ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] My Sunshine ,it’s U < All*Chen>

    ลำดับตอนที่ #7 : Begin again : KAICHEN

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.69K
      26
      16 พ.ย. 58




    Title : Begin  Again

    Pairing : KAICHEN


    ปล.ตัวเอียงคืออดีตนะคะ


     

     

     

     


    “สวัสดีครับ ผมชื่อ คิม จงแด ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” ภาคต้นของการศึกษาม.ปลายปีสุดท้าย เราก็ได้พบกันอีกครั้ง เจ้าของรอยยิ้มสดใสที่มีมุมปากยกยิ้มแทบตลอดเวลา เสียงหวานๆ ที่ฟังลื่นหูและไพเราะยิ่งขึ้นเมื่อเปล่งเสียงร้องเพลงที่เจ้าตัวบอกว่าชอบนักชอบหนา ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้กระทั่งส่วนสูงที่หยุดอยู่เท่าเดิมก่อนเราจะไม่ได้พบกัน  เว้นเสียแต่ว่า..

     

    “อ่า นายชื่อ จงอินสินะ ยินดีที่ได้รู้จัก”

     

    คิม จงแด จำผมไม่ได้

     



      

    ยังไม่มาหรอกหรอ?

    ตากลมสอดส่องไปทั่วห้อง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบหน้าเจ้าของโต๊ะตัวที่นั่งติดกัน จงแดถอนหายใจก่อนจะเดินไปทรุดนั่งลงตรงที่นั่งของตัวเอง ตากลมทอดยาวออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะต้องถอนหายใจอีกครั้งเมื่อพบว่าคนที่กำลังตามหาเมื่อครู่กำลังเดินเข้ามาในบริเวณโรงเรียนพร้อมกับเซฮุน

    ทั้งๆที่รอออกมาพร้อมกันก็ได้แท้ๆ แต่คิม จงอินที่บ้านอยู่ติดกันกลับหนีหน้าเขาแทบทุกเช้า

    ไม่เข้าใจเลย จะเกลียดอะไรกันนักหนา

    ริมฝีปากบางยู่เข้าหากันอย่างเคยตัว จงแดไม่รู้หรอกว่าทำไมถึงต้องมาใส่ใจเรื่องเด็กผู้ชายที่อายุห่างเขา 1 ปีคนนี้ ก็แค่คิดว่าอยู่บ้านติดกัน คุณยายเองก็บอกว่าก่อนที่เขาจะย้ายไปจากที่นี่เขากับเจ้าตัวสนิทกันมากแท้ๆ แล้วทำไมคิม จงอินถึงได้ทำเหมือนจงเกลียดจงชังเขาขนาดนั้น

     

     

     

    “นี่มึงไปแกล้งอะไรจงแดฮยองเขาอีกหรือเปล่า?”เซฮุนเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นเพื่อนตัวดีหยุดเดินแล้วมองขึ้นไปบนหน้าต่างของห้องเรียน จงแดฮยองนักเรียนที่เพิ่งย้ายมาได้แค่เดือนเดียวนั่งอยู่ตรงนั้น ถอนหายใจเมื่อจงอินเลือกที่จะเงียบใส่เขาแทนคำตอบ ก่อนขายาวนั่นจะก้าวเดินหนีเขาไป

    โคตรเข้าใจยากเลย ไอ้เพื่อนบ้านี่

     

     

    “คุณป้าบอกว่านายลืมเอาข้าวกล่องออกมา”ทันทีที่ร่างสูงของน้องชายข้างบ้านนั่งลงที่ว่างข้างๆ จงแดที่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนยังบ่นเด็กตัวสูงข้างๆนี่ไปก็คว้าเอากล่องเข้าที่นอนนิ่งอยู่ในกระเป๋าเป้มาวางไว้ตรงหน้า จงอินเหลือบตามองแว๊บนึง ก่อนจะดึงมันเปิดกิน โดยไร้คำขอบคุณเช่นเคย

