คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : Something not easy to say : XIUCHEN
Title : Something not easy to say
Paring : Minseok x Jongdae
Talk : Happy Birthday ค่ะอูหมินที่รัก ไม่มีอะไรมาก แค่อยากแต่งให้แฟนเฉยๆเองค่ะ 55555555 แล้วก็เราลงไว้ในบล็อกเมื่อคืนแต่อาจจะมีคนยังไม่ได้อ่าน เลยมาแปะไว้ในนี้อีกที อ่านให้สนุกนะคะ^^
“เชี่ย
คิมจงแดมึงแหกปากทำไมวะ!” เสียงแหกปากไม่มีปี่มีขลุ่ยของเพื่อนสนิททำเอาคนที่กำลังขะมักเขม้นเล่นเกมส์ถึงกับสะดุ้งเฮือกทำมือถือหล่นจากมือพร้อมกับเสียงดนตรีที่เปลี่ยนจังหวะเป็นสัญญาณว่าเกมส์โอเวอร์ดังขึ้นแพคฮยอนมองหน้าจอตาละห้อย
“แม่งเกมส์กู…”
“สนใจแต่เกมส์อยู่นั่นแหละ
เพื่อนมึงจะอกแตกตายอยู่แล้วแม่ง”
“อะไรวะ?”เห็นท่าทางเอาหน้าซุกหมอนแล้วดีดแข้งดีดขาแพคฮยอนก็เลยยอมวางมือถือลงชั่วคราวเพื่อนหน้าตี๋
ยอมหันมาสนใจคนที่เมื่อครู่ตั้งใจเรียกร้องความสนใจเลยดีดตัวลุกนั่งใบหน้าซึมกระทือ
“ก็กูอึดอัดอ่ะ”
“เรื่อง?”แพคฮยอนเลิกคิ้วแล้วเพื่อนตัวแสบก็ถอนหายใจใส่หน้าท่าทางกลัดกลุ้มเสียเต็มประดา
“มินซอกฮยองไง..”
“...อ้อ”แพคฮยอนพยักหน้ารับเหมือนเพิ่งจะนึกถึงสาเหตุออกแต่ใครจะไปรู้ว่ายังไม่ทันได้ถามอะไรเลย
คิมจงแดก็พ่นความอัดอั้นตันใจออกมาเหมือนพายุเห็บ!
สเต็ปแรกก็ทำหน้าหงอยๆ
“ฮยองแม่งโคตรทำร้ายจิตใจกูเลยว่ะ”
“...”
“มึงคิดดู
จู่ๆมาให้ความหวังกู มาชมว่ากูน่ารักเรียกกูเฉินเฉินเวลาอารมณ์ดีงี้แถมให้สัมภาษณ์ว่าเห็นกูเหมือนภรรยาให้กูเขินจนตัวจะแตกตาย
ให้ความหวังกูแล้วก็เหยียบหัวใจด้วยการไม่รู้สึกอะไรกับกูอย่างนี้ก็ได้หรอวะ!”
“...”แพคฮยอนอ้าปากค้างเหมือนจะพูดอะไรแต่เพื่อนสนิทกลับโพล่งขึ้นมาอีกระลอกเหมือนหยุดไม่อยู่
“หรือเพราะกูไม่ชัดเจนวะนี่ฮยองไม่เห็นจริงๆหรอว่าแค่ฮยองเค้าหันมามองกูด้วยสายตาละมุนแล้วกูแสดงท่าทางเขินจัดออกไปยังไงต้องให้เลือดกองรวมตรงหน้ากูหมดตัวก่อนงี้หรอ
ถึงรู้ว่ากูเขินอ่ะ!”
จบประโยคที่โคตรจะแอคทีฟเมื่อครู่คิมจงแดก็
ถอนกายใจออกมายาวเหยียดตัวแฟ่บลงเหมือนลูกโป่งถูกปล่อยลม
สีหน้าหงอยๆสะท้อนในตาเพื่อนสนิทอย่างน่าเห็นใจ
“มึง
ฮยองเค้าไม่รู้จริงๆหรอวะว่ากูชอบอ่ะ”
“อ้าว?”แพคฮยอนกระพริบตาปริบๆมองหน้าคนที่ทำท่าหมดแรงหัวหล่นลงบนตักด้วยท่าทางกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกได้แต่เกาหัวตัวเอง
“แล้วนี่กูต้องตอบมึงว่ายังไงดี..”
“ก็ตอบตามความจริง
แบบที่มึงคิดอ่ะ”ขยับหัวที่อยู่บนต้นขาของเพื่อนหาท่าทางสบายรอฟังคำปลอบโยนจากเพื่อนสนิท
แต่เหมือนนึกอะไรออก “แต่เดี๋ยว..”
