คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : GIVE LOVE : CHANCHEN
Title : Give Love
Pairing : ChanChen
ที่แกล้งก็เพราะว่าชอบนั่นแหละ...
“ย๊าส์ ทำอะไรของนายเนี่ย” เสียงแหลมแว๊ดลั่นจนสมาชิกและเหล่าสตาฟท์หันมามองเป็นสายตาเดียวกัน
คิมจงแดกำลังยกมือข้างหนึ่งปิดหู
ใบหน้าน่ารักของกัปตันบีเกิ้ลกำลังบูดบึ้งสลับกับแดงก่ำสายตาของเจ้าตัวจ้องมองหน้าเพื่อนร่วมวงตัวสูงด้วยความไม่พอใจ
ก่อนจะค้อนขวับสะบัดก้น ขยับเข้าไปเกาะแขนพี่ชายใจดีอย่างอี้ชิงที่เพิ่งเดินเข้ามาอย่างงงๆ
“พี่อี้ชิง
ชานยอลมันแกล้งผมอีกแล้วอ่ะ”ริมฝีปากปางเบะออก
เอ่ยฟ้องพี่ชายชาวจีนพร้อมทั้งชี้มือชี้ไม้ไปยังเจ้าตัวต้นเหตุที่ทำแค่กอดอกมองแล้วยักคิ้วเป็นเชิงว่า
แล้วทำไม ส่งมาให้ คิมจงแดหน้าบูด คิ้วจนจะชนกัน ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อคยองซูเดินเข้ามาแล้วฟาดมือบนหลังของชานยอลอย่างจัง
คยองซูน่ารักที่สุด!!
“แกล้งจงแดทำไม?”
“อะไรวะ ไม่ได้แกล้งอะไรสักหน่อย”ชานยอลร้องโวยวาย เมื่อสบเข้ากับตากลมโตของเพื่อนสนิท คยองซูหรี่ตามอง
ก่อนจะเดินเลยออกไป ไม่ลืมยกมือวางแหมะบนหัวเพื่อนตัวผอมอย่างหมั่นเขี้ยว
พร้อมทั้งขยิบตาให้เป็นเชิงว่าจัดการให้แล้วนะ ทิ้งให้คิมจงแด
ทำสีหน้าพึงพอใจแลบลิ้นปริ้นตาใส่ชานยอลอยู่อยู่ข้างๆอี้ชิง
จนคนเป็นพี่อดลูบหัวเจ้าตัวแสบด้วยความเอ็นดูไม่ได้
ก็เพราะทำตัวแบบนี้แหละใครๆถึงชอบแกล้ง..
“ขี้ฟ้องว่ะ”
“ว่าไงนะ” เจ้าตัวแสบหันขวับเมื่อชานยอลแกล้งพูดเสียงดังใส่
อี้ชิงส่ายหัว ก่อนจะผละเดินออกห่าง ปล่อยให้บีเกิ้ลสองตัวส่งสายตาฟาดฟันกันต่อไป
คิมจงแดกำมือแน่น ในใจอยากจะพุ่งเข้าไปจับปาร์คชานยอลเขย่าให้หัวหลุดจากบ่า
นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องขึ้นเวทีอีกไม่กี่นาทีนี่ล่ะก็นะ
เพราะฉะนั้นที่ทำได้เลยมีแค่กำมือแน่น
แล้วนับหนึ่งถึงสิบในใจ
“เป็นเด็กขี้ฟ้องหรอ?”ชานยอลขยับเข้ามาใกล้ กอดอกแล้วยื่นหน้าลงมาหาคนตัวเตี้ยกว่า
แววตาล้อเลียนถูกส่งไปให้อีกฝ่ายจนเจ้าตัวถึงกับหลับตากลั้นความโกรธ
“ก็แล้วนายมาแกล้งเราทำไม?”
“ก็อยากแกล้ง ทำไม แกล้งไม่ได้หรอ?”
กวนตีน..
คิมจงแดสะบัดหน้าหนี
หลังจากที่คิดได้ว่าถึงเถียงต่อไปปาร์ค ชานยอลก็ต้องหาเรื่องแกล้งเขาอีกแน่ ก้าวฉับๆผ่านร่างสูงของอีกฝ่ายไปอย่างไม่อยากเสวนาด้วย
แต่ปาร์คชานยอลก็ยังไม่ยอมจบง่ายๆ
มือใหญ่คว้าข้อมือเล็กไว้ดึงรั้งจนร่างผอมๆปลิวมาติดแหมะอยู่กับตัว แขนยาวเอื้อมมากอดรอบคอคนตัวเล็กไว้กันหนี
คิมจงแดเลยร้องลั่น
“ย๊าส์ ไอ้บ้าชานยอล”
“โอ๋ โอ๋ ดึงแรงไปหน่อย”คนตัวสูงแทบไม่ได้สนใจเสียงแหลมที่แว๊ดลั่นหรือสายตาที่จ้องมายังกับจะกินเลือดกินเนื้อ
ริมฝีปากอิ่มกระตุกยิ้ม มองเพื่อนตัวเล็กที่เริ่มดิ้นเต็มแรง แต่ก็เหมือนจะเหนื่อยเปล่าๆก่อนมือเล็กนั่นจะฟาดเข้าที่อกเขาเมื่อเห็นว่าไม่มีทางสู้ได้แล้ว
เจ็บ..
