ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF [กอล์ฟฐา] by whiztle

    ลำดับตอนที่ #9 : [ เส้นด้ายสีขาว ] - 8 - [ Present VI ]

    • อัปเดตล่าสุด 21 มิ.ย. 56


    "ฉันอยากเข้าห้องน้ำ..." เอ่ยเสียงเรียบระหว่างมองข้อมือของตนเองที่คล้องติดอยู่กับคนข้างกาย ณัฐภัสสราค่อยๆฉุดหญิงสาวขึ้นจากโซฟา สายตาของคนที่ถูกคล้องข้อมืออยู่ ค่อยๆจ้องมองภาพถ่ายสองสามรูปที่วางเอาไว้ในตู้โชว์

     

     

     

    "รูปเจ้าของบ้าน. .​.พ่อฉันเอง" 

     

     

     

    "ใครถามนายกันล่ะ แต่ก็น่าสงสารท่านนะ มีลูกทำตัวแบบนี้" คำพูดแดกดันที่ทำให้ณัฐภัสสราถึงกับชะงัก  "ถ้าท่านรู้ความจริงคงเสียใจตาย"

     

     

     

    "เสียใจมั้ยไม่รู้ เพราะท่านก็เสียไปนานแล้ว"  ได้แต่ตอบกลับอย่างปวดร้าว.​​. .เพราะผู้ชายที่คอยดูแลเธอมาตั้งแต่เกิด. .​.หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากบอกให้เธอดูแลตัวเองให้ดี. . .

     

     

     

     

    "แล้วข้อมือล่ะ" ขืนตัวเมื่อเห็นอีกคนพาเธอไปทั้งๆที่ยังสวมกุญแจมืออยู่ พอดันอีกคนเข้าไปในห้องน้ำได้ ณัฐภัสสราก็หยิบกุญแจออกมาไขออกให้ พร้อมกับทิ้งตัวลงพิงประตูอย่างเหนื่อยอ่อน นึกถึงคำพูดฝากฝังที่คุณลุงบอกไว้เธอยังคงจำมันขึ้นใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะรักษามันไว้ได้นานแค่ไหน 

     

     

     

    "นี่นาย. . .ฉันอยากอาบน้ำ" ลุกขึ้นท้าวสะเอวอย่างเหนื่อยใจในสิ่งที่คุณหนูในห้องน้ำนั่นต้องการ ไหนบอกว่าตัวเองถูกลักพาตัวมา . . .แต่สิ่งที่ทำให้อยู่กลับไม่ต่างจากตอนที่เคยอยู่ด้วยกันที่บ้านเลยสักนิด "นายมีชุดให้ใส่มั้ย"

     

     

     

     

    "เรื่องเยอะจริงนะคุณ เดี๋ยวฉันหาเตรียมไว้ให้ รอหน่อยแล้วกัน" 

     

     

     

     

    ภายในห้องน้ำหญิงสาวค่อยๆหยิบมือถือออกมาจากช่องลับในกระเป๋ากางเกง เจ้าเครื่องมือสื่อสารหน้าจอมืดสนิท. . . พยายามกดเปิดมัน ได้แต่ภาวนาขอให้ยังมีแบตเหลือเพียงพอให้เธอใช้ขอความช่วยเหลือได้ แต่เธอคงจะลืมไปแล้วว่า มันมีเสียง. . .

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "นายครับ! บอดี้การ์ดคนนั้น เป็นคนของคุณพิชิตครับ" ลูกน้องมือขวาของคริส ค่อยๆส่งเอกสารสองสามซองให้นายที่ตัวเองที่กำลังยืนจ้อง หน้าจอเลปทอปของตนเองอย่างเคร่งเครียด "พวกเราหาชื่อจริงของมันได้แล้วครับ"

     

     

    "ณัฐภัสสรา ?" ชะงักที่นามสกุลของบอดี้การ์ดตัวดี ก่อนจะบีบกระดาษไว้แน่น ยิ่งโกรธจัดเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนี้เป็นลูกของใคร "หึ. . .เชื้อไม่ทิ้งแถวสินะ ก็ดี จะได้รู้ว่าทำตัวแบบนี้ จุดจบก็คงไม่ต่างกัน" 

