คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 백현선배 : BAEKCHEN
Title :백현선배
Pairing :
BAEKCHEN
TALK : 첸 : " 백현도움많이받고있다 " มันมาจากประโยคนี้ ช่วงนี้อย่าแปลกใจถ้าเราแต่งแบคเฉินบ่อยๆ พวกเขาทำเกินไปจริงๆค่ะ ทำเราฟินจนไปไหนไม่ได้ 5555 เกือบลืมมันคือเรื่องต่อจาก Kiss scene ค่ะ สนุกกับการอ่านนะคะ ^^
แบคฮยอนได้แต่กำมือถือในมือแน่น
รู้สึกเหมือนอุณหภูมิในร่างกายจะสูงขึ้นกะทันหัน
ทั้งๆที่ยังไม่ทันได้อ่านอะไรเลยด้วยซ้ำ
แต่เพียงแค่เห็นรูปที่แฟนคลับพากันกดแชร์ในโชเชียล เขาก็แทบจะคลั่ง
หล่อจริงๆนะคิม จงแด
ไหนจะเซ็ตผมเปิดหน้าผาก
ไหนจะเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัว แล้วยังไอ้รอยยิ้มหวานๆที่ส่งไปให้ซองกยูฮยองกับนูน่าคนนั้นอีก
ชักจะทำให้หวง
มากเกินไปแล้ว
“ใจเย็นน่าแบคฮยอน ฮยองว่าจงแดแสดงเก่งออก”แบคฮยอนตวัดสายตาขวางๆไปยังลีดเดอร์ที่เป็นผู้ร่วมทริปเพียงหนึ่งเดียว
ที่หัวเราะตาหยีใส่เขาอย่างไม่สนใจอารมณ์ขุ่นมัวของเขาเลยด้วยซ้ำ
ก็จะไม่เก่งได้ไงก็เขาสอนเองกับมือน่ะ
เหอะ
สุดท้ายก็ได้แต่นั่งเลื่อนภาพตรงหน้าไปอย่างรวดเร็ว
เสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจดังออกมาจากลำคอให้ลีดเดอร์ได้ส่ายหัวรำคาญ
ทั้งๆที่ตอนรู้ข่าวใหม่ๆก็ตื่นเต้นดีใจด้วยกันแท้ๆ แถมยังเป็นคนอาสาฝึกซ้อมให้จงแดเองอีก
แล้วมาตอนนี้กลับนึกงี่เง่าอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้
อ๋อ
คงจะเกิดจากอาการขี้หวงที่เกิดขึ้นไม่รู้เวล่ำเวลา
บวกกับไอ้อาการคิดถึงที่ถูกลากมาทั้งๆที่จะได้อ้อนแฟนหลังจากจบคอนนั่นสินะ
น่าสงสารคิม
จงแดจริงๆที่มีแฟนอย่างมันเนี่ย
“ทำไมทำหน้างั้น
ปวดขี้หรอมึง”ปาร์คชานยอลเดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ตากลมเหล่มองเพื่อนตัวเล็กที่นั่งหน้ามุ่ยเจ้าตัวหันมามองหน้าเขาก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างแรงชนิดที่ว่าเหมือนมีเรื่องทุกข์อกทุกใจอย่างหนัก
“เป็นมึง
มึงก็ต้องทำหน้าอย่างกู”
“อะไร?”ตากลมหรี่ลง
ก่อนเจ้าเพื่อนตัวดีจะยื่นมือถือที่เปิดโปรแกรมแช็ทยอดฮิตสีเหลืองไว้มาให้ดู
กลับไปโดนดีแน่
“มึงไปทำอะไรให้มันโกรธอีกล่ะคราวนี้”
ชานยอลมองหน้าเพื่อนสลับกับข้อความในมือเล็กนั่น
ก่อนจะได้รับการส่ายหัวและใบหน้ายุ่งๆเป็นคำตอบ
“มึงคิดดีๆดิ
หรือว่ามึงแอบนอกใจมันแล้วมันจับ.. โอ๊ย!!”พูดไม่ทันจะจบประโยคฝ่ามือเล็กๆนั่นก็ประเคนมากลางหัว
จงแดจิกตาใส่ พร้อมกับเงื้อมือทำท่าจะฟาดลงมาอีกรอบ
“ปากมึงนี่วอนหาเรื่องกูนักนะ
กูไปเป่าหูให้คยองซูกิ๊กกับพี่อินซองซะดีมั๊ย?”