คนที่กำลังจะพ่นคำพูดสวยหรูอ้าปากค้าง
“..ฮะ”
“กูว่ามึงตอบแบบรักษาสภาพจิตใจกูดีกว่า”
“อ้าว
ตกลงเอาไง”แพคฮยอนส่ายหน้าจ้องหน้าคนที่นอนบนตักแล้วก็อยากดีดหน้าผากซักทีอะไรจะทั้งน่าสงสารทั้งน่าหมั่นไส้ไปได้ในเวลาเดียวกันขนาดนี้วะ
“ไม่เอาละ
มึงฟังเงียบๆเหมือนเดิมดีกว่า ปากหมาๆอย่างมึงพูดอะไรดีๆเป็นที่ไหน..”
เนี่ยดูมัน!
เป๊าะ!
“โอ๊ย
ไอ้แพคฮยอน!”คนโดนดีดหน้าผากเด้งตัวลุกขึ้นจากตักมือกุมหน้าผากตัวเองด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“มึงดีดหน้าผากกูทำไม?”
“กูหมั่นไส้มึงจะทำไม?”
“มึงแม่ง
ไม่อ่อนโยนแบบนี้แหละถึงไม่มีคนชอบ”
คนโดนว่ายักไหล่ “แฟนคลับกูเยอะแยะ”
“มั่นหน้า!”
“แน่นอน
และกูจะบอกอะไรให้ถ้าเป็นกูที่ชอบมินซอกฮยองนะป่านนี้กูรวบหัวรวบหางฮยองเค้าเป็นของกูไปแล้ว
ไม่รอให้ตัวเองมานั่งถอนหายใจเหมือนจะตายวันรุ่งฃึ้นอย่างมึงหรอก”
เห็นแววตาเยาะเย้ยของเพื่อนสนิทแล้วคนฟังก็ชักยั๊วะ
“นี่มึงว่ากูไม่กล้า”
“อ้อ
นี่กล้าแล้ว”
“มึงท้ากูหรอ
พยอนแพคฮยอน?”
“เรียกห่างเหินนะคิมจงแด”คนไม่ชอบให้เรียกชื่อเต็มหรี่ตาก่อนจะท้าต่อ “แล้วมึงทำได้มั๊ยล่ะ?”
“ได้
กูจะไปบอกฮยองเดี๋ยวนี้เลย! มึงคอย...”จู่ๆคิมจงแดที่ปากเก่งเมื่อครู่ก็มีอาการถูกแช่แข็งใบหน้าแดงๆเพราะอารมณ์ครุกกรุ่นเมื่อครู่เหมือนจะอัพเลเวลเป็นสีแดงจัดลามจากแก้มไปถึงใบหูและเมื่อแพคฮยอนหันกลับไปด้านหลังก็พบสาเหตุพี่ใหญ่ของวงคงจะได้ยินเสียงทะเลาะกันของพวกเขาสองคนเลยเปิดประตูเข้ามาในห้องส่วนตัวเพื่อจะห้ามปราม
และนั่นทำให้พบคนเลือดขึ้นหน้าเพราะเขินหนึ่งอัตรา…
“จะบอกอะไรฮยองหรอจงแด...”พี่ใหญ่ของวงมองรูมเมทตัวผอมไม่วางตาเหมือนรอคอยคำตอบและนั่นทำให้แพคฮยอนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นอากาศธาตุได้แต่ลอบมองเพื่อนสนิทด้วยแววตาสนุกสนาน
แต่คนที่โดนมองกลั้นหายใจจนจะตายอยู่แล้ว!
“ผม...”คิมจงแดก้มหน้างุดแต่แพคฮยอนแอบเห็นว่าเจ้าตัวกำมือแน่นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วโผเข้ากอดเขาอย่างไม่บอกไม่กล่าวจนล้มลงไปกองกันบนเตียงแพคฮยอนร้องโวยวายชั่วครู่แต่สุดท้ายก็ยอมตามใจนอนนิ่งๆให้ซบ
หัวคิ้วพี่ใหญ่ของวงขมวดเข้าหากันยกมือขึ้นกอดอกมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่เดาไม่ออกเพียงแต่คิมจงแดไม่แม้แต่จะกล้ามองหน้าอีกฝ่ายชัดๆคนตัวผอมมุดหน้าเข้ากับอกของเพื่อนสนิทที่นอนแผ่เป็นเบาะให้ก่อนจะพึมพำบอกรูมเมทตัวเองไป
“คืนนี้ผมขอนอนกับแพคฮยอนนะครับ”
“อ้าว
อุ๊บ!”