คิมจงแดมือหนัก
จนชานยอลยอมปล่อยอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ แต่ถึงอย่างนั้นริมฝีปากกลับยิ้มกว้าง
“นายเป็นอะไรนักหนาเนี่ย
เลิกแกล้งกันสักทีมั๊ย?”ตากลมจ้องมองใบหน้าทะเล้นของคนตรงหน้านิ่ง
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน แววตาฉายแววไม่เข้าใจ
ก่อนขยับตัวหลบเมื่อมือใหญ่ๆนั่นยื่นมาแต่ก็ไม่พ้น
ปาร์คชานยอลวางมือไว้บนหัวกลมๆนั่นอย่างเหมาะเจาะ ยิ่งเห็นปากบางๆยู่ใส่
รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งกว้างขึ้น
ก็เป็นแบบนี้จะให้เลิกแกล้งได้ยังไง...
“ไม่เลิกหรอก แกล้งนายแล้วสนุกดี..”
ต่อ
ทีแรกก็นึกว่าจะเพลาๆลงบ้างถ้าเขายอมแล้วก็ทำเป็นไม่สนใจแต่กลับกลายเป็นว่า
มันยิ่งหนักข้อขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
แกล้งกันด้านหลังเวทีเขาก็ไม่ได้เอามาใส่ใจนักหรอกเพราะแทบจะชินชา
แต่แบบนี้มันเกินไปไหม
เพี๊ยะ!
มือเล็กตีเข้าที่มือของอีกฝ่ายที่ยื่นมาจับเข้าที่ก้นของตัวเองอย่างแรง
คิมจงแดได้แต่กัดริมฝีปากส่งยิ้มแหยๆให้แฟนคลับที่กำลังกรีดร้องกัน
ก่อนจะก้าวเท้าขึ้นเวทีเร็วๆเพื่อหนีเจ้าของร่างสูงแต่คนตัวสูงก็ยังพาขายาวๆของเจ้าตัวก้าวตามมาประชิดก่อนจะ
หมับ
คว้าเข้าที่ก้นเขาอีกครั้ง
“ย๊าส์!”
นี่มันไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งแล้วนะ
ข้างล่างเวทีหมอนี่ก็ทำแบบนี้มาสามสี่รอบแล้วด้วย
คนตัวเล็กได้แต่บ่นอยู่ในใจพร้อมกับส่งยิ้มตาปิดให้กับเหล่าเอ็กโซแอลที่มาเข้าร่วมการอัดในวันนี้ทั้งๆที่อยากจะพ่นไฟใส่หน้า
ไอ้คนที่ทำหน้าตาไม่ทุกข์ร้อนราวกับการสกินชิฟอย่างเช่นการจับก้รเป็นเรื่องธรรมชาติ
ยิ่งเห็นแฟนคลับพากันกรี๊ดกร๊าดปาร์ค ชานยอลก็เหมือนยิ่งได้ใจ
คิมจงแดเว้นระยะห่างจากชานยอล ตากลมมองเหล่าแฟนๆที่ทำสีหน้าฟินแล้วเผลอยู่ปากใส่
“พวกคุณชอบแบบนี้กันหรอเนี่ย”คนตัวเล็กเอ่ยถามด้วยท่าทีน้อยใจเมื่อเห็นว่าแฟนๆดูจะชอบใจที่เขาเป็นฝ่ายถูกแกล้ง
ยิ่งได้ยินเสียงเหล่าแฟนๆตอบกลับมาเป็นเสียงเดียวกันว่าชอบ คิมจงแดก็ยิ่งหน้างอ
อะไรกัน
ทำไมแฟนๆชอบอะไรแบบนี้กันเนี่ย
ชอบให้เขาโดนปาร์ค
ชานยอลจับก้นเล่นเนี่ยนะ ประหลาดกันเกินไปแล้ว!!
