คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่สาม งานเปิดตัว
Title : Sorry…นะ... you หัวใจผมแมน
Cast : hunz & ks.//hut & can //no & rit //the star…
Writer :badboykorea
Type : Comedy & romantic
Rate : pg-13
Note: ตอนที่สามต่อโลด!!!!
ตอนที่สาม งานเปิดตัว
ที่บริษัท OK Love
แคนที่นั่งกินขนมกรุบๆพลางรับสายที่ถูกโอนมาจากโอเปอเรเตอร์หน้าออฟฟิศ
“พี่แคนคะมีลูกค้าโทรเข้ามาค่ะบอกว่าจะปรึกษาปัญหากับพี่เพียงคนเดียวเพราะเพื่อนแนะนำมาค่ะกับใครเขาก็ไม่คุยค่ะเอาไงดีคะ....”
ร่างเล็กขมวดคิ้วเล็กๆก่อนจะยอมรับสายนั้น ยังไง ก็เงินทั้งนั้นเรื่องอะไรจะเกี่ยงงาน
“จัดมาสมายด์ โอนมาโลด แล้วเธออย่าลืมจัดตารางงานของสต๊อปนะ” หลังวางสายก่อนจะรับสายที่ถูกโอนมา
“สวัสดีครับ ผมแคนครับ ไม่ทราบว่าเรียนสายคุณอะไรครับ?”
ต้นสายที่โทรมากลับยังมีความเงียบให้กับร่างเล็ก
“ฮัลโหล.... คุณ ฮัลโหลครับ....”
“อ่ะเอ่อ...หวะ หวัดดีครับ...”
แคนที่เม้มปากคิ้วขมวดอย่างเซ็งๆ และสวนกลับอย่างช่ำชอง
“คุณอะไรครับแล้วปัญหาด้านความรักของคุณเป็นยังไง แล้วจะนัดคุยกันที่บริษัทหรือที่ไหนดีครับ..”
“ผ่ะผม...เอ่อ... อ้า...เรียกผมว่าเอ่อ...ค่ะคือ งั้นคุณเรียกผมว่าอะไรก็ได้ครับ ...”
แคนสงสัยจนคิ้วแทบจะชนกัน
แต่จะมาสงสัยกับเรื่องที่จะทำให้เขาเสียเวลาทำมาหากินไม่ได้
“งั้นจากคุณชายคนหนึ่งแล้วกัน ปัญหาของคุณหล่ะครับ..เล่ามาเลย...”
“ผ่ะ...ผม..เอ่อ... หลงรักคนๆหนึ่งครับ ผมเลยอยากจะรู้ว่า ถ้าอยากจะชนะใจเขาได้ ผมควรจะทำอย่างไร มีบริการอะไรของคุณพอที่จะช่วยผมได้บ้างไหม?”
เสียงที่ดูตะกุกตะกักเคอะเขิน... จนแคนอมยกยิ้มอย่างเข้าใจ อย่างน้อยให้คำปรึกษาดีๆก็จะได้มีรายได้เข้ามา
เรื่องแบบนี้เป็นใครใหม่ก็ไม่ชินกันทั้งนั้น ผิดกับคนตัวเล็กที่รับแก้ปัญหาหัวใจชาวบ้านมาจนช่ำชอง
“ถ้าคุณแอบรักเขา เขารู้ตัวหรือยังหล่ะครับ..”
“ยังเลยครับ....”
“งั้น... คุณยังไม่ต้องใช้บริการของเราหรอกผมยังไม่อยากขูดรีดเงินคุณ ห่ะๆๆ มาผมช่วยคุณเอง ช่วยบอกรายละเอียดคนที่คุณชอบมาสิครับ นิสัย หน้าตา ท่าทาง รสนิยม คุณพอบอกได้ไหม?”
มักเป็นเช่นนี้เสมอ อย่างน้อยร่างเล็กก็ยังศรัทธาในความรักที่บริสุทธิ์แบบนี้ หากตัวเขายังพอจะช่วยได้เขาก็อยากจะช่วย
“เอ่อเขาเป็นคน ติดตลก ดูเห็นแก่เงินนิดๆ ตัวเล็กๆน่ารัก ดวงตาสวย ยิ้มหวาน ดวงตาพราวใสอยู่ตลอดเวลา อ้อแล้วก็ร่าเริงเกินปกติด้วยครับ”
แคนถึงกับเบ้ปาก..
“ที่คุณบอกมาคนที่คุณชอบแสนจะสมบูรณ์แบบเลยนะนั่น แต่ไอ้นิสัยเห็นแก่เงินนี่มัน...... เหอะๆ... แต่ก็นะ ผมว่าน่าจะเข้าทางที่ผมจะแนะนำได้ ถามอีกนิดครับ รสนิยม กับงานอดิเรกของเขาคุณพอจะรู้ไหม...”
ต้นสายที่เงียบเพียงอึดใจ
“คือเรื่องนั้น ผมเองก็ไม่รู้ครับ เพราะจริงๆแล้วผมเพิ่งจะเคยเจอเขาแค่ครั้งสองครั้งเอง....”