คนใต้ร่างโพล่งขึ้นมาคำเดียวปากก็โดนตะครุบปิดทันควันฟังเสียงจงแดหัวเราะแหะๆอย่างไม่เข้ากับสถานการณ์ได้แต่กรอกตาไปมา
แต่ก็ไม่กล้าผลักไสเพราะใจหนึ่งก็สงสาร แต่แล้วก็รู้สึกได้ถึงพลังงานเย็นเยือกที่พี่ใหญ่ของวงทิ้งไว้
“ตามใจ”
ประตูห้องถูกปิดลง
คิมจงแดเงยหน้าขึ้นมามองบานประตูละห้อยในขณะที่แพคฮยอนเหงื่อออกเต็มแผ่นหลังโดยไม่ทราบสาเหตุ...
ทำไมแค่คำว่า ตามใจ
ของคิมมินซอกมันฟังน่ากลัวแบบนั้นวะ!
∆ Something not easy to say ∆
“มึงทำไงดีกูรู้สึกเหมือนหัวใจมันจะกระดอนออกมานอกอกอยู่มอรอมมอร่อแล้ว”เสียงหงุงหงิงๆที่มาพร้อมกับการจับแขนเขาเขย่าไม่หยุดทำให้แพคฮยอนหรี่ตามองก่อนจะเห็นว่าใบหน้าของเพื่อนสนิทแดงแจ๋เหมือนคนที่โดนลมหนาวจนแก้มจะแตกแต่เปล่าเลยมันกำลังจ้องมองมินซอกฮยองที่กำลังแต่งตัวอยู่
“ทะลึ่งเหมือนกันนะมึง”
“ทะลึ่งบ้าอะไร!”เจ้าตัวแสบหันมาแยกเขี้ยวเถียง
จนแพคฮยอนต้องยกมะเหงกกระแทกเข้าที่หน้าผากไปหนึ่งที
เพราะเสียงโวยวายของคิมจงแดมันดังจนเรียกให้สายตาของทีมงานหันมาทางนี้น่ะสิ
แล้วภาพที่เห็นก็นี่ไง!
“แพคฮยอนอย่าแกล้งจงแด”เขากลายเป็นไอ้คนนิสัยไม่ดีจะรังแกน้องจงแดของทุกคนไปอีกแล้ว!
“ผมไม่ได้แกล้งมันซะหน่อยนะครับนูน่า”เอ่ยปากอ้อนทั้งยังส่งสายตาหมาหงอยในตำนานให้น่าเห็นอกเห็นใจ
แต่พอเจ้าเพื่อนตัวแสบมันทำหน้าหงอยใส่ตัดหน้าแพคฮยอนก็โดนสายตาเหล่านูน่าจิกตัวจะพรุน!
เออ โอ๋มันเข้าไป..
แพคฮยอนหันไปจิกตาใส่เมื่อไม่มีทางสู้
แต่ทว่าเจ้าเพื่อนตัวดีกลับตัวแข็งทื่อเหมือนจิตหลุด แต่พอหันมาตามสายตาก็พบสาเหตุ
มินซอกฮยองยิ้มอบอุ่นยังกะพระอาทิตย์ในฤดูหนาวเดินเข้ามาหาขนาดนี้
“จงแดไปบรีพงานกับพี่ตรงนู้นกัน”
“ครับฮยอง”คิมจงแดรับคำเสียงแผ่ว มินซฮกเลยเอื้อมมือมาคว้าแขนอีกฝ่ายฉุดให้ลุกขึ้น
เท่านั้นแหละคิมจงแดก็หน้าแดงแปร๊ด
“ไม่ค่อยเล้ย
ไม่ค่อยแสดงออกเล้ยยยยยย”
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีหน้าหันมาแยกเขี้ยวใส่เขาอีกนะ
ดึงสติตัวเองให้กลับมาให้รอดก่อนเถอะ!
การถ่ายทำโฆษณา Nature Republic ดำเนินต่อไปเรื่อยๆท่ามกลางลมหนาว จนกระทั่งผู้กำกับสั่งคัท
จงแดที่เมื่อครู่ยังยืนเท่ๆให้กล้องถ่าย
ก็เปลี่ยนสภาพเป็นเด็กขี้หนาวกอดตัวเองสั่นหงักๆ ทั้งๆที่ใส่เสื้อผ้าสองชั้น
มินซอกมองภาพเหล่านั้นแล้วก็ได้แต่ยื่นฮ็อทแพ็กในมือไปให้
“ไม่เอาครับ
เดี๋ยวฮยองหนาว”เจ้าเด็กตัวผอมส่ายหน้าปฏิเสธทั้งยังดันมือเขากลับ
มินซอกเลยส่ายหน้าเบาๆให้กับความเกรงใจไม่เข้าท่าของอีกฝ่าย
“ฮยองไม่หนาว”
“แต่มือฮยองแดงแล้วอ่ะ”เจ้าเด็กแสบเอ่ยเถียง
มินซอกเลยได้แต่จ้องมองนิ่งๆไม่ได้เถียงกลับแต่กลับขยับตัวเองเข้าไปหาแทน
“งั้นก็มาขยับมาใกล้ๆฮยองนี่”คิมจงแดตาโตหันขวับมามองก็เห็นเพียงแค่ว่าช่องว่างระหว่างตัวเองกับพี่ชายคนสนิทเหลือแค่คืบเดียว
“เร็วสิ นั่งใกล้ๆกันจะได้อุ่น”
“คะ..ครับ!”รับคำเสียงสั่นเพราะทั้งหนาวทั้งเขินแต่ก็ขยับตัวตามคำของพี่ใหญ่แต่โดยดี
แน่นอนถึงคิมจงแดจะเขินแต่ก็ไม่มีทางปล่อยช่วงเวลาดีๆแบบนี้ให้หลุดมือไปหรอกนะ!
