ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : MF :: Full stop [1] [NoteApp]
MF :: Full stop [1]
หมายเหตุ : ฟิคเรื่องนี้เป็นภาคก่อนจะมาเป็น Save my heart, Chart my life ..
แรงบันดาลใจ : ไม่มี แค่อยากแต่ง (แล้วจะบอกทำแมวน้ำอะไร?)
ปล. medium fic. (มันมีมั้ยเนี่ย?) เรื่องนี้จะเล่าจากมุมมองของนทเท่านั้นนะคะ.. ;p
....
ฉันกำลังนั่งอยู่ในห้องพักแพทย์เล็กๆประจำหอผู้ป่วยอายุรกรรมของโรงพยาบาลแพทย์แห่งหนึ่งใจกลางเมือง สองหูฟังเพลงจังหวะหนักๆจากเครื่องเล่น mp3 พลางโยกหัวไปมาตามท่วงทำนอง สองตาจับจ้องอยู่ที่ตำราแพทย์เล่มโตขนาดปาหัวคนแตก มือขวาจับปากกาขีดเขียนรายงานเคสผู้ป่วยในที่ได้รับมาลงบนกระดาษสีเหลืองสดใส มือซ้ายถือพัดลายยอดมนุษย์โบกไปโบกมา..
แหม.. ก็ห้องนี้มันร้อนนี่นา แอร์ก็ไม่มี พัดลมก็โดนพี่พยาบาลยึดไปเสียหมด..
เป็นนักเรียนแพทย์ก็อย่างนี้แหละ ไม่ว่าจะมีเหตุผลขนาดไหน ก็ไม่เคยเถียงชนะพี่พยาบาลได้สักครั้ง.. ก็ชื่อมันบอกอยู่นิเนอะ.. โรง'พยาบาล'
.
.
RRRRRRR RRRRRRR!
การสั่นไหวของอุปกรณ์สื่อสารบนโต๊ะ ทำฉันต้องแยกโสตประสาทพิเศษขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง ฉันปรายตาไปมองที่โทรศัพท์ชั่วครู่.. ชื่อของเจ้าของข้อความทำให้ฉันตัดสินใจวางพัดยอดมนุษย์ลง แล้วหยิบมือถือนั่นขึ้นมาดูแทน
'ตั้งใจทำงานนะคะพี่นท รักนะ >///<
น้องพลอย'
ภาพสาวน้อยน่ารัก เฟรชชี่วัยใส พ่วงดีกรีดาวคณะแพทย์มาด้วยอีกหนึ่งตำแหน่งลอยผุดขึ้นมาในสมองทันที.. ฉันกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย วางปากกาลง ก่อนจะใช้ปลายนิ้วแตะหน้าจอไปมาหลายที
'พี่นทรักน้องพลอยที่สุด คิดถึงนะคะคนดี >3<'
พอเลือกพิมพ์ข้อความที่ถูกใจได้ กำลังจะเลื่อนกดปุ่ม send อยู่รอมร่อ แต่แล้วนทด้านมืดก็เริ่มทำงานอีกครั้ง...
ไม่ๆ เอาแบบนี้ดีกว่า..
'รักที่สุด คิดถึงนะคะคนดี >3<'
ฉันตัดสินใจลบชื่อของสาวน้อยน่ารักคนนั้นทิ้งไป.. ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้รักเธอนะ.. ฉันรัก... แต่ความรักมันต้องเสียสละและรู้จักเผื่อแผ่ไปยังคนอื่นบ้างไม่ใช่หรือไง...
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฎขึ้นที่มุมปากอีกครั้ง ฉันแตะนิ้วเพิ่มจำนวน contacts ก่อนจะเลือกชื่อ หนูนา, พี่กวาง, พี่เต้ย, และ พี่แป้ง เพิ่มเข้าไปอีก 4 คน
อืมมมม แบบนี้สิ ค่อยคุ้มค่าเสียเวลาในการคิดข้อความหน่อย..
.
.