ร่างเล็กพยักหน้าเชิงเข้าใจ....
“แหมรักแรกพบงั้นสิคุณ ว้าวดีใจด้วยนะ มาผมจะช่วยคุณเอง....ข้อมูลที่คุณให้มาออกจะน้อยไปหน่อย งั้นลองแบบเบสิคก่อนนะครับ...”
ต้นสายตั้งใจฟังอย่างเงียบๆ
“ครับ...”
“อืม... ถ้าคนที่คุณชอบนั้น ออกตลกนิดๆ แต่ทำตัวน่ารักๆ คนแบบนี้จะชอบดอกไม้สีอ่อนหวาน และสีสดใสนะครับ งั้นคุณลองหาทางส่งดอกไม้ช่อสวยๆให้เขา เอาสักสี..อืม... ไม่ชมพู ฟ้าอ่อน ก็สีเหลืองนะ คนลักษณะแบบนี้น่าจะชอบสีนี้... แล้วทีนี้คุณอย่าไปเปิดเผยตัวเองนะว่าเป็นใคร.... ลองส่งไปสักระยะ ไม่ต้องทุกวันหรอกเปลืองตังเช่นอาทิตย์ละครั้ง แต่ให้เป็นวันเดียวกันของสัปดาห์เช่นทุกๆวันศุกร์อ่ะ...”
“อ่อเหรอครับ แล้วทำไมต้องเป็นวันเดียวกันทุกๆสัปดาห์หล่ะครับ...”
“อ้าวคุณไม่เคยดูละครเหรอ พอเราให้ทุกๆวันเดียวกันบ่อยๆ อ่ะสมมุติศุกร์นี้คุณส่งดอกไม้มาให้ผมทุกๆวันศุกร์ ผ่านไปสักพักผมก็จะเริ่มชะเง้อละ เอ...วันนี้มันจะมามั๊ยน้า... เห็นมะ แค่นี้เขาก็จะเริ่มสนใจในตัวคุณบ้างแล้วไง”
ต้นสายที่ฟังอยู่พยักหน้าอย่างเข้าใจ...
“อ่อ..แบบนี้นี่เอง แล้วแค่ส่งดอกไม้หรือครับ....”
“โธ่คุณ.... การแอบรักแบบนี้เราก็ต้องจีบแบบแอบๆสิ... จากนั้นคุณลองเลิกส่งไปสักระยะ ดูพฤติกรรมของเธอคนนั้น...หากเขาดูห่อเหี่ยวคุณก็เตรียมตัวขั้นต่อไปได้เลย... คือการกลับมาด้วยความลำบาก...”
“ความลำบาก...”ต้นสายที่ทวนคำของร่างเล็ก......
“อ่าวคุณอาจจะไปเผยตัวกับเขาแล้วบอกว่าที่หายไปไปลำบากมาเช่น ป่วย อุบัติเหตุ หรืออะไรก็ได้ ให้เค้าเห็นว่าคุณทุ่มเทให้เขาแม้คุณจะแย่ขนาดไหน....”
“อ่อที่แท้ก็เป็นแบบนี้นะเอง....แล้วผมทำอะไรต่อไปหลังจากนั้นดีครับ...”
“อืม... ต้องดูปฏิกิริยาจากเธอคนนั้นก่อนอ่ะ...เอาเป็นว่า คุณทำเบื้องต้นเท่านี้ก่อน ผลเป็นยังไงแต่แค่นี้ผมว่าน่าจะเห็นผลแล้วนะ หากไม่ ต่อไปคุณให้เป็นหน้าที่ของเรา ตอนนั้นคุณจะได้เป็นลูกค้าเราอย่างแน่นอนครับอิอิ.... เอ่อแล้วเห็นน้องเขาบอกว่าคุณรู้จักที่นี่เพราะเพื่อนแนะนำมา ไม่ทราบว่าชื่ออะไรเหรอครับ....”
ต้นสายที่เงียบไปชั่วครู่...
“แล้วผมจะโทรมาใหม่นะครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ.....”
“หา?...... ”แคนถึงกับเหวอๆออกมา ...ก่อนจะเบ้ปากนิดๆ
“ชิส์ อะไรกันแนะนำไปพอได้อย่างที่พอใจแม้แต่จะขอบใจก็ไม่มี... ชายคนหนึ่งงั้นเหรอ คอยดูนะจีบไม่ติดโทรมางวดหน้าพ่อจะชาร์จค่าบริการให้หน้าหงายเลย....... ผู้ชายคนหนึ่งงั้นเหรอ...ฮึ ชิๆๆ...”
ร่างเล็กเหวี่ยงเล็กๆที่คนในสายตัดฉับอย่างไม่ไว้หน้า.....
.....................................
ฮั่นที่เดินออกมาจากโต๊ะทำงานของตัวเองก่อนจะหันมองไปยังฮัทที่นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะของเขา แต่ฮั่นกลับเห็นเพื่อนสนิทที่กำลังยกสายคุยอะไรบางอย่างพร้อมกับเอามือข้างที่ว่างบีบจมูกของตัวเองอยู่เพื่อให้มีเสียงที่อู้อี้หรือเพี้ยนไปจากเสียงเดิม
“เห้ยไอ้ฮัท เป็นไรมากป่ะทำไมต้องเอามือบีบจมูกด้วย....”
