ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สงครามทวยเทพออนไลน์

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 : เพื่อนคนแรก

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ย. 55


     

    แสงแดดยามเช้าปลุกให้ชายหนุ่มตื่นขึ้น เมื่อเขาตื่นขึ้นก็รีบตรงเข้าป่าอย่างรีบเร่ง ศรเดินเก็บเศษกิ่งไม้เพื่อก่อกองไฟแล้วเอาเนื้อกระต๋ายป่าออกมาย่างกินไปสองชิ้นอย่างสบายอารมณ์ เมื่อกินจนอิ่มแล้วศรก็เดินเข้าป่าอีกครั้งหมายจะเลื่อนระดับและเก็บเงินให้ได้มากที่สุด เพราะของจำเป็นในการใช้ชีวิตที่จำเป็นยังไม่มีสักอย่าง


    "กระต๋ายป่าชั้นราชาระดับ 15 ปรากฎ กระต๋ายป่า..." ศรยื่นจ้องกระต๋ายป่าชั้นราชาที่มีขนาดตัวพอๆกับคนและด้านหลังยังมีกระต๋ายป่าตัวเล็กอยู่อีกกว่า 20ตัว หลังจากจ้องกันอยู่นานเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีท่าทางว่าจะบุกเข้ามากระต๋ายป่าชั้นราชาก็กระโดดตัวลอยขึ้นไปในอากาศ เมื่อศรตั้งสติได้ก็รีบกระโดดหลบสุดชีวิด


       ตูม!!
       เสียงกระต๋ายป่ากระแทกพื้นดังลั่น มันหันมาจ้องหน้าศร ครั้งนี้เขาไม่รอให้มันเป็นฝ่ายลงมืออีก แต่ทว่าเขาต้องคอยวิ่งหลบแครอทที่กระต๋ายป่าตัวเล็กปามาอย่างไม่ขาดสาย แล้วยังต้องหลบการกระโดดทับของกระต๋ายป่าชั้นราชา แต่ก็ยังพอมีโอกาสยิงศรลมกับไปได้บ้างเป็นพักๆ ไม่นานนักศรก็จัดการกระต๋ายป่าจนหมด กระต๋ายป่าชั้นราชามองดูซากศพลูกๆมันอย่างเศร้าโศก ดวงตาที่เคยดำใสก็เริ่มมีสีแดงเข้ามาปกคลุม มันร้องคำรามอย่างบ้าคลั่งก่อนจะวิ่งเข้าใส่ศรอย่างรวดเร็ว ศรพยายามกระโดดหลบ แต่ก็ยังช้าเกินไปเขาโดนเล็บของกระต๋ายป่าชั้นราชาข่วนจนศรได้แผลเป็นทางยาวตั้งแต่ท้องไปจนถึงสีข้าง


       "ศรลม" ศรหันกลับไปยิงศรลมใส่กระต๋ายชั้นราชาก่อนที่จะออกตัววิ่ง กระต๋ายชั้นราชาเมื่อเห็นศัตรูมันวิ่งก็รีบกระโดดตามทันที
      
      
       ตูม!!
       เสียงตกกระแทกของกระต๋ายป่าชั้นราชาที่ตกลงมาเบื้องหน้าของศร เขาจึงจัดส่งศรลมให้เป็นการด่วน กระต๋ายป่าไม่รอช้ารีบหวดกรงเล็บอันแหลมคงใส่ศร แต่ก็ต้องตะลึงเมื่อสิ่งที่กรงเล็บสัมผัสมีเพียงอากาศธาตุเท่านั้น ตอนนี้ศรลอยอยู่กลางอากาศด้วยผลของทักษะลอยตัวที่เรียกใช้หลังจากศรลมไม่นาน


       "ทำไมมันไม่มีทีท่าว่าจะหมดแรงเลยวะ" ศรบ่นเสียงเบาระหว่างหาที่ปลอดภัยลงสู่พื้น เมื่อขาของเขาสัมผัสพื้นได้เพียงอืดใจเงาสีดำขนาดใหญ่มีหูเรียวยาวสองข้างก็ทับเงาของเขาจนมิด โชคยังเข้าข้างชายหนุ่มเพราะมันเป็นจังหวะที่เขาก้มหน้าอยู่พอดี ศรรีบกระโดดหลบอย่างรีบร้อนพร้อมหันกลับไปยิงศรลมใส่กระต๋ายป่าชั้นราชาที่นอนอยู่บนพื้น ศรลมพุ่งทะลุตัดขั้วหัวใจของมันด้วยความบังเอิญ เมื่อศรที่เตรียมวิ่งหันไปเห็นกระต๋ายป่าชั้นราชานอนนิ่งเขาจึงลองเอาเท้าเขี่ยเบาๆเพื่อจะดูให้แน่ใจว่ามันตายหรือยัง ไม่นานเสียงจากระบบก็ยืนยันการตายของกระต๋ายป่าชั้นราชาให้


    "ผู้เล่นศรสังหารกระต๋ายป่าระดับ 5 20ตัว ได้รับค่าประสบการณ์ 2000 กระต๋ายป่าชั้นราชาระดับ 15 1ตัว ได้รับค่าประสบการณ์ 3000 ได้รับเงิน 1500 เหรียญ ได้รับ เนื้อกระต๋ายป่า 5ชิ้น กรงเล็บกระต๋ายป่าชั้นต่ำระดับ 5 1ชิ้น"


    "ผู้เล่นศรได้ปฏิบัติเงื่อนไขพื้นฐานอาชีพทักษะศรลมเลื่อนเป็นระดับ 2 ผู้เล่นศรได้ปฏิบัติเงื่อนไขในการเลื่อนระดับ ได้เลือนระดับเป็น 7"


       "เฮ้อ ฆ่าระดับราชาได้ค่าตอบแทนแค่นี้เองเหรอ" ศรถอนหายใจและนั้งลงข้างศพของกระต๋ายป่าชั้นราชาพลางเก็บเนื้อกระต๋ายป่าใส่กล่องถนอมอาหาร เมื่อเก็บทุกอย่างเสร็จศรก็นอนหลับไปด้วยความเหนื่อนล้า


