ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] My Sunshine ,it’s U < All*Chen>

    ลำดับตอนที่ #25 : Skinship : BAEKCHEN

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.28K
      70
      12 ธ.ค. 60



    Title : Skinship

    Pairing : BAEKCHEN

    Warning : สั้นมากและอ่านไปอาจจะมีคำว่า อะไรวะ? ผุดขึ้นมาในหัว อ่านเพื่อความบันเทิงค่ะ คิดถึงก็มาเม้นว่าคิดถึงกันได้ แต่ทวงฟิคนี่อย่าเพิ่งทวงนะคะ 55555

     

     

     

    ความจริงจงแดไมได้เป็นคนที่ติดสกินชิฟขนาดนั้น

    เพียงแต่ถ้าเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆ แล้วจงแดจะชอบเข้าไปกอด…

     

    เขาชอบกอดแล้วเอาแก้มถูๆกับแผ่นหลังของคนอื่น หรือไม่ถ้าคนที่ตัวเท่าๆกันก็ชอบเอาคางเกยไหล่..

    มันเริ่มเป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

    อาจจะตั้งแต่ที่ย้ายเข้ามาอยู่หอพักใหม่ แล้วต้องมานอนเบียดบนเตียงขนาด 5 นิ้วกับพยอนแพคฮยอน

    เพราะแบบนั้นเวลาตื่นขึ้นมาตอนเช้าเลยพบว่าบางทีตัวเองก็กลายไปเป็นหมอนข้างของอีกฝ่าย หรือไม่บางทีก็เป็นเขาเองที่ยึดแขน ยึดตัวของแพคฮยอนไว้เหมือนลูกลิง

    เพราะแบบนั้นเขาเลยรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นคนชอบสกินชิฟ โดยเฉพาะการกอด

     

    ยิ่งกับคนที่สนิทกันมากๆ..

    อ่า..ไม่สิ กับชานยอลที่ถือว่าเป็นเพื่อนสนิทก็ไม่ได้รู้สึกอยากกอดขนาดนั้น

    หรือบางทีอาจจะชอบกอดแค่คนที่ชื่อ แพคฮยอน มากกว่า…

     

    แพคฮยอนอา!”เสียงเรียกที่แสนคุ้นเคยพร้อมกับวงแขนที่กอดรัดเอวจากด้านหลัง ตามมาด้วยความรู้สึกเหมือนเจ้าตัวกำลังเอาหัวถูไปมากับแผ่นหลังทำให้เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยง พยอนแพคฮยอนได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะค่อยๆแกะมือของอีกฝ่ายออกจากรอบเอว หันกลับมาเผชิญหน้าก็เจอรอยยิ้มกว้างของรูมเมทเจ้าประจำ

    จะกอดอะไรนักหนาที่นี่มหาลัยนะแพคฮยอนเอ่ยเสียงเครียดเมื่อเห็นคนรอบข้างหันไปป้องปากซุบซิบแล้วชี้ไม้ชี้มือมาทางเขา เพียงแต่คิมจงแดที่เป็นตัวต้นเหตุกลับทำหน้ามึนใส่

    ในมหาลัยเค้าห้ามกอดกันหรอ กูไม่เห็นรู้เรื่องเลย

    แพคฮยอนถอนหายใจมองคนที่ทำหน้าทะเล้นแล้วก็ยกมือเขกหน้าผากไปทีนึงมึงแม่ง เพลาๆลงบ้างเถอะ คนอื่นเขามองกันจนกูอายหมดแล้ว

    แพคฮยอนว่าพลางเดินนำทางไปยังรถของเพื่อนร่วมห้องตัวสูงที่จอดรออยู่ด้านหน้า จงแดก้าวขาตามก่อนจะสอดมือคว้าแขนของแพคฮยอนทั้งยังยื่นหน้าเข้าไปถาม

    อายทำไมอ่ะ คนอื่นเค้าก็กอดกันเยอะแยะ

    ก็นั่นมันคนอื่นไหมล่ะ ถ้าเกิดคนเค้าเข้าใจผิดขึ้นมาน่ะ มึง..

    ชานยอล!พูดยังไม่ทันจะจบประโยคดีเจ้าตัวยุ่งของกลุ่มก็ปล่อยมือจากแขนของแพคฮยอนกระโดดพุ่งตัวไปหาพัคชานยอลที่ยืนเก๊กท่าเป็นพระเอกเอ็มวีอยู่ข้างๆรถ

     

    และคว้าเอวกอดหมับ!

     

    แพคฮยอนมองภาพนั้นแล้วก็ส่ายหัว คือไอ้ที่เขาพูดพล่ามๆอยู่เมื่อกี้ได้เข้าหูคิมจงแดบ้างไหมล่ะ!




    จงแดนั่งเท้าคางมองเพื่อนร่วมห้องที่กำลังทำสีหน้าเครียดขึงเหมือนกับมีบางอย่างจะพูด ตากลมทำท่าจะปิดลงอยู่มอรอมมอร่อ แต่จนแล้วจนรอดจงแดก็รู้สึกเหมือนกับมันขาดอะไรไปสักอย่าง

    แพคฮยอน…

    อะไร?”แพคฮยอนเงยหน้าขึ้นมาจากเท็กในมือก่อนจะพบตาปรือๆของคิมจงแดที่จ้องมา เอาจริงๆก็รู้สึกเหมือนจะโดนจ้องมาได้สักพักใหญ่ๆแล้วอยากนอนก็ปิดไฟนอนไปสิ

    เขามองไฟที่สว่างโร่ในห้องแล้วทึกทักเอาเองว่าเจ้าตัวแสบบนเตียงอยากนอนแต่ไม่รู้จะพูดยังไงเพราะเขายังอ่านหนังสือไม่เสร็จ เลยเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟแล้วเดินไปปิดสวิชต์ไฟตรงข้างประตูห้องให้ แต่ทว่าพอเดินกลับมานั่งคิมจงแดก็ยังคงนั่งอยู่ท่าเดิม

     

    อยากได้อะไรอีก…

    เมื่อไหร่จะนอน..คำถามด้วยน้ำเสียงง่วงๆของอีกฝ่ายทำเอาคิ้วของแพคฮยอนขมวดเข้าหากัน .

    ทำไม หรือโคมไฟมันสว่างไปมึงถึงนอนไม่หลับ?”

    เปล่า…จงแดกัดริมฝีปาก คือจะให้พูดออกไปได้ยังไงว่าเขาชินกับการนอนเบียดกับเพื่อนสนิทไปแล้ว และถ้าแพคฮยอนไม่นอนอยู่ข้างๆเขาจะนอนไม่หลับ

    อีกอย่างก็คือ..เขาอยากกอด…

     

    หรือเพราะไม่มีกูเป็นหมอนข้างมึงเลยพาลนอนไม่หลับ

    จงแดทำตาโตขึ้นเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียงเมื่อเห็นใบหน้ากวนเบื้องล่างของอีกฝ่าย

    นอนๆไปสักพักมันก็หลับเองนั่นแหละ!

    กูจะนอนแล้ว ฝันดี!

