คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Begin again : KAICHEN
Title : Begin
Again
Pairing :
KAICHEN
ปล.ตัวเอียงคืออดีตนะคะ
“สวัสดีครับ
ผมชื่อ คิม จงแด ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” ภาคต้นของการศึกษาม.ปลายปีสุดท้าย
เราก็ได้พบกันอีกครั้ง เจ้าของรอยยิ้มสดใสที่มีมุมปากยกยิ้มแทบตลอดเวลา เสียงหวานๆ
ที่ฟังลื่นหูและไพเราะยิ่งขึ้นเมื่อเปล่งเสียงร้องเพลงที่เจ้าตัวบอกว่าชอบนักชอบหนา
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้กระทั่งส่วนสูงที่หยุดอยู่เท่าเดิมก่อนเราจะไม่ได้พบกัน
เว้นเสียแต่ว่า..
“อ่า
นายชื่อ จงอินสินะ ยินดีที่ได้รู้จัก”
คิม
จงแด จำผมไม่ได้
ยังไม่มาหรอกหรอ?
ตากลมสอดส่องไปทั่วห้อง
แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบหน้าเจ้าของโต๊ะตัวที่นั่งติดกัน
จงแดถอนหายใจก่อนจะเดินไปทรุดนั่งลงตรงที่นั่งของตัวเอง ตากลมทอดยาวออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะต้องถอนหายใจอีกครั้งเมื่อพบว่าคนที่กำลังตามหาเมื่อครู่กำลังเดินเข้ามาในบริเวณโรงเรียนพร้อมกับเซฮุน
ทั้งๆที่รอออกมาพร้อมกันก็ได้แท้ๆ
แต่คิม จงอินที่บ้านอยู่ติดกันกลับหนีหน้าเขาแทบทุกเช้า
ไม่เข้าใจเลย
จะเกลียดอะไรกันนักหนา
ริมฝีปากบางยู่เข้าหากันอย่างเคยตัว
จงแดไม่รู้หรอกว่าทำไมถึงต้องมาใส่ใจเรื่องเด็กผู้ชายที่อายุห่างเขา 1 ปีคนนี้
ก็แค่คิดว่าอยู่บ้านติดกัน คุณยายเองก็บอกว่าก่อนที่เขาจะย้ายไปจากที่นี่เขากับเจ้าตัวสนิทกันมากแท้ๆ
แล้วทำไมคิม จงอินถึงได้ทำเหมือนจงเกลียดจงชังเขาขนาดนั้น
“นี่มึงไปแกล้งอะไรจงแดฮยองเขาอีกหรือเปล่า?”เซฮุนเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นเพื่อนตัวดีหยุดเดินแล้วมองขึ้นไปบนหน้าต่างของห้องเรียน
จงแดฮยองนักเรียนที่เพิ่งย้ายมาได้แค่เดือนเดียวนั่งอยู่ตรงนั้น
ถอนหายใจเมื่อจงอินเลือกที่จะเงียบใส่เขาแทนคำตอบ ก่อนขายาวนั่นจะก้าวเดินหนีเขาไป
โคตรเข้าใจยากเลย
ไอ้เพื่อนบ้านี่
“คุณป้าบอกว่านายลืมเอาข้าวกล่องออกมา”ทันทีที่ร่างสูงของน้องชายข้างบ้านนั่งลงที่ว่างข้างๆ
จงแดที่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนยังบ่นเด็กตัวสูงข้างๆนี่ไปก็คว้าเอากล่องเข้าที่นอนนิ่งอยู่ในกระเป๋าเป้มาวางไว้ตรงหน้า
จงอินเหลือบตามองแว๊บนึง ก่อนจะดึงมันเปิดกิน โดยไร้คำขอบคุณเช่นเคย
เป็นเด็กไม่ดีเอาเสียเลย
จงแดได้แต่นึกค่อนขอดในใจ
เพราะถึงเขาจะพูดออกไปเด็กนี่ก็ไม่ฟังอะไรอยู่ดี
เผลอๆก็ตะคอกใส่เขาเหมือนอย่างตอนนั้นอีก ,มือเล็กหยิบนมช็อกโกแล็ตออกมาเจาะก่อนจะหันหน้ามองไปอีกทาง
จึงไม่ได้เห็นสายตาของอีกคน
