คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Special gift : LAYCHEN
Title : Special Gift [Happy Birthday to Yixing]
Pairing : LAYCHEN
Talk : สุขสันต์วันเกิดพี่เล่ยสุดหล่อของน้องจงแดนะคะ
ขอให้พี่เล่ยมีความสุขมากๆ รักและเอ็นดูน้องให้มากๆ
ขยันเต๊าะน้องให้แม่ยกชุ่มชื่นหัวใจบ้างเนอะ สุดท้ายขอให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่านนะคะ
~~~~~~
특별선물
~~~~~~
วันเกิดปีที่ 20
อี้ชิงได้รับของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิตมา
“พี่อี้ชิงผมบอกแล้วไงว่ามันจั๊กจี้”เสียงแหลมๆของคนที่นั่งอยู่ในอ้อมแขนร้องลั่น
อี้ชิงทำเพียงหัวเราะเบาๆแต่ปากกับจมูกก็ยังซุกไซร้ไปทั่วไหล่ขาวเนียนของคนที่นั่งอยู่บนตัก
อาจเป็นเพราะเขาชอบ ชอบเวลาที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับร่างนุ่มๆ กลิ่นกายหอมๆของคิม
จงแด ไม่อยากห่างไหนแม้เพียงเสี้ยววินาทีเดียวด้วยซ้ำ
“ก็จงแดตัวหอม”เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลยแต่นั่นมันคือความจริง
อี้ชิงเห็นเจ้าตัวยุ่งในอ้อมแขนยู่ปากใส่ ก่อนจะเอียงหน้าหลบเป็นพัลวันเมื่อเขาฉกปลายจมูกเข้าหาแก้มนิ่มเป็นเป้าหมายต่อไป
“ไหนว่าวันนี้จะแต่งเพลงไง
เดี๋ยวก็เสร็จไม่ทันผมไม่รู้ด้วยนะ”
“ต้องเสร็จทันสิ
ก็ได้กำลังใจดีแบบนี้นี่”ว่าเสร็จก็ขโมยหอมแก้มนุ่มๆนั่นอีกฟอดใหญ่
ก่อนจะได้แรงตีเบาๆจากฝ่ามือเล็กๆนั่นเพราะความเขินอาย
“เมื่อคืนไม่พอหรือไง
หื่นจริง”เสียงบ่นเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน
อี้ชิงยิ้มกว้างยิ่งนึกไปถึงงานวันเกิดของตัวเองที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อคืนก็ยิ่งยิ้มกว้าง
มอง ของขวัญชิ้นโต ในอ้อมแขน ด้วยความรักใคร่
เขาไม่ได้มีความคิดว่าเจ้าตัวแสบจะกล้าทำอย่างที่ตัวเองพูดจริงๆ ที่บอกว่าจะมอบตัวเองให้เป็นของขวัญน่ะ
เพราะจงแดเป็นคนขี้เล่นอยู่แล้ว แต่เมื่อคืนที่เจ้าตัวเดินถือเค้กเข้ามาในห้อง
พร้อมกับริบบิ้นสีแดงที่ผูกเป็นโบว์อยู่รอบข้อมือ
ประโยคบอกสุขสันต์วันเกิดพร้อมกับของขวัญที่น้องบอกว่าเตรียมไว้สำหรับเขา
ของขวัญชิ้นนั้นก็คือ
จงแด
ของขวัญที่พิเศษที่สุดเท่าที่เคยได้รับมา
“ขอบคุณสำหรับของขวัญชิ้นนี้นะ”อี้ชิงเกยคางลงบนไหล่ขาวผ่อง กระซิบชิดใบหูแดงๆของคนที่นั่งเขิน
ก่อนจะประทับจูบแผ่วเบาลงบนริมฝีปากบางรับเช้าวันเกิดที่แสนสดใส
“อื้อ..ได้แล้วก็อย่างทิ้งขว้างกันนะ
พี่อี้ชิง”
“ไม่มีทางหรอก...”อี้ชิงยิ้ม
ยิ้มจนเห็นลักยิ้มที่จงแดบอกว่าชอบนักชอบหนา “...ถ้าไม่มีจงแดแล้วเพลง Best
Luck ของเราจะไพเราะได้ยังไงล่ะ จริงมั๊ย?”
