ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] My Sunshine ,it’s U < All*Chen>

    ลำดับตอนที่ #2 : 두근거려 : ฺBAEKCHEN

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.49K
      58
      1 ส.ค. 58




    Title : 두근거려

    Pairing : BaekChen

    P.S. มันคือภาคต่อของ No title นะคะ ^^ เพราะพี่แบคทำคะแนนกับน้องจนทนไม่ไหว น่ารักเกินไปแล้ว TT_TT











     

    -----두근거려-----

     



     

    “แบคฮยอนอ่า ไม่ชอบจริงๆหรอ เราขอโทษ”เสียงแหลมเล็กเอ่ยขึ้นมาเสียงแผ่ว มือเล็กกระตุกแขนเสื้อของแบคฮยอนเบาๆ ราวกับกำลังง้องอน ยิ่งเห็นใบหน้าเรียบนิ่งไร้การตอบสนอง หรือแม้กระทั่งแสดงความไม่พอใจออกมา คิม จงแดก็ยิ่งร้อนรน

    “แบคฮยอนอา...”เอ่ยเรียกอีกครั้งซึ่งครั้งนี้เหมือนจะได้ผลเมื่อแบคฮยอนยอมหันหน้ากลับมาสบตา แม้ว่าใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายจะยังราบเรียบไร้อารมณ์เช่นเคย

    “ทำไมถึงต้องถอดแว่นออก”นั่นคือประโยคแรกหลังจากที่เงียบอยู่นาน เพราะได้ยินน้ำเสียงหงอยๆของคนข้างกายแล้ว มันก็อดไม่ได้ที่จะสงสาร คิม จงแด ยิ่งเป็นคนที่คิดมาก เผลอๆถ้าไม่ยอมตอบอะไรเลย ก็จะร้องไห้ออกมาอีก

    ซึ่งน้ำตาของคิม จงแดเป็นสิ่งที่แบคฮยอนไม่ชอบเอาเสียเลย

    แต่ตอนนี้แบคฮยอนก็แค่หงุดหงิดเท่านั้นเอง

    ใครไปยุให้คิม จงแดทำตัวน่ารักขนาดนี้

    “คิดไว้แล้วเชียวว่ามันต้องไม่น่าดูมากๆ..”เสียงเล็กเอ่ยเบาๆเหมือนกับกำลังพูดกับตัวเอง มือเล็กยกลูบผมที่ถูกย้อมจนกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนเบาๆ ก้มหน้างุดเมื่อเจอสายตาของแบคฮยอนที่จับจ้องมาที่ตัวเองอย่างไม่วางตา กัดริมฝีปากล่างแน่นระงับความน้อยใจที่พวยพุ่งขึ้นมาไม่หยุด ตากลมที่ไร้กรอบแว่นสีดำอย่างเหมือนทุกทีเริ่มแดงก่ำ

    จงแด กำลังจะร้องไห้อีกแล้ว


     

    “จะร้องไห้ทำไม ไม่ได้ดุเสียหน่อย”เพราะเห็นอีกคนเงียบไปเสียนาน แบคฮยอนที่เมื่อครู่ยังหงุดหงิดกับสายตาของคนอื่นที่จ้องมายังร่างผอมๆของจงแดถึงได้ยกมือลูบกลุ่มผมนุ่มๆนั่นเบาๆ เจ้าตัวเงยหน้าหงอยๆทั้งที่ดวงตาแดงก่ำนั่นขึ้นมอง แต่จงแดคงไม่รู้ตัวหรอกว่ามันไม่ได้น่าสงสารเลย แต่มันกลับดูน่ารัก น่าแกล้งเสียมากกว่า

    “แบคฮยอนไม่ชอบแบบนี้หรอ?”เพราะคยองซูบอกว่าถ้าเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบนี้ แบคฮยอนจะต้องชอบเขาขึ้นมากแน่ๆ แล้วทำไม?

    “ไม่เลย..”ยิ่งได้ยินคำตอบชัดๆจากแบคฮยอนแล้วจงแดก็ยิ่งหน้าเสีย เหมือนยิ่งเขาพยายามทำตัวให้คู่ควรกับแบคฮยอนเท่าไร่ มันก็ยิ่งล้มไม่เป็นท่า

    แค่อยากทำตัวให้น่ารักขึ้น ก็ยังไม่ถูกใจแบคฮยอนเลย



     

     

     

    มือเรียวจับจูงร่างผอมๆเดินไปส่งที่หน้าห้องเจ้าตัวอย่างเงียบๆ ตาเรียวเหลือบมองใบหน้าหงอยๆของคนข้างกายแล้วก็ได้แต่ลอบถอนหายใจ แบคฮยอนรู้ว่าเขานิสัยไม่ดีเลย ที่เอาแต่โกหกจงแดแบบนั้น ทั้งๆที่ความจริงแล้วเขาชอบมาก ชอบที่จงแดยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเขาขนาดนี้

