ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] My Sunshine ,it’s U < All*Chen>

    ลำดับตอนที่ #8 : Special gift : LAYCHEN

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.03K
      17
      6 ต.ค. 58





    Title : Special Gift [Happy Birthday to Yixing]

    Pairing : LAYCHEN

    Talk : สุขสันต์วันเกิดพี่เล่ยสุดหล่อของน้องจงแดนะคะ ขอให้พี่เล่ยมีความสุขมากๆ รักและเอ็นดูน้องให้มากๆ ขยันเต๊าะน้องให้แม่ยกชุ่มชื่นหัวใจบ้างเนอะ สุดท้ายขอให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่านนะคะ

     

     

     

     

    ~~~~~~ 특별선물 ~~~~~~

     

     

     

     

    วันเกิดปีที่ 20 อี้ชิงได้รับของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิตมา

     

     

     

    “พี่อี้ชิงผมบอกแล้วไงว่ามันจั๊กจี้”เสียงแหลมๆของคนที่นั่งอยู่ในอ้อมแขนร้องลั่น อี้ชิงทำเพียงหัวเราะเบาๆแต่ปากกับจมูกก็ยังซุกไซร้ไปทั่วไหล่ขาวเนียนของคนที่นั่งอยู่บนตัก อาจเป็นเพราะเขาชอบ ชอบเวลาที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับร่างนุ่มๆ กลิ่นกายหอมๆของคิม จงแด ไม่อยากห่างไหนแม้เพียงเสี้ยววินาทีเดียวด้วยซ้ำ

    “ก็จงแดตัวหอม”เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลยแต่นั่นมันคือความจริง อี้ชิงเห็นเจ้าตัวยุ่งในอ้อมแขนยู่ปากใส่ ก่อนจะเอียงหน้าหลบเป็นพัลวันเมื่อเขาฉกปลายจมูกเข้าหาแก้มนิ่มเป็นเป้าหมายต่อไป

    “ไหนว่าวันนี้จะแต่งเพลงไง เดี๋ยวก็เสร็จไม่ทันผมไม่รู้ด้วยนะ”

    “ต้องเสร็จทันสิ ก็ได้กำลังใจดีแบบนี้นี่”ว่าเสร็จก็ขโมยหอมแก้มนุ่มๆนั่นอีกฟอดใหญ่ ก่อนจะได้แรงตีเบาๆจากฝ่ามือเล็กๆนั่นเพราะความเขินอาย

    “เมื่อคืนไม่พอหรือไง หื่นจริง”เสียงบ่นเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน อี้ชิงยิ้มกว้างยิ่งนึกไปถึงงานวันเกิดของตัวเองที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อคืนก็ยิ่งยิ้มกว้าง มอง ของขวัญชิ้นโต ในอ้อมแขน ด้วยความรักใคร่ เขาไม่ได้มีความคิดว่าเจ้าตัวแสบจะกล้าทำอย่างที่ตัวเองพูดจริงๆ ที่บอกว่าจะมอบตัวเองให้เป็นของขวัญน่ะ เพราะจงแดเป็นคนขี้เล่นอยู่แล้ว แต่เมื่อคืนที่เจ้าตัวเดินถือเค้กเข้ามาในห้อง พร้อมกับริบบิ้นสีแดงที่ผูกเป็นโบว์อยู่รอบข้อมือ ประโยคบอกสุขสันต์วันเกิดพร้อมกับของขวัญที่น้องบอกว่าเตรียมไว้สำหรับเขา

    ของขวัญชิ้นนั้นก็คือ จงแด

    ของขวัญที่พิเศษที่สุดเท่าที่เคยได้รับมา

     

     

    “ขอบคุณสำหรับของขวัญชิ้นนี้นะ”อี้ชิงเกยคางลงบนไหล่ขาวผ่อง  กระซิบชิดใบหูแดงๆของคนที่นั่งเขิน ก่อนจะประทับจูบแผ่วเบาลงบนริมฝีปากบางรับเช้าวันเกิดที่แสนสดใส

    “อื้อ..ได้แล้วก็อย่างทิ้งขว้างกันนะ พี่อี้ชิง”

    “ไม่มีทางหรอก...”อี้ชิงยิ้ม ยิ้มจนเห็นลักยิ้มที่จงแดบอกว่าชอบนักชอบหนา “...ถ้าไม่มีจงแดแล้วเพลง Best Luck ของเราจะไพเราะได้ยังไงล่ะ จริงมั๊ย?”