เขาบอกว่าเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว
แต่บางทีมันก็รวดเร็วเสียจนอี้ชิงไม่ทันตั้งตัว
“หมายความว่ายังไงที่บอกว่าจงแดไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว..”อี้ชิงเอ่ยถามออกมาเสียงแผ่ว
เมื่อครู่เขาได้รับจดหมาย จดหมายที่เขียนด้วยลายมือของจงแด
ในนั้นมีแค่ข้อความสั้นๆที่บอกว่า
ขอบคุณและขอโทษ
อี้ชิงไม่เข้าใจ
และไม่มีวันเข้าใจ ในหัวของเขามีแค่คำว่า ทำไม ผุดขึ้นเต็มไปหมด ได้แต่อ่านลายมือน่ารักนั้นซ้ำๆ
ถึงเขาจะรู้ว่ามันไม่สามารถบอกทุกอย่างได้
แม้แต่จุนยอนที่เป็นพี่รหัสของจงแดยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“อี้ชิง
มึงใจเย็นๆก่อนพรุ่งนี้มึงต้องเข้ารายงานตัว”อี้ชิงได้ยินเสียงเพื่อนบอกออย่างนั้นแต่เขากลับทำได้เพียงต่อสายหาจงแดซ้ำๆ
แม้เสียงที่ได้รับกลับมาจะเป็นระบบฝากข้อความ เขาแค่อยากรู้
อยากรู้ว่าทำไมน้องถึงหายไป
.ในเมื่อ...
....เราไม่ได้ทะเลาะกัน
เมื่ออาทิตย์ก่อนจงแดยังไปนั่งเชียร์เขาตอนออดิชั่น
ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันที่เขาได้รับข่าวดีว่าตัวเองผ่านการคัดเลือกแล้วแท้ๆ
แต่คนที่เขาอยากให้มีความสุขด้วยกันจนถึงวันที่เขาทำตามความฝันกลับไม่ได้อยู่ตรงนี้
“กูจะไปตามหาจงแด”เขาผุดลุกขึ้นอีกครั้ง
แต่ทว่าครั้งนี้จุนมยอนกลับจับเขาไว้ อี้ชิงผลักเพื่อนให้พ้นทาง
แต่จุนมยอนก็ยังดึงดันที่จะไม่ปล่อยเขา “ปล่อยกู!!”อี้ฟานเป็นฝ่ายเข้ามาช่วยรั้งอี้ชิงไว้อีกแรง ร่างของอี้ชิงถูกเพื่อนกอดรัดไว้
ในขณะที่เจ้าตัวดิ้นรนหาทางออก เขาไม่อยากอยู่ที่นี่ เขาจะต้องออกไปตามหาจงแด
จงแดก็แค่งอนเขา น้องไม่มีทางหายไปจากเขา
“อี้ชิงมึงใจเย็นๆ”
“ก็จะเย็นได้ยังไง
น้องหายไปทั้งคน ป่านนี้จงแดจะเป็นยังไงวะ..กู..”อี้ชิงเผลอตะคอกเสียงใส่เพื่อน
ตาคมแดงก่ำ มือก็แกะมือเพื่อนออก แต่จุนมยอนกับอี้ฟานเองก็ยังไม่ยอมง่ายๆ
“แล้วมึงจะไปตามหาจงแดที่ไหน!!”จุนมยอนเป็นฝ่ายตะคอกเสียงถามกลับมา อี้ชิงหยุดชะงักเพราะเขาเองก็ไม่รู้
ไม่รู้เหมือนกันว่าจงแดไปที่ไหน น้องอาจจะแค่เหนื่อย หรือเขาอาจจะทำอะไรให้น้องไม่พอใจ
ขอแค่เขาออกไป ออกไปตามหาทุกที่ที่จงแดชอบไป
“กูจะไปที่ๆน้อง..”
“มึงคิดว่าน้องเขาจะให้มึงตามหาเขาเจอหรือไง...”
“...”
