คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 두근거려 : ฺBAEKCHEN
Title : 두근거려
Pairing : BaekChen
-----두근거려-----
“แบคฮยอนอ่า ไม่ชอบจริงๆหรอ เราขอโทษ”เสียงแหลมเล็กเอ่ยขึ้นมาเสียงแผ่ว
มือเล็กกระตุกแขนเสื้อของแบคฮยอนเบาๆ ราวกับกำลังง้องอน
ยิ่งเห็นใบหน้าเรียบนิ่งไร้การตอบสนอง หรือแม้กระทั่งแสดงความไม่พอใจออกมา คิม
จงแดก็ยิ่งร้อนรน
“แบคฮยอนอา...”เอ่ยเรียกอีกครั้งซึ่งครั้งนี้เหมือนจะได้ผลเมื่อแบคฮยอนยอมหันหน้ากลับมาสบตา
แม้ว่าใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายจะยังราบเรียบไร้อารมณ์เช่นเคย
“ทำไมถึงต้องถอดแว่นออก”นั่นคือประโยคแรกหลังจากที่เงียบอยู่นาน
เพราะได้ยินน้ำเสียงหงอยๆของคนข้างกายแล้ว มันก็อดไม่ได้ที่จะสงสาร คิม จงแด
ยิ่งเป็นคนที่คิดมาก เผลอๆถ้าไม่ยอมตอบอะไรเลย ก็จะร้องไห้ออกมาอีก
ซึ่งน้ำตาของคิม จงแดเป็นสิ่งที่แบคฮยอนไม่ชอบเอาเสียเลย
แต่ตอนนี้แบคฮยอนก็แค่หงุดหงิดเท่านั้นเอง
ใครไปยุให้คิม จงแดทำตัวน่ารักขนาดนี้
“คิดไว้แล้วเชียวว่ามันต้องไม่น่าดูมากๆ..”เสียงเล็กเอ่ยเบาๆเหมือนกับกำลังพูดกับตัวเอง
มือเล็กยกลูบผมที่ถูกย้อมจนกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนเบาๆ
ก้มหน้างุดเมื่อเจอสายตาของแบคฮยอนที่จับจ้องมาที่ตัวเองอย่างไม่วางตา
กัดริมฝีปากล่างแน่นระงับความน้อยใจที่พวยพุ่งขึ้นมาไม่หยุด ตากลมที่ไร้กรอบแว่นสีดำอย่างเหมือนทุกทีเริ่มแดงก่ำ
จงแด กำลังจะร้องไห้อีกแล้ว
“จะร้องไห้ทำไม ไม่ได้ดุเสียหน่อย”เพราะเห็นอีกคนเงียบไปเสียนาน
แบคฮยอนที่เมื่อครู่ยังหงุดหงิดกับสายตาของคนอื่นที่จ้องมายังร่างผอมๆของจงแดถึงได้ยกมือลูบกลุ่มผมนุ่มๆนั่นเบาๆ
เจ้าตัวเงยหน้าหงอยๆทั้งที่ดวงตาแดงก่ำนั่นขึ้นมอง
แต่จงแดคงไม่รู้ตัวหรอกว่ามันไม่ได้น่าสงสารเลย แต่มันกลับดูน่ารัก
น่าแกล้งเสียมากกว่า
“แบคฮยอนไม่ชอบแบบนี้หรอ?”เพราะคยองซูบอกว่าถ้าเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบนี้
แบคฮยอนจะต้องชอบเขาขึ้นมากแน่ๆ แล้วทำไม?
“ไม่เลย..”ยิ่งได้ยินคำตอบชัดๆจากแบคฮยอนแล้วจงแดก็ยิ่งหน้าเสีย
เหมือนยิ่งเขาพยายามทำตัวให้คู่ควรกับแบคฮยอนเท่าไร่ มันก็ยิ่งล้มไม่เป็นท่า
แค่อยากทำตัวให้น่ารักขึ้น ก็ยังไม่ถูกใจแบคฮยอนเลย
มือเรียวจับจูงร่างผอมๆเดินไปส่งที่หน้าห้องเจ้าตัวอย่างเงียบๆ
ตาเรียวเหลือบมองใบหน้าหงอยๆของคนข้างกายแล้วก็ได้แต่ลอบถอนหายใจ
แบคฮยอนรู้ว่าเขานิสัยไม่ดีเลย ที่เอาแต่โกหกจงแดแบบนั้น
ทั้งๆที่ความจริงแล้วเขาชอบมาก ชอบที่จงแดยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเขาขนาดนี้
แต่เขาแค่ไม่พอใจที่จงแดน่ารักเกินไป
ทั้งๆที่ควรจะน่ารักให้เขาเห็นเพียงคนเดียวแท้ๆ
“เข้าไปข้างในได้แล้ว..”เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องเรียนของอีกฝ่ายแบคฮยอนก็ปล่อยมือและยื่นกระเป๋าเป้ในสีฟ้าอ่อนที่เขาเป็นคนสะพายมาตลอดทางส่งคืนให้
เจ้าของร่างผอมๆพยักหน้ารับคำเบาๆ ไม่รู้ว่ายังคิดมากเรื่องเมื่อครู่หรือเปล่า
จงแดถึงไม่ยอมพูดอะไรเลยแถมยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตาอีก
“ตั้งใจเรียนล่ะ...แล้วก็เลิกคิดมากได้แล้ว”ยกมือลูบผมนุ่มๆของอีกฝ่ายอย่างเบามือ
ก่อนจะละออกแล้วหันหลังกลับไปทางเดิม แต่ก็โดนมือเล็กๆนั่นดึงชายเสื้อด้านหลังไว้เสียก่อน
แบคฮยอนเลิกคิ้วคล้ายสงสัยก่อนจะขมวดจนแทบจะพันกันเมื่อคนตัวผอมตรงหน้าเอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความมั่นใจ
“แบคฮยอนจะไม่เลิกกับเราใช่มั๊ย?”