     

    จงแดได้ยินเสียงกุกกักดังเบาๆในขณะที่กำลังข่มตาหลับ และเพียงไม่ถึงอึดใจเตียงด้านข้างก็ยวบลง พร้อมกับมือที่เอื้อมมาแตะไหล่ จงแดยังคงนอนนิ่งทั้งที่ปกติต้องพุ่งเข้ากอดอีกฝ่ายแล้ว จนกระทั่งได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วๆในลำคออีกฝ่าย

     

    อ้าวอุตส่าห์ขึ้นมานอนให้กอดแล้วจะกอดหรือเปล่า?”

    “...”

    นี่จงแด ถ้ามึงไม่กอดตอนนี้กูกลับไปอ่านหนังสืออีกรอบแล้วนะ..

     

    หมับ

     

    แพคฮยอนแทบจะกลั้นขำไม่อยู่เมื่ออีกฝ่ายพลิกตัวมากอดแขนแล้วยกขาอีกข้างพาดผ่านลำตัวเขา
    เเสงจากโคมไฟเพียงพอที่จะทำให้เห็นใบหน้าแมวๆของเพื่อนสนิทชัดเจน

     

    แพคฮยอนนอนิ่งๆทั้งๆที่ลืมตาโพลง จนกระทั่งได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของคนในอ้อมแขน

     

    คิมจงแดหลับไปแล้ว

     

    เขาค่อยๆดึงแขนที่กอดรัดแขนของเขาออกเบาๆ จัดแจงดึงผ้าห่มมาคลุมให้แล้เดินกลับไปนั่งอ่านหนังสือส่วนที่ค้างไว้ให้จบ

     

    มองคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องแล้วก็ส่ายหน้าให้กับนิสัยแปลกๆของคิมจงแด

    ต้องกอดถึงจะนอนหลับ..ทำไมเรื่องแค่นี้เขาจะไม่รู้ล่ะ เป็นรูมเมทกันมาตั้ง 2 ปี.

    และก็เป็นเขาตลอดไม่ใช่หรือไงที่ต้องรับหน้าที่นี้

     

    เสียเวลาสักหน่อยแต่ก็เอาเถอะ ดีกว่ามีปีศาจแมวจ้องเหมือนอาฆาตแบบนั้นแล้วกัน….

     

     

     

    คิมจงแดก้าวเร็วๆมาพร้อมกับชานยอลที่เดินอย่างสบายๆ จนกระทั่งแผ่นหลังของแพคฮยอนปรากฏอยู่ในครรลองสายตา จากการก้าวเร็วๆก็เร่งจังหวะเป็นวิ่ง

    เป้าหมายอยู่ตรงหน้าแล้ว

    หมับ!

    “แพคฮยอนอา”

    “ย๊าส์ คิมจงแด”แก้วน้ำในมือหกรดกางเกงของคนตาโตที่นั่งอยู่ด้านหน้า จงแดที่เพิ่งโผล่หน้าออกมาจากด้านหลังของเพื่อนเบิกตาโพลง ก่อนจะกุจีกุจอก้มหัวขอโทษขอโพยอีกฝ่ายเป็นการใหญ่

    โดคยองซูจับมือเล็กที่กำลังจะเอาผ้าเช็ดหน้าของตัวเองมาซับกาแฟที่กางเกงเขาไว้อย่างเบามือ

    “ไม่ต้องหรอก แค่ใช้ทิชชู่ก็พอ”

    “แต่ว่า..”จงแดมีสีหน้าสลดในขณะที่คยองซูยกยิ้มกว้างและบอกว่าไม่เป็นไรอีกครั้ง คนอื่นก็มองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกใจอยู่หรอกในเมื่อโดคยองซูนะไม่ได้เป็นคนยิ้มง่ายขนาดนั้น

    แต่ตอนนี้กลับยิ้มกว้าง...

    ยิ้มกว้างเกินไปจนใครบางคนเห็นแล้วหงุดหงิด

     

    แพคฮยอนขยับเข้าไปคว้าเอาผ้าเช็ดหน้าในมือของเพื่อนสนิทพ่วงรูมเมทมาเช็ดมือตัวเอง ก่อนจะหันมามองคนที่ทำคอหดอยู่

    “เห็นหรือยัง ว่าพอไม่ระวังแล้วเป็นยังไง?”

    “แพคฮยอน...”จงแดทำเสียงอ่อนก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปกอดเอวแล้วถูแก้มเข้ากับแผ่นหลังของอีกฝ่ายคล้ายกับอยากให้ยกโทษให้ แต่แพคฮยอนกลับดึงมือข้างหนึ่งที่รัดเอวของตัวเองขึ้นมาแล้วยัดผ้าเช็ดหน้าที่เปื้อนคราบกาแฟใส่มือ

    “จะกอดอะไรนักหนา”

    “ก็กูชอบกอดมึงนี่นา อย่าโกรธกูเลยนะ กูไม่รู้นี่ว่ามึงถืออะไรในมืออยู่”

    แพคฮยอนฟังคำแก้ตัวแล้วเหลือบมองเพื่อนตัวสูงที่ทำหน้าเออออห่อหมกไปด้วยแล้วก็พลันหงุดหงิดขึ้นไปอีก

    น้ำเสียงของแพคฮยอนเครียดขรึมขึ้นโดยไม่รู้ตัว

    “จงแดกูถามจริงๆทำไมมึงถึงชอบกอดกู”

    “ก็เราสนิทกัน..”จงแดตอบทันควันแบบไม่ต้องคิด ในขณะที่แพคฮยอนกลับถอนหายใจให้กับเหตุผลไม่เข้าท่า แค่สนิทกันแล้วจำเป็นจะต้องกอดกันหรือไง อย่างน้อยๆก็ควรจะถามความสมัครใจคนโดนกอดบ้างสิ

    นั่นแหละปากมันเลยพาไป...

    เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น

     

    เกิดเดทแอร์ขึ้นชั่วขณะ

     

    อ้อ..คิมจงแดร้องรับในลำคอก่อนที่แขนเล็กที่พันรอบเอวของแพคฮยอนจะคลายออกโดยไม่ต้องให้สะบัดตัวหนีเหมือนอย่างทุกครั้งแสดงว่ามีแค่กูคนเดียวที่คิดว่าเราสนิทกัน

     

    คิมจงแดพูดทิ้งท้ายมองหน้าแพคฮยอนเลื่อนไปมองหน้าคยองซูแว๊บนึงก่อนจะสะบัดหน้าหนี เดินดุ่มๆไปจากตรงนั้น พร้อมกับชานยอลที่วิ่งตาม โดยที่แพคฮยอนยังไม่ได้แย้งหรือพูดอะไรขึ้นมาด้วยซ้ำ

     

    แพคฮยอนทำเพียงมองตามหลังแล้วส่ายหัวให้กับอารมณ์ขึ้นๆลงๆของอีกฝ่าย

    ในขณะที่คยองซูมองตามแผ่นหลังของคิมจงแดไปและหันมามองปฏิกิริยาของเพื่อนสนิทอีกครั้ง

     

    มึงปากหมาเหมือนเดิม

    มันก็เป็นอย่างนี้แหละอารมณ์ขึ้นๆลงๆเดี๋ยวก็หาย

     

     

    แต่ใครจะไปคิดว่ามันไม่ใช่แค่อารมณ์ขึ้นลงแค่วันนั้น

     

     

    ไปไหนน่ะ?”