    แต่เขาแค่ไม่พอใจที่จงแดน่ารักเกินไป

    ทั้งๆที่ควรจะน่ารักให้เขาเห็นเพียงคนเดียวแท้ๆ

     

     

    “เข้าไปข้างในได้แล้ว..”เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องเรียนของอีกฝ่ายแบคฮยอนก็ปล่อยมือและยื่นกระเป๋าเป้ในสีฟ้าอ่อนที่เขาเป็นคนสะพายมาตลอดทางส่งคืนให้ เจ้าของร่างผอมๆพยักหน้ารับคำเบาๆ ไม่รู้ว่ายังคิดมากเรื่องเมื่อครู่หรือเปล่า จงแดถึงไม่ยอมพูดอะไรเลยแถมยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตาอีก

    “ตั้งใจเรียนล่ะ...แล้วก็เลิกคิดมากได้แล้ว”ยกมือลูบผมนุ่มๆของอีกฝ่ายอย่างเบามือ ก่อนจะละออกแล้วหันหลังกลับไปทางเดิม แต่ก็โดนมือเล็กๆนั่นดึงชายเสื้อด้านหลังไว้เสียก่อน แบคฮยอนเลิกคิ้วคล้ายสงสัยก่อนจะขมวดจนแทบจะพันกันเมื่อคนตัวผอมตรงหน้าเอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความมั่นใจ

    “แบคฮยอนจะไม่เลิกกับเราใช่มั๊ย?”

    “ใครสอนให้พูดแบบนี้?”ยิ่งฟังคำถามบวกกับแววตาและท่าทางหวาดๆนั่นแล้วแบคฮยอนก็ยิ่งหงุดหงิด ทั้งๆที่เขาก็รู้ว่าจงแดเป็นคนคิดมาก แต่ก็ไม่คิดเลยว่าเจ้าตัวจะคิดมากถึงขนาดนี้

    คิดว่าเขาเป็นคนแบบไหนกัน?

    “...”เจ้าตัวส่ายหน้าเสียจนผมกระจาย แบคฮยอนเสยผมตัวเองด้วยความหงุดหงิดที่คูณอีกเท่าตัว ก่อนจะตัดสินใจยุติบทสนทนาแค่นี้ เขาไม่อยากคุยกับจงแดตอนที่อารมณ์ทั้งหมดกำลังผสมปนเปกัน เขากลัวจะตวาดใส่จงแดเหมือนอย่างคราวนั้น เขาไม่อยากเห็นคนตรงหน้าร้องไห้ เพราะแค่นี้ภาพตอนที่จงแดวิ่งร้องไห้ฝ่าสายฝนไปทั้งๆที่เขายังไม่ทันได้อธิบายนั่นก็ยังเป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัยเลย

    “เข้าเรียนเถอะ ตอนเย็นค่อยคุยกัน” คราวนี้ไม่ยอมให้คนตัวผอมตอบอะไรแบคฮยอนก็เดินออกมาเสียก่อน จงแดมองตามแผ่นหลังแบคฮยอนไปพร้อมกับใบหน้าน่ารักทีหม่นลง

    นี่เขาโดนแบคฮยอนโกรธเข้าแล้วใช่มั้ย

     

    “อ่ะ”มือของใครสักคนแตะเข้าที่ไหล่เขา แม้จะไม่ได้แรงนักแต่ก็ทำให้จงแดที่ยืนจมอยู่กับความคิดสะดุ้งโหยง หันกลับไปมองด้วยใบหน้าหม่นหมองและก็เป็นปาร์ค ชานยอลนั่นเองที่ยืนส่งสายตาจับผิดมาให้

    “ทำไมทำหน้าตาแบบนั้น?”

    “เปล่า..”ตอบเสียงเบาพลางหันหน้าหลบสายตาจับผิดแม้จงแดจะรู้ว่าอย่างปาร์ค ชานยอลน่ะไม่มีทางที่จะเชื่อเขาก็ตาม

    “อะไรกันมึงนี่ อุตส่าห์ไปแปลงร่างมาซะน่ารักกลับมายืนทำหน้ามุ่ย นี่แฟนมึงมันไม่ยอมชมใช่มั๊ยล่ะ?”ยังกับตาเห็น จงแดแทบอยากจะข่วนหน้าเพื่อนที่พูดแทงใจดำ แต่เหมือนที่ชานยอลพูดมามันยังน้อยไปเพราะนอกจากแบคฮยอนจะไม่ชมเขาแล้ว ยังโกรธเขาอีกต่างหาก

    “เฮ้ย นี่อย่าบอกนะว่าจริง”เมื่อเห็นเพื่อนหน้าเสียไปชานยอลก็เบิกตากว้างกว่าเดิม นี่ไอ้แบคฮยอนมันเป็นบ้าอะไรของมันอีกล่ะทีนี้