    ศรตื่นขึ้นมาในยามเย็นโดยมีเสียงท้องร้องโครมครามเป็นตัวปลุก เขารีบเดินไปเก็บกิ่งไม้มาก่อกองไฟเพื่อย่างเนื้อกระต๋ายป่ากินไปสองชิ้นทันที แผลของเขายังไม่หายดีเขาจึงคิดว่าวันนี้คงออกล่าสัตว์อรูสไม่ไหวแน่ๆ ศรนั้งเล่นนอนเล่นอย่างเซ็งๆก่อนจะคิดขึ้นได้ว่าวันนี้ได้อาวุธมาหนึ่งชิ้น เมื่อเขานึกขึ้นได้ก็กดดูสถานะของกรงเล็บกระต๋ายป่าชั้นต่ำระดับ 5 พลังโจมตี 125(1) พลังโจมตีเวทย์ 50(0) (วงเล็บคือของที่ใส่อยู่) ค่าสถานะของกรงเล็บกระต๋ายป่าเป็นที่พอใจแก่เขาไม่น้อยเขาจึงไม่รอช้ารีบเอามาใส่ทันที กรงเล็บสีเงินด้านตัวจับทำจากหนังมีลักษณะหยาบฟืดมือกันหลุดมือได้ดี ขนาดของกรงเล็บกระต๋ายป่าขนาดพอดีกับมือของศรเหมือนฟ้าสร้างมาให้โดยเฉพาะ(จริงๆเปลียนตามคนใช้) ในระหว่างที่ศรมัวแต่ชื่นชมกรงเล็บในมือตนเองอยู่ก็มีเสียงดัง สวบ!! มาจากด้านหลัง

     

       "คน!!" ศรหันไปมองก่อนจะอุทานออกมาเสียงดันจนคนที่เดินโซเซออกมาจากพุ้งไม้สะดุ้ง

     

       "ก็คนหนะสิเห็นเป็นตัวอะไรล่ะ" ชายหนุ่มรูปร่างไม่สูงแต่ก็ไม่เตี้ยผมสีน้ำตาลดวงตาสีแดงเพลิงกล่าวระหว่างเดินมานั้งข้างกองไฟอย่างเซ็งๆ

     

       "นายมาจากไหน?" ศรจ้องมองชายหนุ่มอย่างงุนงงถามขึ้น

     

       "ป่า" ชายหนุ่มตอบสันๆพลางนั้งอิงไฟอย่างสบายใจโดยไม่สนใจเจ้าของอย่างศรแม้แต่น้อย

     

       "จะผิดไหมถ้าจะถามชื่อ" ศรผู้ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการคบเพื้อนถามขึ้น

     

       "ไม่ผิด... สิงห์" สิงห์ตอบกลับไปอย่างสั้นๆเช่นเคย

     

       จ๋อกกกก
       เสียงท้องของสิงห์ร้องขึ้นมาจากความเงียบ เขาหน้าขึ้นสีเล็กน้อย

     

       "เหอๆ นายไม่มีอะไรติดตัวมาเลยเหรอไฟก็มีเอามาย่างกินสิ" ศรที่นั้งหัวเราะอยู่ข้างๆกล่าวขึ้น

     

       "ตลกมากหรือไงคนหิวเนี้ย แล้วก็ผมหลงป่าไม่มีอะไรติดตัวหรอก" สิงห์ตอบอย่างเซ็งๆ พลางเอามือลูบท้องเบาๆ ศรยังคงหัวเราะอย่างสนุกสนานต่อไป

     

       "เอานี้ผมมีอยู่นิดหน่อย" ศรยื่นเนื้อกระต๋ายป่าย่างให้กับสิงห์หนึ่งตัวและกินเองหนึ่งตัว สิงห์หันไปมองหน้าศร ดวงตาเป็นประกายจนศรเริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ ก่อนที่สิงห์จะรับกระต๋ายป่าย่างไปกินอย่างเอร็ดอร่อย

     

       "นายระดับเท่าไหร่ อาชีพอะไรหรอ" ศรถามขึ้นระหว่างกินเนื้อกระตายป๋า

     

       "อะอับ 15 อาอีบ อักอาบ" สิงห์ที่กินเนื้อกระต๋ายป่าอย่างมูมมามตอบกลับมา ศรขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำตอบที่ได้ฟัง ไม่ใช่ว่าเขาฟังไม่ออกแต่เขางงที่ว่าคนระดับ15ทำไมดูแล้นแค้นขนาดนี้

     

       "แล้วนายล่ะระดับเท่าไหร่ ได้อาชีพหรือยัง หือ อาชีพไรเนี้ยใช้กรงเล็บไม่เคยเห็น" สิงห์ที่กินเสร็จอย่างรวดเร็วถามศรที่ยังกินอย่างใจเย็น ระหว่างที่ถามอยู่ก็เหลือบไปเห็นกรงเล็บที่เหน็บอยู่ที่เอว

     

       "หืออ่อ ระดับ 7 อาชีพนักเวทน่ะ ส่วนกรงเล็บเพิ่งตกสดๆร้อนๆ" ศรตอบแบบไม่คิดอะไรมากเพราะคิดว่าสิงห์ที่ระดับสิบห้าแล้วคงจะสู้กระต๋ายป่าชั้นราชามาเป็นสิบแน่ๆ

     

       "เพิ่งตก ตกจากตัวอะไรน่ะแล้วพลังโจมตีเยอะไหม หายากไหม" สิงห์รัวคำถามเป็นชุด ศรที่ได้ยินคำถามถึงกับเอ๋อไปชัวขณะหนึ่ง

     

      "กระต๋ายป่าชั้นราชาระดับ 15 น่ะส่วนได้ยากไหมนี้ไม่รู้เพราะตีตัวเดียวได้ ค่าพลังก็ 125/50 ไม่มีความสามารถพิเศษอะไร" ศรที่ตั้งสติได้แล้วตอบกลับไป

     

       "นายจัดการกระต๋ายป่าชั้นราชาได้ด้วยเหรอ" สิงห์ทำหน้าเซ็งๆก่อนจะกล่าวถามศร ศรยังคงงงกับระดับของสิงห์ว่า 15 แล้วจริงหรือเปล่า


       "อืม" ศรตอบ


       "นายสู้ได้ไงเนี้ยนักเวทเปอะบางจะตายโดนตบทีก็จะไปสวรรค์แล้วไม่ใช่เหรอ" สิงห์ถามด้วยความอยากรู้เพราะขนาดตัวเขาเองโดนกระต๋ายป่าชั้นราชาตบหนึ่งทีแล้วกระโดดทับถึงกับดับอนาถ

     

       "ก็อย่าโดนมันตบเกินหนึ่งทีสิ ผมยังโดนแค่ทีเดียวเอง" ศรกล่าวพรางเปิดเสื้อให้เห็นรอยแผล สิงห์ที่ได้ยินคำพูดก็ขมวดคิ้วมองแผลอย่างงุนงง

     

       "นายวิ่งเร็วเท่าไหร่เนี้ยผมระดับ 6 ยังหนีลำบากเลยนะไหนจะหาโอกาสเข้าไปตีมันอีก" สิงห์เริ่มสงสัยว่าศรระดับ 7 จริงหรือเปล่า

     