    ไปนอนกับชานยอล

     

    ปัง!

    ประตูห้องถูกปิดใส่หน้า แพคฮยอนกระชากประตูเปิดออกแล้วพุ่งไปยังห้องตรงข้ามแต่ถึงอย่างนั้นก็ทันเห็นแค่แผ่นหลังของคิมจงแดผลุบหายเข้าไปพร้อมกับบานประตูที่ปิดลง

     

    ให้ตายเถอะ นี่มันคืนที่ 3 แล้วนะคิมจงแด!



     

     

    เตี้ย มึงมามุดหลังกูทำไม?”ชานยอลถึงกลับสะดุ้งเมื่อจู่ๆเพื่อนตัวเล็กที่เดินอยู่ข้างๆดีๆก็ทำตัวประหลาด สองมือเกาะเสื้อด้านหลังเขาแล้วทำลับๆล่อๆเหมือนกำลังหลบเจ้าหนี้ แต่เหมือนจะไม่ใช่เจ้าหนี้

     

    ถ้ามันมาบอกว่ากูไปห้องน้ำ หรือไปตายที่ไหนก็ได้แล้วแต่มึงพูดจบชานยอลก็เห็นเพียงหลังไวๆวิ่งหนีไปพร้อมกับไอ้เพื่อนตัวเตี้ยอีกคนที่ทำหน้ายังกะท้องอืดเดินเข้ามาถึงตัวพอดี

     

    จงแดไปไหน?”

    อ้าว?”ชานยอลทำหน้าตามึนงงไปก่อน เพราะเรียบเรียงคำโกหกในหัวให้ไม่ทัน ก่อนจะกระแอมไอเหมือนไล่อะไรออกจากคอ แต่เปล่าชานยอลแค่เรียกกำลังใจให้ตัวเองมันเพิิ่งไปห้องน้ำเมื่อกี้ เห็นบอกว่าให้กลับไปก่อนเลย อ้าวมึง..

     

    แพคฮยอนไม่ได้อยู่รอฟังจนจบด้วยซ้ำเพราะรู้ดีว่ามันเป็นคำแก้ตัวคำโตและหาความจริงอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

     

    คิมจงแดคิดว่าตัวเองรู้จักเขาอยู่ฝ่ายเดียวหรือไงวะ

    คิดว่าแค่กะเวลาถูกว่าเขาจะกลับห้องเวลาไหน รู้ตารางเรียนของเขาแล้วแอบมาขนของไปอยู่ห้องพัคชานยอลโดยที่ไม่ต้องเจอหน้า

     

    ดี ปล่อยให้ได้ใจไปเถอะ เพราะถ้าเขาจับตัวได้เมื่อไหร่ล่ะก็ จะจับมัดไว้กับตัวเลยแม่ง!





    คิมจงแดเหลือบซ้ายมองขวาอยู่หน้าห้องตัวเองที่ทำตัวเป็นนักย่องเบามาตลอดเจ็ดวันที่ผ่านมา หลังจากอ่านแช็ทของเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่คลาสเดียวกันกับแพคฮยอนแล้วพบว่าวันนี้ คลาสจะเลิกช้ากว่าปกติครึ่งชั่วโมง และนั่นก็หมายความว่าเขามีเวลาเก็บเสื้อผ้าไปที่ห้องชานยอลราวๆชั่วโมงครึ่ง

     

    มือเล็กแตะคีการ์ดจนได้ยินสัญญาณปลดล็อค จงแดแง้มประตูเปิดออกอย่างไม่ระมัดระวังเหมือนเคย ก่อนจะพบว่าในห้องมืดสนิท เขาถอดรองเท้าทิ้งลวกๆไว้ตรงหน้าประตูก่อนจะควานหาสวิชต์ไฟ

     

    เอ๊ะ! ทำไมผนังมันแปลกๆ

     

    หมับ!

     

    เสร็จฉันล่ะคิมจงแดจงแดเบิกตากว้างฝ่าความมืดก่อนที่ไฟในห้องจะสว่างโร่ขึ้นมาและมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน

     

    พยอน แพคฮยอน!มาได้ไงวะ!

    ก็กูน่ะสิ ไม่ใช่ไอ้ชานยอลของมึงแน่ๆ

     

    ระหว่างเราเงียบไปสักพักใหญ่ จงแดดึงมือตัวเองออกแล้วก้าวถอยห่างอีกฝ่ายในระยะปลอดภัย ยืนจ้องหน้ากันไปมาอยู่สักพักก่อนแพคฮยอนจะกระแอมไอสองสามที แล้วพูดอะไรแปลกๆ

     

    กอดสิ

    อะไร?”จงแดหรี่ตามองคนที่ยืนอ้าแขนทำหน้าตาเรียบนิ่งสวนทางกับนิ้วมือที่กำลังกระดิกให้เขาด้วยความไม่เข้าใจ

    อยากกอดนักไม่ใช่หรือไง เมื่อก่อนกูไม่อยากให้กอดมึงก็ชอบพุ่งเข้ามากอด ถ้าอยากกอดนักก็มากอดสิ

     

    เหอะ!จงแดแทบจะพ่นเสียงไม่พอใจกระแทกหน้า นี่เห็นเขาเป็นตัวอะไรงั้นหรอ มั่นหน้ามากเกินไปแล้ว!

    เมื่อจงแดไม่ยอมขยับคิ้วของแพคฮยอนก็เลิกขึ้นด้วยความมึนงง

    เล่นตัวหรือไง..

     

    กูไม่กอด เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น..

    ประโยคปฎิเสธทันควันพลันทำให้หัวคิ้วของแพคฮยอนขมวดมุ่นจนเป็นปม แต่ยังไม่ทันได้พูดเถียง คิมจงแดก็เร็วกว่า

     

    มึงสนิทกับคยองซูนี่ ก็ไปให้คยองซูกอดแล้วกัน

    จงแด มึงนี่เรื่องมาก

    เออ กูเรื่องมาก และกูไม่กอดกับคนที่กูไม่สนิท

    จงแดพูดช้าๆ ย้ำชัดๆก่อนจะตั้งท่าเดินหนี ยิ่งเห็นหน้าตาของแพคฮยอนแล้วก็ยิ่งรู้สึกอยากจะเบ้ปาก

     

    เหอะ! คิดว่าคิมจงแดคนนี้จำไม่ได้หรือไงว่าเคยพูดอะไรไว้น่ะ

     

     

    นี่มึงยังคิดมากเรื่องนั้น

    กูไม่ได้คิดจงแดหันหน้าไปตอบ ก่อนจะพบว่าแพคฮยอนเดินตามมาแล้วมึงก็ไปให้พ้นหูพ้นตากูสักที

    มึงแม่งคิดเยอะกว่าที่คิดนะจงแด

    คราวนี้จงแดหยุดฝีเท้า และมันโชคดีมากๆที่แพคฮยอนเหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าประโยคของตัวเองจะได้รับปฏิกิริยาตอบรับแบบไหน เพราะเมื่อจงแดหันกลับมาด้วยหน้าตาที่ไม่สบอารมณ์ แพคฮยอนก็กอดอกจ้องมาอย่างไม่หยี่ระอะไร