เพราะมัวแต่คิดถึงเหตุผลที่แฟนๆพากันชอบเลยไม่ทันได้เห็นว่าคนที่เป็นตัวต้นเหตุยิ้มกริ่ม
ขายาวขยับเข้ามาใกล้คนตัวเล็กที่ยืนทำหน้าตาน่าแกล้งอีกครั้ง
คิมจงแดมักจะเอาแต่สงสัยว่าทำไมทุกคนถึงชอบแหย่
ชอบแกล้งเจ้าตัว จงแดน่ะไม่เคยรู้ตัวหรอกว่าตัวเองน่ารัก น่าแกล้งมากขนาดไหน
ยิ่งเวลาที่ทำหน้าตาท่าทางแบบนี้
“เฮ้ย”
โดยไม่ทันตั้งตัวร่างของเขาก็ถูกปาร์ค
ชานยอลพุ่งใส่สุดตัว แขนยาวโอบรัดทั้งร่างจนจงแดเซถลาไปด้านหลัง
คนตัวเล็กแทบจะจมกับอกของอีกฝ่าย
เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วในขณะที่จงแดเหมือนสมองหยุดประมวลผลไปชั่วขณะ
ตึกตัก ตึกตัก
แต่เขาได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองชัดเจน
ผลั่ก!!
ใบหน้าขาวขึ้นสีระเรื่อกระพริบตาปริบๆ
รู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองมันจะกระดอนออกม่นอกอก
ขาเล็กขยับถอยห่างจากปาร์คชานยอลอีกก้าวนึกขอบคุณที่แสงไฟหลากสีช่วยอำพรางเฉดสีบนใบหน้า
จงแดได้แต่ผ่อนลมหายใจเข้าออกก่อนจะหัวเราะแหะๆปิดบังเสียงเต้นรัวในอกที่แสนน่ารำคาญยกมือเท้าสะเอวจ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาแฝงความไม่พอใจ
(ซึ่งมันดูน่ารักน่าชังเหลือเกิน)แต่ปาร์ค ชานยอลก็ยังเป็นปาร์ค
ชานยอลอยู่วันยังค่ำ อีกฝ่ายก๊อปปี้ท่าทางของเขา แถมยังยักคิ้วหลิ่วตามาให้
จนอยากจะฟาดสักที
ชอบนักสินะที่ทำให้เขาอายน่ะ
คนตัวเล็กขยับถอยหลังแทบจะทันทีที่ชานยอลขยับตัวจงแดมองอีกฝ่ายด้วยความหวาดระแวงและเสี้ยววินาทีที่หมอนั่นเดินผ่านไป
ริมฝีปากอิ่มของอีกฝ่ายก็ยังขยับเป็นประโยคที่ไร้เสียงให้เขาได้แต่เข่นเขี้ยวในใจ
“ก้นนุ่มดีนะ”
นุ่มบ้าบอคอแตกอะไรวะ
ไอ้บ้าเอ้ย
“สนิทกันขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยนี่”เสียงเรียบๆของแบคฮยอนทำให้มือที่กำลังจะส่งขนมเข้าปากหยุดชะงัก
ตากลมหันขวับมาหาเพื่อนสนิทวัยเดียวกันที่นั่งเล่นเกมส์อยู่ข้างๆก่อนจะวางขนมชิ้นนั้นลงในจานอย่างเดิม
รู้สึกเบื่ออาหารขึ้นมากะทันหันเลยทีเดียว
“หมายถึงใคร?”
“ชานยอลไง
ก็มีอยู่คนเดียวไม่ใช่หรือไงที่ตัวติดกับนายอยู่ตอนนี้น่ะ”
“ใครอยากจะไปสนิทด้วยล่ะ”
“หือ ไม่ดีหรือไง
เมื่อก่อนเห็นบอกว่าอยากสนิทกับชานยอลมันนี่”
“ก็นั่นมันเมื่อก่อนนี่”จงแดว่าพลางทำปากยื่น
นึกไปถึงคำที่ตัวเองเคยพูดกับแบคฮยอนไว้ตั้งแต่สมัยเป็นเด็กฝึกหัด
ก็ได้แต่หงุดหงิด
ถ้ารู้ว่าเป็นคนขี้แกล้งอย่างนี้เขาจะไม่หลวมตัวไปสนิทกับไอ้บ้าขาโก่งหูกาง
นี่เด็ดขาดเลย
ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เห็นมีวี่แววว่าจะเป็นแบบนี้สักนิด
ป๊อก
“โอ๊ย มันเจ็บนะแบคฮยอน”เจ้าตัวยกมือขึ้นลูบหน้าผากก่อนจะแว๊ดใส่เพื่อนเสียงเขียว
แต่ก็ได้มะเหงกลูกเล็กลงตรงกลางหัวอีก
“ย๊าส์ ไอ้แบคฮยอน”
“ก็เมื่อกี้เหม่อทำไมล่ะ
นึกว่าหลับในเลยช่วยซ้ำ”พูดจบก็หยิบขนมเข้าปากเคี้ยวให้เกิดเสียงก๊อบแก๊บยั่วอารมณ์เพื่อนไปในตัว
ก่อนจะยิ้มกว้างพร้อมกับซี๊ดปากเมื่อโดนฟาดมาเต็มแรง
“ทำไมชอบแกล้งกันนักนะ ทุกคนเลย”
“ก็ทำตัวน่าแกล้งไม่รู้หรือไง”
“ไปทำแบบนั้นตอนไหน”
“เนี่ยก็แบบนี้ไม่แปลกหรอกที่ชานยอลมันจะชอบแกล้ง”แบคฮยอนว่าพลางส่ายหน้าให้เพื่อนที่ยังท่าทางไม่เข้าใจ
จ้องตากันไปมาอยู่หลายรอบสุดท้ายคิมจงแดก็หมดความอดทน มือเล็กฟาดใส่ไหล่เพื่อนซ้ำๆแบบไม่ออมแรง
ที่ไม่ยอมให้คำตอบชัดเจนก่อน
หัวกลมๆขยับซุกลงบนไหล่เพื่อนสนิทหลับตาลงทั้งที่คิ้วยังขมวด
ทิ้งให้แบคฮยอนอมยิ้มมองด้วยความเอ็นดู
พอไม่ได้ดั่งใจก็ไม่พูดแต่ทำท่างอนได้น่ารักน่าชัง
นี่แหละคิมจงแดล่ะ
ก็เพราะชอบทำตัวแบบนี้ไง
ปาร์คชานยอลมันถึงชอบน่ะ
ชานยอลเดินหาวออกมาจากห้องนอน
เสียงทีวีที่ดังแว่วๆมาทำให้คนตัวสูงตัดสินใจเดินไปยังห้องนั่งเล่นแทนที่จะเป็นห้องครัวอย่างที่คิดไว้ตอนแรก
แต่แล้วขายาวก็หยุดชะงัก ก่อนคิ้วจะขมวดเข้าหากันแน่น
ทำไมจงแดต้องมานอนซบแบคฮยอนอยู่ตรงนี้…
“อ้าว ตื่นแล้วหรอ? หิวหรือยังล่ะ คยองซูทำอาหารไว้อยู่ในครัวน่ะ”แบคฮยอนเอ่ยทักเพื่อนตัวสูงก่อนจะใช้มือปัดผมที่ปรกหน้าผากจงแดออก
คนขี้เซาขยับตัวยุกยิกก่อนจะซุกตัวเข้าหาแบคฮยอนแน่น
มือเรียวขยับเอื้อมจะจัดท่าทางให้เพื่อนนอนสบาย
แต่กลับกลายเป็นว่ายังไม่ทันได้ทำอะไร
ไอ้คนที่เมื่อครู่ยืนอยู่ห่างเกือบเมตรกลับมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ
แขนยาวๆนั่นขยับช้อนร่างของจงแดเข้าไปพาดไว้บนตักจับใบหน้าที่กำลังหลับตาพริ้มนั่นซุกกับอกหน้าตาเฉย
“เบาๆหน่อยเดี๋ยวตื่นขึ้นมาจะยุ่ง”แบคฮยอนทำเป็นไม่เห็นสายตาไม่เป็นมิตร
เอ่ยเสียงดุใส่คนที่หึงไม่เป็นเวล่ำเวลา
ทั้งๆที่ก็รู้คิมจงแดถ้าถูกปลุกขึ้นมาตอนที่กำลังฝันดีน่ะงอแงน้อยซะที่ไหน
เดี๋ยวก็พาลโดนงอนทั้งคู่เสียหรอก
“หมอนี่หลับลึกจะตายนายก็รู้”
“แต่ก็อาจจะตื่นได้อยู่ดี
ถ้าขืนนายกอดไว้ไม่ปล่อยขนาดนั้น”แบคฮยอนหรี่ตาจ้องแต่ชานยอลมันก็ทำเมินซ้ำยังกระชับร่างผอมๆนั่นแน่นขึ้นเป็นการท้าทายเสียอีก
“แล้วทีเมื่อกี้นายยังกอดจงแด..”กำลังจะเถียงแต่เหมือนจะใช้เสียงดังไปหน่อย ร่างผอมในอ้อมแขนเริ่มขยับตัว
ส่งเสียงพึมพำ จนทั้งคู่ตาโต
“อือ..”