“...กูไม่รู้หรอกว่ามึงกับน้องมีปัญหาอะไรกัน แต่มึงก็รู้ว่าจงแดน่ะ ถ้าตัดสินใจไปแล้วน้องจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ”
“...” เขารู้ รู้ดี
“ถ้านี่คือสิ่งที่น้องเลือก...มึงก็ปล่อยน้องไปเถอะ”
แต่แล้ววันเกิดปีที่
21 อี้ชิงก็สูญเสียสิ่งนั้นไป ของขวัญชิ้นนั้นหายไป
โดยที่อี้ชิงไม่ได้มีโอกาสไถ่ถามว่าตัวเองทำอะไรผิดเลยด้วยซ้ำ
~~~~~~
특별선물
~~~~~~
พี่อี้ชิงยังร้องเพลงเพราะเหมือนเดิม
ตากลมทอดมองร่างสูงโปร่งที่กำลังนั่งเล่นกีตาร์คลอไปกับเสียงร้องในทีวีด้วยแววตาวูบไหว
มันสะท้อนทั้งความคิดถึง ห่วงหา ผสมปนเปกันไปหมด ริมฝีปากบางอ้าออก ขยับปากช้าๆตามเสียงนุ่มที่ดังแว่วออกมาจากทีวีตรงหน้า
....แต่ทว่ากลับไม่มีเสียง
หยาดน้ำตาไหลลงจากตากลมแต่เจ้าตัวกลับไม่ได้สนใจที่จะเช็ดมันออก
คิดถึง..แต่คิมจงแดทำอะไรไม่ได้
แม้แต่คำว่ารัก..จงแดก็ยังไม่สามารถบอกอี้ชิงได้
เพราะคิม จงแดเป็นคิม
จงแดคนเดิม ของอี้ชิงไม่ได้อีกแล้ว
“ห้ามถอดเสื้อแขนยาวออกรู้ไหม?
แล้วก็ห้ามไปกับคนแปลกหน้าด้วย ถ้ามีอะไรรีบส่งข้อความหาเรา ไม่ก็ชานยอล
เข้าใจหรือเปล่า ?”จงแดพยักหน้าหงึกหงักก่อนที่คยองซูจะพูดจบประโยคเสียอีก
ใบหน้าน่ารักที่อยู่ภายใต้ผ้าพันคอสีฟ้าสดที่คยองซูบรรจงพันปิดจนถึงริมฝีปากนั่นวาดยิ้มจนดวงตายิบหยี
คยองซูจัดเสื้อผ้าให้เพื่อนอีกรอบก่อนจะพยักเพยิดให้จงแดเดินเข้าไปในงาน เจ้าตัวเดินเข้าไปได้ไม่กี่ก้าวก็หันกลับมาโบกมือไล่คยองซูเป็นเชิงให้กลับไป
ก่อนจะที่หายลับไปกับฝูงชนที่มาชมคอนเสิร์ตของจางอี้ชิง คยองซูยืนมองแผ่นหลังของเพื่อนที่หายลับไปสุดสายตาด้วยความเป็นห่วงก่อนจะเงยหน้ามองโปสเตอร์เจ้าของงานที่เขารู้จักเป็นอย่างดี
พี่อี้ชิงจะรู้ไหม
ว่าทุกปีคิมจงแดก็ยังคงเฝ้ามองอี้ชิงอยู่อย่างนี้เสมอ
จะรู้ไหม
ว่าของขวัญวันเกิดของแฟนคลับที่กองรวมๆกันเป็นพันๆชิ้นนั้นจะมีของๆเพื่อนเขา
แล้วจะรู้ไหม..ว่าจงแดเองก็ยังอยากจะเป็นของขวัญให้อี้ชิงทุกปี
แม้จะรู้ว่าไม่มีหวังเลยก็ตาม
“เสียงจงแดเพราะ
เพราะมากจนพี่หวงเลยแหละ”
“จะหวงทำไมเราก็ร้องให้พี่ฟังแค่คนเดียวเนี่ย”
“นั่นสิ
ห้ามไปร้องให้ใครฟังถ้าพี่ไม่อนุญาตนะ...เพราะทุกอย่างของจงแดน่ะเป็นของพี่อี้ชิงคนนี้”
“ขี้ตู่”
จงแดกระพริบตาไล่หยดน้ำตาที่จู่ๆก็เอ่อขึ้นมา
ตากลมยังคงจับจ้องเจ้าของลักยิ้มที่ยืนอยู่บนเวที จาง อี้ชิงทำทุกอย่างได้ดีจริงๆ
สามารถสื่อสารความรู้สึกออกมาจากเสียงเพลงเหล่านั้น
เพลงที่เมื่อก่อนมันเป็นเสียงของเขาเกือบทั้งหมด
“ต่อไปจะเป็นเพลงสุดท้ายแล้วนะครับ..”อี้ชิงหยุดยืนอยู่ข้างเปียโนสีขาวตาคมกวาดมองไปทั่วฮอลล์
เขารู้สึกขอบคุณที่มีคนอยู่ข้างๆและพร้อมสนับสนุนเขามากมายขนาดนี้
“เพลงนี้อาจไม่ใช่เพลงที่เพราะที่สุด...”รอยยิ้มแสนเศร้าปรากฏขึ้นบนใบหน้า
แต่เพียงแค่แว๊บเดียวมันก็ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มที่เขาใช้มันมาตลอด 3 ปี
“ผมไม่รู้ว่าทุกคนเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่า?”