    “อือ แบคฮยอนเหมือนจะโกรธกูด้วย”จงแดเอ่ยฟ้องใบหน้าน่ารักนั่นหงอยลงเสียจนชานยอลได้แต่เข่นเขี้ยว บยอนแบคฮยอนในใจ

    “เอาน่าๆ มันอาจจะอารมณ์เสียมาจากไหนหรือเปล่า ป่ะๆ เข้าเรียนกันก่อน”ชานยอลชิงจับข้อแขนเล็กของเพื่อนให้เดินเข้ามาในห้อง ในขณะที่คิม จงแด ก็ได้แต่ถอนหายใจราวกับกำลังแบกภูเขาไว้บนบ่าทั้งลูก จึงไม่ได้รับรู้สาเหตุที่บยอน แบคฮยอนไม่ชอบใจ แต่ชานยอลน่ะ เริ่มจะเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไม แบคฮยอนมันถึงไม่ชอบให้จงแดแต่งตัวแบบนี้

    ก็นะ ไอ้พวกผู้ชายมันจ้องเพื่อนตัวเล็กของเขาตาเป็นมันซะขนาดนี้

     

     

     

     

    -----두근거려-----

     

     

     

     

    “จงแดอ่า ขอบคุณที่วันนี้สอนการบ้านให้นะ”คนตัวผอมยกยิ้มซีดเซียวส่งไปให้ แม้ใบหน้าหล่อเหลาของคิม มยองซู จะยิ้มกว้าง แต่สายตาคมๆนั่นก็ยังค้นพบสิ่งผิดปกติในดวงตาคู่สวยของคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี

    “ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”เพราะเป็นห่วง และไม่เคยชินกับอาการหงอยๆของเพื่อนร่วมห้องผู้เป็นอดีตเด็กแว่น มยองซูถึงได้ชิงถามขึ้นมาก่อน ใบหน้าน่ารักก้มต่ำก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

    “เหมือนตัวจะรุมๆนะ...”

    “เอามือออกไปจากคิม จงแด”

    มือเรียวถูกยกค้างไว้กลางอากาศ ก่อนริมฝีปากจะกระตุกยิ้มเมื่อเจ้าของร่างโปร่ง ที่โด่งดังด้วยบุคลิกอันแสนจะเย็นชาเดินเข้ามากระตุกข้อแขนของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาให้ลุกขึ้น จงแดที่ยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์เอาแต่มองหน้าเขาสลับกับแบคฮยอนตาปริบๆ แต่กลับเป็นมยองซูที่เริ่มจับต้นชนปลายได้แล้วนั้นกำลังจ้องตากับแบคฮยอนอย่างไม่เกรงกลัว

    “จงแดกลับบ้าน”

    ไม่ได้หันไปมองหน้าคนตัวผอมแต่อย่างใด แบคฮยอนเผลอกำข้อมือเล็กแน่นขึ้นเมื่อ ไอ้หน้าหล่อที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นฝ่ายเก็บของ แฟน เขาใส่ลงไปในเป้แล้วยื่นมาให้

     

    “ขอบคุณสำหรับวันนี้นะจงแด โอกาสหน้าจะให้ช่วยใหม่นะ”

    “อ่า อืม”เพราะไม่รู้ถึงสาเหตุที่แบคฮยอนกำลังอารมณ์เสีย ถึงได้ตอบเพื่อนร่วมห้องไปแบบนั้น ก่อนข้อแขนเล็กจะถูกกระชากให้เดินตามมาทั้งๆที่เขายังไม่ได้เอ่ยปากล่ำลา มยองซูเสียด้วยซ้ำ

     

     

    “แบคฮยอนอา แบคฮยอน ช้าหน่อย เราตามไม่ทัน”เสียงใสเอ่ยรั้งคนข้างหน้า ทั้งๆที่เท้าก็ยังคงเดินตามไปเรื่อยๆ แบคฮยอนเอาแต่เดินเร็วๆไม่ได้สนใจเลยว่าเขาแทบจะก้าวไม่ทันแล้ว

    “...”

    “แบคฮยอน หยุดก่อน”ตัดสินใจกระตุกแขนอีกฝ่ายให้หยุดเดิน โชคดีที่ครั้งนี้แบคฮยอนยอมหยุด ใบหน้าที่ปกติก็เรียบนิ่งอยู่แล้วตอนนี้กลับยิ่งนิ่งสนิท แต่จงแดรู้สึกได้ถึงกระแสความไม่พอใจที่แผ่ออกมาจากดวงตาคู่นั้น

    “ทำไมต้องยิ้มให้มัน...”