ใบหน้าของเด็กตัวผอมก้มต่ำ
ไหล่ของทั้งคู่เกยกันจนจงแดรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ลามขึ้นมาตามใบหน้า
จงแดลอบมองเสี้ยวหน้าของพี่ชายคนสนิทก่อนจะหลุบตามองมือตัวเองที่กำฮ็อทแพ็กแน่น
เมื่อตาเจ้ากรรมดันป๊ะเข้ากับไรหนวดของอีกฝ่ายเข้าจนได้
เคยบอกไปหรือยังว่าคิมจงแดแพ้ไรหนวดของคิมมินซอก!
“ยังหนาวอยู่อีก?”คนเป็นพี่ก้มหน้าลงมามองคนที่เอาแต่ก้มหน้าไม่พูดไม่จา
ทั้งที่ปกติเป็นเด็กช่างจ้ออยู่พอควร คิมจงแดเลยทำเพียงพยักหน้าตอบรับ
เพราะไม่รู้จะบอกยังไงว่าที่ก้มหน้าซ่อนแก้มแดงๆนี่เพราะเขิน แถมยังเลิกหนาวแต่อุ่นจนร้อนตั้งแต่ขยับมาแนบชิดตัวอุ่นๆของพี่เขาแล้ว
“ฮยอง..”ตบตีกับความน่าอายของตัวเองก็สะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆไหล่แคบกลับโดนวาดแขนโอบให้ไม่ทันตั้งตัว
ให้ตายคราวนี้จงแดเหมือนกับตัวจะระเบิด!
“ฮยองกอดไว้แบบนี้เราจะได้ไม่หนาว..”
Oh My GOD!
นี่ไง นี่ไง มินซอกฮยองทำแบบนี้กับเขาอีกแล้ว!
หลอกล่อให้เขาตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วก็ลงอีหรอบที่ว่าไม่คิดอะไรกับเขาเลยเนี่ย!
∆ Something not easy to say ∆
“กูจะไม่ทนแล้วแพคฮยอน!”
“ยังไง?”แพคฮยอนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาเลือกไวน์ราคาแพงในเว็บที่จะให้เป็นของขวัญวันเกิดพี่ใหญ่ของวงเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเพื่อนสนิทแว๊บนึงก่อนจะหันกลับไปสนใจหน้าจอมือถือต่อคล้ายไม่ใส่ใจ
“ไม่สนใจกูอีกแล้ว!”
แพคฮยอนถอนหายใจออกมาก่อนจะยอมหันหน้ามาจ้องคนที่หน้าหงิกงอ “ก็มึงจะพูดเรื่องเดิมถูกมะ?”
“...”
“เรื่องมินซอกฮยองที่มึงบอกกูมาล้านรอบละว่าจะไม่ทน”
“...”
“จากวันที่มึงบอกกูว่ามึงชอบพี่เค้า
นับนิ้วนี่ผ่านมาสามเดือนแล้วจงแด มึงบอกมึงทนไม่ได้มาสามเดือนแล้วโว้ย!”
เจอเพื่อนว๊ากใส่หน้าคิมจงแดก็อึ้งไปพักใหญ่ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะแหะๆ
ลูบแขนเพื่อนป้อยๆเอาหัวถูกไหล่สองสามทีให้ใจเย็นๆ
จนแพคฮยอนเริ่มถอนหายใจออกมาอีกรอบ
“ใจเย็นดิ
คราวนี้กูกะเอาจริง”เห็นเพื่อนมันหรี่ตามองก็จิกตาคืน
ซ้ำยังกำหมัดฮึดสู้ “กูพูดจริงๆ”
“...เมื่อไหร่?”
