอตอบปัดพัลวัน ทำท่าจะเดินหายไปอีกครั้ง
"น้ำอยู่นี่พี่นท! ไม่ต้องเนียนหนีไปกินน้ำเลย.. ให้แอปไปเถอะ นะนะ แอปอยากไปจะตาย เนอะแอปเนอะ" ซิลวี่พูดพลางหันมาพยักเพยิดให้ฉันพยักหน้าตอบรับตามอย่างว่าง่าย ก่อนที่เธอจะเดินมากระซิบใส่หูฉันเบาๆว่าให้ฉันเดินไปอ้อนพี่นทสักหน่อย แป๊บเดียวเห็นผล..
เออะ... ฉันกลัวผลที่เธอว่าจะเป็นการถูกด่ากลับมาแรงๆสักทีสองทีมากกว่าน่ะสิ...
.
.
"เอ่อ.. ให้ฉันไปด้วยนะคะ ฉันอยากไปจริงๆนะ นะคะ นะคะ" ฉันลองทำตามที่ซิลวี่บอก ทำใจกล้าเดินเข้าไปหาคนขี้เก๊ก ยิ้มหวานให้เธอหนึ่งสเต็ป ก่อนจะลูบแขนเธอเบาๆไปมา ตอนนี้ให้ฉันลองอะไรถ้ามันไม่เหลือบ่ากว่าแรงฉันก็จะทำทั้งนั้น ทำไงได้.. ก็ฉันอยากไปจริงๆนี่นา
แต่ให้ตายสิ ทำแบบนี้แล้วรู้สึกเขินชะมัด! ก็ฉันเคยอ้อนใครแบบนี้ที่ไหนกัน.. เอิ่ม... ถ้าไม่นับพี่มุก.. พี่มุกแค่คนเดียว..
เฮ้อ.... ไม่รู้ทำไมพี่มุกต้องเข้ามาวนเวียนอยู่ในความคิดของฉันอยู่เรื่อยๆ ทั้งๆที่พยายามจะลืมตั้งหลายที.. แต่พอเผลอ ภาพวันเก่าๆของเราก็ฉายซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในสมองของฉันอยู่แบบนั้น ครั้งแล้วครั้งเล่า..
.
.
พี่มุกคะ.. ถ้าพี่จะหายไปจากชีวิตแอปแบบนี้น่ะ ช่วยคืนหัวใจกลับมาให้แอปสักทีสิ.. อย่าปล่อยให้แอปต้องทรมานกับการคิดถึงพี่อยู่ข้างเดียวแบบนี้เลย.. ได้โปรดเถอะ..
.
.
"เอ่อ.... อยากไปจริงๆหรอ" เสียงเบาๆของคนที่ฉันยืนลูบแขนไปมาเมื่อกี้ดึงฉันกลับมาสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง
"เอ่อ..... ถ้าเธออยากไปมากขนาดนั้น.. ฉันให้ไปก็ได้.."
"อะไรนะคะ??" เออะ เมื่อกี้ฉันได้ยินอะไรผิดรึปล่าวนะ ยัยขี้เก๊กนี่จะให้ฉันไปด้วยจริงๆหรอเนี่ย!!!
"หูหนวกรึไง.. ฉันบอกว่าให้เธอไปได้ แต่ถ้าเธอยังเซ้าซี้ฉันอยู่แบบนี้ฉันจะเปลี่ยนใจจริงๆด้วย!" เธอพูดเร็วๆ แล้วแกะมือฉันออก ก่อนจะยืนลูบลำคอไปมาอยู่แบบนั้นพักใหญ่
.
.
.
เออะ... นี่ตกลงที่เธอยอมให้ฉันไปนี่เพราะลูกอ้อนฉันเมื่อกี้รึปล่าวนะ... แต่ช่างเถอะ โอ้ยยยยยยย ดีใจจังเลยยยย!!!
/////////////////////////////////////
หรือเพลงแพ้ใจจะเป็นของน้องแอปเปิ่น.....??? พี่นทรีบๆละลายหัวใจน้องแอปเปิ้ลหน่อยเร้วววว มัวแต่เขินอยู่ได้!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น