"นท พี่เด็นท์สายแกให้มาตามไปเจาะ hemoculture คุณป้าเตียงสามว่ะ" มุกเดินมาดึงหูฟังออกจากรูหู พูดเบาๆก่อนจะเดินมานั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ถัดไปไม่ไกลนัก
ฉันพยักหน้ารับคำสองสามที ลุกออกจากเก้าอี้แล้วเดินไปหยิบเสื้อกาวน์ยาวสำหรับนักเรียนแพทย์ปี 4 ที่วางพาดไว้บนกระเป๋า ก่อนจะตั้งท่าเดินออกไปเจาะเลือดผู้ป่วยตามที่แพทย์ประจำบ้านของสายตัวเองได้สั่งไว้
"เออนี่นท วันนี้รีบเคลียร์งานนะ ราตรีนี้ยังอีกยาวไกลนะเว้ย!" มุกตะโกนไล่หลังกันเสียงดัง ทำให้ฉันต้องหันหน้ากลับไปมองมันอีกครั้ง เห็นเจ้าเพื่อนหน้าใสกระตุกหางคิ้ว พร้อมส่งยิ้มแพรวพราวให้หนึ่งที ฉันจึงทำมือเป็นเครื่องหมายโอเคกลับไป
ก็รู้อยู่ว่าราตรีนี้ยังอีกยาวไกลที่มันหมายถึงน่ะคืออะไร.. และถ้าพวกคุณคิดว่ามันเป็นเรื่องการนั่งจมอยู่หน้าหนังสือกองโตอย่างที่นักเรียนแพทย์ที่ดีพึงกระทำล่ะก็.. ผิดถนัด..
.
.
.
เสียงดนตรีในจังหวะชวนโยกดังกระหึมไปทั่วทั้งบริเวณ ฉันหยิบน้ำสีอำพันจากแก้วดีไซน์เก๋ขึ้นกระดกเบาๆ พลางนั่งมองผู้คนมากมายขยับกายอย่างเร้าร้อนอยู่ท่ามกลางแสงไฟหลากสีที่สาดส่องไปมา เรือนร่างได้สัดส่วนในเสื้อผ้าน้อยชิ้นหลากหลายคนตรงหน้าเบียดกายโยกย้ายตามท่วงทำนอง ยิ่งดูยิ่งน่าหลงใหล.. บ้างก็หันมาขยิบตาให้กัน บ้างก็ชูแก้วใส่น้ำสีสันสดใสเชื้อเชิญกันอย่างไม่สงวนท่าที
ช่างเป็นภาพที่แตกต่างกับโรงพยาบาลราวกับอยู่กันคนละโลก.. บรรยากาศยามค่ำคืนนี้ทรงเสน่ห์ไปด้วยกลิ่นอายของคนเมือง.. เหล่าผีเสื้อราตรีมากมายต่างพากันกระพือปีกงดงามดูเย้ายวนน่ามองเป็นที่สุด
"นท! เฮ้ย ไอ้นท!!" เสียงแหลมแหกปากตะโกนเรียกชื่อฉันเสียงดัง แต่เป็นเพราะต้องต่อสู้กับเสียงดนตรีที่ดังกว่ากันหลายเท่าตัว ทำให้เสียงที่ผ่านกระทบเข้าหูของฉันเป็นเพียงความดังในขนาดปกติเท่านั้น
"อะไร!!" ฉันป้องปากตะโกนกลับไปบ้าง ปกติทุกครั้งที่มาสถานที่แบบนี้ ฉันกับเจ้าเพื่อนตัวแสบนี่ไม่ค่อยได้คุยกันเองสักเท่าไหร่.. ก็มันจ้องแต่จะคุยกับคนอื่นเสียมากกว่า...
"สามนาฬิกา" มุกส่งซิกสั้นๆ พลางพยักเพยิดหน้าไปที่ตำแหน่งสามนาฬิกา ให้ฉันได้มองตามไปทันที
ภาพสองสาวหุ่นเป๊ะในชุดเข้ารูปสีสด กำลังแข่งกันวาดลวดลายงดงามดุจนักเต้นมืออาชีพอยู่ในมุมเล็กๆที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว หญิงสาวหน้าตาดีที่มีออร่าเด่นชัดแม้จะมองจากระยะไกลดึงดูดความสนใจของฉันไปได้ไม่น้อย นับว่าไอ้มุกนี่ตาถึงมากทีเดียว
"คนซ้ายฉันขอ.." คำพูดที่สุดแสนจะเอาแต่ใจหลุดออกจากปากมุก มันไม่รอให้ฉันได้ตอบรับหรือปฏิเสธก็รีบร้อนพุ่งตัวเข้าไปยังฐานที่มั่นที่สองสาวนั่นยืนบิดกายไปมาในทันที
ฉันส่ายหน้าอย่างเอือมระอาเล็กน้อย.. เล็งไว้แล้วแท้ๆ ยังมีหน้าจะมาชวนกันอีก.. แต่พอได้มองไล่หลังตามเพื่อนตัวแสบที่ทำหน้าระรื่นเข้าไปทำความรู้จักอย่างเนียนๆในรูปแบบเฉพาะตัวก็ต้องแอบยกยิ้มขึ้นมา..