ชานยอลทำในสิ่งที่แบคฮยอนได้แต่กระพริบตามองปริบๆ
มือใหญ่ลูบผมนุ่มของอีกฝ่ายเบาๆ
แววตาที่ทอดมองคิมจงแดมันบอกความรู้สึกของเจ้าตัวชัดเจน
จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเจ้าของร่างที่หลับไม่รู้เรื่องราวลืมตาขึ้นมาตอนนี้จะเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของเขาหรือเปล่า ก้มใบหน้าลงไปกระซิบข้างใบหูปลอบประโลมเด็กน้อยในความคิดให้กลับเข้าสู่ห้วงนิทรา
ราวกับจะไม่ยอมให้อะไรมาทำลายช่วงเวลาแห่งความฝันของคิมจงแดโดยเด็ดขาด
ก่อนที่ริมฝีปากจะแตะลงแผ่วเบาบนหน้าผากเพียงแค่นั้นคิมจงแดก็เงียบลงโดยอัตโนมัติ
“จ้องขนาดนั้นก็กลืนมันเข้าไปเถอะ”ริมฝีปากอิ่มยกยิ้ม
เมินเฉยคำเอ่ยแซวของแบคฮยอนก่อนจะขยับตัวยืนขึ้นช้อนร่างผอมบางไว้ในอ้อมแขน
จุดมุ่งหมายคือเตียงนุ่มๆของคนขี้เซาที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราว
มันคงจะดีกว่าให้นอนพับคออ่อนซบใครต่อใครที่ไม่ใช่เขาแบบนี้
แต่ยังไม่ทันก้าวเดินเสียงของเพื่อนร่วมก๊วนบีเกิ้ลก็ดังขึ้น
“ก็ชอบมันขนาดนี้ จะแกล้งมันทำไม”
“หึ ก็ไม่รู้สิ คงเพราะเวลาจงแดโกรธ
มันดูน่ารักขึ้นเป็นพิเศษมั้ง”
“ประสาท..”
แบคฮยอนเบ้ปากมองเพื่อนตัวสูงที่ไม่ปฏิเสธเรื่องความรู้สึกตัวเอง
แต่มีวิธีการเรียกร้องความสนใจจากคนที่ชอบด้วยการแกล้งให้อีกฝ่ายโกรธแล้วก็ได้แต่ส่ายหัว
“ไม่ชัดเจนสักที แถมเอาแต่แกล้ง
เดี๋ยวจงแดมันจะเกลียดก่อนจะชอบน่ะสิ”
ตรรกะผู้ชายมักจะแกล้งคนที่ตัวเองชอบน่ะ
คิมจงแดมันไม่รู้ด้วยหรอกนะ ปาร์คชานยอล...
หงุดหงิดที่สุดเลย
ใบหน้าน่ารักกำลังหงิกงอโดยที่เจ้าตัวไม่คาดคิด
ตากลมจ้องมองร่างสูงของคนที่เอาแต่แท็กทีมกับมักเน่แกล้งคยองซูด้วยความไม่พอใจ
ยิ่งเมื่อปาร์คชานยอลคว้าคอคยองซูเข้ามากอด เหมือนกับที่เคยทำเป็นประจำ คิมจงแดก็ผุดลุกขึ้นอย่างแรงจนเก้าอี้ลากครูดกับพื้นเสียงดัง
เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานเมื่อครู่หยุดลง
พร้อมกับสายตาของเมมเบอร์หันมามองจงแดด้วยความงุนงง รวมถึงตัวต้นเหตุนั่นด้วย
คนตัวผอมกัดริมฝีปากตากลมสบกับชานยอลเพียงชั่วครู่
ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปจากห้องนั่งเล่น เขาแค่รู้สึกว่าไม่อยากอยู่ตรงนี้
ชานยอลปล่อยมือจากคอคยองซูมองตามแผ่นหลังผอมบางไป
ก่อนขายาวจะขยับก้าวตามอย่างเคยชิน แต่ทว่าก็ถูกรั้งไว้ด้วยมือของเซฮุน
“อย่าเพิ่งไปกวนจงแดฮยองเลย
เดี๋ยวก็โดนโกรธหรอก”เพราะไม่รู้เหตุผลว่าพี่ชายตัวผอมเป็นอะไรแต่จากประสบการณ์ของเซฮุนเองแล้วจงแดเวลาโมโหน่ากลัวไม่แพ้พี่อี้ชิงหรือพี่จุนมยอนเลย
ต่อให้เป็นพี่ชานยอลก็รับมือไม่ไหวหรอก สมาชิกพยักเพยิดเป็นเชิงเห็นด้วย
แต่ชานยอลกลับส่ายหน้า
“ก็โดนโกรธอยู่ไง
ไปทำให้โกรธเพิ่มคงไม่แย่ไปกว่านี้หรอก” ชานยอลยิ้ม
ยิ้มเพราะรู้ดีว่าตัวเองคือสาเหตุที่ทำให้คนจงแดโกรธ
แกะมือน้องออกก่อนจะวิ่งตามร่างของคิมจงแดไป
ทิ้งให้เมมเบอร์ได้แต่มองหน้ากันด้วยความไม่เข้าใจ
เขายังยืนยันคำเดิมเวลาจงแดโกรธน่ะ
มันน่ารักจริงๆ
เขาไม่เข้าใจตัวเองเลย
ไม่เข้าใจจริงๆนั่นแหละ
คิมจงแดแนบใบหน้าลงบนโต๊ะอาหาร
ภายในห้องครัวเงียบงันเพราะเมมเบอร์พากันไปรวมตัวที่ห้องนั่งเล่นชั้นบนกันหมด
ชั้นที่เป็นห้องพักของเขาก็เลยเงียบเพียงพอที่จะควบคุมความรู้สึกฟุ้งซ่านของตัวเอง
ทีแรกคิดว่ามันจะดีขึ้นซะอีกถ้าปาร์คชานยอลเลิกยุ่งกับเขา
เลิกกลั่นแกล้งเขา แต่ทำไมล่ะ ทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้
เมื่อก่อนเขาก็ไม่เคยรู้สึกอะไรที่เห็นชานยอลเล่นกับคนอื่นดีใจเสียด้วยซ้ำที่ไม่ต้องมีคนตัวสูงมาวุ่นวายแล้วทำไมตอนนี้
หน้าอกมันบีบรัดแน่นไปหมด
จนเหมือนจะหายใจไม่ออก...