“เฮ๊ย ไม่เกี่ยวดิมึง
กูแค่ล้อเล่น”โบกมือเป็นพัลวัน แถมยังทำตาปริบๆใส่ จงแดถอนหายใจแรงๆก่อนจะสะบัดหน้าหนี
นี่ยังสงสัยกับข้อความที่ได้รับจากแบคฮยอนไม่หาย แล้วยังต้องหงุดหงิดกับเพื่อนประสาทที่หาแต่เรื่องกวนเขาเพราะแฟนไม่อยู่อีกต่างหาก
คยองซูกลับมาเมื่อไหร่จะใส่สีตีไข่ให้ปาร์ค
ชานยอลโดนฟาดสักยกสองยก คอยดู!!
“มึงก็ถามมันไปดิว่ามึงทำผิดอะไร
?”หลังจากเงียบไปสักพักจนจงแดคิดว่าปาร์ค
ชานยอลคงรับรู้ว่าเขารำคาญแล้วจะไปเองแต่เปล่าเลย หมอนี่ยังนั่นอยู่ที่เดิมแถมยื่นหน้าที่อยากรู้อยากเห็นเรื่องคนอื่นสุดๆนั่นเข้ามาใกล้
จงแดหันมาจ้องหน้าเพื่อนที่ยังไม่ยอมไปไหน
นิ้วชี้จิ้มๆมือถือในมือก่อนจะยื่นไปเกือบกระแทกเข้ากับใบหน้า นับว่าโชคดีที่ชานยอลไวพอที่จะหลบทัน
“กูพิมพ์จนมือหงิกแล้วมึงไม่เห็นรึไง”
“เห็น เห็น
แล้วทำไมมึงต้องทำหน้าเหมือนกูเป็นคนผิดวะ กูไม่ใช่ไอ้เตี้ยนั่นนะเว๊ย”
“ไม่รู้แหละ
มึงเป็นเพื่อนมันนี่”
“อ้าว
พูดเหมือนมึงไม่ใช่..”ชานยอลตอบกลับบ้าง ก่อนจะยกยิ้มล้อเลียน “อ๋อ ลืมไปพวกมึงกินกันเองแล้วนี่”
“ไอ้ชานยอล!!”หมอนที่อยู่ข้างๆถูกใช้เป็นเครื่องมือสังหาร คิม จงแดเลือดขึ้นหน้า
รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ชอบให้ล้อเรื่องที่คบกับแบคฮยอน ก็ยังจะล้อ
แถมมาล้อในเวลาที่เขากำลังหงุดหงิดอีก
“โอ๊ย จงแด กูเจ็บ กูหายใจไม่ออกกกกกกกก” จงแดไม่ได้สนใจร่างสูงของเพื่อนที่ถูกเขาทับทั้งตัวจนแทบจะจมไปกับโซฟา
ปาร์ค ชานยอลยกมือปัดป่ายไปมาอยู่นานกว่าจะจับข้อมือผอมๆของเพื่อนไว้ได้
จงแดยังคงดิ้นไม่ยอมลดละ นี่มันกะจะฆ่าเขาให้ตายเลยใช่มั๊ยเนี่ย
เพราะจงแดไม่ยอมรามือง่ายๆชานยอลก็เลยตัดสินใจรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายกอดรัดเพื่อนไว้ทั้งตัว
เจ้าเพื่อนตัวแสบดิ้นดุ๊กดิ๊ก แต่ก็หมดท่าเพราะคงเหนื่อย แต่เขานี่สิเหนื่อยกว่า
ตัวก็แค่นี้ทำไมแรงเยอะจังวะ เสียงหายใจฟัดเฟียดดังอยู่ข้างหู
เขาก็เลยคิดว่าคงต้องอยู่อย่างนี้ไปซะก่อน
เพราะถ้าปล่อยตอนนี้เขานี่แหละที่จะไม่รอด
แต่ทว่า
เหมือนจะไม่มีใครรอด
“เล่นกันสนุกดีนะ”
“เฮ๊ย/เฮ๊ย”เด้งออกจากกันแทบไม่ทัน ปาร์คชานยอลผุดลุกขึ้นนั่งทำหน้าเลิกลั่กมองเพื่อนร่วมวงกับลีดเดอร์ของวงไปมา
