ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : chapter 1
ฉันกำลังนอนแผ่หลาอย่างคนหมดแรงอยู่บนโซฟาสีขาวขนาดยักษ์ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในมุมหนึ่งของห้องชุดสุดหรูราคาแพงหูฉี่ ณ คอนโดใหญ่ใจกลางกรุงแห่งหนึ่ง
กริ๊งงงงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงง !!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น รบกวนเช้าวันอาทิตย์ที่แสนสงบสุขของฉัน.. ใครกันนะโทรมาเอาตอนนี้ เมื่อวานฉันก็เพิ่งเสร็จจากการทัวร์คอนเสิร์ตต่างจังหวัดมาแท้ๆ กว่าจะหอบร่างมาถึงที่นี่ได้ก็ปาเข้าไปตีสาม ยังไม่ทันจะก้าวเท้าถึงห้องนอนก็ต้องมาสลบเหมือดอยู่บนโซฟานี่เสียก่อน คอยดูเถอะ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญ แม่จะเหวี่ยงกลับให้หงายเลย!
ฉันงัวเงีย กวาดมือขึ้นไปบนโต๊ะข้างๆกาย ควานหาเจ้าตัวกวนที่ปล่อยเสียงในคลื่นความถี่ที่แสนจะน่ารำคาญที่สุดในโลก แต่ทันทีที่ฉันหยิบมันขึ้นมาแนบหู ฉันก็ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่... บางที เสียงที่น่ารำคาญที่สุดในตอนนี้อาจจะไม่ใช่เสียงกริ๊งกร๊างของโทรศัพท์นี่ก็ได้...
'พี่นททททททททท!!!!' ปลายสายเปล่งเสียงแว้ดดัง จนฉันต้องเบี่ยงโทรศัพท์หนี เกรงว่าเส้นประสาทหูของฉันมันจะเสื่อมไปเสียก่อน
'โอ้ยยย เบาๆก็ได้ มีอะไรอีกยัยซิล' ฉันตอบกลับไปอย่างระอาเต็มทน ยัยรุ่นน้องร่างท้วมคนนี้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของฉันเองค่ะ เธอชื่อซิลวี่ เราสนิทกันมาก ความจริงแล้วเราเหมือนเป็นพี่เป็นน้องกันมากกว่าเพื่อนร่วมงาน แต่ก็นั่นแหละค่ะ ตอนนี้มันใช่เวลาที่ฉันจะมามีอารมณ์มาเม้ามอยกับเธอเสียเมื่อไหร่กันล่ะ
'เปิดทีวีเร็วพี่นท! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!!' ซิลวี่ยังคงแผดเสียงดังใส่ฉันเป็นชุด นี่ถ้าเธอคลานออกมาจากโทรศัพท์เครื่องนี้ได้ เธอคงทำไปแล้วแน่ๆ
'ทำไม? ประเทศไทยจะตกเป็นเมืองขึ้นเกาหลีใต้แล้วรึไง?'
'โอ้ยยยย พี่นท! ใช่เวลามาพูดเล่นมั้ยเนี่ย!!!!'
ฉันหยิบรีโมททีวี กดเปิดตามช่องที่ซิลวี่บอก.. เสียงแหลมๆของพิธีกรรายการกอสซิบดาราชื่อดังทำเอาฉันอยากจะยกมือขึ้นอุดหู.. ถ้าข่าวที่เธอกำลังรายงานอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องของฉันอ่ะนะ..
.
.
ปัญญาอ่อน! ไร้สาระที่สุด!! นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดทันทีที่แม่เหยี่ยวสาวหน้าตาพลาสติกนั่นเล่าข่าวปลอมๆจนจบ
.
.
'แล้วนี่พี่นทจะเอายังไงต่อ' ปลายสายดึงอารมณ์ของฉันกลับเข้าที่อีกครั้ง
'อะไร?' นั่นสิ จะให้ฉันทำอะไรล่ะ ออกไปแก้ข่าวว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรกับพี่แอมป์งั้นหรอ เรื่องอะไร เรื่องไร้สาระพรรค์นั้นทำไมคนอย่างนทต้องเสียเวลาไปใส่ใจด้วย ขี้เกียจโว้ย!
'นี่พี่นทไม่คิดจะทำอะไรอีกรึไง คราวพี่ตูมตามก็ทีนึงแล้ว ดีนะที่ไอ้พี่ตูมตามมันคาสโนว่า เปลี่ยนไปเป็นข่าวกับสาวอื่นซะก่อน ไม่งั้นนักข่าวเล่นพี่ไม่จบแน่ๆ.. แต่นี่กับพี่แอมป์มันเหมือนกันซะที่ไหน ใครๆก็มองว่าพี่แอมป์เป็นนักร้องนิสัยดี รอบนี้นักข่าวเล่นซะแรงเลยนะพี่ ถึงขนาดว่าพี่เอาพี่แอมป์มานอนกกถึงในคอนโด พี่นทไม่คิดจะทำอะไรเลยรึไง!'
