ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สงครามทวยเทพออนไลน์

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 : สาวน้อยที่แสนวุ่นวาย

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ย. 55


     

       ระหว่างที่ศรกำลังย่างปลากินอย่างสบายอารมณ์อยู่ข้างลำธาร ผลั้นเกิดเสียงดังขึ้นมาจากเบื้องหลัง


       "ว้ายยยย" โครม!!
       ศรสะดุ้งหันขวับไปมองก็พบร่างหญิงสาวผมน้ำตาลอ่อนยาวประมาณเอวสวมชุดดำสนิดปิดทุกส่วนของร่างกายเหลือก็แต่ดวงตาคู่งามสีเขียวอ่อน


       "หล่นมาจากไหนวะเนี้ย" ศรกล่าวกับตัวเองเบาๆกลัวว่าหญิงสาวจะตื่นขึ้นมา เขาเดินเข้าไปไกล้ร่างของหญิงสาวที่นอนสลบไสลแล้วหยิบกิ่งไม้แถวนั้นขึ้นมาทำการ จิ้ม!! ที่แก้มของหญิงสาว


       "สนุกดีเหมือนกันแหะ" ศรหัวเรอะเบาๆพลางใช้กิ่งไม้จิ้นแก้มของหญิงสาวอย่างต่อเนื่อง หญิงสาวที่เริ่มรู้สึกตัวก็เอามือมาปัดกิ่งไม้ของศร


       "ไฟไหม้!!!" ศรยิ้มที่มุมปากก่อนจะตะโกนออกมาสุดเสียงจนทำให้หญิงสาวสะดุ้งตัวขึ้นมานั้ง


       "ไหนๆๆๆ ไฟไหมที่ไหน" หญิงสาวหันมาถามศรด้วยสีหน้าตื่นกลัว


       "นั้นไง ไฟลุกใหญ่เลย" ศรชี้ไปทางกองไฟด้านหลังที่เขาใช้ย่างปลาก่อนหน้านี้ หญิงสาวมองไปที่กองไฟสลับกับศรอย่างงุนงง


       "ไอบ้า อย่ามาหลอกคนอืนเขาสิยะ" หญิงสาวกระแทกเสียงใส่ศรก่อนจะลุกขึ้นยืน


       "อ้าวเธอไม่เป็นไรแล้วเหรอลุกขึ้นมายืนแบบนี้น่ะ" ศรถาม พลางหัวเราะคิก


       "ฉันจะหายเป็นปลิดทิ้งเลยถ้านายเซ็นนี้ให้ชั้น" หญิงสาวยื่นกระดาษให้ศรหนึ่งใบ ศรรับมาอ่านดูแต่เขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นหัวข้อที่เขียนอยู่บนสุดของกระดาษ


       "ใบยินยอมให้ฆ่า" ศรอ่านออกเสียง


       "ใช่ ถ้านายเซ็นมันฉันก็จะสามารถฆ่านายได้โดยไม่ติดโทษยังไงล่ะ" หญิงสาวตอบกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม


       "อะไรกันแค่แกล้งให้ตื่นนี้จะฆ่ากันเลยเหรอ ไม่แรงไปหน่อยเหรอ" ศรบ่นอย่างเซ็งๆ ไม่เคยนึกเลยว่าแค่แกล้มปลุกแค่นี้จะถึงกับจะฆ่ากันเลย


       "มะ..ไม่ใช่นะ ที่ชั้นจะฆ่านายไม่ใช่เพราะแค้นหรืออยากฆ่าสักหน่อย ถึงนายจะกวนโมโหน่าฆ่าก็เถอะ แต่จริงๆแล้วชั้นรับภารกิจมาให้ฆ่านายต่างหากล่ะ" หญิงสาวอธิบายให้ศรฟัง ศรฟังแล้วก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่ามีภารกิจที่ให้ฆ่าผู้เล่นด้วยเหรอ


       "ทำเป็นอ้างนู้นอ้างนี้ที่แท้เธอก็แค่แค้นผมใช้ไหมล่ะ ใช่สิทั้งกวนโมโหแล้วยังรบกวนเวลานอนเธออีก" ศรกล่าวขึ้นใบหน้าดูเศร้าหมอง


       "ไม่ใช่นะ ก็บอกแล้วไงว่าภารกิจมันให้มาฆ่านายไงไม่ฟังเลยเหรอไง แล้วนายก็รีบๆเซ็นชื่อยอมให้ฆ่าเร็วๆหน่อยสิมันเสียเวลานะรู้ไหม" หญิงสาวกล่าวพร้อมยื่นขนนกและขวดแก้วใบเล็กที่ด้านในมีน้ำหมึกให้ศร


       "ภารกิจ ภารกิจ มันมีด้วยเหรอไอภารกิจแบบนั้นน่ะ" ศรระเบิดอารมณ์ตะโกนใส่หญิงสาวจนหญิงสาวสะดุ้งและเริ่มมีน้ำตาคลอ


       "เห้ยๆๆ ทำไมร้องไห้ง่ายอย่างนี้ล่ะ" ศรคิดในใจอย่างงุนงง เพราะเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงร้องไห้มาก่อนและเริ่มจะทำอะไรไม่ถูก


       "ไอบ้าไม่มีมารยาท ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลยตะโกนใส่ผู้หญิงน่ารักๆได้ยังไงกัน" หญิงสาวตะโกนใส่ศร ศรเพลอเกาหัวด้วยความเคยชิน


       "เอ่อ.. แล้วผู้หญิงที่อยู่ๆก็มาขอฆ่าเนี้ย มันคารจะญาติดีด้วยเหรอ" ศรตอบกลับไปอย่างไม่คิดอะไรมาก เขาเดินกลับไปนั้งบริเวณกองไฟพลางหยิบปลาย่างมากินต่อโดยไม่สนใจหญิงสาวแม้แต่น้อย