    “...”จงแดทำหน้าเหรอหรา เขากำลังงุนงงว่า มันที่แบคฮยอนหมายถึงคือใคร คงไม่ได้หมายถึง มยองซูหรอกนะ

    “ถามทำไมไม่ตอบ”

    “หมายถึง มยองซูหรอ”ดวงตาใสมองหน้าแบคฮยอนปริบๆ ให้เดาเขาคิดว่าคิม จงแดคงไม่รู้ตัวแน่ๆว่าตัวเองกำลังถูกไอ้หน้าหล่อนั่นเต๊าะอยู่ ให้ตายเหอะ มันน่าหงุดหงิดจริงๆ

    “ถามว่าทำไมต้องยิ้มให้มัน”

    “...อ่า ก็นั่นเพื่อนเรา”

    “แล้วนั่งทำอะไรกัน”

    “สอนการบ้าน..”

    “แล้วทำไมต้องสอนการบ้านให้มัน มันโง่นักหรือไงถึงทำเองไม่เป็น”

    “อ่า คือ...”จงแดได้แต่มองด้วยความงุนงง เขาตามอารมณ์แบคฮยอนไม่ทัน เมื่อเช้าก็เพิ่งโมโหเขาเรื่องที่ไม่ใส่แว่นมาเรียน แล้วตอนนี้ ยังไม่ทันได้เคลียร์เรื่องตอนเช้าก็มาโมโหเขาเรื่องมยองซูอีก

    หรือว่าแบคฮยอนจะรำคาญเขาแล้ว?

     

    “ห้ามเข้าใกล้มันอีก..”ไม่ทันได้คิดน้อยใจอะไร เสียงนุ่มก็เอ่ยขึ้นเรียบๆ จงแดเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าแบคฮยอนหันหน้าหนีไปอีกทาง

     “...แต่ว่า”

    “ไม่มีแต่ แล้วก็พรุ่งนี้ห้ามแต่งตัวแบบนี้อีก ฉันไม่ชอบ”มือเรียวเสยผมสีดำสนิทของเจ้าตัวอย่างที่ชอบทำเวลาหงุดหงิด จงแดได้แต่ก้มหน้างุด พยักหน้าขึ้นลง และเดินตามแรงรั้งที่ข้อมือไปเท่านั้น

    ไม่อยากจะคิดมาก แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่จงแดคิดว่าเขาไม่ควรมายืนข้างๆแบคฮยอนตั้งแต่แรก

    ลูกเป็ดขี้เหร่น่ะ ต่อให้ปรุงแต่งตัวเองให้สวยหรูแค่ไหน

    ก็เป็นได้แค่ลูกเป็ดขี้เหร่อยู่วันยังค่ำ ไม่มีทางคู่ควรกับหงส์หรอก

     

     

     

     

    แม้จะยังไม่เข้าใจอะไรมากนัก แต่วันนี้จงแดก็กลับมาใส่แว่นหนาๆอันเดิม คยองซูที่แวะเข้ามาชมรมตอนเช้าแล้วเห็นเขาแต่งตัวแบบเดิมถึงกับเผลอแว๊ดใส่เขาอย่างลืมตัว จนกระทั่งเขาบอกว่าแบคฮยอนไม่ชอบนั่นแหละน้องถึงได้เงียบแล้วเปลี่ยนมาเป็นกอดอกขมวดคิ้วจ้องหน้าเขาแทน

    “มีเหตุผลอะไรที่พี่แบคฮยอนไม่ชอบ พี่จงแดน่ารักออกขนาดนั้น”

    “...ไม่รู้สิ มันอาจจะไม่เหมาะกับพี่มั้ง”จงแดหัวเราะแหะๆ แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตากลมโตที่ยังจ้องเขาจนแทบทะลุนั่นก็ได้แต่ปิดปากฉับ โด คยองซูน่ะ เครียดเกินไปทั้งๆที่เขาบอกไปตั้งแต่แรกแล้วว่ามันไม่มีอะไรแต่น้องก็ยังไม่เลิกเซ้าซี้

     

    “พี่แบคฮยอนนี่ประหลาดชะมัด”

    “ไม่หรอก พี่แต่งแบบนั้นมันคงจะแปลกๆแบคฮยอนก็เลยไม่ชอบ”ยังจะแก้ต่างให้  คยองซูเบ้ปากให้พี่ชายร่วมชมรม ก่อนคิ้วจะขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นร่างสูงของคนที่ไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่เดินเข้ามาในชมรม

    “อ่าว มยองซู”จงแดมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน พลันคำพูดของแบคฮยอนเมื่อวานก็ดังขึ้นในหัว

    “ห้ามเข้าใกล้มันอีก...” ใบหน้านิ่งเรียบพร้อมกับเสียงเย็นๆนั่นฉายชัดในหัว จงแดทำตัวไม่ถูกเมื่อเพื่อนร่วมห้องส่งยิ้มมาพร้อมกับเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า

    “คิดไว้แล้วเชียวว่านายต้องอยู่ที่นี่”มยองซูยิ้มกว้าง รอยยิ้มที่ทำให้จงแดเผลออึดอัดขึ้นมา เพราะเขาไม่สามารถยิ้มให้เพื่อนตรงหน้าได้อย่างจริงใจเช่นเดิม ทั้งๆที่มยองซูไม่ผิดอะไรแท้ๆ แต่เขากลับไม่กล้าขัดคำพูดแบคฮยอน