“...แต่สำหรับผม
ผมเชื่อว่าเพราะพรหมลิขิตถึงทำให้เราได้มาพบกัน”
“พี่เล่นกีตาร์เก่งจัง
เล่นให้เราฟังบ้างสิ”
“หือ
เด็กเป็ดคนเมื่อวานนี่”
“เราไม่ใช่เป็ดนะเราชื่อ
จงแด”
“ก็หน้าตาเหมือนเป็ด”
“ย่าส์
พี่พูดกับคนที่เจอกันครั้งแรกแบบนี้หรอ?”
“เจอกันครั้งแรกที่ไหน
พี่เห็นเรามาแอบมองพี่ตั้งหลายวันแล้วนี่นา”
ครั้งแรกที่คุยกัน
แก้มขาวๆของจงแดแดงแค่ไหน อี้ชิงยังจำได้ดี
“ขอบคุณสำหรับคำอวยพรและของขวัญนะครับ..”ตาคมจับจ้องไปยังเบื้องหน้าพร้อมกับยิ้มให้ตัวเอง
“..เรามาอยู่ด้วยกับแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆเลยนะครับ”
“เรามาอยู่ด้วยกันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
จนกว่าจะแก่เลยดีมั๊ยจงแด?”
“อือ”
เสียงเปียโนที่ดังขึ้นทำให้จงแดหัวใจกระตุกวูบ
ก่อนจะเต้นระรัว ทำนองเพลงช้าๆที่เขาจำได้ไม่เคยลืมค่อยๆดังออกมา
จงแดเปิดริมฝีปากออกก่อนจะเอื้อนเอ่ยเนื้อเพลงที่เขายังจำมันได้ดี
아무래도난니가좋아
아무런말도없이웃던나를안아줘 babe
오늘을기다렸죠그대달콤한
나를봐요그대 ye 지켜줄게요 babe
매일매일꿈을꾸죠
그대손을잡고날아가영원히언제까지나
“เด็กดื้อ
บอกแล้วใช่มั๊ยว่าห้ามตากฝน..”
“ง่า..
ก็เรากลัวพี่รอนานนี่นา”
“ดื้อ..”
“งื้อ..ดื้อแล้วจะไม่รักเราหรอ”
“ถามแปลกๆก็เพราะรักน่ะสิ
ถึงเป็นห่วง...”
“ฮึก..”เสียงสะอื้นแผ่วเบาหลุดมาจากริมฝีปากบาง
ภาพตรงหน้าของจงแดพร่ามัว
ทั้งๆที่สายตายังคงจับจ้องไปยังอี้ชิงที่นั่งร้องเพลงอยู่หลังเปียโนสีขาว
แต่จงแดกลับกลั้นมันไว้ไม่อยู่ เพลงนี้เป็นเพลงที่อี้ชิงแต่งให้เขา
เพียงเพราะบอกว่ามีเขาเป็นแรงบันดาลใจ
เพลงของพวกเรา
보고싶은나의사랑운명이죠
피할수도없죠
Every day I’m so lucky 숨겨왔던
내맘을고백할래너를사랑해
ขอโทษนะพี่อี้ชิง
ขอโทษ
ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ข้างๆพี่ในวันที่พี่ควรมีความสุขที่สุด
ขอโทษที่ไม่ได้มีเสียงมากพอที่จะช่วยเติมความสมบูรณ์ในเพลงให้อี้ชิงอีกแล้ว
ขอโทษที่จับมือแล้วเดินไปข้างๆพี่ไม่ได้อีกแล้ว
แต่ผมจะคอยมองพี่จากตรงนี้..ไม่ไปไหน
~~~~~~
특별선물
~~~~~~
จงแดยืนกอดตัวเองอยู่หน้าสถานที่จัดการแสดง
ตากลมยืนมองรูปของอี้ชิงที่อยู่บนป้ายโฆษณาด้วยดวงตาแดงก่ำ