“ใครสอนให้พูดแบบนี้?”ยิ่งฟังคำถามบวกกับแววตาและท่าทางหวาดๆนั่นแล้วแบคฮยอนก็ยิ่งหงุดหงิด
ทั้งๆที่เขาก็รู้ว่าจงแดเป็นคนคิดมาก แต่ก็ไม่คิดเลยว่าเจ้าตัวจะคิดมากถึงขนาดนี้
คิดว่าเขาเป็นคนแบบไหนกัน?
“...”เจ้าตัวส่ายหน้าเสียจนผมกระจาย
แบคฮยอนเสยผมตัวเองด้วยความหงุดหงิดที่คูณอีกเท่าตัว
ก่อนจะตัดสินใจยุติบทสนทนาแค่นี้ เขาไม่อยากคุยกับจงแดตอนที่อารมณ์ทั้งหมดกำลังผสมปนเปกัน
เขากลัวจะตวาดใส่จงแดเหมือนอย่างคราวนั้น เขาไม่อยากเห็นคนตรงหน้าร้องไห้
เพราะแค่นี้ภาพตอนที่จงแดวิ่งร้องไห้ฝ่าสายฝนไปทั้งๆที่เขายังไม่ทันได้อธิบายนั่นก็ยังเป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัยเลย
“เข้าเรียนเถอะ ตอนเย็นค่อยคุยกัน” คราวนี้ไม่ยอมให้คนตัวผอมตอบอะไรแบคฮยอนก็เดินออกมาเสียก่อน
จงแดมองตามแผ่นหลังแบคฮยอนไปพร้อมกับใบหน้าน่ารักทีหม่นลง
นี่เขาโดนแบคฮยอนโกรธเข้าแล้วใช่มั้ย
“อ่ะ”มือของใครสักคนแตะเข้าที่ไหล่เขา
แม้จะไม่ได้แรงนักแต่ก็ทำให้จงแดที่ยืนจมอยู่กับความคิดสะดุ้งโหยง หันกลับไปมองด้วยใบหน้าหม่นหมองและก็เป็นปาร์ค
ชานยอลนั่นเองที่ยืนส่งสายตาจับผิดมาให้
“ทำไมทำหน้าตาแบบนั้น?”
