ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] My Sunshine ,it’s U < All*Chen>

    ลำดับตอนที่ #10 : Wish : BAEKCHEN

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.69K
      37
      26 ม.ค. 59





    Title : Christmas Gift

    Pairing : BAEKCHEN

     

     

     

     

    เอาเถอะเรื่องวันคริสต์มาส ซานตาคลอส และกวางเรนเดียร์มันก็มีแค่ในนิทานหลอกเด็กเท่านั้นแหละ

    คิดว่าคนอย่างคิม จงแด ที่ปัจจุบันอายุ 18 ปีแล้วจะเชื่อเรื่องแบบนี้หรอฝันไปเถอะ!!

     

    เรื่องแบบนั้นมันจะมีอยู่จริงได้ยังไง?!!!

     

    หรอ?

     

    อย่ามาโกหกนะไอ้หัวขโมย เดี๋ยวนี้ถึงขนาดใส่ชุดซานต้ามาขึ้นบ้านคนอื่นเขาเลยหรอไอ้ชั่ว!!คิม จงแดกำลังเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้าใส่ชุดซานต้าหน้าละอ่อนที่อยู่ๆก็โผล่มาอยู่ในห้องนอนของเขา แถมยังทำท่าไม่ทุกข์ร้อน ไม่ยอมหนีไปไหนทั้งๆที่เขากำลังยืนถือไม่เบสบอลเตรียมฟาดหน้าอยู่แท้ๆ

    คิดว่าคิมจงแดคนนี้จะไม่กล้าฟาดจริงๆ หรอ คิดว่าหน้าตาดีนิดๆหน่อยๆ แล้วจะทำให้ใจอ่อนนี่ คิดผิดแล้ว

    หนวกหูจริงๆ นี่ดูไม่ออกหรือไงว่าฉันเป็นใคร?”อีกฝ่ายเลิกคิ้วยียวนแถมยังขยับตัวเอนลงกับเตียงเขาด้วยท่าทางสบายใจเฉิบ จงแดเผลอเบิกตากว้าง เมื่อเห็นว่าเสื้อคลุมสีแดงสดที่อีกฝ่ายสวมใส่อยู่มันแหวกออกจนจะเห็นหัวนมอยู่แล้ว

    ต้องไม่ใช่หัวขโมยธรรมดาแน่ๆ ต้องเป็นโรคจิตด้วย!!!

     

    เป็นเด็กเป็นเล็กหัดทะลึ่งนะเราซานต้าหนุ่มหัวเราะหึๆเมื่อเห็นท่าทางของเจ้าของห้อง ยันตัวลุกขึ้นนั่ง จ้องมองคนที่ยืนกำไม้เบสบอลด้วยมือสั่นๆก็นึกขำ คว้าเอากระดาษสีเหลืองจากเป้สีแดงสดเหมือนสีเสื้อขึ้นมาคลี่ออก แต่แค่นั้นก็ทำให้คนตัวผอมตาโตจนแทบจะถลนออกมานอกเบ้า ก็นั่นมัน นั่นมันจดหมายของเขานี่!!!

    เขาจำได้ว่าเคยเขียนมันเมื่อคริสต์มาสปีก่อน แล้วแขวนมันไว้ที่ต้นคริสต์มาสเล็กๆตรงระเบียงห้องนอนของเขา แล้วทำไมมันถึงไปอยู่ในมือของหัวขโมยคนนี้ได้

    ชื่อ คิม จงแด..ซานต้าเริ่มอ่านชื่อที่เขียนไว้มุมล่างขวาของแผ่นกระดาษ ส่วนคำขอก็..โอ๊ย!!!

    อย่าอ่านนะ ห้ามอ่านนนนอีกฝ่ายทิ้งไม้เบสบอลในมือ กระโจนเข้ามาตะครุบร่างเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว คนที่เมื่อครู่นั่งอยุ่บนเตียงหงายหลังลงกับเตียง โดยมีร่างของอีกฝ่ายคร่อมทับอยู่ จดหมายในมือถูกเจ้าของตัวจริงแย่งไป ใบหน้าของเจ้าของห้องแดงแปร๊ดเมื่อสายตาไล่อ่านจดหมายในมือ ยิ่งเห็นว่าลายมือที่อยู่ตรงหน้าเป็นลายมือของตัวเอง ยิ่งเหมือนสติจะหลุด จนลืมคิดไปว่าตัวเองเผลอเข้าใกล้คนแปลกหน้ามากเกินไป