    เป็นเด็กไม่ดีเอาเสียเลย

    จงแดได้แต่นึกค่อนขอดในใจ เพราะถึงเขาจะพูดออกไปเด็กนี่ก็ไม่ฟังอะไรอยู่ดี เผลอๆก็ตะคอกใส่เขาเหมือนอย่างตอนนั้นอีก ,มือเล็กหยิบนมช็อกโกแล็ตออกมาเจาะก่อนจะหันหน้ามองไปอีกทาง จึงไม่ได้เห็นสายตาของอีกคน

    สายตาที่จงแดมักจะไม่ได้เห็นเวลาที่มองสบตากันตรงๆ

    สายตาที่เคยใช้มองจงแดมาตลอด ก่อนที่จงแดจะจำเขาไม่ได้

     

     

    “อ่ะ ”จู่ๆก็มีแซนวิชมาจ่ออยู่ตรงหน้า จงแดที่เพิ่งดูดนมในมือไปหมดกล่องได้แต่หันมามองอีกคนด้วยสายตางุนงง

    “เอาไปกิน”เสียงเรียบๆเอ่ยขึ้นมาแถมยังทำท่าจะยัดมันใส่มือเขาอีก จงแดส่ายหัวเป็นพัลวัน บ่งบอกว่าไม่ยอมรับ

    ก็นั่นมันมีแค่ 2 ชิ้นเอง ตัวโตๆอย่างเด็กนี่จะกินอิ่มได้ยังไง

    อีกอย่างเขาเองก็เป็นพวกไม่ชอบกินข้าวเช้าอยู่แล้วด้วย

    “ไม่เอา นายกินเถอะ พี่กินนมไปแล้วไง”

    “ก็เพราะแบบนี้ถึงไม่โตสักที” คิ้วกระตุก จงแดรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นแบบนั้น ยิ่งเห็นหน้าคนพูดพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแต่ใช้สายตามองไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าเขาแล้วด้วยนี่

    มันน่าโมโหชะมัด

    “ย๊าส์..คิม จงอิน อุ๊บ..”อ้าปากเตรียมจะด่า เลยไม่รู้ว่ายิ่งเข้าทางเด็กตัวสูง แซนวิชในมือเรียวที่ถูกฉีกแบ่งเป็นชิ้นพอดีคำนั่นถูกยัดเข้าปากแทบจะทันที

    ดีนะที่เขาไม่สำลัก!!

    “กินเข้าไป เคี้ยวด้วย”จงอินยกมือปิดกั้นริมฝีปากบางนั่นไว้ไม่ให้คายแซนวิชออกมา แววตาเหวี่ยงๆ ของคนถูกบังคับตวัดใส่เขาจนแทบจะพรุนไปทั้งตัว แต่ถึงอย่างนั้นจงอินก็ไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด

    ก็เพราะไอ้ท่าทางแบบนี้น่ะเมื่อก่อนเขาเจอมาจนชินแล้ว


     

    สุดท้ายก็เลยกลายเป็นว่าจงแดต้องมานั่งยัดแซนวิชที่เหลือเข้าปากนั่งเคี้ยวตุ้ยๆ โดยที่มีสายตาคมๆกดดันอยู่ตลอดเวลา เจ้าตัวยู่หน้าทุกครั้งที่กัดโดนผักขมๆที่เกลียดแสนเกลียด แต่ก็จำใจเคี้ยวและกลืนลงไป จงอินเผลอหลุดยิ้ม เมื่อรุ่นพี่ตัวเล็กยิ้มร่าทันทีที่แซนวิซคำสุดท้ายกลืนลงท้องไปเรียบร้อย พร้อมกับมือเล็กที่ยื่นมารับน้ำเปล่าจากเขาไป

    ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย คิม จงแดน่ะ

     

    “อ๊ะ”เจ้าตัวสะดุ้งโหยงเมื่อนิ้วเรียวของอีกคนยื่นมากวาดคราบน้ำที่เลอะขอบปากโดยไม่บอกกล่าว แว๊บนึงที่จงแดเผลอเงยหน้าขึ้นสบตา ก่อนจะรู้สึกว่าภายในดวงตาที่แสนเย็นชานั้นแปลกไป

     

    “ไหนบอกว่าโตแล้วไง ทำไมยังกินเลอะเหมือนเดิม

     

