ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) His Mermaid♡ | chanbaek hunhan

    ลำดับตอนที่ #3 : .His Mermaid♡ | CHAPTER02 (REWRITE 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 57



    Under The Sea
    ( His Mermaid )





     

    - C H A P T E R 0 2 -




                ปาร์ค ชานยอลไม่เคยรู้สึกโล่งใจมากเท่านี้มาก่อน...

     

     

     

    เมื่อพบว่าตนเองได้พ้นจากข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้อย่างหวุดหวิด ภาพของเงือกที่ผิวซีดคล้ายกับว่าได้ตายไปแล้วยังคงติดตา โชคยังดีที่พวกเขาสามารถอุ้มร่างของมันขึ้นมาไว้ในห้องและจัดการเปิดฝักบัวราดน้ำได้ทัน ในที่สุดผิวที่ซีดเซียวก็กลับมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งจึงเป็นที่น่าดีใจ


    แต่ชานยอลไม่อยากจะบอก...


    เขาคิดว่าเงือกตนนี้อาจกินปลามาทั้งมหาสมุทรก่อนหน้านี้ ถึงขนาดทั้งเขาและดอกเตอร์ลู่หานช่วยกันยังแทบจะยกไม่ขึ้น


     

    กว่าเหตุการณ์จะจบลงด้วยดีเวลาล่วงเลยไปถึงยามค่ำคืน ภายในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็กยังคงเปิดไฟสว่าง โดยมีคนสองคนกับอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตนั่งนอนเล่นอยู่ในนั้น บรรยากาศถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ ต่างคนต่างมีโลกส่วนตัวเป็นของตนเอง ติดตรงที่ว่าความเงียบไม่สามารถครอบงำความคิดในหัวของชานยอลได้ มันยังคงส่งเสียงร้องถามคำถามมากมายด้วยความสับสนและงุนงง จนไม่สามารถเรียบเรียงคำถามให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นแม้แต่น้อย


    เกือบทั้งชีวิตที่อาศัยอยู่ติดกับท้องทะเลไม่เคยเจออะไรแปลกประหลาดเท่าวันนี้


    ...จะให้นิ่งนอนใจอยู่เฉยๆก็คงจะยากเกินความสามารถไปหน่อย

     

     

    เงยหน้าขึ้นมองดูร่างของเงือกที่กำลังนอนพิงกระจกตู้ปลาซึ่งถูกจับยัดลงไปโดยฝีมือทั้งเขาและดอกเตอร์ลู่หาน ตู้ปลาที่มีขนาดใหญ่พอจะใส่ปลาลงไปในนั้นได้หลายสิบตัวอย่าสบายๆ เขาก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่นักว่าเงือกนี่มีสิทธิพิเศษอะไรเขาถึงต้องนำปลาเหล่านั้นที่อยู่ในตู้มาตลอดต้องเทออกมาไว้ข้างนอก แล้วยัดเงือกร่างใหญ่กว่าปลาหลายเท่าใส่ลงไปเพียงตัวเดียว นั่นแหละ ส่วนเล็กๆที่ชานยอลไม่เข้าใจ จะว่าไปแล้ว เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองตั้งแต่เกิดความคิดจะเอาเงือกเจ้าปัญหานี่เข้ามาในบ้านพักอยู่แล้วล่ะนะ


    เมื่อได้ข้อสรุปว่าการนั่งใช้ความคิดเงียบๆไม่เกิดผลดีเท่าไหร่ จึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วเขยิบมาเคาะกระจกตู้ปลาเบาๆเป็นเชิงเรียกสิ่งมีชีวิตในนั้นให้หันมาคุยกัน ร่างนั้นไม่เอ่ยอะไรทำเพียงแค่พยายามหันหลังกลับมา เนื่องจากที่ๆตนอยู่มันคับแคบเกินไปมันจึงค่อนข้างลำบากในการพลิกตัวแต่ละที เจ้าตัวจึงย่นหน้าหวานๆนั่นด้วยความหงุดหงิดใจ ชานยอลมองดูการกระทำของร่างนั้นพร้อมกับสีหน้าตลกแล้วแทบอยากจะหัวเราะออกมาให้ลั่น แต่เลือกที่จะไว้ฟอร์มด้วยการกลั้นขำสุดฤทธิ์เลยกลายเป็นว่าอมยิ้มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น


    ข้ารู้ว่าเจ้าอยากจะหัวเราะข้า เชิญเลย หน้าเจ้าตอนกลั้นขำก็ตลกไม่แพ้กันหรอกน่า


    ฉันมั่นใจว่าอย่างน้อยก็ดูดีกว่าเงือกในท่าที่น่าเกลียดอย่างนี้ละกัน


    เจ้าคือมนุษย์ใจร้าย ข้าภาวนาให้เจ้าแห่งสมุทรลงโทษเจ้า!”