    ซานต้านอนจ้องใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีลามไปทั้งตัวของอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มชอบใจ มือเรียวเลื้อยเข้าไปตรงเอวเล็กของอีกฝ่ายอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะตวัดรัด และพลิกร่างอีกฝ่ายให้ลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงแล้วเป็นฝ่ายคร่อมอยู่ด้านบนแทน เท่านั้นแหละ เสียงแหลมแปดหลอดของเด็กน้อยในสายตาของเขาก็ดังขึ้นแทบจะทันที

    อ๊ากกกก ปล่อยนะไอ้โรคจิตตตต

    ดื้อจริงรวบมือทั้งสองข้างที่ยังจับจดหมายนั่นไว้แน่น จ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยความชอบใจ ปีก่อนยังบอกอยากจะเจอซานต้าอยู่เลย

    นี่ยังไม่เลิกกุว่าตัวเองเป็นซานต้าอีกหรอ หน้าอย่างนี้ใครเขาจะไปเชื่อแม้จะตกเป็นรองแต่ก็ยังเถียงไม่หยุด ริมฝีปากเจ้าตัวบิดคว่ำลงจ้องหน้า ซานต้า อย่างไม่ยอมแพ้

    แล้วต้องทำยังไงถึงจะเชื่อ?” อีกฝ่ายเลิกคิ้ว เริ่มจะหงุดหงิด นี่อุตส่าห์มาทำตามคำขอ แล้วยังจะเรื่องมากอีก

    “...”จงแดยู่ปากคิดอยากจะเถียงแค่ก็โดนคนที่คร่อมทับอยู่ด้านบนพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน

    คิดว่าคำขอของนายมันหาให้ได้ง่ายๆหรือไง ขอให้เจอซานต้านี่มันก็โอเคอยู่หรอก ไอ้ที่ขอให้เจอเนื้อคู่ที่ให้ได้ทุกอย่างนี่มัน..

    ก็บอกว่าอย่าพูดไงเล่า

    อับอายที่สุด ใครจะไปคิดว่าไอ้คำขอเล่นๆของเขาจะมีคนล่วงรู้ แถมยังเป็นใครก็ไม่รู้

     

    แต่ก็เอาเถอะ ไหนๆก็โดนลิขิตไว้แบบนี้แล้วนี่จงแดกระพริบตาปริบๆจ้องมองใบหน้าจริงจังของอีกฝ่ายด้วยความงุนงง ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อจู่ๆริมฝีปากของคนแปลกหน้าก็แนบเข้ามาที่ริมฝีปากของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว

     

    ช็อก

    จูบแรก...แล้วยังจูบกับผู้ชาย..แปลกหน้า

     

    ผู้ชายคนนั้นถอนริมฝีปากออก ตากลมปรือปรอยจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายที่อยู่ในระยะประชิด ร่างกายเหมือนไร้เรี่ยวแรง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มพร้อมกับรสสัมผัสอุ่นๆยังคงชัดเจน ติดอยู่บนริมฝีปาก

     

    แล้วเจอกัน นะจงแด..

     

     

     

     

    ~~~~~~~~~~~소원~~~~~~~~~~~

     

     

     

     

    คืนวันคริสต์มาสผ่านไปตั้งแต่เมื่อคืน แต่ถึงอย่างนั้นพอย่างกรายเข้ามาในรั้วโรงเรียนก็ยังคงเห็นค้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าโรงเรียน ไฟประดับและกล่องของขวัญเล็กๆยังส่องแสงระยิบระยับต้องกับแสงอาทิตย์ยามเช้า แต่เพียงแค่เห็นมาสครอสคุณลุงซานต้ากำลังยืนแจกของขวัญด้วยท่าทางใจดี ใบหน้าเจ้าเล่ห์ของเจ้าของชุดซานต้าสีแดงสดเมื่อคืนก็ซ้อนทับเข้ามา

    พาให้ใบหน้าร้อนวูบวาบไร้การควบคุม

    บ้า บ้าไปแล้ว หยุดคิด เลิกคิดคิม จงแดสะบัดหน้าแดงๆของตัวเองไปมา ก่อนจะก้มหน้างุดวิ่งผ่านลุงซานต้าที่แสนใจดี เลยไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มของใครอีกคนที่ยืนมองตัวเองมาตั้งแต่ต้น

    ชักจะอดใจรอไม่ไหวแล้วแฮะ

     

     

    เมอรี่คริสต์มาสนะ จงแดจ๋าทันทีที่นั่งลงบนที่นั่งร่างสูงโย่งของเพื่อนสนิทก็โผล่เข้ามาประชิดตัว พร้อมกับกล่องของขวัญเล็กๆสีแดงสดที่ยื่นมาตรงหน้า

    อะไร?”