ทั้งๆที่คอนเสิร์ตจบไปเกือบ 10 นาทีแล้ว แต่จงแดก็ยังไม่เลิกร้องไห้ เขาเอาแต่คิดถึงเรื่องของอี้ชิงซ้ำๆ
คิดถึง คิดถึงจนอดร้องไห้ออกมาไม่ได้
แค่คิดว่าถ้าเกิดเขาได้อยู่ข้างๆอี้ชิงจนถึงวันนี้คงจะมีความสุขไม่น้อย
กรี๊ดดดดดดดดดดด
เสียงร้องระงมของคนที่อยู่รอบข้างไม่ได้ทำให้จงแดสนใจเท่ากับแรงกอดรัดจากทางด้านหลังที่ทำเอาจงแดตื่นตระหนก
คนตัวเล็กเบิกตากว้างพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมแขนด้วยความหวาดกลัว แต่เมื่อถูกพลิกตัวให้หันกลับมาเผชิญหน้า
จงแดก็ได้แต่พยายามผลักคนตรงหน้าออกและก้าวถอยหลังหนี
ตากลมฉายแววตระหนกอย่างเห็นได้ชัด เว้นเสียแต่ไม่มีคำพูดใดหลุดมาจากปาก
อี้ชิงจับจ้องดวงหน้าที่แสนคิดถึงราวกลับไม่เชื่อสายตา คิม
จงแดเอาแต่ก้มหน้าหลบและพยายามหนีห่าง แต่ครั้งนี้อี้ชิงจะไม่ยอมปล่อยให้คิม
จงแดหายไปไหนอีกแล้ว
ไม่ปล่อยให้หายไปไหนอีกแล้ว
ข้อแขนเล็กถูกกระชากเข้ามาสู่อ้อมกอดของคนที่แสนคิดถึง
ร่างเล็กในอ้อมแขนเอาแต่ดิ้นรนหาทางหลุดพ้น
แต่อี้ชิงกลับกระชับอ้อมแขนเพิ่มแรงกอดรัดให้แน่นขึ้น เสียงแฟล็ซของนักข่าวดังระรัว
พร้อมกับเสียงดังแซงแซ่อื้ออึงไปทั่วของแฟนคลับนักร้องหนุ่ม จงแดเกร็งจนตัวสั่น
อยากจะผลักอี้ชิงออกแล้วพูดไล่ให้เจ้าตัวอย่าทำแบบนี้ แต่จงแดทำไม่ได้
แค่เสียงที่จะเปล่งออกไปเป็นชื่อของอีกคนก็ยังทำไม่ได้
ยิ่งเมื่อเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแผ่วเบาข้างหู
หัวใจของจงแดก็เต้นระรัว พองโตด้วยความสุข
พร้อมๆกับน้ำตาแห่งความคิดถึงที่ไหลอาบใบหน้า
“อย่าหายไปจากพี่อีกนะ”
“นายกำลังทำให้ทุกอย่างพัง”อี้ชิงนั่งนิ่งอยู่ตรงหน้าผู้จัดการที่โยนมือถือบนโต๊ะตรงหน้าเขา
ตาคมจับจ้องไปยังภาพที่ถูกเปิดอยู่บนหน้าจอ มันมาจากเว็บข่าวชื่อดัง
และแน่นอนว่ามันเป็นรูปเขากับจงแด
“...”
“ทำไมทำอะไรถึงไม่คิด
นายกำลังมีชื่อเสียง แล้วดูสิ่งที่นายทำ...”ผู้จัดการพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสียจ้องมองเด็กในการปกครองที่เอาแต่นั่งนิ่งแล้วก็ได้แต่ถอนใจ
“...”