    “มีอะไรหรอ”ตัดสินใจเอ่ยถามออกไป อย่างน้อยเขาก็ต้องรีบให้มยองซูออกไปจากชมรม ก่อนที่แบคฮยอนจะมา

    “แวะเอาของมาให้น่ะ เมื่อวานนายลืม แล้วก็นี่ของฝาก”ดินสอกดที่เขาหาเมื่อคืนถูกยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับพวกกุญแจเป็ดสีเหลือง จงแดเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบกล่าวขอบคุณเพื่อนเสียยกใหญ่ จนมยองซูอดไม่ได้ที่จะไม่เอื้อมมือไปขยี้กลุ่มผมนุ่มของอีกฝ่ายเหมือนอย่างที่เคยทำ จงแดเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมัวแต่สนใจเจ้าเป็ดน้อยในมือ รอยยิ้มกว้างถูกส่งให้ร่างสูงของเพื่อนร่วมห้องอีกครั้งก่อนจะชะงักเมื่อใครบางคนเข้ามาอยู่ในกรอบสายตา

    “แบคฮยอน..”มยองซูหันไปมองด้านหลังก่อนจะพบว่าเจ้าของตัวจริงเดินหน้าตึงเข้ามาใกล้ เขาไม่ได้ดึงดันอะไร ยอมหลบให้ร่างโปร่งของคนขี้หึงเดินเข้ามาคว้าเอวเพื่อนร่วมห้องเขามากอดแสดงความเป็นเจ้าของต่อหน้าต่อตา

     

    “แบคฮยอนคือ...”ไม่ทันได้แก้ตัวอะไรเอวบางก็ถูกกอดรัด ก่อนจะโดนลากเข้าไปยังห้องด้านใน คยองซูที่นั่งอยู่ในห้องและเห็นเหตุการณ์มาตลอดหันไปสบตากับพี่ชายร่วมห้องของจงแดก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

    โธ่เอ๊ย ไอ้ที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ทำหน้าตาเย็นชาใส่จนพี่จงแดจะร้องไห้นั่นก็เพราะว่าหึงเนี่ยนะ

     

     

    “อื้อ บะ แบค”ร่างผอมหอบจนตัวโยน ริมฝีปากบางกอบโกยเอาอากาศเข้าปอดทันทีที่ริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทำไมจู่ๆแบคฮยอนถึงได้กลายเป็นแบบนี้ ขาเล็กสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ยิ่งเมื่อแบคฮยอนกดจูบที่ลำคอเขา จงแดก็เกือบเผลอทรุดตัวลงไปกองกับพื้น

    “ทำไมชอบทำให้หงุดหงิดนักนะ จงแด”เสียงแหบพร่าดังขึ้นข้างหู จงแดเกาะแขนของแบคฮยอนไว้แน่นก่อนร่างทั้งร่างจะถูกดึงรั้งเข้าสู่อ้อมกอด บังคับให้เขาที่แทบจะไม่มีแรงยืนซุกเข้าหาอกกว้างนั่นอย่างเลี่ยงไม่ได้

    “แบคฮยอน เรา..”

    “เงียบ” ไม่ปล่อยให้จงแดได้พูดอะไร แบคฮยอนพรูลมหายใจออกมา เผลอกอดรัดร่างผอมๆนั่นไว้อย่างหวงแหนเมื่อเผลอพาลคิดไปถึงใบหน้าหล่อเหลาของคิม มยองซู ยิ่งเหลือบไปเห็นพวงกุญแจรูปเป็ดที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นข้างๆแว่นตาสีดำอันโตของจงแดที่เขาเป็นฝ่ายถอดมันตั้งแต่เริ่มจูบคนตัวผอมในอ้อมแขนนี่แล้วด้วย

    แบคฮยอนอยากจะเอามันไปทิ้งให้ไกลๆตาจริงๆ

     

     

    “เลิกเป็นแบบนี้สักทีได้ไหมจงแด”เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากที่สงบสติอารมณ์ได้กว่าครึ่ง เขาพึมพำในลำคอ แต่คนตัวผอมที่อยู่ในอ้อมกอดก็ยังได้ยินมันชัดเจน จงแดเผลอกัดปากเมื่อเผลอคิดว่าตัวเองทำเรื่องให้แบคฮยอนไม่พอใจอีกแล้ว

    “...”