     

     

     

    "นายครับ! จับสัญญาณมือถือของคุณฐาได้แล้วครับ" ยกยิ้มขึ้นอย่างสะใจกับข่าวดีทั้งสอง ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องทั้งหมดเตรียมตัวให้พร้อม

     

     

     

    "ดีมากกกก . . . ได้เวลาจัดการเสี้ยนหนามแล้ว"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    'ตรึ้ง. . .' เสียงเปิดเครื่องดังออกมาจากในห้องน้ำ ทำให้ณัฐภัสสราต้องรีบกระชากประตูออกทันที ก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องนั้นออกมาจากมือของคนตัวยุ่ง สัญญาณแบตอ่อนโชว์หราก่อนทุกอย่างจะดับไป

     

     

     

    "ฐา เธอทำบ้าอะไรเนี่ย"

     

     

     

    "ฉัน. . ." ไม่ได้ตอบอะไร แต่ถือโอกาสที่อีกคนกำลังวุ่นวายกับมือถือของตนเอง วิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต จนณัฐภัสสรารีบเขวี้ยงมือถือออกไปให้ไกลสายตา เมื่อเห็นว่ากิตติ์ลภัสกำลังวิ่งหนีไปทางไหน

     

     

     

     

    "ฐา!! เธออยากตายหรอไง" คำพูดที่ทำให้กิตติ์ลภัสเพิ่มความเร็วของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ การวิ่งท่ามกลางความมืดมิดแบบนี้มันไม่ถนัดเลย ก่อนจะไถลลงไปด้านล่าง "ยัยบ้าเอ๊ยยย ทางนั้น มันหน้าผา"

     

     

     

     

    'กรี้ดดดดดดดดดดดดดดด'

     

     

     

     

    'แฮ่ก แฮ่ก' 

     

     

     

     

     

    สองขายาวรีบกระโจนตามลงไป โดยมือเรียวด้านหนึ่งรีบคว้ากิ่งไม้ใหญ่เอาไว้ ในขณะที่อีกข้างก็โอบหญิงสาวตัวเล็กไว้ในอ้อมกอด ก้มลมองยัยตัววุ่นวายอย่างขุ่นเคืองในใจ ภาระชัดๆ จะไปหนีไหนก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่ดันวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือ หนีลงไปตายชัดๆ

     

     

     

     

    "ลืมตาสิฐา" ตื่นสติคนที่กำลังกอดเขาไว้แน่น ได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ผู้หญิงคนนี้ต้องให้เธอเสี่ยงชีวิตไปช่วยไว้กี่ครั้งเชี่ยวนะ "เธอทำอะไรน่ะ"

     

     

     

     

    "นายจะวิ่งตามมาช่วยฉันทำไม อะโอ้ย.​.." ร้องออกไปอย่างเจ็บปวด เพราะรอยถลอกที่ขาขวา พอคนตัวสูงเห็นเข้าแบบนั้นก็จัดการประคองร่างของอีกคนไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะพากลับเข้าไปทำแผลในบ้านด้วยความห่วงใย "ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตกลงไปล่ะ"

     

     

     

    "ฉันเคยปล่อยให้คนสองคนต้องตายไป. . . คราวนี้ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้มีครั้งที่สามหรอกนะ" ทั้งๆที่ความจริงอยากจะเอ่ยออกไปว่าเธอเคยสัญญาไว้แล้ว ว่าจะดูแลและรักษาคนๆนี้ให้ดี

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "ว่าแต่. . .เธอชอบที่นี่มั้ย" เอ่ยถามระหว่าง ใช้มือบรรจงทำแผลให้ผู้หญิงตรงหน้าอย่างแผ่วเบา 

     

     

     

    "ถามอะไรของนาย ใครจะชอบที่ถูกลักพาตัวมาบ้างล่ะ" 

     

     

     

