คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : .His Mermaid♡ | CHAPTER01
Under The Sea
( His Mermaid )
พระอาทิตย์จวนจะลาลับ ส่งผลให้ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีส้ม...
แต่ยิ่งเป็นเวลาเย็นมากเท่าไหร่ ตลาดสดในละแวกนี้ยิ่งคึกคักขึ้นป็นพิเศษ ผู้คนเริ่มออกมาจับจ่ายใช้สอยแลกซื้อวัตถุดิบสดจากท้องทะเลมาแปรรูปเป็นอาหารมื้อค่ำ บ้างก็ซื้อบรรดาผักสดทั้งหลายมาตุนไว้เพื่อที่วันรุ่งขึ้นจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาซื้ออีก อีกข้อหนึ่งก็คงจะเป็นช่วงเวลาที่อุณหภูมิชวนเย็นสบาย ไม่ต้องทนแสงแดดร้อนจัดยามเที่ยง ผู้คนมากมายจึงเลี่ยงยามเที่ยงถึงบ่ายมาเป็นเวลานี้แทน
ปาร์ค ชานยอลก็เช่นกัน...เขาเกลียดสภาพอากาศที่ร้อน แม้ที่พักของตนจะอยู่ริมชายหาดเลยก็เถอะ
กลับกลายเป็นคนละเหตุผลกับคนอื่นๆที่มาตลาดสด ชานยอลไม่ได้ต้องการจะออกมาซื้อของ จะว่ายังไงดีล่ะ เขาออกมาหาลูกจ้างคนสนิทที่ไหว้วานให้มาทำธุรกิจในตลาดสดแห่งนี้ต่างหาก
ธุรกิจขายปลา...
“เฮ้ย!ไอ้จื่อเทา วันนี้เป็นไงบ้างวะ?”
เดินไปยังซุ้มขายอันเป็นที่คุ้นเคยสำหรับชานยอล ก็เห็นลูกน้องในสภาพนั่งเท้าคางอย่างเบื่อหน่ายพร้อมกับโบกที่ปัดแมลงวันไปมาเพื่อปัดวายร้ายที่มาทำของซื้อของขายแลดูสกปรก จะว่าไปไม่ใช่เพราะรักในการขายปลาอะไรหรอกถึงนั่งปัดแมลงวันได้ทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ เป็นเพราะเจ้านายหูกางที่กำลังยืนพิงโครงเสานั่นไหว้วานต่างหากล่ะ อา...เรียกว่าสั่งไปเลยจะดูเหมาะเสียมากกว่า
“ก็ดีอ่ะลูกพี่ เรื่อยๆ”
ได้แต่ส่ายหน้าอย่างหัวเสียกับคำตอบ เขาเองคิดว่าเป็นคำติดปากของหมอนี่ไปเสียแล้ว ชานยอลคิดไม่ผิดว่าต้องได้ยินคำตอบทำนองนี้ออกจากปากของลูกน้อง ทุกครั้งที่เขาถามแทบไม่เคยได้ยินสภาพตามความเป็นจริงเสียเท่าไหร่ทำนองว่าโห!วันนี้ลูกค้าบึมหรือเงียบอย่างกะป่าช้าเทือกนั้นสักครั้ง ได้แต่มองคนตรงหน้าที่มีขอบตาดำคล้ำเป็นเอกลักษณ์อย่างอนาถใจ ชานยอลเองก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ ว่าขอบตาดำคล้ำที่เขาเห็นเป็นเพราะขยันขันแข็งอดหลับอดนอนเพื่อมานั่งขายปลาให้เขา หรือว่าเป็นเพราะแอบหนีไปตามลูกค้าสาวๆจนถึงดึกกันแน่
คิดผิดหรือเปล่าวะให้แพนด้ามานั่งขายปลาเนี่ย
“เออ เอาเถอะ กูเห็นหน้ามึงแล้วโคตรเซ็ง”
“แล้วคิดว่าผมไม่เซ็งกว่ารึไงวะครับ นั่งอยู่ในตลาดเหม็นๆตั้งแต่เช้ายันเย็นแล้วมาฟังลูกพี่บ่นอย่างเนี้ย”
“งั้นมึงไม่เอาแล้วใช่มั้ย ค่าเกมส์บ้าบออะไรของมึง”
ไม่ตอบคำถามแต่ทำเพียงแค่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะยักไหล่สองสามที ซึ่งนั่นก็ทำให้โดนตบหัวไปทีหนึ่งอย่างช่วยไม่ได้
“ดูทำท่าเข้า ขายของไปเลยไป!! นู่น!! ลูกค้ามาแล้ว”
เบะปากใส่เมื่อเจ้านายเผลอ ก่อนจะยืนขึ้นจากเก้าอี้ตัวเตี้ยอย่างอิดออด ถ้าหากเป็นจื่อเทาในวัยเด็กป่านนี้คงอาจจะกำลังร้องไห้ ยิ่งเห็นหน้าลูกค้าเจ้าประจำที่เขาไม่เคยรู้สึกต้อนรับเลยสักนิด ลองนึกสภาพของป้าแก่ๆใบหน้าเหี่ยวแห้งที่มาหยุดยืนหน้าร้านที่มีแต่ปลาสดๆเหม็นๆแบบนี้ คนหล่อก็เพลียเป็นนะครับนะ...