ฮัทที่เหมือนจะดูตกใจก่อนจะพูดกรอกลงในสายอย่างหวาดๆ...
“แล้วผมจะโทรมาใหม่นะครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ....”
นั่นคือประโยคสั้นๆที่ฮั่นได้ยินเพื่อนคิ้วเข้มคุยก่อนจะเงยหน้ามาหาเขา
“ก่ะ..ก็ไม่รู้ว่ะ เหมือนจะเป็นหวัดฟึดฟัดไงไม่รู้เนี่ยกูเลยบีบจมูกทั้งวันหายใจไม่ออกน่ะ’ ฮัทที่บอกร่างสูงที่ทำตาหรี่ๆลงมาแบบไม่คิดจะเชื่อ...
ฮั่นเอื้อมมือแตะบ่าของฮัทที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานสองสามแปะ...
“อ่อ..เหรอ... ไม่สบายเหรอ... แต่ที่พี่เห็นน่ะเอ็งคุยไปยิ้มไปน่ะ... ใครอ่ะ.. แกมีแฟนแล้วเหรอเจ้าฮัท?...”
คนคิ้วเข้มที่หน้าขึ้นสีถึงกับบอกปัดอย่างพัลวัน
“บ้าน่า.... ฟงแฟนอะไร ผมไม่หล่อแบบพี่นี่จะได้มีมาต่อแถวให้พรืด...แล้วก็ไม่เอาสักคน ไปๆๆ จะทำงานแล้ว..”
ฮั่นที่ยกยิ้มที่เห็นฮัทออกอาการเขินๆแบบเด็กโดนจับได้ ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะทำงานของเขา...
“แกน่ารักจิ้มลิ้มจะตาย ผู้หญิงเดี่ยวนี้เขาชอบแบบแกกันเยอะแยะ หน้าตาขี้โกง หน้าไม่รับแขกแบบพี่ มันไม่เทรนด์แล้วว่ะ รู้อะไรบ้างเนี่ย...”
ฮัทที่ไม่ได้สนใจเพื่อนรักรุ่นพี่ที่กำลังบ่นระยะไกลออกมาอีกต่อไป.....
คนคิ้วเข้มกว่าที่เงยหน้านึกอะไรไปนานๆจนเพ้อออกมา...
“วันศุกร์... ดอกไม้... อืม... ดอกอะไรดีว้า.....เสิร์ชหาก่อนดอกไม้สีชมพู สีฟ้า...สีเหลือง....”
ฮัทก้มหน้าก้มตาหาข้อมูลเสริมเพื่อจะทำตามคำแนะนำของใครบางคน
ใครบางคนที่เขาปักใจแล้วว่า....
ชอบ
แม้จะเป็นผู้ชายก็ทีเถอะ ฮัทนั้น...ไม่สนแล้ว...
หัวใจมันสั่ง มันห้ามไม่ได้แล้ว เขาคนนี้ก็จะลองเสี่ยงดู เป็นไงเป็นกัน...
………………………………
“นี่เป็นบัตรประจำตัวนะคะ.....เวลามาเรียนพกมาด้วยนะคะเราจะบันทึกชั่วโมงเรียนจากบัตรค่ะ”
เสียงน่ารักๆจากเจ้าหน้าที่โรงเรียนสอนทำอาหารไทย
กลิ่นหอมหวานโชยตามประตูที่ถูกเปิดออก
โตโน่แทบจะรู้สึกว่าตัวเองกำลังพริ้มและเคลิ้มอยู่บนสรวงสวรรค์ ก่อนจะหันหน้าไปตามประตูนั้น
คนที่มาใหม่ถึงกับทำให้โตโน่หุบยิ้ม พร้อมกับเดินไปหลบหลังของแกงส้มแทน
“เชิญเลยครับ วันนี้มีเรียนทำขนมไทยพอดี งั้นมาลองทำก่อนก็ได้นะครับ อ่อ ผมริทนะครับ เป็นเจ้าหน้าที่ที่นี่จะเป็นคนพาคุณไปแนะนำกับอาจารย์สอนครับ...”
ริทหนุ่มน้อยหน้าหวานตัวเล็ก เขาส่งยิ้มเป็นมิตรให้กับแกงส้ม....ก่อนจะส่งสายตาจิกกัดให้กับโตโน่ที่ปะทะฝีปากกันเมื่อเช้า
“ผมแกงส้มนะ....ส่วนนี่พี่โตโน่ ...อ่าวไอ้พี่โน่แนะนำตัวสิเสียมารยาทนะ.”
ร่างโปร่งที่หันไปกระแซะให้โตโน่แนะนำตัว
“โตโน่ ....” สั้นๆห้วนๆ...จากชายหนุ่มหน้าตี๋มาดกวน
ริทเองที่ไม่ได้ใส่ใจอะไร เขาทำเป็นไม่เห็นแม้แต่เงาหัวของคนที่ทักทายคนนั้น...