    ของขวัญวันคริสต์มาสไงชานยอลใช้ตาโตๆนั่นจ้องหน้าเขาจนแทบถลน เมื่อเขาเอื้อมมือไปรับแต่กลับไม่มีท่าทีตื่นเต้นอะไรเลยด้วยซ้ำ

    แหงสิ ตอนนี้เทศกาลคริสต์มาสติดอยู่ในลิสต์เทศกาลที่เขาเกลียดเป็นอันดับที่สอง รองลงมาจากวาเลนไทน์ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วไง

    แปลก แปลกมากได้ยินเสียงพึมพำข้างหูเมื่อเขาก้มลงยัดกล่องสีแดงเล็กๆนั่นลงใต้โต๊ะ

    เฮ๊ยแต่พอหันกลับมาอีกทีกับต้องตกใจเมื่อพบว่าด้านหน้ามีตากลมโตอีกคู่จ้องอยู่ในระยะประชิด

    คยองซูมาทำไมไม่ให้สุ้มให้เสียง มันตกใจนะจงแดยกมือทาบหน้าอกตัวเอง ค่อยๆผ่อนลมหายใจช้าๆ ก่อนจะยู่ปากเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิททั้งสอง หัวเราะชอบใจกับท่าทางของเขา

    ก็ชานยอลบอกจงแดแปลกๆ ก็เลยมาสังเกตดูไง ว่าแต่เมื่อคืนเป็นไงบ้าง?”

    นั่นสิ นายได้ทำต้นคริสต์มาสหรือเปล่า?” คยองซูเป็นคนตั้งคำถาม และตามด้วยชานยอลที่เป็นลูกคู่ จงแดถอนหายใจ ยิ่งไม่อยากคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืน แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้

    ก็เหมือนเดิม วิดีโอคอลกับพ่อแม่ จัดต้นคริสต์มาส แล้วก็...

    ภาพร่างโปร่งในชุดคลุมสีแดงผุดขึ้นมา ในห้วงความคิด

    แล้วเจอกันนะ...จงแด

     

    อ๊ากกกกก อย่ามาตามหลอกหลอนกันได้ม้ายยยยยย

     

    เอ่อ จงแดทั้งคยองซูและชานยอลต่างจ้องหน้ากันด้วยความงุนงงเมื่อจู่ๆเพื่อตัวผอมก็หยุดพูดกลางคัน ส่ายหน้าไปมาแถมใบหน้ายังแดงแปร๊ดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

    คือ...คือ..คนตัวผอมชะงักเมื่อสบเข้ากับดวงหน้างุนงงของเพื่อน จึงได้แต่ส่งยิ้มเจื่อนๆไปให้ และนับว่าโชคดีที่ชานยอลฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะเริ่มต้นเล่าเรื่องคืนคริสต์ของตนกับคยองซูบ้าง แต่มันคงจะดีกว่านี้

    แล้วเมื่อคืนกูแต่งตัวเป็นซานต้า ไปหาคยองซูล่ะมึง นี่ไง

    ถ้าปาร์ค ชานยอลจะไม่ยื่นรูปตัวเองในชุดซานต้าที่ยืนฉีกยิ้มในมือถือมาสะกิดก้อนความทรงจำอีกครั้ง

    ใครก็ได้ ช่วยเอาเทศกาลวันคริสต์มาสออกไปจากโลกนี้ทีเถอะ

     

     

    นับว่าเป็นเรื่องโชคดีที่กริ่งเริ่มคาบโฮมรูมดังขึ้นฉุดเขาออกจากช่วงเวลาโหดร้าย ชานยอลกลับไปนั่งที่ตัวเองซึ่งอยู่ด้านหลังโต๊ะเขาที่นั่งคู่กับคยองซู มาดามจองเดินเข้ามาในชุดแสคสีแดงแจ๊ด ก่อนจะเคาะมือลงกับโต๊ะเป็นจังหวะอย่างที่ชอบทำ ดวงตาเกือบทุกคู่โฟกัสไปยังด้านหน้า ก่อนที่ริมฝีปากบาง (ที่แต่งแต้มด้วยสีแดงเหมือนกันกับสีชุด)จะแย้มยิ้มออกมา