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกมันเริ่มชัดเจนตั้งแต่ตอนไหน
เพราะเมื่อก่อนไม่สนิทกัน ตอนเจอครั้งแรกชานยอลก็ดูน่ากลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้ แต่เพียงแค่มองเข้าไปในวงล้อมก็เห็นเจ้าของร่างสูงโดดเด่นกว่าคนอื่นเสมอ
สายตาของเขาเหมือนถูกตรึงไว้ ความรู้สึกชื่นชมมันมีมาตั้งแต่แรก จนถึงขนาดบอกกับแบคฮยอนว่าอยากสนิทกับชานยอล
จนกระทั่งช่วงหลังๆที่ได้อยู่ด้วยกันบ่อยๆนั่นแหละถึงได้กล้าเล่นด้วยกัน
และจบลงตรงที่หมอนั่นชอบเอาแต่แกล้ง แต่สุดท้ายเมื่อย้อนกลับมาคิด
เขากับชานยอลก็ไม่ได้สนิทกันมากเท่ากับคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอดตั้งแต่ก่อนเดบิวท์อย่างคยองซูหรือเซฮุนอยู่แล้ว...
ก่อนมีเขาเข้ามาชานยอลก็ชอบแกล้งคยองซูมากอยู่แล้ว
เขาเองก็อาจจะเป็นแค่ตัวแทน..หรือไม่ก็เพราะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของอีกฝ่ายนั่นแหละถึงได้ชอบแกล้งกัน
แกล้งจนเขารู้สึกไปเองว่าความสัมพันธ์ของพวกเราขยับเข้าใกล้กันมากขึ้น
แต่ที่มากไปกว่านั้นคือความรู้สึกที่มันไม่ควรเกิดขึ้นนี่ต่างหาก
เพราะใกล้ชิดเลยรู้สึกหวั่นไหว...
สุดท้ายก็ต้องยอมรับ
ว่าชอบหมอนั่นเข้าซะแล้ว..
ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา
แต่กลับพบกับคนที่ไม่ควรจะเจอที่สุดยืนพิงประตูห้องครัวอยู่ใบหน้าหล่อเหลานั่นจ้องมาแถมยังยักคิ้วใส่อย่างไม่รู้สถานการณ์
จงแดกำหมัดแน่นก่อนจะผุดลุก ก้าวผ่านร่างสูงของอีกฝ่ายไปเร็วๆ แต่ก็ช้ากว่าปาร์ค
ชานยอลอยู่ดี มือเรียวคว้าเข้าที่ข้อแขนอีกฝ่ายไว้ดึงเบาๆคิมจงแดก็ไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้แล้ว
“ปล่อย”
“แล้วถ้าไม่ปล่อยล่ะ”ชานยอลตอบยียวนใบหน้าขี้เล่นนั่นก้มลงมาหาใบหน้าน่ารักที่กำลังแดงก่ำด้วยความโกรธ
กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อฝ่ามือเล็กนั่นฝาดมาที่อกตัวเอง เสียงแหลมๆนั่นตวาดลั่นให้เขาปล่อย
“ปล่อย บอกให้ปล่อยไงวะ
นายไม่เข้าใจหรือไง ปล่อย!!”
“งั้นก็ดิ้นให้หลุดสิ”ปาร์ค
ชานยอลไม่ได้สะดุ้งสะเทือนแต่กลับคว้าเอาแขนอีกข้างหนึ่งของอีกฝ่ายมาจับไว้
บังคับให้คิมจงแดเผชิญหน้า
รอยยิ้มที่จงแดเห็นมันมาตลอดเวลาที่ถูกกลั่นแกล้งประดับอยู่บนใบหน้า
ยิ่งเห็นเขาดิ้นเหมือนไม่มีแรงสู้ปาร์ค ชานยอลก็ยิ่งยิ้ม เพียงแต่รอยยิ้มนี้
ชานยอลเพิ่งยิ้มตอนที่กอดคยองซูเมื่อครู่
ไม่ดีเลย เขาไม่ชอบรอยยิ้มแบบนี้...