“ว่าไงป้า วันนี้มาเอาอะไร”
ได้ยินคำพูดคำจาของลูกน้องตัวดี ชานยอลที่กำลังพิงเสาก็แทบอยากจะล้มลงไปทั้งอย่างนั้น ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยินจื่อเทาทักทายลูกค้าอย่างอัธยาศัยดีเช่นนี้...นับครั้งไม่ถ้วน ไม่ใช่อะไรหรอก ยอมรับว่าหาคนมาแทนไม่ได้ เด็กนั่นจึงได้มานั่งปัดแมลงวันบนปลาเป็นว่าเล่น ถ้าคิดหาเด็กแถวบ้านมาแทนก็ไม่แน่ใจว่าลูกค้าจะเหลือชีวิตรอดอยู่กี่คน หากเปลี่ยนคนมาทำแทนได้ คนที่กำลังยืนขายคงได้มีหน้ามากอดขาวิงวอนขอค่าขนมอีกแน่นอน...
“อะ...เอ่อ วันนี้ร้านหนูเทามีอะไรขายบ้างล่ะจ๊ะ”
“ก็มีแบบทุกวันนั่นแหละ เร็ว!!จะเอาอะไรก็หยิบๆมา!!”
“มีแต่ปลาจากทะเลใกล้ๆเหมือนเดิมเนี่ยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะดิ ถ้าป้าอยากได้ปลาหรูๆร้านนี้ไม่มีหรอก ไปร้านอื่นเลยไป๊!!!”
หญิงวัยสูงอายุจึงเลือกเนื้อปลาตามที่ตนเองต้องการอย่างรวดเร็วก่อนจะจัดการจ่ายเงินให้จื่อเทาแล้วเดินออกไปจากร้านทันทีอย่างมีความสุข โดยไม่ใส่ใจกับคำตะคอกที่เพิ่งโดนไปเมื่อสักครู่ ราวกับว่าการได้มาซื้อปลาจากพ่อค้าร้านนี้และฟังคำตะคอกถือว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่งในชีวิตของหล่อน...
เมื่อลูกค้าได้เดินจากไปชานยอลเดินไปด้านหลังจุดขายก่อนจะจัดการถีบก้นของลูกจ้างจนใบหน้าแทบจะก้มลงไปจูบกับปลาดิบสด ก่อนจะเดินกลับมาพิงโครงหน้าร้านอย่างเคย ไม่สนใจเจ้าตัวที่หันมาค้อนขวับอย่างช่วยไม่ได้ ก็นะ ถ้าไม่ติดว่าหน้าตาลูกน้องนั้นดีจนเป็นที่เรียกลูกค้าทั้งบรรดาเด็กแรกรุ่นยันวัยใกล้ชราเช่นนี้ สาบานได้เลยว่าคงเละไม่เป็นท่าไปนานแล้วด้วยซ้ำ
“มึงไปพูดกับป้าแกอย่างนี้ได้ไงวะ”
“โห่! ลูกพี่ก็อย่าซีเรียสดิ สุดท้ายก็ขายได้อยู่ดีไม่ใช่รึไง”
“ลองให้ป้าพวกนั้นไม่กลับมาดิ จะหักเงินไม่ให้เหลือเลยคอยดู”
“โว้วๆ!!สาวๆกลุ่มนั้นสนใจมาซื้อปลาร้านพี่จื่อเทามั้ยจ๊ะ ซื้อตอนนี้แถมฟรีหัวใจพี่ทั้งดวงเลยนะคนสวย วู้ว!”