    ตึกตัก ตึกตัก

    มันอบอุ่นเสียจนเผลอใจเต้นแรง

     


    ต่อ





    “ไปนอนเป็นเพื่อนพี่เค้า นี่คือคำสั่ง”

    เพราะประโยคคำสั่งของแม่บังเกิดเกล้าที่ทำให้ร่างสูงของจงอิน มายืนกดออดอยู่หน้าบ้านข้างๆ ในเวลาเกือบ 4 ทุ่ม

    “ครับๆ มาแล้วๆ”ได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากในตัวบ้าน ก่อนที่ไม่กี่อึดใจร่างผอมๆของเจ้าของบ้านจะโผล่ออกมาจากประตู ใบหน้าน่ารักนั่นดูงุนงง แต่จงอินกลับขมวดคิ้วจนเป็นปม

    “มี..”

    “เข้าไปข้างในได้แล้ว แม่ให้มานอนเป็นเพื่อน”ไม่รอให้อีกฝ่ายพูดอะไรด้วยซ้ำจงอินก็กล่าวตัดบท เดินผ่านรั้วบ้าน ไม่ลืมคว้าเอาข้อแขนเล็กของอีกฝ่ายให้เดินตามเข้ามา จงแดแม้จะยังงุนงงแต่ก็ยอมเดินตามอีกฝ่ายเข้ามาในบ้านของตัวเองโดยดี

    ภายในตัวบ้านเงียบสงบเพราะคุณยายเดินทางไปต่างจังหวัดกับกลุ่มเพื่อนตั้งแต่เมื่อเช้า เจ้าของร่างสูงไม่ยอมพูดอะไรแต่กลับพาจงแดเดินขึ้นชั้น 2 ของบ้านอย่างคุ้นเคย

    “ยังอยู่ห้องเดิมหรือเปล่า?”ก้าวพ้นบันไดจนถึงทางเดินเสียงทุ้มถึงได้เอ่ยออกมา จงแดชะงักไปชั่วครู่ตากลมจับจ้องแผ่นหลังของคนที่เดินนำหน้า ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเบาเป็นการตอบรับ สิ้นคำตอบจงอินก็ลากเขาเดินไปยังห้องฝั่งซ้ายมือที่ติดกับบ้านของอีกฝ่าย

     

    เรื่องที่ว่าสนิทกันมันคงเป็นเรื่องจริง แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไร เจ้าเด็กตัวสูงนั่นก็เดินไปยังตู้เสื้อผ้าคว้าเอาเสื้อยืดสีเทามายื่นให้

    “คือว่า...”

    “ไปเปลี่ยนเสื้อ..”

    “หือ?”

    “อากาศเย็นจะตาย ยังจะใส่เสื้อบางๆอีก”อีกฝ่ายทำหน้าดุ จงแดได้แต่รับเสื้อยืดสีเทาในมืออีกฝ่ายมาอย่างงงๆ มันก็จริงที่อากาศช่วงนี้ค่อนข้างเย็น แต่ห้องเขาก็มีฮีตเตอร์นะ

    แต่ก็เอาเถอะถึงยังไงเขาก็ไม่อยากเถียงนักหรอก เถียงทีไรก็ไม่เคยชนะ

     

     

    จงอินมองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายที่เดินถือเสื้อเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะถอนหายใจออกมา ทั้งๆที่อากาศเย็นขนาดนี้แต่อีกฝ่ายกับใส่เพียงแค่เสื้อกล้ามสีขาวบางๆ แถมยังกล้าใส่แค่นั้นออกไปรับเขาที่หน้าประตูบ้านอีก ตาคมมองไปรอบๆห้องนอนโทนสีส้มของอีกฝ่าย ข้าวของเครื่องใช้ถูกจัดเป็นระเบียบอย่างที่เขาเคยเห็นมันเมื่อสองปีที่แล้วก่อนริมฝีปากจะยกยิ้มเมื่อเห็นตุ๊กตาเป็ดสีเหลืองที่เขาให้มันเป็นของขวัญวันเกิดของอีกฝ่ายเมื่อสามปีก่อนวางอยู่บนหัวเตียง

