คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : chapter9:ขาดอากาศหายใจ
Chapter9
Baekhyun part
สวัสดีครับทุกคนผม บยอน แบคฮยอน ตอนนี้ผมอยู่ที่ร้านกับพี่มินซอก คนอื่นๆกลับไปกันหมดแล้วเพราะมันถึงเวลาเลิกงานของร้านแล้วแต่ทุกๆวันผมจะอยู่ช่วยพี่มินซอกปิดร้านแล้วค่อยไปหาชานยอล ชานยอลเค้าทำงานเป็นดีเจตั้งแต่บ่ายโมงถึง5โมงครึ่ง ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเวลาเลิกงานของผม2คนค่อนข้างตรงกัน ทุกเย็นเราจะหาอะไรกินด้วยกันแล้วจึงแยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเอง ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์เวลาของผมกับชานยอลค่อนข้างน้อยแต่พวกเราก็มีความสุขถึงแม้จะเป็นเวลาไม่มาก ในวันเสาร์อาทิตย์เราจะอยู่ด้วยกันทั้งวัน ไปดูหนัง,ไปช้อปปิ้งด้วยกัน แล้วก็นอนค้างในห้องพักของใครสักคน ถ้าถามว่าผมมาคบกับชานยอลได้ไง? ในตอนแรกผมคบกับเค้าเพื่อประชดผู้ชายที่ชื่อ จื่อเทา หรือก็แฟนเก่าผม ผมกับเทาเลิกกันด้วยความเข้าใจที่ว่าเราสองคนต่างกันมากเกินไป ถึงแม้จะเป็นเพราะเหตุผลนั้นแต่ผมก็ยังเสียใจอยู่ดี ในวันนั้นผมได้พบกับผู้ชายที่ชื่อปาร์ค ชานยอล เค้าเข้ามาบอกชอบผมและขอคบกับผมที่ร้านนี้ ตอนแรกผมไม่อยากตอบตกลงเพราะผมพึ่งเลิกกับเทาได้ไม่ถึง24ชั่วโมง จะให้มีแฟนใหม่เลยก็แปลกๆอยู่ แต่ชานยอลเค้าบอกว่าถ้าผมคบกับเค้าเค้าจะทำให้ผมเป็นคนที่น่าอิจฉาคนนึง และในตอนนั้นถ้าผมอยากประชดจะตอบตกลงก็ไม่แปลก แต่หลังจากคบกับเค้ามาผมกล้าพูดได้เต็มปากว่าเค้าดีกว่าเทา ถึงแม้ความคิดเราจะต่างกันบ้างแต่เราไม่เคยจบด้วยการทะเลาะกัน อาจจะเพราะผมชอบคนที่เฮฮามากกว่าคนที่เงียบขรึม ทำให้ผมรู้สึกรักชานยอลมากกว่าเทา แต่แน่นอนผมยังไม่เคยบอกรักเขา และชานยอลก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะมาถามว่ารักผมมั้ย ผมก็เลยเลือกที่จะยังไม่บอกเพราะเรื่องอย่างนี้มันต้องหาโอกาสที่เหมาะสม ผมพูดถูกมั้ย?
เดินมาสักพักผมก็เจอกับชานยอลพอดี เราสองคนจะเจอกันตรงหัวมุมของร้านเบเกอรี่ในทุกๆวัน วันนี้ชานยอลแต่งตัวด้วยชุดที่ดูสบายแต่ทว่ากับเข้ากับเค้าได้อย่างดีเยี่ยม
"คิดอะไรอยู่ตัวเล็ก?"