ซิลวี่โวยวายใส่ฉันอย่างหัวเสีย.. แต่ฉันก็พอจะเข้าใจเธออ่ะนะ ก็เธอเป็นผู้จัดการส่วนตัวของฉัน พอมีข่าวฉาวแบบนี้จะให้เธอนิ่งเฉยอยู่ก็คงไม่ใช่
'งั้นแกอยากจะทำอะไรก็ตามใจแกแล้วกัน' ฉันตอบปัดๆ เอาเถอะ ถ้าพวกนักข่าวมาถามฉันก็จะตอบไปตามจริง จะเชื่อไม่เชื่อก็ตามใจ ฉันไม่แคร์อยู่แล้ว แต่อย่าให้ถึงขนาดต้องเปิดแถลงข่าวเลยนะ ฉันขี้เกียจนั่งปั้นหน้ายิ้มระรื่นต่อหน้าเหยี่ยวข่าวหลายสิบสำนัก.. แค่คิดก็เบื่อจะแย่
'ซิลล่ะเชื่อจริงๆ พี่นทนะพี่นท ไม่กังวลเลยรึไง.. เออจริงสิ หรือมันจะเป็นแผนของอิตาจูเนียร์ ผู้จัดการของทางนู่นนะ เห็นพี่นทดังหน่อยไม่ได้ นี่คิดจะเกาะพี่นทดังล่ะสิท่า... เฮ้ย หรือว่าไอ้พี่แอมป์หน้าเต้าหู้นั่นจะปล่อยข่าวเอง?!?! โอ้ยยยย ซิลว่าแล้ว เห็นสายตาพี่แอมป์ตอนมองพี่นทน่ะหวานเจี๊ยบเชียว อิตาพี่แอมป์มันต้องชอบพี่แน่ๆ!'
ฉันปล่อยให้ยัยซิลพล่ามอยู่ได้สักพัก ก่อนจะตัดสินใจวางโทรศัพท์ทิ้งไว้บนโต๊ะ.. ขอโทษนะซิลวี่.. คุยคนเดียวไปแล้วกันนะ.. พี่ขี้เกียจฟังเรื่องไร้สาระพวกนี้จริงๆ
ฉันตัดสินใจเดินสาวเท้าไปยังห้องครัว รู้สึกมึนหัวนิดหน่อย ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะถูกรบกวนเวลานอน หรือเป็นเพราะข่าวบ้าๆพวกนั้นกันแน่ ..
เช้าๆแบบนี้คงต้องพึ่งกาแฟดำเหมือนอย่างเคยสินะ..
.
.
.
"ขอโทษนะคะคุณนท พอดีฉันขึ้นรถเมล์ผิดสาย ต้องขอโทษด้วยจริงๆที่มาช้า" ฉันมองนักศึกษาฝึกงานหน้าตาดี กำลังยกมือขอโทษขอโพยฉันเป็นการใหญ่ มันก็น่าอยู่ล่ะ เป็นคนขอนัดฉันมาสัมภาษณ์แท้ๆ แต่ตัวเองดันมาสาย ปล่อยให้นท พยายางกูร นักร้องชื่อดังต้องมานั่งรออยู่ตั้งนานสองนาน.. นี่ถ้าเธอไม่ได้ฝึกงานอยู่กับบริษัทของพี่กวาง ญาติผู้พี่ของฉัน ฉันคงไม่ยอมเสียเวลาสักวินาทีมานั่งอยู่ตรงนี้แน่ๆ
แต่แปลกนะ ถ้าเป็นคนอื่น อย่าว่าแต่นักศึกษาฝึกงานธรรมดาเลย ต่อใหญ่ยิ่งใหญ่ไฮโซแค่ไหน ฉันก็เหวี่ยงได้ทั้งนั้น.. แปลกที่ฉันเห็นยัยนี่แล้วเหวี่ยงไม่ลง.. สงสัยเป็นเพราะท่าทีใสซื่อกับทรงผมกระเซอะกระเซิงนั่นแน่ๆ.. นี่คงขึ้นรถเมล์ผิดสาย แล้วต้องรีบต่อวินมอเตอร์ไซต์มาแหงๆ.. แค่นึกภาพก็ตลกจนโกรธไม่ลงเลยจริงๆ
"รู้ใช่มั้ยว่าเวลาของฉันแต่ละนาทีมันมีค่าขนาดไหน" ถึงในใจฉันจะขำกับสีหน้าและท่าทางของเธอ แต่จะให้คนอย่างนทยอมง่ายๆก็คงไม่ใช่ แกล้งวางมาดใส่ยัยเด็กหน้าใสนี่สักหน่อยแล้วกัน
หน้าสวยๆของเธอเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด นี่ขนาดฉันเพิ่งจะตีขรึมได้นิดหน่อย ยังไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่คนอย่างฉันสามารถทำได้เลยนะเนี่ย สงสัยยัยเด็กนี่จะอ่อนไหวเอาเสียมากๆ.. จะไหวมั้ยเนี่ยแม่คุ๊ณณณณ
ฉันมองเธอโน้มตัวขอโทษฉันที่นั่งนิ่งอยู่ตรงนี้ไปมาหลายที นี่ถ้าไม่อยู่ในคอฟฟี่ช็อป ฉันยังคิดอยู่เลยว่าแม่นี่จะก้มตัวลงไปกราบฉันเลยรึปล่าว... เธอขอโทษฉันอยู่นาน ก่อนที่จะเดินไปหยิบกาแฟดำที่ฉันสั่งไว้มาบริการฉันด้วยตัวเอง ดูจะทำเกินหน้าที่นักศึกษาฝึกงานไปเยอะเลย.. หรือว่าฉันจะแกล้งเธอมากไปหน่อยนะ..
ฉันอมยิ้มมองนักศึกษาฝึกงานที่ยืนหันหลังหยิบถ้วยกาแฟจากเค้าเตอร์หลังร้าน.. แค่คิดว่าพนักงานในร้านจะงงแค่ไหนที่มีสาวสวยมารับออเดอร์ทำตัวเป็นเด็กเสิร์ฟด้วยตัวเอง แค่นั้นฉันก็ขำจะแย่.. คนอะไรตลกชะมัด..