    คำถามที่ทำให้กิตติลภัสถึงกับเลิกคิ้วสูง โจรบ้าอะไรมาถามเหยื่อของตัวเองว่าชอบที่เป็นอยู่ตอนนี้หรือเปล่า ในขณะที่ณัฐภัสสราได้แต่ส่ายหน้าให้กับสิ่งที่เพิ่งเอ่ยออกไป นั่นสินะลืมไปเลยว่าเขาเป็นคนจับเธอมา ลืมไปเลยว่าไม่ใช่ กอฟกับฐา แต่ตอนนี้คือ บุศรินกับคุณหนู. .​.

     

     

     

     

    "ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันหมายถึงสถานที่ต่างหาก บ้านหลังนี้น่ะ"

     

     

     

    "ก็สวยดีนะ. . .แต่คงจะดีกว่า ถ้าไม่ได้ถูกจับมาแบบนี้"

     

     

     

     

    ไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าที่นี่น่ะสวยแค่ไหน บ้านริมทะเลที่มีชายหาดเป็นของตัวเอง แถมยังไม่มีคนอื่นเข้ามาพลุกพล่านอีกต่างหาก แต่พอนึกถึงเหตุผลที่ทำให้ต้องมาอยู่ที่นี่ ก็ทำให้ภาพทุกอย่างค่อยๆพร่ามัว 

     

     

     

     

    "แต่ทำไม. . . ทำไมนายต้องทำร้ายพ่อกับแม่ฉัน. . ." เอ่ยถามทั้งน้ำตาด้วยความเจ็บปวด 

     

     

     

    "ฉัน. . ."

     

     

     

    "ทำ ทำไมฮะ !!"

     

     

     

    ". . ." พอเห็นคนตรงหน้าเริ่มแสดงความอ่อนแอออกมา ณัฐภัสสราก็เริ่มทำตัวไม่ถูก ทั้งๆที่อยากพูดความจริงออกไปมากแค่ไหน แต่ก็เหมือนน้ำท่วมปาก ในเมื่อเรื่องทุกอย่างมันยังไม่เรียบร้อย ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คาด ขืนบอกไปคนที่ตกอยู่อันตรายที่สุดก็คือคนข้างกายเธอเนี่ยแหละ

     

     

     

    "ฉันไม่ได้ตั้งใจ. . .สายเบรกรถคันนั้นมันถูกตัด.​. .ฉันพยายามที่สุดแล้ว แต่ท่านทั้งสองก็. . ." 

     

     

     

    "ไม่ได้ตั้งใจงั้นหรอ แล้วทำไมนายถึงรอด" สายตาเกรี้ยวกราดกำลังทำร้ายจิตใจของณัฐภัสสราอย่างช้าๆ คำพูดที่พยายามตอกย้ำในสิ่งที่เกิดขึ้น "ทำร้ายครอบครัวฉันได้ไง นายมันคนไร้หัวใจ. . . "

     

     

     

    "ฐา. .​.เธอคงดีใจสินะ ถ้าฉันตาย. . ." ได้แต่ตัดพ้ออย่างน้อยใจ ทั้งๆที่เขาอุตส่าห์เล่าความจริงให้ฟัง แต่ก็ยังเจออคติและคนตรงหน้าก็ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "นายครับ. . .มันมืดมากเลย" คริสมองทางข้างหน้าอย่างหวั่นใจ บ้านหลังนั่นทางเข้ายังคงลึกลับและซับซ้อนเหมือนกับสมัยก่อนไม่มีผิด ถ้าฝืนเข้าไปตอนนี้ก็คงไม่ปลอดภัย เหลือบมองเวลาก่อนจะค่อยๆพ่นลมออกมา เมื่อเห็นแสงรำไรที่เส้นขอบฟ้า "ถ้างั้นรอพระอาทิตย์ขึ้นก่อนแล้วกัน"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "นี่. . .คุณฉันไม่เล่นนะ" ตะโกนตามหาหญิงสาวที่แอบหนีออกมาจากตัวบ้านตั้งแต่ฟ้าสาง จนเกือบชั่วโมงที่ยังไม่เห็นวี่แววใดๆ ยิ่งเมื่อคืนได้ยินเสียงแปลกๆออกมาจากในห้องน้ำก็ยิ่งเป็นกังวล ทั้งๆที่เช็คแล้วว่าโทรศัพท์ที่กิตติลภัสแอบซ่อนเอาไว้นั้น มันจะไม่มีแบตแล้วก็ตาม 