     

     

     

     

    เขาบอกว่าเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่บางทีมันก็รวดเร็วเสียจนอี้ชิงไม่ทันตั้งตัว

     

     

     

    “หมายความว่ายังไงที่บอกว่าจงแดไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว..”อี้ชิงเอ่ยถามออกมาเสียงแผ่ว เมื่อครู่เขาได้รับจดหมาย จดหมายที่เขียนด้วยลายมือของจงแด ในนั้นมีแค่ข้อความสั้นๆที่บอกว่า

    ขอบคุณและขอโทษ

     

    อี้ชิงไม่เข้าใจ และไม่มีวันเข้าใจ ในหัวของเขามีแค่คำว่า ทำไม ผุดขึ้นเต็มไปหมด ได้แต่อ่านลายมือน่ารักนั้นซ้ำๆ ถึงเขาจะรู้ว่ามันไม่สามารถบอกทุกอย่างได้ แม้แต่จุนยอนที่เป็นพี่รหัสของจงแดยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย

    “อี้ชิง มึงใจเย็นๆก่อนพรุ่งนี้มึงต้องเข้ารายงานตัว”อี้ชิงได้ยินเสียงเพื่อนบอกออย่างนั้นแต่เขากลับทำได้เพียงต่อสายหาจงแดซ้ำๆ แม้เสียงที่ได้รับกลับมาจะเป็นระบบฝากข้อความ เขาแค่อยากรู้ อยากรู้ว่าทำไมน้องถึงหายไป

    .ในเมื่อ...

    ....เราไม่ได้ทะเลาะกัน

    เมื่ออาทิตย์ก่อนจงแดยังไปนั่งเชียร์เขาตอนออดิชั่น ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันที่เขาได้รับข่าวดีว่าตัวเองผ่านการคัดเลือกแล้วแท้ๆ แต่คนที่เขาอยากให้มีความสุขด้วยกันจนถึงวันที่เขาทำตามความฝันกลับไม่ได้อยู่ตรงนี้

    “กูจะไปตามหาจงแด”เขาผุดลุกขึ้นอีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้จุนมยอนกลับจับเขาไว้ อี้ชิงผลักเพื่อนให้พ้นทาง แต่จุนมยอนก็ยังดึงดันที่จะไม่ปล่อยเขา “ปล่อยกู!!”อี้ฟานเป็นฝ่ายเข้ามาช่วยรั้งอี้ชิงไว้อีกแรง ร่างของอี้ชิงถูกเพื่อนกอดรัดไว้ ในขณะที่เจ้าตัวดิ้นรนหาทางออก เขาไม่อยากอยู่ที่นี่ เขาจะต้องออกไปตามหาจงแด จงแดก็แค่งอนเขา น้องไม่มีทางหายไปจากเขา

    “อี้ชิงมึงใจเย็นๆ”

    “ก็จะเย็นได้ยังไง น้องหายไปทั้งคน ป่านนี้จงแดจะเป็นยังไงวะ..กู..”อี้ชิงเผลอตะคอกเสียงใส่เพื่อน ตาคมแดงก่ำ มือก็แกะมือเพื่อนออก แต่จุนมยอนกับอี้ฟานเองก็ยังไม่ยอมง่ายๆ

    “แล้วมึงจะไปตามหาจงแดที่ไหน!!”จุนมยอนเป็นฝ่ายตะคอกเสียงถามกลับมา อี้ชิงหยุดชะงักเพราะเขาเองก็ไม่รู้ ไม่รู้เหมือนกันว่าจงแดไปที่ไหน น้องอาจจะแค่เหนื่อย หรือเขาอาจจะทำอะไรให้น้องไม่พอใจ ขอแค่เขาออกไป ออกไปตามหาทุกที่ที่จงแดชอบไป

    “กูจะไปที่ๆน้อง..”

    “มึงคิดว่าน้องเขาจะให้มึงตามหาเขาเจอหรือไง...”

    “...”