สายตาที่จงแดมักจะไม่ได้เห็นเวลาที่มองสบตากันตรงๆ
สายตาที่เคยใช้มองจงแดมาตลอด
ก่อนที่จงแดจะจำเขาไม่ได้
“อ่ะ
”จู่ๆก็มีแซนวิชมาจ่ออยู่ตรงหน้า
จงแดที่เพิ่งดูดนมในมือไปหมดกล่องได้แต่หันมามองอีกคนด้วยสายตางุนงง
“เอาไปกิน”เสียงเรียบๆเอ่ยขึ้นมาแถมยังทำท่าจะยัดมันใส่มือเขาอีก
จงแดส่ายหัวเป็นพัลวัน บ่งบอกว่าไม่ยอมรับ
ก็นั่นมันมีแค่
2 ชิ้นเอง ตัวโตๆอย่างเด็กนี่จะกินอิ่มได้ยังไง
อีกอย่างเขาเองก็เป็นพวกไม่ชอบกินข้าวเช้าอยู่แล้วด้วย
“ไม่เอา
นายกินเถอะ พี่กินนมไปแล้วไง”
“ก็เพราะแบบนี้ถึงไม่โตสักที”
คิ้วกระตุก จงแดรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นแบบนั้น
ยิ่งเห็นหน้าคนพูดพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแต่ใช้สายตามองไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าเขาแล้วด้วยนี่
มันน่าโมโหชะมัด
“ย๊าส์..คิม
จงอิน อุ๊บ..”อ้าปากเตรียมจะด่า เลยไม่รู้ว่ายิ่งเข้าทางเด็กตัวสูง
แซนวิชในมือเรียวที่ถูกฉีกแบ่งเป็นชิ้นพอดีคำนั่นถูกยัดเข้าปากแทบจะทันที
ดีนะที่เขาไม่สำลัก!!
“กินเข้าไป
เคี้ยวด้วย”จงอินยกมือปิดกั้นริมฝีปากบางนั่นไว้ไม่ให้คายแซนวิชออกมา
แววตาเหวี่ยงๆ ของคนถูกบังคับตวัดใส่เขาจนแทบจะพรุนไปทั้งตัว
แต่ถึงอย่างนั้นจงอินก็ไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด
ก็เพราะไอ้ท่าทางแบบนี้น่ะเมื่อก่อนเขาเจอมาจนชินแล้ว
สุดท้ายก็เลยกลายเป็นว่าจงแดต้องมานั่งยัดแซนวิชที่เหลือเข้าปากนั่งเคี้ยวตุ้ยๆ
โดยที่มีสายตาคมๆกดดันอยู่ตลอดเวลา
เจ้าตัวยู่หน้าทุกครั้งที่กัดโดนผักขมๆที่เกลียดแสนเกลียด
แต่ก็จำใจเคี้ยวและกลืนลงไป จงอินเผลอหลุดยิ้ม
เมื่อรุ่นพี่ตัวเล็กยิ้มร่าทันทีที่แซนวิซคำสุดท้ายกลืนลงท้องไปเรียบร้อย
พร้อมกับมือเล็กที่ยื่นมารับน้ำเปล่าจากเขาไป
ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย
คิม จงแดน่ะ
“อ๊ะ”เจ้าตัวสะดุ้งโหยงเมื่อนิ้วเรียวของอีกคนยื่นมากวาดคราบน้ำที่เลอะขอบปากโดยไม่บอกกล่าว
แว๊บนึงที่จงแดเผลอเงยหน้าขึ้นสบตา
ก่อนจะรู้สึกว่าภายในดวงตาที่แสนเย็นชานั้นแปลกไป
“ไหนบอกว่าโตแล้วไง
ทำไมยังกินเลอะเหมือนเดิม”
ตึกตัก
ตึกตัก
มันอบอุ่นเสียจนเผลอใจเต้นแรง
ต่อ
“ไปนอนเป็นเพื่อนพี่เค้า
นี่คือคำสั่ง”
เพราะประโยคคำสั่งของแม่บังเกิดเกล้าที่ทำให้ร่างสูงของจงอิน
มายืนกดออดอยู่หน้าบ้านข้างๆ ในเวลาเกือบ 4 ทุ่ม
“ครับๆ
มาแล้วๆ”ได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากในตัวบ้าน ก่อนที่ไม่กี่อึดใจร่างผอมๆของเจ้าของบ้านจะโผล่ออกมาจากประตู
ใบหน้าน่ารักนั่นดูงุนงง แต่จงอินกลับขมวดคิ้วจนเป็นปม
“มี..”