เหมือนคำขู่ของชานยอลไม่ได้เข้าไปยังโสตประสาทของจื่อเทาแล้วนำมาเตือนสติเสียเท่าไหร่ กลับกลายเป็นอารมณ์ที่เบื่อหน่ายและหงุดหงิดในคราวแรกนั้นครื้นเครงขึ้นอย่างฉับพลันพร้อมกับเบี่ยงเบนความสนใจให้กับบรรดาผู้หญิงวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่เลือกซื้อผลไม้ในซุ้มใกล้ๆกัน พร้อมกับตะโกนทักทายอย่างคนมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีโดยไม่สนใจคนที่อยู่บริเวณนั้นหรือแม้กระทั่งชานยอลที่กำลังอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไว้ที่ไหนแม้แต่น้อย
ขายแต่ผู้หญิงสวยๆ ร้านกูได้ชิบหายก็คราวนี้ล่ะ
“นี่มึงฟังที่กูพูดอยู่รึเปล่าวะ”
“ลูกพี่ก็พูดเหมือนๆเดิมอ่ะ น่าเบื่อ ออกไปหาปลาเลยไป เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีขายให้สาวๆ”
“มึงสั่งกูเหรอ กูเป็นคนจ้างมึงนะเว้ย”
“เออ รู้แล้วๆ หลีกก่อนๆ เกะกะจริง ดูซิ ลูกพี่แย่งที่หมดเลยใช่ไหมครับคนสวย♥”
ชานยอลจึงจำต้องเดินออกจากหน้าร้านของตนอย่างหัวเสีย เมื่อพบบรรดาลูกค้าสาวสวยตามสเป็กของจื่อเทามาหยุดยืนหน้าร้าน แอบรู้สึกสงสารตัวเองเบาๆโดนลูกจ้างไล่ออกจากร้านที่ตัวเองเป็นคนจ้างสินะ... ตัดสินใจปล่อยให้ลูกน้องของตนทำตัวเสือผู้หญิงต่อไปแล้วตนเองเดินออกมาจากตลาด เพื่อไปหาปลาเผื่อจะทำให้อารมณ์ของเขาดีขึ้นมาบ้าง...ล่ะมั้ง
ร้อนมาก...น่าเบื่ออีกต่างหาก...
แต่มันเป็นชีวิตประจำวันของปาร์คชานยอลกับการที่จะต้องมาหาปลาในช่วงเย็นๆเช่นนี้ มีบ้างบางครั้งที่ต้องทำงานเมื่อผืนฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีดำที่มืดสนิท หากวันไหนมีลมโชยหรือไอความชื้นจากน้ำทะเลมากระทบผิวกายบ้างก็ดีไป ไม่ใช่กับวันนี้ที่หลงเหลือแต่ร่องรอยของความอบอ้าว ไอของน้ำทะเลไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นมาเท่าไหร่เลย
ก่อนจะมาหาปลาก็ต้องอารมณ์เสียกับยุงจำนวนมหาศาลที่มากัดขาเขาไปรอบหนึ่ง
แล่นเรือขนาดเล็กมาถึงจุดที่ค่อนข้างมีปลาชุกชุม ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องทั้งเสื้อผ้าที่เปลี่ยนมาเรียบร้อยอย่างดี อุปกรณ์ก็ครบเครื่อง อาจขาดเล็กน้อยตรงในส่วนของอารมณ์คนจะหาปลานี่ล่ะ...
เหวี่ยงแหลงไปกลางน้ำ จับจังหวะอย่างดีก่อนจะยกมือขึ้นมา แล้วพบว่าตนเองทำได้เพียงแค่คว้าน้ำเหลว ส่ายหน้าอย่างหัวเสียก่อนจะเริ่มเหวี่ยงลงไปใหม่เป็นรอบที่สอง...
...สาม
...สี่
...ห้า
เริ่มไม่แน่ใจว่าปลามีวันหยุดนักขัตฤกษ์ด้วยหรือไงวะครับ ถึงไม่ยอมออกมาให้กูจับสักทีเนี่ย
ไม่อยากจะคิดสภาพว่าถ้าไม่มีอะไรกลับไปในวันนี้จะโดนต่อว่าจนหูชาไปถึงไหนต่อไหน จึงยอมกัดฟันแล้วลองดูอีกครั้ง.
แต่คราวนี้มาแปลก...