"นี่คะคุณนท กาแฟดำที่สั่ง"
"อืม วางไว้ตรงนั้นแหละ" ฉันเอ่ยเสียงเรียบไม่ได้หันขึ้นไปมองหน้าเธอ.. ไม่ใช่อะไรหรอก ฉันกลัวว่าถ้าฉันมองหน้าเธอแล้วจะหลุดยิ้มออกมา เสียฟอร์มแย่
"ว้ายยยย!/เฮ้ยยยยย!" เราอุทานเสียงดังขึ้นมาพร้อมกัน จะไม่ให้ฉันตกใจได้ยังไง ก็ยัยเด็กฝึกงานนี่ดันซุ่มซ่ามสะดุดขาตัวเองล้มมาชนฉัน และที่สำคัญที่สุด ไอ้กาแฟดำนั่นก็ดันหกมาเลอะเสื้อฉันจนเปียกไปหมด!
โอ้ยยยยยย ยัยเด็กบ้า!!!!
ฉันชักสีหน้าขึ้นมาทันที ก็เสื้อตัวนี้น่ะ เงินเดือนทั้งเดือนของเธอยังจ่ายไม่ได้แม้กระทั่งปกเสื้อเลย ยัยเปิ่นเอ้ยยยย!!!
"ขอโทษค่ะๆ" นักศึกษาจอมเปิ่นกล่าวขอโทษเป็นรอบที่ร้อยของวัน ก่อนจะหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าสีส้มสดใสจากกระเป๋ามาเช็ดเสื้อให้ฉัน
เออเว้ย... แกต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆยัยนท ทั้งๆที่ยัยนี่เปิ่นจนน่าเหวี่ยงขนาดนี้ แต่แค่ฉันเห็นท่าทีหงอยๆของเธอ ก็ทำเอาอารมณ์ร้อนๆของฉันหายไปหมด... สงสัยยัยเด็กนี่จะซื่อเกินกว่าที่ฉันจะโกรธเธอลงล่ะมั้ง
ฉันมองเธอบรรจงเช็ดเสื้อให้ฉันอย่างเบามือ.. สวยจัง.. สวยกว่าดาราดังๆบางคนซะอีก.. พอได้มองหน้าเธอใกล้ๆก็ทำฉันแทบละสายตาไปที่อื่นไม่ได้.. หัวใจมันเต้นเป็นจังหวะแปลกๆพิกล.. ยัยเด็กนี่หน้าตาดีจริงๆ เนื้อผิวเนียนละเอียด แก้มขาวอมชมพูอย่างคนสุขภาพดี จมูกโด่งได้รูปรับกับปากแดงเป็นกระจับ ดวงตาคมสวย ไม่ได้โตมากมายแต่กลับดูน่าค้นหาได้อย่างประหลาด.. เสียดายที่ซื่อบื่อไปหน่อย นี่ถ้าจับแต่งอีกนิดปั้นเป็นดาราคงดังแน่ๆ หน้าตาแบบนี้เป็นนางเอกได้สบายๆ.. เอ๊ะ หรือจะเป็นนางแบบดีนะ จะว่าไปยัยนี่ก็หุ่นดีใช่ย่อย..
"เฮ้ย! ตรงนั้นไม่ต้อง!!!" ยัยเด็กนี่ทำฉันละสายตาจากใบหน้าสวยๆของเธอมาให้ความสนใจกับเสื้อผ้าของฉันอีกครั้ง เมื่อเธอพยายามที่จะเอื้อมมือลงมาเช็ดที่บริเวณ เอิ่ม.. หน้าอกของฉัน..
โอ้ยยยยยย ยัยเด็กบ้าเอ้ยยยยยย!!!
.
.
ในที่สุดการสัมภาษณ์ที่เหนื่อยที่สุดในชีวิตฉันก็ผ่านไปได้ซะที.. เธอเอ่ยถ้อยคำลาอย่างสุภาพ ก่อนจะเดินจากไป ว่าแต่.. ฉันยังไม่รู้ชื่อเธอเลยนี่นา.. เอ่อ.. แล้วแกจะอยากรู้ไปทำไมยะยัยนท!!
ฉันลุกขึ้นยืน ตั้งใจว่าจะเดินจากไปบ้าง แต่เอ๊ะ... นี่มัน.. บัตรนักศึกษาของยัยเปิ่นนี่หว่า นี่เผลอทำหล่นอีกล่ะสิ โอ้ยยยย ซุ่มซ่ามจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายจริงๆ
'อิษฎ์อาณิก อินทรสูต' ชื่อแปลกดีจัง... จะทิ้งไว้ที่นี่หรือเก็บเอาไปให้ดีนะ... ทิ้งไว้ที่นี่แล้วกัน เรื่องอะไรคนอย่างฉันต้องเสียเวลาเดินไปหายัยเด็กนั่นด้วยล่ะ.. คิดได้อย่างนั้น ฉันก็ตัดสินใจก้าวเท้าออกจากร้าน..
เอิ่ม... แต่ขืนทิ้งไว้ ยัยเปิ่นนั่นกว่าจะรู้ตัวว่าทำหายคงผ่านไปชาติกว่าแล้วมั้ง
.
.
"เดี๋ยว! ยัยเปิ่น!!" ฉันตะโกนเรียกพลางบีบแตรรถสปอร์ตสุดหรูไล่หลังนักศึกษาฝึกงานร่างบางที่กำลังเดินหอบแฟ้มงานมากมาย เอิ่ม.. ดูน่าสงสารพิกล..