    “...กูไม่รู้หรอกว่ามึงกับน้องมีปัญหาอะไรกัน  แต่มึงก็รู้ว่าจงแดน่ะ  ถ้าตัดสินใจไปแล้วน้องจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ”

    “...” เขารู้ รู้ดี

    “ถ้านี่คือสิ่งที่น้องเลือก...มึงก็ปล่อยน้องไปเถอะ”

     

     

     

    แต่แล้ววันเกิดปีที่ 21 อี้ชิงก็สูญเสียสิ่งนั้นไป ของขวัญชิ้นนั้นหายไป โดยที่อี้ชิงไม่ได้มีโอกาสไถ่ถามว่าตัวเองทำอะไรผิดเลยด้วยซ้ำ

     

     

     

     

    ~~~~~~ 특별선물 ~~~~~~

     

     

     

     

    พี่อี้ชิงยังร้องเพลงเพราะเหมือนเดิม

    ตากลมทอดมองร่างสูงโปร่งที่กำลังนั่งเล่นกีตาร์คลอไปกับเสียงร้องในทีวีด้วยแววตาวูบไหว มันสะท้อนทั้งความคิดถึง ห่วงหา ผสมปนเปกันไปหมด ริมฝีปากบางอ้าออก ขยับปากช้าๆตามเสียงนุ่มที่ดังแว่วออกมาจากทีวีตรงหน้า

     

    ....แต่ทว่ากลับไม่มีเสียง

    หยาดน้ำตาไหลลงจากตากลมแต่เจ้าตัวกลับไม่ได้สนใจที่จะเช็ดมันออก

    คิดถึง..แต่คิมจงแดทำอะไรไม่ได้

    แม้แต่คำว่ารัก..จงแดก็ยังไม่สามารถบอกอี้ชิงได้

    เพราะคิม จงแดเป็นคิม จงแดคนเดิม ของอี้ชิงไม่ได้อีกแล้ว

     

     

     

    “ห้ามถอดเสื้อแขนยาวออกรู้ไหม? แล้วก็ห้ามไปกับคนแปลกหน้าด้วย ถ้ามีอะไรรีบส่งข้อความหาเรา ไม่ก็ชานยอล เข้าใจหรือเปล่า ?”จงแดพยักหน้าหงึกหงักก่อนที่คยองซูจะพูดจบประโยคเสียอีก ใบหน้าน่ารักที่อยู่ภายใต้ผ้าพันคอสีฟ้าสดที่คยองซูบรรจงพันปิดจนถึงริมฝีปากนั่นวาดยิ้มจนดวงตายิบหยี คยองซูจัดเสื้อผ้าให้เพื่อนอีกรอบก่อนจะพยักเพยิดให้จงแดเดินเข้าไปในงาน เจ้าตัวเดินเข้าไปได้ไม่กี่ก้าวก็หันกลับมาโบกมือไล่คยองซูเป็นเชิงให้กลับไป ก่อนจะที่หายลับไปกับฝูงชนที่มาชมคอนเสิร์ตของจางอี้ชิง  คยองซูยืนมองแผ่นหลังของเพื่อนที่หายลับไปสุดสายตาด้วยความเป็นห่วงก่อนจะเงยหน้ามองโปสเตอร์เจ้าของงานที่เขารู้จักเป็นอย่างดี

    พี่อี้ชิงจะรู้ไหม ว่าทุกปีคิมจงแดก็ยังคงเฝ้ามองอี้ชิงอยู่อย่างนี้เสมอ

    จะรู้ไหม ว่าของขวัญวันเกิดของแฟนคลับที่กองรวมๆกันเป็นพันๆชิ้นนั้นจะมีของๆเพื่อนเขา

    แล้วจะรู้ไหม..ว่าจงแดเองก็ยังอยากจะเป็นของขวัญให้อี้ชิงทุกปี

    แม้จะรู้ว่าไม่มีหวังเลยก็ตาม

     

     

     

    “เสียงจงแดเพราะ เพราะมากจนพี่หวงเลยแหละ”

    “จะหวงทำไมเราก็ร้องให้พี่ฟังแค่คนเดียวเนี่ย”

    “นั่นสิ ห้ามไปร้องให้ใครฟังถ้าพี่ไม่อนุญาตนะ...เพราะทุกอย่างของจงแดน่ะเป็นของพี่อี้ชิงคนนี้”

    “ขี้ตู่”

     

    จงแดกระพริบตาไล่หยดน้ำตาที่จู่ๆก็เอ่อขึ้นมา ตากลมยังคงจับจ้องเจ้าของลักยิ้มที่ยืนอยู่บนเวที จาง อี้ชิงทำทุกอย่างได้ดีจริงๆ สามารถสื่อสารความรู้สึกออกมาจากเสียงเพลงเหล่านั้น