“เปล่า..”ตอบเสียงเบาพลางหันหน้าหลบสายตาจับผิดแม้จงแดจะรู้ว่าอย่างปาร์ค
ชานยอลน่ะไม่มีทางที่จะเชื่อเขาก็ตาม
“อะไรกันมึงนี่ อุตส่าห์ไปแปลงร่างมาซะน่ารักกลับมายืนทำหน้ามุ่ย
นี่แฟนมึงมันไม่ยอมชมใช่มั๊ยล่ะ?”ยังกับตาเห็น
จงแดแทบอยากจะข่วนหน้าเพื่อนที่พูดแทงใจดำ
แต่เหมือนที่ชานยอลพูดมามันยังน้อยไปเพราะนอกจากแบคฮยอนจะไม่ชมเขาแล้ว
ยังโกรธเขาอีกต่างหาก
“เฮ้ย
นี่อย่าบอกนะว่าจริง”เมื่อเห็นเพื่อนหน้าเสียไปชานยอลก็เบิกตากว้างกว่าเดิม
นี่ไอ้แบคฮยอนมันเป็นบ้าอะไรของมันอีกล่ะทีนี้
“อือ
แบคฮยอนเหมือนจะโกรธกูด้วย”จงแดเอ่ยฟ้องใบหน้าน่ารักนั่นหงอยลงเสียจนชานยอลได้แต่เข่นเขี้ยว
บยอนแบคฮยอนในใจ
“เอาน่าๆ มันอาจจะอารมณ์เสียมาจากไหนหรือเปล่า ป่ะๆ
เข้าเรียนกันก่อน”ชานยอลชิงจับข้อแขนเล็กของเพื่อนให้เดินเข้ามาในห้อง ในขณะที่คิม
จงแด ก็ได้แต่ถอนหายใจราวกับกำลังแบกภูเขาไว้บนบ่าทั้งลูก
จึงไม่ได้รับรู้สาเหตุที่บยอน แบคฮยอนไม่ชอบใจ แต่ชานยอลน่ะ
เริ่มจะเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไม แบคฮยอนมันถึงไม่ชอบให้จงแดแต่งตัวแบบนี้
ก็นะ ไอ้พวกผู้ชายมันจ้องเพื่อนตัวเล็กของเขาตาเป็นมันซะขนาดนี้
-----두근거려-----
“จงแดอ่า ขอบคุณที่วันนี้สอนการบ้านให้นะ”คนตัวผอมยกยิ้มซีดเซียวส่งไปให้
แม้ใบหน้าหล่อเหลาของคิม มยองซู จะยิ้มกว้าง
แต่สายตาคมๆนั่นก็ยังค้นพบสิ่งผิดปกติในดวงตาคู่สวยของคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี
“ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”เพราะเป็นห่วง
และไม่เคยชินกับอาการหงอยๆของเพื่อนร่วมห้องผู้เป็นอดีตเด็กแว่น
มยองซูถึงได้ชิงถามขึ้นมาก่อน ใบหน้าน่ารักก้มต่ำก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ
“เหมือนตัวจะรุมๆนะ...”
“เอามือออกไปจากคิม จงแด”
มือเรียวถูกยกค้างไว้กลางอากาศ ก่อนริมฝีปากจะกระตุกยิ้มเมื่อเจ้าของร่างโปร่ง
ที่โด่งดังด้วยบุคลิกอันแสนจะเย็นชาเดินเข้ามากระตุกข้อแขนของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาให้ลุกขึ้น
จงแดที่ยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์เอาแต่มองหน้าเขาสลับกับแบคฮยอนตาปริบๆ แต่กลับเป็นมยองซูที่เริ่มจับต้นชนปลายได้แล้วนั้นกำลังจ้องตากับแบคฮยอนอย่างไม่เกรงกลัว
“จงแดกลับบ้าน”
ไม่ได้หันไปมองหน้าคนตัวผอมแต่อย่างใด
แบคฮยอนเผลอกำข้อมือเล็กแน่นขึ้นเมื่อ
ไอ้หน้าหล่อที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นฝ่ายเก็บของ แฟน
เขาใส่ลงไปในเป้แล้วยื่นมาให้
“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะจงแด โอกาสหน้าจะให้ช่วยใหม่นะ”
“อ่า อืม”เพราะไม่รู้ถึงสาเหตุที่แบคฮยอนกำลังอารมณ์เสีย
ถึงได้ตอบเพื่อนร่วมห้องไปแบบนั้น
ก่อนข้อแขนเล็กจะถูกกระชากให้เดินตามมาทั้งๆที่เขายังไม่ได้เอ่ยปากล่ำลา
มยองซูเสียด้วยซ้ำ
“แบคฮยอนอา แบคฮยอน ช้าหน่อย เราตามไม่ทัน”เสียงใสเอ่ยรั้งคนข้างหน้า
ทั้งๆที่เท้าก็ยังคงเดินตามไปเรื่อยๆ
แบคฮยอนเอาแต่เดินเร็วๆไม่ได้สนใจเลยว่าเขาแทบจะก้าวไม่ทันแล้ว
“...”
“แบคฮยอน หยุดก่อน”ตัดสินใจกระตุกแขนอีกฝ่ายให้หยุดเดิน
โชคดีที่ครั้งนี้แบคฮยอนยอมหยุด ใบหน้าที่ปกติก็เรียบนิ่งอยู่แล้วตอนนี้กลับยิ่งนิ่งสนิท
แต่จงแดรู้สึกได้ถึงกระแสความไม่พอใจที่แผ่ออกมาจากดวงตาคู่นั้น
“ทำไมต้องยิ้มให้มัน...”
“...”จงแดทำหน้าเหรอหรา เขากำลังงุนงงว่า มันที่แบคฮยอนหมายถึงคือใคร
คงไม่ได้หมายถึง มยองซูหรอกนะ
“ถามทำไมไม่ตอบ”
“หมายถึง มยองซูหรอ”ดวงตาใสมองหน้าแบคฮยอนปริบๆ ให้เดาเขาคิดว่าคิม
จงแดคงไม่รู้ตัวแน่ๆว่าตัวเองกำลังถูกไอ้หน้าหล่อนั่นเต๊าะอยู่ ให้ตายเหอะ
มันน่าหงุดหงิดจริงๆ
“ถามว่าทำไมต้องยิ้มให้มัน”
“...อ่า ก็นั่นเพื่อนเรา”
“แล้วนั่งทำอะไรกัน”
“สอนการบ้าน..”