ในขณะที่คิมจงแดหงายหลังก้นกระแทกกับพื้น เจ็บจนน้ำตาคลอเบ้า
ตาเรียวจ้องหน้าเพื่อนตัวสูงเพียงชั่วครู่
แต่แค่นั้นชานยอลก็รับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิต แบคฮยอนเดินก้าวฉับๆเข้ามาเดินผ่านปาร์คชานยอลที่เอนตัวหลบจนแทบจะสิงกับโซฟา
สายตาเย็นๆนั่นจับจ้องร่างที่นั่งทำหน้าเหวอบนพื้น ย่อตัวนั่งคุกเข่าลงตรงหน้า
“เอ่อ มึงกลับมา..”ทำใจดีสู้เสือ
แต่พูดยังไม่ทันจะจบประโยคเลย
“มาคุยกันหน่อยไหม คิม จงแด”
อย่าเรียกว่ามาคุยกันหน่อยเลย
ถ้าเข้ามาในห้องแล้วจะเอาแต่จ้องหน้าเขาแล้วสั่งให้ทำเรื่องหน้าอายแบบนี้น่ะ
หึยยยยยย
“แล้วในบทเขียนว่ายังไงอีก..”เสียงเรียบๆเอ่ยขึ้นข้างหู
จงแดทำได้เพียงหายใจอย่างติดขัดและยู่หน้าใส่บทในมือ
ก่อนจะตอบไอ้คนเผด็จการนั่นไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“แบคฮัก แล้วเอาคางเกยไว้ที่ไหล่”
“งั้นก็ทำกับนูน่าคนนั้นแบบนี้ด้วยสิ”คางแหลมถูกเกยไว้บนไหล่เปลือยเปล่า
แขนแกร่งกอดกระชับเอวบางของคนที่นั่งอยู่ในอ้อมแขนแน่นขึ้น
แต่น้ำเสียงยังติดไม่พอใจ
“ก็มันเป็นบทนี่ มึงอย่ามางี่เง่านะ”แว๊ดใส่เสียงแหลม
ทีตอนตัวเองเล่นละครเวทีเขายังไม่เห็นมาคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้เลย
“แล้วไอ้ที่ไปกอดซองกยูฮยองนั่น มีในบทด้วยหรอ”
“เอ่อ..”คราวนี้ถึงกับหุบปากทันควัน
ไอ้น้ำเสียงเย็นเยือกขึ้นอีกสิบระดับนั่นบ่งบอกได้เลยว่าไอ้เรื่องนี้แหละที่เป็นคำตอบของประโยคที่ว่า
กลับไปโดนดีแน่
“แล้วไอ้นัวเนียกับไอ้โย่งบนโซฟานั่นก็ซ้อมบทหรอ คิม
จงแด?”
“นัวเนียบ้าอะไร “ถึงกับแผดเสียงแหลม
ไอ้เรื่องซองกยูฮยองน่ะ ก็เพราะสนิทกันแล้วฮยองเขาให้ความรู้สึกเหมือนพี่ชายหรอก
เขามันเป็นพวกเด็กติดอ้อน เห็นใครก็ชอบอ้อนเขาไปหมดแหละ แต่กับไอ้โย่งชานยอลนี่สิ ทำไมถึงได้ใช้คำว่า นัวเนีย
ได้ลงคอเนี่ย
โอ๊ย จงแดอยากจะบ้า
“อ๊ะ มึงจับอะไรเนี่ยแบคฮยอน”แล้วก็ต้องโววายอีกรอบเมื่อจู่ๆมือของคนที่นั่งซ้อนหลังอยู่ก็บีบขาอ่อนที่อยู่ภายใต้บอกเซอร์บางๆอย่างแรง
เท่านั้นยังไม่พอปากกับจมูกยังซุกลงบนซอกคอเขาพอดี
จงแดหายใจหอบเมื่อรู้สึกถึงสถานการณ์อันไม่น่าไว้วางใจ
“ไหนลองอธิบายมาให้กูเข้าใจหน่อยซิ...”ประทับจูบลงบนลำคอขาว
“เรื่องซองกยูฮยอง..”