     

    ใช่ กูเป็นคนคิดเยอะ และกูแม่งเก็บทุกอย่างมาคิด ไม่ว่าเรื่องที่ออกจากปากของมึงมันจะไร้สาระขนาดไหนกูก็เก็บมาคิดหมดนั่นแหละจงแดหยุดหอบอากาศเข้าปอดไปสักพัก พร้อมทั้งกำมือแน่นเมื่อรู้สึกได้ว่าอารมณ์ของตัวเองกำลังพุ่งสูงขึ้น

    เพราะฉะนั้นมึงก็ควรเลิกพูดอะไรที่มึงก็รู้ว่ามันจะทำให้กูรู้สึกแบบไหน..จงแดหยุดอีกครั้งเมื่อประโยคนั่นผุดขึ้นมา เขาแค่นยิ้มทีนึงแต่กูลืมไป มึงจะมารู้อะไร ในเมื่อกูกับมึงไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น

     

    จงแดรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างถ่วงอยู่บนอก มันอึดอัดจนน้ำตาจะเล็ด เพราะแบบนั้นเขาถึงรีบจ้ำอ้าวออกจากเหตุการณ์ตรงหน้า แต่ทว่าแพคฮยอนก็ยังคงเป็นบุคคลที่น่าตายที่สุดในโลกตอนนี้อยู่ดี

     

    หมับ!

     

    “พยอน แพคฮยอน!จงแดร้องลั่นตอนที่ไอ้คนที่ยืนนิ่งอยู่เมื่อครู่มันโถมตัวเข้ากอดจากทางด้านหลัง วงแขนของแพคฮยอนรัดเอวและแขนของจงแดแน่นจนน่าอึดอัด เขาสะบัดไปทั้งตัวแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากนั้นแพคฮยอนยังเพิ่มแรงกอดรัดขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

     

    ลืมมันไปไม่ได้หรือไง มึงจะเก็บมาคิดอะไรขนาดนี้วะแพคฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงจากบทสนทนาเมื่อครู่เล็กน้อย แต่สำหรับจงแดคำพูดนั้นมันก็ไม่ต่างอะไรกับการว่าเขาเป็นพวกคิดมากอยู่ดี

     

    กูจะลืมมันให้มึงก็ได้ เพราะฉะนั้นมึงปล่อย

    จงแด กูไม่ได้หมายความว่าให้มึงตอบประชดกูแพคฮยอนถอนหายใจ เพิ่มแรงกอดรัดอีกฝ่ายที่ดิ้นไม่หยุดแม้แต่วินาทีเดียวก่อนจะฉกจมูกลงข้างแก้มกูสนิทกับมึง มึงก็รู้

    ไม่ กูไม่รู้

    งั้นเอาใหม่ กูอยากสนิทกับมึง

    แต่กูไม่อยากสนิทกับมึง มึงกับกูเป็นแค่รูมเมทที่นอนห้องเดียวกัน ไม่ต้องเป็นเพื่อนสนิทบ้าบออะไรทั้งนั้น

    จงแด ทำไมมึงดื้อนักวะ

    “...”

    ตอนแรกมึงก็ชอบเข้ามากอด แล้วพอตอนนี้กูจะให้มึงกอดมึงกลับไม่กอด นี่มึงเป็นบ้าอะไร

    “...”

    หรือมึงจะอ้างว่ามึงจะกอดเฉพาะกับคนที่มึงสนิท แล้วเมื่อก่อนถ้ามึงคิดว่าเราไม่สนิทกันทำไมมึงจ้องแต่จะกอดกู…

    นั่นก็เพราะว่ากูคิดไปเองไงว่ามึงกับกูสนิทกัน จนกระทั่งมึงบอกให้กูกระจ่างไง..เสียงของจงแดอ่อนลงพร้อมกับอาการดิ้นรนที่สงบลงเพียงชั่วพริบตา แพคฮยอนกระพริบตาปริบๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ และความรู้สึกแปลกๆที่ถาโถมเข้ามา ตาเรียวจับจ้องเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนในอ้อมแขน คิมจงแดหลุมตาต่ำจนเห็นเพียงแค่แพขนตายาวที่ระไปกับแก้ม

     

    จงแด..

     

     

    อ้าว ไอ้เตี้ยมึงไปกอดจงแดมันทำไมวะ

    ชานยอล!ทันทีที่ได้ยินเสียงของเพื่อนสนิทตัวสูงจงแดก็ร้องเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงดีใจ เริ่มดิ้นรนขัดขืนอีกครั้ง และตอนนั้นเองแพคฮยอนก็เริ่มรู้สึกได้ว่าตัวเองหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

     

    ชานยอลช่วยกูด้วย!ยิ่งคิมจงแดดิ้นรนหาทางหลุดจากอ้อมแขนซ้ำยังเรียกร้องและอ้อนวอนพัคชานยอล พยอนแพคฮยอนก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด

    อ้าว ไอ้เตี้ยมึงก็ปล่อยจงแดมันได้แล้ว จะกอดมันไว้ทำไม ปล่อยๆชานยอลไม่ได้รับรู้ว่าสายตาของแพคฮยอนมองตัวเองยังไง เพราะมัวแต่ยกยิ้มเอ็นดูไอ้คนที่โดนอ้อมแขนของแพคอยอนพันธนาการไว้ แต่เมื่อขยับจะเข้าไปช่วย พยอนแพคฮยอนก็พลิกเอาร่างตัวเองมาบัง

     

    เดี๋ยวนะ!

    ชานยอลหยุดชะงักเมื่อสบเข้ากับตาเรียวของเพื่อนสนิทตัวเตี้ยอีกคน

     

    มึงจะไปไหนก็ไป นี่ไม่ใช่เรื่องที่มึงจะเข้ามายุ่งชานยอล

    เอ่อ แต่..ชานยอลทำหน้างงไปพักใหญ่แต่ติดที่หูยังได้ยินเสียงของจงแดร้องให้ช่วย เมื่อทำท่าอ้ำอึ้งอยู่สักพัก แววตาของแพคฮยอนก็เริ่มอาฆาตขึ้นเมื่อนั้นชานยอลก็ยกมือขึ้นเสมอบ่าพวกมึงก็เคลียร์กันดีๆนะ

     

    พัค ชานยอลหายไปจากห้องทั้งๆที่เพิ่งเข้ามาได้ไม่ถึง 2 นาที และเมื่อหันมาคิมจงแดก็ยังร้องเรียกพัคชานยอลทั้งๆที่ประตูห้องปิดลงสนิทแล้ว

     

    ถ้ายังร้องอีก กูจะปิดปากมึง

    มึงคิดว่ากูจะกลัวหรือไง ปล่อยกู

    ปล่อยมึง ให้พุ่งไปกอดไอ้ชานยอลหรือไง

    กูจะกอดใครมันก็เรื่องของกู..