ก่อนจะเดินนำคนทั้งคู่เข้าสู่คลาสเรียน
โตโน่ที่แอบเม้มปากแค้นๆริทอยู่เงียบๆ ก่อนจะไปกระซิบกระซาบกับร่างโปร่งขณะเดินไประหว่างทาง....
“แกงส้มแกงต้องระวังนะนายนั่นอ่ะ ดุยังกับหมา....”
ร่างโปร่งที่กำลังเพลิดเพลิน...ไปกับการออกแบบตัวอาคารจึงไม่ได้ฟังโตโน่อย่างตั้งใจเท่าไหร่ จึงกับหันไปถามด้วยเสียงดังลั่นพอควร
“อะไรนะเฮียโน่ใครดุเหมือนหมานะ ...มะกี้แกงได้ยินไม่ชัด...”
ร่างสันทัดที่เดินนำหน้าถึงกับหยุดกึก...เขาหันมามองโตโน่ตามร่างโปร่งที่หันมองไปก่อนแล้ว
โตโน่ที่ดูเหมือนงานจะเข้า....ถึงกับแถและหลบสายตาไอ้คนปากจัดนั่น
“ก็...ฉันหมายถึงไอ้แคนน่ะ แว้ดๆดุยังกะหมาไง ...แห่ะๆ....”
แกงส้มที่ทำหน้าเคร่งเครียด ที่โตโน่นั้นกำลังนินทาว่าเพื่อนของเขาแต่......
“เออว่ะแกงก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ป่ะ.. คุณริทเขารอแล้วป่ะๆๆๆ...”
โตโน่ยกผ้าเช็ดหน้าปาดเหงื่อก่อนเดินเข้าห้องเรียนโดยมีคนสายตากร้าวคนนั้น..ยืนรอที่ประตูอยู่
ระหว่างที่สวนกันโดยโตโน่กำลังจะเดินเข้าห้องเรียนทำขนมไปนั้น เสียงของริทที่แอบพูดกัดกรามเบาๆข้างๆเขา
“ฉันรู้นะว่านายว่าฉัน....”
โตโน่ถึงกับหยุดกึก เขาแสยะยิ้มและเลิ่กคิ้วใส่ให้ริท.....
“ไม่ได้ว่านายสักหน่อย ฉันบอกหรือยังว่าคนปากหมานั่นชื่อ รอ....อิ ทอ........ เอ่อไม่พูดดีกว่าพวกร้อนตัว... ไปเรียนก่อนนะ...”สายตาเหยียดที่โตโน่มอบให้ ช่วยไม่ได้เขาอุตส่าห์เจียมตัวแล้ว ไอ้เตี้ยปากหมาคนนี้มองเขาแบบจิกกัดเองทำไม....
ส่วนแกงส้มนั้นเองก็ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ตัวเองแท้ๆที่เป็นชนวนบาดหมางให้กับคนทั้งคู่อย่างไม่ตั้งใจ
………………………..
ตกบ่ายแก่ๆทั้งสองเข้าบริษัทหลังจากเรียนเสร็จ
“เฮ้ยเฮียโน่มีงานให้พี่ทำว่ะ”แคนที่เรียกสองคนสุดหล่อของออฟฟิศเสียดังลั่น
ร่างเล็กปรี่มาหาพี่ใหญ่อย่างโตโน่อย่างกุลีกุจอ
“งานคั่วป้าๆที่ไหนอีกละ.....”โตโน่ที่ทำหน้าเฉยๆ ถามกลับ...
แคนยิ้มจนเห็นฟันขาวๆ
“แกคิดผิดแล้วไอ้พี่โน่..งานนี้สาวอายุ21ว่ะ ฮ่ะๆๆๆไงตกใจละเซ่.....”จริงดังคาด แต่กลับมีคนโวยวายก่อนตัดหน้า...
“อ้าวไอ้พี่แคน ทำไมไม่ให้แกงทำอ่ะ....”ไม่ใช่ใครที่ไหนร่างโปร่งจอมเจ้าชู้แกงส้มนั่นเอง....
เสียงกระดาษเอกสารขนาดA4ที่ถูกม้วนฟาดเข้าที่หัวสวยๆของร่างโปร่งอย่างจัง
“โป๊ก....”
“โอ๊ย”
“ไอ้พี่แคนทำห่าไรแกงเจ็บนะ...”
“อย่าโลภไอ้แกง มึงยังติดงานคุณฮั่นอยู่ ให้เฮียโน่ได้เกิดกับคนรุ่นสาวๆมั่งสิ สงสารเฮียเขาบ้างสิควงทีไรเหมือนไปกับแม่ทุกที....”
พูดจบร่างเล็กยื่นเอกสารให้โตโน่ทันที...
ร่างสูงโปร่งของโตโน่เงยหน้าหลังอ่านเอกสารสั่งงานเสร็จ
“นี่งานบอกเลิกนี่ไอ้แคน.....”