    อา...ปาร์ค ชานยอลรู้สึกกลัวขึ้นมาทันทีเลยล่ะ


    งั้นเจ้าสมุทรควรจะต้องขอบคุณฉันนะ ที่ช่วยชีวิตนายไว้น่ะเงือก


    เจ้านี่มัน ฮึ่ย!!”


    ชานยอลสาบานว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาชวนทะเลาะ แต่ก็หมดปัญญาที่จะเอ่ยคำถามอะไรออกมาเมื่อร่างบางนั้นดูเหมือนว่ากำลังขัดใจสุดทนโดยหันหน้าหนีจากเขาไปอีกทาง ตัดสินใจนั่งยองๆลงตรงหน้าตู้ปลาพร้อมเอามือยีผมตนเองบอกอาการหัวเสียอย่างเห็นได้ชัด บางทีการผูกมิตรระหว่างเพื่อนต่างสายพันธุ์มันอาจจะยากเกินไปสำหรับพวกเขาก็ได้...ล่ะมั้ง


    พวกนายน่ะ อย่าเพิ่งอารมณ์เสียกันไปหน่อยเลย ยอลลี่นายเองก็ควรจะพูดกับเขาดีๆนะเข้าใจไหม


    แล้วกูพูดไม่ดีตรงไหนไอ้ด็อกลู่? อีกอย่างมึงกำลังเข้าข้างเงือกบ้านี่นะ


    คิกคิก...


    หันขวับไปทางต้นเสียงอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด ร่างในตู้ปลาเอามือป้องปากราวกับจงใจหัวเราะเยาะให้เขาได้ยิน เมื่ออีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงสายตาดุดันที่กำลังจ้องมาจึงหยุดเสียงหัวเราะลงทันใดแล้วเอนตู้ปลาพิงนิ่งๆเช่นเดิม แต่แค่เปลี่ยนจากสีหน้าบูดบึ้งเป็นการผิวปากอย่างอารมณ์ดี


    ชานยอลจะไม่ว่าเลย ถ้าเงือกนั่นไม่ทำสีหน้าระรื่นดูอารมณ์ดีผิดจากในคราวแรกอย่างเห็นได้ชัดขนาดนั้น คอยดูเอาเถอะอีกไม่นานชานยอลจะจับเงือกมาปิ้งบนเตาให้สุกจนลุกมาทำตัวน่าหมั่นไส้ไม่ออกอีกเลย...คอยดู


    ตอนนี้มึงกำลังทำอะไรอยู่วะ ดูมึงเครียดกับจอเหลี่ยมๆนี่มากเลยว่ะเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนรักยังคงตั้งหน้าตั้งดูอะไรบางอย่างจากจอคอมพิวเตอร์ไม่หยุดหย่อน เขานั่งตรงนี้ตั้งแต่ยัดเงือกลงตู้ปลาจนเสร็จแล้ว ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะลุกไปไหนเลยแม้แต่วินาทีเดียว


    ให้ข้าทาย เจ้าต้องกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับข้าอยู่แน่ ใช่ไหมล่ะเจ้ามนุษย์


    ว้าว! นายเป็นเงือกที่ฉลาดไม่เบาเลยล่ะแถมยังฉลาดกว่าไอ้หน้าโง่ที่คบกันมาเป็นสิบๆปีอย่างหมอนี่อีก แน่นอนว่าใช่ นายคิดถูกแล้ว


    เอาให้เต็มที่เลยสิ ทีเงือกนี่ชมเข้าไป กับเพื่อนรักที่คบกันมาเป็นสิบปีนับวันมีแต่ด่าเอาๆ คิดว่าชานยอลควรจัดงานแต่งให้กับเพื่อนรักและเงือกบ้านี่เลยดีไหม?