    เพลงที่เมื่อก่อนมันเป็นเสียงของเขาเกือบทั้งหมด

     

     

    “ต่อไปจะเป็นเพลงสุดท้ายแล้วนะครับ..”อี้ชิงหยุดยืนอยู่ข้างเปียโนสีขาวตาคมกวาดมองไปทั่วฮอลล์ เขารู้สึกขอบคุณที่มีคนอยู่ข้างๆและพร้อมสนับสนุนเขามากมายขนาดนี้

    “เพลงนี้อาจไม่ใช่เพลงที่เพราะที่สุด...”รอยยิ้มแสนเศร้าปรากฏขึ้นบนใบหน้า แต่เพียงแค่แว๊บเดียวมันก็ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มที่เขาใช้มันมาตลอด 3 ปี “ผมไม่รู้ว่าทุกคนเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่า?”

    “...แต่สำหรับผม ผมเชื่อว่าเพราะพรหมลิขิตถึงทำให้เราได้มาพบกัน”

     

    “พี่เล่นกีตาร์เก่งจัง เล่นให้เราฟังบ้างสิ”

    “หือ เด็กเป็ดคนเมื่อวานนี่”

    “เราไม่ใช่เป็ดนะเราชื่อ จงแด”

    “ก็หน้าตาเหมือนเป็ด”

    “ย่าส์ พี่พูดกับคนที่เจอกันครั้งแรกแบบนี้หรอ?”

    “เจอกันครั้งแรกที่ไหน พี่เห็นเรามาแอบมองพี่ตั้งหลายวันแล้วนี่นา”

    ครั้งแรกที่คุยกัน แก้มขาวๆของจงแดแดงแค่ไหน อี้ชิงยังจำได้ดี

     

     

    “ขอบคุณสำหรับคำอวยพรและของขวัญนะครับ..”ตาคมจับจ้องไปยังเบื้องหน้าพร้อมกับยิ้มให้ตัวเอง “..เรามาอยู่ด้วยกับแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆเลยนะครับ”

     

    “เรามาอยู่ด้วยกันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแก่เลยดีมั๊ยจงแด?”

    “อือ”

     

     

    เสียงเปียโนที่ดังขึ้นทำให้จงแดหัวใจกระตุกวูบ ก่อนจะเต้นระรัว ทำนองเพลงช้าๆที่เขาจำได้ไม่เคยลืมค่อยๆดังออกมา จงแดเปิดริมฝีปากออกก่อนจะเอื้อนเอ่ยเนื้อเพลงที่เขายังจำมันได้ดี

     

    아무래도난니가좋아

    아무런말도없이웃던나를안아줘 babe

    오늘을기다렸죠그대달콤한

    나를봐요그대 ye 지켜줄게요 babe

    매일매일꿈을꾸죠

    그대손을잡고날아가영원히언제까지나

     

     

    “เด็กดื้อ บอกแล้วใช่มั๊ยว่าห้ามตากฝน..”

    “ง่า.. ก็เรากลัวพี่รอนานนี่นา”

    “ดื้อ..”

    “งื้อ..ดื้อแล้วจะไม่รักเราหรอ”

    “ถามแปลกๆก็เพราะรักน่ะสิ ถึงเป็นห่วง...”

     

    “ฮึก..”เสียงสะอื้นแผ่วเบาหลุดมาจากริมฝีปากบาง ภาพตรงหน้าของจงแดพร่ามัว ทั้งๆที่สายตายังคงจับจ้องไปยังอี้ชิงที่นั่งร้องเพลงอยู่หลังเปียโนสีขาว แต่จงแดกลับกลั้นมันไว้ไม่อยู่ เพลงนี้เป็นเพลงที่อี้ชิงแต่งให้เขา เพียงเพราะบอกว่ามีเขาเป็นแรงบันดาลใจ

     

    เพลงของพวกเรา

     

    보고싶은나의사랑운명이죠

    피할수도없죠

    Every day I’m so lucky 숨겨왔던

    내맘을고백할래너를사랑해

     

     

    ขอโทษนะพี่อี้ชิง ขอโทษ

    ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ข้างๆพี่ในวันที่พี่ควรมีความสุขที่สุด

    ขอโทษที่ไม่ได้มีเสียงมากพอที่จะช่วยเติมความสมบูรณ์ในเพลงให้อี้ชิงอีกแล้ว

    ขอโทษที่จับมือแล้วเดินไปข้างๆพี่ไม่ได้อีกแล้ว

    แต่ผมจะคอยมองพี่จากตรงนี้..ไม่ไปไหน

     