    มึงลองท้าทายกูดูจงแด แต่ที่แน่ๆมือกูไม่ว่าง มึงคงคาดไม่ถึงหรอกว่ากูจะใช้อะไรปิดปากมึงแพคอยอนแลบลิ้นเลียริมฝีปาก แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้จงแดเงียบเสียงลง และเมื่ออิีกฝ่ายยอมเงียบ แพคฮยอนก็ค่อยๆคลายอ้อมแขนออก จงแดกระถดตัวหนี และพุ่งไปที่ประตู และนั่นทำให้แพคฮยอนหัวเสีย

    ทั้งๆที่ตั้งใจจะคุยกันดีๆ แต่คิมจงแดก็โคตรจะดื้อด้าน

     

    แพคฮยอน โอ๊ยข้อมือของจงแดถูกกระชากเข้าหาตัวอีกฝ่าย และไม่เพียงแค่นั้นเขายังถูกแพคฮยอนลากไปโยนลงที่เตียง ก่อนอีกฝ่ายจะโถมตัวลงมาทาบทับปิดกั้นทางหนี มืออีกข้างเปิดลิ้นชักและควานหาอะไรบางอย่าง ก่อนที่จงแดจะได้ยินเสียงดังกริ๊ก พร้อมกับความเย็นของโลหะที่กระทบข้อมือของตัวเอง

     

    อยากหนีหน้ากูนักใช่มั๊ย?”แพคฮยอนอาศัยตอนที่จงแดกำลังตื่นตะลึงกับกุญแจมือ คล้องมันเข้ากับข้อมืออีกข้างของตัวเองงั้นมึงก็อยู่จ้องหน้ากูตลอด 24 ชั่วโมงเลยเป็นไง

     

    ไอ้แพคฮยอน! ไอ้โรคจิต

    แพคฮยอนยิ้มรับก่อนจะทิ้งตัวนอนลงข้างกายอีกฝ่ายอย่างไม่แยแส

     

    มีเพียงคิมจงแดที่นั่งเหงื่อโชก ทำหน้าเหมือนจะฆ่าคนที่นอนอยู่ข้างๆให้ตายด้วยมือตัวเอง





    เล่นอะไรกันน่ะคิมมินซอกเป็นคนเอ่ยขึ้นตอนที่สองเพื่อนซี้เดินลงมานั่งประชุมที่หน้าห้องโถงของหอพัก ด้วยการคล้องกุญแจมือ แพคฮยอนส่งยิ้มมุมปากมาให้แต่ก็ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มก่อนจะกระตุกมือที่จับมือของคิมจงแดให้นั่งลง

    ข้างๆคยองซู…

     

    มาสลับที่กันสิแพคฮยอนหันไปมองและมองเลยไปยังคยองซูที่นั่งนิ่งไม่สนใจใครอยู่ข้างอีกฝ่าย ก่อนจะยกมือข้างที่ติดกันด้วยกุญแจมือขึ้นตรงหน้า

    จะทำให้เรื่องมันยุ่งยากทำไม?”

    ที่มันยุ่งยากก็เพราะว่ามึงไม่ใช่หรือไงวะ?”จงแดว่าอย่างหัวเสียคิ้วขมวดมุ่นจนน่าตกใจ แต่แพคฮยอนกลับยักไหล่ ซ้ำยังทำท่าไม่ถือสากับท่าทางของเขาอีกต่างหาก

     

    เหอะ! ถ้าจะมากล่าวหาว่าโดนเข้าใจผิดเพราะเขาอีกคราวนี้ก็แล้วแต่เลย เขาไม่แคร์แล้ว!

     

    ,พี่มินซอกพูดถึงเรื่องกฎของหอพักทีหารือกันมาสักพักจนได้บทสรุป ซึ่งตลอดการประชุมจงแดเอาแต่จับจ้องไปข้างหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ ในขณะที่คนที่นั่งข้างๆก็เอาแต่จับจ้องคิมจงแดอย่างตั้งอกตั้งใจไม่แพ้กัน

     

    พี่มันจะฆ่ากันไหมอ่ะ ผมควรทำยังไง?”ชานยอลที่มองเพื่อนสนิททั้งสองจากด้านหลังกระซิบกระซาบกับรุ่นพี่จุนมยอนที่นั่งจับจ้องเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเพื่อนมาได้สักพักแล้ว

    เป็นแบบนี้นานหรือยัง?”

    ก็ได้อาทิตย์นึงแล้วพี่ ตั้งแต่ที่จงแดมันขอมาอาศัยห้องผมนอนชั่วคราวอ่ะตอนนั้นชานยอลก็ไม่ได้คิดไถ่ถามอะไร เขากำลังยุ่งๆกับการแต่งเพลง พอเพื่อนตัวเล็กมันเคาะประตูปึงปังพร้อมกับบอกว่าขอมานอนด้วยซักอาทิตย์เขาก็แค่เปิดประตูต้อนรับและเดินไปเคลียร์เตียงให้มันพอจะแทรกตัวเขามานอนด้วยได้แค่นั้น

    แต่ที่ไหนได้ มันไม่ได้แค่นั้นน่ะสิ!

     

    คิมจงแดมึนตึงกับพยอยแพคฮยอนอย่างเห็นได้ชัด ไม่พูด ไม่คุย ไม่นั่งข้าง ไม่เกาะแกะ แล้วเปลี่ยนมาเป็นเกาะเขา(เหมือนให้ช่วยเป็นโล่กำบังไอ้คนที่ทำหน้าตาถมึงทึงนั่นแทน) โอเคชานยอลไม่ได้ว่าอะไร ก็ชอบที่มีไอ้ตัวเล็กมันมาอ้อนอ่ะ

    แต่แบบเหตุการณ์เมื่อ 2 ชั่วโมงก่อนมาประชุมนี่ยังคงติดตา

    ถ้าสายตาของแพคฮยอนเป็นน้ำแข็ง พัค ชานยอลคนนี้คงกลายเป็นศพแช่แข็งไปแล้ว

     

    แล้วตอนนี้จงแดยังนอนที่ห้องนาย

    อ่า ไม่แล้วอ่ะ โดนแพคฮยอนมันเก็บกลับไปแล้ว แล้วก็นั่นแหละ ใส่กุญแจมือ

    “...”

    พี่มันจะต่อยกันเปล่าชานยอลทำตาโตนึกห่วงความปลอดภัยของจงแดขึ้นมา จงแดมันก็ต่อยตีได้แต่จะไปสู้ไอ้คนที่เล่นฮับกิโด้สายดำได้ไงอ่ะ แถมแพคฮยอนมันยังแรงเยอะขนาดนั้น แต่จุนมยอนกลับส่ายหน้า มองสถานการณ์ตรงหน้าแล้วผ่อนลมหายใจออกมา

     

    ไม่หรอก ถ้าจงแดดื้อมาก แพคฮยอนมันอาจจะใช้วิธีที่เอาเปรียบไปหน่อยก็แค่นั้นแหละ



    เป็นวิธีที่โคตรเอาเปรียบจริงๆนั่นแหละ

     

    ปลดกุญแจมือสักทีกูปวดฉี่จะตายอยู่แล้วจงแดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดไม่หายเมื่อถูกพากลับเข้ามาในห้อง ซ้ำร้ายแพคฮยอนมันยังทำตัวสบายใจเฉิบทั้งๆที่ตัวติดกับเขาจนแทบกระดิกไปไหนไม่ได้แบบนี้อีก

     

    ไปด้วยกันสิ

    มีงจะบ้าหรือไง? จะให้ไปฉี่พร้อมกัน มึงประสาทหรอแพคฮยอน!”