“เด็กคนนั้นกำลังจะทำให้ชีวิตนายพัง”
“อย่าว่าจงแดแบบนั้น
เขาไม่เคยทำให้ชีวิตผมพัง”อี้ชิงตวัดสายตาขึ้นมองหน้าผู้จัดการเขม็ง คิม
แทอูถึงกับเงียบไป เพราะไม่เคยเจอกับท่าทางแข็งกร้าวของคนในปกครอง ตั้งแต่รู้จักกันมาอี้ชิงไม่เคยทำตัวออกนอกลู่นอกทาง
ไม่เคยทำตัวให้น่าหนักใจ จนกระทั่งวันนี้
“ไปเตรียมตัวให้พร้อม
พรุ่งนี้เราจะแถลงข่าวกัน”เพราะรู้ว่าถ้าปล่อยให้เรื่องมันดำเนินไปแบบนี้โดยไม่ทำอะไร
มันคงมีแต่เสียกับเสีย ยิ่งตอนนี้อี้ชิงกำลังจะมีอัลบั้มใหม่
ในสมองของผู้จัดการคนเก่งกำลังคิดหาทางออก
และคำแก้ข่าวที่ฟังขึ้นสำหรับวันพรุ่งนี้ แต่ทว่าจาง
อี้ชิงกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
ตาคมที่ทอประกายความตั้งใจที่แทอูนึกชื่นชมเสมอเวลาที่เจ้าตัวกำลังมุ่งมั่นทำอะไรหลายๆอย่าง
ทอดไปยังประตูห้องนอนที่ปิดสนิท และมีใครคนหนึ่งอยู่ในนั้น
“...ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรหรอกครับ
...”
“...”
“ผมตัดสินใจแล้ว
ว่าจะไม่มีทางปล่อยจงแดไปไหนอีก”
อี้ชิงเดินเข้ามาทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงหลังกว้างทอดมองร่างเล็กที่นอนขดตัวอยู่บนเตียงด้วยสายตารักใคร่ไม่แปรเปลี่ยน
3 ปีที่ไม่ได้เจอกัน คิม จงแดไมได้เปลี่ยนไปเลย อาจจะผอมลงกว่าเดิมบ้าง
แต่ทุกอย่างที่เป็นจงแด ก็ยังทำให้อี้ชิงยิ้มได้เสมอ
ไวเท่าความคิดอี้ชิงก็แตะริมฝีปากลงบนมุมปากของคนที่หลับสนิท
ก่อนเจ้าของตากลมจะเปิดขึ้นเมื่อเขาเลื่อนมากดจูบลงบนแก้มนิ่ม จงแดเบิกตากว้างผุดลุกกระเถิบหนีเขาไปจนชนกับหัวเตียง
แววตาคู่นั้นก้มต่ำ ไม่ยอมมองสบตาเลยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่มีคำถามมากมายที่อยากจะถาม
ทำไมจู่ๆถึงหายไป
ทำไมถึงได้ผอมลงขนาดนี้
และที่สำคัญยังเหมือนเดิมหรือเปล่า?
ยังรักอี้ชิงคนนี้เหมือนอย่างที่เขายังรักเพียงคิม
จงแดหรือเปล่า
แต่แค่เจอหน้า
แค่ได้เห็นคิม จงแด ตัวเป็นๆมาอยู่ตรงหน้า อี้ชิงก็ไม่อยากจะถามอะไรอีกแล้ว
“จงแด..”อี้ชิงเอ่ยเรียกด้วยเบา
ก่อนจะกระเถิบตัวเข้าไปใกล้ จงแดยังคงก้มหน้านิ่ง น้องไม่ยอมตอบอะไรเลย
....ไม่สิเพราะจงแดไม่สามารถตอบอะไรได้ต่างหาก “...จงแดได้ยินพี่ใช่มั๊ยครับ...”