     

    คิม จงแดไม่ต่างไปจากเมื่อก่อนเลย ทุกอย่างไม่เคยเปลี่ยนไป มีเพียงแค่อย่างเดียวจริงๆนั่นแหละที่เปลี่ยน นั่นก็คือความทรงจำระหว่างเราที่หายไปกับกาลเวลา

     

    ไม่สิ หายไปจากคิม จงแดคนเดียวต่างหาก

     

     

     

    “หลับไวจริง” ร่างผอมของเจ้าของห้องเดินออกมาจากห้องน้ำ เพียงแค่ไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำออกมาก็พบว่าเตียงของเขาถูกจับจองด้วยร่างสูงของน้องชายข้างบ้าน จงแดเดินเอาเสื้อกล้ามตัวโปรดไปเก็บก่อนจะเดินยู่หน้ามายืนอยู่ข้างเตียง ตากลมจับจ้องใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างพิจารณา

    แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็จำไม่ได้

     

    ไม่ใช่ว่าอยากจะลืม แต่เพราะอุบัติเหตุคราวนั้น

     

    แปล๊บ

    แค่เผลอนึกถึงอาการปวดหัวก็แล่นเข้ามา จงแดส่ายหน้า ก่อนจะค่อยๆหย่อยตัวนั่งลงบนเตียง กำลังจะล้มตัวลงนอนแต่เพราะอีกฝ่ายนอนกินพื้นที่มาทางฝั่งเขามากเกินไป จงแดก็เลยได้แต่ทำหน้ายู่ จริงอยู่ที่ว่าทั้งคู่เป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ทว่าจงแดก็ไม่เคยชินที่ต้องมานอนเตียงร่วมกับใครในลักษณะที่ใกล้กันมากเกินไปขนาดนี้

    “นี่ จงอิน”มือเล็กเขย่าเข้าที่ไหล่ของคนที่นอนซุกหน้าอยู่กับหมอนที่เจ้าตัวถือติดตัวมาจากบ้าน ตาคมคู่นั้นปรือขึ้นมามองหน้าเขานิ่ง เท่านั้นยังไม่พอคิ้วเข้มนั่นยังขมวดเข้าหากันราวกับว่าไม่พอใจที่เขาขัดขวางการนอนของอีกฝ่าย

    แต่มันช่วยไม่ได้นี่นา

    “มีอะไร ก็พูดมาสิ” จงแดไม่เข้าใจเลย ทั้งๆที่เขาเป็นเจ้าของห้อง แต่ทำไมจะต้องเกรงใจเด็กนี่ด้วยก็ไม่รู้

    “ช่วยขยับไปหน่อย พี่นอนไม่ได้”

    “...”จงอินเลิกคิ้วมองหน้าเขาสลับกับพื้นที่ว่างข้างกาย ก่อนเจ้าตัวจะลุกขึ้นนั่งพร้อมกับเอื้อมมือกดร่างของเขาให้นอนราบไปกับเตียง โดยที่อีกฝ่ายคร่อมทับอยู่

    “ดะ เดี๋ยวสิ จงอิน”

    “ก็นอนได้แล้วนี่ไง อย่าเรื่องมาก” ตาคมจับจ้องใบหน้าน่ารักที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ ขยับดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างของทั้งคู่ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ขยับร่างไปไหน จงแดหัวใจเต้นรัว ยิ่งเมื่อสบตาคมของอีกฝ่ายในระยะประชิด อุณหภูมิภายใต้ผ้าห่มดูจะอุ่นร้อนจนเกินพอดี ยิ่งเมื่อจู่ๆจงอินก็ก้มใบหน้าลงมาจนชิด ตากลมหลับปี๋เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจที่เป่ารดใบหน้า เรี่ยวแรงเหมือนจะหดหายเมื่อรู้สึกเหมือนกับหัวใจทำงานผิดปกติ เลยได้แต่นอนตัวเกร็งเม้มปากแน่น รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อสายตาดันเห็นรอยแผลเป็นจางๆที่ข้างขมับของอีกฝ่าย รอยแผลเป็นที่จงอินรู้ดีว่าจงแดได้มันมาจากอะไร แต่เขาเองที่ดื้อดึง ไม่ยอมเข้าใจอะไรเลยสักอย่าง