    หรือมึงอาย

    ก็อายนะสิวะ กูไม่ได้หน้าด้านเหมือนมึงที่ชอบไปอาบน้ำกับคนอื่นเค้าไปทั่ว แถมยังเอาไปโพทะนา

    มึงก็จำเรื่องของกูได้หมดเลยนี่ ขนาดไม่ได้สนิทกันนะแพคฮยอนมองใบหน้าบึ้งตึงนั่นอย่างสนุกสนานจับจ้องดวงหน้าของเพื่อนสนิทด้วยดวงตาเจ้าเล่ห์ เอ หรือมึงคิดอะไรกับกู?

    กูจะไปคิดอะไร!”จงแดสะบัดเสียงตอบก่อนจะหันหน้าหนี พร้อมกับกระตุกข้อมือข้างที่ถูกพันธนาการ“งั้นถ้าไม่ไขกุญแจก็ลุกขึ้นกูจะไปเข้าห้องน้ำ

    แพคฮยอนมองคนที่ปฏิเสธหน้าดำหน้าแดงแล้วก็ได้แต่ขำ มือเรียวล้วงเอากุญแจดอกเล็กในกระเป๋ากางเกงมาปลดล็อกกุญแจมือให้อย่างเงียบๆ ลอบมองปฏิกิริยาของคนที่ทำตาโตแล้วถอนหายใจออกมาอย่าง
    โล่งอกนั่น คับคล้ายคลับคลาว่าจะเอ็นดู...

     

    แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจะไม่รู้ทันความคิดกบฏภายใต้ท่าทางหงิมๆนั่นหรอกนะ

     

    อย่าแอบหนี ไม่งั้นถ้ากูจับมึงกลับมาอีกที คราวนี้กูจะล็อกมึงไว้กับเตียง

     

    จงแดสะบัดหน้าหนี เดินลงส้นเท้าไปคว้าเอาผ้าเช็ดตัว กับเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำปิดประตูเสียงดังอย่างไม่สบอารมณ์

     

    คิดว่ากลัวหรือไง?

     

    แต่ที่นั่งอยู่บนเตียงเนี่ยไม่ใช่ว่ากลัวหรอกนะ ก็แค่เห็นว่าดึกแล้วถ้าออกไปกวนชานยอลก็เกรงใจต่างหาก!

     

     

    “เด็กดี”

    แพคฮยอนเดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆอีกฝ่ายที่กดมือถือยุกยิกคล้ายกับไมได้ให้ความสนใจเขา ผ้าขนหนูผื่นเล็กที่กำลังทำหน้าที่ซับหยดน้ำออกจากเส้นผมสีบลอนยังคงขยับช้าๆ แต่ดวงตาก็เหลือบมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆเป็นระยะ จนกระทั่งมุมปากของคิมจงแดยกสูงขึ้นกว่าปกติ มือที่กำลังเช็ดผมตัวเองก็หยุดชะงัก

    “คุยกับใคร?”

    แพคฮยอนยื่นหน้าเข้าไปใกล้ พยามเพ่งมองชื่อห้องแช็ทแต่ทว่าคิมจงแดกลับพลิกมือถือหนี “เสียมารยาท!

    “กูไม่เคยมีมารยาทอยู่แล้ว”

    “พยอนแพคฮยอน มึงจะทำอะไรน่ะ นี่!”จงแดร้องลั่นตอนโดนโถมตัวเข้าใส่มือของแพคฮยอนเร็วสมกับเป็นเกมเมอร์ตัวยง เพราะแค่เพียงพริบตาเดียวมือถือของเขาก็อยู่ในมือของมัน

    ซ้ำยังโดนมันเอาตัวหนักๆที่มีแต่ไขมันนั่นมาทับไว้อีก!

     

    “เดี๋ยวนี้ต้องคุยกับพัคชานยอลทุกชั่วโมง..”แพคฮยอนเลื่อนนิ้วดูบทสนทนาล่าสุดที่จงแดกำลังคุยค้างกับเพื่อนสนิทห้องตรงข้ามด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น “...เพิ่งรู้ว่าศิลปินอย่างมันมีเวลามาคุยเป็นเพื่อนมึงมากขนาดนี้”

    “แล้วจะทำไม ก็เพื่อนกัน ทักไปตอนไหนมันก็ตอบไม่เหมือนมึงหรอก”ขนาดอยู่ห้องเดียวกันมาตั้ง 2 ปีแท้ๆยังบอกว่าไม่ได้สนิทกันอีก

    “กูไม่ได้ว่างขนาดนั้น”

    “ชานยอลก็ไม่ได้ว่างขนาดนั้น”

    “อ้อ นี่คือจะเปรียบเทียบกูกับมันให้ได้”

    “กูไม่ได้เปรียบเทียบ!”แหวเสียงแหลมแล้วทำฟัดเฟียดในลำคอ และตอนนั้นน้ำจากเส้นผมของแพคฮยอนหยดแหมะลงบนแก้ม จงแดกำลังจะยกมือขึ้นเช็ดออก

    “มึงกำลังทำอยู่..”นิ้วหัวแม่มือปาดหยดน้ำบนแก้มของอีกฝ่ายให้ แพคฮยอนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนั้นคิมจงแดรู้สึกว่าตัวเองแปลกประหลาด..

    ทำไมจู่ๆไอ้อาการหัวร้อนมันหายไปเสียดื้อๆวะ...

     

    “ไปเช็ดผมให้แห้งซะ แล้วก็ลุกไปได้แล้วจะให้น้ำจากหัวมึงตกใส่หน้ากูอีกกี่รอบ”จงแดเงียบไปสักพักเมื่อแพคฮยอนเริ่มเช็ดหยดน้ำหยดที่สองที่หยดจากปลายผมออกจากปลายจมูกเขา และโชคดีเหลือเกินที่มันยอมลุกออกไปจากท่าทางพิลึกพิลั่นที่ดูคลับคล้ายคลับคลาว่าเขาโดนคร่อมทับนี่

     

    แพคฮยอนลุกไปเป่าผม ในขณะที่จงแดเอามือถือไปวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง พอหัวแตะถึงหมอนกลิ่นประจำตัวของเพื่อนสนิทก็ลอยขึ้นมาปะทะจมูก จงแดถึงกับเหล่มองว่าตัวเองเผลอเอาหมอนของแพคฮยอนมาหนุนหรือเปล่า แต่ทว่ามองไปอีกฝั่งก็เจอหมอนสีน้ำเงินเข้มกว่าหมอนของเขาหนึ่งเฉด แล้วทำไมกลิ่นแชมพูแพคฮยอนมันมาติดหมอนเข้าได้เนี่ย!