    แล้วมึงจะหามันไปทำไม?


    เอาคิดค้นสูตรอาหารมั้งเพื่อนโง่ ก็หาวิธีที่จะเปลี่ยนหางเป็นขาให้กับเงือกยังไงล่ะ


    เดี๋ยวก่อนนะ เปลี่ยนหางเป็นขา?เพื่อ?


    ปาร์ค ชานยอลคิดว่าเขาเริ่มโง่อย่างที่เพื่อนรักบอกจริงจังแล้วล่ะ


    ไหนมึงลองอธิบายมาไอ้ด็อกลู่ จะเปลี่ยนจากหางเป็นขาให้ไอ้เงือกนี่ไปทำไมกันวะ?


    แล้วเงือกมันอยู่บนโลกมนุษย์โดยที่ไม่มีขาได้ยังไงยอลลี่ หรือว่านายอย่างเปลี่ยนบ้านพักขนาดเท่ากระต๊อบของเราให้กลายเป็นพิพิทธภัณฑ์รวบรวมสัตว์ประหลาดแห่งชาติ? ฉันว่านายคงไม่คิดอย่างนั้นหรอกนะ


    ที่พูดมาของดอกเตอร์ลู่หานก็ถูกทั้งนั้น...


    เพียงแต่เขายังไม่เชื่อว่าการทดลองหรืออะไรก็ตามแต่ที่จะเปลี่ยนจากหางเป็นขามันจะเป็นทางเลือกที่ดี อย่างแรกคงเป็นอคติส่วนตัวของชานยอลเอง ถ้าเงือกทุกตัวสามารถเปลี่ยนจากหางเป็นขา องค์ประกอบทุกประการเป็นเฉกเช่นเดียวกับมนุษย์ทั้งหมด...แล้วปาร์ค ชานยอลจะเอาอะไรมาถือไพ่เหนือกว่า?


    หรืออีกอย่างหนึ่งเขากลัวจะเกิดเหตุการณ์พิสดารอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณปีกว่านี้ ชานยอลเองก็ไม่เข้าใจว่าตอนนั้นเพื่อนรักของเขาเกิดความคิดอะไรขึ้นมาถึงจับปลาตัวหนึ่งที่เขาจะนำไปขายมาทดลอง โดยให้เหตุผลว่าอยากเปลี่ยนจากปลาให้เป็นเงือกด้วยการทดลองจากทฤษฎีของเขา แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับการเป็นว่าดอกเตอร์ลู่หานสามารถเปลี่ยนเป็นครึ่งคนครึ่งปลาได้สำเร็จแต่ยากไปหน่อยที่จะเรียกว่าเงือก ปลาตัวนั้นโชคร้ายที่ศรีษะยังคงเป็นปลาเช่นเดิม แต่ส่วนล่างนั้นได้เปลี่ยนจากหางเป็นขา ติดที่ว่าขานั้นสั้นและเล็กเกินไปมากจนคล้ายกับขาของไก่มากกว่า


    หลังจากกลับมาพบผลงานชิ้นโบว์แดง ปาร์ค ชานยอลรีบควานหาทิชชู่ม้วนแล้วหยิบมันไปโยนทิ้งลงทะเลให้ไกลที่สุด ทุกวันนี้เหตุการณ์สยองยังคงติดตา...


    นั่นแหละ เหตุผลที่ว่าเขาไม่อยากให้เพื่อนรักเปลี่ยนจากหางเป็นขาให้เงือกแม้แต่จะคิด...แต่มันก็เป็นทางเลือกเดียวที่จะทำให้เงือกอยู่อาศัยบนโลกมนุษย์ได้อย่างปกติสุข


     

    ความเมื่อยล้าเริ่มกัดกินบริเวณต้นขาของเขา ชานยอลจึงลุกขึ้นแล้วกลับไปนั่งลงตรงเก้าอี้ตัวเตี้ยที่ห่างกว่าตำแหน่งตู้ปลาเพียงเล็กน้อย ขายาวยืดตรงออกคล้ายกับหาวิธีไล่ความปวดเมื่อยนี่ออกไปได้จนหมด หลังพิงกำแพงนิ่งๆอย่างกำลังใช้ความคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป


    เถียงความเห็นเพื่อนก็ไม่ได้


    จะถามคำถามเงือกก็กลายเป็นชวนทะเลาะ


    โถ!อนาถใจกับชีวิตปาร์คชานยอลเหลือเกิน


    นายมาจากที่ไหนเหรอเงือก


    คำถามแรกที่เอ่ยออกมาไม่ใช่จากปากของชานยอล เหลือบมองเพื่อนรักที่กำลังขยับกรอบแว่นเพื่อนปรับสายตาให้ชัดเจนโดยยังไม่ละสายตามาจากคอมพิวเตอร์มีอายุก่อนจะหันกลับมามองร่างบางเช่นเดิมเพื่อรอคำตอบ รายนั้นหันศรีษะมองเพื่อนรักพร้อมเลิกคิ้วขึ้นให้กับคำถามด้วยความสงสัย


    ข้าหรือ? ข้าก็มาจากมหาสมุทรนี่ยังไงล่ะ ข้อนั้นเจ้ารู้ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?


    ตอนนี้ชานยอลคิดว่าเขาเจอบุคคลที่ตอบคำถามได้กวนที่สุดในรอบศตวรรษแล้วล่ะ


    ไม่ใช่สักหน่อยน่ะ ฉันหมายถึงมหาสมุทรแถบไหน มหาสมุทรอินเดีย หรือแอตแลนติกอะไรทำนองนั้น


    ก็ไม่ใช่ทั้งสองนั่นแหละ


    บางทีนายควรจะให้ความร่วมมือในการตอบคำถามบ้างนะชานยอลพูดแทรกขึ้นมาอย่างหมดความอดทน


    ข้าว่าข้าก็ตอบตรงคำถามทีเดียวนะเจ้ามนุษย์


    มันก็เป็นความจริง...


    หรือว่าบางทีเขาคาดหวังคำตอบหรืออะไรในตัวเงือกผู้นี้มากเกินไป โอเคว่าปาร์ค ชานยอลอาจจะผิดเอง คำถามนี้คงต้องพับเก็บไปสินะ...


     

                “แล้วนายมีชื่อไหม


                หลังจากคำถามในข้อแรกที่ดอกเตอร์ลู่หานเป็นคนเปิดประเด็น ทำให้ปาร์ค ชานยอลมีความมั่นใจในการตั้งคำถามมากยิ่งขึ้น ได้แต่แอบภาวนาไว้ว่าคำถามแต่ล่ะข้อที่ได้รับกลับมามันพอจะมีประโยชน์บ้างก็ยังดี


    เงือกไม่พูดอะไรออกมาเพียงแต่พยักหน้ารับก็แอบทำให้ชานยอลรู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่ง คิดว่าการสนทนาข้ามสายพันธุ์แบบนี้ก็ไม่ได้แย่เกินไปสำหรับเขาเท่าไหร่นักหรอก...เขาคิดว่านะ



    แล้วถ้าอย่างนั้นชื่อของนายคืออะไรล่ะ?


    เจ้าอยากรู้เพื่ออะไร เจ้าจะติดป้ายประกาศใต้ท้องสมุทรให้ผองเพื่อนกลับมาลากตัวข้าหรืออย่างไร


    คิดผิดถนัด...ชานยอลสูดหายใจเข้าลึกๆด้วยความใจเย็น เขาไม่ใช่คนที่มีความอดทนสูง กับคนอื่นๆเขาอาจจะง้างมือเตรียมต่อยปากได้ตลอดเวลา ไม่รู้ทำไมกับเงือกตนนี้ถึงทำได้แค่ถอนหายใจฟึดฟัดอย่างขัดใจเท่านั้น



    ถามก็ตอบสิ อย่าย้อนคำถาม


    แบคกี้...


    ฮะ?