    สัมผัสแผ่วเบาที่หน้าผากก่อนจะละออกไปทำให้จงแดเผลอเปิดเปลือกตาขึ้น จงอินกลับลงมานอนอยู่ข้างๆ มือเล็กยกขึ้นสัมผัสบริเวณนั้นเบาๆ น่าแปลกที่นอกจากเสียงหัวใจที่เต้นรัวของตัวเองแล้ว จงแด กลับมีความรู้สึกคุ้นเคย

    ความอบอุ่นที่แสนคุ้นเคย

     

    “นี่ จงอิน”

    “อือ”เขาได้ยินเสียงอีกฝ่ายตอบรับในลำคอ และนั่นทำให้จงแดตัดสินใจตะแคงข้างเข้าหา ตากลมสบเข้ากับดวงตาของอีกฝ่ายที่ตะแคงข้างมาทางเขาเช่นเดียวกัน

    “จงอิน เล่าเรื่องตอนที่พี่ยังอยู่ที่นี่ให้ฟังหน่อยได้ไหม?”จงแดเห็นประกายวูบไหว ในสายตาตาคู่นั้น มันไม่ได้เย็นชาเหมือนอย่างตอนที่เขาเจออยู่ทุกวัน แต่มันมีมากกว่านั้น แต่ที่ชัดเจนคงเป็นความรู้สึกตัดพ้อที่ทำให้เขาอย่างร้องไห้ขึ้นมาเสียดื้อๆ เขาทั้งคู่สบตากันอยู่อย่างนั้นแต่จงอินก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมา จนจงแดรู้สึกว่าตัวเองคงขอมากเกินไป ร่างเล็กละความพยายามแต่ยังไม่ทันจะพลิกตัวหนี เอวบางก็ถูกวงแขนแกร่งรั้งเข้าไปซุกในอ้อมอกเสียก่อน

    “นี่!!”เจ้าตัวร้องเสียงหลงเมื่อไร้ทางหนี ก่อนจะร้อนไปทั้งหน้าเมื่อได้ฟังประโยคจากปากของเด็กตัวโตที่เป็นเจ้าของอ้อมกอด

    “พี่อยากรู้ไม่ใช่หรอ ก็นี่ไง เมื่อก่อนเราก็นอนกอดกันแบบนี้เป็นประจำ”

    “...”

    “และตั้งแต่วันนี้ ผมจะไม่ยอมให้พี่ไปไหนอีกแล้ว จงแด”



     



    ----------------Begin Again----------------

     


     

     

     

    "พี่จงแดครับผมชอบพี่"เสียงตะโกนที่ดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยกลางโรงอาหารทำเอาจงแดปั้นหน้าไม่ถูก นักเรียนที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองพวกเขาอย่างสนใจ แม้กระทั่งเซฮุนที่ยืนขนาบข้างรุ่นพี่ตัวเล็กยังเบิกตากว้างนับถือความมั่นหน้าของรุ่นน้องตัวสูงซึ่งเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาบ้างอย่าง หวง จื่อเทา แต่ก็ไม่คิดว่าจะกล้าขนาดนี้

    กล้าขนาดที่ว่ามีเพื่อนเขายืนหวงก้างอยู่ไอ้หมอนี่ยังไม่สะทกสะท้าน

    จงแดได้แต่กระพริบตาปริบๆมองรุ่นน้องตัวสูงที่ไม่คุ้นตาก่อนจะเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของน้องชายข้างบ้านที่ยืนนิ่งไม่พูดไม่จาอะไร

     

    แล้วเขาควรจะทำยังไงดีล่ะ

     

    เพราะไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้จงแดเลยได้แต่ยืนอึ้ง แต่เหมือนคนข้างๆจะทนไม่ไหว