    เมอรี่คริสต์มาสนะจ๊ะเด็กๆ วันนี้ทางโรงเรียนเรามีกิจกรรมวันคริสต์มาสช่วงบ่ายอย่าลืมไปร่วมสนุกกันนะ แล้วก็...มาดามจองหยุดพูดชั่วครู่ ก่อนจะขยับเดินอ้อมมายืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะวางของ

    เราจะมีสมาชิกใหม่ อาจจะกะทันหันไปหน่อย แต่ว่าครูก็อยากให้ทุกคนช่วยดูแลเพื่อนใหม่ของเราด้วย เข้ามาได้แล้วจ๊ะ

    เสียงอื้ออึงดังขึ้นทันทีที่ทุกคนจับใจความได้ว่ามีนักเรียนย้ายมาใหม่ จงแดขมวดคิ้ว หันมาจ้องหน้าคยองซูที่จ้องกลับมาด้วยความงุนงงไม่แพ้กัน เป็นการบอกกล่าวว่าเรื่องนี้แม้แต่หัวหน้าห้องอย่างโด คยองซูก็ไม่รู้เรื่อง

    ย้ายมากลางเทอมเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว

    เรือนผมสีดำสนิทโผล่ออกมาให้เห็นเป็นอย่างแรก ก่อนร่างสูงโปร่งในชุดเครื่องแบบฤดูหนาวของโรงเรียนจะปรากฏขึ้น ตรงหน้า เสียงกรีดร้องเบาๆในลำคอของนักเรียนหญิงในห้องดังขึ้นอย่างพยายามรักษามารยาท พร้อมกับเสียงฮือฮาของนักเรียนชายบางคน แต่คิม จงแดกลับแทบจะลืมวิธีหายใจ ตากลมเบิกกว้าง เมื่อเห็นใบหน้าอีกฝ่ายชัดๆ

    นี่มัน...นี่มัน..                    

    สวัสดีครับ..

    ชั่ววินาทีตาเรียวคู่นั้นก็สบเข้ากับดวงตาของเขา จงแดตัวแข็งทื่อ จ้องมองรอยยิ้มที่ค่อยๆผุดขึ้นบนริมฝีปาก ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายเต้นระรัว หนักหน่วง จนแทบจะกระเด็นออกมาด้านนอก

     “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ...ผมบยอน แบคฮยอน...

    ...ไม่จริงน่า

    “...แล้วก็เจอกันอีกแล้วนะ จงแดยา

    ซะ ซานต้าโรคจิต มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!!!!!!!

     

     

    บ้าไปแล้ว นี่มันจะบ้าเกินไปแล้ว!!!

    จงแดหันแทบจะเก็บอาการหงุดหงิดไว้ไม่ไหว เพราะประโยคที่บอกว่าเหมือนรู้จักกันมาก่อนของแบคฮยอน หมอนี่ถึงได้มานั่งหน้าสลอนอยู่ข้างเขาในขณะที่คยองซูย้ายลงไปนั่งกับชานยอลอย่างเต็มอกเต็มใจ ทั้งๆที่เพียรส่งสายตาออดอ้อนให้เพื่อนสนิทตาโตไปซะขนาดนี้แต่โดคยองซูกลับเมินเฉย ราวกลับไม่รับรู้ความหมายของสายตาเขาได้หน้าตาเฉย

    ใจร้ายทำไมทุกคนใจร้ายกับคิมจงแดขนาดนี้

     

    เชิดคอขนาดนั้นเดี๋ยวก็เป็นตะคริวหรอกเสียงกระซิบเบาๆดังขึ้นพร้อมกับลมหายใจที่เป่ารดแก้ม คนที่กำลังเชิดหน้ามองตรงเลยยิ่งเกร็งเข้าไปใหญ่เมื่อเหลือบตามองแล้วพบว่าบยอนแบคฮยอนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขนาดไหน

    ถะถอยออกไป

    อะไรแค่นี้ก็เขินแล้วหรอเสียงหัวเราะเบาๆของแบคฮยอนคือสิ่งที่ทำให้คิม จงแดพลาดหันไปหา แล้วก็อย่างที่คิดใบหน้าแบคฮยอนห่างกับใบหน้าเขาแค่คืบเท่านั้นแหละนอกจากด่าไม่ออกแล้วยังทำให้หน้าร้อนขึ้นจนเหมือนจะไหม้ได้แต่หันหน้าหลบ แบคฮยอนอมยิ้มก่อนจะผละออกห่างเสียงอาจารย์วิชาวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นคาบสุดท้ายของภาคเช้ายังคงดังต่อเนื่อง  มันน่าเบื่อจนสุดท้ายต้องหาอะไรทำแต่ตอนนี้หายเบื่อแล้วล่ะ ในเมื่อคิมจงแดหน้าแดงแจ๋มากกว่าที่คิดซะอีก