“ช่าย....เขาจะจ้างเฮียไปควงเพื่อจะไปบอกเลิกกับแฟนของเขาน่ะ เหตุผลคือแฟนบ้าแต่งานจนเขาทนไม่ได้...”
โตโน่พยักหน้าเชิงเข้าใจ หากไม่ติดว่าแกงส้มติดค้างงานอยู่ งานบอกเลิกแบบนี้ แกงส้มถือว่าเป็นมือวางอันดับหนึ่งของงานด้านบอกเลิกรักของที่นี่เลยทีเดียว
“ว้าววว!!!!ขนม...ขนม ..และขนม ..ว้าว แกไปเรียนแล้วพกกลับมาที่ออฟฟิศเยอะขนาดนี้เลยเหรอ..”แคนที่เพิ่งสังเกตเห็นขนมถึงกับตกใจร้องลั่น
แกงส้มยิ้มมาดกวนก่อนจะเหล่สายตาไปยังโตโน่ที่ยิ้มแป้นอยู่
“จะอะไรอีกอ่ะพี่แคน ก็ไอ้พี่โน่น่ะสิเล่นไปส่งวิ๊งค์พิฆาตใจสาวทั้งชั้นเรียน มีผมกะพี่เขาเป็นผู้ชายกันสองคนเอง สาวๆเลยเคลิ้มซะ นี่ยังไม่รวมอาจารย์แก่ๆคนนั้นอีกนะมองพี่โตโน่ซะ...”
เหตุที่ได้ขนมกลับบ้านเยอะขนาดนี้เพราะสองหนุ่มหล่อได้เหมือนมีแฟนคลับที่โรงเรียนไปเสียแล้ว
“โหยถ้าข้าไปเรียนอีกคน เจ้าของโรงเรียนนั่นคงไม่หลงข้าเลยเหรอวะ ว๊ะฮ่ะฮ่าๆๆๆๆ...”
ร่างเล็กที่หัวเราะเพ้อโดยมีสองหนุ่มหล่อร่างสูงอย่างแกงส้มและโตโน่ ทำเป็นไม่สนใจก่อนจะหันหลังเดินออกไปประจำโต๊ะทำงานของตัวเองอย่างไม่ได้สนใจร่างเล็กที่บ้าๆบอๆเลยแม้แต่น้อย
“อ่าว...ไปไหนกันหมด เชอะ... กล้าเมินหน้าข้าเหรอวะ... ”แคนที่มู่ปากบ่นอุบอิบก่อนจะเดินมานั่งหน้านแกงส้มที่กำลังเคลียร์เอกสารอยู่
แคนนั่งอมยิ้มให้กับเพื่อนตรงหน้า จนแกงส้มสังเกตได้
“ยิ้มห่าไรพี่?...ทำไมพิศวาสผมเหรอ?”
แคนที่ทำตาเจ้าเล่ห์โดยที่ยังยิ้มเหรอหรา
“มึงกับคุณฮั่นถึงไหนกันแล้ววะ...” แกงส้มถึงกับสำลักน้ำที่กำลังดื่มอยู่
“แค่กๆ... ไอ้พี่บ้า....ถึงไหนบ้าอะไรอ่ะ แกงเป็นแฟนกำมะลอเท่านั้นนะไอ้พี่แคน พี่ถามยังกับว่าแกงกับตาลูกค้านั่นเป็นแฟนกันจริงๆ”
“อ้าว ข้าก็หมายถึงเรื่องงานต่างหาก ว่าแกกับคุณฮั่นอ่ะเข้ากันได้ดีใช่ไหม..ไอ้แกง... คิดไกลนะมึงนี่..”ร่างเล็กที่อดขำไม่ได้ที่แกงส้มทำหน้าเหรอหราเพราะคิดไกลเกินกว่าคนถามอย่างเขา
แกงส้มที่กำลังนึกถึงหน้าคนที่พวกเขากำลังพูดถึงอยู่
“อืม...ก็ดีนะแปลกดี... ดูเหมือนจะเย็นชา แต่ก็แอบเห็นยิ้มและหัวเราะบ่อยๆ แต่ก็ชอบวางมาดห่างๆกับผมบ่อยๆ...แถมที่สำคัญนะ ...... ”ร่างโปร่งถึงกับหยุดพูดต่อเหมือนคิดได้
หากเล่าเรื่องเหตุการณ์น้องน้ำหวานกับนายฮั่นจอมป่วนออกไป คงโดนคนตัวเล็กหัวเราะเยาะข้ามอาทิตย์แน่ๆ....
“ที่สำคัญอะไรวะ...”แคนที่พาซื่อถาม....
“อ้อ....ก็... เรื่องแฟชั่นน่ะสิ รสนิยมดิ่งลงเหวเลยกแกงต้องเลือกชุดให้ถึงเข้าท่าหน่อย...”ร่างโปร่งยิ้มแหยๆที่แถเรื่องน้องน้ำหวานออกไปได้...
“ก็ยังดีตอนแรกนะพี่เองก็กลัวว่าแกงจะเข้ากับเขาไม่ได้ค่อยยังชั่วหน่อย...”