       จ็อกกกกก
       เสียงดันลั่นไปทั่วโสตประสาทของศรเมื่อหันกับไปก็พบหญิงสาวนั้งอยู่มือทั้งสองข้างอยู่ที่ท้องเมื่อเห็นว่าศรหันมามองหญิงสาวก็เริ่มหน้าขึ้นสีเล็กน้อย


       "มากินด้วยกันไหมยัยเจอหน้าก็คิดจะฆ่า" ศรกล่าวชวน


       "ทำไมชั้นจะต้องไปกินของๆนายด้วย" หญิงสาวตะโกนกลับมาแล้วเชิดหน้าหนี


       จ็อกกกก
       ศรหันไปมองหญิงสาวที่นั้งหน้าแดงก่ำก็อดไม่ได้ที่หัวเราะออก ศรระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจหญิงสาวที่นั้งอยู่แม้แต่น้อย


       "เมื่อไหร่นายจะเซ็นใบยินยอมให้ฆ่า สักทีห้ะฉันจะได้ไปหาข้าวกินสักที" หญิงสาวจ้องเขมงกัดฟันกรอดก่อนจะตะโกนออกมา


       "เธอจะมากินปลากับผมก่อนก็ได้นะ ผมไม่วางยาเธอหรอก" ศรกล่าวชวนก่อนจะหัวเราะคิกอีกครั้ง หญิงสาวที่ทนความหิวของตัวเองไม่ได้ก็เดินเข้ามานั้งข้างๆศร แล้วหยิบปลาย่างเสียบไม้ขึ้นมาแล้วเดินเข้าป่าไป


       "เธอจะไปไหนน่ะ เธอจะไม่ฆ่าผมแล้วเหรอ" ศรถามขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวเดินถือปลาย่างเสียบไม้เดินไปนั้งหันหลังให้อยู่บริเวณต้นไม้ด้านหลังตน


       "ไม่ ฉันจะอยู่กับนายจนกว่านายจะยอมให้ฉันฆ่า แต่ถ้าฉันหมดความอดทนเมื่อไหร่ชั้นคงฆ่านายเลยโดยไม่สนว่าจะติดโทษทันอะไร" หญิงสาวตอบกลับมาเสียบเรียบ ศรแอบมีเหงือซึมเล่นน้อยเมื่อคิดว่าเธอจะฆ่าตนยังไงถ้าไม่เซ็นยินยอมไป
      
      
       ฉึก!


       "โอ้ย" ศรร้องลั่นเมื่อมีของบางอยู่เสียบอยู่ที่หลัง เขาดึงมันออกแล้วเอามาดู ปรากฎว่ามันคือไม้เสียบปลาย่าง ที่รู้ได้เพราะยังมีเนื้อปลาติดอยู่บ้างและรอยดำที่เกิดจากการเผาไหม้ ศรหันไปมองหญิงสาวที่ทำท่ากำลังจะปาไม้เสียบปลาย่าง แต่หญิงสาวไม่สนใจศร เธอปาไม้เสียบปลาย่างเข้าไหล่ขวาศรอย่างเต็มแรง


       "ทำอะไรของเธอเนี้ย" ศรโวยลั่นหลังจากเบี่ยงตัวหลบไม้เสียบปลาย่างอย่างทุลักทุเล


       "ทำให้นายอ่อนแรงเพื่อที่จะฆ่าได้ง่าย" หญิงสาวตอบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน ศรลุกขึ้นยืนพร้อมหยิบกรงเล็บกระต๋ายป่าขึ้นมาถือในท่าเตรียมสู้


       "นายกล้าทำร้ายผู้หญิงตัวเล็กๆไม่มีทางสู้ด้วยเหรอ" หญิงสาวกล่าวขึ้นเมื่อเห็นศรหยิบอาวุธออกมา


       "ยอมรับว่าเป็นหญิงสาวตัวเล็กๆแต่ไอไม่มีทางสู้นี้ไม่ยอมรับอ่ะ ช้วยรีบๆกลับไปเกิดใหม่แล้วหายไปจากชีวิตได้ป่ะ" ศรกล่าวขึ้นด้วย หญิงสาวเห็นท่าไม่ดีจึงรีบลุกขึ้นยื่นแล้วหยิบมีดความยาว 25เซ็นติเมรตขึ้นมาถือข้างละเล่ม


       "เราใช้อาวุธคู่เหมือนกันเลยนะ" หญิงสาวกล่าวขึ้น ตอนนี้ทั้งสองจ้องกันตาไม่กระพริบรอดูเชิงว่าใครจะเป็นฝ่ายบุกเข้ามาก่อน


       "ไม่เหมื่อนหรอกผมไม่ได้ใช้อาวุธคู่แต่ใช้อาวุธสามอันต่างหาก ... ศรลม" เมื่อศรกล่าวจบก็เรียกใช้ทักษะศรลม เกิดการม้วนตัวของอากาศแล้วมีเส้นลมเล็กบางพุ่งเข้าใส่หญิงสาวอย่างรวดเร็วที่มือขวาจนมีดที่ถืออยู่หลุดออกจากมือ ศรพุ่งตัวเข้าใส่หวดกรงเล็บจากมือซ้ายเข้าหาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว หญิงสาวที่ตกตะลึงกับการโจมตีของศรอยู่นั้นไม่สามารถตั้งตัวได้ทันโดนกรงเล็บหวดเข้าร่างอย่างรุนแรงจนเซถอยไปสามก้าว