“แล้วทำไมต้องสอนการบ้านให้มัน มันโง่นักหรือไงถึงทำเองไม่เป็น”
“อ่า คือ...”จงแดได้แต่มองด้วยความงุนงง เขาตามอารมณ์แบคฮยอนไม่ทัน
เมื่อเช้าก็เพิ่งโมโหเขาเรื่องที่ไม่ใส่แว่นมาเรียน แล้วตอนนี้
ยังไม่ทันได้เคลียร์เรื่องตอนเช้าก็มาโมโหเขาเรื่องมยองซูอีก
หรือว่าแบคฮยอนจะรำคาญเขาแล้ว?
“ห้ามเข้าใกล้มันอีก..”ไม่ทันได้คิดน้อยใจอะไร
เสียงนุ่มก็เอ่ยขึ้นเรียบๆ จงแดเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าแบคฮยอนหันหน้าหนีไปอีกทาง
“...แต่ว่า”
“ไม่มีแต่ แล้วก็พรุ่งนี้ห้ามแต่งตัวแบบนี้อีก ฉันไม่ชอบ”มือเรียวเสยผมสีดำสนิทของเจ้าตัวอย่างที่ชอบทำเวลาหงุดหงิด
จงแดได้แต่ก้มหน้างุด พยักหน้าขึ้นลง และเดินตามแรงรั้งที่ข้อมือไปเท่านั้น
ไม่อยากจะคิดมาก
แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่จงแดคิดว่าเขาไม่ควรมายืนข้างๆแบคฮยอนตั้งแต่แรก
ลูกเป็ดขี้เหร่น่ะ ต่อให้ปรุงแต่งตัวเองให้สวยหรูแค่ไหน
ก็เป็นได้แค่ลูกเป็ดขี้เหร่อยู่วันยังค่ำ ไม่มีทางคู่ควรกับหงส์หรอก
แม้จะยังไม่เข้าใจอะไรมากนัก แต่วันนี้จงแดก็กลับมาใส่แว่นหนาๆอันเดิม
คยองซูที่แวะเข้ามาชมรมตอนเช้าแล้วเห็นเขาแต่งตัวแบบเดิมถึงกับเผลอแว๊ดใส่เขาอย่างลืมตัว
จนกระทั่งเขาบอกว่าแบคฮยอนไม่ชอบนั่นแหละน้องถึงได้เงียบแล้วเปลี่ยนมาเป็นกอดอกขมวดคิ้วจ้องหน้าเขาแทน
“มีเหตุผลอะไรที่พี่แบคฮยอนไม่ชอบ พี่จงแดน่ารักออกขนาดนั้น”
“...ไม่รู้สิ มันอาจจะไม่เหมาะกับพี่มั้ง”จงแดหัวเราะแหะๆ
แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตากลมโตที่ยังจ้องเขาจนแทบทะลุนั่นก็ได้แต่ปิดปากฉับ โด
คยองซูน่ะ เครียดเกินไปทั้งๆที่เขาบอกไปตั้งแต่แรกแล้วว่ามันไม่มีอะไรแต่น้องก็ยังไม่เลิกเซ้าซี้
“พี่แบคฮยอนนี่ประหลาดชะมัด”
“ไม่หรอก
พี่แต่งแบบนั้นมันคงจะแปลกๆแบคฮยอนก็เลยไม่ชอบ”ยังจะแก้ต่างให้ คยองซูเบ้ปากให้พี่ชายร่วมชมรม
ก่อนคิ้วจะขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นร่างสูงของคนที่ไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่เดินเข้ามาในชมรม
“อ่าว มยองซู”จงแดมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน
พลันคำพูดของแบคฮยอนเมื่อวานก็ดังขึ้นในหัว
“ห้ามเข้าใกล้มันอีก...”