       "ผมเคลื่อนที่เร็วระดับ 5 เองแต่ไม่ต้องเข้าไปตีนะยิงเวทเอาลืมไปแล้วเหรอว่าผมเป็นนักเวทนะจะเข้าไปตีสดกับมันทำไม" ศรตอบพลางหัวเราะกับท่าทางของสิงห์ที่เหมือนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ ทั้งสองคุยกันอยู่สักพักก็แลกเปลียนรายชื่อเพื่อนแล้วนอนหลับไป


    แสงแดดยามเช้าปลุกสองหนุ่มที่หลบอยู่ให้ตื่นตามมาด้วยเสียงพยาธิในท้องที่ร้องประท้วงอย่างรุนแรงจนไม่มีใครอายใคร สิงห์รีบวิ่งไปหากิ่งไม้มาพร้อมบอกให้ศรรออยู่เฉยๆ ศรที่กำลังงัวเงียไม่รู้เรื่องก็พยักหน้าตอบอย่างงุนงง ไม่นานสิงห์ก็กลับมาพร้อมกิ่งไม้จำนวนมหาศาล

     

       "เอามาทำไมเยอะแยะ" ศรถามขึ้นเมื่อเห็นสิงห์แบกไม้มาอย่างกับจะสร้างบ้าน

     

       "ใช้เวทย์ไฟสิ" สิงห์ที่วางกิ่งไม้ไว้เบื้องหน้าศรกล่าวขึ้นอย่าไม่ทุกข์ร้อนแต่หารู้ไม่ว่าศรมีแต่เวทย์ลม


       "ไม่มีอ่ะ" ศรตอบด้วยใบหน้านิ่งเรียบ


       "แล้วนายจุดไฟยังไงล่ะ ถ้าไม่มีเวทไฟ โอ้วหมดกันแล้วจะกินอะไร" สิงห์ที่ยืนเอ๋อกล่าวขึ้นก่อนจะทรุดตัวลงไปนอนนิ่งกับพื้น ศรส่ายหน้าอย่างเหลืออดก่อนจะหยิบหินไฟที่อยู่เกลื่อนพื้นมาจุดไฟ เมื่อสิงห์ได้ยินเสียงเคาะหินก็หันไปมองศรอย่างงุนงงไม่นานนักไฟก็ติดกับเชื้อ สิงห์ตาโตเป็นประกายกระโดนโลดเต็มอย่างอารมณ์ดีผิดกับเมื่อกี่ลิบลับ ศรหยิบเนื้อกระต๋ายป่าออกมาสองชิ้นแล้วแบ่งกับสิงห์

     

       "จะดีหรอแบ่งให้เยอะขนาดนี้" สิงห์รับเนื้อกระต๋ายป่ามาจากศรแล้วถามขึ้น

     

       "ไม่เป็นไรหรอกเหลืออีกชิ้นหนึ่งเดียวกินเสร็จก็ออกไปหาเพิ่มก็ได้แผลก็ดีขึ้นมาแล้วด้วย" ศรยิ้มตอบกลับไป


       "ชิ้นเดียว?" สิงห์ทวนคำ


       "อืม ชิ้นเดียวทำไมเหรอ" ศรยืนยันคำพูดทำเอาสิงห์หน้าซีดเมื่อรู้ว่าเขารบกวนศรขนาดไหน

     

       "แล้วถ้านายหาไม่ได้ล่ะ หมายถึงถ้ากินหมดแล้วหาไม่ได้หรือมันเน่าก่อนจะกินล่ะ" สิงห์ชวมดคิ้วถามศรเพราะกลัวว่าคนที่ช้วยเขาไว้จะลำบากเพราะเขา

     

       "เก็บได้อีกสามถึงสี่วันนู้นยังไงก็กินวันนี้ไม่เน่าแน่นอนส่วนจะหาได้หรือเปล่านี้ก็ไว้ลุ้นกันอีกที" ศรตอบมียิ้มบางๆที่ใบหน้า

     

      "สามถึงสี่วัน? ไม่เน่าเหรอปกติเก็บไว้สองวันก็แมลงวันหึ่งแล้วนะ นึกแล้วยังสยองไม่กล้ากินอ่ะ นายกินลงด้วยเหรอ" สิงห์ทำหน้าสยองกับสื่งที่ตนเจอถามศรอย่างเป็นกังวล

     

       "ไม่เป็นไรหรอกแมลงวงแมลงวันอะไรเจอนี้ก็จอดไม่ต้องแจวกันทั้งนั้น" ศรกล่าวพรางหยิบกล่องถนอมอาหารที่วางไว้ข้างๆขึ้นมา สิงห์ตาเป็นประกายอีกครั้งเมื่อคิดว่าอยู่กับศรต่อไปไม่อดตายแน่นอน เมื่อคิดอย่างนั้นได้แล้วก็ชวนให้ศรสร้างปาตี๋กับตนโดยมีศรเป็นหัวหน้า ศรก็ทำตามอย่างไม่คิดอะไรมากเพราะดีซะอีกจะได้ช้วยกันเก็บประสบการณ์ด้วย


       หลังตกลงกันเสร็จทั้งคู่ก็เดินหาสัตว์อสูรทันที ศรต้องหัวเราะกับท่าทางของสิงห์ที่ดูจะตื่นเต็นเต็มที่ทั้งที่สู้มาเยอะกว่าตนแท้ๆ สิงห์ที่ได้ยินเสียงหัวเราะของศรก็หันกลับมามองอย่างงุนงง


       "นายหัวเราะอะไรเหรอ" สิงห์ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าศรไม่หยุดหัวเราะสักที


       "ท่าทางนายไง นายสู้มาเยอะแล้วไม่ใช่หรอทำไมถึงดูตื่นเต็นนักหละ" ศรหยุดหัวเราะเพราะกลัวว่าสิงห์จะรำคาญหรือโกรธเข้า แล้วถามสิงห์กลับไป

     

       "หา ตื่นเต้น ดูยังไงวะ" สิงห์ตอบใบหน้าขึ้นสีเล็กน้อยแล้วหันไปเดินนำหน้าตามเดิม ศรเห็นท่าทางของสิงห์เขาก็ไม่อาจกลั้นหัวเราะได้อีก เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาจนสิงห์หน้าแดงก่ำ สิงห์กำลังจะหันมาโวยใส่ศรก็ต้องตะลึงกับภาพที่เห็นและเสียงที่ได้ยิน

     

    "สัตว์อรูสหมาป่าพงหญ้าระดับ 9 เตรียมจู่โจม" สัตว์อสูรหมาป่าพงหญ้า4ตัวทำท่าเตรียมพร้อมจะกระโจนงับเหยื่อ สิงห์รีบวิ่งเอาไปพลักศรเพื่อหลบการโจมตีของหมาป่าพงหญ้าที่ยังไม่โจมตี

     