ไม่มีเสียงตอบรับแต่หัวกลมๆที่พยักขึ้นลงนั่นก็พอจะแทนคำตอบได้
อี้ชิงเอื้อมมือเข้าไปฉุดข้อแขนของคนตรงหน้าไว้ก่อนจะดึงรั้งเข้าสู่อ้อมกอด
แรงขัดขืนน้อยๆยังมีให้พอรู้สึก แต่อี้ชิงไม่ยอมปล่อย เขาอยากจะกอด
กอดร่างผอมบางนี่ไว้ในอ้อมแขนให้สมกับความคิดถึง
“ไม่เจอกันตั้งนานยังดื้อเหมือนเดิมเลยนะเด็กเป็ด...”แรงดิ้นลดน้อยลงจนรู้สึกได้
อี้ชิงยกยิ้ม ยิ้มทั้งๆที่เขารู้สึกแสบจมูก แสบตาไปเสียหมด
“..คิดถึงพี่ไหม..เราไปดื้อไปซนที่ไหนอีกหรือเปล่า
ทำไมถึงผอมอย่างนี้ หืม?”อี้ชิงกลืนก้อนหนักๆที่จุกอยู่บริเวณลำคอ
เขารู้สึกได้ว่าน้องสั่น
ตัวของจงแดสั่นเทาเสียจนอี้ชิงอดไม่ได้ที่จะกดจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่มที่หลังคอ
เขายังจำได้ดีว่าจงแดชอบให้ทำแบบนี้เวลาที่เจ้าตัวรู้สึกไม่สบายใจ
“ไม่ได้เจอกันตั้ง 3
ปี...จงแดคิดถึงพี่ไหมครับ...” แรงขัดขืนหายไปเมื่ออี้ชิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
เขากระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ซบใบหน้าลงกับไหล่บางนั่นราวกับหมดแรง
“...ขอโทษนะจงแด
พี่ขอโทษ..”อี้ชิงร้องไห้ออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ หลายล้านคำถามที่อยู่ในหัวมาตลอด 3
ปี หายวับไปกับตา เพราะส่วนหนึ่งมันเป็นความผิดของเขาที่เชื่อเพื่อนจนไม่คิดดึงดันจะตามหาน้อง
ส่วนหนึ่งก็เพราะโกรธที่จู่ๆน้องเลือกที่จะหายไป แต่เพียงแค่ได้พบหน้า เพียงแค่รู้ว่าที่น้องตัดสินใจหายไปเพราะน้องไม่อยากเป็นภาระ
เพราะน้องร้องเพลงไม่ได้อีกแล้ว
ทั้งๆที่น้องบอกว่าน้องรักเสียงของตัวเองเพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้น้องอยู่กับเขาได้
แค่คิดว่าจงแดจะต้องว้าเหว่แค่ไหนตอนที่ไม่มีเขา อี้ชิงก็รู้สึกเหมือนหัวใจจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
คิม จงแดคนโง่
“อะ
อย่าร้อง...”เสียงแหบแผ่วเบาดังขึ้น แม้มันจะไม่ได้สดใสเหมือนเดิม
แถมยังแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน อี้ชิงก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น อ้อมแขนเล็กๆโอบรัดร่างเขาไว้
หัวกลมเอนซบเข้ากับบ่าของเขาอย่างไว้ใจ
ก่อนอี้ชิงจะรับรู้ได้ถึงความสั่นไหวของไหล่บางๆ พร้อมกับความเย็นที่ทะลุผ่านเสื้อของเขา
คิม จงแดเด็กดื้อ
ทั้งๆที่บอกคนอื่นว่าอย่าร้องไห้ แต่ตัวเองกลับร้องไห้เสียเอง
“ไม่ให้พี่ร้อง
เราก็อย่าร้องสิ...”กดจูบลงบนกลุ่มผมนิ่ม ดันตัวออกมาจ้องมองใบหน้าแดงๆของน้อง
เกลี่ยแก้มใสที่เลอะไปด้วยหยาดน้ำออกช้าๆ
ไม่เอาแล้ว
จะไม่ยอมให้หายไปไหนอีกแล้ว
“จงแดยา...อย่าหายไปจากพี่อีกได้ไหม?”
อี้ชิงเห็นเจ้าตัวก้มหน้า ริมฝีปากบางที่เมื่อก่อนเป็นต้นกำเนิดเสียงใสๆเม้มแน่น
ก่อนจะค่อยๆเอ่ยคำพูดออกมาช้าๆ
“แต่เรา..ร้องเพลงไม่ได้..”
“ร้องไม่ได้ก็ไม่ต้องร้อง...”
“แต่พี่เคยบอกว่า...”อี้ชิงแตะริมฝีปากนั่นด้วยริมฝีปากตัวเองก่อนจะผละออก
ยกยิ้มให้เมื่อเห็นว่าใบหน้าที่เขาแสนคิดถึงแดงก่ำขนาดไหน
“...แค่ตื่นขึ้นมาแล้วได้เห็นหน้าจงแดแบบนี้ไปเรื่อยๆก็พอแล้วนะ...”
“...”จงแดไม่ได้ตอบแต่ใบหน้าที่ส่งรอยยิ้มกว้างมาให้ทั้งน้ำตานั่นก็เพียงพอแล้ว
ในเมื่อสาเหตุที่มาจากน้ำตามันคือความสุข
“อยู่ข้างๆพี่
ให้พี่ได้รักเราแบบนี้ตลอดไปนะ จงแด”
“อือ ไม่ไปไหนแล้ว...”