     

     

     

    "ฐา!" เหลือเพียงจุดๆเดียวที่ยังไม่ได้เดินเข้าไปหา แถวๆหน้าผาที่ไปช่วยตัวยุ่งไว้เมื่อคืน ทั้งๆที่ขาของตัวเองก็ยังเป็นแผลอยู่ ยังจะพยายามวิ่งหนีอีกสินะ ได้แต่ถอนหายใจ "คราวนี้ฉันคงต้องขังเธอจริงๆแล้วนะ"

     

     

     

     

     

     

     

    ‘แซ่ก แซ่ก’

     

     

     

     

    ". .​. " เสียงแหวกพงหญ้าด้านหลังที่ฟังดูแล้วคงมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ยิ่งทำให้ณัฐภัสสราถึงกับเหงื่อตก ในเมื่อพื้นที่แถวนี้เป็นที่อยู่ไกลปีนเทียง ถ้าจะมีใครสักคนเข้ามา คงมีเพียงจุดประสงค์เดียว มือเรียวรีบสอดมือเข้าไปใต้เสื้อนอก เพื่อหยิบอาวุธประจำกายออกมา

     

     

     

     

    "ยกมือขึ้น" เสียงเหี้ยมพร้อมปลายโลหะจ่ออยู่บริเวณด้านหลังศรีษะ แต่นั่นก็ยังไม่สามารถทำให้ตัวเขาเองละมือออกจากปืนคู่ใจได้ จนกระทั่งได้ยินเสียงเหนี่ยวไกปืนด้านหลัง 'แกร๊ก'

     

     

     

     

    "อย่าตุกติกน่า. . . " น้ำเสียงคุ้นหูดังขึ้นด้านข้าง ก่อนจะเห็นผู้ชายใบหน้าลูกครึ่งยืนยิ้มเยาะอยู่ตรงหน้า พร้อมกับลูกน้องขนาบข้าง มือหนาด้านหลังกดไหล่เธอให้คุกเช่าลงกับพื้น 

     

     

     

     

    "ถ้าจะยิงก็เลยสิวะ จะท่ามากอะไรเยอะแยะ"

     

     

     

     

    "ปากดีนักนะ ได้ตายสมใจแน่" ใช้ปืนตบปากไปที ก่อนจะหยิบเทปกาวขึ้นมาคาดปาก พร้อมกับคว้ากุญแจมือที่ณัฐภัสสราเหน็บไว้ข้างกาย ใช้คล้องแขนเจ้าของมันเสียเอง และเขวี้ยงกุญแจออกไปให้ไกลสายตา "แต่น้องฐา ต้องรู้เรื่องแกก่อน. .​."

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "พี่คริสคะ พอเถอะค่ะ" กิตติ์ลภัสรีบวิ่งออกมาจากรถโฟล์คที่จอดไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ด้วยท่าทางตื่นตระหนก พอเห็นตำแหน่งของปืนก็ยิ่งทำให้เธอต้องรู้สึกผิดหนักกว่าเดิม ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ คนๆนั้นคงไม่ต้องโดนแบบนี้ "ปล่อยให้ตำรวจ จัดการคุณบุศรินนะคะ"

     

     

     

     

    "บุศริน?. . .ถ้าน้องฐารู้ความจริง" คริสรีบตีหน้าขรึมทันที ก่อนโคลงหัวไปมา "พี่เชื่อว่า น้องฐาไม่มีทางพูดแบบนั้น"

     

     

     

     