     

    ใบหน้าของจงแดแทบจะจมลงไปกับหมอน พยายามสูดหากลิ่นประจำตัวของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย จนแทบไม่รับรู้ว่าเพื่อนสนิทมายืนกอดอกจ้องมองท่าทางแปลกประหลาดด้วยท่าทางที่ไม่แปลกใจสักนิด แม้กระทั่งตอนที่ขยับตัวนั่งลงบนเตียงคิมจงแดก็ยังกดจมูกลงกับหมอนอย่างเอาเป็นเอาตาย

    “เดี๋ยวก็ตาย จะมุดหัวเข้าไปในหมอนหาอะไร?”มือเรียวดึงหมอนในมืออีกฝ่ายออกอย่างไม่บอกไม่กล่าว จงแดจิ๊ปากอย่างขัดใจก่อนจะดึงมันกลับมากอดไว้กับอก จ้องคนที่ทิ้งหัวลงบนหมอนด้วยแววตางุนงง คือนี่มันเพิ่งจะ 2 ทุ่มไง คนอย่างพยอน แพคฮยอนเนี่ยนะจะนอนตอนสองทุ่ม

     

    “รีบนอนด้วยหรอมึง?”

    “อือ กูเหนื่อย”คนพูดยังคงหลับตาจนจงแดนึกสงสัย

    ไปเหนื่อยอะไรมาหรือว่าที่คณะมันมีงานอะไรหรือเปล่านะ...

    “เหนื่อยที่ต้องวิ่งไล่จับมึง”

    อ้าว...จงแดถลึงตาใส่ แต่ยังไม่ทันจะทำรอบที่ 2 ไอ้คนที่นอนหลับตาอยู่เมื่อกี้ก็ลืมตาขึ้นมาจ้องเขม็ง และนั่นทำให้จงแดค้าง..

    “อะไร?”

    “มึงก็รีบๆนอนลงมา เร็วๆสิ”แพคฮยอนตะแคงข้างหันหน้ามาหาและกางแขนราบไปกับเตียง ตอนนั้นจงแดก็ยังงุนงงอยู่พักใหญ่ เลยไม่ทันใจ คนที่แค่ได้กลิ่นของคิมจงแดตาก็หนักแล้วตอนนี้ เลยผุดลุกแล้วคว้าเอาร่างของอีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมแขน

    โอเค มันอาจจะน่าอาย ในเมื่อที่ผ่านมาแพคฮยอนเอาแต่มองว่าคิมจงแดเป็นพวกประหลาด เวลานอนก็ต้องมีคนกอด แต่ความจริงเขาก็เพิ่งค้นพบว่าตัวเองก็ประหลาด

    ไอ้ที่นอนหลับสนิทได้ตลอดคืนนั่นน่ะก็เพราะว่าได้กอดไอ้ตัวผอมเป็นกุ้งแห้งนี่ไว้ในอ้อมแขนต่างหาก

     

    “อย่าดิ้น”แพคฮยอนบ่นพึมพำชิดผมสีดำสนิทของอีกฝ่าย ในขณะที่จงแดตัวแข็งทื่อไปเรียบร้อยแล้วเมื่อรู้สึกถึงอ้อมแขนที่โอบรัดรอบเอว

    เดี๋ยวสิ แบบนี้มันแนบชิดกันเกินไปหรือเปล่าน่ะ!

    คือเมื่อก่อนตอนนอนจงแดก็แค่กอดแขนหรือไม่ก็เอาขาพาด ไม่เคยโดนดึงเข้ามากอดจมอกมันขนาดนี้นี่!

    กลับกลายเป็นว่าคนที่โดนกล่าวหาว่าแปลกประหลาดต้องกอดถึงจะหลับกลับเป็นฝ่ายตาค้าง...

    ในขณะที่อีกคนกลับผ่อนคลายและกอดรัดร่างในอ้อมแขนอย่างแนบแน่น

    ในที่สุดกลิ่นที่คุ้นเคยก็กลับมา..

     

    จงแดพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆบังคับอัตราการเต้นของหัวใจให้เป็นจังวะปกติ ทั้งๆที่ก็รู้ดีว่าตอนนี้มันไม่ปกติ แต่ก็ไม่ได้เต้นโครมครามจนหนวกหูตัวเองพอที่จะข่มตาให้ปิดลงได้

    ก็ไม่ได้อยากจะยอมรับหรอกว่าไปนอนกับชานยอลน่ะ ต้องกอดริลักคุมะของมันตั้ง 2 ตัวแน่ะกว่าจะหลับลงได้ยังต้องลำบากให้ชานยอลมันเปิดเพลงช้าๆให้ฟังอีก แต่กลับแพคฮยอนแค่ได้กลิ่นก็เคลิ้มแล้ว...

    ถึงได้บอกไงว่าเขาน่ะไม่ได้เสพติดการกอดหรอกนะ แต่เป็นเพราะว่าอยากกอดแพคฮยอนมันมากกว่า

    อย่าถามเหตุผลด้วยเพราะไม่รู้!

     

    สุดท้ายคิมจงแดก็ปรับจังหวะการเต้นของหัวใจเป็นปกติ ขยับตัวยุกยิกสองสามทีก็หาท่าทางที่สบายให้ตัวเองได้ เขากำลังตาปรือปรอยได้ที่ก็ได้ยินเสียงแพคฮยอน เหมือนลอยมาจากที่ไกลๆ หรือไม่เขาก็อาจจะฝันอยู่ว่าตัวเองยังไม่หลับ

    “มึงเอาโรคประหลาดมาติดกูสินะ”

    “...”

    “โรคที่ต้องกอดมึงแล้วถึงจะหลับน่ะ คิมจงแด”

     

     

     

    คิมจงแดตื่นเช้ามาด้วยท่าทางกระปรี้กระเปร่า เขาลุกขึ้นมานั่งมองไปรอบๆก็เห็นแพคฮยอนยืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจก ทั้งๆที่ไม่ได้สบตากันตรงๆแท้ๆแต่จงแดกลับรู้สึกอยากควักลูกตามันออกมาเหยียบสักทีสองที

    กะอีแค่เมื่อเช้าตื่นมาแล้วเขานอนเกยอกมันแค่นั้นต้องล้อเลียนขนาดนี้เลยหรือไง!

     

    “ลุกไปอาบน้ำสิ มีเรียน 9 โมงนี่”

    “รู้ดี”เขาพ่นเสียงตอบ พร้อมกับเตะผ้าห่มออกจากตัว แต่ก็แทบจะหัวคะมำลงจากเตียงเมื่อมันตอบกลับมา

    “กูรู้ทุกอย่างจนแทบจะเป็นแฟนมึงได้อยู่แล้วจงแด”

    “ปากเสีย กูขนลุก!”จงแดแทบจะพุ่งผ่านเข้าห้องน้ำด้วยความเร็วแสง และสุดท้ายก็มานั่งหอบตรงชักโครก สาปแช่งไอ้คนที่พูดหยอกเรื่องแบบนั้นน่าตาเฉยด้วยใบหน้าแดงก่ำ

    ไอ้บ้านี่ ขนลุก(?)จนใจเต้นไม่เป็นจังหวะหมดแล้วเนี่ย!