     

     

     

    ~~~~~~ 특별선물 ~~~~~~

     

     

     

     

    จงแดยืนกอดตัวเองอยู่หน้าสถานที่จัดการแสดง ตากลมยืนมองรูปของอี้ชิงที่อยู่บนป้ายโฆษณาด้วยดวงตาแดงก่ำ ทั้งๆที่คอนเสิร์ตจบไปเกือบ 10 นาทีแล้ว แต่จงแดก็ยังไม่เลิกร้องไห้ เขาเอาแต่คิดถึงเรื่องของอี้ชิงซ้ำๆ คิดถึง คิดถึงจนอดร้องไห้ออกมาไม่ได้

    แค่คิดว่าถ้าเกิดเขาได้อยู่ข้างๆอี้ชิงจนถึงวันนี้คงจะมีความสุขไม่น้อย

     

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดด

     

    เสียงร้องระงมของคนที่อยู่รอบข้างไม่ได้ทำให้จงแดสนใจเท่ากับแรงกอดรัดจากทางด้านหลังที่ทำเอาจงแดตื่นตระหนก คนตัวเล็กเบิกตากว้างพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมแขนด้วยความหวาดกลัว แต่เมื่อถูกพลิกตัวให้หันกลับมาเผชิญหน้า จงแดก็ได้แต่พยายามผลักคนตรงหน้าออกและก้าวถอยหลังหนี ตากลมฉายแววตระหนกอย่างเห็นได้ชัด เว้นเสียแต่ไม่มีคำพูดใดหลุดมาจากปาก อี้ชิงจับจ้องดวงหน้าที่แสนคิดถึงราวกลับไม่เชื่อสายตา คิม จงแดเอาแต่ก้มหน้าหลบและพยายามหนีห่าง แต่ครั้งนี้อี้ชิงจะไม่ยอมปล่อยให้คิม จงแดหายไปไหนอีกแล้ว

    ไม่ปล่อยให้หายไปไหนอีกแล้ว

     ข้อแขนเล็กถูกกระชากเข้ามาสู่อ้อมกอดของคนที่แสนคิดถึง ร่างเล็กในอ้อมแขนเอาแต่ดิ้นรนหาทางหลุดพ้น แต่อี้ชิงกลับกระชับอ้อมแขนเพิ่มแรงกอดรัดให้แน่นขึ้น เสียงแฟล็ซของนักข่าวดังระรัว พร้อมกับเสียงดังแซงแซ่อื้ออึงไปทั่วของแฟนคลับนักร้องหนุ่ม จงแดเกร็งจนตัวสั่น อยากจะผลักอี้ชิงออกแล้วพูดไล่ให้เจ้าตัวอย่าทำแบบนี้ แต่จงแดทำไม่ได้

    แค่เสียงที่จะเปล่งออกไปเป็นชื่อของอีกคนก็ยังทำไม่ได้

    ยิ่งเมื่อเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแผ่วเบาข้างหู หัวใจของจงแดก็เต้นระรัว พองโตด้วยความสุข พร้อมๆกับน้ำตาแห่งความคิดถึงที่ไหลอาบใบหน้า

    “อย่าหายไปจากพี่อีกนะ”

     

     

     

     

     

     

    “นายกำลังทำให้ทุกอย่างพัง”อี้ชิงนั่งนิ่งอยู่ตรงหน้าผู้จัดการที่โยนมือถือบนโต๊ะตรงหน้าเขา ตาคมจับจ้องไปยังภาพที่ถูกเปิดอยู่บนหน้าจอ มันมาจากเว็บข่าวชื่อดัง และแน่นอนว่ามันเป็นรูปเขากับจงแด

     “...”

    “ทำไมทำอะไรถึงไม่คิด นายกำลังมีชื่อเสียง แล้วดูสิ่งที่นายทำ...”ผู้จัดการพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสียจ้องมองเด็กในการปกครองที่เอาแต่นั่งนิ่งแล้วก็ได้แต่ถอนใจ

    “...”