แต่พอได้ยินคำถามสีหน้ามั่นอกมั่นใจก็หายวับ “เออ
เมื่อไหร่ดีอ่ะ ช่วยคิดหน่อยดิ”
“เข้าอีหรอบเดิม”
“ไม่เข้าดิ
ก็คราวนี้ตั้งใจแล้วไง เป็นตายร้ายดียังไงกูก็จะบอก กูอึดอัด”
“ก็ดี
แต่มึงรู้ใช่มั้ยลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำ”
“แน่นอน!”
“ดี...”แพคฮยอนแสยะยิ้ม
ก่อนจะจับบ่าแคบของเขาบีบเบาๆแต่กลับรู้สึกเจ็บจี้ดไปถึงกลางหัว “งั้นก็คืนนี้เลยเพื่อนรัก”
∆ Something not easy to say ∆
ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาแผ่วเบา
มินซอกเพียงเหล่ตามองคนที่เดินเข้ามาในห้องเงียบๆ
หลังจากไปสุมหัวกับเพื่อนอายุเท่ากันเหมือนทุกคืน
แล้วหันกลับมาสนใจหนังสือในมือต่อ คิมจงแดจ้องภาพตรงหน้าแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อเรียกกำลังใจ
ขยับท้าวเดินเข้ามาทิ้งตัวลงบนเตียงตัวเองที่วางอยู่ข้างกัน
ยกหมอนขึ้นมากอดกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่สักพักก็เหมือนความกล้าจะเพิ่มขึ้นหน่อยนึง
แต่ก่อนอื่นต้องหยั่งเชิงอารมณ์ที่เดายากราวกับมหาสมุทรของมินซอกฮยองก่อน!
“ฮยอง...”
“...”มินซอกหยุดชะงักเล็กน้อยตอนได้ยินเสียงเรียกเบาหวิว
ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือเมื่อได้ยินอีกรอบ
“มินซอกฮยอง”
“มีอะไรหรือเปล่าเฉินเฉิน?”
จงแดยิ้มหวาน
เรียกเฉินเฉินแบบนี้แสดงว่าอารมณ์ดี เอาวะ!
มินซอกมองน้องชายตัวผอมที่หอบเอาหมอนข้างเดินมานั่งแหมะเบียดที่เตียงขนาด
3.5 ฟุตของตัวเองแล้วก็กระพริบตาปริบๆมอง
“จะมานอนกับฮยอง?”
“...”อีกฝ่ายพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะทำหน้าแป้วเมื่อเห็นท่าทางคิดหนักของเขาร้อยวันพันปีไม่เคยคิดอยากนอนเบียดใคร
เด็กแสบนี่จู่ๆเป็นอะไรไปอีก
“ได้มั้ยอ่ะ?”
“...”
“แอร์มันตกตรงเตียงผมพอดีอ่ะ
แล้ววันนี้อากาศมันหนาวกว่าปกติ…”
มินซอกกระตุกยิ้ม
มองคนที่พยายามหาข้ออ้างแล้วก็เอ่ยขัด
“จะนอนก็นอน
ฮยองยังไม่ทันว่าอะไร”
“จริงนะฮยอง!”
“อือ”พูดยังไม่ทันจะจบคิมจงแดก็กระเถิบเข้ามาซุกตัวในผ้าห่มมินซอกเพียงแค่มองเด็กตัวผอมแว๊บนึงก่อนจะหันมาสนใจหนังสือในมือต่ออีกครั้งและนั่นก็เป็นการเปิดโอกาสให้จงแดได้จ้องมองใบหน้าของพี่ชายคนสนิทอย่างเต็มที่
แสงไฟสีส้มจากหัวเตียงสว่างพอที่จะอ่านหนังสือ
แต่ที่สำคัญมันกลับทำให้ใบหน้าของคิมมินซอกดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก
ที่จริงหน้าตามินซอกฮยองก็ดูน่ารักจริงๆนั่นแหละ
คิ้วเข้ม ตาชั้นเดียวแต่ดันกลมโต สันจมูกโด่ง ริมฝีปากอิ่ม
แต่ทำไมพอมองทุกอย่างรวมกันใกล้ๆแบบนี้แล้ว…
ตึกตัก ตึกตัก
หล่อชิบหาย! หล่อจนสติจะหลุด…
“ฮยอง…”พึมพำเรียกอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัวแต่มินซอกกลับได้ยินชัดแจ๋ว
“หือ..”มินซอกเหลือบมามองก็เห็นใบหน้าของน้องชายตัวผอมขึ้นสีแดงจัดอย่างน่าเป็นห่วงดวงตากลมจ้องมาด้วยสายตาเป็นห่วง
“จงแดไม่สบายหรือไง?”
ไม่พูดเปล่าถึงกับวางหนังสือในมือลงแล้วทาบมือเข้ากับหน้าผากเท่านั้นแหละคิมจงแดก็เหมือนจะเป็นไข้!