ความหนักอึ้งราวกับมีบางสิ่งมาติดอยู่ร่างแหนี้ ไม่หรอก มันไม่ใช่ปลาตัวเล็กๆทั่วไปอย่างที่เขาหามาได้จำนวนมากเฉกเช่นในหลายวันที่ผ่านมา มันรู้สึกหนักกว่าเดิมไปบ้างทำนองว่าต้องใช้แรงที่มากมายกว่าเดิมในการดึงขึ้นมา
...สงสัยว่าคราวนี้จะได้ปลาตัวใหญ่น่าดู
จับจังหวะยิ่งใช้พลังดึงขึ้นมามากเท่าไหร่ ก็คล้ายกับว่าพลังที่มีจะหมดลงไปมากเท่านั้น จึงหยุดมือพักไว้สักครู่หนึ่งก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ เรียกได้ว่าการจับปลาวันนี้เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดที่สุดนับตั้งแต่เขาได้เคยทำก็ว่าได้ พยายามรวบรวมสติเท่าที่มีก่อนจะนับเลขถอยหลังในหัวเป็นการบอกจังหวะให้กับตนเองอย่างใจเย็นที่สุดเท่าที่ตอนนี้จะยังพอทำได้
ถ้าผลลัพธ์คือปลาตัวเล็กเพียงตัวเดียวละก็นะ...
สาม...
สอง...
หนึ่ง...
“เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!!”
ถึงกับแทบจะปล่อยแหตกปลาไปทันใด เมื่อมั่นใจว่าสิ่งที่พบเห็นนั้นจับต้องได้และเป็นเรื่องจริง มันไม่ได้เป็นปลาที่รูปร่างใหญ่ธรรมดา ไม่หรอก ปลาตัวนี้ไม่ได้ใหญ่เท่าวาฬสีน้ำเงิน แม้แต่ฉลามเองก็ยังนำไปเทียบไม่ได้ แต่จะพูดยังดีล่ะ คือปลาตัวนี้ก็มีครีบมีเกล็ดเหมือนปลาตัวอื่นทั่วไปที่ชานยอลเคยจับมาทั้งหมดล่ะนะ เพียงแต่สีของหางนั้นดูสวยอย่างน่าประหลาด แม้จะไม่ได้สวยมากเท่าปลาที่เลี้ยงอยู่ในตู้ที่บ้าน แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์จนชานยอลต้องยอมรับนั่นคือท่อนบนของมันกลับมีผิวที่ขาวนวล มันมีผมสีแดงประกายม่วงคล้ายเปลือกมังคุด มีดวงตาที่กลมโต มีจมูกที่โด่งเป็นสัน มีริมฝีปากที่อิ่มเอิบ รูปร่างบอบบาง เอวคอดคล้ายรูปร่างของผู้หญิงจนชานยอลเผลอกลืนน้ำลายอึกหนึ่งโดยไม่รู้ตัว ง่ายๆคือท่อนบนของมันมีลักษณะเป็นมนุษย์เฉกเช่นชานยอลทุกประการ
หรือพูดให้ง่ายกว่านั้นก็คือ ชานยอลจับปลาแต่ดันได้เงือกยังไงล่ะ!!
แถมดูจะเป็นเงือกที่บ้ามากจนมาแทะแหของชานยอลแทบขาดเช่นนี้
.
.
“เจ้าทำอะไรของเจ้าน่ะ เจ้าจงปล่อยข้าลงบัดนี้!!”
- UPDATE 50 % -
ยืนนิ่งไปชั่วขณะเพื่อแปลความที่ร่างในแหต้องการจะสื่อ
...จะเรียกว่าชานยอลกำลังเงิบคงไม่ผิดเท่าไหร่นักหรอกใช่ไหม
เพิ่งเข้าใจก็วันนี้เองแหละว่าสัตว์ในเทพนิยายที่มีลักษณะท่อนล่างเป็นปลาท่อนบนเป็นคนมีอยู่บนโลกนี้จริง เขาควรจะดีใจเพิ่มขึ้นมาหน่อยที่ปลาพันธุ์แปลกตัวนี้พูดภาษาเดียวกันกับชานยอลได้ แถมยังใช้ภาษาทันสมัยจนเขายังต้องอาย...สินะ
เมื่อพบว่าสิ่งมีชีวิตที่เพิ่งติดมากับเขาเมื่อครู่เริ่มดิ้นขลุกขลักไปมาอย่างบ้าคลั่ง ฟันที่ไม่รู้แหลมคมมาจากไหนส่งผลให้วัตถุในมือใกล้ขาดเข้าไปมากทุกที อีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าเงือกนี่คงได้ตกลงไปในน้ำเป็นแน่ ชานยอลปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด
ไม่ได้การ...