    ไม่ต้องเกร็งแล้วน่า ไม่แกล้งแล้ว…”ได้ยินอีกฝ่ายส่งเสียงเหอะในลำคอมาให้ได้ยินเบาๆ แบคฮยอนเลยอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปผลักหัวของอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงใจ

    ก็อย่าน่ารักมากสิจะได้ไม่แกล้ง

    นั่นแหละแล้วคิมจงแดก็หน้าแดงขึ้นอีกหนึ่งเฉด



     “เลิกเรียนแล้วก็เลิกเดินตามสักทีสิคนตัวผอมหันไปแว้ดใส่ร่างโปร่งที่ยืนล้วงกระเป๋าเดินตามหลังเขาอย่างไม่ทุกข์ร้อน แบคฮยอนทำเพียงแค่มองหน้าเขาแต่สุดท้ายก็ยังเดินตามมาไม่ลดละ และยิ่งเมื่อเขาตัดสินใจจะก้าวเร็วๆเพื่อเดินหนี มือเรียวของอีกฝ่ายก็จับยึดข้อแขนเขาไว้อีก

     “ก็บอกไปแล้วไงว่าอย่าคิดหนีเสียงของอีกฝ่ายดังขึ้นพร้อมกับที่ข้อมือโดนจับลากให้เดินไปตามทางกลับบ้าน แม้จะงุนงงไม่น้อยที่อีกฝ่ายลากเขาเดินไปเรื่อยๆโดยไม่ถามทางกลับบ้าน แต่กลับเดินไปยังเส้นทางที่เขาใช้เดินทางเป็นประจำ จนกระทั่งทั้งคู่หยุดที่หน้าบ้านของเขา จงแดมองมือตัวเองที่ถูกอีกฝ่ายกุมไว้ (แน่นอนว่าโดนบังคับทั้งนั้น เขาเองก็ต่อต้านจนเหนื่อย) ก่อนจะกระตุกเบาๆเป็นเชิงให้อีกฝ่ายปล่อย ซึ่งเขานึกขอบคุณที่ครั้งนี้แบคฮยอนไม่ดื้อดึง

     “เข้าบ้านดีๆ แล้วก็เจอกันพรุ่งนี้

    จงแดกัดปากเชิดหน้าไปอีกทางเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยิ้ม ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินห่างออกไปจึงคิดได้ว่าเองควรจะเข้าบ้าน แต่พอเอื้อมมือไปเปิดประตูรั้ว เสียงกระทบกันของโซ่ที่คล้องบ้านหลังข้างๆก็ดังขึ้น เรียกให้ความสนใจทั้งหมดในตอนนี้พุ่งไปยังทิศทางของเสียง ก่อนจงแดจะตาโตจนแทบจะถลนออกจากเบ้าและเผลอสบถออกมาเป็นคำหยาบในแบบที่ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาใช้มันบ่อยขนาดนี้

     

    เชี่ย

    บยอน แบคฮยอน มันอยู่บ้านข้างเขาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ!!!!

     

     

     

     

    ~~~~~~~~~소원 ~~~~~~~~~

     

     

     

     