ใบหน้าแข็งค้างแต่ในใจนี่ร้อนรุ่มยังกะน้ำเดือด!
ไม่ไหวแล้วถ้าปล่อยให้มินซอกฮยองหลุดมือไปล่ะก็เขาต้องบ้าตายแน่ๆ!
คว้าหมับเข้าที่มือของพี่ชายคนสนิทก่อนจะผุดลุกนั่งหน้าตาแดงก่ำ
คิมจงแดสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง
ก่อนจะหลับตาปี๋เพื่อเสริมความมั่นใจอีกทางแล้วตะโกนดังลั่น
“ผมชอบฮยอง!”
“...” อ้าว
ทำไมเงียบ..
จงแดค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างกล้าๆกลัวๆเมื่อรู้สึกว่าทุกอย่างเงียบผิดปกติ
แต่เพิ่งจะรู้ว่าคิดผิดมากเมื่อเจอกับรอยยิ้มเอ็นดูของคนเป็นพี่
เจอแอคแท็กอีกรอบ..
“ฮยอง..ผม..”
“ฮยองก็ชอบเรา”
หัวใจโหมเต้นแรงกระหน่ำ
ตาพร่ามัวกับความละมุนที่มาพร้อมกับรอยยิ้ม แต่ว่านะ..
“เอ๋!”ง่ายๆขนาดนี้เลยหรอวะ แต่ทำไมจงแดไม่รู้สึกว่ามีอะไรแปลกประหลาด
“งงอะไร
ไม่ใช่ว่าเราก็ชอบฮยองมากหรือไง เจ้าเด็กแสบ”มินซอกยกมือลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆแต่เจ้าเด็กตัวผอมกลับกระพริบตาปริบๆใส่แล้วเปลี่ยนสีหน้าเป็นเหมือนจะร้องไห้แทน
“ฮยอง
ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น..”
“หือ?”
“ผมชอบฮยอง”
“ฮยองก็เพิ่งบอกไป
ว่าชอบเรา”
จงแดมองหน้าพี่ชายคนสนิทอย่างคนไร้ทางออกจะให้เขาอธิบายยังไงว่าเขาไม่ได้ชอบมินซอกฮยองแบบพี่น้องอย่างที่อีกฝ่ายเข้าใจน่ะ!
ตากลมเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างชั่งใจแล้วจู่ๆความคิดโง่ๆก็แว๊บเข้ามาในหัวจงแดมองริมฝีปากของอีกฝ่ายเลยไปยังไรหนวดสีจางๆนั่นแล้วก็เหมือนร่างกายถูกช็อต
คิมมินซอกโซฮ็อตเกินไปแล้ว!
“ผม…”
เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากมองใบหน้านิ่งๆเหมือนให้ตายก็ไม่รู้ความนัยอะไรจากเขาเลย
แล้วก็ฮึด เอาวะ เป็นไงเป็นกัน!
คิมจงแดหลับตาปี๋แล้วยื่นใบหน้าเขาหาคนที่เลิกคิ้วมองด้วยท่าทางไม่เข้าใจริมฝีปากบางแตะอวัยวะเดียวกันของพี่ใหญ่ไม่แรงไม่เบานักกดเน้นย้ำเบาๆจนได้ยินเสียงดัง
จุ๊บ!
“ผมชอบฮยองแบบนี้อ่ะ!”
ตุ๊บ!
เอ๊ะ!
จงแดคิดว่าตัวเองฝัน
เมื่อกี้เขาถอนใบหน้าออกมาเพื่อจะมองหน้าตาช็อกโลกของพี่มินซอกไม่ใช่หรือไงแล้วทำไมภาพมันเป็นมุมนี้มุมที่เขามองเห็นใบหน้าของคิมมินซอกใกล้ๆในมุมเสย
เดี๋ยว!
แผ่นหลังของเขาสัมผัสกับความนุ่มของฟูก
แต่ร่างกายกลับอึดอัดเหมือนถูกกดทับ และข้อมือเขาขยับไม่ได้ด้วย..
“ฮยอง..”จงแดครางออกมาด้วยความงุนงงมองเลยขึ้นไปก็เห็นข้อมือถูกกดไว้กับเตียง
คราวนี้คนใจกล้าเมื่อครู่หน้าซีดเผือดยิ่งสบเข้ากับแววตาที่เปลี่ยนไปของพี่ใหญ่
คิมจงแดก็เหมือนจะตัวสั่น
“กล้าเกินไปแล้วเจ้าเด็กแสบ
ใครสั่งใครสอนให้ทำแบบเมื่อกี้”ใบหน้าใสซื่อเมื่อครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ซ้ำน้ำเสียงที่ปกติจะแหลมกลับถูกกดจนต่ำเหมือนตอนปรามพวกเขาเวลาเล่นเกินเหตุ
นี่
ไม่ใช่ว่าเขากำลังจะโดนฆ่าเพราะบังอาจไปล่วงเกินคิมมินซอกหรอกนะ!