จัดการเหวี่ยงขึ้นมาบนเรือเท่าที่กำลังจะพอมี
โป๊กกก!!!
แต่บางทีอาจจะลืมตัวเกินไปจนทำให้ลืมไปว่าปลาตัวนี้ไม่ได้เหมือนปลาเฉกเช่นทุกครั้งที่เขาจับได้ นั่นแหละ ศรีษะที่มีรูปร่างลักษณะเดียวกับมนุษย์ทุกประการก็ถูกกระแทกกับพื้นเรือที่เต็มไปด้วยคราบสกปรกเข้าอย่างจัง จนเกิดเสียงกระทบกันของวัตถุทั้งสองชนิดไม่แน่ว่าไม่หัวแตกก็พื้นเรือพังไปข้าง...
อา... ชานยอลไม่มีเงินมาซ่อมเรือหรอกนะ
“เจ้าบังอาจทำร้ายข้าอย่างนี้ได้เช่นไร เจ้ามันสัตว์ประหลาดใจร้าย!!”
มึงนั่นแหละครับสัตว์ประหลาด พูดอะไรไม่ดูตัวเอง
อยากตอกกลับไปอย่างนั้นแทบใจขาด แต่มันไม่ใช่เวลาของชานยอลที่จะต้องเสวนากับปลาตัวประหลาดนี่เท่าไหร่ บางทีชานยอลคิดว่าเขาควรจะรีบกลับไปที่บ้านพักให้เร็วที่สุดเสียจะดีกว่าเพื่อหาทางที่จะทำอย่างไรกับเงือกนี้ต่อไป
ค่อยๆจัดการขับเคลื่อนเรือออกจากจุดเกิดเหตุ พร้อมพกพาสถานการณ์อันแปลกประหลาดกลับไปพร้อมกันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มีของฝากกลับไปให้เพื่อนเป็นบางอย่างที่ยังคงแดดิ้นอยู่ในแหตรงกลางท้องเรือ เปล่งเสียงร้องโวยวายออกมาอย่างน่ารำคาญจนชานยอลแทบจะเอารองเท้าที่วางอยู่ใกล้กันยัดปากนั่นไปเลยทีเดียว
“จะพาข้าไปไหน เจ้าต้องปล่อยข้าลง ข้าอยากกลับไปยังใต้ท้องทะเล!!!”
“...”
หายใจเข้าออกพลางนับเลขข่มอารมณ์อย่างช้าๆ
“ข้าคิดถึงบรรดาพวกพ้องของข้า ข้าจำต้องกลับไป ข้าเชื่อว่าเจ้าไม่ได้ใจร้าย...”
“...”
ปาร์ค ชานยอลไม่โมโห ปาร์ค ชานยอลจะไม่หงุดหงิด ปาร์ค ชานยอลหล่อมาก...
“ปล่อยข้าลง เจ้าจะเอาข้าไปขายอย่างนั้นหรือ ถ้าเจ้าขาย...”
“มึงช่วยเงียบปากก่อนได้ไหมครับ อยู่นิ่งๆ ถ้าไม่อยากให้กูย่างมึงกินกลางทะเล!!!”
คาดการณ์ได้เลยว่าเสียงร้องโหยหวนคงไม่ได้หยุดลงเพียงเท่านั้น จำต้องหันหน้าฝ่าลมทะเลที่พัดเข้ามากระทบผิวแล้วตะคอกเสียงดังให้ร่างที่กำลังดิ้นได้ยินฝ่าเสียงคลื่น
ได้ผล...