มุกตอนออกเริงร่าท่องราตรี ต่างกับมุกตอนเป็นนักเรียนแพทย์อย่างกับคนละคน ถ้าฉันไม่รู้จักกับมันมานาน อาจจะคิดว่ามุกคนนี้เป็นแฝดพี่หรือแฝดน้องของมุกนักเรียนแพทย์คนนั้นแน่ๆ
ฉันจับแก้วใสกระดกเข้าปากอีกครั้ง ไม่ได้ลุกขยับกายตามเพื่อนคู่ซี้ไป ไม่ใช่เพราะสาวอีกคนไม่สวย.. แต่ปกติแล้วฉันไม่ชอบเป็นฝ่ายเข้าหาเสียเท่าไหร่.. ถ้าไม่โดนจริงๆอ่ะนะ..
.
.
เวลาผ่านไปพักใหญ่จนเริ่มจะกรึ่มๆ ฉันนั่งพงกหัวโยกตัวไปมาเล็กน้อยตามจังหวะดนตรีอยู่สักพัก ก่อนจะเริ่มคิดได้ว่าปล่อยให้ไอ้เจ้าเพื่อนหน้าใสหายไปกับสาวสวยคนนั้นนานไปแล้วรึเปล่า.. พอคิดได้อย่างนั้นฉันก็เลยทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีด้วยการยันตัวลุกจากเก้าอี้เพื่อจะได้มองหามุกได้สะดวกขึ้น
ฉันหันรีหันขวาจนทั่วแต่ก็ไม่เจอ เลยต้องเพิ่มความพยายามอีกหน่อยด้วยการลองขยับเท้าก้าวเดินดูบ้าง
บริเวณกว้างดูแคบลงถนัดตาเมื่อเหล่าคนกลางคืนพากันสะบัดเรือนกายเต้นเร่าๆเบียดเสียดกันจนแทบไม่มีที่จะเดิน ฉันเบี่ยงตัวหลบผู้คนมากมาย พลางกวาดตามองหามุกเป็นระยะๆ จนกระทั่งสัมผัสได้ถึงการสั่นกระเทือนภายในกระเป๋ากางเกง..
'คืนนี้ฉันกลับเองนะ ไม่ต้องห่วง.. ขอให้มีความสุขนะเพื่อนรัก... ;P'
ข้อความไม่สั้นไม่ยาว แต่แฝงด้วยความหมายมากมายปรากฎขึ้นบนหน้าจอมือถือ ฉันกดปิด แล้วเก็บมันไว้ในกระเป๋าตามเดิม ก่อนจะบ่นกับตัวเองเบาๆ..
"ไอ้เพื่อนแสบ เจอสาวแล้วทิ้งกูทุกที!"
.
.
ฉันเดินมึนๆพร้อมกระเป๋าสะพายข้างอีกหนึ่งใบออกมาจากผับชื่อดัง ล้วงมือเข้าไปควานหาโทรศัพท์เพื่อโทรให้คนขับรถที่บ้านมารับกลับ.. คุณลุงคนขับรถที่สนิทกันยิ่งกว่าญาติพี่น้องบางคนเสียอีก.. ก็ลุงคนนี้ของฉันแกตามรับส่งฉันตั้งแต่เข้าโรงเรียนอนุบาล ยัน เข้าผับเข้าบาร์ เอิ่ม.. ไม่ใช่สิ.. เอาเป็นว่าแกรับส่งฉันตั้งแต่เพิ่งเริ่มอ้าปากพูดเป็นประโยคได้ไม่นาน จนถึงตอนนี้ที่จวนจะเป็นคุณหมอตามพ่อในอีกไม่กี่ปีอยู่แล้ว
ปกติเดี๋ยวนี้เวลาไปไหนมาไหน ฉันก็ไม่ต้องพึ่งพาลุงคนขับรถบ่อยๆเหมือนเมื่อก่อน แต่กับคืนแบบนี้เป็นข้อยกเว้น.. ก็เล่นดื่มไปซะเกินกฎหมายกำหนดขนาดนี้ ขืนเป่าเจ้าเครื่องนั่น ค่าแอลกอฮอล์คงสูงปรี๊ดเกิน 50 mg% อย่างไม่ต้องสงสัย หรือถ้ารอดด่านตรวจมาได้ ฉันอาจจะไม่รอดไปราวน์วอร์ดผู้ป่วยตอนเช้าก็เป็นได้
'ตุบ' เสียงมวลสารบางอย่างตกกระทบกับพื้นดังขึ้นใกล้ๆหู ฉันขยับหน้าหาต้นเสียงนั้นอย่างอัตโนมัติ ภาพตรงหน้าทำฉันชะงักไปสามวินาที ก่อนจะเปล่งเสียงอุทานดังอย่างตกใจ
"ฮะ เฮ้ย!!"
ฉันรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อประคองตัวหญิงสาวที่เพิ่งจะล้มลงกับพื้นด้วยจิตวิญญาณแพทย์เต็มเปี่ยม ก่อนจะมีจิตวิญญาณเสือเข้าแทรกแซงเมื่อเห็นว่าผู้หญิงหน้าตาดีโคตรๆคนนี้ยังขยับกาย เปล่งเสียงอ้อแอ้ไปมาได้อย่างปกติสุขดี
แหม... เกือบจะได้ผายปอดแล้วรึเปล่านะ...
"คุณๆ" ฉันเขย่าตัวเรียกหญิงสาวหน้าตาสวยหยดภายใต้ชุดเดรสสั้นสีส้มที่ดูร้อนแรงไม่หยอก เครื่องหน้าเป๊ะราวกับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของนักปั้นมือหนึ่งที่อยู่บนฟ้า ผิวขาวเนียนผุดผ่องคล้ายว่าทั้งชีวิตนี้ไม่เคยผ่านแดดผ่านลมมาก่อน จมูกโด่งได้รูป เรียวปากอิ่มสวยน่าจูบ เอิ่ม.. ไม่ใช่สิ..
ฉันว่าจริงๆถ้าเธอไม่แต่งซะเยอะแยะขนาดนี้ก็อาจจะดูน่ารักในอีกรูปแบบนึงไปเลยก็ได้.. แต่จะว่าไปแบบนี้ก็ดูน่ามองไม่น้อย จะติดก็เรื่องเดียว ไอ้กลิ่นแอลกอฮอล์เนี่ย! เธอกินหรือเธออาบมันเข้าไปเนี่ย แม่คุ๊ณณณณณณณ
เมาซะเละจนน่าอุ้มแบบนี้เพื่อนฝูงหายไปไหนหมดเนี่ย!
"คุณ เพื่อนอยู่ไหน เดี๋ยว ฉะ.. อุ๊บ!" ฉันเปิดปากถามถึงกลุ่มเพื่อนของเธอทันที ก็คิดว่าสวยๆแบบนี้ แต่งตัวซะจัดขนาดนี้ไม่น่าจะใจกล้ามาสถานที่อโคจรแบบนี้เพียงลำพัง แต่ไม่ทันทีฉันจะพูดจบประโยค แขนยาวๆพร้อมมือเรียวคู่สวยที่ฉันก็ไม่แน่ใจว่ามันขึ้นไปพาดอยู่บนต้นคอของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ อยู่ๆใบหน้าของฉันก็ถูกมือคู่นั้นโน้มดึงลงไปเบื้องล่าง ก่อนที่ริมฝีปากที่ยังขยับพูดจะถูกริมฝีปากของเธอแนบปิดไว้จนสนิท
เฮ้ยยยยยยย ! อะไรเนี่ยยยยยยยย !!!