นี่เขาตั้งใจมาสารภาพรักนะ
ไม่ได้ตั้งใจมาทำให้คิมมินซอกองค์ลงซะหน่อย!
“ฮยองผม..ผมจะอธิบะ..”
“ขยันหาเรื่องจริงๆ..”มินซอกจ้องคนที่ทำหน้าเหมือนจาทางไปต่อไม่ถูกเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อมุมปากเอาแต่อยากจะกระตุกยิ้ม
“แพคฮยอนสอนเรื่องไม่ควรทำมาอีกแล้วไม่ไหวเลยจริงๆ”
จงแดส่ายหน้า
ถึงจะหมั่นไส้และชอบแกล้งเพื่อนสนิทแต่เขาก็ไม่ได้เป็นคนชอบใส่ร้ายคนอื่นหรอกนะ
“ฮยอง
ผม..อื้อ”ริมฝีปากกดลงมาปิดกั้นคำพูดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแต่นั่นก็ทำให้คิมจงแดเบิกตากว้างเหมือนคนช็อกค้าง
พยายามแล้วที่จะนึกอะไรที่อยู่ในหัวออกมา
แต่ทว่าริมฝีปากที่บดเบียดอยู่กลับส่งผลให้ทุกอย่างเบลอจนทำอะไรไม่ถูก
คิมมินซอกละริมฝีปากออกเพียงชั่วครู่จ้องมองคนที่หลับตาพริ้มมือกำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี่แล้วก็สบถออกมาอย่างหัวเสีย
“แม่งเอ้ย”
แต่นั่นก็เหมือนจะดึงสติของจงแดกลับมาได้ระดับนึง
“เดี๋ยวก่อน..ฮยอง!”มือเล็กยันใบหน้าของอีกฝ่ายไว้ทันก่อนที่ใบหน้านั่นจะเคลื่อนเข้าหาอีกครั้ง
จงแดหอบหายใจถี่ ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อคนเป็นพี่จูบที่ฝ่ามือแล้วจับมือเขาออกจากใบหน้า
นี่ มัน อะ ไร กัน?
“กล้าเกินไปแล้วคิมจงแด
อยากให้พี่บ้าตายหรือไง”มินซอกคำรามออกมาออกมาจากลำคอพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่มองริมฝีปากสีแดงสดที่เผยออย่างไม่รู้ตัวของอีกฝ่าย
เขานิ่งมาตั้งนาน
แล้วดูคิมจงแดทำตัว!
“ผมแค่..”
“สารภาพเฉยๆพี่ก็เข้าใจแล้ว
คิดยังไงมาจูบ เกิดพี่หน้ามืดขึ้นมากกว่านี้จะทำไง”
“หา!”
ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งเพิ่มความงงเข้าไปใหญ่มินซอกเลยได้แต่ยกมือเสยผมฉุดอีกฝ่ายให้ลุกนั่งดีๆ
เอออย่างน้อยๆก็คงดีกว่าท่าเมื่อครู่
“ฮยองก็บอกไปแล้วว่าชอบเหมือนกัน”
“...”
“ยังจะมากระพริบตาปริบๆใส่อีก”
“...”ยิ่งพูดก็ยิ่งกระพริบตาปริบๆใส่ไม่หยุดอีก
“เรานี่
โง่เข้าขั้นจริงๆ ต้องให้ฮยองอธิบายอะไรอีก..”
มินซอกจ้องตาอีกฝ่ายนิ่งๆ
พยายามส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดออกไปเพราะไม่ใช่คนที่ถนัดพูดมากนัก
และตอนนั้นเองคิมจงแดก็รู้สึกเหมือนเลือดลมตีขึ้นหน้าจู่ๆก็อยากหายตัวได้ขึ้นมาเฉยๆ
“ฮยองชอบนาย”
“ผมไม่ได้อยากเป็นน้องชาย
โอ๊ย!”มะเหงกลูกโตหล่นใส่ด้วยความหมั่นเขี้ยว
“อย่ามาซื่อบื้อ
ตอนนี้”
“ผมไม่ได้ซื่อบื้อ
แต่ฮยองต้องรู้นะว่าความหมายของผมน่ะ คือ..”ริมฝีปากบางหุบฉับเมื่อจู่ๆคนเป็นพี่ก็ยื่นใบหน้าเข้ามาหาไม่มีปี่มีขลุ่ยพร้อมกับคำพูดที่ทำให้ใบหน้าเห่อร้อนขึ้นอีก
3 ระดับ
“ต้องให้จูบอีกทีไหมคิมจงแด
ถึงจะรู้ว่าฮยองชอบเราแบบไหน?”