“เข้าไปข้างในได้แล้ว
แม่ให้มานอนเป็นเพื่อน”ไม่รอให้อีกฝ่ายพูดอะไรด้วยซ้ำจงอินก็กล่าวตัดบท
เดินผ่านรั้วบ้าน ไม่ลืมคว้าเอาข้อแขนเล็กของอีกฝ่ายให้เดินตามเข้ามา จงแดแม้จะยังงุนงงแต่ก็ยอมเดินตามอีกฝ่ายเข้ามาในบ้านของตัวเองโดยดี
ภายในตัวบ้านเงียบสงบเพราะคุณยายเดินทางไปต่างจังหวัดกับกลุ่มเพื่อนตั้งแต่เมื่อเช้า
เจ้าของร่างสูงไม่ยอมพูดอะไรแต่กลับพาจงแดเดินขึ้นชั้น 2 ของบ้านอย่างคุ้นเคย
“ยังอยู่ห้องเดิมหรือเปล่า?”ก้าวพ้นบันไดจนถึงทางเดินเสียงทุ้มถึงได้เอ่ยออกมา
จงแดชะงักไปชั่วครู่ตากลมจับจ้องแผ่นหลังของคนที่เดินนำหน้า
ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเบาเป็นการตอบรับ
สิ้นคำตอบจงอินก็ลากเขาเดินไปยังห้องฝั่งซ้ายมือที่ติดกับบ้านของอีกฝ่าย
เรื่องที่ว่าสนิทกันมันคงเป็นเรื่องจริง
แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไร
เจ้าเด็กตัวสูงนั่นก็เดินไปยังตู้เสื้อผ้าคว้าเอาเสื้อยืดสีเทามายื่นให้
“คือว่า...”
“ไปเปลี่ยนเสื้อ..”
“หือ?”
“อากาศเย็นจะตาย
ยังจะใส่เสื้อบางๆอีก”อีกฝ่ายทำหน้าดุ
จงแดได้แต่รับเสื้อยืดสีเทาในมืออีกฝ่ายมาอย่างงงๆ
มันก็จริงที่อากาศช่วงนี้ค่อนข้างเย็น แต่ห้องเขาก็มีฮีตเตอร์นะ
แต่ก็เอาเถอะถึงยังไงเขาก็ไม่อยากเถียงนักหรอก
เถียงทีไรก็ไม่เคยชนะ
จงอินมองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายที่เดินถือเสื้อเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะถอนหายใจออกมา
ทั้งๆที่อากาศเย็นขนาดนี้แต่อีกฝ่ายกับใส่เพียงแค่เสื้อกล้ามสีขาวบางๆ
แถมยังกล้าใส่แค่นั้นออกไปรับเขาที่หน้าประตูบ้านอีก ตาคมมองไปรอบๆห้องนอนโทนสีส้มของอีกฝ่าย
ข้าวของเครื่องใช้ถูกจัดเป็นระเบียบอย่างที่เขาเคยเห็นมันเมื่อสองปีที่แล้วก่อนริมฝีปากจะยกยิ้มเมื่อเห็นตุ๊กตาเป็ดสีเหลืองที่เขาให้มันเป็นของขวัญวันเกิดของอีกฝ่ายเมื่อสามปีก่อนวางอยู่บนหัวเตียง
คิม
จงแดไม่ต่างไปจากเมื่อก่อนเลย ทุกอย่างไม่เคยเปลี่ยนไป
มีเพียงแค่อย่างเดียวจริงๆนั่นแหละที่เปลี่ยน
นั่นก็คือความทรงจำระหว่างเราที่หายไปกับกาลเวลา
ไม่สิ
หายไปจากคิม จงแดคนเดียวต่างหาก
“หลับไวจริง”
ร่างผอมของเจ้าของห้องเดินออกมาจากห้องน้ำ เพียงแค่ไม่ถึง 10
นาทีด้วยซ้ำออกมาก็พบว่าเตียงของเขาถูกจับจองด้วยร่างสูงของน้องชายข้างบ้าน
จงแดเดินเอาเสื้อกล้ามตัวโปรดไปเก็บก่อนจะเดินยู่หน้ามายืนอยู่ข้างเตียง
ตากลมจับจ้องใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างพิจารณา
แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็จำไม่ได้
ไม่ใช่ว่าอยากจะลืม
แต่เพราะอุบัติเหตุคราวนั้น
แปล๊บ
แค่เผลอนึกถึงอาการปวดหัวก็แล่นเข้ามา
จงแดส่ายหน้า ก่อนจะค่อยๆหย่อยตัวนั่งลงบนเตียง
กำลังจะล้มตัวลงนอนแต่เพราะอีกฝ่ายนอนกินพื้นที่มาทางฝั่งเขามากเกินไป
จงแดก็เลยได้แต่ทำหน้ายู่ จริงอยู่ที่ว่าทั้งคู่เป็นผู้ชายเหมือนกัน
แต่ทว่าจงแดก็ไม่เคยชินที่ต้องมานอนเตียงร่วมกับใครในลักษณะที่ใกล้กันมากเกินไปขนาดนี้
“นี่
จงอิน”มือเล็กเขย่าเข้าที่ไหล่ของคนที่นอนซุกหน้าอยู่กับหมอนที่เจ้าตัวถือติดตัวมาจากบ้าน
ตาคมคู่นั้นปรือขึ้นมามองหน้าเขานิ่ง
เท่านั้นยังไม่พอคิ้วเข้มนั่นยังขมวดเข้าหากันราวกับว่าไม่พอใจที่เขาขัดขวางการนอนของอีกฝ่าย
แต่มันช่วยไม่ได้นี่นา
“มีอะไร
ก็พูดมาสิ” จงแดไม่เข้าใจเลย ทั้งๆที่เขาเป็นเจ้าของห้อง
แต่ทำไมจะต้องเกรงใจเด็กนี่ด้วยก็ไม่รู้
“ช่วยขยับไปหน่อย
พี่นอนไม่ได้”
“...”จงอินเลิกคิ้วมองหน้าเขาสลับกับพื้นที่ว่างข้างกาย
ก่อนเจ้าตัวจะลุกขึ้นนั่งพร้อมกับเอื้อมมือกดร่างของเขาให้นอนราบไปกับเตียง โดยที่อีกฝ่ายคร่อมทับอยู่
“ดะ
เดี๋ยวสิ จงอิน”
“ก็นอนได้แล้วนี่ไง
อย่าเรื่องมาก” ตาคมจับจ้องใบหน้าน่ารักที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ
ขยับดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างของทั้งคู่ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ขยับร่างไปไหน จงแดหัวใจเต้นรัว
ยิ่งเมื่อสบตาคมของอีกฝ่ายในระยะประชิด อุณหภูมิภายใต้ผ้าห่มดูจะอุ่นร้อนจนเกินพอดี
ยิ่งเมื่อจู่ๆจงอินก็ก้มใบหน้าลงมาจนชิด
ตากลมหลับปี๋เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจที่เป่ารดใบหน้า
เรี่ยวแรงเหมือนจะหดหายเมื่อรู้สึกเหมือนกับหัวใจทำงานผิดปกติ เลยได้แต่นอนตัวเกร็งเม้มปากแน่น
รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อสายตาดันเห็นรอยแผลเป็นจางๆที่ข้างขมับของอีกฝ่าย
รอยแผลเป็นที่จงอินรู้ดีว่าจงแดได้มันมาจากอะไร แต่เขาเองที่ดื้อดึง ไม่ยอมเข้าใจอะไรเลยสักอย่าง
สัมผัสแผ่วเบาที่หน้าผากก่อนจะละออกไปทำให้จงแดเผลอเปิดเปลือกตาขึ้น
จงอินกลับลงมานอนอยู่ข้างๆ มือเล็กยกขึ้นสัมผัสบริเวณนั้นเบาๆ น่าแปลกที่นอกจากเสียงหัวใจที่เต้นรัวของตัวเองแล้ว
จงแด กลับมีความรู้สึกคุ้นเคย
ความอบอุ่นที่แสนคุ้นเคย
“นี่
จงอิน”
“อือ”เขาได้ยินเสียงอีกฝ่ายตอบรับในลำคอ