    “ทำไมถึงชอบทำตัวแบบนี้นะ ทั้งๆที่เคยบอกไปแล้ว แต่ทำไม..จงแด”เพราะเสียงสะอื้นที่หลุดรอดออกมาทำไห้แบคฮยอนเบิกตากว้าง ดันร่างผอมๆนั่นออกมาจากอ้อมกอดก็พบว่าตากลมของอีกฝ่ายคลอไปด้วยหยาดน้ำตาเสียแล้ว

    “จงแดยา..อย่าร้องสิ”คำพูดที่เตรียมไว้เมื่อครู่เลือนหายไป แบคฮยอนแทบอยากจะตบหน้าตัวเองสักสิบรอบเมื่อคิม จงแดร้องไห้โฮและโผเข้ากอดเขาไว้แน่น ปากเล็กๆนั่นพร่ำขอโทษเขาซ้ำๆเสียจนเขาทำอะไรไม่ถูก

    “แบคฮยอน ฮึก อย่าโกรธเรานะ ฮึก”

    “จงแดยา พี่ไม่ได้โกรธเรานะ อย่าร้องสิ”แบคฮยอนยกมือลูบผมอีกฝ่ายเบาๆ โยกตัวคนในอ้อมแขนไปมาคล้ายกับกำลังปลอบเด็กตัวน้อยๆ ได้ทันได้รู้ตัวว่าเผลอใช้คำแทนตัวเองที่ไม่เหมือนเดิม

    “ไม่ได้โกรธแต่ก็ไม่ชอบใช่มั๊ย ที่เราแต่งตัวแบบเมื่อวาน”ตากลมที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตาช้อนมอง แบคฮยอนไม่รู้ว่าเขาบ้ามากหรือเปล่าถึงได้มองดวงหน้าที่เลอะไปด้วยน้ำตาของอีกคนว่ามันน่ารัก

    “...”

    “เราไม่ได้น่ารัก แบคฮยอนเลยไม่ชอบอื้อ..”ปากเรียวชิงหยุดประโยคเหล่านั้นไว้ทันควัน แบคฮยอนทำเพียงแค่กดจบริมฝีปากนั่นก่อนจะถอนออก มือเรียวเกลี่ยหยาดน้ำตาข้างแก้มของอีกฝ่ายออก พร้อมกับรอยยิ้มบางเบาที่ประดับบนใบหน้า

    “ไม่ชอบ..”เชยคางของคนที่เหมือนจะร้องไห้อีกรอบขึ้นมาสบตา “ไม่ชอบที่จงแดแต่งตัวน่ารักๆแบบนั้นให้คนอื่นเห็นต่างหาก “

    “...”

    “ไม่รู้หรือไง ว่าพี่หวง ยิ่งเห็นสายตาของคนที่มองจงแดพี่ยิ่งหงุดหงิด โดยเฉพาะไอ้มยองซูอะไรนั่นน่ะ ยิ่งน่าโมโห”

    “...”จงแดเหมือนจะยังงุนงงกับคำพูดของคนตรงหน้า คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน จนแบคฮยอนอดหัวเราะกับความน่ารักของแฟนตัวเองไม่ได้

    ก็เพราะคิม จงแดเป็นแบบนี้

    “ก็ชอบทำตัวน่ารักแบบนี้ แล้วพี่จะไม่หึงได้ยังไง”

     

    ฉ่า..

    จงแดรู้สึกเหมือนหน้าตัวเองร้อนเหมือนจะไหม้ คำว่า หึง พร้อมกับรอยยิ้มกว้างๆของแบคฮยอนทำเอาเขาไปไม่เป็น สมองคิดประมวลผล ก่อนจะเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด ที่แบคฮยอนไม่ชอบให้เขาถอดแว่น ไม่ใช่ว่าเขาน่าเกลียด แต่เป็นเพราะหวง ที่ไม่ให้เขายุ่งกับมยองซู นั่นก็เพราะหึง

    “ทีนี้ก็รู้แล้วนะ ว่าทำไม?”

    “อือ”พยักหน้าขึ้นลง แต่ก็ยังไม่กล้ามองหน้าแบคฮยอนอยู่ดี จนสุดท้ายก็โดนอีกฝ่ายรั้งเอวให้เขามาแนบชิดพร้อมกับปลายคางที่ถูกบังคับให้เงยขึ้นสบตาอีกครั้ง

    “ที่เป็นแบบนี้ ก็เพราะ พี่รัก จงแดนะ”

    “...อือ”ร่างผอมพยักหน้าขึ้นลง ก่อนจะฉุกคิดได้ว่าสรรพนามที่แบคฮยอนใช้แทนตัวเองเปลี่ยนไป แถมพออีกฝ่ายเรียกตัวเองว่าพี่แล้วมันกลับฟังคุ้นหูอย่างประหลาด “ว่าแต่ทำไม แบคฮยอนแทนตัวเองว่าพี่ล่ะ?”