“พี่แคนไม่ต้องห่วงหรอก...รับงานมาแล้ว... จะทำให้ดีที่สุด แกงเองก็ไม่อยากโดนแม่มาเยาะเย้ยเหมือนกันว่าไปไม่รอด...’
แคนที่ยิ้มอย่างพอใจ
“ให้มันจริงเห้อะ.... เออแล้ววันเสาร์แกอย่าลืมนะนัดกับคุณฮั่นเอาไว้นี่...”
“รู้แล้วน่า....”
“เออไอ้แกงพี่ลืมบอกแกไป..?”
“หืม? อะไรของพี่...ลืมอะไร...”
“ชั้นรู้ว่างานปาร์ตี้ไฮโซนี้ คนที่คุณแม่ของคุณฮั่นจะให้มาดูตัวกับคุณฮั่นน่ะจะมางานนี้ด้วยนะเออ...คุณฮัทโทรมาแจ้งข่าวว่าคุณแม่ของคุณฮั่นถึงกับโทรมากำชับคุณฮั่นให้ดูแลเธอคนนี้อย่าได้ขาดตกบกพร่องเลยนะเว้ย.....”
แกงส้มเงยหน้าจากเอกสารมองเพื่อนรัก
“แล้วไงอ่ะ...”
แคนอยากจะเอานิ้วดีดตาหวานๆของเพื่อนรักสักที เพราะคุณฮั่นนเป็นผู้ชายสินะสัญชาติญาณการหวงแหนจึงไม่เกิด
“มึงอ่ะก็ต้องทำให้ผู้หญิงคนนั้นน่ะเห็นว่าแกสองคนน่ะรักกันม๊ากกกมากไง แกต้องรับบทคนรักกับคุณฮั่นแกก็ต้องวางแผนแสดงความเป็นเจ้าของสิวะ มีหน้ามาถามว่าแล้วไงอีก..” แคนที่โวยขึ้นเบาๆ
แกงส้มเบ้ปากเล็กๆพลางถอนใจ
“นี่ไอ้พี่แคน ทำไมคนรับงานนี้กแกงว่าเป็นพี่จะเวิร์คมากเลยนะ”
“ฮ่ะฮ่าๆๆ เสียใจว่ะ ความจริงงานนี้พี่เองก็คิดว่าสามารถอยู่นะ แต่กับคุณฮั่นไม่เอาว่ะหน้าดุเกิน ถ้าเพื่อนเขาที่น่ารักกว่าอย่างคุณฮัท ข้ายังจะว่าน่าโอเคกว่าอีก ฮ่ะๆๆๆๆ...”
ร่างเล็กหัวเราะลั่นก่อนจะเดินจากไปแบบสบายอารมณ์ปล่อยให้คนหน้าหวานนั่งคิดมากอยู่คนเดียว
“เห้อ.... เอาวะเป็นไงเป็นกัน ต้องแรดให้เป็นเนียนให้เข้าที่ เอาวะ เพื่องานไอ้แกงสู้ๆ..”
ร่างโปร่งยกมือตบแก้มทั้งสองเบาๆเพื่อเรียกกำลังใจก่อนจะก้มลงเคลียร์งานต่อไป
.............................................
ผ่านไปอีกวันงานที่เริ่มจอแจ ร่างเล็กกำลังจะกลับบ้านในช่วงเย็น.....
ไอ้แกงที่เผ่นแน่บไปตั้งแต่สี่โมงเย็น..
“คงจะไปเตรียมตัวไปงานกับคุณฮั่นสินะ..ดีจริงหมดห่วงไปอีกเปราะ..” แคนที่ยิ้มและคิดเองเออเองกับเรื่องของแกงส้มก่อนจะหยิบกระเป๋างานและเดินออกจากห้องทำงานเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน
ร่างเล็กเดินออกมาพบกับสายตาแปลกๆของน้องๆเพื่อนร่วมงาน...
สมายด์ที่มองเขาแบบเลิ่กลั่ก...
สต๊อปที่เคี้ยวขนมก่อนจะค้างสภาพนั้นเมื่อเห็นเขาเดินมา
โตโน่ที่เดินผ่านหน้าเขาก่อนจะทำหน้าเหรอหรา...
ไหนจะคนอื่นๆอีก.....
“อะไรวะ ...หรือว่าเมื่อกี้นอนน้ำลายยืดวะ....”ร่างเล็กสำรวจหน้าตัวเองก่อนจะพบว่ามันปกติ... ก่อนจะส่ายหัวและเดินไปยังประตูทางออกอย่างช้าๆ...
และตอนนี้แคนอติรุจเองก็เริ่มเข้าใจต่อสายตาของเพื่อนร่วมงานแล้ว....
ช่อกุหลาบมากกว่าสิบช่อ กุหลาบสีชมพูบ้าง สีเหลืองบ้าง ดอกทิวลิปสีฟ้าที่ดูแล้วราคาสุดโต่ง แต่ละช่อโตขนาดที่ยากเกินจะอุ้มไว้ได้ น่าจะเกิน300ดอกต่อช่อกระมัง......