    “เด็กคนนั้นกำลังจะทำให้ชีวิตนายพัง”

    “อย่าว่าจงแดแบบนั้น เขาไม่เคยทำให้ชีวิตผมพัง”อี้ชิงตวัดสายตาขึ้นมองหน้าผู้จัดการเขม็ง คิม แทอูถึงกับเงียบไป เพราะไม่เคยเจอกับท่าทางแข็งกร้าวของคนในปกครอง ตั้งแต่รู้จักกันมาอี้ชิงไม่เคยทำตัวออกนอกลู่นอกทาง ไม่เคยทำตัวให้น่าหนักใจ จนกระทั่งวันนี้

    “ไปเตรียมตัวให้พร้อม พรุ่งนี้เราจะแถลงข่าวกัน”เพราะรู้ว่าถ้าปล่อยให้เรื่องมันดำเนินไปแบบนี้โดยไม่ทำอะไร มันคงมีแต่เสียกับเสีย ยิ่งตอนนี้อี้ชิงกำลังจะมีอัลบั้มใหม่ ในสมองของผู้จัดการคนเก่งกำลังคิดหาทางออก และคำแก้ข่าวที่ฟังขึ้นสำหรับวันพรุ่งนี้ แต่ทว่าจาง อี้ชิงกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ตาคมที่ทอประกายความตั้งใจที่แทอูนึกชื่นชมเสมอเวลาที่เจ้าตัวกำลังมุ่งมั่นทำอะไรหลายๆอย่าง ทอดไปยังประตูห้องนอนที่ปิดสนิท และมีใครคนหนึ่งอยู่ในนั้น

    “...ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรหรอกครับ ...”

    “...”

    “ผมตัดสินใจแล้ว ว่าจะไม่มีทางปล่อยจงแดไปไหนอีก”

     

     

     

     

    อี้ชิงเดินเข้ามาทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงหลังกว้างทอดมองร่างเล็กที่นอนขดตัวอยู่บนเตียงด้วยสายตารักใคร่ไม่แปรเปลี่ยน 3 ปีที่ไม่ได้เจอกัน คิม จงแดไมได้เปลี่ยนไปเลย อาจจะผอมลงกว่าเดิมบ้าง แต่ทุกอย่างที่เป็นจงแด ก็ยังทำให้อี้ชิงยิ้มได้เสมอ ไวเท่าความคิดอี้ชิงก็แตะริมฝีปากลงบนมุมปากของคนที่หลับสนิท ก่อนเจ้าของตากลมจะเปิดขึ้นเมื่อเขาเลื่อนมากดจูบลงบนแก้มนิ่ม จงแดเบิกตากว้างผุดลุกกระเถิบหนีเขาไปจนชนกับหัวเตียง แววตาคู่นั้นก้มต่ำ ไม่ยอมมองสบตาเลยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่มีคำถามมากมายที่อยากจะถาม

    ทำไมจู่ๆถึงหายไป

    ทำไมถึงได้ผอมลงขนาดนี้

    และที่สำคัญยังเหมือนเดิมหรือเปล่า?

    ยังรักอี้ชิงคนนี้เหมือนอย่างที่เขายังรักเพียงคิม จงแดหรือเปล่า

    แต่แค่เจอหน้า แค่ได้เห็นคิม จงแด ตัวเป็นๆมาอยู่ตรงหน้า อี้ชิงก็ไม่อยากจะถามอะไรอีกแล้ว

     

    “จงแด..”อี้ชิงเอ่ยเรียกด้วยเบา ก่อนจะกระเถิบตัวเข้าไปใกล้ จงแดยังคงก้มหน้านิ่ง น้องไม่ยอมตอบอะไรเลย

     ....ไม่สิเพราะจงแดไม่สามารถตอบอะไรได้ต่างหาก “...จงแดได้ยินพี่ใช่มั๊ยครับ...”

    ไม่มีเสียงตอบรับแต่หัวกลมๆที่พยักขึ้นลงนั่นก็พอจะแทนคำตอบได้ อี้ชิงเอื้อมมือเข้าไปฉุดข้อแขนของคนตรงหน้าไว้ก่อนจะดึงรั้งเข้าสู่อ้อมกอด แรงขัดขืนน้อยๆยังมีให้พอรู้สึก แต่อี้ชิงไม่ยอมปล่อย เขาอยากจะกอด กอดร่างผอมบางนี่ไว้ในอ้อมแขนให้สมกับความคิดถึง

    “ไม่เจอกันตั้งนานยังดื้อเหมือนเดิมเลยนะเด็กเป็ด...”แรงดิ้นลดน้อยลงจนรู้สึกได้ อี้ชิงยกยิ้ม ยิ้มทั้งๆที่เขารู้สึกแสบจมูก แสบตาไปเสียหมด