     

     

    ตอนเย็นจงแดถูกโทรจิกให้มารอแพคฮยอนมันที่คณะ แน่นอนจงแดที่ขี้เกียจเถียงและยังเข็ดหลาบกับบทลงโทษของการหนีหน้าด้วยการผูกติดด้วยกุญแจมือนั่นยอมมาตามคำสั่งแต่โดยดี ตอนเขามาถึงก็พบว่าแพคฮยอนกำลังนั่งอ่านอะไรก็ไม่รู้จนหัวแทบจะชนกันกับคยองซูอยู่แล้ว ก็เลยยืนอยู่เงียบๆแล้วทำเป็นมองนกมองไม้ จนกระทั่งคนที่นั่งอยู่อีกฟากของโต๊ะสะกิดที่แขนแพคฮยอนถึงได้รู้ว่าเพื่อนสนิทมาถึงแล้ว เขาผุดลุกจากข้างคยองซู บอกลาเพื่อนๆเสร็จสรรพก็เดินไปหาคนที่กำลังจับจ้องไปทางกลุ่มผู้หญิงคณะเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย

    ทำสายตาเจ้าชู้ไม่ดูตัวเองเลยนะคิมจงแด..

     

    “กลับห้องเร็วๆ”เสียงกระซิบข้างหูทำให้คนที่กำลังมองของสวยๆงามๆสะดุ้งโหยง คิมจงแดยกมือขึ้นปิดหูข้างซ้ายโดยอัตโนมัติก่อนจะหันกลับมาถลึงตาใส่ไอ้คนที่โจมตีจุดอ่อนเขา

    “มึง แม่ง!

    “อะไร?”แพคฮยอนทำหน้ายียวน ซ้ำร้ายยังย่างขุมเข้ามาหาจนจงแดถอยหลังกรูด ไม่พอนะมันยังกางแขนออกสองข้างแล้วมองหน้าเขานิ่งๆ

    เดี๋ยวนี่คือ...

    “กอดสิ ปกติมาถึงมึงก็พุ่งเข้ามากอดนี่”

    “...”

    จงแดทำหน้าเหมือนแผ่นดินพลิกกลับ มองเลยไปยังด้านหลังก็เห็นคยองซูและเพื่อนร่วมคณะของแพคฮยอนอีก 2 คนมองมาตาปริบๆ

    คงจะสงสัยเหมือนจงแดอยู่ตอนนี้ว่าพยอน แพคฮยอนมันเป็นบ้าอะไร?

    และดูท่าไม่ใช่ระยะเริ่มต้นนะ มันเป็นหนักมาก...

     

    “ถ้ามึงไม่กอดงั้นกูกอดเอง”เหมือนได้ยินอะไรแว่วๆ แต่รู้ตัวอีกทีก็ตอนมันพุ่งตัวเข้ากอดซ้ำยังกดหัวเขาซบลงกับอก ตอนนั้นจงแดก็แข็งเป็นหินไปแล้ว แต่แค่แป๊บเดียวนะ ไม่ได้สติหลุดนาน..

    “มึงจะบ้าหรือไงนี่มันมหาลัยนะ!

    “อ้อ...ในมหาลัยเค้าห้ามกอดกันหรอ กูไม่เห็นรู้เรื่องเลย”จงแดคิดว่าตัวเองเคยได้ยินประโยคนี้มาก่อน แน่นอนว่าเมื่อก่อนประโยคทำนองนี้มันมาจากปากเขาไง

    “แพคฮยอนคนอื่นมอง”

    “ช่างสิ อยากมองก็มอง”พูดหน้าตาเฉยไม่พอมันยังกอดเขาแน่นเข้าไปใหญ่ ไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยจนสุดท้ายเลยยกเอาคนที่เคยเป็นฉนวนการทะเลาะกันครั้งนั้นมาอ้าง

    “คยองซูมองอยู่”

    “ช่างสิ”

    เออ เอาเลยอยากกอดนักก็กอดให้พอ!

     

    แพคฮยอนยิ้มร่ามองคนที่เดินเคียงข้างทำหน้ามุ่ยๆแล้วก็ยิ่งอารมณ์ดี แขนยาววาดโอบกระชับไหล่ของอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ โดนคิมจงแดตีมือไปหลายๆที สะบัดก็แล้วมือก็เหนียวหนึบยังกะปลาหมึกจนยอมแพ้ ปล่อยให้มันโอบประคองอย่างที่ไม่เคยทำ จนมาถึงหน้าห้อง กำลังแตะคีการ์ดประตูห้องตรงข้ามก็เปิดออกมาพอดิบพอดี

     

    “ชานยอล!”คิมจงแดทำเสียงระริกระรี้ไม่เข้าหูในความคิดของแพคฮยอน ก่อนจะพุ่งเข้าหาชานยอล แน่นอนอีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงแล้วแหละถ้าไม่ติดว่าเขาคว้าเอวเอาไว้ทัน

    ชานยอลกางแขนค้างก่อนจะค่อยๆหุบแขนลงแนบกับลำตัวเมื่อเจอสายตาเย็นยะเยือกไม่ต่างจากวันนั้น

    อะไรอีกวะ ก็ดูเหมือนจะดีกันแล้วไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมยังทำท่าเหมือนจะแช่แข็งเขาอีกวะ

     

    “เข้าห้อง”

    “เดี๋ยวดิกูขอไปเก็บของที่ห้องชานยอลมันก่อน”แพคฮยอนชะงักไปชั่วครู่ แล้วอาสาด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย

    “เดี๋ยวกูไปขนมาให้”

    “ไม่เป็นไรกูไปแป๊บเดียว”

    “คิมจงแด..”แพคฮยอนกดเสียงต่ำพลันทำให้บรรยากาศเย็นเยียบ ชานยอลมองสถานการณ์ตรงหน้า ก่อนจะหงุดลงตรงหน้าตางุนงงที่เหมือนจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์อะไรเลยของคิมจงแด แล้วก็ขยับถอยหลังไปจนติดประตูห้อง

     

    “เดี๋ยวกูเก็บให้แล้วจะเอาไปให้ที่ห้องแล้วกัน”

     

    “ขอบใจ”คนขอบใจไม่ใช่เจ้าของเสื้อแต่เป็นคนที่พูดจบก็ยกคิมจงแดขึ้นพาดบ่าพาเข้าห้องตัวเองไปต่อหน้าต่อตา ตอนนั้นคำพูดของจุนมยอนผุดขึ้นมาในหัว

     

    “ถ้าจงแดดื้อมาก แพคฮยอนมันอาจจะใช้วิธีที่เอาเปรียบไปหน่อยก็แค่นั้นแหละ

     

    โอ้ว...โครตรได้กำไร และโคตรขี้หวง

     

     

    END

     

    แต่งฟิคยังไงให้จบโดยที่พระ-นายยังไม่ลงเอยกัน 55555555

    นี่แหละค่ะ ฟิคที่ไม่มีคำว่ารัก ไม่มีอะไรเลย แต่คิดว่าทุกคนจะรับรู้ในความสัมพันธ์ของคู่นี้ที่มีอะไรซุกซ่อนอยู่ เป็นฟิคจบแบบปลายเปิด ต่อยอดให้คนอ่านจินตนาการตามใจชอบค่ะ

     

    คิดถึงค่ะ เห็นแท็กฟิคเงียบเลยหยิบอะไรไม่รู้มาลง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×