       "ทำอะไรเนี้ย!!" ศรตะโกนถามสิงห์ด้วยความโมโหที่อยู่ๆตนก็โดนพลักกระเด็น สิงห์ไม่ฟังที่ศรบ่นแล้วฟาดดาบเข้าใส่พงหญ้าปรากฎเลือดสีแดงฉานกระเด็นออกมา หมาป่าพงหญ้าอีกสามตัวต่างกระโจนออกมาพร้อมกัน สิงห์หน้าซีดลืมคิดไปว่ามันมีเยอะกว่า ศรที่ตั้งสติได้แล้วก็บรรจงยิงศรลมแทงทะลุร่างของหน้าป่าทั้งสามไปอย่างสวยงาม แต่ด้วยระดับที่ห่างชั้นพวกมันจึงแค่กระเด็นไปนอนอยู่ที่พื้นไม่ถึงกับตาย เมื่อสิงห์เห็นว่าพวกมันยังจู่โจมตนไม่ได้ก็ตวัดดาบอย่างแรงใส่หมาป่าพงหญ้าทั้งสามจนกลายเป็นแสงสีขาวลอยหายไปในอากาศ


    "ผู้เล่นศรสังหารหมาป่าพงหญ้าระดับ 9 ได้รับค่าประสบการณ์ 360 (หาร2 เพราะปาตี๋อยู่) ได้รับเงิน 90เหรียญ (หาร2อีกตามเคย) ผู้เล่นศรปฎิบัติเงื่อนไขการเลื่อนระดับ เลื่อนระดับเป็น 8 "


       "เวทนายดีนะผมไม่เคยเห็นเวทที่ยิงทีเดียวทะลุสามตัวมาก่อนเลยแถมยังแรงจนพวกมันกระเด็นอีกต่างหาก" สิงห์กล่าวขึ้นหลังจากเห็นเวทอันทรงพลัง(?)ของศร


       "แล้วปกตินักเวทสู้ยังไงหรอ" ศรขมวดคิ้วถาม


       "ยิงเวทตามธาตุหลักทั้งสี่ก็ ดิน น้ำ ลม ไฟ ไงแต่เป็นลูกๆอะไม่ได้เป็นเส้นแบบของนาย" สิงห์อธิบายให้ศรฟังอย่างง่ายๆ


       "ปกติมันไม่ได้เป็นเส้นอะนะแต่ไม่มีเวลาชาจเลยออกมาเป็นเส้น" ศรทำหน้าเซ็งกล่าวกับสิงห์


       "โห ชาจได้ดวยหรอเท่ว่ะ" สิงห์กล่าว ตาเป็นประกายแล้วคิดว่าถ้าชาจเต็มที่มันจะยิงออกมาเป็นอะไร

     

       "เท่กินไม่ไดหรอก ถ้ามัวแต่ชาจมีหวังโดนสัตว์อสูรเขมือบก่อนพอดี" ศรกล่าว สิงห์ที่ดูจะตื่นเต็มกับเวทของศรถึงกับเซ็ง ทั้งสอยเดินป่ากันอย่างต่อเนื่องจนเข้ามาถึงส่วนลึกทั้งสองมองหน้ากันอย่างงุนงงเมื่อเห็นกำแพงไม้สูงแค่เอวเบื้องหลังมีกระโจมไม้ขนาดเล็กอยู่มากมาย


       "เมืองหรอเปล่าอะ" สิงห์ถามขึ้น


       "แล้วจะไปถามใครล่ะ ก็มาด้วยกันเนี้ย" ศรตอบอย่างเซ็งๆ


       "ลองเข้าไปดู.." ระหว่างที่สิงห์กำลังจะชวนศรเข้าไปสำรวจก็พบก็อบลินตัวเขียวขนาดเล็กเดินออกมาจาดกระโจม ทั้งสองหันมามองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย


       "สู้ไหม?" ศรถามขึ้น


       "สู้อยู่แล้วจะไปกลัวอะไร" สิงห์ตอบ


       "เอาจริงหรอเท่าที่ดูถ้ากระโจมหนึ่งมีหนึ่งตัวก็เกินยี่สิบนะ" ศรกล่าวพลางชี้ให้ดูกระโจมจำนวนมหาศาล


       "นายยิงทะลุได้สูงสุดกี่ตัวล่ะแล้วดีเลย์นานไหม" สิงห์ถามขึ้นตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกหวันๆบ้างแล้ว


      "ทะลุสูงสุดเหรออืม... ไม่รู้สิมันก็ทะลุตลอดอะสูงสุดเคยยิงสี่ตัว ดีเลย์นี้ห้าวิ" ศรคมวดคิ้วตอบพลางคิดว่าเขาน่าจะลองทดสอบทักษะตัวเองบ้างว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด


       "ห้าวิ! บ้าหรือเปล่าอย่างนี้ก็ยิงรัวๆเลยสิ" สิงห์ตะโกนออกมาดังลั่นด้วยความตกใจ มีก็อบลินตัวหนึ่งได้ยินเสียงของสิงห์เข้าก็ร้องโวยวายดังลั่น


       "โว้ยจะแหกปากทำไมเนี้ย พวกมันรู้ตัวหมดแล้วเห็นไหม" ศรบ่นพลางส่ายหน้ากับความงี่เง่าของสิงห์


       "งั้นเดียวผมลุยเองแล้วนายชาร์จศรลมรอไว้เลยนะศร" สิงห์พูดติดตลกใบหน้ายิ้มแย้มเล็กน้อยผิดกับศรที่ทำหน้ามุ้ยอย่างไม่สบอารมณ์ที่โดนล้อเรื้องชื่อ ระหว่างที่ศรชาจศรลมอยู่ก็เห็นสิงห์ที่กำลังวิ่งหนีก็อบลิ้นอย่างทุลักทุเล ก็ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา


       "ชาร์จนานเกินไปแล้วยิงสักทีสิพ่อคุณ" สิงห์ตะโกนอย่างเซ็งๆเพราะเขาล่อมานานกว่าหนึ่งนาทีแล้ว ศรที่กำลังตะลึงกับรูปร่างของศรลมที่ดูเหมือนหอกซะมากกว่าขยายขนาดขึ้นโดยไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อไหร่ แต่เมื่อเห็นว่าถ้าชาร์จต่อสิงห์ต้องนอนโลงแน่นอนจึงตัดสินใจปล่อยออกไป ศรลมพุ่งด้วยความเร็วสูงแทงทะลุก็อบลินไปกว่าสามสิบตัวแล้วยังทะลุกระโจมกับต้นไม้อีกหลายสิบต้นก่อนที่จะเสียบติดกำลังแพงหิน ก็อบลิ้นยืนงงว่าเหตุใดเพื่อนพ้องของมันถึงได้ดับอนาถไปมากขนาดนี้ทั้งที่ศัตรูก็เอาแต่วิ่งวนไปมา เมื่อสิงห์เห็นว่าก็อบลิ้นกำลังยืน(งง)ไว้อารัยให้เพื้อนมันอยู่ก็หวดดาบใส่ก็อบลินอย่างรุนแรงโทษที่ทำให้ตนต้องวิ่งหนีตายอยู่นานกว่านาที ด้านศรที่ดูท่าทางจะสนุกกับศรลมก็เริ่มชาร์จใหม่อีกครั้ง
      