ใบหน้านิ่งเรียบพร้อมกับเสียงเย็นๆนั่นฉายชัดในหัว
จงแดทำตัวไม่ถูกเมื่อเพื่อนร่วมห้องส่งยิ้มมาพร้อมกับเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า
“คิดไว้แล้วเชียวว่านายต้องอยู่ที่นี่”มยองซูยิ้มกว้าง
รอยยิ้มที่ทำให้จงแดเผลออึดอัดขึ้นมา
เพราะเขาไม่สามารถยิ้มให้เพื่อนตรงหน้าได้อย่างจริงใจเช่นเดิม
ทั้งๆที่มยองซูไม่ผิดอะไรแท้ๆ แต่เขากลับไม่กล้าขัดคำพูดแบคฮยอน
“มีอะไรหรอ”ตัดสินใจเอ่ยถามออกไป อย่างน้อยเขาก็ต้องรีบให้มยองซูออกไปจากชมรม
ก่อนที่แบคฮยอนจะมา
“แวะเอาของมาให้น่ะ เมื่อวานนายลืม
แล้วก็นี่ของฝาก”ดินสอกดที่เขาหาเมื่อคืนถูกยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับพวกกุญแจเป็ดสีเหลือง
จงแดเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบกล่าวขอบคุณเพื่อนเสียยกใหญ่
จนมยองซูอดไม่ได้ที่จะไม่เอื้อมมือไปขยี้กลุ่มผมนุ่มของอีกฝ่ายเหมือนอย่างที่เคยทำ
จงแดเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมัวแต่สนใจเจ้าเป็ดน้อยในมือ
รอยยิ้มกว้างถูกส่งให้ร่างสูงของเพื่อนร่วมห้องอีกครั้งก่อนจะชะงักเมื่อใครบางคนเข้ามาอยู่ในกรอบสายตา
“แบคฮยอน..”มยองซูหันไปมองด้านหลังก่อนจะพบว่าเจ้าของตัวจริงเดินหน้าตึงเข้ามาใกล้
เขาไม่ได้ดึงดันอะไร
ยอมหลบให้ร่างโปร่งของคนขี้หึงเดินเข้ามาคว้าเอวเพื่อนร่วมห้องเขามากอดแสดงความเป็นเจ้าของต่อหน้าต่อตา
“แบคฮยอนคือ...”ไม่ทันได้แก้ตัวอะไรเอวบางก็ถูกกอดรัด
ก่อนจะโดนลากเข้าไปยังห้องด้านใน คยองซูที่นั่งอยู่ในห้องและเห็นเหตุการณ์มาตลอดหันไปสบตากับพี่ชายร่วมห้องของจงแดก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
โธ่เอ๊ย ไอ้ที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง
ทำหน้าตาเย็นชาใส่จนพี่จงแดจะร้องไห้นั่นก็เพราะว่าหึงเนี่ยนะ
“อื้อ บะ แบค”ร่างผอมหอบจนตัวโยน ริมฝีปากบางกอบโกยเอาอากาศเข้าปอดทันทีที่ริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ
ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทำไมจู่ๆแบคฮยอนถึงได้กลายเป็นแบบนี้
ขาเล็กสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ยิ่งเมื่อแบคฮยอนกดจูบที่ลำคอเขา
จงแดก็เกือบเผลอทรุดตัวลงไปกองกับพื้น
“ทำไมชอบทำให้หงุดหงิดนักนะ จงแด”เสียงแหบพร่าดังขึ้นข้างหู
จงแดเกาะแขนของแบคฮยอนไว้แน่นก่อนร่างทั้งร่างจะถูกดึงรั้งเข้าสู่อ้อมกอด
บังคับให้เขาที่แทบจะไม่มีแรงยืนซุกเข้าหาอกกว้างนั่นอย่างเลี่ยงไม่ได้
“แบคฮยอน เรา..”
“เงียบ” ไม่ปล่อยให้จงแดได้พูดอะไร แบคฮยอนพรูลมหายใจออกมา
เผลอกอดรัดร่างผอมๆนั่นไว้อย่างหวงแหนเมื่อเผลอพาลคิดไปถึงใบหน้าหล่อเหลาของคิม
มยองซู ยิ่งเหลือบไปเห็นพวงกุญแจรูปเป็ดที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นข้างๆแว่นตาสีดำอันโตของจงแดที่เขาเป็นฝ่ายถอดมันตั้งแต่เริ่มจูบคนตัวผอมในอ้อมแขนนี่แล้วด้วย
แบคฮยอนอยากจะเอามันไปทิ้งให้ไกลๆตาจริงๆ
“เลิกเป็นแบบนี้สักทีได้ไหมจงแด”เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากที่สงบสติอารมณ์ได้กว่าครึ่ง
เขาพึมพำในลำคอ แต่คนตัวผอมที่อยู่ในอ้อมกอดก็ยังได้ยินมันชัดเจน
จงแดเผลอกัดปากเมื่อเผลอคิดว่าตัวเองทำเรื่องให้แบคฮยอนไม่พอใจอีกแล้ว
“...”