เสียงเล็กเจื้อยแจ้วหยุดลงเพียงเท่านั้น ร่างที่อยู่ไม่สุขเมื่อสักครู่เริ่มสงบลงจนกลายเป็นเพียงนั่งก้มหน้าพิงกับขอบเรืออย่างนิ่งๆ ภายในแหที่ยังคงคลุมร่างกาย ชานยอลถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างโล่งอกที่อย่างน้อยร่างบางก็สื่อสารกันได้ง่ายกว่าที่เขาคิด แอบรู้สึกเสียใจเล็กน้อยสำหรับคำพูดที่ใส่อารมณ์จนกลายเป็นคำตะคอกเสียงดัง แต่ถ้าให้ใช้ภาษาเดียวกับร่างบาง ขอโดดน้ำทะเลตายเดี๋ยวนี้เลยจะดีเสียกว่า
...ไว้อะไรเรียบร้อยจะขอโทษก็แล้วกัน
ตะวันลาลับขอบฟ้าไปเป็นที่เรียบร้อย แสงจันทร์เริ่มเข้ามาแทนที่ ซึ่งโชคดีกับที่เจ้าตัวนั่งเรือมาจนถึงชายหาดพอดี ต้องขอบคุณแสงไฟจากบ้านขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ริมหาดสองสามหลังนั่นทำให้ชานยอลพอจะมองเห็นสิ่งรอบตัวได้สะดวก หันไปมองสิ่งที่ได้ติดมือกลับมาก็รู้สึกอยากจะร้องไห้อย่างพูดไม่ถูก
ไม่ได้ปลาสักตัว ได้แต่อะไรมาก็ไม่รู้...กินไม่ได้อีกต่างหาก
ร่างนั้นยังคงอยู่ในท่าเดิม โดยไม่ขยับเขยื้อน ชานยอลจึงคิดว่าไม่น่าจะยากหากจะอุ้มกลับเข้าบ้านพักของตน แต่จะให้เขาเดินแบกเงือกโทงๆกลางหาดก็ใช่เรื่อง... จึงตัดสินใจหยิบเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋าผ้าที่พกติดตัวไว้ด้วยตลอดเพื่อจะติดต่อหาใครอีกคน
ดูวัตถุขนาดเล็กในมือก็ต้องถอนหายใจอีกครั้งหนึ่ง...
จะว่ายังไงดีล่ะ คือมันไม่ใช่โทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนยี่ห้อดังที่ใครเขามีกัน หน้าตาก็ออกจะประหลาดกว่าชาวบ้าน เพียงแต่มันดีนะ สามารถติดต่อสื่อสารกันกลางทะเลได้และไม่พังเป็นแน่แม้จะตกไปกลางมหาสมุทรเลยก็เถอะ ส่วนจะถามว่าซื้อมาจากไหน...ได้จากความหวังดีของเพื่อนสนิทที่กำลังติดต่อไปหานี่ไงล่ะ
“เฮ้ย!!ไอ้ด็อก”
กรอกเสียงลงไปในสายเมื่อได้ยินสัญญาณตอบรับจากปลายทาง แต่กลับไม่ได้ยินเสียงตอบจากบุคคลปลายสายแม้แต่น้อย มีเพียงเสียงดังของภาชนะที่กระทบกันไปมา รวมถึงเสียงซูซ่าซึ่งคาดว่าคงจะเป็นปฏิกิริยาเคมีที่กำลังทดลองอะไรสักอย่าง ยังไม่รวมเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นครั้งคราวพร้อมกับเสียงแก้วที่หล่นแตกกระจาย
กว่าคนที่รอจะมารับ ชานยอลเกือบต้องหัวใจวายไปเสียก่อน...จะว่าไปเขาได้กลิ่นไหม้ลอยออกมาจากบ้านพักด้วยล่ะ
“อ้าว!!หวัดดีนะยอลลี่ ขอโทษทีเผอิญว่าฉันกำลังทดลองทำเครื่องจับสัญญาณตามหาสิ่งมีชีวิตตกน้ำพอดี นายต้องสนใจมันแน่ๆเลยล่ะ อา จะว่าไปนาฬิการุ่นสะท้อนแสงอาทิตย์ของฉันใช้ได้แล้วนะ นายอยากจะลองใช้มันไหม รับรองว่าจะต้องติดใจ โอ้!!เดี๋ยวก่อนๆ ฉันยังมีของบางอย่างมาให้เฉพาะนายเลยนะ ว่าแต่มันอยู่ไหนกันล่ะเนี่ย...”
“มึงอย่าเพิ่งพูดถึงของไร้สาระได้เปล่าวะ ออกมาช่วยกันก่อนดิ”
ได้แต่เอามือกุมขมับกับประโยคทักทายของเพื่อนรักอันยาวเหยียด ไม่รอให้มีจังหวะพูดนานก็แทรกกลับไปทันที ก็อาจจะเป็นไปได้ที่ว่าชานยอลเลือกคนผิดล่ะมั้ง ดูจากการคาดเดาแล้ว...