    คิมจงแดกำลังยืนลับๆล่อๆอยู่หน้าบ้านข้างๆที่เพิ่งโทรทางไกลไปถามคุณนายคิมว่าเจ้าของบ้านหลังสีขาวที่ใช้รั้วร่วมกันเป็นบ้านของใคร แล้วก็ได้คำตอบที่มาทีหลังคำบ่นจนหูชาว่าเป็นบ้านของลุงบยอน จุนซาง ทำไมถึงจำไม่ได้(แน่นอนว่าแม่ไม่ได้ใช้คำสวยหรูแบบนี้) แถมยังโดนเฉ่งอีกกระทงใหญ่ข้อหาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าลูกชายคนเดียวของลุงบยอนย้ายเข้ามาอยู่เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา หลังจากฟังคนเป็นแม่บ่นก็ทำให้เขาพอคุ้นๆชื่อ แต่พอคิดทบทวนไปเรื่อยๆ ถ้าบ้านข้างๆเป็นบ้านของลุงบยอน แล้วลูกชายของลุงบยอนที่แม่พูดถึงก็คงไม่พ้นบยอนแบคฮยอน แน่นอนว่าสิ่งที่ปรี้ดขึ้นมาในหัวหลังจากนั้นก็คือการที่บยอนแบคฮยอนสร้างเรื่องว่าตัวเองเป็นซานต้า แถมยังขึ้นบ้านคนอื่นน่าตาเฉย เท่านั้นยังไม่พอหมอนั่นยัง..ยังชิงจูบเขาอย่างหน้าด้านๆไหนจะเรื่องที่จดหมายน่าอายของเขาไปอยู่ที่หมอนั่นได้ยังไงนั่นอีก ไม่ได้เรื่องนี่เขาจะไม่ยอมอยู่เฉยๆเด็ดขาด

     

     

    รั้วสีขาวไม่ได้ล็อคจงแดเลยถือวิสาสะเดินเข้าไปเงียบๆ ตอนทีแรกก็กะว่าจะเรียกอีกฝ่ายให้ลงมาคุยที่หน้าบ้านนั่นแหละแต่พอคิดไปคิดมาคนอย่างหมอนั่นลื่นยังกะปลาไหล การจะให้บยอนแบคฮยอนยอมรับความผิดมันไม่ใช่เรื่องง่าย เขาจะต้องหาอะไรมาต่อรอง อย่างเช่นความลับหน้าอายที่อีกฝ่ายซ่อนไว้ และที่ๆเก็บความลับสุดเบสิคของเด็กวัย18 ปีอย่างพวกเขาก็คือ. ห้องนอน!!!

     

    ทันทีที่บานประตูห้องสีน้ำตาลปิดลงจงแดก็เข้ามาสู่โลกของบยอนแบคฮยอนอย่างสมบูรณ์ นึกขอบคุณที่หมอนั่นไม่ล็อคประตูบ้านแถมยังฮัมเพลงทำอาหารอยู่ในครัวด้านล่างอย่างสบายใจเฉิบ หลังจากย่องขึ้นชั้นบนพร้อมคำนวณเวลาที่อีกฝ่ายจะทำอาหารและใช้เวลาจัดการกับมันก็น่าจะพอที่จงแดจะได้อะไรสักอย่างติดไม้ติดมือไป ตากลมหรี่ลงเมื่อแสงจากด้านนอกเริ่มเหลือน้อยเต็มที มือถือในมือถูกนำมาใช้ประโยชน์โดยการเปิดไฟฉาย จงแดเดินตรงไปยังโต๊ะหนังสือ ก่อนจะดึงลิ้นชักออกมา สมุดวาดภาพขนาดA5ถูกวางอยู่ด้านใน จงแดจับมันออกมาอย่างระมัดระวัง เปิดเข้าได้แค่หน้าเดียวกระดาษสีเหลืองคุ้นตาก็หล่นลงมา เขาก้มลงเก็บแต่เหมือนความวุ่นวายกำลังตามมาเพียงแค่เขาเผลอจับที่สันสมุดรูปโพลาลอยนับสิบก็พากันไหลออกมาตกกระจายอยู่บนพื้นราวกับจงใจกลั่นแกล้ง คนตัวผอมทรุดตัวนั่งกวาดภาพเหล่านั้นด้วยมือสั่นๆ มือถือถูกวางไว้ข้างตัวจึงไม่สามารถมองเห็นว่ารูปเหล่านั้นเป็นรูปอะไร จนกระทั่งรูปแผ่นสุดท้ายมาอยู่รวมกับแผ่นอื่น

     

    รูปอะไรกันนะ?

     

    มือเล็กคว้าเอามือถือที่วางอยู่ด้านข้างมาแต่ก่อนที่ไฟส่องสว่างของมือถือจะทำหน้าที่ของมัน  ทั้งห้องก็สว่างขึ้นพร้อมกับเสียงที่จงแดจำได้ขึ้นใจ

    จับได้แล้วหัวขโมย

     

    แต่สิ่งที่ทำให้ช็อกกว่าก็คือรูปที่อยู่ในมือ ไม่สิไม่ใช่แค่ในมือ ผนังห้องของบยอนแบคฮยอน มีแต่รูปเขาเต็มไปหมด!!!