มุมปากมินซอกกระตุกยิ้มพร้อมกับระยะห่างระหว่างใบหน้าแทบจะหายวับ
จู่โจมรวดเร็วเสียจนคิมจงแดผงะเกือบหงายหลังกระวีกระวาดตอบเสียงลั่น
“ไม่ต้อง!”
“อ้าว
ทีเมื่อกี้หลับตาพริ้มเชียว นึกว่าชอบ”เห็นอาการเขินอายแล้วก็คันไม้คันมืออยากแกล้ง
ตอนเซ่อๆตามไม่ทันคิมจงแดก็น่ารักอยู่แล้ว แล้วยิ่งตอนที่เขินแบบนี้
ก็ยิ่งน่าฟัด.. “เผื่อเรายังไม่เชื่อไงว่าฮยองชอบ..”
“ฮยองหยุดพูดเดี๋ยวนี้เลย
นี่ไม่คิดว่าผมจะเขินบ้างหรือไง”
จบประโยคมินซอกก็หัวเราะลั่นออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ใบหน้าของมักเน่ยูนิทยิ่งงอง้ำ มองค้อนใส่คนที่ตัวเองเพิ่งสารภาพรัก
ทำท่าจะกระเถิยลงจากเตียง แต่มินซอกไม่ได้ปล่อยให้เป็นแบบนั้น
เขาตวัดแขนรอบเอวดึงเจ้าตัวแสบให้ตกอยู่ในอ้อมแขนแทบจะทันควัน
“ฮยองงงงงง”
“ดึกแล้ว
อย่าส่งเสียงดังสิ”มินซอกว่าถือโอกาสซบใบหน้าลงบนบ่าแคบของอีกฝ่าย
ลมหายใจร้อนๆเป่ารดผิวเนื้อจนคิมจงแดตัวแข็งทื่อ
นั่งสมองว่างเปล่าอยู่ในอ้อมแขนของพี่ชายคนสนิทด้วยใบหน้าขึ้นสีแดงจัด
ทำอะไรไม่ถูกเข้าไปยกใหญ่
“สารภาพรักฮยองแล้วก็อย่าดื้อกับฮยองนักสิ”
“ผมไม่ได้ดื้อซะหน่อย
ปกติผมก็ไม่เคยดื้อกับฮยองด้วย”
มินซอกหัวเราะตอนได้ยินประโยคนั้น
หรือคิมจงแดจะลืมวีรกรรมของตัวเองไปหมดแล้ว
แต่เอาเถอะ
ถ้าว่าอีกเดียวก็หาเรื่องชิ่งเขาไปเล่นเกมส์กับแพคฮยอนยันเช้าอีก
“โอเค
ไม่ดื้อก็ไม่ดื้อ”
เจ้าของอ้อมแขนคลายแรงกอดรัดออกเมื่อเห็นว่าเด็กตัวผอมไม่ได้ดึงดันจะหนี คิมจงแดเลยได้โอกาสหนีอาการทำอะไรไม่ถูกด้วยการล้มตัวลงนอนแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมโปง
แถมยังพาเฉไฉเปลี่ยนเรื่องได้หน้าตาเฉย
“วันเกิดฮยองอยากได้อะไรอ่ะ
ผมจะได้ซื้อให้ถูก”มินซอกมองแล้วก็ขำสุดท้ายเลยกางแขนคร่อมทับร่างใต้ผ้าห่มเล่นเอาคิมจงแดหายใจติดขัด
เขาจะจำไว้ถ้าจะสารภาพรักใคร อย่าคิดสารภาพรักในห้องนอน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แคบๆอย่างเตียง!
เพราะคุณอาจจะโดนแอคแท็กด้วยคนเดิมๆซ้ำๆ...
“ของขวัญวันเกิดงั้นหรอ?”คิมมินซอกลากเสียงยาว แววตาวิบวับ และแม้คิมจงแดจะไม่ได้มองแต่ก็ยังรู้สึกร้อนๆหนาวๆ
“...ของขวัญวันเกิดฮยองปีนี้ก็เป็นเราแล้วกัน”
ห๊ะ!
คิมจงแดเบิกตาโพลงเผลอหันขวับจ้องหน้า
มินซอกเลยยกมือดันปลายคางคนหน้าแดงปิดให้ด้วยความเอ็นดู
“ช็อกไปเลยหรือไง”
ให้ตายเถอะ!
ตกลงนี่เขาได้(?)มินซอกฮยองแล้วใช่มั้ย?
∆ Something not easy to say ∆
END
ความคิดเห็น