คนที่ชื่อว่าอิษฎ์อาณิกหันหลังมามองอย่างเคืองๆนิดหน่อย ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติเมื่อเห็นว่าฉันเป็นคนเรียกเธอ
"เอานี่.. โก๊ะได้โล่ขนาดนี้ พี่กวางรับเธอมาฝึกงานได้ยังไงนะ" ฉันยื่นบัตรนักศึกษาใส่มือเธอ ก่อนจะเหยียบคันเร่งผ่านหน้าเธอไป..
ฉันเกือบจะออกไปจากที่นี่ได้แล้วเชียว ถ้าไม่เผลอเหลือบไปมองเห็นยัยเปิ่นโก๊ะนั่นก้มลงเก็บแฟ้มพะรุงพะรังที่เธอคงทำตกพื้นเมื่อตะกี้ โอ้ยยยยย ให้ตายสิ!!
"ขึ้นมานี่ จะไปไหน ฉันไปส่ง!" ฉันเข้าเกียร์ถอยหลังกลับมาหาเธออีกครั้ง ก่อนจะเปิดประตูรถและดึงตัวเธอเข้ามาอยู่ในรถทันที ไม่ได้รอให้เธอตอบรับหรือปฏิเสธ
ฉันเห็นเธอนั่งอ้ำๆอึ้งๆปนอาการงงๆอยู่นานกว่าจะยอมปริปากบอกจุดหมายปลายทางที่เธอต้องการจะไป.. ฉันขับรถมาส่งเธอที่หอพักเล็กๆแห่งนึง สภาพตึกดูเก่ามากจริงๆ แถมซอยเข้าหอนั่นก็เล็กจนฉันเกือบจะเปลี่ยนใจถอยหลังกลับ ก็กลัวว่ารถคันงามของฉันมันจะไปขูดขีดกับอะไรข้างทางจนเกิดแผลขึ้นมา แต่พอหันไปเห็นหน้าใสๆของคนที่นั่งอยู่ข้างๆกัน ฉันก็ยอมขับรถเข้าไปตามทางที่เธอบอกจนมาหยุดอยู่ที่หน้าหอพักเธอนี่แหละ
"ขอบคุณนะคะคุณนท" เธอยิ้มหวานบอกฉัน.. เอ่อ.. ให้ตายสิ ฉันไม่ชอบจังหวะหัวใจของฉันในตอนนี้เลยจริงๆ.. มันเหมือนเป็นอะไรที่ฉันควบคุมไม่ได้.. เป็นบ้าอะไรเนี่ย
ฉันพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนที่จะมองแผ่นหลังของผู้หญิงคนแรก ที่เปลี่ยนจังหวะการเต้นของหัวใจของฉันได้อย่างไม่รู้เหตุผลคนนั้นเดินจากฉันไปช้าๆ
"เดี๋ยวคุณ.." ฉันเรียกเธอเบาๆ แต่มันก็ทำให้เธอหันหลังกลับมามองฉันได้.. ฉันหยิบนามบัตรของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะเขียนที่อยู่ของฉันเอาไว้ด้านหลัง
"อะนี่.. ถ้าเรียนจบแล้วหางานไม่ได้ อยากจะมาทำงานให้ฉันก็ได้นะ.. เปิ่นๆแบบเธอคงหางานยากน่าดู" ฉันยื่นนามบัตรแผ่นนั้นให้เธอทันที เอิ่ม... นี่ถ้าเธอเป็นผู้ชาย คงคิดว่าฉันอ่อยน่าดู แต่เธอเป็นผู้หญิงนี่นา ฉันไม่ผิดสักหน่อยที่จะทำแบบนี้ ถึงจะแปลกใจตัวเองอยู่นิดหน่อยที่ใจกล้าให้ที่อยู่เธอไปแบบนั้น ดูจะไม่ใช่วิสัยของคนอย่างฉันเอาเสียเลย แต่ก็เอาเถอะ ฉันรู้สึกถูกชะตากับยัยเปิ่นโก๊ะนี่ยังไงก็ไม่รู้ อีกอย่าง ขืนปล่อยให้เธอทำงานที่อื่นคงได้ทำบริษัทเค้าเจ๊งแน่ๆ
.
.
.
ฉันยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบช้าๆ.. แปลกนะ ผ่านมาตั้งปีนึงแล้วฉันยังจำเรื่องคราวนั้นได้ขึ้นใจ.. ป่านนี้ยัยเปิ่นนั้นคงเรียนจบแล้วสินะ..
ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเดินเตะฝุ่นหางานอยู่แถวไหน.. แล้วถ้ายัยนั่นเกิดทะลึ่งมาหาฉันเข้าจริงๆ ฉันจะทำยังไงล่ะเนี่ย ตอนนี้ก็ดันมีซิลวี่อยู่แล้วด้วยสิ...
เอ้ยย บ้าน่ายัยนท ยัยเด็กนั่นป่านนี้คงทิ้งนามบัตรเราไปนานแล้ว... ฉันสบัดหัวไปมาไล่ความคิดบ้าๆออกจากสมอง
.
.
เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น ทำให้ฉันต้องวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะเบาๆ ก่อนจะค่อยๆเดินนวยนาถไปเปิดประตูห้อง.. อะไรนักหนานะเช้านี่.. ยัยซิลวี่ก็คนนึงแล้ว นี่ใครอีกล่ะเนี่ย น่ารำคาญจริงเชียว!
.
.
.
"เฮ้ย! เธอ!!!!"