    “..คิดถึงพี่ไหม..เราไปดื้อไปซนที่ไหนอีกหรือเปล่า ทำไมถึงผอมอย่างนี้ หืม?”อี้ชิงกลืนก้อนหนักๆที่จุกอยู่บริเวณลำคอ เขารู้สึกได้ว่าน้องสั่น ตัวของจงแดสั่นเทาเสียจนอี้ชิงอดไม่ได้ที่จะกดจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่มที่หลังคอ

    เขายังจำได้ดีว่าจงแดชอบให้ทำแบบนี้เวลาที่เจ้าตัวรู้สึกไม่สบายใจ

     

     

     “ไม่ได้เจอกันตั้ง 3 ปี...จงแดคิดถึงพี่ไหมครับ...” แรงขัดขืนหายไปเมื่ออี้ชิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขากระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ซบใบหน้าลงกับไหล่บางนั่นราวกับหมดแรง

    “...ขอโทษนะจงแด พี่ขอโทษ..”อี้ชิงร้องไห้ออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ หลายล้านคำถามที่อยู่ในหัวมาตลอด 3 ปี หายวับไปกับตา เพราะส่วนหนึ่งมันเป็นความผิดของเขาที่เชื่อเพื่อนจนไม่คิดดึงดันจะตามหาน้อง ส่วนหนึ่งก็เพราะโกรธที่จู่ๆน้องเลือกที่จะหายไป แต่เพียงแค่ได้พบหน้า เพียงแค่รู้ว่าที่น้องตัดสินใจหายไปเพราะน้องไม่อยากเป็นภาระ เพราะน้องร้องเพลงไม่ได้อีกแล้ว ทั้งๆที่น้องบอกว่าน้องรักเสียงของตัวเองเพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้น้องอยู่กับเขาได้ แค่คิดว่าจงแดจะต้องว้าเหว่แค่ไหนตอนที่ไม่มีเขา อี้ชิงก็รู้สึกเหมือนหัวใจจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

    คิม จงแดคนโง่

    “อะ อย่าร้อง...”เสียงแหบแผ่วเบาดังขึ้น แม้มันจะไม่ได้สดใสเหมือนเดิม แถมยังแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน อี้ชิงก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น อ้อมแขนเล็กๆโอบรัดร่างเขาไว้ หัวกลมเอนซบเข้ากับบ่าของเขาอย่างไว้ใจ ก่อนอี้ชิงจะรับรู้ได้ถึงความสั่นไหวของไหล่บางๆ พร้อมกับความเย็นที่ทะลุผ่านเสื้อของเขา

    คิม จงแดเด็กดื้อ ทั้งๆที่บอกคนอื่นว่าอย่าร้องไห้ แต่ตัวเองกลับร้องไห้เสียเอง

    “ไม่ให้พี่ร้อง เราก็อย่าร้องสิ...”กดจูบลงบนกลุ่มผมนิ่ม ดันตัวออกมาจ้องมองใบหน้าแดงๆของน้อง เกลี่ยแก้มใสที่เลอะไปด้วยหยาดน้ำออกช้าๆ

    ไม่เอาแล้ว จะไม่ยอมให้หายไปไหนอีกแล้ว

     

    “จงแดยา...อย่าหายไปจากพี่อีกได้ไหม?” อี้ชิงเห็นเจ้าตัวก้มหน้า ริมฝีปากบางที่เมื่อก่อนเป็นต้นกำเนิดเสียงใสๆเม้มแน่น ก่อนจะค่อยๆเอ่ยคำพูดออกมาช้าๆ

    “แต่เรา..ร้องเพลงไม่ได้..”

    “ร้องไม่ได้ก็ไม่ต้องร้อง...”

    “แต่พี่เคยบอกว่า...”อี้ชิงแตะริมฝีปากนั่นด้วยริมฝีปากตัวเองก่อนจะผละออก ยกยิ้มให้เมื่อเห็นว่าใบหน้าที่เขาแสนคิดถึงแดงก่ำขนาดไหน

    “...แค่ตื่นขึ้นมาแล้วได้เห็นหน้าจงแดแบบนี้ไปเรื่อยๆก็พอแล้วนะ...”