ได้แค่ตะโกนดังอย่างตกตะลึงในใจ เพราะตอนนี้เสียงที่สามารถสร้างขึ้นมาได้เป็นเพียงแค่เสียงอู้อี้ๆในลำคอ ฟังไม่เป็นภาษา ก็คุณเธอเล่นประกบปากกันจนไม่เหลือช่องว่างให้เสียงใดๆเล็ดลอดแทรกผ่านขนาดนี้
ถึงตลอดชีวิตนี้จะเคยมีผู้หญิงหลายคนที่เป็นฝ่ายเริ่มอะไรแบบนี้กับฉันก่อน แต่นับว่าเธอคนนี้เป็นผู้หญิงคนแรกที่สามารถจู่โจ่มโดยที่ฉันยังไม่ทันจะได้ตั้งตัวสักนิด.. ก็เพิ่งเจอหน้ายังจะไม่ทันพ้นสี่ซ้าห้านาที ตั้งคำถามก็ยังไม่ทันจะได้คำตอบ แม่คุณก็ชิ่งเปิดเกมรุกเข้าสู้จนสมองมึนเบลอ ตั้งแผนรับมือแทบไม่ทัน
ลิ้นบางสอดแทรกเข้ามาหากันอย่างถือวิสาสะ รสชาติแอลกอฮอล์ชั้นดีแผ่ซ่าน หอมหวานคละคลุ้งปนกันอยู่ภายใน จนฉันทนไม่ไหวต้องปิดเปลือกตารับสัมผัสนั้นอย่างหลงใหล แต่ทันใดที่ลิ้นบางนั้นเริ่มขยับ ก็รู้สึกได้ถึงความอ่อนด้อยประสบการณ์แบบสุดๆ กะท่อนกะแท่น ไม่ประสีประสาราวกับคนไม่เคย.. รู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากให้เกมขาดช่วง จึงอาศัยจังหวะและชั้นเชิงที่เหนือกว่าหลายขุมไล่รุกจนเป็นฝ่ายคุมเกมนี้เสียเอง
ฉันใช้ปลายลิ้นอุ่นเข้าซอกซอนเก็บเกี่ยวทุกอณูความหวานนั้นอย่างคนโหยกระหาย รู้สึกเหมือนยิ่งได้ลิ้มลองมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่พอ ยิ่งอยากจะดูดกลืนทุกความหอมหวานภายในนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ แปลกใจตัวเอง.. ฉันว่าฉันไม่เคยคุมสติไม่ได้แบบนี้มาก่อน ทั้งๆที่คนสวยคนนี้ลีลารั้งท้ายผู้หญิงทุกคนที่ฉันเคยสานสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยซะไกล เรียกว่าทิ้งห่างกันหลายช่วงตัวก็ยังได้
เสียงครางเบาๆของหญิงสาวในอ้อมกอดดังขึ้นในลำคออย่างคนเคลิ้มฝัน สติสตางค์ที่ยังเหลืออยู่น้อยนิดของฉันในตอนนี้บอกกันว่า ถ้าต้องอยู่กับแม่ตัวอันตรายคนนี้ต่ออีกแค่ไม่กี่วินาที ฉันต้องทนไม่ไหวอุ้มเธอไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกันต่อที่ไหนสักแห่งแน่ๆ
.
.
"เอ่อ... คุณนทครับ.." เสียงแหบๆที่สุดแสนจะคุ้นหูดึงทุกความคิด ทุกจิตสำนึก ทุกๆอย่างที่ควรจะมี กระโจนเข้าใส่ร่างกันอย่างรวดเร็วทันที ฉันผละตัวออกจากใบหน้าสวยที่ตอนนี้กำลังปรือตาหวานหยาดเยิ้มมาให้กันจนหัวใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ
"นทปล่าวนะลุงอิน ยัยนี่เริ่ม!" ฉันเงยใบหน้าแดงๆขึ้นมามองหน้าลุงคนขับรถคนสนิท เปิดปากฟ้องคล้ายเด็กตัวเล็กๆ มันเป็นกิริยาที่ฉันมักจะทำกับคุณลุงคนนี้เสมอๆเวลาถูกจับผิดอะไรได้สักอย่าง เป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กยันโต.. นี่ลดลงเยอะแล้วนะ.. บางทีฉันก็คิดว่าฉันเจอหน้าแกบ่อยกว่าพ่อตัวเองที่มัวแต่หมกตัวอยู่ในโรงพยาบาลกับคลินิกแพทย์ทั้งวี่ทั้งวันเสียอีก
แต่ก็นะ ฉันก็ไม่ได้โกหกสักหน่อย.. ก็แม่คุณเป็นฝ่ายรุกฉันก่อนจริงๆนี่นา ถึงเธอจะเปลี่ยนแผนกลับเป็นฝ่ายตั้งรับเสียตั้งแต่ยังไม่ทันจะผ่านครึ่งแรกไปก็เหอะ!