    "ในเมื่อคนๆนี้ถูกส่งมาให้กำจัดครอบครัวของน้องฐานะครับ" คริสหยิบกระดาษสองสามแผ่นที่กิตติ์ลภัสจำได้แม่นยำ ยิ่งได้อ่านอีกครั้งก็ยิ่งปฏิเสธไม่ลง. . . แม้ว่าคนที่ถูกจับตัวไว้จะปฏิเสธมันแค่ไหนก็ตาม แต่เธอก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไป

     

     

     

     

    "เรื่องนี้ฐารู้แล้วค่ะ"

     

     

     

     

    "ก็ดีครับ แต่อีกเรื่องพี่เชื่อว่า ฐาไม่มีวันรู้ แม้แต่คุณพ่อของฐาเองก็ไม่รู้ . . .มันไม่มีบุศรินอะไรทั้งนั้น"

     

     

     

     

    "พี่ถามอะไรหน่อยนะ" ใช้ปลายกระบอกปืน ดันหน้าของใครอีกคนให้เงยขึ้นมาสบตา ณัฐภัสสราพยายามขัดขืนพร้อมกับส่งแววตาแข็งกร้าวเข้าสู้  "น้องฐา ไม่คุ้นหน้า คุ้นตา คนๆนี้บ้างหรอครับ"

     

     

     

     

    "หมายความว่าไงคะ" ถามออกไปด้วยความสงสัย . . . ยิ่งคนที่นั่งคุกเข่าอยู่พยายามหลบตามากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งไม่เข้าใจ

     

     

     

     

    "ถ้าคนๆนั้นคือคนที่คุณพ่อน้องฐา ไม่สิ คุณแม่ก็ด้วย ไม่อยากให้ข้องเกี่ยว" 

     

     

     

     

    ประโยคกำกวมที่หลุดออกมาจากปากชายหนุ่ม ทำให้เธอถึงทำชะงักและนึกถึงเรื่องราวฝังใจตอนเด็กได้ไม่ลืม คนๆเดียวในชีวิตที่ครอบครัวเธอไม่อยากให้ยุ่ง คนๆนั้น. . .

     

     

     

     

     

     

     

     

    "น้องฐา พาเพื่อนที่ไหนมาน่ะ"

     

     

    "กอฟค่ะคุณพ่อ เค้าอยู่บ้านใกล้ๆเรานี่เอง"

     

     

    "คุณนม คราวหน้าคราวหลัง ไม่ต้องให้น้องฐาไปเล่นกับเด็กนี่อีกแล้วนะ"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "ว่าไงครับ คุณณัฐภัสสรา. . .ไม่สิเรียกแบบนี้ดีกว่า" ชื่อจริงที่ทำให้เจ้าตัวถึงกับหายใจไม่คล่อง แววตาเบิกโพล่งด้วยความตกใจ ชายหนุ่มค่อยๆลดปืนลง ระหว่างหยิบกระดาษสองสามแผ่นส่งให้คนตรงหน้า ". . .กอล์ฟ"

     

     

     

     

    "กะ. . .กอฟงั้นหรอ?" เหมือนโดนความจริงตีแสกหน้าเข้าอย่างจัง ผู้หญิงคนนั้นคือกอฟจริงๆงั้นหรอ มือทั้งสองข้างต้องสั่นเทา เมื่อได้อ่านเอกสารพวกนั้น ประวัติของคนทั้งคู่ที่เหมือนกันอย่างกับแกะ ก่อนจะทรุดลงกับพื้นทันที "กอฟจริงๆหรอ. . ."