"เปล่าหรอก ตัวโตเหนื่อยมั้ย?" เราสองคนไม่เลี่ยนขนาดจะมาเรียกกันว่าที่รักหรืออะไรทำนองนั้น เราสองคนเลยเรียกกันตามขนาดตัว ชานยอลเป็นคนตัวสูงผมเลยเรียกเค้าว่า'ตัวโต'เพราะมันดูเพราะกว่าตัวสูง ผมเป็นคนตัวเล็กเค้าก็เลยเรียกผมว่า'ตัวเล็ก'ในตอนแรกเค้าอยากเรียกผมว่าตัวเตี้ยด้วยซ้ำ แต่แน่นอนว่าผมไม่ยอมหรอก
"ไม่เหนื่อยหรอก เราไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเปิดเพลงกับพูด แต่ตัวเล็กนะซิ หน้าซีดๆนะ เหนื่อยก็บอกนะเพื่อเราไปรับ ตัวเล็กจะได้ไม่ต้องเดิน แค่ที่ทำงานก็เดินขาจะหลุดอยู่แล้วยังต้องเดินมาหาเราอีก"
"ไม่เป็นไรหรอก แต่ไว้ถ้าเหนื่อยจริงๆจะบอกนะ" เราสองคนยิ้มให้กันอย่างที่เป็นทุกวัน แต่ในความรักก็ไม่ได้มีแค่ความสุขเสมอไป มันมักจะมีอะไรมาขัดขวางหรือเรียกง่ายก็มารกามเทพนั่นแหละ
ร้านเบเกอรี่ ตอนเช้า
วันนี้ผมรู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกหน้ามืดเป็นช่วงๆ แล้วก็เวียนหัวแต่แน่นอนผมก็ยังทำงานต่อไป หลายคนชอบว่าผมว่าเป็นพวกทนไม่เข้าเรื่อง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมรู้สึกอย่างนี้ ผมมักเป็นอย่างนี้บ่อยๆเพราะทำงานหนัก บางครั้งก็ไม่ได้เป็นหนักอะไรมาก แต่ถ้าเป็นหนักทีก็ต้องถึงขั้นนอนโรงพยาบาล
"แบคฮยอนรับลูกค้าให้หน่อนสิ พอดีเราต้องไปเก็บโต๊ะอ่ะ ว่าแต่แบคไหวมั้ยดูเหนื่อยๆ ถ้าไม่ไหวก็ไม่เป็นไรนะ เดี๊ยวเราไปตามพี่มินซอกมาช่วย" เสียงของอี้ชิงถามด้วยความเป็นห่วง แต่แน่นอนถ้าผมไม่ทนคงไม่ได้ฉายาทนไม่เข้าเรื่องมาหรอก
"ไม่เป็นไรๆ ปล่อยเค้าอยู่กับคู่หมั้นเค้าไปเหอะ เค้าพึ่งออกจากโรงพยาบาลมาได้อาทิตย์เดียวเอง เรายังไหวไม่เป็นไร อี้ชิงไปเก็บโต๊ะเหอะ" ทุกคนคงยังไม่รู้ว่าตอนนี้พี่มินซอกกับคุณจงแดหมั้นกันแล้ว ผมว่าจากการที่ทะเลาะกันคงทำให้เค้าสองคนเข้าใจกันมากขึ้น เพราะพี่มินซอกยังไม่ทันออกจากโรงพยาบาลคุณจงแดก็ขอหมั้นซะก่อน
"รับอะไรดีครับคุณจื่อเทา?" ผมทักทายเค้าตามปกติเพราะเราสองคนเลิกกันด้วยความเข้าใจจึงไม่มีเหตุให้ต้องหลบหน้าหรืออะไร ปกติผมจะโบกมือทักแบบสดชื่นแต่ตอนนี้มันไม่ไหวจริง แค่ยืนก็หน้ามืดแล้ว
"เอาเหมือนเดิมนั่นแหละ แบคๆ!" ยังไม่ทันทักทายกันจบผมก็ล้มลงไปซะก่อน
"ปวดหัว ปวดหัวมาก" ผมกุมหัวตัวเองไว้ มันปวดปวดจนเหมือนจะระเบิดออกมา
"เดี๊ยวเราพาไปโรงพยาบาลนะ" ฟังเทาพูดเสร็จผมก็สลบไป
Chanyeol part