//////////////////////////////////////
พี่นทช่าง..... ไม่เหลือคราบพี่นทที่แสนดีคนเดิมในฟิค ณ บัดนี้ฯ เลยจริงๆ.......
เห็ดอยากได้ตบจูบมั้ย???? 555
กริ๊งงงงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงง !!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น รบกวนเช้าวันอาทิตย์ที่แสนสงบสุขของฉัน.. ใครกันนะโทรมาเอาตอนนี้ เมื่อวานฉันก็เพิ่งเสร็จจากการทัวร์คอนเสิร์ตต่างจังหวัดมาแท้ๆ กว่าจะหอบร่างมาถึงที่นี่ได้ก็ปาเข้าไปตีสาม ยังไม่ทันจะก้าวเท้าถึงห้องนอนก็ต้องมาสลบเหมือดอยู่บนโซฟานี่เสียก่อน คอยดูเถอะ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญ แม่จะเหวี่ยงกลับให้หงายเลย!
ฉันงัวเงีย กวาดมือขึ้นไปบนโต๊ะข้างๆกาย ควานหาเจ้าตัวกวนที่ปล่อยเสียงในคลื่นความถี่ที่แสนจะน่ารำคาญที่สุดในโลก แต่ทันทีที่ฉันหยิบมันขึ้นมาแนบหู ฉันก็ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่... บางที เสียงที่น่ารำคาญที่สุดในตอนนี้อาจจะไม่ใช่เสียงกริ๊งกร๊างของโทรศัพท์นี่ก็ได้...
'พี่นททททททททท!!!!' ปลายสายเปล่งเสียงแว้ดดัง จนฉันต้องเบี่ยงโทรศัพท์หนี เกรงว่าเส้นประสาทหูของฉันมันจะเสื่อมไปเสียก่อน
'โอ้ยยย เบาๆก็ได้ มีอะไรอีกยัยซิล' ฉันตอบกลับไปอย่างระอาเต็มทน ยัยรุ่นน้องร่างท้วมคนนี้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของฉันเองค่ะ เธอชื่อซิลวี่ เราสนิทกันมาก ความจริงแล้วเราเหมือนเป็นพี่เป็นน้องกันมากกว่าเพื่อนร่วมงาน แต่ก็นั่นแหละค่ะ ตอนนี้มันใช่เวลาที่ฉันจะมามีอารมณ์มาเม้ามอยกับเธอเสียเมื่อไหร่กันล่ะ
'เปิดทีวีเร็วพี่นท! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!!' ซิลวี่ยังคงแผดเสียงดังใส่ฉันเป็นชุด นี่ถ้าเธอคลานออกมาจากโทรศัพท์เครื่องนี้ได้ เธอคงทำไปแล้วแน่ๆ
'ทำไม? ประเทศไทยจะตกเป็นเมืองขึ้นเกาหลีใต้แล้วรึไง?'
'โอ้ยยยย พี่นท! ใช่เวลามาพูดเล่นมั้ยเนี่ย!!!!'
ฉันหยิบรีโมททีวี กดเปิดตามช่องที่ซิลวี่บอก.. เสียงแหลมๆของพิธีกรรายการกอสซิบดาราชื่อดังทำเอาฉันอยากจะยกมือขึ้นอุดหู.. ถ้าข่าวที่เธอกำลังรายงานอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องของฉันอ่ะนะ..
.
.
ปัญญาอ่อน! ไร้สาระที่สุด!! นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดทันทีที่แม่เหยี่ยวสาวหน้าตาพลาสติกนั่นเล่าข่าวปลอมๆจนจบ
.
.
'แล้วนี่พี่นทจะเอายังไงต่อ' ปลายสายดึงอารมณ์ของฉันกลับเข้าที่อีกครั้ง
'อะไร?' นั่นสิ จะให้ฉันทำอะไรล่ะ ออกไปแก้ข่าวว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรกับพี่แอมป์งั้นหรอ เรื่องอะไร เรื่องไร้สาระพรรค์นั้นทำไมคนอย่างนทต้องเสียเวลาไปใส่ใจด้วย ขี้เกียจโว้ย!
'นี่พี่นทไม่คิดจะทำอะไรอีกรึไง คราวพี่ตูมตามก็ทีนึงแล้ว ดีนะที่ไอ้พี่ตูมตามมันคาสโนว่า เปลี่ยนไปเป็นข่าวกับสาวอื่นซะก่อน ไม่งั้นนักข่าวเล่นพี่ไม่จบแน่ๆ.. แต่นี่กับพี่แอมป์มันเหมือนกันซะที่ไหน ใครๆก็มองว่าพี่แอมป์เป็นนักร้องนิสัยดี รอบนี้นักข่าวเล่นซะแรงเลยนะพี่ ถึงขนาดว่าพี่เอาพี่แอมป์มานอนกกถึงในคอนโด พี่นทไม่คิดจะทำอะไรเลยรึไง!'