       "ชิ" หญิงสาวกันฟันกรอดมองดูศรที่กำลังจะหวดกรงเล็บใส่ตนอีกครั้ง หญิงสาวรีบพุ่งตัวเข้าชนกับศรทันที ศรค้างอยู่ท่าเตรียมหวดกรงเล็บ ไม่ใช่ว่าเขาเขินที่มีผู้หญิงอยู่ไกล้จนติด แต่เป็นช็อกกับความเจ็บปวด หญิงสาวที่พุ่งตัวเข้าใส่ศรแทงมีดเข้าที่หน้าอกซ้ายของศรอย่างเต็มแรงแต่เข้าได้เพียงครึ่งด่ามเท่านั้น


       "คิก คิดว่าจะเก่งกว่านี้ซะอีกนะที่แท้ก็กระจอก ถึงจะรู้สึกเสียดายที่ต้องติดโทษเข้าเมืองไม่ได้หนึ่งวันก็เถอะ แต่แค่นี้ภารกิจก็เสร็จสิ้นไปได้ด้วยดีล่ะนะ ไม่มีคนเห็นด้วยค่อยดีหน่อย(เห็นก็ไม่รู้หรอกว่าใคร)" หญิงสาวพูดพลางค่อยๆเสียบมีดเข้าไปในร่างของศรจนมิดร่าง ศรทรุดตัวลงนอนแน่นิ้งในที่สุด


       "ฉันไม่เห็นอยากฆ่านายเลย ศร ถ้าเป็นไปได้อยากจะเป็นเพื่อนกับนายมากกว่า" หญิงสาวกล่าวขึ้น มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่งามไม่ขาดสาย ฝ่ายศรหลังจากรู้สึกตัวรอบข้างก็ถูกปรกคลุมไปด้วยความมืด


    "ผู้เล่นศรถูกสังหารเป็นผลทำให้ระดับลดลง 5 ระดับและค่าประสบการณ์สะสมเหลือ 0 ผู้เล่นศรจะต้องรอการเกิดใหม่เป็นเวลา 2 ชัวโมง(ในเกมส์)"


       "ชิ! ยัยโม่งนั้นครั้งน้าไม่ปล่อยไว้แน่" ศรกัดฟันกรอดบ่นกับตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์
     

       ด้านสิงห์ที่เดินกลับมาที่สมาคมนักดาบหมายจะเลื่อนระดับก็ต้องยืนมึนเมื่อNPC เลื่อนระดับบอกว่าคนคุมสอบไม่อยู่ หลังจากสิงห์ตั้งสติได้เล็กน้อยเขาก็เดินไปนั้งปล่อยอารมณ์อยู่บริเวณหน้าอาหารบริการผู้เล่น เวลาผ่านนานเท่าไหร่ไม่อาจรู้ที่สิงห์นั้งนิ่งอยู่หน้าอาคารผู้เล่น ศรที่หลุดจากการรอคอยอันยาวนานในพื้นที่มืดสนิดเดินออกจากอาคารบริการผู้เล่นก็เห็นสิงห์นั้งนิ่งอยู่หน้าอาคารจึงเดินเข้าทันทาย


       "โย้ว สิงห์" ศรทักสิงห์อย่างร่าเริ่งหลังจากทำใจเรื่องโม่งสาวปริศนากว่าสองชัวโมง


       "โอะ ดีศรลม มาตุนยาเหรอ" สิงห์กล่าวทักทายกลับไปแล้วถามขึ้น


       "เหอะ เปล่าหรอกมาเกิดใหม่น่ะ อยู่ๆก็มีผู้หญิงประหลาดมาขอฆ่าพอไม่ให้ก็ฆ่าเลย" ศรกล่าวอย่างเซ็งๆพลางเดินนั้งข้างๆสิงห์


       "หือ พิลึกคนอยู่ๆมาขอฆ่าเนี้ยนะเมายาเปล่าเนี้ย" สิงห์กล่าวหลังจากนั้งงงอยู่พักนึง


       "นั้นดิอยู่ๆมาขอฆ่าบ้าแน่ๆ แล้วบอกว่าทำภารกิจด้วยนะเหลือเชื่อ ว่าแต่นายเถอะเลื่อนระดับแล้วเหรอไม่เห็นมีอะไรเปลียนไปเลย แถมยังเตี้ยเหมื่อนเดิมเลยนะ" ศรเล่าให้ฟังแล้วถามสิงห์กลับไปพร้อมทั้งแซวเพื่อนสิงห์เล่นไปหนึ่งที สิงห์ถึงกับหน้ามุ่ยเมื่อโดนแซวคืนบ้าง


       "เตี้ยๆอย่างเนี้ยอะดีแล้ววิ่งหลบศัตรูง่ายสูงไปก็ไม่ดีเดียววิ่งไปชนนู้นนี้ ถึงจะเตี้ยก็ภูมิใจในความเตี้ยนะเว้ย" สิงห์กล่าวอย่างเซ็งๆแต่ติดตลก ศรเห็นว่าสิงห์เป็นคนไม่ถือตัวก็เริ่มคิดว่าจะแซวอะไรต่อดี  ระหว่างที่ชายหนุ่มที่งสองกำลังคุยเล่นกันอย่างสนุกสนานก็มีทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามาหาสิงห์


       "คุณสิงห์ใช่ไหมครับ" ทหารที่วิ่งเข้ามาถามขึ้น


       "ครับ" สิงห์ตอบพลางพยักหน้าเบาๆ


       "สนามสอบเตรียมพร้อมแล้วครับเชิญสอบเลื่อนระดับได้เลยครับ" ทหารกล่าวพลางผายมือเชิญสิงห์ไปที่สมาคมนักดาบเพื่อเลื่อนระดับ


       "งั้นผมไปก่อนนะศรลมเดียวจะรีบๆสอบให้เสร็จแล้วตามไปล่าสัตว์อสูรด้วย" สิงห์พูดจบก็เดินตามนายทหารไปโดยศรไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ


       "เหลืออยู่คนเดียวอีกแล้วสินะ เฮ้อ~" ศรกล่าวกับตัวเองเบาๆก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วเดินไปทางประตูทิศใต้เพื่อเพิ่มระดับที่เสียไป และภาวนาขออย่าได้เจอหมีป่าคลั้งชั้นราชาอีกเลย ระหว่างที่ศรเดินหาสัตว์อสูรอยู่ก็พบกับชายแก่สวมชุดคลุมสีขาวที่ดูคุ้นตากำลังนั้งตัดหญ้าอย่างยากลำบากอยู่ เพราะชายคนนั้นใช้มีดหั่นต้นหญ้าต้นเล็กอยู่นานสองนาน ศรยื่นหลบมุมดูการกระทำอยู่กว่าสิบนาทีต้นหญ้านั้นก็ยอมขาดออกจากกัน


       "คุณเอเมอริคครับ" ศรทักชายที่กำลังตัดหญ้าอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่


       "เอ้าเจ้า... เจ้า... เจ้าชื่ออะไรนะ" เอเมอริคถามขึ้น คำถามนั้นทำให้ศรยื่นแข็งถือ


       "ศร ครับ" ศรตอบอย่างเซ็งๆหลังทำใจได้แล้ว เอเมอริคเดินเข้ามาหาศรแล้วยื่นมีดสั้นเล่มหนึ่งให้ศร


    "ผู้เล่นศรได้รับภารกิจอาชีพ ค้นหาสมุนไพร จะรับภารกิจหรือไม่" เสียงจากระบบดังขึ้นทันที่เมื่อเอเมอริคยื่นมีดให้กับศร


       "ยอมรับ" ศรรับมีดมาพร้อมกล่าวยอมรับ


       "เจ้าต้องตัดหญ้าเขียวอำพันให้ข้า 5 ต้นก่อนตะวันตกดิน แล้วเอาไปส่งให้ข้าด้วยล่ะ ข้ากลับล่ะ" กล่าวจบเอเมอริคก็เดินจากไปด้วยความเร็วสูงจนศรไม่สามารถตามทัน ศรยื่นเกาหัวตัวเองอย่างุนงงว่าหญ้าเขียวอำพันมันหน้าตาเป็นยังไง ศรเดินหาอยู่พักใหญ่ก็เจอกับต้นหญ้าสีเขียวอมเหลืองเข็ม ศรลองหยิบมีดที่ชายแก่ให้มาออกมาตัด เขาดึงหญ้าขึ้นแล้วฟาดมีดใส่โคนต้นหมายจะให้ขาดเป็นสองท้อนในคราวเดียว แต่ศรก็ต้องตะลึงเมื่อมีดที่เขาฟาดลงไปปะทะดับต้นหญ้าก็ถูกดีดกลับอย่างแรงจนมือของศรชาไปชั่วขณะ


       "อะไรวะเนี้ย!!" ศรอุทานขึ้นหลังจากที่มือหายชาแล้ว พลางคิดในใจว่าถ้ามันเป็นแบบนี้ทุกต้นจะตัดยังไงเนี้ย ไม่นานหลังจากที่ศรนั้งคิดจนหัวแทบระเบิดเขาก็นึกถึงตอนที่เอเมอริคตัดหญ้า ศรจึงบรรจงหั่นต้นหญ้าสีเขียวอมเหลืองเข็มกว่าสิบนาทีจนในที่สุดมันก็ขาดออกจากกัน


    "ผู้เล่นศรได้รับไอเทม หญ้าแก่ 1 ต้น"


       "หญ้าแก่ บ้าไปแล้วแก่ยังเหนียวขนาดนี้เจอหนุ่มๆสาวๆไม่นั้งตัดกันทั้งวันเลยเหรอไงเนี้ย" ศรบ่นกับตัวเองด้วยความเซ็งที่เสียเวลาสิบกว่านาทีไปฟรีๆ หลังจากที่ทำได้แล้วศรก็ลุกขึ้นเดินหาต้นหญ้าต่อ ไม่นานนักเขาก็พบกับหญ้าสีเหลืองสว่างเปล่งออร่าสีเหลืองอมเขียวออกมาเล็กน้อย ศรหยุดชะงักอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหยิบมีดที่เอเมอริคให้มาบรรจงหั่น แต่เขาก็ต้องตะลึงงันเพราะเมื่อมีดสัมผัสกับต้นหญ้ามันก็ขาดออกจากกัน หญ้าส่วนที่ขาดตกสู่พื่นแสงที่เคยเปล่งประกายตอนนี้กับเลือนหายไป ศรนั้งนิ่งด้วยความงง


       "โว้ยยยย อะไรวะเนี้ยเดียวก็เหนียวเดียวก็นิ่ม คนคิดภารกิจมันนิ่มไปแล้วหรือไง" ศรตะโกนบ่นอย่างอดไม่ได้ก่อนที่จะลุกขึ้นเพื่อเดินหาหญ้าเขียวอำพันต่ออย่างเซ็งๆ


       ด้านสิงห์หลังแยกจากศรเพื่อไปหยังสมาคมนักดาบหลังจากที่ทหารสมาคมมาเรียกตัว เมื่อสิงห์เดินเข้ามาในสมาคมก็เจอกับชายร่างสูงใหญ่สวมเกราะเงินประกายแวววาย สำหรับสิงห์แล้วชายผู้นั้นดูจะสูงมาก (181 สิงห์151)


       "นายคือคนที่จะมาเลื่อนระดับใช่ไหม" ชายคนนั้นถามสิงห์ด้วยเสียงที่ดังกังวานแต่ฟังนุ่นหู สิงห์พยักหน้าเล็กน้อย