และนั่นทำให้จงแดตัดสินใจตะแคงข้างเข้าหา ตากลมสบเข้ากับดวงตาของอีกฝ่ายที่ตะแคงข้างมาทางเขาเช่นเดียวกัน
“จงอิน
เล่าเรื่องตอนที่พี่ยังอยู่ที่นี่ให้ฟังหน่อยได้ไหม?”จงแดเห็นประกายวูบไหว
ในสายตาตาคู่นั้น มันไม่ได้เย็นชาเหมือนอย่างตอนที่เขาเจออยู่ทุกวัน
แต่มันมีมากกว่านั้น
แต่ที่ชัดเจนคงเป็นความรู้สึกตัดพ้อที่ทำให้เขาอย่างร้องไห้ขึ้นมาเสียดื้อๆ เขาทั้งคู่สบตากันอยู่อย่างนั้นแต่จงอินก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมา
จนจงแดรู้สึกว่าตัวเองคงขอมากเกินไป ร่างเล็กละความพยายามแต่ยังไม่ทันจะพลิกตัวหนี
เอวบางก็ถูกวงแขนแกร่งรั้งเข้าไปซุกในอ้อมอกเสียก่อน
“นี่!!”เจ้าตัวร้องเสียงหลงเมื่อไร้ทางหนี
ก่อนจะร้อนไปทั้งหน้าเมื่อได้ฟังประโยคจากปากของเด็กตัวโตที่เป็นเจ้าของอ้อมกอด
“พี่อยากรู้ไม่ใช่หรอ
ก็นี่ไง เมื่อก่อนเราก็นอนกอดกันแบบนี้เป็นประจำ”
“...”
“และตั้งแต่วันนี้
ผมจะไม่ยอมให้พี่ไปไหนอีกแล้ว จงแด”
----------------Begin
Again----------------
"พี่จงแดครับผมชอบพี่"เสียงตะโกนที่ดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยกลางโรงอาหารทำเอาจงแดปั้นหน้าไม่ถูก
นักเรียนที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองพวกเขาอย่างสนใจ แม้กระทั่งเซฮุนที่ยืนขนาบข้างรุ่นพี่ตัวเล็กยังเบิกตากว้างนับถือความมั่นหน้าของรุ่นน้องตัวสูงซึ่งเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาบ้างอย่าง
หวง จื่อเทา แต่ก็ไม่คิดว่าจะกล้าขนาดนี้
กล้าขนาดที่ว่ามีเพื่อนเขายืนหวงก้างอยู่ไอ้หมอนี่ยังไม่สะทกสะท้าน
จงแดได้แต่กระพริบตาปริบๆมองรุ่นน้องตัวสูงที่ไม่คุ้นตาก่อนจะเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของน้องชายข้างบ้านที่ยืนนิ่งไม่พูดไม่จาอะไร
แล้วเขาควรจะทำยังไงดีล่ะ
เพราะไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้จงแดเลยได้แต่ยืนอึ้ง
แต่เหมือนคนข้างๆจะทนไม่ไหว
"พวกนายกินกันไปก่อนนะฉันมีธุระ"เสียงทุ้มของคนข้างกายก็ดังขึ้นก่อนร่างสูงจะเดินชนไหล่ของรุ่นน้องที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาออกไปจงแดได้แต่มองตามหลังจงอินตาละห้อย
ในขณะที่เซฮุนได้แต่ถอนหายใจแล้วบีบบ่ารุ่นพี่ตัวเล็กเบาๆ
"ผมว่าพี่เคลียร์เรื่องนี่ก่อนดีกว่าครับ"
ตลอดคาบบ่ายจงอินก็ไม่เข้าเรียน
จงแดถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย
เขาแทบไม่ได้ใส่ใจในบทเรียนที่อาจารย์กำลังพร่ำสอนตรงหน้าในหัวเอาแต่คิดกังวลว่าจงอินหายไปไหน