“ร้อยวันพันปีนายไม่เคยมาขอฉันช่วยอะไรนี่นา หรือว่ามือถืออัจฉริยะของฉันมีปัญหา? ไม่หรอก ฉันว่าไม่ใช่นะ ผลงานชิ้นนั้นมันเยี่ยมที่สุดแล้ว ยอลลี่นายต้องรอเดี๋ยวหนึ่ง แล้วนายจะเห็นแว่นกันภัยจากปลาร้ายแน่นอน”
“มึงลากร่างสวยๆโทรมๆออกมาหากูที่ชายฝั่งนอกบ้านเดี๋ยวนี้ กูให้เวลาสองนาที”
“ขอเวลาเพิ่มได้ไหม เฮ้ย!! กรดที่ฉันต้มไว้จะระเบิดแล้ว!!!”
ตู้ม!!!
โอเค ชานยอลเชื่อแล้ว... ว่ารอบตัวเขาไม่มีใครปกติแม้แต่คนเดียว
เวลาล่วงเลยไปไม่กี่นาที ก็ปรากฏให้เห็นร่างของใครบางคนเดินออกมาจากบ้านพักขนาดย่อมในสภาพชุดนอนลายหมีน้อยสีน้ำตาล พร้อมกับเส้นผมสีชมพูที่พันกันจนยุ่งเหยิง แก้มขาวเนียนทั้งสองข้างเปรอะเปื้อนลอยถ่านสีดำเล็กๆ จนชานยอลไม่แน่ใจว่าเพื่อนของเขาอาบน้ำเสร็จแล้วกำลังเตรียมตัวนอน หรือว่าไม่ได้เปลี่ยนชุดนอนมาสองวันแล้วกันแน่...
เรียกได้ว่า ไม่มีอะไรบ่งบอกได้ถึงชื่อที่ป่าวประกาศไปทั่วว่าเป็นถึงดอกเตอร์ลู่หานแม้แต่น้อย
กางเกงขายาวของชุดนอนลุยทรายลงมาเปื้อนน้ำทะเลเพื่อมาหาเพื่อนชาวประมงที่กำลังยืนพิงกับเรืออยู่ มองด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม ปกติแล้วชานยอลแทบไม่เคยเรียกเขาออกมาจากบ้านพัก หรือเคยก็เกือบลืมไปแล้วว่าเมื่อไหร่
แสดงว่านี่คงต้องเป็นเรื่องสำคัญมากที่เดียว...
ไม่ได้รับคำตอบจากชานยอล เจ้าตัวเพียงแค่ชี้นิ้วไปยังตรงกลางเรือ ดอกเตอร์ลู่หานจึงได้สังเกตเห็นใครบางคนที่กำลังนั่งพิงขอบเรือโดยหันหลังให้เขา ขยับกรอบแว่นสองสามทีเพื่อปรับเลนส์ตาให้มองภาพได้ชัดเจนขึ้นก่อนจะลุยน้ำไปอย่างช้าๆโดยมีชานยอลตามอยู่ด้านหลัง
ยังไม่ทันที่ขาจะก้าวขึ้นเรือก็แทบจะสะดุดขาตัวเองล้มกลางน้ำไปทันทีที่สายตามองไปเห็นหางสีสวยแทนที่จะเป็นขาในแบบที่เข้าใจ หันไปมองเพื่อนด้านหลังสลับกับมองสิ่งมีชีวิตบนเรือสลับไปกันไปมาอย่างเหลือเชื่อ
“นี่ บอกฉันทีสิว่าตาฝาดน่ะ เงือกมันมีจริงด้วยเหรอ”
“จะไปรู้เหรอวะ ก็ไปตกปลาแต่ได้ไอ้เนี่ยมาแทน”
“ไม่เอาน่า นายต้องหลอกฉันแน่ๆยอลลี่ นายไม่ได้เอาเด็กแถวตลาดจับใส่หางหรอกใช่ไหม”
“อยากจะพูดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน ตอนเจอนึกว่าไอ้ด่างในซอยตกน้ำ...มึงไปดูให้หน่อยดิว่าจะทำยังไงกับมันดี”
“ฉันคิดว่านายเลือกผิดคนแล้วล่ะ”
“เอาเหอะน่า เป็นดอกเตอร์ไม่ใช่รึไง”
กูได้มันมายังไงยังไม่รู้เลย