      
       พวกก็อบลิ้นที่เห็นสิงห์สังหารเพื่อนของพวกมันก็เริ่มโกรธและพากันโทษว่าที่ตายไปก่อนหน้าคือความผิดของสิงห์คราวนี้มันเริ่มมีแบบแผนขึ้นโดนการแยกกันดักสิงห์เป็นวงกลม สิงห์หน้าซีดเผือกมองดูก็อบลินที่แสนจะชาญฉลาดของก็อบลิ้นเข้าทำใจยอมรับการตายที่กำลังเข้ามาหาอย่างช้าๆ ไม่นานนักศรลมอีกลูกก็พุ่งทะลุก็อบลินไปกว่าครึ่ง เมื่อก็อบลิ้นเห็นเพื่อนมันกระเด็นตามลมไปกว่าครึ่งก็โกรธจัดแยกกันบุกอย่างบ้าคลั้ง


       "ดาบเสี้ยวจันทร์" สิงห์เรียกใช้ทักษะและตวัดดาบเป็นรูปครึ่งวงกลมมีคลื่นแรงดันสีฟ้าอ่อนพุ่งออกไปประมาณสิบเซ็นจากปลายดาบก็อบลินที่อยู่ในระยะดาบขาดเป็นสองท่อนกลายเป็นแสงสีขาวพุ้งขึ้นฟ้าไป เมื่อเหลือกันไม่ถึงสิบพวกมันก็ตัดสินใจวิ่งหนี แต่ช้าเกินไปเสียแล้วเมื่อศรลมของศรพุ่งทะลุร่างของพวกมันอยากรวดเร็ว เมื่อศรเห็นว่าไม่มีศัตรูหลงเหลืออยู่แล้วก็เดินเข้ามาภายในค่ายของก็อบลินที่ตอนนี้กลายเป็นแม่น้ำเลือดไปแล้ว


       "แรงดีจริงๆเลยนะ" สิงห์กล่าวขึ้นเมื่อศรเดินมาถึงเขา


       "แต่ก็เสียเวลานะ" ศรหันไปยิ้มให้สิงห์แล้วกล่าวขึ้น
      
      
       "ถ้าไม่มีคนดึงความสนใจให้ก็คงได้แต่ดับอนาถอ่ะ เพราะตอนชาร์จขยับไม่ได้" ศรกล่าวขึ้นหลังจากเห็นสีหน้าหมดอารมณ์ของสิงห์


    "ผู้เล่นศรสังหารก็อบลินชาวบ้านระดับ 10 150ตัว ได้รับค่าประสบการณ์ 150,00 ได้รับเงิน 3,750 ได้รับเศษเสื้อขาด 20ชิ้น กระบองก็อบลิ้นชั้นต่ำระดับ 2 1ชิ้น กระปุกผลึกเลือด 1 กระปุก[20เม็ด] กระปุกผลึกปราน 1 กระปุก [20เม็ด] ผู้เล่นศรปฏิบัติเงื่อนไขการเลื่อนระดับ เลื่อนระดับเป็น 9 ผู้เล่นศรปฏิบัติเงื่อนไขพื้นฐานอาชีพทักษะศรลมเลื่อนเป็นระดับ 3...4"


       "มีอะไรเหรอ" ศรยิ้มอย่างมีความสุข หันไปมองสิงห์ที่เครียดหนัก


       "ได้ของเยอะเกินไปแล้วแบบนี้จะแบกไปหมดเหรอ" สิ้นเสียงของสิงห์ศรที่ดูเหมือนจะเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองยังไม่มีกระเป๋าก็หน้าซีดทันที


       "งั้นเราทิ้งเศษเสื้อไว้แล้วกันเอาไปแค่กระปุกยาก็กับอุปกรก็พอเดียวพอกลับเมืองคงต้องรีบเดินไปซื้อกระเป๋า" ศรกล่าวขึ้นมาอย่างปลงๆหลังทำใจได้แล้วว่าต้องทิ้งของไปยี่สิบชิ้น


       "ไม่มีทางเลือกนี้น่า" สิงห์ตอบอย่างปลงๆเช่นกัน จากนั้นทั้งสองออกเดินทางกลับเมือง โดยมีสิงห์แบกกระปุกยาและกระบองให้ ส่วนศรก็เดินตัวปลิวเพราะสิงห์อาสาถือให้ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอม เมื่อทั้งสองเดินเข้าถึงเมืองคนในเมืองต่างหันมามองด้วยความสนใจ แต่ไม่นานนักก็หันกลับไปทำธุระของตอนเพราะชินแล้วที่เห็นคนแบกของกลับเมือง ทั้งสองรีบตรงไปร้านขายอุปกรทันที ศรซื้อกระเป๋าเล็กเอาไว้ติดกับเข็มขัดที่สามารถบรรจุได้ 100ช่อง 2ใบเอาไว้เก็บผลึกเลือดกับปรานในราคาใบละ 500 เหรียญ แล้วก็ซื้อกระเป๋าสะพาย ที่สามารถบรรจุได้ 1000 ช่องในราคา 3000เหรียญ ส่วนสิงห์ที่ระดับสูงกว่าแต่ไม่น่าเชื่อว่าจะจนกว่าซื้อเพียงกระเป๋าสะพายบรรจุได้ 500 ช่องในราคา 2000 เหรียญ ด้วยความรู้สึกเสียดายเพราะมันแพงเหลือเกินเมื่อเทียบกับกระเป๋าของศร ศรพาสิงห์เดินเข้าร้านอาหารไปเลี้ยงสเต็กเป็นมื้อกลางวันเพื่อเป็นการของคุณที่ช้วยยื้อพวกก็อบลิ้นไว้ให้ เมื่อทั้งสองกินจนเสร็จ ศรก็เดินไปซื้อเต็นท์ขนาดเล็กที่ด้านในมีฝูกนอน 2 ฝูกในราคา 500 เหรียญ


       "ราคาเท่ากระเป๋าเลยแหะดูไม่ออกเลยว่าอะไรแพงกว่ากัน" สิงห์กระซิบกับศร


      "ก็มันจำเป็นพอๆกันอ่ะนะ แต่ถ้าดูๆแล้วพวกสายบู้น่าจะซื้อกระเป๋าเล็กก่อนเพราะจะได้หยิบเลือดมากินง่ายๆ ส่วนที่พักตามป่าตามเขาก็ได้จริงไหมล่ะ" ศรหันมากล่าวกับสิงห์ก่อนจะเดินไปจ่ายตังค่าเต็นท์แล้วทั้งสองก็เดินออกมาจากร้าน