       "อืม.. งั้นตามข้ามาสิ" สิงห์เดินตามชายสวมเกราะที่น่าจะเป็นคนเลื่อนระดับเข้าไปในห้องด้านในห้องหนึ่ง เมื่อสิงห์เดินเข้าไปก็พบชายสวมเกราะที่เดินเข้ามาก่อนนั้งรออยู่


       "เจ้าจะเลื่อนจากนักดาบฝึกหัดเป็น นักดาบสมาคม ใช่ไหม" ชายสวมเกราะถามขึ้นเมื่อเห็นสิงห์เดินผ่านเข้ามาภายในห้องแล้ว


       "ครับ" สิงห์ตอบ


       "งั้นตามข้ามา" ชายสวมเกราะลุกขึ้นเดินนำสิงห์ไปที่ห้องๆหนึ่งห่างจากประตูที่เข้ามาประมาณ 5 นาที


       "เอ้าเข้าไปสิ สิ่งที่เจ้าต้องทำคือเข้าไปด้านในแล้วเอาดาบสมาคมออกมา" ชายสวมเกราะกล่าวพลางเปิดประตูออก สิงห์พยักหน้าแล้วเดินเข้าไปด้านในทันที


       "ผู้เล่นสิงห์ได้รับภารกิจเลื่อนระดับ หนทางสู่นักดาบสมาคม" เสียงจากระบบดังขึ้นหลังจากประตูปิดลงเพียงเสี้ยววินาที


       "เอาล่ะมาเริ่มกันเลยจะอะไรก็ไม่หวั่นอยู่แล้ว" สิงห์ตะโกนลั่นเพื่อปลุกใจ หลังจากสิ้นเสียงของสิงห์ก็ปรากฎแสงสีแดงลักษณะกลมอยู่ไกล้กันหลายจุดจนสิงห์เริ่มหน้าซีดเมื่อพวกมันเข้ามาไกล้ก็ปรากฎร่างที่แท้จริงออกมา


    "สัตว์อสูร ลิงขี้ขโมย ระดับ 15 ลิงขี้ห่วงระดับ 18 ......... เตรียมจู่โจม" เสียงจากระบบดังก้องอยู่ในหัวสิงห์อยู่นานกว่าจะหยุดลงจนสิงห์ไม่สามารถนับจำนวนของพวกมันได้เลย


       "มันจะเยอะไปไหนเนี้ย" สิงห์บ่นห์กับตัวเองเบาๆเมื่อเห็นพวกลิงๆทั้งหลายค่อยๆเดินเข้ามาหาตนอย่างไม่ขาดสาย


       "โว้ยยยย กดดันโว้ย... ดาบเสี้ยวจันทร์" สิงห์ตะโกนลั่นด้วยความเซ็ง หลังจากนั้นก็เรียกใช้ทักษะดาบเสี้ยวจันทร์พร้อมทั้งวาดดาบเป็นรูปครึ่งวงกลมปรากฎคลื่นแรงดันสีฟ้าอ่อนพุ่งออกจากตัวดาบไปประมาณสิบเซ็น ฟูงลิงที่เดินเข้ามากดดันสิงห์ถึงกับวงแตก ลิงขี้หวงและลิงขี้ขโมยด้านหน้าที่หนีไม่ทันได้รับแผลใหญ่จนเลือดโพยพุ่งออกมาอย่างแรงเป็นจำนวนมากก่อนที่จะนอนนิ่งแล้วกลายเป็นแสงสีขาวลอยหายไป ความสว่างของแสงสีขาวที่ลอยผ่านไปทั่วห้องปรากฎภาพฟูงลิงจำนวนมหาสารจนไม่สามารถนับจำนวนได้ สิงห์เริ่มหน้าซีดอีกครั้งเวลาผ่านไปไม่กี่วินาทีแสงสีขาวก็จางหายไปจากห้องที่เคยสว่างจนมองเห็นได้อย่างชัดเจนกลับมาเป็นห้องมืดที่มองเห็นได้แค่ครึ่งเมรต


       "โอ้ย อะไรวะเนี้ยไม่มีไฟอื่นเพิ่มให้เลยหรือไงนะแล้วแบบนี้มันจะเข้าไปเอาดาบยังไงเนี้ย" สิงห์บ่นกับตัวเองด้วยความเซ็งพลางมองไปด้านบนประตูที่อยู่ด้านหลังที่มีหินสีขาวสว่างถูกฝังอยู่ในกำแพง ระหว่างนั้นเองลิงๆทั้งหลายร้องตะโกนปลุกใจหันก่อนที่จะกระโจนเข้าใส่สิงห์อย่างบ้าคลั่ง สิงห์ได้ยินเสียพวกลิงๆร้องจึงหันกลับไปแต่ต้องตะลึงกับจำนวนที่มากมายมหาสารของลิงขี้หวงที่พร้อมใจกันเข้าจู่โจม สิงห์รีบตวัดดาบเพื่อบัดการโจมตีของลิงขี้หวง แต่ก็ได้เพียงบางส่วน ลิงขี้หวงหลายตัวที่เห็นสิงห์เตรียมตวัดดาบอีกครั้งพวกมันจึงหลบได้อย่างง่ายดาย แล้วเข้าโจมตีอย่างรวดเร็วจนตัวของสิงห์มีแผลเล็กแผลน้อย เสื้อผ้า ผิวหนัง ของสิงห์ถูกย้อมไปด้วยสีแดงที่ไหลออกมาจากแผลของเขาอย่างไม่รู้จักหยุดหย่อน สิงห์รีบหยิบผลึกเลือดเข้าปากตัวเองทันทีสามเม็ดก่อนจะหวดดาบใส่พวกลิงขี้ห่วงอย่างหนักหน่วง แม้แผลและสภาพร่างกายยังน่าเป็นห่วงแต่ยามนี้สิงห์มีทางเลือกแค่ สู้ หรือ ตาย เท่านั้นเขาจึงต้องกัดฟันสู้ต่อไปแม้จะลำบากก็ตาม