ซิลวี่โวยวายใส่ฉันอย่างหัวเสีย.. แต่ฉันก็พอจะเข้าใจเธออ่ะนะ ก็เธอเป็นผู้จัดการส่วนตัวของฉัน พอมีข่าวฉาวแบบนี้จะให้เธอนิ่งเฉยอยู่ก็คงไม่ใช่
'งั้นแกอยากจะทำอะไรก็ตามใจแกแล้วกัน' ฉันตอบปัดๆ เอาเถอะ ถ้าพวกนักข่าวมาถามฉันก็จะตอบไปตามจริง จะเชื่อไม่เชื่อก็ตามใจ ฉันไม่แคร์อยู่แล้ว แต่อย่าให้ถึงขนาดต้องเปิดแถลงข่าวเลยนะ ฉันขี้เกียจนั่งปั้นหน้ายิ้มระรื่นต่อหน้าเหยี่ยวข่าวหลายสิบสำนัก.. แค่คิดก็เบื่อจะแย่
'ซิลล่ะเชื่อจริงๆ พี่นทนะพี่นท ไม่กังวลเลยรึไง.. เออจริงสิ หรือมันจะเป็นแผนของอิตาจูเนียร์ ผู้จัดการของทางนู่นนะ เห็นพี่นทดังหน่อยไม่ได้ นี่คิดจะเกาะพี่นทดังล่ะสิท่า... เฮ้ย หรือว่าไอ้พี่แอมป์หน้าเต้าหู้นั่นจะปล่อยข่าวเอง?!?! โอ้ยยยย ซิลว่าแล้ว เห็นสายตาพี่แอมป์ตอนมองพี่นทน่ะหวานเจี๊ยบเชียว อิตาพี่แอมป์มันต้องชอบพี่แน่ๆ!'
ฉันปล่อยให้ยัยซิลพล่ามอยู่ได้สักพัก ก่อนจะตัดสินใจวางโทรศัพท์ทิ้งไว้บนโต๊ะ.. ขอโทษนะซิลวี่.. คุยคนเดียวไปแล้วกันนะ.. พี่ขี้เกียจฟังเรื่องไร้สาระพวกนี้จริงๆ
ฉันตัดสินใจเดินสาวเท้าไปยังห้องครัว รู้สึกมึนหัวนิดหน่อย ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะถูกรบกวนเวลานอน หรือเป็นเพราะข่าวบ้าๆพวกนั้นกันแน่ ..
เช้าๆแบบนี้คงต้องพึ่งกาแฟดำเหมือนอย่างเคยสินะ..
.
.
.
"ขอโทษนะคะคุณนท พอดีฉันขึ้นรถเมล์ผิดสาย ต้องขอโทษด้วยจริงๆที่มาช้า" ฉันมองนักศึกษาฝึกงานหน้าตาดี กำลังยกมือขอโทษขอโพยฉันเป็นการใหญ่ มันก็น่าอยู่ล่ะ เป็นคนขอนัดฉันมาสัมภาษณ์แท้ๆ แต่ตัวเองดันมาสาย ปล่อยให้นท พยายางกูร นักร้องชื่อดังต้องมานั่งรออยู่ตั้งนานสองนาน.. นี่ถ้าเธอไม่ได้ฝึกงานอยู่กับบริษัทของพี่กวาง ญาติผู้พี่ของฉัน ฉันคงไม่ยอมเสียเวลาสักวินาทีมานั่งอยู่ตรงนี้แน่ๆ
แต่แปลกนะ ถ้าเป็นคนอื่น อย่าว่าแต่นักศึกษาฝึกงานธรรมดาเลย ต่อใหญ่ยิ่งใหญ่ไฮโซแค่ไหน ฉันก็เหวี่ยงได้ทั้งนั้น.. แปลกที่ฉันเห็นยัยนี่แล้วเหวี่ยงไม่ลง.. สงสัยเป็นเพราะท่าทีใสซื่อกับทรงผมกระเซอะกระเซิงนั่นแน่ๆ.. นี่คงขึ้นรถเมล์ผิดสาย แล้วต้องรีบต่อวินมอเตอร์ไซต์มาแหงๆ.. แค่นึกภาพก็ตลกจนโกรธไม่ลงเลยจริงๆ
"รู้ใช่มั้ยว่าเวลาของฉันแต่ละนาทีมันมีค่าขนาดไหน" ถึงในใจฉันจะขำกับสีหน้าและท่าทางของเธอ แต่จะให้คนอย่างนทยอมง่ายๆก็คงไม่ใช่ แกล้งวางมาดใส่ยัยเด็กหน้าใสนี่สักหน่อยแล้วกัน
หน้าสวยๆของเธอเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด นี่ขนาดฉันเพิ่งจะตีขรึมได้นิดหน่อย ยังไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่คนอย่างฉันสามารถทำได้เลยนะเนี่ย สงสัยยัยเด็กนี่จะอ่อนไหวเอาเสียมากๆ.. จะไหวมั้ยเนี่ยแม่คุ๊ณณณณ
ฉันมองเธอโน้มตัวขอโทษฉันที่นั่งนิ่งอยู่ตรงนี้ไปมาหลายที นี่ถ้าไม่อยู่ในคอฟฟี่ช็อป ฉันยังคิดอยู่เลยว่าแม่นี่จะก้มตัวลงไปกราบฉันเลยรึปล่าว... เธอขอโทษฉันอยู่นาน ก่อนที่จะเดินไปหยิบกาแฟดำที่ฉันสั่งไว้มาบริการฉันด้วยตัวเอง ดูจะทำเกินหน้าที่นักศึกษาฝึกงานไปเยอะเลย.. หรือว่าฉันจะแกล้งเธอมากไปหน่อยนะ..
ฉันอมยิ้มมองนักศึกษาฝึกงานที่ยืนหันหลังหยิบถ้วยกาแฟจากเค้าเตอร์หลังร้าน.. แค่คิดว่าพนักงานในร้านจะงงแค่ไหนที่มีสาวสวยมารับออเดอร์ทำตัวเป็นเด็กเสิร์ฟด้วยตัวเอง แค่นั้นฉันก็ขำจะแย่.. คนอะไรตลกชะมัด..