    “...”จงแดไม่ได้ตอบแต่ใบหน้าที่ส่งรอยยิ้มกว้างมาให้ทั้งน้ำตานั่นก็เพียงพอแล้ว ในเมื่อสาเหตุที่มาจากน้ำตามันคือความสุข

    “อยู่ข้างๆพี่ ให้พี่ได้รักเราแบบนี้ตลอดไปนะ จงแด”

    “อือ ไม่ไปไหนแล้ว...” ใบหน้าน่ารักซุกลงมาที่อกพร้อมกับคำหวานหูที่อี้ชิงรอฟังมานานแสนนาน “ผมรักพี่...เพราะฉะนั้นช่วยรักผมแบบนี้ไปเรื่อยๆนะครับ”

     

     

    วันเกิดปีที่ 25 อี้ชิงได้ของขวัญชิ้นนั้นกลับมา.........

     

     

     

     

    “มองทำไมนักหนา”เสียงแผ่วเบาดังขึ้น พร้อมกับมือเล็กที่ยกขึ้นมาปิดตาเขา อี้ชิงยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มก่อนจะกระชับร่างผอมในอ้อมแขนให้แน่นขึ้นจนคนที่โดนกอดรัดต้องร้องท้วงออกมาเพราะความอึดอัด

    “ก็อยากมองหน้าจงแดนานๆ...จะได้รู้ว่าพี่ไม่ได้ฝัน”ตาคมจ้องสบตาคนในอ้อมแขน จงแดเผลอชะงักค้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ริมฝากปากบางเป็นฝ่ายแตะเข้าที่ริมฝีปากของคนเป็นพี่ก่อนจะผละออกมายิ้มหวานใส่

    “แบบนี้ยังเรียกว่าฝันอีกไหม? งื้อ พี่อี้ชิง”เพราะเจ้าตัวดื้อทำตัวหมั่นเขี้ยวเลยโดนฟัดแก้มทั้งสองข้าง จงแดส่งเสียหัวเราะคิกคักด้วยความจั๊กจี้ แม้มันจะยังแผ่วเบาไม่ได้ใสแจ๋วเหมือนเมื่อก่อน แต่ตอนนี้จงแดก็สามารถเปล่งเสียงได้ดังกว่าเมื่อก่อนมากแล้ว แม้ว่าจะไม่สามารถร้องเพลงได้อีก แต่แค่ให้อี้ชิงได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยถาม เอ่ยกวนเขาทุกวันแค่นี้ก็พอแล้ว

    “ไม่ฝันหรอก..เพราะถ้าพี่ฝันคงไม่มีความสุขขนาดนี้”

    “เวอร์ อ๊ะ พี่อี้ชิง”

    “ไหนๆ วันนี้ก็วันเกิด ขอเปิดของขวัญอีกสักรอบแล้วกันนะครับ”แววตาวิบวับที่มองสบอยู่ในระยะประชิดทำให้ใบหน้าน่ารักแดงจัดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ แต่ถ้าจะให้จงแดมัวแต่เขินอายเหมือนเมื่อก่อนก็คงเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อคิม จงแดจอมแสบเป็นเจ้าของอี้ชิงกลับมาอย่างสมบูรณ์แล้ว

    “ก็..ตามใจสิครับ ที่รัก”

     

     

     

    และวันเกิดปีต่อๆไป อี้ชิงก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

    เพราะคิม จงแด คือของขวัญที่ล้ำค่ามากที่สุด

     

     

     

    Happy Yixing Day

     

    ปล.หลายคนอาจจะงงๆ เราเองก็งงๆ 555 โรคที่จงแดเป็นเพียงแค่อาการของคนที่มีความผิดปกติของกล่องเสียงค่ะ น้องจะมีอาการน้ำเสียงแหบแห้งบางครั้งก็พูดออกมาไม่มีเสียง น้องจึงร้องเพลงหรือแม้แต่พูดเสียงดังไม่ได้ มันไม่ได้ถูกร้อยเปอร์เซ็นเพราะว่าเราไม่เก่งด้านนี้ 555 ที่จริงมันเป็นเรื่องยาว แต่ตัดมา 555 เอาเป็นว่าเป็นช็อตฟิคที่สรุปย่อมาแล้วกันเนอะ

    ปล.2 สารภาพบาปว่าเราลืมพล็อตไคเฉิน ต้องขอทวนก่อนนะคะ ชอบจดพล็อตใส่กระดาษไปทั่วคาดว่าคงที่ไว้ที่เขียงราย555 เจอกันไม่นานเกินรอ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นติชม รวมถึงคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เลิ๊ฟฟฟฟทุกคน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×