ฉันก้มหน้าลงไปมองสาวสวยในอ้อมแขนอีกครั้ง หวังจะให้มาร่วมกันแสดงความรับผิดชอบ แต่คุณเธอก็ดันนอนหลับตาพริ้มชิ่งหนีกันไปอย่างคนมักง่ายสุดๆ!
เฮ้ย! ได้จูบของฉันไปแล้วคิดจะทิ้งกันง่ายๆแบบนี้เลยเรอะ! ตื่นมารับผิดร่วมกันก่อนเซ่!!!!
.
.
.
ฉันพาตัวขึ้นมานั่งที่เบาะหลังนุ่มของรถยนต์เงาวับสีดำเมทัลลิก หันมองคนข้างกายที่ตอนนี้กำลังหลับคอพับคออ่อนลงกับหัวไหล่ของฉันอย่างสบายอารมณ์.. ตอนแรกก็ว่าจะไม่พามาด้วยกันแล้วนะ แต่กลัวว่าขืนปล่อยสาวสวยแบบนี้นอนเมาแอ๋ไร้สติอยู่ตรงนั้นจะถูกเสือถูกตะเข้แถวนั้นมาคาบไปกินเสียก่อนที่เพื่อนของเจ้าหล่อนจะมาพบแน่ๆ
ยังไงซะ อยู่กับฉันก่อนสักคืนก็ยังปลอดภัยกว่าเยอะ... มั้ง...
"คืนนี้คุณนทจะให้ลุงพาไปส่งที่ไหนดีครับ บ้าน, หอพักนักเรียนแพทย์, หรือ.." ลุงอิน คนขับรถหน้าตาใจดีเอ่ยปากถามกันเบาๆ ยังไม่ทันจะพูดได้จบประโยคฉันก็ตัดสินใจขัดแกขึ้นมาก่อน
.
.
"คอนโด.. ลุงอินพานทไปส่งที่คอนโดแล้วกัน"
/////////////////////////////////
เสือนท!!!!
เรื่องนี้ตอนแรกแต่งมาเล่นๆ ตั้งใจจะทำเป็น SF แต่ไม่ไหว มันไม่สามารถจบลงในตอนเดียวได้จริงๆ -"-
ปล. ยังสงสัยอยู่ว่าไอ้ medium fic. นี่มันมีคนเรียกกันมั้ยนะ.. แต่ช่างเต๊อะ นิ่มว่ามันจะไม่ยาว ไม่น่าเกิน 5 ตอน ซึ่งก็เกินขอบเขตของคำว่า short fic. มาหน่อย เลยเรียกแบบนี้แระกัน 555
ปล.2 พี่เด๊นท์ = Resident แปลว่า แพทย์ประจำบ้าน ซึ่งไม่ได้หมายถึงแพทย์ที่รักษาตามบ้านแต่อย่างใด แต่หมายถึงแพทย์ที่มาเรียนต่อเฉพาะทางในโรงเรียนแพทย์ ซึ่งมักจะมีหน้าที่ดูแลน้องๆนักเรียนแพทย์ที่เพิ่งจะเริ่มฝึกงานในโรงพยาบาลไปในตัว
ส่วน hemoculture เป็นการเจาะเลือดเพื่อเอาไปเพาะเชื้อดูว่ามีการติดเชื้ออะไรรึเปล่า ส่วนใหญ่จะทำในคนป่วยที่มีไข้ขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ
และสุดท้าย ราวน์วอร์ด หรือ ward round หมายถึงการออกตรวจเยี่ยมผู้ป่วยในหอผู้ป่วยจ่ะ... ;)
อธิบายแระนะรอบนี้... (ศัพท์มันน้อยไง 555)
เมามากแล้วอย่างนี้ไม่ไหว ฉันว่าเธอไปพักก่อน
กลับไปนอน หาน้ำร้อนกินสักแก้วนึง
ส่วนตัวฉันกำลังดี ก็แค่พอตึงๆ
เป็นเพราะฉัน ไม่เมาเหล้า แต่เมารักกกก..
.
เธอ..
;)
กลับไปนอน หาน้ำร้อนกินสักแก้วนึง
ส่วนตัวฉันกำลังดี ก็แค่พอตึงๆ
เป็นเพราะฉัน ไม่เมาเหล้า แต่เมารักกกก..
.
เธอ..
;)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น