เก็บประโยคนั้นไว้ในใจก่อนจะปีนขึ้นเรือไปสังเกตการณ์ของร่างภายในแหนั่นอย่างกล้าๆกลัวๆ จะให้ทำอย่างไรได้ ถึงดอกเตอร์ลู่หานจะเชี่ยวชาญด้านสัตว์น้ำมาพอควร หรือสัตว์ครึ่งบกครึ่งก็ดี แต่กับสัตว์ครึ่งน้ำครึ่งเลี้ยงลูกด้วยนม...บอกดอกเตอร์ลู่หานทีไว่าควรจะเริ่มจับประเด็นอย่างไร
คันขาเป็นบ้า...ชานยอลทำได้เพียงคิดอย่างนั้นเมื่อแมลงทั้งหลายเริ่มมายุ่งวุ่นวายกับเขามากมายจนน่ารำคาญ แถมอากาศก็ร้อนอบอ้าวเต็มทน มองตามเพื่อนเป็นระยะๆเพื่อดูท่าทีก็ยังไม่เห็นเจ้าตัวจะทำอะไรมากนอกจากจับแขนกับโบกไม้โบกมือที่หน้าของเงือกไปมา จนตัดสินใจจะตะโกนเร่งออกไปสนองความใจร้อนของตน
เพียงแต่คำพูดเหล่านั้นกลับกลืนหายเข้าไปในลำคอทันทีเพื่อนรักค่อยๆกระเถิบมาอยู่ตรงหน้าของเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดแล้วจ้องเขม็งมายังเจ้าตัว จนต้องเผลอเสียวสันหลังวาบอย่างพูดไม่ถูก เขามั่นใจนะว่าไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดไป...หรือไอ้ด็อกลู่จะรู้ว่ากูเผลอทำไอ้เงือกนั่นหัวกระแทก?
“ไอ้ยอล กูว่ามึงลืมอะไรไปบางอย่าง”
“เรื่อง?”
“เงือกมันก็เป็นสัตว์น้ำว่ะ”
“...”
“มึงลืมไปว่าปลาหายใจได้แค่ในน้ำ ปลาหายใจบนบกไม่ได้...”
หายใจได้แค่ในน้ำ หายใจบนบกไม่ได้...
ชิบหายแล้ว!!!
งั้นอย่าบอกชานยอลนะว่า ที่หลังจากตะคอกใส่เงือกเสร็จแล้วเห็นมันนิ่งไปไม่ใช่เพราะว่ายอมฟังเขา...แต่ว่าเป็นเพราะไม่หายใจ...
“ไอ้ด็อกลู่!!! มึงอย่าแจ้งตำรวจจับกูนะเว้ย!!!”
“!?”
“กูไม่อยากติดคุกข้อหาฆ่าเงือกโดยไม่เจตนา!!!”
มาดิทคำผิดเบาๆ พรุ่งนี้เจอกันนะ!
8.5.14
ป้าเลยต้องมาอัพก่อนฉะนี้แล
ใครแอดเฟบขอให้ได้นอนกอดอซ. ใครเมนต์ขอให้อซ.นอนกอด ใครทำทุกอย่างขอให้ได้ทั้งสองอย่าง(?)
PS. เจอคำผิดบอกได้นะหลานๆ เดี๋ยวมาดิทรูปด้วย...
PS2. อัลบั้มของOverdose ป้ากรีีดกร๊าดเพลงMoonlightมาก #ผิดๆ
มาดิทคำผิดเล็กน้อย. . .
24.5.14
ในที่สุดก็ได้มาอัพแล้วเย่ห์ ได้ข่าวว่าจะมีเรื่องครีบนี้ หัวใจมีเธอแล้วด้วย อย่าลืมดูกันนะ
สำหรับเรื่องนี้ จะบอกว่ายังมีเฮียในเรื่องนะครัช แต่จะเข้าโรงตอนไหนเดี๋ยวรู้เลย(?)
ขอบคุณทุกแฟนทุกเมนต์นะหลานนะ ยังไงก็ฝากด้วยโน้ะ แล้วใครเล่นทวิตอย่าลืมติดแท็ก#ฟิคอดดซด้วยล่ะ
ไม่ก็มาพูดคุยกันได้ที่ @0h_nnbabyเลยนะแจ้ะ คืนนี้ดื่มอซ.แล้วไปนอนกันเถอะ #ขอยืมมุขหลานเนยนะเออ
PS.เจอคำผิดบอกได้นะ แล้วจะมาแก้แน่นอน
ความคิดเห็น