แล้วจะเข้าใจเรื่องเมื่อเที่ยงว่ายังไง
ทั้งๆที่ยังจำความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับน้องชายข้างบ้านไม่ได้แต่ทำไมถึงรู้สึกไม่สบายใจอย่างนี้ก็ไม่รู้
รู้แค่ว่าไม่อยากกลับไปเหมือนตอนที่โดนเมินอีกแล้ว
ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหันกลับมาหาเพื่อนสนิทของเด็กข้างบ้านที่อุตส่าห์ย้ายมานั่งข้างๆเขาเพราะกลัวว่าเขาจะเหงา
ก่อนที่ริมฝีปากบางจะเปิดออก และได้รับสีหน้าอ้ำอึ้งของเซฮุนกลับมา
"เซฮุนอา ช่วยเล่าเรื่องระหว่างฮยองกับจงอินให้ฟังหน่อยได้มั้ย?"
"พี่ต้องไปจริงๆน่ะหรอ"เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแผ่วเบาราวกับกำลังบ่นพึมพำกับตัวเองเสียมากกว่า
จงอินจ้องใบหน้าของคนที่หลับตาเอนซบอยู่บนบ่าเขาอย่างไม่ทุกข์ร้อน
ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา วันนี้เป็นวันจบการศึกษาชั้นม.ต้นของจงแดและเป็นวันสุดท้ายที่จงแดจะอยู่ที่นี่
ทั้งๆที่รู้เรื่องนี่มาได้สักพักและเตรียมใจมาระยะนึงแล้วแต่พอเอาเข้าจริงๆมันกลับไม่ง่ายเลย
ที่ต้องปล่อยมือออกจากกันทั้งๆที่เคยจับกันไว้ตลอดตั้งแต่จำความได้
ตั้งแต่ตอนที่เป็นคิมจงอินกับพี่ชายข้างบ้าน
จนกระทั่งกลายเป็นคิม จงอินกับคิม จงแดที่กลายมาเป็นคนพิเศษของกันและกัน
"จะร้องไห้หรอ?"เสียงของคนที่เงียบอยู่นานดังขึ้นพร้อมกับดวงตากลมที่ช้อนมามองสบตา
จงอินยกยิ้มก่อนจะส่ายหน้าเบาๆเป็นเชิงปฏิเสธก่อนจะยกปลายนิ้วแตะปลายจมูกของอีกฝ่าย
“พี่ต่างหากที่กำลังจะร้อง”
“เปล่านะ”ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ดวงตากลับเริ่มแดงก่ำ
จงอินเปลี่ยนเป็นกระชับร่างของคนเป็นพี่เข้าสู่อ้อมกอด
ก่อนที่จะรับรู้ถึงสัมผัสเปียกชื้นบริเวณหัวไหล่
“ไม่เอาสิ ร้องไห้ทำไม”
“ฮึก ก็พี่..”จงแดสะอื้นจนจงอินต้องลูบผมอีกฝ่ายเป็นการปลอบ จงอินรู้ว่าจงแดเองก็ไม่ได้อยากไป แต่พวกเราก็ยังเด็กเกินกว่าที่จะทำอะไรตามใจตัวเอง ตาคมคลอไปด้วยน้ำตาไม่แพ้กัน แต่ถึงอย่างนั้น
จงอินก็ไม่อยากให้การจากกันต้องเต็มไปด้วยน้ำตา
“ไม่ต้องร้องไห้แล้ว เราไม่ได้เลิกกันซะหน่อย”
“ก็ลองเลิกดูสิ”อีกฝ่ายเสียงเขียวขึ้นมาทันที
จงอินจึงหัวเราะขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ นั่นสิ ก็แค่ไม่เจอกัน
แต่เราไม่ได้เลิกกันซะหน่อย
“ผมไม่เลิกหรอก รอมาตั้งหลายปีกว่าจะได้พี่เป็นแฟน
ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆหรอก”
“...”