"นี่คะคุณนท กาแฟดำที่สั่ง"
"อืม วางไว้ตรงนั้นแหละ" ฉันเอ่ยเสียงเรียบไม่ได้หันขึ้นไปมองหน้าเธอ.. ไม่ใช่อะไรหรอก ฉันกลัวว่าถ้าฉันมองหน้าเธอแล้วจะหลุดยิ้มออกมา เสียฟอร์มแย่
"ว้ายยยย!/เฮ้ยยยยย!" เราอุทานเสียงดังขึ้นมาพร้อมกัน จะไม่ให้ฉันตกใจได้ยังไง ก็ยัยเด็กฝึกงานนี่ดันซุ่มซ่ามสะดุดขาตัวเองล้มมาชนฉัน และที่สำคัญที่สุด ไอ้กาแฟดำนั่นก็ดันหกมาเลอะเสื้อฉันจนเปียกไปหมด!
โอ้ยยยยยย ยัยเด็กบ้า!!!!
ฉันชักสีหน้าขึ้นมาทันที ก็เสื้อตัวนี้น่ะ เงินเดือนทั้งเดือนของเธอยังจ่ายไม่ได้แม้กระทั่งปกเสื้อเลย ยัยเปิ่นเอ้ยยยย!!!
"ขอโทษค่ะๆ" นักศึกษาจอมเปิ่นกล่าวขอโทษเป็นรอบที่ร้อยของวัน ก่อนจะหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าสีส้มสดใสจากกระเป๋ามาเช็ดเสื้อให้ฉัน
เออเว้ย... แกต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆยัยนท ทั้งๆที่ยัยนี่เปิ่นจนน่าเหวี่ยงขนาดนี้ แต่แค่ฉันเห็นท่าทีหงอยๆของเธอ ก็ทำเอาอารมณ์ร้อนๆของฉันหายไปหมด... สงสัยยัยเด็กนี่จะซื่อเกินกว่าที่ฉันจะโกรธเธอลงล่ะมั้ง
ฉันมองเธอบรรจงเช็ดเสื้อให้ฉันอย่างเบามือ.. สวยจัง.. สวยกว่าดาราดังๆบางคนซะอีก.. พอได้มองหน้าเธอใกล้ๆก็ทำฉันแทบละสายตาไปที่อื่นไม่ได้.. หัวใจมันเต้นเป็นจังหวะแปลกๆพิกล.. ยัยเด็กนี่หน้าตาดีจริงๆ เนื้อผิวเนียนละเอียด แก้มขาวอมชมพูอย่างคนสุขภาพดี จมูกโด่งได้รูปรับกับปากแดงเป็นกระจับ ดวงตาคมสวย ไม่ได้โตมากมายแต่กลับดูน่าค้นหาได้อย่างประหลาด.. เสียดายที่ซื่อบื่อไปหน่อย นี่ถ้าจับแต่งอีกนิดปั้นเป็นดาราคงดังแน่ๆ หน้าตาแบบนี้เป็นนางเอกได้สบายๆ.. เอ๊ะ หรือจะเป็นนางแบบดีนะ จะว่าไปยัยนี่ก็หุ่นดีใช่ย่อย..
"เฮ้ย! ตรงนั้นไม่ต้อง!!!" ยัยเด็กนี่ทำฉันละสายตาจากใบหน้าสวยๆของเธอมาให้ความสนใจกับเสื้อผ้าของฉันอีกครั้ง เมื่อเธอพยายามที่จะเอื้อมมือลงมาเช็ดที่บริเวณ เอิ่ม.. หน้าอกของฉัน..
โอ้ยยยยยย ยัยเด็กบ้าเอ้ยยยยยย!!!
.
.
ในที่สุดการสัมภาษณ์ที่เหนื่อยที่สุดในชีวิตฉันก็ผ่านไปได้ซะที.. เธอเอ่ยถ้อยคำลาอย่างสุภาพ ก่อนจะเดินจากไป ว่าแต่.. ฉันยังไม่รู้ชื่อเธอเลยนี่นา.. เอ่อ.. แล้วแกจะอยากรู้ไปทำไมยะยัยนท!!
ฉันลุกขึ้นยืน ตั้งใจว่าจะเดินจากไปบ้าง แต่เอ๊ะ... นี่มัน.. บัตรนักศึกษาของยัยเปิ่นนี่หว่า นี่เผลอทำหล่นอีกล่ะสิ โอ้ยยยย ซุ่มซ่ามจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายจริงๆ
'อิษฎ์อาณิก อินทรสูต' ชื่อแปลกดีจัง... จะทิ้งไว้ที่นี่หรือเก็บเอาไปให้ดีนะ... ทิ้งไว้ที่นี่แล้วกัน เรื่องอะไรคนอย่างฉันต้องเสียเวลาเดินไปหายัยเด็กนั่นด้วยล่ะ.. คิดได้อย่างนั้น ฉันก็ตัดสินใจก้าวเท้าออกจากร้าน..
เอิ่ม... แต่ขืนทิ้งไว้ ยัยเปิ่นนั่นกว่าจะรู้ตัวว่าทำหายคงผ่านไปชาติกว่าแล้วมั้ง
.
.
"เดี๋ยว! ยัยเปิ่น!!" ฉันตะโกนเรียกพลางบีบแตรรถสปอร์ตสุดหรูไล่หลังนักศึกษาฝึกงานร่างบางที่กำลังเดินหอบแฟ้มงานมากมาย เอิ่ม.. ดูน่าสงสารพิกล..