    แบคฮยอนหัวเราะ ก่อนจะยิ้มใส่คนในอ้อมแขนที่หน้าแดงลามไปถึงใบหู พร้อมกับประโยคสุดท้ายก่อนอ้อมแขนจะคลายออก

    “คิดแล้วเชียวว่าลูกเป็ดขี้เหร่ต้องจำไม่ได้”

     

     

     

     

    -----두근거려-----

     

     

                                                                                      

     

    จงแดได้แต่นั่งทำตาปริบๆจ้องม่าม้าคนสวยของตัวเองหัวเราะคิกคักกับแบคฮยอนราวกับรู้จักกันมานานแสนนาน ตากลมมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของม่าม้า ก่อนจะหันกลับมามองหน้าของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

    “อ่าว นี่แบคฮยอนยังไม่ได้บอกน้องอีกหรอเนี่ย”คนอายุมากสุดในบ้านเอ่ยถามว่าที่ลูกเขย ตากลมแบบที่ถ่ายทอดมาให้จงแดยกยิ้มมองดูใบหน้างุนงงของลูกชายด้วยความชอบใจ

    “ม่าม้าคือ...”

    “เดี๋ยวให้พี่เค้าอธิบาย ม่าม้าไปแต่งตัวก่อนเดี๋ยวไม่ทันนัดวันนี้”ไม่ทันได้เอ่ยถามความสงสัย คุณแม่ก็ลุกขึ้นเอ่ยขัดเสียก่อน จงแดได้แต่อ้าปากค้างมองตามแผ่นหลังของม่าม้าก่อนจะหันกลับมาจ้องหน้าแบคฮยอนอย่างขอคำตอบ คนที่ถูกจ้องทำเพียงยกมือขึ้นวางบนหัวเขาแล้วโยกไปมาพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ แต่ทว่ากลับไม่ยอมอธิบายอะไรเลยเลย

     

    “บอกเรามาเดี๋ยวนี้เลยนะ!!

     

     

     

    “ใจร้าย ทำไมไม่ยอมบอกว่ารู้จักกับม่าม๊า”เสียงบ่นงุ้งงิ้งของคนที่นอนซบอยู่บนอกทำเอาแบคฮยอนยิ้มขำ ตั้งแต่ที่เจ้าตัวรู้ความจริงว่าเขาคือลูกชายของเพื่อนสนิทแม่ตัวเองก็ทำหน้ายู่บ่นงุ้งงิ้งใส่เขาไม่ยอมหยุด แบคฮยอนลูบกลุ่มผมนิ่มๆที่อยู่ในระดับสายตา อีกมือก็กระชับเอวบางๆของเจ้าของห้องให้แนบชิดกันมากขึ้น

    “ก็ใครจะไปรู้ว่าคนแถวนี้จะขี้ลืม จนถึงขนาดจำคนที่ตัวเองขอแต่งงานตั้งแต่เด็กไม่ได้”

    “ก็นั่นมันตั้งนานแล้วนี่...”ทำปากยู่อย่างที่ทำบ่อยๆก่อนจะเงียบไปและเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงหงอยๆ “ แต่แบคฮยอนไม่โกรธเรานะ”

    “ใครจะไปโกรธลง น่ารักขนาดนี้ หืม”ไม่พูดเปล่ากดจมูกลงกับกลุ่มผมนุ่มที่อยู่ไม่ไกล จงแดกอดกระชับเอวของแบคฮยอนแน่นขึ้น พร้อมกับแก้มร้อนๆที่ซุกซบลงบริเวณหน้าอกข้างซ้าย

    เขิน จงแดเขินจนจะตัวแตกอยู่แล้ว ก็แบคฮยอนน่ะไม่เคยชมเขาว่าน่ารักเลยนี่นา

     

    “ตรงนี้ของแบคฮยอนเต้นแรงจัง...”

    “...อือ ก็นั่นมันเพราะใครล่ะ”

    “เหมือนเราเลย “พูดพร้อมกับหัวเราะคิกคักคล้ายชอบใจ แบคฮยอนยิ้มกว้างก่อนจะผุดลุกอย่างรวดเร็วเสียจนคนที่ไม่ทันตั้งตัวถูกดันให้เป็นฝ่ายนอนราบไปกับพื้นเตียง ตากลมเบิกกว้างแต่เพียงชั่วครู่ก็เปลี่ยนเป็นทำหน้ายู่บ่นงุ้งงิ้งใส่เขา

    “งือ แบคฮยอนอย่าแกล้งเรา”

    “ก็อย่าทำตัวให้น่าฟัดนักสิ”

    “เราไปทำแบบนั้นตอนไหนกัน?”

    “ก็นี่ไง จ้องตาแป๋วๆแบบนี้ใครเขาจะอดใจไหว”

    “เราก็ไม่เคยไปจ้องใครแบบนี้สักหน่อย..”

    “...”