    ข้าตอบเจ้าแล้ว ข้าชื่อแบคกี้ พอใจเจ้าไหม


    ชานยอลขอแอบคิดได้ไหม...ว่าชื่อเหมือนกับไอ้ด่างในซอยแถวตลาดไม่มีผิด เป็นอีกครั้งที่เขาเกือบจะหลุดขำออกมาให้กับความพิสดารของชื่อที่ไม่คิดว่าจะมีอยู่จริง รู้สึกภูมิใจขึ้นมาที่ไม่ได้เกิดเป็นเงือกและต้องมีชื่ออะไรแบบนั้น...แค่ด็อกลู่เพื่อนรักเรียกเขาว่ายอลลี่คนเดียวก็ขนหัวลุกไปถึงไหนต่อไหนแล้ว


    เจ้าขำข้าอีกแล้ว ข้ารู้ทันนะ!”


    เพิ่งรู้นะครับว่าเงือกมีเรดาร์จับสัญญาณคนหัวเราะได้


    แล้วขึ้นมาที่ผิวน้ำทำไม หรือว่ากำลังหนีใครมาหรือเปล่า?


    จู่ๆทั้งห้องกลับเหลือเพียงความเงียบงันอีกครั้งหลังจากจบคำถามของดอกเตอร์ลู่หาน ทั้งคู่ต่างก็เฝ้ารอคำตอบจากเงือกตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ ใบหน้าหวานคล้ายกับลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง


    แต่ท้ายสุดก็ทำเอาปาร์ค ชานยอลและดอกเตอร์ลู่หานแทบน้ำตาร่วงกันไปคนละข้าง

     

    .

    .

    .

    ข้ากำลังหนีมา...ล่ะมั้ง
     

     

     

    มีหลายคนเคยบอกเอาไว้...


    ว่าดอกเตอร์ลู่หานเป็นคนบ้าและปัญญาอ่อนเอาเรื่อง ไม่สมกับดีกรีของการเป็นดอกเตอร์เอาเสียเลย


    พวกเขาคิดว่าผู้ชายที่มีคำนำหน้าชื่อว่าดอกเตอร์คนนี้น่าจะเป็นคนไข้ที่หลุดออกมาจากโรงพยาบาลบ้าเสียมากกว่า


    และสำหรับตอนนี้ ดอกเตอร์ลู่หานเองก็เชื่อคำพูดเหล่านั้นอย่างสนิทใจ


     

    เขาคิดว่าตัวเองนั้นบ้ามากๆที่กำลังนั่งคิดค้นกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ตั้งแต่ยามหัวค่ำจนนาทีนี้เริ่มเข้าสู่วันใหม่แล้ว ดอกเตอร์ลู่หานน่าจะเอาเวลานี้ไปคิดค้นสิ่งประดิษฐ์เช่น พัดลมเพื่อสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล หรือทำการวิจัยปูพันธุ์ประหลาดมากกว่ามาเสียเวลากับการหาวิธีช่วยเหลือเพื่อนที่ไม่คิดว่าจะได้ร่วมโลกแถมยังเพิ่งเจอกันครั้งแรกเช่นนี้


    ดอกเตอร์ลู่หานบ้าที่กำลังหาวิธีเปลี่ยนหางเงือกให้เป็นขาคนอย่างตั้งอกตั้งใจ


    เอนกายพิงพนักเก้าอี้ทรงประหลาดที่เคยลองทำดูเล่นๆพลางบิดขี้เกียจไปมา สะบัดไล่ความเมื่อยล้าและง่วงงุน ดวงตากลมโตมองไปยังนาฬิกาแขวนผนังที่อยู่ตรงระดับสายตาพอดีก็ไม่แปลกใจถึงสาเหตุที่ก่อให้เกิดความง่วงนี่เท่าไหร่


    ไม่ได้นอน ไม่ได้อาบน้ำมาสามวันติดแถมเวลานี้ก็เริ่มเข้าสู่วันที่สี่แล้ว...


    จะให้ทนนั่งตาค้างเหมือนหลับมาเต็มอิ่มก็คงจะผิดวิสัยธรรมชาติไปเสียหน่อย


     

    แต่ชินแล้วล่ะ กับการไม่ได้นอนมาหลายวันอย่างนี้ ล่าสุดเขาแทบไม่ได้นอนเกือบสองอาทิตย์เต็มๆก็สามารถอยู่ได้อย่างสบายๆ ถ้าหากได้อยู่กับการประดิษฐ์หรืองานวิจัยที่เขาชื่นชอบแล้วล่ะก็นะ แต่ถึงอย่างนั้นดอกเตอร์ลู่หานก็ดูจะได้รับคำสนับสนุนในทางลบอยู่บ่อยครั้งทำนองว่านายเป็นคนเก่งนะ แต่เรื่องประดิษฐ์ของไร้สาระพวกนี้มันทำให้นายดูปัญญาอ่อนหรือว่าจะเป็น ของพวกนี้น่ะ ให้ตายฉันก็ใช้ไม่ลง


    ส่วนความคิดของดอกเตอร์ลู่หานน่ะเหรอ...ฉันชอบ ใครจะทำไม?