“ทำไมถึงชอบทำตัวแบบนี้นะ ทั้งๆที่เคยบอกไปแล้ว
แต่ทำไม..จงแด”เพราะเสียงสะอื้นที่หลุดรอดออกมาทำไห้แบคฮยอนเบิกตากว้าง
ดันร่างผอมๆนั่นออกมาจากอ้อมกอดก็พบว่าตากลมของอีกฝ่ายคลอไปด้วยหยาดน้ำตาเสียแล้ว
“จงแดยา..อย่าร้องสิ”คำพูดที่เตรียมไว้เมื่อครู่เลือนหายไป
แบคฮยอนแทบอยากจะตบหน้าตัวเองสักสิบรอบเมื่อคิม
จงแดร้องไห้โฮและโผเข้ากอดเขาไว้แน่น
ปากเล็กๆนั่นพร่ำขอโทษเขาซ้ำๆเสียจนเขาทำอะไรไม่ถูก
“แบคฮยอน ฮึก อย่าโกรธเรานะ ฮึก”
“จงแดยา พี่ไม่ได้โกรธเรานะ อย่าร้องสิ”แบคฮยอนยกมือลูบผมอีกฝ่ายเบาๆ
โยกตัวคนในอ้อมแขนไปมาคล้ายกับกำลังปลอบเด็กตัวน้อยๆ ได้ทันได้รู้ตัวว่าเผลอใช้คำแทนตัวเองที่ไม่เหมือนเดิม
“ไม่ได้โกรธแต่ก็ไม่ชอบใช่มั๊ย ที่เราแต่งตัวแบบเมื่อวาน”ตากลมที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตาช้อนมอง
แบคฮยอนไม่รู้ว่าเขาบ้ามากหรือเปล่าถึงได้มองดวงหน้าที่เลอะไปด้วยน้ำตาของอีกคนว่ามันน่ารัก
“...”
“เราไม่ได้น่ารัก แบคฮยอนเลยไม่ชอบอื้อ..”ปากเรียวชิงหยุดประโยคเหล่านั้นไว้ทันควัน
แบคฮยอนทำเพียงแค่กดจบริมฝีปากนั่นก่อนจะถอนออก
มือเรียวเกลี่ยหยาดน้ำตาข้างแก้มของอีกฝ่ายออก
พร้อมกับรอยยิ้มบางเบาที่ประดับบนใบหน้า
“ไม่ชอบ..”เชยคางของคนที่เหมือนจะร้องไห้อีกรอบขึ้นมาสบตา
“ไม่ชอบที่จงแดแต่งตัวน่ารักๆแบบนั้นให้คนอื่นเห็นต่างหาก “
“...”
“ไม่รู้หรือไง ว่าพี่หวง ยิ่งเห็นสายตาของคนที่มองจงแดพี่ยิ่งหงุดหงิด
โดยเฉพาะไอ้มยองซูอะไรนั่นน่ะ ยิ่งน่าโมโห”
“...”จงแดเหมือนจะยังงุนงงกับคำพูดของคนตรงหน้า คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน
จนแบคฮยอนอดหัวเราะกับความน่ารักของแฟนตัวเองไม่ได้
ก็เพราะคิม จงแดเป็นแบบนี้
“ก็ชอบทำตัวน่ารักแบบนี้ แล้วพี่จะไม่หึงได้ยังไง”
ฉ่า..
จงแดรู้สึกเหมือนหน้าตัวเองร้อนเหมือนจะไหม้ คำว่า หึง
พร้อมกับรอยยิ้มกว้างๆของแบคฮยอนทำเอาเขาไปไม่เป็น สมองคิดประมวลผล
ก่อนจะเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด ที่แบคฮยอนไม่ชอบให้เขาถอดแว่น
ไม่ใช่ว่าเขาน่าเกลียด แต่เป็นเพราะหวง ที่ไม่ให้เขายุ่งกับมยองซู
นั่นก็เพราะหึง
“ทีนี้ก็รู้แล้วนะ ว่าทำไม?”
“อือ”พยักหน้าขึ้นลง แต่ก็ยังไม่กล้ามองหน้าแบคฮยอนอยู่ดี
จนสุดท้ายก็โดนอีกฝ่ายรั้งเอวให้เขามาแนบชิดพร้อมกับปลายคางที่ถูกบังคับให้เงยขึ้นสบตาอีกครั้ง
“ที่เป็นแบบนี้ ก็เพราะ พี่รัก จงแดนะ”
“...อือ”ร่างผอมพยักหน้าขึ้นลง
ก่อนจะฉุกคิดได้ว่าสรรพนามที่แบคฮยอนใช้แทนตัวเองเปลี่ยนไป
แถมพออีกฝ่ายเรียกตัวเองว่าพี่แล้วมันกลับฟังคุ้นหูอย่างประหลาด “ว่าแต่ทำไม
แบคฮยอนแทนตัวเองว่าพี่ล่ะ?”