เผลอกำบทในมือแน่น ไม่ใช่อะไรแค่รู้สึกไม่ปลอดภัยเอามากๆทั้งเนื้อทั้งตัวก็มีแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว
เพราะไอ้คนเผด็จการนี่มันสั่งให้ถอดตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องได้สองก้าว
อีกอย่างในสถานการณ์แบบนี้คิดว่าเขาจะตอบอะไรได้หรือไง
“มึง มึงก็เลิก ...ไอ้แบคอย่าเล่นหูกู!!”ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ
ก่อนจะต้องร้อนไปทั้งหน้าลามไปทั้งตัว
“ไม่เล่นหูก็ได้..”น้ำเสียงแหบพร่ามาพร้อมกับความเสียววาบที่หน้าท้อง
“..แต่จะเล่นกับจงแดทั้งตัวเลย”
ไอ้เชี่ยแบคฮยอนนนนนนนนนน
“สมาชิกในวงก็มีแบคฮยอนที่ได้เล่นละครเวทีไปแล้ว เขาเป็นเหมือน
ซอนเบ (รุ่นพี่) ของผมเลยครับ แบคฮยอนช่วยผมได้เยอะมากเลย”
นี่พูดถึงเขาด้วยหรอเนี่ย?
แบคฮยอนละสายตามาจากคลิปแถลงข่าวย้อนหลังในมือถือมาจ้องหน้าคนที่หลับตาพริ้มซุกใบหน้าอยู่กับหมอน
รอยยิ้มแรกของวันผุดขึ้นมาเต็มใบหน้า
อารมณ์ขุ่นมัวเมื่อกี่ชั่วโมงก่อนจางหายไปในพริบตา
ไม่สิมันหายไปตั้งแต่เริ่มเอาแต่ใจกับคนตัวผอม
แล้วได้ยินเสียงอ้อนๆนั่นแล้วต่างหาก
จุ๊บ
“งื้อ อย่ากวน”ได้ยินเสียงแหบๆนั่นแว๊ดกลับมาแม้เจ้าตัวจะไม่ลืมตามองเสียด้วยซ้ำ
ก็คงจะเหนื่อยนั่นแหละ แบคฮยอนวางมือถือลงบนโต๊ะข้างเตียงก่อนจะก้มใบหน้าไปเป่าลมใส่แก้มขาวๆของคนที่ขมวดคิ้วจนเป็นปม
“ย่าส์ ก็บอกว่าอย่ากวนไง โอ๊ยยย”ขยับตัวจะหันหลังให้ความปวดร้าวก็แล่นไปทั่วร่างจนต้องกัดปากนอนในท่าเดิม
ทำได้เพียงส่งสายตาคาดโทษไปให้ไอ้ตัวดีที่ตอนนี้กลับมายิ้มแป้นเต็มหน้า
“ตอนแถลงข่าวพูดถึงกูด้วยหรอ”
“ก็เห็นแล้วนี่ จะมาถามทำไม”ทำปากเชิดใส่ด้วยความหมั่นไส้
ทีตอนมาถึงไม่ถามอะไรให้รู้เรื่องก็โกรธเอาๆ หน้างี้ยังกะไปกินรังแตนที่ไหนมา พูดอะไรก็ไม่ยอมฟัง
เอาแต่บอกว่าต้องลงโทษ ลงโทษ พอมาตอนนี้หน้าบานเป็นกระด้ง
“ยกย่องให้กูเป็นซอนเบด้วยหรอ หืม?”
“เออ เงียบสักทีได้ไหมกูจะนอน”ตัดบทแล้วก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า
ไม่ใช่อะไรก็เพราะไอ้คำว่าซอนเบ นั่นมันดันสะกิดให้คิดถึงตอนที่ไอ้บ้านี่มันช่วยซ้อม
ฉากจูบ ให้นั่นแหละ หน้าเลยร้อนขึ้นตามระเบียบ
และแน่นอนว่าเขาจะไม่มีวันให้แบคฮยอนเห็นเด็ดขาดว่าเขาหน้าแดงเพราะมันน่ะ
เดี๋ยวก็หาเรื่องให้เขาเหนื่อยอีก
แค่นี้ก็ร้าวไปทั้งตัวแล้ว
แบคฮยอนหัวเราะในลำคอจ้องร่างใต้ผ้าห่มด้วยแววตาพราวระยับ
ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงรั้งก้อนผ้าห่มนั่นเข้ามาใกล้
“ย๊าส์ อะไรของมึงเนี่ย ปล่อยกู”
“เอ้าก็จะนอนไม่ใช่หรือไง ก็นอนไปดิ”
จ้องตากับคนที่ยอมโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มพร้อมกับยักคิ้วให้ คิม จงแดทำเสียงฮึดฮัด
คงอยากจะสะบัดตัวหนีเต็มทีแต่ร่างกายไม่เอื้ออำนวย “หรือว่าจะต่อ?”