       "โธ่เว้ยมันจะมาอีกเยอะไหมวะเนี้ย" สิงห์บ่นกับตัวเองอย่างเซ็งๆสายตาของเขาเหลือไปเห็นช่องว่างทักษะด้านซ้ายล่าง ทักษะดาบเสี้ยวจันทร์ตอนนี้ดีเลเส็จแล้ว


       "ดาบเสี้ยวจันทร์" สิงห์มีรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากก่อนที่จะเรียกใช้ทักษะดาบเสี้ยวจันทร์ ปรากฎแสงสีฟ้าอ่อนทั่วตัวดาบทั้งที่จับทั้งใบดาบทำให้ สิงห์มองดูดาบที่เปลียนไปด้วยความงุนงง แต่ทว่าลิงขี้ขโมยกว่าสิบตัวก็กระโจมเข้าใส่สิงห์อย่างรวดเร็วระหว่างที่สิงห์ยืนตะลึงกับดาบของตนเองอยู่ สิงห์ที่เห็นลิงขี้ขโมยนับสิบกระโจมเข้าหาตน เขาก็รีบตวัดดาบในมือใส่ลิงขี้โมยที่กำลังกระโจมเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว ปรากฎคลื่นสีฟ้าอ่อนกว้าง 25 เซ็นติเมตรใหญ่ 10เซ็นติเมตร พุ่งออกไปจากปลายดาบ คลื่นสีฟ้าอ่อนค่อยๆลดขนาดลงและจางหายไป สิงห์มองดูลิงขี้ขโมยอย่างงุนงง ทั้งๆที่โดนคลื่นแทรกผ่านร่างกายแต่กลับไม่มีรอยแผลแม่แต่น้อย ทันใดนั้นเองลิงขี้ขโมยกว่าสิบตัวก็ร่วงลงสู่พื้นนอนนิ้งอยู่สักพักก็มีแสงสีขาวพุ่งออกจากร่างลอยอย่างไม่มีทิศทางไปทั่วห้องก่อนจะจายหายไป ปรากฎให้เห็นฝูงลิงขี้ขโมยที่มีไม่ถึงสามสิบตัว จากพื้นที่ที่มีลิงขี้ขโมย และ ลิงขี่หวง มากจนแทบจะเหยียบกันตายตอนนี้กลับเป็นที่โล่งๆ สิงห์เกาหัวของตัวเองด้วยความงุนงงก่อนที่ความมืดมิดจะเข้ามาปุกคลุมอีกครั้ง


       ในเวลาเดียวกันนั้นเองทางด้านศรยังคงเดินหาหญ้าต่อไป แม้ว่าจะเหนื่อยจากการเดิน ตัด ใช้สายตาในการหาเป็นระยะเวลานาน ศรยืดตัวยืนขึ้นหลังจากตัดตนหญ้าแก่เสร็จพร้อมเอามือปาดเหงือบริเวณใบหน้า


       "เฮ้อ~ คงไม่สำเร็จแล้วสินะ กลับไปต้องโดนลุงแกบ่นแน่ๆเลย" ศรถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะบ่นกับตัวเองด้วยความเซ็งที่วันทั้งวันหาได้เพีนงหญ้าแก่ๆทำนั้น ศรยกข้อมือตัวเองขึ้นมาดูนาฬิกาพบว่าตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามแล้ว อีกไม่เกินสามชั้วโมงพระอาทิตย์ก็จะตกดินแล้ว ศรเงยหน้ามองฟ้าก่อนจะเอนตัวลงนั้งพิงต้นไม้ไกล้ๆด้วยสีหน้าเศร้าหมอง


       สวบ!!

      
       ระหว่างที่ศรนั้งทำใจอยู่นั้นก็มีบางอย่างพุ่งออกมาจากพงหญ้าอย่างรวดเร็วแล้วหยุดอยู่ด้านหน้าศร ทั้งสองจ้องตากันอยู่พักนึง


    "สัตว์อสูร กระรอกสมุนไพรระดับ15 ปรากฎ" เสียงจากระบบดังขึ้น ศรมีรอยยิ้มที่มุมปากเล็กๆก่อนที่จะมองสำรวจกระรอกที่อยู่เบื่องหน้าตน เขาพบว่าด้านหลังของกระรอกมีตะกร้าที่มีสมุนไพรอันแนนอยู่


       "ขอแบ่งสมุนไพรหน่อยได้ไหม" ศรกล่ามถามกระรอกสมุนไพรที่อยู่เบื้องหน้าตนพลางคิดในใจว่าจะบ้าหรือเปล่าคุยกับสัตว์เนี้ยนะ


       "ข้าคงแบ่งให้เจ้าไม่ได้หรอก ถ้าเจ้าอยากได้ก็ไปหาเองสิ" กระรอกสมุนไพรตอบกลับด้วยสีหน้าเคืองเล็กน้อย หลังจากพูดจบมันก็ทำท่าพร้อมออกวิ่งทันที


       "เดียว!!" ศรตะโกนลั่นเมื่อเห็นว่ากระรอกกำลังจะไป กระรอกสะดุ้งหันมามองศร


       "ยังไงก็ช้วยสอนวิธีเก็บสมุนไพรหน่อยได้ไหมเก็บมาทั้งวันแล้วยังไม่ได้อะไรเลย" ศรกล่าวขึ้น กระรอกสมุนไพรนั้งลงทำท่าครุ่นคิดหลังได้ยินคำขอของศร ความเงียบปกคลุมทั้งสองอยู่นานจนศรเริ่มเกรง