    "พวกนายกินกันไปก่อนนะฉันมีธุระ"เสียงทุ้มของคนข้างกายก็ดังขึ้นก่อนร่างสูงจะเดินชนไหล่ของรุ่นน้องที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาออกไปจงแดได้แต่มองตามหลังจงอินตาละห้อย ในขณะที่เซฮุนได้แต่ถอนหายใจแล้วบีบบ่ารุ่นพี่ตัวเล็กเบาๆ

    "ผมว่าพี่เคลียร์เรื่องนี่ก่อนดีกว่าครับ"

     

     

     

    ตลอดคาบบ่ายจงอินก็ไม่เข้าเรียน จงแดถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย เขาแทบไม่ได้ใส่ใจในบทเรียนที่อาจารย์กำลังพร่ำสอนตรงหน้าในหัวเอาแต่คิดกังวลว่าจงอินหายไปไหน แล้วจะเข้าใจเรื่องเมื่อเที่ยงว่ายังไง

    ทั้งๆที่ยังจำความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับน้องชายข้างบ้านไม่ได้แต่ทำไมถึงรู้สึกไม่สบายใจอย่างนี้ก็ไม่รู้

    รู้แค่ว่าไม่อยากกลับไปเหมือนตอนที่โดนเมินอีกแล้ว

    ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหันกลับมาหาเพื่อนสนิทของเด็กข้างบ้านที่อุตส่าห์ย้ายมานั่งข้างๆเขาเพราะกลัวว่าเขาจะเหงา ก่อนที่ริมฝีปากบางจะเปิดออก และได้รับสีหน้าอ้ำอึ้งของเซฮุนกลับมา

     

    "เซฮุนอา ช่วยเล่าเรื่องระหว่างฮยองกับจงอินให้ฟังหน่อยได้มั้ย?"

     

     

     


     

    "พี่ต้องไปจริงๆน่ะหรอ"เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแผ่วเบาราวกับกำลังบ่นพึมพำกับตัวเองเสียมากกว่า จงอินจ้องใบหน้าของคนที่หลับตาเอนซบอยู่บนบ่าเขาอย่างไม่ทุกข์ร้อน ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา วันนี้เป็นวันจบการศึกษาชั้นม.ต้นของจงแดและเป็นวันสุดท้ายที่จงแดจะอยู่ที่นี่

     

    ทั้งๆที่รู้เรื่องนี่มาได้สักพักและเตรียมใจมาระยะนึงแล้วแต่พอเอาเข้าจริงๆมันกลับไม่ง่ายเลย

    ที่ต้องปล่อยมือออกจากกันทั้งๆที่เคยจับกันไว้ตลอดตั้งแต่จำความได้

    ตั้งแต่ตอนที่เป็นคิมจงอินกับพี่ชายข้างบ้าน จนกระทั่งกลายเป็นคิม จงอินกับคิม จงแดที่กลายมาเป็นคนพิเศษของกันและกัน

    "จะร้องไห้หรอ?"เสียงของคนที่เงียบอยู่นานดังขึ้นพร้อมกับดวงตากลมที่ช้อนมามองสบตา จงอินยกยิ้มก่อนจะส่ายหน้าเบาๆเป็นเชิงปฏิเสธก่อนจะยกปลายนิ้วแตะปลายจมูกของอีกฝ่าย

    “พี่ต่างหากที่กำลังจะร้อง”

    “เปล่านะ”ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ดวงตากลับเริ่มแดงก่ำ จงอินเปลี่ยนเป็นกระชับร่างของคนเป็นพี่เข้าสู่อ้อมกอด ก่อนที่จะรับรู้ถึงสัมผัสเปียกชื้นบริเวณหัวไหล่

    “ไม่เอาสิ ร้องไห้ทำไม”

    “ฮึก ก็พี่..”จงแดสะอื้นจนจงอินต้องลูบผมอีกฝ่ายเป็นการปลอบ จงอินรู้ว่าจงแดเองก็ไม่ได้อยากไป แต่พวกเราก็ยังเด็กเกินกว่าที่จะทำอะไรตามใจตัวเอง ตาคมคลอไปด้วยน้ำตาไม่แพ้กัน แต่ถึงอย่างนั้น จงอินก็ไม่อยากให้การจากกันต้องเต็มไปด้วยน้ำตา

    “ไม่ต้องร้องไห้แล้ว เราไม่ได้เลิกกันซะหน่อย”

    “ก็ลองเลิกดูสิ”อีกฝ่ายเสียงเขียวขึ้นมาทันที จงอินจึงหัวเราะขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ นั่นสิ ก็แค่ไม่เจอกัน แต่เราไม่ได้เลิกกันซะหน่อย

    “ผมไม่เลิกหรอก รอมาตั้งหลายปีกว่าจะได้พี่เป็นแฟน ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆหรอก”

    “...”