     
       "ลองไปสู้ที่อืนดูบ้างไหมเขาว่าประตูทิศตะวันออกระดับสูงกว่าทิศใต้นิดหน่อยนะ" สิงห์บอกกับศรที่นั้งดูแผนที่อยู่


       "หือเก่งกว่านิดหน่อยนี้คงไม่ระดับห้าสิบขึ้นหรอกนะ" ศรที่ยังไม่รู้ว่าแผนที่กลับหัวกล่าวขึ้น


       "ห้ะ ห้าสิบ ป่าทิศใต้มีสัตว์อสูรระดับห้าสิบด้วยเหรอ" สิงห์ตะโกนลั่นจนคนหันมามองเป็นตาเดียว


       "อืมเหมือนจะเคยเจออยู่ เป็นลิงยักษ์ชั้นราชา" ศรตอบกลับไปแล้วเก็บแผนที่เข้ากระเป๋าหลังจากดูไม่รู้เรื้อง


       "โธ่นั้นมันบอสจ้าวป่า สัตว์อรูสทั่วไปในป่ามีอยากมากก็แค่ระดับสิบห้านั้นแหละ ลองไปประตูทิศตะวันออกดูเหอะอยากรู้ว่ามีตัวอะไร อุดอู้อยู่ป่านั้นตั้งนานแล้ว" สิงห์พยายามชักชวนให้ศรไปด้วยเพื่อที่เขาจะได้สู้อย่างไม่ยากเย็น หนำซ้ำยังมีของกิน มีที่พักอีกด้วย


    ตี้ด... ตี้ด... เสียงนาฬิกาข้อมือดันเตือนว่าสิงห์เหลือเวลาอีกแค่1ชัวโมง(ในเกมส์)


       "ต้องไปแล้วล่ะเดียวอีกชัวโมงเจอกันแล้วกัน" ศรกล่าวขึ้นหลังกดปิดเสียง


       "อืมของผมก็จะหมดแล้วเหมือนกัน" สิงห์ที่เอานาฬิกาขึ้นมาดูกล่าว


       "งั้นไว้เจอกันนะ" ศรกล่าวจากนั้นทั้งสองก็เดินไปที่อาคารบริการผู้เล่นเพื่อออฟไลน์


       เมื่อศรออฟไลน์ออกจากเกมส์เข้าก็ลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว จากนั้นก็ลงมาชั้นล่างเพื่อทำกับข้าวกิน ศรเดินไปเปิดตู้เย็นดูว่ามีอะไรพอจะกินได้บ้างไหม แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า


       "ตอนเย็นมัวแต่สนใจเกมส์เลยลืมซื้อของเข้าบ้านเลยนี้น่า เฮ้อ" ศรถอนหายใจอย่างปลงๆกล่าวขึ้น เขาออกจากบ้านเดินตรงไปซุปเปอร์มาเก็ตแถวบ้านที่เปิด24ชัวโมงอย่างเซ็งๆ เมื่อเดินเข้าไปศรก็เดินตรงไปหยิบ ใข่ เนื้อหมูสับปรุงรส


       "อ่ะ ขอโทษครับ" ระหว่างที่ศรกำลังเดินไปจ่ายเงินก็มีผู้ชายคนนึกเดินเข้ามาชนศร


       "หืม ศรนิ" ชายสวมหมวกแก็บที่ชนศรกล่าวขึ้น


       "เรารู้จักกันเหรอครับ" ศรตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย


       "อ้าวไม่เจอกันครึ่งชัวโมงลืมกันเลยเหรอ" เมื่อชายหนุ่มถอดหมวกออกศรก็ถึงบางอ้อทันที


       "สิงห์!" ศรกล่าวเสียงดังกว่าปกติแต่ก็ไม่ถึงกับตะโกนและไม่มีใครหันมาสนใจ


       "อืม คิดว่าจะลืมกันซะแล้ว แต่บังเอิญจังนะมาเจอกันนอกเกมส์ด้วย" สิงห์ตอบกลับอย่างยินดีใบหน้ายิ้มแย้ม


       "นายอยู่แถวนี้เหรอ" ศรถาม


       "อืมอยู่แถวนี้แหละ" สิงห์ตอบ


       "เอาเป็นว่าเดียวไปเจอกันในเกมส์แล้วกันเวลาใช้น้อยกว่าเยอะ" ศรตัดบทแล้วเดินไปจ่ายเงินทันที ทิ้งให้สิงห์ยืนงงอยู่คนเดียว เมื่อกลับถึงบ้านศรก็ทำการเจียวใข่กินก่อนจะกลับเข้าเกมส์อีกครั้ง เมื่อเข้าเกมส์มาศรก็เอานาฬิกาขึ้นมาดูสถานะของสิงห์ก็พบว่าสิงห์ออนไลน์เข้ามาแล้วจึงทำการโทรหาสิงห์ทันที


       "โอ้ ว่าไงศรเข้าเกมส์ช้าจังเลยนะ" สิงห์กดรับโทรศัพท์แทบจะทันทีที่ศรโทรมา


       "กินข้าวนานไปหน่อยหนะ ว่าแต่ตอนนี้นายอยู่ไหนล่ะจะได้ไปหา" ศรกล่าว


       "ประตูเมืองทิศตะวันออก ที่ราบนางแอ่น ตรงแถวๆรูปปั้นอ่ะมาถูกไหมหรือจะให้ไปรับ" สิงห์ถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเคยเห็นศรดูแผนที่มาครั้งหนึ่งแล้ว


       "ไม่เป็นไรอ่ะเดียวไปเองดีกว่านายล่าสัตว์อสูรรอไปก่อนเลย" ศรตอบอย่างมันใจแล้วกดวางสายไปก่อนหยิบแผนที่มาดู แต่คราวนี้แผนที่ไม่กลับหัวศรเลยสามารถมาหาสิงห์ได้โดยไม่หลงไปทิศตรงข้าม เมื่อสิงห์เห็นศรมาถูกเขาก็รีบวิ่งไปหาศรทันที


       "แถวนี้สัตว์อสูรเป็นยังไงบ้าง" ศรถามขึ้น


       "งั้นๆถึงระดับจะสูงแต่ก็ไม่เลย 20 แถมมีน้อยอีกต่างหาก" สิงห์ตอบด้วยสีหน้าผิดหวังเล็กน้อยเพราะเขาคิดว่ามันน่าจะโหดกว่านี้