     

     

    นี่มัน..หมายความว่ายังไง?”กว่าจะควานหาเสียงตัวเองเจอก็ตอนที่เจ้าของห้องเดินมาดึงรูปในมือเขาไปด้วยใบหน้าและใบหูที่แดงก่ำ จงแดกระพริบตาปริบๆมองคนที่ยืนหันหลังให้ด้วยความงุนงง ความตั้งใจแรกที่มาที่นี่เลือนหายไปเหลือเพียงความงุนงงที่เด่นชัด แต่พอกวาดสายตาไปรอบห้องแล้วเจอรูปตัวเองอยู่ในบริบทต่างๆใบหน้าก็ร้อนฉ่าขึ้นมาเสียอย่างนั้น

     

    เขาไม่ได้อยากคิดเข้าข้างตัวเองแต่ว่ามัน..

     

    อย่างที่นายคิดนั่นแหละบยอนแบคฮยอนยอมหันหน้ามาหา ใบหน้าอีกฝ่ายยังคงแดงก่ำเพียงแต่น้อยลงกว่าเดิมนิดหน่อย แต่เพียงแค่ตาเรียวนั่นจ้องกลับมาจงแดกลับกลายเป็นไม่กล้าสู้หน้าเสียเอง หัวใจพลันเต้นระรัวขึ้นมา เมื่อสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดมันน่าอายเกินไป

    แต่แบบนี้มันก็คิดได้แค่อย่างเดียวไม่ใช่หรือไงกัน

     

    นาย...นายชอบฉันหรอ?”แม้จะไม่มั่นใจแต่ก็ลองเอ่ยออกมาอย่างที่คิด เหลือบมองอีกคนหวาดๆก็พบว่าบยอนแบคฮยอนยกมือขึ้นปิดหน้า แต่เพราะใบหูที่แดงก่ำอย่างปิดไม่มิดพร้อมกับเสียงตอบรับเบาๆในลำคอนั่นแหละที่เผลอทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นอีกระดับ จงแดไม่รู้เลยว่าควรจะทำหน้ายังไง ทั้งๆที่ตั้งใจมาเอาเรื่องอีกฝ่ายแท้ๆแต่พอมาเจอแบบนี้ เขากลับรู้สึกขลาดเขินมือไม้สั่นไปหมด กว่าจะรู้ตัวก็โดนเจ้าของห้องประชิดตัว ดึงเข้าไปในอ้อมกอดเสียแล้ว

     

    ย่าส์ ปล่อยนะ ปล่อย!!!

    ไม่ปล่อย รู้ความลับเยอะขนาดนี้แล้วจะปล่อยไปง่ายๆได้ยังไงเสียงอีกฝ่ายกลับมายียวนเช่นเดิมจนจงแดเผลอยู่ปากใส่ ดีดดิ้นสักพักก็เหนื่อยเปล่าเมื่อแบคฮยอนไม่มีท่าทีผ่อนแรงกอดรัดที่เอวลงสักนิด ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆคล้ายชอบใจอยู่ข้างหูก็เลยออกแรงทุบแผ่นหลังอีกฝ่ายไปเต็มแรง

     

    อยู่นิ่งๆน่า กว่าจะได้เจอ คิดถึงจะตายอยู่แล้วไม่รู้หรือไง?”

    คะ ใครจะไปรู้ ปะ..ปล่อยเลยจะกลับบ้านแล้วจงแดเมินเฉยคำพูดหวานๆของอีกฝ่ายก่อนจะขยับตัวให้หลุด พอทุกอย่างเริ่มเปิดเผยจงแดก็เริ่มไม่กล้าสู้หน้า หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวจนกลัวว่าถ้าอยู่ในห้องนี้นานๆตัวเองต้องเผลอทำเรื่องเงอะงะออกมาเป็นแน่ คนตัวผอมขยับตัวไปทางประตู ซึ่งเป็นทางออกที่คิดได้ กำลังจะเอื้อมมือปลดล็อคเสียงของเจ้าของห้องก็ดังขัดขึ้นมาเสียก่อน

    เรามาคบกันมั้ย?”

    “...”มือเล็กเผลอกำลูกบิดประตูแน่น กัดปากอย่างทำอะไรไม่ถูกเมื่อหัวใจเจ้ากรรมเต้นระรัวจนแทบจะกระดอนออกมาด้านนอก ยิ่งเมื่อแบคฮยอนสอดแขนเข้ามากอดรัดเอวเขาจงแดก็ได้แต่ตัวแข็งทื่อ

    มาทำให้คำขอวันคริสต์มาสข้อที่2ของนายเป็นจริงกันเถอะ นะจงแด

     

    ไม่รู้ด้วยแล้ว!!!