    “อย่ากังวลไปเลยพี่จงแด ผมจะรอพี่อยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนหรอก”

     

     

     

     

    แต่มันจะมีประโยชน์อะไรถ้ามีแค่เขาที่รออยู่ฝ่ายเดียว


    ร่างสูงถอนหายใจเอนตัวพิงต้นไม้แห่งความทรงจำคล้ายๆกับหมดแรง ภาพความทรงจำต่างๆไหลทะลักเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งๆที่ก็รู้เรื่องราวทั้งหมดดีอยู่แล้ว ทั้งเรื่องอุบัติเหตุที่ทำให้จงแดจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้เลย รวมถึงการที่เขาต้องยอมรับว่าความรักของจงแดมันหายไปพร้อมๆกัน แต่ถึงอย่างนั้นเเขาก็ยังงี่เง่าอยู่ดี ทั้งๆที่ก็รู้ว่าจงแดเองก็ไม่ได้อยากให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้

    เขาควรจะทำยังไง

    ปล่อยให้ทุกอย่างหายไปเหมือนกับความทรงจำของจงแด

    หรือดึงดันวิ่งไล่ตามทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีทาง

    เขาควรทำยังไงดี





    ทั้งๆที่เหมือนทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นแต่แล้วมันก็กลับมาแย่เหมือนเดิม 

    จงแดถอนหายใจดันตัวขึ้นพิงหัวเตียงแววตาที่เคยสดใสกลับหม่นลงเมื่อคำพูดของเซฮุนลอยเข้ามาในความทรงจำ

    "ผมก็ไม่รู้อะไรมากนักหรอก ผมรู้แค่ว่าทั้งชีวิตของมันน่ะ รอคนๆนึงกลับมานั่นก็คือพี่ ผมยังตกใจเลยที่พี่จำมันไม่ได้ แล้วพี่คิดว่าจงอินมันจะรู้สึกยังไงล่ะ คนที่มันรักกลับจำมันไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว"


    นั่นสิ จงอินต้องเจ็บปวดแค่ไหน ในขณะที่เขาหลงลืมอดีตและคิดจะเริ่มต้นใหม่แต่จงอินกับยังจมอยู่กับคำสัญญาที่เขาไม่มีวันจำได้

    ใช้ไม่ได้เลย แค่คิดว่าทำให้จงอินต้องเสียใจจงแดก็รู้สึกเจ็บหน้าอก มันบีบรัดจนสุดท้ายน้ำตาก็ไหลออกมา 

    ขอโทษนะจงอิน พี่ขอโทษ


    กึก กึก

    มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาหัวใจพลันเต้นระรัว เสียงก๊อกแก๊กจากระเบียงยังดังต่อเนื่อง มือเล็กเผลอกำเข้าหากันแน่นด้วยความกลัว ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นก้าวไปยังระเบียง ด้วยความกล้าๆกลัวๆ มือสั่นๆเอื้อมไปจับผ้าม่านสีน้ำตาลแน่นก่อนจะกระชากเปิดออก น้ำตาที่เพิ่งหยุดไหลไปเมื่อครู่พลั่งพรูออกมาทันทีที่เห็นว่าใครอยู่ตรงหน้า

    จงอิน

    "พี่จงแด พี่ร้องไห้ทำไม นี่เปิดประตูใหผมหน่อย"จงอินทุบกระจกด้วยความร้อนใจเมื่อเห็นใบหน้าของคนเป็นพี่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ถ้าเขาจำไม่ผิดจงแดร้องไห้ตอนที่เห็นหน้าเขา