     

     

     

     

    "ข้อสุดท้าย. . .หลักฐานเด็ดเลยนะ" คริสหยิบสมาร์ทโฟนออกมา ก่อนจะเปิดเสียงบทสนทนาของใครบางคนขึ้นมา เสียงที่ณัฐภัสสราเองจำได้ขึ้นใจ ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ตัวของเขาเองคุยกับหัวหน้าเมื่อตอนเช้ามืด ก่อนที่จะวิ่งออกมาตามหญิงสาวตรงหน้า

     

     

     

     

     

    "หนีมาต่างจังหวัด. . . แล้วก็จับตัวคุณกิตติ์ลภัสมาด้วย"

     

     

    "เรื่องของคุณกิตติกับภรรยา นายจัดการถึงไหนแล้วคะ"

     

     

    "เรียบร้อยแล้วใช่มั้ย โอเคค่ะนาย แค่นี้นะ"

     

     

     

     

     

     

     

    "น่าสงสารอากิตติ ที่ดันโดนมือปืนข้างถนนหลอกเอาได้" ความจริงเพียงครึ่งเดียวที่ทำให้ณัฐภัสสราพยายามโวยวาย แม้จะถูกเทปคาดปากอยู่ก็ตาม . . .คริสทนไม่ไหวกับท่าทางนั่น เลยใช้ปลายกระบอกปืนฟาดเข้าไปเพื่อให้ณัฐภัสสราเลิกขัดขืน จนทำให้สร้อยคอที่สวมอยู่สะบัดออกมาด้านนอก

     

     

     

     

    "อยู่เฉยๆสิวะ ถ้ายังไม่หยุด เจอยิ่งกว่านี้แน่" คริสยิ้มเยาะก่อนจะกระซิบลงข้างๆหูคนที่ถูกตบ "ขอบใจ. . .ที่ทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้นนะกอล์ฟ"

     

     

     

     

     

    "แหวนนั่น. . ."

     

     

     

     

     

    กิตติ์ลภัสจ้องมองแหวนสลักลายที่คล้องอยู๋กับสร้อยบนคอของณัฐภัสสรา ก่อนจะเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เพื่อหยิบมันออกมาดูให้ชัดๆ . . . มันเหมือนกับของๆบิดาของเธอไม่มีผิด สร้อยที่บิดาของเธอไม่มีวันถอดออก ทำไมถึงได้มาอยู่ที่คอของคนๆนี้ได้กัน

     

     

     

     

     

    "นี่มันสร้อยของคุณพ่อ. . ." ได้แต่สบตาหญิงสาวที่สะบักสะบอมเพราะบทลงโทษ เอื้อมมือไปปลดสร้อยนั่นออกมาอย่างหวงแหน ก่อนจะสวมมันไว้บนคอของตนเอง น้ำตาของหญิงสาวไหลออกมาเป็นสาย ณัฐภัสสราได้แต่ส่ายหน้า พยายามขัดขืนและยื้อสร้อยเส้นนั้นเอาไว้ "ฉันขอของ. . .ของคุณพ่อคืนนะ"

     

     

     

     

    "น้องฐาคะ เดี๋ยวทางนี้พี่จัดการเอง" ชายหนุ่มพยายามปลอบใจ ก่อนจะเสนอทางออกที่ดีที่สุดให้กับกิตติ์ลภัส "ไปรอที่รถเถอะครับ"

     

     

     

     

    "ค่ะ. . ."

     

     

     

     

     

    ณัฐภัสสราใช้แรงเฮือกสุดท้าย สะบัดตัวเองออกมาจากการจับกุมระหว่างที่คริสชะล่าใจ ก่อนจะพยายามวิ่งหนีออกอย่างไม่คิดชีวิต ลูกน้องที่เหลือพยายามวิ่งตามไป แต่ด้วยความใจร้อนของชายหนุ่ม จัดการเล็งปลายของกระบอกปืนเก็บเสียงของตนเองไปยังณัฐภัสสราทันที 

     

     

     

     

    'ฟุ่บ ฟุ่บ. . .' 

     

     

     

     

    แรงปะทะจากลูกกระสุนด้านหลัง ทำให้หญิงสาวล้มลงบริเวณหน้าผา ก่อนจะพลัดตกลงไปยังท้องทะเลเบื้องล่าง จนกิตติลภัสที่วิ่งออกมาดูต้องยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ เมื่อเห็นร่างของเพื่อนคนแรกในชีวิตของเธอจมหายไปกับคลื่นยักษ์ด้านล่าง

     

     

     

     

    "กอฟ!!!"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×