“อย่ากังวลไปเลยพี่จงแด ผมจะรอพี่อยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนหรอก”
แต่มันจะมีประโยชน์อะไรถ้ามีแค่เขาที่รออยู่ฝ่ายเดียว
ร่างสูงถอนหายใจเอนตัวพิงต้นไม้แห่งความทรงจำคล้ายๆกับหมดแรง ภาพความทรงจำต่างๆไหลทะลักเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งๆที่ก็รู้เรื่องราวทั้งหมดดีอยู่แล้ว ทั้งเรื่องอุบัติเหตุที่ทำให้จงแดจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้เลย รวมถึงการที่เขาต้องยอมรับว่าความรักของจงแดมันหายไปพร้อมๆกัน แต่ถึงอย่างนั้นเเขาก็ยังงี่เง่าอยู่ดี ทั้งๆที่ก็รู้ว่าจงแดเองก็ไม่ได้อยากให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้
เขาควรจะทำยังไง
ปล่อยให้ทุกอย่างหายไปเหมือนกับความทรงจำของจงแด
หรือดึงดันวิ่งไล่ตามทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีทาง
เขาควรทำยังไงดี
ทั้งๆที่เหมือนทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นแต่แล้วมันก็กลับมาแย่เหมือนเดิม
จงแดถอนหายใจดันตัวขึ้นพิงหัวเตียงแววตาที่เคยสดใสกลับหม่นลงเมื่อคำพูดของเซฮุนลอยเข้ามาในความทรงจำ
"ผมก็ไม่รู้อะไรมากนักหรอก ผมรู้แค่ว่าทั้งชีวิตของมันน่ะ รอคนๆนึงกลับมานั่นก็คือพี่ ผมยังตกใจเลยที่พี่จำมันไม่ได้ แล้วพี่คิดว่าจงอินมันจะรู้สึกยังไงล่ะ คนที่มันรักกลับจำมันไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว"
นั่นสิ จงอินต้องเจ็บปวดแค่ไหน ในขณะที่เขาหลงลืมอดีตและคิดจะเริ่มต้นใหม่แต่จงอินกับยังจมอยู่กับคำสัญญาที่เขาไม่มีวันจำได้
ใช้ไม่ได้เลย แค่คิดว่าทำให้จงอินต้องเสียใจจงแดก็รู้สึกเจ็บหน้าอก มันบีบรัดจนสุดท้ายน้ำตาก็ไหลออกมา
ขอโทษนะจงอิน พี่ขอโทษ
กึก กึก
มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาหัวใจพลันเต้นระรัว เสียงก๊อกแก๊กจากระเบียงยังดังต่อเนื่อง มือเล็กเผลอกำเข้าหากันแน่นด้วยความกลัว ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นก้าวไปยังระเบียง ด้วยความกล้าๆกลัวๆ มือสั่นๆเอื้อมไปจับผ้าม่านสีน้ำตาลแน่นก่อนจะกระชากเปิดออก น้ำตาที่เพิ่งหยุดไหลไปเมื่อครู่พลั่งพรูออกมาทันทีที่เห็นว่าใครอยู่ตรงหน้า
จงอิน
"พี่จงแด พี่ร้องไห้ทำไม นี่เปิดประตูใหผมหน่อย"จงอินทุบกระจกด้วยความร้อนใจเมื่อเห็นใบหน้าของคนเป็นพี่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ถ้าเขาจำไม่ผิดจงแดร้องไห้ตอนที่เห็นหน้าเขา