    จงแดปลดล็อคประตูด้วยมือสั่นเทา ก่อนจะเป็นฝ่ายเลื่อนประตูเปิดออกและโถมตัวเข้าหาร่างสูงของน้องขายข้างบ้านเสียเอง แขนเล็กกอดรัดร่างของคนที่ยังยืนนิ่งงันเพราะทำอะไรไม่ถูกไว้แน่น เสียงสะอื้นดังขึ้นข้างหูทำให้จงอินยกมือขึ้นโอบรัดร่างอันสั่นเทาของพี่ชายตัวเล็กไว้ลูบกลุ่มผมนุ่มของอีกฝ่ายอย่างที่เคยทำตลอดเวลาที่ปลอบเวลาจงแดร้องไห้

    จงอินไม่เคยลืมเลย ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับจงแด


    "พี่ขอโทษ ฮึก ขอโทษนะ"

    "ขอโทษผมทำไม"จงอินยิ้ม ดันร่างของคนขี้แยออกห่างมองหยาดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนด้วยรอยยิ้ม ถึงจะไม่ชอบเลยที่จงแดร้องไห้แต่อย่างน้อยน้ำตาของคนตรงหน้าก็ทำให้จงอินรู้ว่าตัวเองเลือกไม่ผิด

    "ขอโทษที่....พี่จำนายไม่ได้"

    "...."

    "ขอโทษนะ ฮึก"

    "รู้ไหมเมื่อก่อนพี่ก็เอาแต่ขอโทษผมแบบนี้...."นิ้วเรียวถูกใช้เช็ดคราบน้ำตาคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน "...ทั้งๆที่ตอนนั้นพี่ไม่ได้ผิดอะไรเลย"

    ก่อนที่จะจากกันจงแดเอาแต่ร้องไห้และขอโทษที่ไม่ได้อยู่กับเขา

    ทำไมจะจำไม่ได้ว่าตอนนั้นจงแดร้องไห้หนักขนาดไหน


    "ตอนนี้เองก็เหมือนกัน พี่จำไม่ได้แล้วยังไงล่ะ"

    "..."

    "ผมไม่อยากสนใจอะไรอีกแล้ว"ตาคมจับจ้องใบหน้าของคนเป็นพี่นิ่งรอยยิ้มที่จงแดรู้สึกคุ้นเคยปรากฎบนใบหน้าหล่อเหลา หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวปั่นป่วนไปในช่องท้องราวกับมีผีเสื้อนับพันกำลังโผบินอยู่ในนั้น

    ราวกับกำลังตกหลุมรักอีกครั้ง


    "จงอิน..."

    "แค่พี่ให้โอกาสผม ให้ผมได้สร้างความทรงจำใหม่ให้กับพี่"

    "..."

    "แค่นั้น. ...ได้ไหมครับพี่จงแด"

    อีกฝ่ายไม่ได้ตอบคำถามแต่ริมฝีปากบางที่ยกยิ้มกว้างอย่างที่จงอินชอบพร้อมกับร่างที่โผซุกเข้าสู่อ้อมกอดเขานั่นก็เพียงพอแล้ว



    ความทรงจำของแดอาจจะไม่ทางกลับมาเลย และจงอินก็จะกลายเป็นเพียงแค่อดีตที่เลือนหายไป แต่ช่างเถอะ เพราะต่อจากนี้เขาจะสร้างความทรงจำใหม่ ที่สวยงามกว่าเดิมขึ้นมาเอง

    การเริ่มต้นใหม่อีกครั้งมันก็ไม่ยากอะไรนักหรอก

    ถ้าแลกกับการได้กลับมากุมมือเล็กๆคู่นี้อีกครั้ง


    ว่ามั้ย??


    ทุกอย่างกำลังเริ่มต้น....



    Begin Again ~~~~






    End 

    บางทีตอนจบของเรื่องบางเรื่องก็คือการเริ่มต้นใหม่นะ ขอโทษที่ทำให้รอนาน 5555 ช่วงนี้งานเข้าจนหัวไม่แล่น ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ เจอกันตอนหน้านะคะ  รักทุกคน????????????

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×