คนที่ชื่อว่าอิษฎ์อาณิกหันหลังมามองอย่างเคืองๆนิดหน่อย ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติเมื่อเห็นว่าฉันเป็นคนเรียกเธอ
"เอานี่.. โก๊ะได้โล่ขนาดนี้ พี่กวางรับเธอมาฝึกงานได้ยังไงนะ" ฉันยื่นบัตรนักศึกษาใส่มือเธอ ก่อนจะเหยียบคันเร่งผ่านหน้าเธอไป..
ฉันเกือบจะออกไปจากที่นี่ได้แล้วเชียว ถ้าไม่เผลอเหลือบไปมองเห็นยัยเปิ่นโก๊ะนั่นก้มลงเก็บแฟ้มพะรุงพะรังที่เธอคงทำตกพื้นเมื่อตะกี้ โอ้ยยยยย ให้ตายสิ!!
"ขึ้นมานี่ จะไปไหน ฉันไปส่ง!" ฉันเข้าเกียร์ถอยหลังกลับมาหาเธออีกครั้ง ก่อนจะเปิดประตูรถและดึงตัวเธอเข้ามาอยู่ในรถทันที ไม่ได้รอให้เธอตอบรับหรือปฏิเสธ
ฉันเห็นเธอนั่งอ้ำๆอึ้งๆปนอาการงงๆอยู่นานกว่าจะยอมปริปากบอกจุดหมายปลายทางที่เธอต้องการจะไป.. ฉันขับรถมาส่งเธอที่หอพักเล็กๆแห่งนึง สภาพตึกดูเก่ามากจริงๆ แถมซอยเข้าหอนั่นก็เล็กจนฉันเกือบจะเปลี่ยนใจถอยหลังกลับ ก็กลัวว่ารถคันงามของฉันมันจะไปขูดขีดกับอะไรข้างทางจนเกิดแผลขึ้นมา แต่พอหันไปเห็นหน้าใสๆของคนที่นั่งอยู่ข้างๆกัน ฉันก็ยอมขับรถเข้าไปตามทางที่เธอบอกจนมาหยุดอยู่ที่หน้าหอพักเธอนี่แหละ
"ขอบคุณนะคะคุณนท" เธอยิ้มหวานบอกฉัน.. เอ่อ.. ให้ตายสิ ฉันไม่ชอบจังหวะหัวใจของฉันในตอนนี้เลยจริงๆ.. มันเหมือนเป็นอะไรที่ฉันควบคุมไม่ได้.. เป็นบ้าอะไรเนี่ย
ฉันพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนที่จะมองแผ่นหลังของผู้หญิงคนแรก ที่เปลี่ยนจังหวะการเต้นของหัวใจของฉันได้อย่างไม่รู้เหตุผลคนนั้นเดินจากฉันไปช้าๆ
"เดี๋ยวคุณ.." ฉันเรียกเธอเบาๆ แต่มันก็ทำให้เธอหันหลังกลับมามองฉันได้.. ฉันหยิบนามบัตรของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะเขียนที่อยู่ของฉันเอาไว้ด้านหลัง
"อะนี่.. ถ้าเรียนจบแล้วหางานไม่ได้ อยากจะมาทำงานให้ฉันก็ได้นะ.. เปิ่นๆแบบเธอคงหางานยากน่าดู" ฉันยื่นนามบัตรแผ่นนั้นให้เธอทันที เอิ่ม... นี่ถ้าเธอเป็นผู้ชาย คงคิดว่าฉันอ่อยน่าดู แต่เธอเป็นผู้หญิงนี่นา ฉันไม่ผิดสักหน่อยที่จะทำแบบนี้ ถึงจะแปลกใจตัวเองอยู่นิดหน่อยที่ใจกล้าให้ที่อยู่เธอไปแบบนั้น ดูจะไม่ใช่วิสัยของคนอย่างฉันเอาเสียเลย แต่ก็เอาเถอะ ฉันรู้สึกถูกชะตากับยัยเปิ่นโก๊ะนี่ยังไงก็ไม่รู้ อีกอย่าง ขืนปล่อยให้เธอทำงานที่อื่นคงได้ทำบริษัทเค้าเจ๊งแน่ๆ
.
.
.
ฉันยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบช้าๆ.. แปลกนะ ผ่านมาตั้งปีนึงแล้วฉันยังจำเรื่องคราวนั้นได้ขึ้นใจ.. ป่านนี้ยัยเปิ่นนั้นคงเรียนจบแล้วสินะ..
ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเดินเตะฝุ่นหางานอยู่แถวไหน.. แล้วถ้ายัยนั่นเกิดทะลึ่งมาหาฉันเข้าจริงๆ ฉันจะทำยังไงล่ะเนี่ย ตอนนี้ก็ดันมีซิลวี่อยู่แล้วด้วยสิ...
เอ้ยย บ้าน่ายัยนท ยัยเด็กนั่นป่านนี้คงทิ้งนามบัตรเราไปนานแล้ว... ฉันสบัดหัวไปมาไล่ความคิดบ้าๆออกจากสมอง
.
.
เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น ทำให้ฉันต้องวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะเบาๆ ก่อนจะค่อยๆเดินนวยนาถไปเปิดประตูห้อง.. อะไรนักหนานะเช้านี่.. ยัยซิลวี่ก็คนนึงแล้ว นี่ใครอีกล่ะเนี่ย น่ารำคาญจริงเชียว!
.
.
.
"เฮ้ย! เธอ!!!!"
//////////////////////////////////////
พี่นทช่าง..... ไม่เหลือคราบพี่นทที่แสนดีคนเดิมในฟิค ณ บัดนี้ฯ เลยจริงๆ.......
เห็ดอยากได้ตบจูบมั้ย???? 555
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น