จงแดปลดล็อคประตูด้วยมือสั่นเทา ก่อนจะเป็นฝ่ายเลื่อนประตูเปิดออกและโถมตัวเข้าหาร่างสูงของน้องขายข้างบ้านเสียเอง แขนเล็กกอดรัดร่างของคนที่ยังยืนนิ่งงันเพราะทำอะไรไม่ถูกไว้แน่น เสียงสะอื้นดังขึ้นข้างหูทำให้จงอินยกมือขึ้นโอบรัดร่างอันสั่นเทาของพี่ชายตัวเล็กไว้ลูบกลุ่มผมนุ่มของอีกฝ่ายอย่างที่เคยทำตลอดเวลาที่ปลอบเวลาจงแดร้องไห้
จงอินไม่เคยลืมเลย ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับจงแด
"พี่ขอโทษ ฮึก ขอโทษนะ"
"ขอโทษผมทำไม"จงอินยิ้ม ดันร่างของคนขี้แยออกห่างมองหยาดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนด้วยรอยยิ้ม ถึงจะไม่ชอบเลยที่จงแดร้องไห้แต่อย่างน้อยน้ำตาของคนตรงหน้าก็ทำให้จงอินรู้ว่าตัวเองเลือกไม่ผิด
"ขอโทษที่....พี่จำนายไม่ได้"
"...."
"ขอโทษนะ ฮึก"
"รู้ไหมเมื่อก่อนพี่ก็เอาแต่ขอโทษผมแบบนี้...."นิ้วเรียวถูกใช้เช็ดคราบน้ำตาคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน "...ทั้งๆที่ตอนนั้นพี่ไม่ได้ผิดอะไรเลย"
ก่อนที่จะจากกันจงแดเอาแต่ร้องไห้และขอโทษที่ไม่ได้อยู่กับเขา
ทำไมจะจำไม่ได้ว่าตอนนั้นจงแดร้องไห้หนักขนาดไหน
"ตอนนี้เองก็เหมือนกัน พี่จำไม่ได้แล้วยังไงล่ะ"
"..."
"ผมไม่อยากสนใจอะไรอีกแล้ว"ตาคมจับจ้องใบหน้าของคนเป็นพี่นิ่งรอยยิ้มที่จงแดรู้สึกคุ้นเคยปรากฎบนใบหน้าหล่อเหลา หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวปั่นป่วนไปในช่องท้องราวกับมีผีเสื้อนับพันกำลังโผบินอยู่ในนั้น
ราวกับกำลังตกหลุมรักอีกครั้ง
"จงอิน..."
"แค่พี่ให้โอกาสผม ให้ผมได้สร้างความทรงจำใหม่ให้กับพี่"
"..."
"แค่นั้น. ...ได้ไหมครับพี่จงแด"
อีกฝ่ายไม่ได้ตอบคำถามแต่ริมฝีปากบางที่ยกยิ้มกว้างอย่างที่จงอินชอบพร้อมกับร่างที่โผซุกเข้าสู่อ้อมกอดเขานั่นก็เพียงพอแล้ว
ความทรงจำของแดอาจจะไม่ทางกลับมาเลย และจงอินก็จะกลายเป็นเพียงแค่อดีตที่เลือนหายไป แต่ช่างเถอะ เพราะต่อจากนี้เขาจะสร้างความทรงจำใหม่ ที่สวยงามกว่าเดิมขึ้นมาเอง
การเริ่มต้นใหม่อีกครั้งมันก็ไม่ยากอะไรนักหรอก
ถ้าแลกกับการได้กลับมากุมมือเล็กๆคู่นี้อีกครั้ง
ว่ามั้ย??
ทุกอย่างกำลังเริ่มต้น....
Begin Again ~~~~
End
บางทีตอนจบของเรื่องบางเรื่องก็คือการเริ่มต้นใหม่นะ ขอโทษที่ทำให้รอนาน 5555 ช่วงนี้งานเข้าจนหัวไม่แล่น ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ เจอกันตอนหน้านะคะ รักทุกคน????????????
ความคิดเห็น