       "ข้าจะสอนให้ก็ได้เพราะเห็นว่าคุยกันรู้เรื่องหรอกนะ" กระรอกสมุนไพรกล่าวขึ้น มันเป็นคำพูดธรรมดาแต่ในเวลานี้สำหรับศรแล้วมันเป็นคำที่วิเศษมีคุณค่าทางจิตใจอย่างมหาสารหาใดเปรียบได้


       "แล้วต้องทำยังไงเหรอ" ศรกล่าวถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มผิดกับก่อนหน้านี้ไม่กี่วินาทีเป็นคนละคน


       "เจ้าต้องการอะไรล่ะ" กระรอกสมุนไพรกล่าวตามหลังจากยื่นงงที่เห็นศรเปลียนอารมณ์ได้ไวเพียงเสี้ยววินาที


       "หญ้าเขียวอำพัน" ศรตอบ กระรอกสมุนไพรเบิกตาตะลึงกับคำตอบของศร


       "เจ้าแน่ใจนะว่าจะหาหญ้าเขียวอำพันจริงๆ" กระรอกเอ่ยถาม ศรพยักหน้าตอบกลับไป


       "งั้นก่อนอืนง่ายที่สุดหาที่ๆมีผีเสื้อบินเยอะๆ พอเจอแล้วก็มองหาแสงจุดเล็กๆ เป็นแสงที่เปล่งประกายออกมาจากต้นหญ้า หลังจากนั้นยากที่สุด.." อยู่ๆกระรอกสมุนไพรก็หยุดพูดอย่างกระทันหันจนศรเริ่มกังวล


       "หลังจากนั้นยากที่สุด แล้วยังไงต่อล่ะ" ศรถาม


       "เจ้าต้องตัดต้นหญ้าอำพันด้วยความเร็วให้ขาดภายในเสี้ยววินาที" กระรอกสมุนไพรยิ้มก่อนที่จะกล่าว


       "เฮ้อ~" ศรถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยอาการเซ็งสุดขีด กระรอกสมุนไพรเห็นท่าทางของศรว่าไม่มีทีท่าว่าจะถามอะไรก็เดินจากไปอย่างเงียบๆ เวลากว่าสิบนาทีผ่านไปอย่างเงียบงัน...


       จ็อกกกก
       เสียงดันลั่นแหวกความเงียบออกมาจนศรสะดุ้งหลุดจากอาการตายซาก ศรรีบวิ่งหากิ่งมามาจุดไฟแล้วย่างปลากินไปสองตัวก่อนที่จะตั้งหน้าตั้งตาหาสมุนไพรต่อ ศรเดินอยู่ไม่นานนักก็เห็นหมู่มวลผีเสื้อจับกลุ่มบินกันอยู่หลายสิบตัว ศรเดินเข้าไปใจกลางกลุ่มของผีเสื้ออย่างแผวเบาก่อนจะมองหาจุดแสงดวงเล็ก ผีเสื้อที่จับกลุ่มกันอยู่เมื่อเห็นศรเดินเข้ามากลางกลุ่มแทนที่พวกมันจะบีนหนีหายไปพวกมันกลับบินมาเกาะอยู่กับตัวศรจนศรรู้สีกตะลึงและรำคาญในเวลาเดียวเพราะจำนวนที่มากจนแทบจะกลืนกินตัวเข้าได้เลย หลังจากโดนผีเสื้อรุมเกาะอยู่นานศรก็มองเห็นแสงจุดเล็กๆลอดผ่านรูบริเวณพงหญ้า ศรสะบัดตัวเองเบาๆจนผีเสื้อแตกหือบินไปจับกลุ่มบริเวณอืน


       "ทำไมไม่ทำแบบนี้แต่แรกวะ" ศรบ่นกลับตัวเองก่อนที่จะเดินผ่านพงหญ้าเพื่อไปยังจุดที่มีแสงส่องสว่างอยู่


       "อุ ว้าววว" ศรอุทานออกมาด้วยความตะลึงปนตื่นเต็นเมื่อเห็นต้นหญ้าเขียวอำพันนับสิบอยู่เบื่องหน้า ศรไม่รอช้าจับต้นหญ้าเขียวอำพันไว้ในมือพร้อมหวดมีดสั้นตัดต้นหญ้าเขียวอำพันอย่างรวดเร็ว ต้นหญ้าขาดออกจากโคนต้นปรากฎแสงสีเหลืองอมเขียวสว่างเพียวเสี้ยววินาทีก็หายไป


       "อ้าวเห้ยใครปิดไฟ" ศรพูดติดตลกก่อนที่จะหันไปตัดต้นหญ้าอีกต้น สวบ! ต้นหญ้าเขียวอำพันขาดออกอย่างง่ายดาย


    "ผู้เล่นศรได้รับ หญ้าเขียวอำพัน 1 ต้น" เสียงจากระบบดังขึ้นเยี่ยงเสียงเทพีจางสวงสวรรค์ลงมาโปรด ศรยิ้มจนแก้มแทบปริพร้อมบรรจงตัดตนหญ้าเขียวอำพันไปอีกเก้าต้น เมื่อตัดเส็จศรก็รีบวิ่งกลับเมืองอย่างสุดแรงเพราะอีกไม่ถึงชั้วโมงพระอาทิตย์ก็จะตกดินแล้ว ศรเกิดแปลกใจระหวางที่เขาวิ่งเมื่อลองสังเกตุตัวเองดีๆก็รู้สึกเหมือนยิ่งวิ่งยิ่งเร็วขึ้นเรื้อยๆ ศรยิ้มที่มุมปากเล็กๆก่อนจะวิ่งเข้าเมืองอย่างรวดเร็วเมื่อมาถึงบ้านของเอเมอริคศรก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อเห็นเอเมอริคมายืนคอยอยู่หน้าประตู