       "งั้นเราลองเข้าไปในๆหน่อยไหมล่ะอาจจะเจอเยอะขึ้นหรือไม่ก็ระดับสูงขึ้น ก็ได้นะ" ศรกล่าวชวนให้เข้าไปด้านในเพราะรู้ว่าสิงห์ชอบลุยแบบเสี่ยงๆมากกว่า สิงห์พยักหน้าตอบจากนั้นทั้งสองก็พากันเดินเข้าไปส่วนใน โชคดีที่สัตว์อรูสระแวกนี้รักสงบพวกเขาจึงไม่เสียเวลาในการเดินทาง เมื่อเข้ามาส่วนในได้ไม่นานความต้องการของสิงห์ดูจะสัมฤทธิ์ผลเมื่อได้เห็น นกขนาดความกว่างปีกทั้งสองข้าวรวมกันกว่า5เมตร ความยาวจากหัวถึงหางประมาณ3เมตร


    "สัตว์อรูสนกบกชั้นราชาระดับ 30 เตรียมจู่โจม สัตว์อสูรนกบกระดับ 20 เตรียมจู่โจม..." สัตว์อรูสนกบกกว่า 30ตัววิ่งเข้าใส่ชายหนุ่มทั้งสองอย่างรวดเร็ว


       "ฝากด้วยล่ะ" ศรพูดจบก็วิ่งไปด้านหลังทันทีทิ้งให้สิงห์รับมือกับนกบกทั้ง 31ตัวโดยลำพัง


       "ดาบเสี้ยวจันทร์" สิงห์รีบเรียกใช้ทักษะทันทีก่อนที่มันจะมาถึงตัวเมื่อเขาตวัดดาบเป็นรูปครึ่งวงกลมก็ปรากฎคลื่นแรงดันสีฟ้าอ่อนออกมาประมาณสิบเซ็นจากปลายดาบจนนกบกที่วิ่งเข้ามาต่างพยายามหยุดแต่พวกที่อยู่ด้านหลังไม่เห็นสิ่งที่พวกข้างหน้าเห็นพวกมันจึงชนกันทำให้พวกที่อยู่ด้านหน้าพรุ่งเข้ารับดาบเข้าไปเต็มๆ เมือนกบกชั้นราชาเห็นอย่างนั้นมันก็ไม่รีรออีกต่อไปมันกระโดด(บินไม่ได้)เข้ามาใกล้สิงห์แล้วเอาปีกตบ ด้วยความกว้างของปีกจึงทำให้สิงห์ไม่สามารถหลบได้ สิงห์กระเด็นไปไกลและกลิ้งอีกหลายตลบ นกบกตัวเล็กต่างพากันวิ่งเข้าใส่หมายจะรุมจิกสิงห์ให้ตายข้อหาที่ฟันพวกมันจนเกิบตาย แต่พวกมันก็ต้องผิดหวังเมื่อมีศรลมขนาดใหญ่ผ่านร่างพวกมันไปเพียงเสียววินาทีร่างนกบกที่ไร้วิญญานก็กระเด็นไปคนละทิศคนละทางกลายเป็นแสงสีขาวพุ่งขึ้นฟ้าแล้วหายไป
      
      
       นกบกชั้นราชาเห็นท่าไม่ดีก็รีบวิ่งเข้ามาหมายเผด็จศึกด้วยความแค้นที่ฆ่าลูกของมันจนหมด ศรรีบยิงศรลมออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นเพียงแค่เส้นลมเล็กๆไม่สามารถทำให้นกบกชั้นราชาถึงตายได้ สิงห์ที่เห็นนกบกชั้นราชาชงักเพราะสงสัยว่าใครเป็นคนโจมตีมันก็ชูดาบขึ้นสูงแล้วหวดลงมาอย่างเต็มแรง ปีกของนกบกชั้นราชาขาดไปข้างหนึ่ง มันหันมามองสิงห์อย่างแค้นเคืองพร้อมใช้ปีกอีกข้างหนึ่งตบอย่างแรงใส่สิงห์จนกระเด็นไปไกล มันรีบตามไปซ้ำทันที นกบกชั้นราชาหยอกล้อสิงห์อย่างสนุกสนานด้วยการใช่จงอยปากจิกอย่างไม่บรรยะบรรยัง ร่างกายของสิงห์กลายเป็นสีแดงกระพริบที่บ่งบอกว่าใกล้ตายเต็มที่แล้ว ศรเมื่อเห็นอย่างนั้นแล้วจึงใจเย็นชาร์จศรลมต่ออีกไม่ได้ ศรลมถูกยิงออกไปก่อนที่ศรจะวิ่งออกจาที่หลบซ่อนไปหาสิงห์อย่างรวดเร็วพร้อมยัดผลึกเลือดเข้าปากสิงห์ไปสองเม็ดรวด

     

       "จะไหวไหมเนี้ย" สิงห์ที่ฟื้นจากสภาพปางตายกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล

     

       "สู้มาขนาดนี้แล้วหนีก็เสียดายแย่สิ" ศรตอบด้วยหน้ายิ้มแหยๆ

     

       "นั้นสินะอย่างมากตายก็แค่เสีย 5 ระดับ" สิงห์ตอบกลับเมื่อเห็นความมุ่งมั้นของศร

     

       "ห้ะ!!" ศรตะโกนลั่น "ตายเสีย 5 ระดับเลยเหรอ" ศรขมวดคิ้วถาม สิงห์หน้าซีด ไม่พูดอะไรแค่พยักหน้าตอบเท่านั้น ระหว่างที่ศรเริ่มลังเลว่าจะสู้หรือหนีดี นกบกชั้นราชาก็วิ่งเข้าใส่ศรด้วยความโกรธที่ท้องของนกบกมีรู้ขนาดใหญ่ซึ่งได้มาจากศรลมของศรนั้นเอง


       "ดาบเสี้ยวจันทร์" สิงห์รีบใช้ทักษะเพราะเห็นว่าศรนิ่งไป


       "ศรโว้ยยยยย" สิงห์ตะโกนใส่หูของศรอย่างดังจนศรสะดุ้ง


       "จะแหกปากทำไมวะ" ศรหันมาถลึงตาใส่สิงห์อย่างแค้นเคือง

     

       "ตอนนี้สู้อยู่นะเว้ยอย่าอยู่ๆก็นิ่งสิวะ" สิงห์ตะโกนตอบพลางตั้งรับการโจมตีของนกบกชั้นราชาอย่างยากเย็น


       "เออรู้แล้วน่า ศรลม!" ศรกล่าว ใบหน้าขึ้นสีเล็กน้อยก่อนจะเรียกทักษรศรลมมาชาร์จเตรียมจัดการ นกบกชั้นราชาเห็นการเปรียนแปลงของกระแสลมที่อยู่ๆก็หมุนวนรอบตัวชายหนุ่มที่เป็นศัตรูของมัน มันจึงใช้ปีกข้างที่ยังไม่ขาดตบสิงห์ไปหลายทีจนสิงห์ไม่สามารถต้านไว้ได้และกระเด็นไปจนกระแทกกับต้นไม้สำลักเลือดคำโตออกมา