ผมยังไม่ทันเลิกงานก็ได้รับโทรศัพท์จากลู่ห่านว่าตัวเล็กไม่สบาย ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล ผมไม่แปงกใจหรือตกใจอะไรมากหลังจากได้ยิน เพราะเมื่อวานเจ้าตัวก็ดูเหนื่อยๆแล้วไหนจะยาแก้ปวดหัวที่แอบกินนั่นอีก ผมรู้ว่าเค้าเหนื่อย แต่ให้ทำไงได้เพราะเค้าเป็นประเภทชอบทนเวลาตัวเองเหนื่อยซึ่งนั่นผมไม่เห็นว่าดีสักเท่าไหร่ ผ่านไปสักพักผมมาถึงที่โรงพยาบาลและได้คุยกับลู่ห่านและอี้ชิงเล็กน้อยเพราะพวกเค้าต้องรีบกลับไปทำงาน ผมเองก็รีบจะไปหาตัวเล็กด้วยเหมือนกัน
ผมเปิดประตูเข้าไปเจอตัวเล็กกำลังนั่งคุยกับผู้ชายคนนึงอย่างสดใส ตอนแรกผมรู้สึกดีใจที่เค้าไม่ได้เป็นอะไรมากแต่พอผมเห็นผู้ชายที่นั่งคุยอยู่กับเค้าผมก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที
"นี่ไงชานยอลมาแล้ว เทานายจะกลับเลยก็ได้นะชั้นเกรงใจ"
"โอเคงั้นเรากลับเลยละกัน หายเร็วๆนะ ไว้ว่างๆจะไปกินเค้กร้านนาย" มันดูเป็นประโยคบอกลาที่ธรรมดาแต่ทว่าพอเทาพูดจบเค้าก็หอมแก้มตัวเล็กพร้อมกับกอดทันที
"บ้ายบาย"
"นายดูสบายใจเนอะ ไม่น่าเป็นอะไรมากนิ ได้คนดูแลดีขนาดนั้น" ผมเป็นประเภทที่เวลาหึงหรือโกรธผมจะพูดออกไปทันทีโดยไม่คิด
"ไม่เอาน่าตัวโต เค้าก็แค่นั่งคุยเป็นเพื่อนเฉยๆ แล้วอีกอย่างเค้าเป็นคนพาแบคมาส่งโรงพยาบาลด้วย"
"ทำไมไม่บอกชั้น ในเมื่อนายก็เหนื่อยตั้งแต่เมื่อวาน หรือรอให้แฟนเก่าของนายมาทำแทนชั้น?"
"อย่ามาพูดจาอย่างนี้นะชานยอล!"
"หึ!" ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ อาจเพราะคำพูดที่ไม่ค่อยคิดของผม แต่แบคฮยอนก็ทำเกินไปยอมให้หมอนั่นทั้งกอดทั้งหอม
"อย่ามาเงียบนะชานยอล"
"ทำไมแบค? นายรักชั้นบ้างไม่ได้หรอ?"
"นายพูดอะไรของนาย"
"แค่รักชั้นบ้างนายจะขาดอากาศหายใจรึไง"
"มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ! ชั้นเคยบอกหรอว่าชั้นไม่รักนายอ่ะ?!"
"นายไม่ได้บอก แต่การกระทำนายบอกชั้นแล้วล่ะ ว่าแค่รักชั้นนายก็ทำไม่ได้" เราทั้งคู่ร้องไห้ ผมเดินออกมานอกห้องทันที ตอนนี้ผมทนไม่ไหวแล้ว ที่ผ่านมาเค้าดูเหมือนจะรักผม แต่เหตุการ์ณที่ผมเห็นวันนี้พอบอกอะไรบางอย่างผมได้ ว่าผม...อาจไม่ใช่คนๆนั้นที่แบคฮยอนจะมารัก
Talk talk:
เปิดมาก็ดราม่าเลยเนอะ5555
แต่แน่นอนว่าไรท์ไม่ใข่ประเภทแต่งให้ใครตายหรือเลิกกัน
ฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วงนะจ้ะ
แต่ตอนนี้ไรท์ขอไปห่วงตัวเองด้วยการอ่านหนังสือสอบก่อน
ขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบนะค้าบบบบ
ความคิดเห็น