ตุ๊บ
แรงเฮือกสุดท้ายถูกใช้ไปจนหมดแต่กลับกลายเป็นว่าร่างทั้งร่างถูกดึงรั้งเขาไปกอดรัดไว้กับอก
จงแดไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้มเยาะ หรือมีความสุขมากขนาดไหนกับการได้กลั่นแกล้งเขา
แต่ปาร์ค ชานยอลทำเกินไปแล้ว มันเกินจะอดทนแล้ว และวินาทีนั้นคิมจงแดก็ระเบิดทุกอย่างออกมาเป็นน้ำตา..
“ฮึก..”
“..จงแด”เสียงสะอื้นของคนในอ้อมแขนทำให้ตาโตเบิกกว้างแววตาที่เมื่อครู่ฉายแววขี้เล่นกลายเป็นร้อนรน
ขยับคลายอ้อมแขน ก่อนจะพบว่าใบหน้าน่ารักนั่นแดงก่ำแถมยังเต็มไปด้วยหยดน้ำตา
เล่นแรงเกินไปงั้นหรอ..
“จงแดคือ..”
“เอาเลย ฮึก จะแกล้งอะไรก็ทำเลย..”เสียงสะอื้นพร้อมกับแววตาตัดพ้อส่งผลให้หัวใจคนฟังบีบรัดแน่น
เอื้อมมือจะเกลี่ยคราบน้ำตาให้ที่แก้มอีกฝ่ายก็ปัดออกอย่างไม่ใยดี
“...”
“ต้องทำถึงขนาดไหนหรอ ฮึก ต้องแกล้งกันมากขนาดไหน
ฮึก..ถึงจะพอใจล่ะ..”
“...”
“...ถึงจะไม่ชอบ..ก็บอกกันดีๆก็ได้หนิ
ทำไมต้อง..”
“ฉันไม่ได้เกลียด ไม่ได้ไม่ชอบนาย”ชานยอลเอ่ยแทรกก่อนประโยคคนตรงหน้าจะจบลง
ตากลมที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตามองจ้องตาเขาอย่างสับสน ชานยอลเอื้อมมือไปปาดน้ำตาให้อีกฝ่ายที่เหมือนยังคิดทบทวนกับคำพูดของเขา
ก่อนจะเอ่ยประโยคที่เหมือนเป็นกุญแจไขทุกอย่าง
“ที่แกล้ง..ก็เพราะว่าชอบ”
เขาหวังว่าจะเห็นคิมจงแดเขินอายกับคำสารภาพแบบตรงไปตรงมาแม้จะไม่ค่อยเข้ากับสถานการณ์ที่เขานั่งอยู่บนพื้นโดยมีคิมจงแดนั่งซ้อนอยู่บนตักแล้วเพิ่งจะหยุดสะอื้นจากการร้องไห้ไปหมาดๆนี่เท่าไหร่
แต่เหมือนมันจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
“ชอบคยองซูแล้วจะมาบอกทำไม..”คิมจงแดตาแดงก้มหน้าหลบในขณะที่ชานยอลได้แต่งุนงง
คิมจงแดกำลังพูดอะไร
“นี่จงแด..”
“รู้หรอกว่าชอบคยองซูก็เลยแกล้ง
แต่เราไม่ใช่คยองซูนี่ แล้วจะมาแกล้งเราทำไม นายมันไม่เข้าใจอะไรเลย..”
“เฮ้..”ตีความหมายไปไกลแล้วนะนั่น
“..ไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้น่ะมัน อื้อ”ริมฝีปากบางถูกปิดกันด้วยริมฝีปากของคนตรงหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว
ประโยคที่ตั้งใจจะเปิดเผยให้มันจบๆไปถูกกลืนหายไปในลำคอ
มือเรียวดันท้ายทอยของคนซื่อบื้อเข้าหาให้สัมผัสแนบแน่นขึ้น ดูดกลืนริมฝีปากและเกลียวลิ้นๆเล็กนั่นอย่างหมั่นเขี้ยว
ลงโทษเจ้าของริมฝีปากแสนหวานข้อหาที่คิดเองเออเอง แถมยังแปลคำสารภาพรักตรงๆของเขาไปทางอื่นอย่างไม่น่าให้อภัย
คิมจงแดพาโบ
ชอบขนาดนี้ ยังไม่รู้ตัวอีก...จะจูบให้ปากเจ่อไปเลยดีมั๊ย...
เสียงหอบหายใจดังอยู่ข้างหู
ใบหน้าของคิมจงแดซุกอยู่กับไหล่ หลังจากที่ริมฝีปากถูกเขาปล่อยให้เป็นอิสระ
ชานยอลยกยิ้มจ้องมองลำคอขาวๆก่อนจะกดจูบลงไปให้เจ้าตัวแสบสะดุ้งเบาๆ
จับแงะคนที่เอาแต่จะซุกใบหน้าหนีเขาจนสามารถจ้องตากันในระยะประชิดได้
ริมฝีปากของคนตัวเล็กบวมเจ่อ เป็นสีแดงจัดจนแทบจะอดใจไม่ไหว
แต่ชานยอลก็ได้แต่อดใจเอาไว้ก่อน อย่างน้อยๆก็ควรจะให้ทุกอย่างเคลียร์ก่อน
“ฉันเป็นคนขี้แกล้ง..กับคยองซูหรือกับเมมเบอร์คนอื่นก็เหมือนกัน..”