แบคฮยอนหัวเราะ ก่อนจะยิ้มใส่คนในอ้อมแขนที่หน้าแดงลามไปถึงใบหู
พร้อมกับประโยคสุดท้ายก่อนอ้อมแขนจะคลายออก
“คิดแล้วเชียวว่าลูกเป็ดขี้เหร่ต้องจำไม่ได้”
-----두근거려-----
จงแดได้แต่นั่งทำตาปริบๆจ้องม่าม้าคนสวยของตัวเองหัวเราะคิกคักกับแบคฮยอนราวกับรู้จักกันมานานแสนนาน
ตากลมมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของม่าม้า ก่อนจะหันกลับมามองหน้าของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“อ่าว นี่แบคฮยอนยังไม่ได้บอกน้องอีกหรอเนี่ย”คนอายุมากสุดในบ้านเอ่ยถามว่าที่ลูกเขย
ตากลมแบบที่ถ่ายทอดมาให้จงแดยกยิ้มมองดูใบหน้างุนงงของลูกชายด้วยความชอบใจ
“ม่าม้าคือ...”
“เดี๋ยวให้พี่เค้าอธิบาย ม่าม้าไปแต่งตัวก่อนเดี๋ยวไม่ทันนัดวันนี้”ไม่ทันได้เอ่ยถามความสงสัย
คุณแม่ก็ลุกขึ้นเอ่ยขัดเสียก่อน จงแดได้แต่อ้าปากค้างมองตามแผ่นหลังของม่าม้าก่อนจะหันกลับมาจ้องหน้าแบคฮยอนอย่างขอคำตอบ
คนที่ถูกจ้องทำเพียงยกมือขึ้นวางบนหัวเขาแล้วโยกไปมาพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ แต่ทว่ากลับไม่ยอมอธิบายอะไรเลยเลย
“บอกเรามาเดี๋ยวนี้เลยนะ!!”
“ใจร้าย ทำไมไม่ยอมบอกว่ารู้จักกับม่าม๊า”เสียงบ่นงุ้งงิ้งของคนที่นอนซบอยู่บนอกทำเอาแบคฮยอนยิ้มขำ
ตั้งแต่ที่เจ้าตัวรู้ความจริงว่าเขาคือลูกชายของเพื่อนสนิทแม่ตัวเองก็ทำหน้ายู่บ่นงุ้งงิ้งใส่เขาไม่ยอมหยุด
แบคฮยอนลูบกลุ่มผมนิ่มๆที่อยู่ในระดับสายตา
อีกมือก็กระชับเอวบางๆของเจ้าของห้องให้แนบชิดกันมากขึ้น
“ก็ใครจะไปรู้ว่าคนแถวนี้จะขี้ลืม จนถึงขนาดจำคนที่ตัวเองขอแต่งงานตั้งแต่เด็กไม่ได้”
“ก็นั่นมันตั้งนานแล้วนี่...”ทำปากยู่อย่างที่ทำบ่อยๆก่อนจะเงียบไปและเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงหงอยๆ
“ แต่แบคฮยอนไม่โกรธเรานะ”
“ใครจะไปโกรธลง น่ารักขนาดนี้ หืม”ไม่พูดเปล่ากดจมูกลงกับกลุ่มผมนุ่มที่อยู่ไม่ไกล
จงแดกอดกระชับเอวของแบคฮยอนแน่นขึ้น
พร้อมกับแก้มร้อนๆที่ซุกซบลงบริเวณหน้าอกข้างซ้าย
เขิน จงแดเขินจนจะตัวแตกอยู่แล้ว
ก็แบคฮยอนน่ะไม่เคยชมเขาว่าน่ารักเลยนี่นา
“ตรงนี้ของแบคฮยอนเต้นแรงจัง...”
“...อือ ก็นั่นมันเพราะใครล่ะ”
“เหมือนเราเลย “พูดพร้อมกับหัวเราะคิกคักคล้ายชอบใจ แบคฮยอนยิ้มกว้างก่อนจะผุดลุกอย่างรวดเร็วเสียจนคนที่ไม่ทันตั้งตัวถูกดันให้เป็นฝ่ายนอนราบไปกับพื้นเตียง
ตากลมเบิกกว้างแต่เพียงชั่วครู่ก็เปลี่ยนเป็นทำหน้ายู่บ่นงุ้งงิ้งใส่เขา
“งือ แบคฮยอนอย่าแกล้งเรา”
“ก็อย่าทำตัวให้น่าฟัดนักสิ”
“เราไปทำแบบนั้นตอนไหนกัน?”
“ก็นี่ไง จ้องตาแป๋วๆแบบนี้ใครเขาจะอดใจไหว”
“เราก็ไม่เคยไปจ้องใครแบบนี้สักหน่อย..”
“...”