     

     

     

     

    ~~~~~~~~~소원~~~~~~~~~

     

     

     

     

    หนาว ฮื้อออออ หนาวจะตายอยู่แล้วเสียงบ่นงุ้งงิ้งๆของคนที่นั่งสั่นอยู่ในกองผ้าห่มทำเอาเจ้าของบ้านยกยิ้มเต็มหน้า แบคฮยอนในชุดซานต้าสีแดงสดเหมือนเมื่อปีก่อนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าก่อนจะคว้าก้อนผ้าห่มเข้ามากอดเต็มวงแขน คนตัวผอมในชุดซานต้าสีแดงสดเช่นเดียวกันแตกต่างเพียงแค่บนหัวมีที่คาดผมเขากวางสวมอยู่ฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเอนตัวซุกเขาอย่างออดอ้อน ก่อนจะหัวเราะคิกคักเมื่อเขากดจมูกลงบนแก้มอีกฝ่ายแรงๆ

     

    วันนี้เป็นวันคริสต์มาส นับจากวันที่ขอจงแดคบเป็นแฟนก็เกือบครบ1ปีพอดี กว่าคิม จงแดจะใจอ่อนก็ต้องตามจีบอีกเป็นเดือนๆ แต่ได้ตัวช่วยเป็นคุณแม่ของอีกฝ่าย ทุกอย่างก็เลยง่ายขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย เขาสารภาพทุกอย่างให้อีกฝ่ายรู้อย่างหมดเปลือกตั้งแต่เรื่องจดหมายที่เจ้าตัวเขียนถึงซานต้าว่ามาอยู่ที่เขาได้ยังไง (ซึ่งคุณแม่ของจงแดเป็นคนหยิบมาให้เขาเอง) เรื่องการทำตามคำขอของแม่บังเกิดเกล้า(ผู้เป็นเจ้าของแผนการและบัญชาการทุกอย่าง) และเรื่องที่เขาแอบชอบอีกคนมานานตั้งแต่ก่อนย้ายไปเรียนเรียนที่อื่น รวมถึงเรื่องที่เขาและชานยอลกับคยองซูรู้จักกันมาก่อน แน่นอนว่าคิมจงแดโวยวายเป็นการใหญ่ และโดนโกรธเกือบอาทิตย์ แต่มันก็คุ้มเมื่อสุดท้ายเจ้าตัวก็ยอมใจอ่อน เขาถึงได้คิม จงแดที่แสนขี้อ้อนมาไว้ในอ้อมกอดต้อนรับคริสต์มาสแบบนี้ไง

     

    หนาวแบบนี้เราอยู่ฉลองกันที่นี่แทนดีไหม?”ลูบผมของคนที่ซุกอยู่กับอกก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับส่ายหน้าให้แทนคำตอบ

    แต่จงแดหนาวนี่

    เจ้าตัวพยักหน้าแต่ก็ยู่ปากใส่เขาพร้อมพึมพัมเสียงอ่อนแต่อยากออกไปเดินเที่ยวกับแบคฮยอนนี่นาพูดจบก็เงยหน้ามองเขาตาปริบๆ ก่อนจะยกยิ้มใส่ เขาเลยอดที่จะยีหัวอีกฝ่ายแล้วบ่นออกมาเบาๆแล้วถ้าหนาวจนไม่สบายขึ้นมาจะทำโทษเสียให้เข็ด…”

    ไม่หนาวหรอก..อีกฝ่ายซุกหน้าลงกับอกเขาคล้ายออดอ้อน แบคฮยอนเลยได้แต่ถอนหายใจอย่างยอมแพ้ ก่อนจะยกยิ้มกว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดมา

    แต่ถ้าหนาว..บยอนก็กอดเราไว้แน่นๆให้หายหนาวไง ไม่เห็นจะยากเลย

    คิม จงแดนี่จริงๆเลย

     

    นั่นแหละวันคริสต์มาสหนาวๆคงไม่ต้องกลัวหนาวอีกแล้วสินะ

    ก็ในเมื่อตอนนี้คิม จงแดได้เจอทั้งซานต้า(?) แล้วก็ได้ทั้งแฟนอย่างที่ขอไว้แล้วนี่ ใช่มั้ย?

     

     

    END

     

     

    แก้ไขฟอร์แมทเรียบร้อย ^^


          


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×