“...”
“แต่กับนายมันพิเศษ..”
“...”จงแดได้แต่เสตาหลบสายตาแพรวพราวของอีกฝ่าย
ความร้อนแห่มารวมตัวกันที่ใบหน้าจนเขารู้สึกได้
ยิ่งเมื่อเริ่มเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายกำลังจะสื่อ
“ถึงจะชอบแกล้ง..แต่ก็ไม่เคยจูบกับเมมเบอร์แบบนายหรอก”
“...”
“รู้ตัวได้แล้วจงแด ฉันชอบนาย
ชอบมากจริงๆ”
จงแดไม่ทันได้ตอบอะไรไปด้วยซ้ำ
ริมฝีปากร้ายกาจของคนขี้แกล้งก็ทาบทับลงมาอีกครั้ง ราวกับไม่ต้องการคำตอบ
แต่ความจริงแล้วปาร์ค ชานยอลรู้มันอยู่แล้ว
ก็ในเมื่อหัวใจของจงแดเต้นดังขนาดนี้...
ปาร์ค ชานยอลเป็นคนขี้แกล้ง ต่อให้เป็นแฟนกันแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะยกเว้น...
“ย่าส์ เอามือออกไปเดี๋ยวนี้นะชานยอล”คิมจงแดตวาดลั่นขยับตัวติดกับแบคฮยอนทันทีที่ก้นหลุดออกจากมือของคนขี้แกล้ง
แบคฮยอนส่ายหน้ากำลังจะขยับเดินหนี แต่จงแดก็ขยับมาเกาะแขนไว้
“แบคฮยอนชานยอลมันแกล้งอีกแล้ว”เอ่ยฟ้องเพื่อนไปก่อนจะหันไปส่งตาเขียวให้คนที่เดินยิ้มฉีกฟันเข้ามาหา
ด้านนอกคือสถานที่จัดมินิแฟนมีตติ้ง
เสียงกรีดร้องดังขึ้นทันทีที่เหล่าแฟนคลับเริ่มเห็นว่าพวกเขากำลังเดินออกมา
แบคฮยอนส่ายหัวมองเลยไปยังเพื่อนตัวสูงก็เหมือนจะไม่ได้สำนึกอะไร
เขาปลดมือเพื่อนออกคล้ายไม่ใยดี ก่อนจะเดินลิ่วๆนำไปก่อน
จงแดยู่ปากกำลังจะตะโกนเรียกแต่ก็มีอันต้องชะงักเสียก่อนเมื่อมือเรียวนั่นแปะเข้าที่ก้นอีกรอบ
เพี๊ยะ!!
คราวนี้มือเล็กฟาดเข้าที่อกแฟนขี้แกล้งอย่างแรง
แต่นอกจากจะไม่สะทกสะท้านแล้วไอ้บ้าชานยอลมันยังทำท่าทางเหมือนกับมีความสุขเสียประดา
“ทำไมชอบแกล้งกันนักนะ”จงแดหยุดถามก่อนจะเริ่มรู้ตัวว่าเพิ่งขุดหลุมฝังตัวเอง
เมื่อปาร์ค ชานยอลขยับเข้ามาชิด มือใหญ่นั่นสอดประสานเข้ากับมือของเขา ใบหน้าหล่อเหลานั่นก้มต่ำลงมาริมฝีปากแทบจะแนบชิดกับใบหูเขา
ด้านนอกเสียงกรี๊ดยังคงดังระงมเมื่อเมมเบอร์เริ่มทยอยออกไป
เพียงแต่ตอนนี้จงแดกลับได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองชัดเจนยิ่งกว่า
“ก็บอกไปแล้วนี่ ที่แกล้งก็เพราะว่าชอบ...”
“..”
“ไม่สิ ตอนรักมากเลยต่างหาก”
ปาร์ค ชานยอล...
ไอ้คนนิสัยไม่ดี..
END
Talk :กว่าจะมาต่อนี่นานมากกกกก 555 ช่วงนี้งานยุ่งมากจริงๆค่ะ เพิ่งได้หายใจวันนี้เอง เนื้อหาอาจจะงงๆไปบ้างเนอะ แต่ก็ขอบคุณที่อ่านฟิคของเรานะคะ หลายคนที่ติดตามมาตลอดเราของคุณมากจริงๆค่ะ หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับการอ่านฟิคของเรานะคะ ถ้าว่างเมื่อไหร่จะมาต่อทุกเรื่องแน่นอนค่ะ ไว้เจอกันนะคะ^^
ความคิดเห็น