    รวมถึงครั้งนี้ ในเมื่อเขาตั้งใจจะช่วยเงือกแบคกี้นั่นแล้ว ก็ยิ่งต้องทำให้ถึงที่สุด แต่บอกตามตรงเลยว่านาทีดอกเตอร์ลู่หานรู้สึกหมดหนทางสุดขีดเลยล่ะ หลังจากนั่งเสิร์จอินเตอร์เน็ตตั้งแต่หัวค่ำก็ไม่เห็นจะมีอะไรตอบโจทย์ใจเขาเท่าไหร่ เท่าที่หามาได้ก็มีเพียงแต่อธิบายความหมายของคำว่านางเงือก ตำนานที่มาของแต่ละประเทศ แต่ไม่มีเว็บไซต์ไหนเลยที่จั่วหัวเรื่องทำนองหางหายกลายเป็นขาเลยสักนิด


    ถ้าพวกนั้นมีสูตรเกลื่อนเหมือนสูตรการทำเนื้อย่างให้อร่อยได้คงจะดีทีเดียว


     

    เมื่อเห็นว่าการนั่งอยู่คอมพิวเตอร์จอสี่เหลี่ยมรุ่นเก่ากึกต่อไปคงไม่ทำให้อะไรดีขึ้น จึงตัดสินใจลุกขึ้นคิดว่าจะไปหาหนังสือในห้องของตน พลางสายตาก็มองมายังร่างของสิ่งมีชีวิตสองชนิดที่หลับใหลกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทางซ้ายมีร่างของชานยอลเพื่อนรักที่นอนบนเสื่อกลางห้อง นอนกรนเสียงดังแถมยังไม่วายยาวเหยียดแข้งขาจองพื้นที่ทุกรอบด้านโดยไม่สนใจเลยว่าร่างสูงยักษ์ของตนจะมีผลต่อการเดินของเพื่อนอย่างดอกเตอร์ลู่หานมากน้อยเพียงใด


    ส่วนอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่หลับใหลอยู่ในตู้ปลาขนาดใหญ่ แต่ยังเล็กและคับแคบเกินไปสำหรับผู้ที่อยู่ในนั้น ดอกเตอร์ลู่หานก็เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองแหละว่าเงือกทุกตนไม่จำเป็นต้องนอนเรียบร้อยกว่ามนุษย์เสมอไป... ภาพเจ้าที่กำลังนอนปากกลมจนน่าหาอะไรสักอย่างมาแหย่เล่น ลอยค้างเติ่งอยู่กลางน้ำดูน่าขันและไม่น่ามองไปในเวลาเดียวกัน หน้าท้องกลมๆกระเพื่อมขึ้นลงไปตามระรอกกระแสน้ำเล็กๆของตู้ปลา ดอกเตอร์ลู่หานไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกครั้งที่ทั้งคู่เถียงกัน ชานยอลเพื่อนรักถึงต้องกลั้นขำเอาเป็นเอาตายเสียขนาดนั้น


    ไม่อยากดับฝันเด็กๆทั้งหลายนะ แต่ภาพเจ้าหญิงเงือกน้อยผู้สง่างามทุกเวลาไม่เว้นแม้กระทั่งตอนหลับน่ะ...ลบทิ้งไปได้เลยถ้ามาเจอของจริง


     

    ยังไม่ทันจะได้พลิกกายกลับไปยังห้องทดลองของตน ผิวกายก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นจากลมแรงที่พัดผ่านเข้ามาทางช่องหน้าต่าง ผ้าม่านสีเรียบปลิวเข้ามาด้านในตามทิศทางของแรงลม ข้าวของบริเวณนั้นทำท่าจะล้มลง ร่างเล็กจึงเดินไปตรงหน้าต่างหวังจะปิดม่านกันลมเจ้าปัญหาเข้ามา แทนที่ลมจะพัดไปสู่ทะเลตามเวลาของมันอย่างที่ควรจะเป็น


    ...สงสัยฝนคงจะตก


    โอ๊ย!!!”