       "แมร่งเอ้ย" ศรสบถออกมาเบาๆก่อนจะปล่อยศรลมออกไป ศรลมแทงทะลุท้องของนกบกชั้นราชาจุดข้างๆกับจุดแรกจนท้องของนกบกชั้นราชามีรูถึงสองรู นกบกชั้นราชากระตุกไปช่วงหนึ่งที่ศรลมทะลุผ่านร่างมันไปอย่างง่ายดาย ศรวิ่งเข้าไปกางกรงเล็บฟาดใส่นกบกชั้นราชาอย่างรุนแรงถึงแม้เขาจะไม่ได้เป็นสายโจมตีระยะประชิดแต่ก็สร้างความเสียหายได้ไม่น้อย นกบกชั้นราชาล้มลงนอนแน่นิ่ง ไม่นานนักก็กลายเป็นแสงสีข้าวพุ่งหายไป


    "ผู้เล่นศรสังหาร นกบกระดับ20 จำนวน 20ตัว ได้รับค่าประสบการณ์ 4,000 นกบกชั้นราชาระดับ 30 1ตัว ได้รับค่าประสบการณ์ 7,500 ได้รับเงิน 4,000 เหรียญ ได้รับรองเท้าลมบกชั้นต่ำระดับ 5 หนึ่งชิ้น ผู้เล่นศรปฏิบัติเงื่อนไขพื้นฐานในการเลื่อน ได้เลื่อนระดับเป็น 10 ผู้เล่นศรปฏิบัติเงื่อนไขทักษะอาชีพ ทักษะศรลมเลื่อนเป็นระดับ 5"


    [รองเท้าลมบกชั้นต่ำระดับ 5 พลังป้องกัน 10 เมื่อใส่จะได้รับความสามารถพิเศษ ทักษะเคลื่อนที่เร็วจะเพิ่มขึ้น 2 ระดับ ] ศรดวงตาเบิกโตเมื่อดูสถานะของรองเท้าลมบก เขารีบกดส่วมใส่ทันที


       "เป็นไงบ้างได้ของดีมาล่ะสิ" สิงห์ที่เดินเข้ามากล่าวขึ้นเมื่อเห็นศรยิ้มจนแก้มแทบปริ


       "อืมก็นิดหน่อยนะแต่มันก็ไม่มีประโยชหรอกถ้ายังมีนายอยู่" ศรตอบติดตลก สิงห์ที่ดูท่าจะไม่เข้าใจคำพูดของศรก็ได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย


       "แล้วสรุปมันดีหรือไม่ดีล่ะ" สิงห์ไม่อาจเก็บความสงสัยได้ถามขึ้น


       "ก็ดีนะแต่มีนายอยู่มันเลยไม่ดี" ศรหัวเราะเบาๆก่อนจะตอบกลับไป


       "สรุปแล้วมันยังไงกันแน่วะ" สิงห์บ่นกับตัวเองเบาๆ จากนั้นทั้งสองก็ต้องโวยลั่นเมื่อพบว่าเนื้อกระต๋ายป่าเหลือเพียงตัวเดียว


       "เอาไงดีล่ะเนี้ย" สิงห์ถามขึ้นอย่างเซ็งๆระหว่างนั้งจ้องเนื้อกระต๋ายป่าในกล่องถนอมอาหารที่มีเพียงชิ้นเดียว


       "ลองหาดูหน่อยแล้วกันอาจจะมีก็ได้" ศรพูดกับตัวเองเบาๆแต่สิงห์กับได้ยินทุกคำ


       "หาอะไรเหรอ อ้ะ!" ระหว่างที่สิงห์ถามศรอยู่ๆก็สะดุ้งและเงียบไป


       "ลำธารนะอาจจะมีปลาก็ได้ว่าแต่นายเป็นอะไรไปเหรออยู่ๆก็เงียบ" ศรขมวดคิ้วมองดูสิงห์ที่อยู่ๆก็นั้งเงียบไม่พูดไม่จาแถมยังนั้งยิ้ม


       "ศร เราคงไม่เจอกันสักพักนะ" สิงห์กล่าวขึ้น


       "ทำไมเหรอ" ศรเอียงคอเล็กน้อยถามกลับไป


       "ผมต้องไปทำภารกิจเลื่อนขั้นน่ะ" สิงห์ตอนกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม


       "เลื่อนขั้น! เลื่อนเป็นอะไรเหรอ ยากไหม แล้วต้องระดับเท่าไหร่ถึงจะทำได้" ศรที่ดูจะตกใจไม่น้อยรัวคำถามใส่สิงห์


       "ไม่รู้สินี้ก็ครั้งแรกอะ" สิงห์ตอบ ศรทำหน้าเซ็งเมื่อได้ยินคำตอบของสิงห์


       "แล้วนายจะไปเลยหรือเปล่า หรือว่าจะอยู่เลื่อนระดับกันก่อน" ศรกล่าวขึ้นอย่างเซ็งๆ


       "ว่าแล้วก็ไปเลยแล้วกันดูแลตัวด้วยนะศรลม" สิงห์กล่าวขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มผิดกับศรที่หันขวับมาจ้องเขมงใส่สิงห์หลังได้ยินคำว่าศรลม


       "ใครวะ ศรลม" ศรกระแทกเสียงใส่สิงห์อย่างแรงด้วยความโกรธ


       "นายไงไปนะ ศรลม โชคดีล่ะ" หลังจากสิงห์กล่าวจบก็เดินจากไปทันทีทิ้งให้ศรนั้งกัดฟันกรอดอยู่คนเดียว ไม่นานนักศรก็เดินหากิ่งไม้มาจุดไฟเพื่อย่างเนื้อกระต๋ายป่าชิ้นสุดท้ายกิน หลังจากินเสร็จก็เดินสำรวจพื้นที่อยู่สักพักก็พบกับลำธารแหล่งหนึ่งเข้า ศรไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าดูทันที เมื่อศรเดินไปจนถึงลำธารที่มีน้ำใส่ไหลผ่าน ปรากฎให้เห็นเหล่าปลาแหวกว่ายอยู่เป็นจำนวนมาก ศรเริ่มมีรอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้า เขาหยิบมืดสั้นมือใหม่ออกมาแทงปลา อย่างเพลิดเพลินแล้วเก็บใส่กล่องถนอมอาหารจนเต็ม ( 10 ตัว )


    "ผู้เล่นศรปฎิบัติเงื่อนไขพื้นฐานอาชีพทักษะ ตกปลา ระดับ 1"


       "ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่นี้มันตกปลาตรงไหนเหรอ" ศรบ่นกับตัวเองเบาๆ


       "นายคนนั้นหน้าเหมือนในใบภารกิจเลยแหะ ถ้าทางไม่มีพิษมีภัยไม่น่าจะยาก" เสียงหวานฟังสบายหูกล่าวกับตัวเองเบาๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×