“เคยแต่กับแบคฮยอนนั่นแหละ อ๊ะ แบคฮยอน”หมดความอดทนจนได้ คิม จงแดไม่รู้ตัวเลยหรือไงนะว่าแค่อยู่เฉยๆก็ทำให้เขาคลั่งจนจะบ้าตายอยู่แล้ว
แล้วนี่ยังมายั่วกันด้วยท่าทางไร้เดียงสาพร้อมกับ คำพูดซื่อๆนั่นอีก
แก้มขาวๆถูกจมูกโด่งๆฟัดหลายสิบทีด้วยความหมั่นเขี้ยว เจ้าตัวเบี่ยงหน้าหลบแต่แบคฮยอนก็ยังไม่ยอมแพ้ตามไปจุ๊บแก้มขาวๆนั่นเสียอีกหลายทีจนกระทั่งจงแดเหนื่อยแล้วนอนอยู่นิ่งๆให้คนเจ้าเล่ห์ได้เอาเปรียบแก้มนุ่มๆนั่นจนกว่าจะพอใจ
“ทำไมชอบรังแกเรานักนะ”หลังจากโดนฟัดแก้มจนตัวแดง
แล้วถูกอีกฝ่ายดึงรั้งเข้ามากอดแนบอกจงแดก็ได้แต่บ่นอีกรอบ
ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจของคนข้างๆก่อนจะรู้สึกอุ่นวาบเมื่ออีกฝ่ายก้มลงมาจุ๊บที่ขมับเขาอีกรอบ
“นอนเถอะ” แบคฮยอนเปลี่ยนเรื่องพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
จงแดได้แต่ยู่ปากใส่ กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
ริมฝีปากบางแย้มยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงนุ่มเอ่ยขึ้นข้างๆหู มันไม่ใช่คำบอก
ฝันดี แต่มันเป็นคำที่ทำให้จงแดฝันดีได้ไม่แพ้กัน
“รักนะครับ”
จงแดเองก็รักแบคฮยอนมากเหมือนกันนะ~~~~ Good night
~~~~Special~~~~
“ทำไมบยอนต้องให้เค้าเรียกว่าพี่ด้วยล่ะ อายุเท่ากันแท้ๆ”เด็กน้อยคิม
จงแดในวัยห้าขวบจ้องมองเด็กชายอีกคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า
มือเรียวเล็กนั่นกำลังเช็ดเศษดินบริเวณหัวเข่าของเขาออกให้อย่างเบามือ
คนที่ถูกเรียกว่าบยอนเงยหน้าขึ้นมาสบตาคนที่นั่งอยู่สูงกว่าก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง
“ก็เราอยากเป็นพี่ไง จะได้ปกป้องจงแดได้”
“ไม่เห็นจำเป็นเลย ไม่เป็นพี่ บยอนก็ปกป้องเค้าอยู่แล้ว”เด็กตัวน้อยยู่ปากอย่างไม่เข้าใจ
แบคฮยอนส่ายหัวก่อนจะจับมือน้อยๆที่เปื้อนฝุ่นเพราะโดนคนอื่นแกล้งมาเป่าเบาๆ
“ไม่เจ็บแล้วนะ”จงแดพยักหน้าน้อยๆก่อนจะกล่าวขอบคุณ
แบคฮยอนลุกขึ้นมานั่งเคียงข้าง ก่อนจะถูกมือเล็กๆนั่นสะกิด
เด็กชายเจ้าของดวงตาเรียวหันไปอย่างไม่เข้าใจก่อนจะตกใจจนเกือบตกม้านั่งเมื่อริมฝีปากสีชมพูของจงแดประทับเข้าที่ข้างแก้มจนได้ยินเสียงดัง
จุ๊บ
“ขอบคุณนะ เค้าชอบบยอนที่สุดเลย”
“อื้อ เราก็ชอบจงแด ที่สุด”เกาแก้มด้วยความเขินอาย
แบคฮยอนรู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมา ยิ่งเมื่อหัวกลมๆของคนข้างกายเอนซบลงที่บ่าเล็กๆของเขา
แบคฮยอนยิ่งรู้สึกอย่างปกป้อง ก่อนที่ฝ่ามือน้อยๆของคนข้างกายจะจับมือเขาประสานแน่น
เสียงเจื้อยแจ้วของจงแดยังคงดังข้างหู แต่ประโยคสุดท้ายที่เจ้าตัวเอ่ยกับเขา
และไม่มีทางลืม แม้ว่าจะผ่านมาซักกี่ปีแล้วก็ตาม
“บยอน เรามาแต่งงานกันมั๊ย?”
“เอาสิ”
ขอแล้วก็ต้องแต่งจริงๆนะ จงแด ของพี่แบคฮยอน
END~~~~
จบจริงๆแล้วนะคะ คราวนี้ อาจจะงงๆหน่อย เจอกันเรื่องหน้านะคะ ขอบคุณสำหรับคนที่ติดตามและคอมเม้นให้กำลังใจนะคะ รักทุกคนที่รักน้องเฉินน้าาาาา ~~~~~-
ความคิดเห็น