    เฮือก!!


    เผลอสะดุ้งตกใจขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงที่ตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวดท่ามกลางความมืดมิด เขาคิดว่าท้องฟ้ายังบอกถึงเวลาของค่ำคืน ไม่น่าจะมีใครออกมาเดินเล่นในเวลานี้ได้หรอก คนละแวกนี้มีเพยงไม่กี่คน ซี่งดอกเตอร์ลู่หานมั่นใจได้เลยว่าพวกเขากำลังหลับสบายอยู่ในบ้านพักตนเอง


    แต่เสียงมันมาจากด้านนอก...


    ผีเหรอ...ไม่ใช่หรอกน่า


     

    โอ๊ย!!! ช่วยด้วย!!! นี่เจ้าหายไปที่ใดกันนะ


    ชัดมาก...


    ชัดกว่าเดิมหลายเท่าเมื่อร่างเล็กพยายามเอาหูแนบกับกระจกหน้าต่าง ถึงจะได้ยินไม่ถนัดนักแต่ก็มั่นใจได้เลยว่าตนเองไม่ได้หูฝาด ความอยากรู้อยากเห็นทำให้แข้งขาอยู่ไม่สุข รีบวิ่งเข้าไปในห้องทำงานของตนเองพลางหยิบอุปกรณ์รูปร่างประหลาดที่ยากจะอธิบายลักษณะของมัน แต่ก็ทำงานได้ไม่ต่างกับกล้องส่องทางไกล ตัดสินใจคว้ามันขึ้นมาก่อนจะวิ่งกลับไปยังหน้าต่างดังเดิม พอเปิดกระจกหน้าต่างอีกครั้ง ม่านสีเรียบได้ปลิวเข้ามาด้านในจนตบหน้าสวยราวกับผู้หญิงของเจ้าตัวอย่างแรง แอบส่ายหน้าอย่างหัวเสียเล็กน้อยก่อนจะสอดร่างของตนมุดเข้าไปอยู่หลังม่าน แม้จะโดนมันตบหลังเป็นบ้างครั้งแต่ก็ดีกว่าฟาดเข้าที่หน้าเต็มๆอย่างเมื่อกี้ล่ะนะ...


    แบคกี้!! เจ้าอยู่ที่ใดกัน ได้โปรดออกมาหาข้าเถอะ!!”



    มั่นใจเลยว่าเสียงนี้ไม่อยู่ห่างจะบ้านพักของตนเท่าไหร่นัก ดอกเตอร์ลู่หานยังไม่ทันชะโงกหน้าออกไปก็ยังได้ยินเสียงทุ้มนั้นชัดเจน แม้มันจะต้องต่อสู้กับมรสุมของลมพายุหรือว่าจะเสียงคลื่นทะเลที่ยังซัดไปมาอย่างไม่หยุดหย่อน


    แถมดูท่าฝนจะเริ่มลงเม็ดแล้วเสียด้วย...


    ทันทีที่ยื่นหน้าออกไปพ้นจากขอบหน้าต่าง เม็ดฝนก็เริ่มทยอยตัวลงมากระทบใบหน้าของดอกเตอร์ลู่หานทีละเล็กละน้อย และอีกไม่นานคงได้กลายเป็นฝนหอบใหญ่เป็นแน่ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความอยากรู้อยากเห็นลดน้อยลง เขาหยิบวัตถุในมือขึ้นมาส่องก่อนจะกวาดมองไปรอบๆบริเวณที่ตนพอจะมองเห็นได้


    เฮ้!!แบคกี้ เจ้าอยู่หนใดกัน? ไม่เช่นนั้นท่านเจ้าสมุทรจะลงโทษเจ้านะ!!”


    คราวแรกดอกเตอร์ลู่หานเพียงแค่อยากรู้อยากเห็น


    แต่พอเห็นแล้วเท่านั้นแหละ...คนอะไร(วะ)หล่อฉิบหาย!!