วางเรียงรายเต็มหน้าออฟฟิศไปหมดและที่สำคัญ
เจ้าหน้าที่ขนส่ง ยังขนมาให้อย่างต่อเนื่องจนเต็มหน้าทางเข้าที่ทำงาน....
สมายด์หนึ่งในพนักงานที่เดินเข้ามาใกล้ๆ...
“พี่แคน...”
แคนหันกลับพร้อมกับคำถามต่อสมายด์
“นี่มันอะไรสมายด์บริษัทเราจะจัดปาร์ตี้เหรอดอกไม้มาเป็นสวนเลยทำไมพี่ไม่รู้หล่ะ...”
สาวน้อยยิ้มเหวอๆก่อนจะชี้นิ้วให้ไปดูการ์ดใบเขื่องที่วางอยู่ที่เค้าท์เตอร์โอเปอเรเตอร์....
แคนที่ขมวดคิ้ว...ก่อนจะเดินไปอย่างช้าๆ....และหยิบมันขึ้นมาพร้อมคลี่อ่านอย่างตั้งใจ.....
“ถึง คุณ แคน...”
ร่างเล็กลดระดับสายตาเพื่อที่จะอ่านในบรรทัดต่อไปที่มีเพียงข้อความเดียว.....
“ผมชอบคุณ”
สั้นๆ ก่อนจะลดสายตาลงไปที่ส่วนท้ายของการ์ด
“จากผู้ชายคนหนึ่งที่แอบชอบคุณ”
ร่างเล็กที่อ้าปากค้าง....แบบเหวอๆ...
“น่ะ..นี่... ด่ะ..ดอกไม้... เอ่อ... ข่ะ...ของฉันเหรอ?...”
สมายด์พยักหน้าหงึกๆ รวมถึงโตโน่และสต๊อปเดินเข้ามาแสดงความยินดี...
“ดีใจด้วยนะพี่แคนในที่สุดพี่ก็ขายออก....ฉลองคร่า...”สต๊อปยกขวดน้ำส้มในตู้เย็นมาแจกให้โตโน่ก่อนจะยกชนร้องเย้เย กันอย่างสนุกสนาน....
“ดีใจด้วยนะไอ้แคน กร้ากกฮ่ะๆ..... ใครวะตาถั่วมองเอ็งวะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ” โตโน่ที่กระดกน้ำส้มก่อนจะเยาะเย้ยน้องชายร่างเล็กตรงหน้า
โตโน่ถึงกับหุบยิ้มเมื่อเจอสายตาดุดุของแคนที่มองประมาณว่า กูไม่เล่นกับมึงด้วย...
ก่อนจะหันไปที่ดอกไม้ที่แทบจะล้นทางเดิน....
สมายด์ที่เซ็นรับดอกไม้แทนจากเจ้าหน้าที่...แทนร่างเล็กที่กำลัง งงๆ
“ด่ะเดี๋ยวครับ... ”แคนเรียกพนักงานส่งดอกไม้ทั้งสามคน
“ใคร...ใครเป็นคนสั่งดอกไม้ของคุณมาส่งให้ผม...”แคนที่ยังไม่หายตกใจเป็นฝ่ายถามรัว
“พอดีทางเราก็ไม่ทราบจริงๆครับทางผู้ส่งเขาไม่ประสงค์จะออกนามทางเราทำได้แค่ส่งตามออร์เดอร์ ขอตัวนะครับ โอกาสหน้าหวังว่าได้ใช้บริการใหม่นะครับ...”
“เดี๋ยวครับเดี๋ยว....”ร่างเล็กเรียกคนเหล่านั้นอีกครั้ง...
โดยมีโตโน่ สมายด์ สต๊อป ยืนอยู่ด้านหลังเหมือนจะรอดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
แคนที่เอ่ยถามต่อพนักงานส่งดอกไม้ต่อ
“ทั้งหมดนี่..เอ่อ... ค่าดอกไม้อ่ะครับ ... มัน..เอ่อ ..เท่าไหร่..”
เจ้าหน้าที่ได้ฟังก่อนจะเปิดเอกสารดูแล้วหันมาบอกกับร่างเล็กสั้นๆว่า
“ทั้งหมด สิบเก้าช่อ ช่อละ399ดอก รวมจัดส่ง ทั้งหมดก็ ....สี่หมื่นสามพันบาทครับ....”
เท่านั้นหล่ะแคนถึงกับออกอาการไม่พอใจอย่างแรง... อาการฮึดฮัดนั่นจนทำให้น้องๆในออฟฟิศสงสัย
“พี่แคนโมโหที่เขาส่งดอกไม้มาให้เหรอคะ”สต๊อปลอบถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
แคนที่โกรธหน้าแดง เขาพยายามที่จะคุมสติ...
“เปล่าหรอกสต๊อป พี่แค่ฉุน ใครวะ แม่ม... แล้วดูนี่สิลงชื่ออ่ะ แทนตัวเองว่าครับ ผู้ชายชัดๆ...”