“ต่อบ้าอะไรของมึง!!”แก้มขาวเปลี่ยนสีแทบจะทันที แบคฮยอนหัวเราะชอบใจ
ก่อนจะก้มลงจูบบนริมฝีปากช่างต่อล้อต่อเถียงนั่นเร็วๆทีหนึ่ง ด้วยความหมั่นเขี้ยว
แหม่ แฟนใครเนี่ยโคตรน่ารักจริงๆ
“นอนเถอะ กูไม่กวนแล้ว” เจ้าตัวพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะซุกใบหน้าเข้ากับอกเขา
แต่ก่อนที่แบคฮยอนจะได้หลับตาตามคนในอ้อมแขนเสียงอู้อี้ก็ดังขึ้นมาซะก่อน
“มึงก็หายโกรธกูได้แล้ว..”กระชับอ้อมแขนรัดเขาแน่นขึ้นอีก
“...กูก็มีแค่มึงคนเดียวนั่นแหละ”
ให้ตายเถอะ คิม จงแดนี่พูดไม่รู้จักเวล่ำเวลาเลย
แล้วแบบนี้เขาจะอดใจไม่ฟัดได้ไงวะ??
“พูดแบบนี้ต่ออีกสักรอบไหม จงแด”
“ย๊าส์ มึงอยากตายหรือไง แบคฮยอน!!!”
จงแดรอดไหม?
แถมๆ
สนามบินอินชอน
“สมน้ำหน้ามึง ก็ไปทำมันป่วยเอง”แบคฮยอนหรี่ตามองปาร์ค
ชานยอลที่เดินมาเพื่อทำน้ำเสียงเยาะเย้ยใส่เขาโดยเฉพาะ ก่อนจะถอนหายใจและกรอกตาไปมาด้วยความเบื่อหน่าย
เขาเริ่มรู้แล้วล่ะว่าทำไมคยองซูถึงชอบทำท่าทางรำคาญใส่มัน
แค่กับเพื่อนกับฝูงมันยังทำตัวหน้าหมั่นไส้
แล้วกับแฟนมันนี่ต้องคูณความน่าหมั่นไส้เข้าไปอีกกี่เท่า
นับถือจริงที่คยองซูทนมันได้
“ได้ข่าวว่าคยองซูจะบินมาพร้อมจงแด”ใช้สายตาประมาณว่าไม่ใช่แค่กูหรอกที่อดสวีทกับแฟนในสนามบิน
มึงก็ไม่ต่างกัน ปาร์คชานยอล ทำเสียงเหอะในลำคอก่อนจะสะบัดหน้าไปอีกทาง
ถ้าคนอื่นทำมันคงน่ารักหรอก แต่นี่มันคือไอ้โย่งนี่ไง
“พอคยองซูมากูจะสวีทให้พวกมึงอาย คอยดู”ชานยอลคงหมายถึงบนเวทีของคอนที่ซีอาน
แบคฮยอนแสยะยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปตบไหล่เพื่อนเบาๆ
แฟนคลับรอบๆกรี๊ดกร๊าดให้กับโมเม้นชานแบคที่เฝ้ารอมานาน
แต่ชานยอลนี่สิหน้าซีดเผือดไปแล้ว
“ก่อนจะสวีทน่ะ มึงเตรียมตัวแก้ตัวกับคยองซูดีกว่าไหม...”เขาไม่ลืมหรอกว่ายังไม่ได้จัดการปาร์ค
ชานยอลเลย
“...”
“..กูว่าจงแดคงใส่ไฟไปเยอะพอดู”
ขอให้พระคุ้มครองนะ ชานยอลอา TT_TT
END
พี่ปาร์คน่าสงสารเนอะ ช่วงนี้เราชิปแบคเฉินเป็นพิเศษ และชานซูนั่นคู่รองเราเอง
ฮี่ฮี่
เล่ยเฉินรอแป๊บนะ เรากำลังทวนภาษา 555
ความคิดเห็น