    อ่อ แต่ถ้าตะโกนร้องเรียกหาสิ่งมีชีวิตนามแบคกี้ที่กำลังหลับใหลอยู่ในตู้ปลาแล้วล่ะก็ คงไม่ใช่มนุษย์มีสองขาเหมือนเขาหรอก ดอกเตอร์ลู่หานคิดว่ามนุษย์ทั่วไปคงไม่มีใครรู้จักเจ้าเงือกนี่เช่นเขาและชานยอลแล้วล่ะ


    แต่เดี๋ยวก่อนนะ...


    ดอกเตอร์ลู่หานลองเพ่งมองสิ่งมีชีวิตที่ยังยืนพิงต้นมะพร้าวอยู่ริมชายหาดพร้อมกุมขาตนเองที่เหมือนว่าจะได้รับบาดเจ็บ


    มีขา...


    แต่รู้จักเงือกนั่น...


    แล้วดอกเตอร์ลู่หานควรจะสิ่งมีชีวิตเพศชายที่หล่อเหลาผิดวิสัยแบบนี้ไว้ในหมวดหมู่ไหน?


    แบคกี้!!! ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่แถวนี้ ได้โปรดออกมาหาข้าเถอะ!!”


    ถ้าใช้สมองของว่าที่ดอกเตอร์รวมถึงตรรกะเพี้ยนๆของตนเองมาประมวลผลแล้ว


    ดอกเตอร์ลู่หานรู้แล้วล่ะ ว่าจะทำยังไงต่อไปกับเงือกมีขาหน้าหล่อนี้ดีJ

     

     



    REWRITE
    พล็อตเดิมแต่ดิทภาษาใหม่ พยายามให้คำหยาบน้อยลง
    แต่ทำไมเรื่องมันเนิบนาบขึ้นtt
    REWRITE2

    ทำไมอยู่ๆตัดจบแค่นี้ นั่นสิ สั้นเกินควรจะเป็น
    ไม่เป็นไร ยกฮฮ.ไปไว้ตอนหน้าก็ได้:)

    เจอกันอาทิตย์หน้า!



     

        


     

    21.6.14
    มันจบได้ด้วยนะเย่เฮ็ทท คือตอนแรกพิมพ์อะไรไม่ถูก แต่พอพิมพ์ได้เท่านั้นแหละ ตัดไม่ถูกทีเดียว
    ตอนนี้อาจดูเมาๆนิดหน่อย ป้าต้องขอโทษจริงๆนะหลานนะ;_; จะพยายามไม่ให้คงสไตล์ควาเมาแบบนี้
    พาร์ทหลังใครชิปฮฮเตรียมตัว คนหล่อใกล้จะออกโรงแล้วล่ะ อย่าลืมแท็ก#ฟิคอดดซด้วยนะ!
    ยังไงก็คืนนี้ฝันดี อซ.รอบเตียงนะจ๊ะเด็กๆ

    PS.พบคำผิดบอกได้เลย ไม่ต้องอายแล้วก็ไม่ต้องกลัวป้าอาย(?)


    11.7.14
    ในที่สุดก็ครบแล้ว*จุดพลุ* ตอนนี้ฮฮ.อย่างดิบๆสดๆเลยนะครัชแหม่ ดูเหมือนดร.ลู่จะมีบทบาทเยอะมาก
    #ลำเอียงเมนไงครับอิสอิส
    ขอโทษอะเกนสำหรับการดองฟิคเกือบเดือนอีกแล้ว;_; ทุกคนหนีหายไปหมดเลย นี่ก็เลยแอบมาปล่อยช่วงวันหยุดเบาๆ
    ความจริงอยากให้ช่วงบรรยายมันเยอะกว่านี้นะ แต่กลัวเบื่อกันไงเลยเบาๆไปก่อน
    ยังไงก็ตามแต่ ฝากฟิคเรื่องนี้ด้วยโน้ะ ติดแท็ก#อดดซ. แล้วก็ฟค.ฮฮ. อย่าลืมไปรอติดตามเรื่องใหม่ด้วยนะ ฝาก#ฟิครถติด ด้วยนะแจ๊ะ
    ใครเมนต์ใครแอดแฟนใครโหวตใครติดแท็กใครทำทุกอย่างขอให้อซ.รุมนอนกอด
    #หรือมากกว่านี้ก็ตามใจ


     


     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×