       "มาช้านะข้าคิดว่าเจ้าจะเหนือความคาดหมายเสร็จภายในชัวโมงเดียวซะอีก’’ เอเมอริคกล่าวยิ้มๆ


       "หามาได้ก็ดีแล้วเอ้า รีบๆรับไว้สิเดียวภารกิจก็ล้มเหลวกันพอดี" ศรบ่นพลางยื่นหญ้าเขียวอำพันให้ เอเมอริครับต้นหญ้าเขียวอำพันแล้วเดินหายเข้าไปในห้องด้านในทิ้งให้ศรยื่นงงอยู่คนเดียว ศรนั้งรอที่โตะกลางห้องอยู่นานกว่าชัวโมงก็เริ่มกระวนกระวายเมื่อดวงอาทิตย์ลับของฟ้า ดวงจันทร์เริ่มทอประกายเคียงข้างดวงดาวแต่ก็ไม่มีการแจ้งเตือนจากระบบว่าภารกิจของเขาเสร็จสิ้นหรือล้มเหลวแต่อย่างใด


       "โว้ย รอไม่ไหวแล้ว" ศรบ่นกับตัวเองก่อนจะเดินไปที่ประตูเมื่อยื่นมือออกไปหมายจะเปิดประตู อยู่ๆประตูก็กระแทกเข้าที่หน้าศรอย่างแรงจนเขาหน้าชา


       "อะไรวะเนี้ย" ศรลุกขึ้นยืนก่อนจะตะโกนออกมา เอเมอริคที่เดินออกมายืนงงอยู่พักนึงก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างดังจนศรเริ่มหัวเสียหนักกว่าเก่า


       "นี้ลุงเข้าไปทำอะไรตั้งนานเนี้ย" ศรถามอย่างเซ็ง


       "นี้ไง" เอเมอริคยกขวดแก้วเล็กสีใสด้านในมีน้ำสีเขียวอมเหลืองอยู่


       "คงไม่ให้กินอีกใช่ไหม" ศรถามอย่างหวาดๆ เมื่อนึกกลับไปถึงตอนที่เอเมอริคให้เขากินผลึกแห่งปัญญา


       "ไม่หรอกอันนี้ข้าจะกินเอง" เอเมอริคกล่าวพลางหัวเราะคิก


       "แล้วภารกิจล่ะเสร็จไหมนั้งรอจนจะหลับอยู่แล้วเนี้ย" ศรถามอย่างเซ็งๆหลังจากแอบร้องตะโกนในใจที่ตนเองที่ไม่ต้องกินของแปลกๆจากเอเมอริค


       "หือ? ภารกิจอะไรหรือ" เอเมอริคขมวดคิ้วถามทำให้ศรยืนอึ้งอาปากค้างด้วยความงุนงง


       "อ่อ ข้าจำได้แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า ลืมไปซะสนิทเลย" เอเมอริคกล่าวขึ้น ศรที่ยื่นอึ้งอยู่ สะดุ้งพุ่งเข้าหาเอเมอริคอย่างรวดเร็วจนเอเมอริคสะดุ้ง


       "อะไรของเจ้าเนี้ย" เอเมอริคกล่าวหลังจากตั้งตัวได้แล้ว


       "ของรางวัลล่ะ ของรางวัลล่ะ ของรางวัล!!" ศรพูดคำเดินวนซ้ำอย่างบ้าคลั่งจนเอเมอริคอยากจะเตะให้กะเด็นไปซะให้ไกล


       "เออๆ เอานี้ของรางวัลของเจ้า" เอเมอริคยื่นถ้วยสีขาวขนาดเท่าฝ่ามือกับหินสีขาวลักษณะเรียวยาวให้ศร


    "ผู้เล่นศรทำภารกิจค้นหาสมุนไพร ได้รับ ชุดอุปกรณ์ปรุงยาเล็ก ทักษะอาชีพ ปรุงยาระดับ 1 ทักษะค้นหาสมุนไพรระดับ 1 ผู้เล่นศรผ่านเงื่อนไขในการรับอาชีพเสริม นักปรุงยาฝึกหัด" ศรจากระบบดังขึ้นหลังจากเอเมอริคยื่นชุดปรุงยาเล็กให้ ศรรับชุดปรุงยาเล็กจากเอเมอริคด้วยสีหน้างุนงง


       "นักปรุงยาฝึกหัด?" ศรมองหน้าเอเมอริคก่อนกล่าวถาม


       "ก็ปรุงยาไง แล้วเจ้าจะเอาอุปกรณ์ปรุงยาไปทำไมล่ะ" เอเมอริคกล่าวอย่างเซ็งๆ


       "แล้วจะรู้ได้ไงว่าอะไรผสมอะไรแล้วได้อะไรเพิ่มอะไรหาสวนผสมที่ไหนยังไง" ศรรัวคำถามเป็นชุด


       "เจ้าก็ลองผสมเองสิ ส่วนสมุนไพรหาที่ไหนเจ้าก็หาเองสิ แล้วมันจะช้วยอะไรยังไงเจ้าก็หาเองอีกนั้นแหละ ข้าบอกเจ้าไม่ได้หรอกว่าเอาอะไรผสมกับอะไรแล้วจะได้อะไร" เอเมอริคกว่าจบก็หัวเราะคิก เมื่อเห็นท่าทีมึนงงของศร


       "ชิ มีแต่อะไร กับ อะไร เต็มไปหมดอย่างนี้จะรู้ไหมเนี้ยว่าอะไรเป็นอะไร งั้นผมไปก่อนนะครับ" ศรบ่นเสร็จก็บอกลาเอเมอริคและเดินจากไป เอเมอริคยังคงหัวเราะคิกกับท่าทีของศรต่ออย่างมีความสุข

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×