ใบหน้าน่ารักซุกลงมาที่อกพร้อมกับคำหวานหูที่อี้ชิงรอฟังมานานแสนนาน
“ผมรักพี่...เพราะฉะนั้นช่วยรักผมแบบนี้ไปเรื่อยๆนะครับ”
วันเกิดปีที่ 25
อี้ชิงได้ของขวัญชิ้นนั้นกลับมา.........
“มองทำไมนักหนา”เสียงแผ่วเบาดังขึ้น
พร้อมกับมือเล็กที่ยกขึ้นมาปิดตาเขา
อี้ชิงยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มก่อนจะกระชับร่างผอมในอ้อมแขนให้แน่นขึ้นจนคนที่โดนกอดรัดต้องร้องท้วงออกมาเพราะความอึดอัด
“ก็อยากมองหน้าจงแดนานๆ...จะได้รู้ว่าพี่ไม่ได้ฝัน”ตาคมจ้องสบตาคนในอ้อมแขน
จงแดเผลอชะงักค้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น
ริมฝากปากบางเป็นฝ่ายแตะเข้าที่ริมฝีปากของคนเป็นพี่ก่อนจะผละออกมายิ้มหวานใส่
“แบบนี้ยังเรียกว่าฝันอีกไหม?
งื้อ พี่อี้ชิง”เพราะเจ้าตัวดื้อทำตัวหมั่นเขี้ยวเลยโดนฟัดแก้มทั้งสองข้าง
จงแดส่งเสียหัวเราะคิกคักด้วยความจั๊กจี้
แม้มันจะยังแผ่วเบาไม่ได้ใสแจ๋วเหมือนเมื่อก่อน
แต่ตอนนี้จงแดก็สามารถเปล่งเสียงได้ดังกว่าเมื่อก่อนมากแล้ว
แม้ว่าจะไม่สามารถร้องเพลงได้อีก แต่แค่ให้อี้ชิงได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยถาม
เอ่ยกวนเขาทุกวันแค่นี้ก็พอแล้ว
“ไม่ฝันหรอก..เพราะถ้าพี่ฝันคงไม่มีความสุขขนาดนี้”
“เวอร์ อ๊ะ
พี่อี้ชิง”
“ไหนๆ
วันนี้ก็วันเกิด
ขอเปิดของขวัญอีกสักรอบแล้วกันนะครับ”แววตาวิบวับที่มองสบอยู่ในระยะประชิดทำให้ใบหน้าน่ารักแดงจัดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
แต่ถ้าจะให้จงแดมัวแต่เขินอายเหมือนเมื่อก่อนก็คงเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อคิม
จงแดจอมแสบเป็นเจ้าของอี้ชิงกลับมาอย่างสมบูรณ์แล้ว
“ก็..ตามใจสิครับ
ที่รัก”
และวันเกิดปีต่อๆไป
อี้ชิงก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
เพราะคิม จงแด
คือของขวัญที่ล้ำค่ามากที่สุด
Happy Yixing Day
ปล.หลายคนอาจจะงงๆ
เราเองก็งงๆ 555 โรคที่จงแดเป็นเพียงแค่อาการของคนที่มีความผิดปกติของกล่องเสียงค่ะ
น้องจะมีอาการน้ำเสียงแหบแห้งบางครั้งก็พูดออกมาไม่มีเสียง
น้องจึงร้องเพลงหรือแม้แต่พูดเสียงดังไม่ได้ มันไม่ได้ถูกร้อยเปอร์เซ็นเพราะว่าเราไม่เก่งด้านนี้
555 ที่จริงมันเป็นเรื่องยาว แต่ตัดมา 555 เอาเป็นว่าเป็นช็อตฟิคที่สรุปย่อมาแล้วกันเนอะ
ปล.2 สารภาพบาปว่าเราลืมพล็อตไคเฉิน
ต้องขอทวนก่อนนะคะ ชอบจดพล็อตใส่กระดาษไปทั่วคาดว่าคงที่ไว้ที่เขียงราย555 เจอกันไม่นานเกินรอ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นติชม รวมถึงคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เลิ๊ฟฟฟฟทุกคน
ความคิดเห็น