    “เคยแต่กับแบคฮยอนนั่นแหละ อ๊ะ แบคฮยอน”หมดความอดทนจนได้ คิม จงแดไม่รู้ตัวเลยหรือไงนะว่าแค่อยู่เฉยๆก็ทำให้เขาคลั่งจนจะบ้าตายอยู่แล้ว แล้วนี่ยังมายั่วกันด้วยท่าทางไร้เดียงสาพร้อมกับ คำพูดซื่อๆนั่นอีก แก้มขาวๆถูกจมูกโด่งๆฟัดหลายสิบทีด้วยความหมั่นเขี้ยว เจ้าตัวเบี่ยงหน้าหลบแต่แบคฮยอนก็ยังไม่ยอมแพ้ตามไปจุ๊บแก้มขาวๆนั่นเสียอีกหลายทีจนกระทั่งจงแดเหนื่อยแล้วนอนอยู่นิ่งๆให้คนเจ้าเล่ห์ได้เอาเปรียบแก้มนุ่มๆนั่นจนกว่าจะพอใจ

     

    “ทำไมชอบรังแกเรานักนะ”หลังจากโดนฟัดแก้มจนตัวแดง แล้วถูกอีกฝ่ายดึงรั้งเข้ามากอดแนบอกจงแดก็ได้แต่บ่นอีกรอบ ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจของคนข้างๆก่อนจะรู้สึกอุ่นวาบเมื่ออีกฝ่ายก้มลงมาจุ๊บที่ขมับเขาอีกรอบ

    “นอนเถอะ” แบคฮยอนเปลี่ยนเรื่องพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น จงแดได้แต่ยู่ปากใส่ กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ริมฝีปากบางแย้มยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงนุ่มเอ่ยขึ้นข้างๆหู มันไม่ใช่คำบอก ฝันดี แต่มันเป็นคำที่ทำให้จงแดฝันดีได้ไม่แพ้กัน

    “รักนะครับ”

     

    จงแดเองก็รักแบคฮยอนมากเหมือนกันนะ~~~~  Good night

     

     

     

     

    ~~~~Special~~~~

     

     

     

    “ทำไมบยอนต้องให้เค้าเรียกว่าพี่ด้วยล่ะ อายุเท่ากันแท้ๆ”เด็กน้อยคิม จงแดในวัยห้าขวบจ้องมองเด็กชายอีกคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า มือเรียวเล็กนั่นกำลังเช็ดเศษดินบริเวณหัวเข่าของเขาออกให้อย่างเบามือ คนที่ถูกเรียกว่าบยอนเงยหน้าขึ้นมาสบตาคนที่นั่งอยู่สูงกว่าก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง

    “ก็เราอยากเป็นพี่ไง จะได้ปกป้องจงแดได้”

    “ไม่เห็นจำเป็นเลย ไม่เป็นพี่ บยอนก็ปกป้องเค้าอยู่แล้ว”เด็กตัวน้อยยู่ปากอย่างไม่เข้าใจ แบคฮยอนส่ายหัวก่อนจะจับมือน้อยๆที่เปื้อนฝุ่นเพราะโดนคนอื่นแกล้งมาเป่าเบาๆ

    “ไม่เจ็บแล้วนะ”จงแดพยักหน้าน้อยๆก่อนจะกล่าวขอบคุณ แบคฮยอนลุกขึ้นมานั่งเคียงข้าง ก่อนจะถูกมือเล็กๆนั่นสะกิด เด็กชายเจ้าของดวงตาเรียวหันไปอย่างไม่เข้าใจก่อนจะตกใจจนเกือบตกม้านั่งเมื่อริมฝีปากสีชมพูของจงแดประทับเข้าที่ข้างแก้มจนได้ยินเสียงดัง

    จุ๊บ

    “ขอบคุณนะ เค้าชอบบยอนที่สุดเลย”

    “อื้อ เราก็ชอบจงแด ที่สุด”เกาแก้มด้วยความเขินอาย แบคฮยอนรู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมา ยิ่งเมื่อหัวกลมๆของคนข้างกายเอนซบลงที่บ่าเล็กๆของเขา แบคฮยอนยิ่งรู้สึกอย่างปกป้อง ก่อนที่ฝ่ามือน้อยๆของคนข้างกายจะจับมือเขาประสานแน่น เสียงเจื้อยแจ้วของจงแดยังคงดังข้างหู แต่ประโยคสุดท้ายที่เจ้าตัวเอ่ยกับเขา และไม่มีทางลืม แม้ว่าจะผ่านมาซักกี่ปีแล้วก็ตาม

    “บยอน เรามาแต่งงานกันมั๊ย?”

    “เอาสิ”

     

     

     

    ขอแล้วก็ต้องแต่งจริงๆนะ จงแด ของพี่แบคฮยอน

     

     

     

    END~~~~


    จบจริงๆแล้วนะคะ คราวนี้ อาจจะงงๆหน่อย เจอกันเรื่องหน้านะคะ ขอบคุณสำหรับคนที่ติดตามและคอมเม้นให้กำลังใจนะคะ รักทุกคนที่รักน้องเฉินน้าาาาา ~~~~~-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×