“ทำไมวะไอ้แคนผู้ชายก็แล้วไงสมัยนี้ปกติจะตาย..”โตโน่ที่ทักท้วงก่อนจะได้แรงสนับสนุนจากสต๊อปและสมายด์ที่พยักเพยิดหน้าตามไปด้วย...
จริงๆแล้วเรื่องนั้นไม่เท่าไหร่แต่ความเป็นจริงแล้ว....
“แค่เอาการ์ดมา แล้วเปลี่ยนจากค่าดอกไม้เป็นเช็คสี่หมื่นนี่ยังจะดีกว่าเสียอีก โอ้ยยเสียดายตังอ่ะเฮียโน่! ...ว้ากกกกตั้งสี่หมื่นกว่า... ไมไม่เอามาให้กูว้า....”
สต๊อปที่ถอนใจ สมายด์ที่ยิ้มแหยๆใส่ รวมถึงการเดินจากไปของโตโน่ที่กำลังระอาร่างเล็กคนนี้ โตโน่ที่ทำหน้าแบบเหนื่อยๆกับร่างเล็กอย่างแคนที่บ้าเงินมากกว่าสิ่งใด แคนที่กำลังส่ายกระแด่วๆแบบเด็กโดนขัดใจ... ก่อนจะหันหลังเดินไปเก็บข้าวของเตรียมกลับบ้าน โดยไม่สนใจหัวหน้าที่น่ารักของพวกเขาเลยสักนิด....
แคนที่เบะปากมองดอกไม้นั่นอย่างชั่งใจ
“ผู้ชายคนหนึ่งงั้นเหรอ... ทำไมคุ้นๆวะ....เห้อช่างเหอะ ”
แคนถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน... จริงๆก็รู้สึกตื้นใจไม่เบาต่อการลงทุนขนาดนี้ แต่สำหรับเขาที่เป็นคนจัดการเรื่องรักมามากมายแล้ว มันจึงเฉยๆสำหรับเขาไปแล้วเพียงแต่สงสัยว่า ผู้ชายคนหนึ่งคนนั้น เป็นใครกัน....
และสิ่งที่เจ้าตัวกังวลอีกอย่าง....
“เห้อแล้วกูจะเอาดอกไม้ไปยังไงเนี่ย รถกระบะยังขนแทบจะไม่พอ... แมร่งรวยจังว้า...เห้อ...”
ไม่วายที่คนตัวเล็กยังจะเสียใจค่าดอกไม้นั่นอยู่ดี
............................................
รถเบ๊นซ์คันดำสุดหรูจอดอยู่หน้าคอนโดหรูของร่างโปร่ง
แกงส้มที่ดูเคอะๆเขินๆที่ใส่สูทสีครีมพอดีตัวและการจัดหน้าตาและทรงผมด้วยช่างที่ฮั่นส่งมาให้ทำ
ใบหน้าที่ดูหวานกลับเด่นขึ้นด้วยเครื่องสำอางค์บางๆทรงผมที่ถูกจัดแต่งเพิ่มความหล่อมากขึ้นไปอีก
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนตรงหน้าเขาตรงนี้ หากเทียบกับดาราชั้นแนวหน้าของเมืองไทยแล้ว คนๆนี้กลับทำให้เขารู้สึกหัวใจกระตุกแบบแปลกๆได้ยังไงทั้งๆที่เขาเป็น ผู้ชาย....
แกงส้มที่ขึ้นมานั่งพร้อมกับสำรวจตัวเองพร้อมทำหน้าแหยๆ...
“เอ่อ..ผมดูแย่เหรอทำไมคุณฮั่นถึงมองแปลกๆ...”
เหมือนได้สติ...
“เฮ้ยไม่ๆ ฉันมองว่านายโคตรจะดูดีเลยต่างหาก”
“เห้อ...งั้นค่อยยังชั่วหน่อย พอแต่งมาครบๆแบบนี้บอกตรงๆผมไม่เคยน่ะ เลยไม่มั่นใจเอาซะเลย ดูคุณฮั่นสิหล่อ ดูดี ยังกับหลุดมาจากแมกกาซีนชั้นนำเลย...”
“อย่าเว่อร์....” ฮั่นได้แต่ส่ายหน้าเชิงว่าไม่เป็นอย่างนั้น
ฮั่นที่รีบเปลี่ยนเรื่อง
“งั้นเรามาซ้อมกันอีกรอบดีกว่าแกง อย่าลืมนะเรียกผมว่าฮั่นเฉยๆได้แล้ว....”
แกงส้มพยักหน้าหงึกๆ
“ได้ฮั่น งั้นเรามาซ้อมบทที่เราเคยคุยกัน คุณ..ฮั่... เอ้ยฮั่นอยากรู้อะไรล่ะ...” แกงส้มที่เกือบหลุดบท
“ฮั่นเกิดวันที่เท่าไหร่ ..”ร่างสูงถาม
“20 มกรา”
ร่างสูงพยักหน้าหมายถึงคำตอบนั้นถูกก่อนจะถามต่อ
“แล้วสิ่งที่ฮั่นชอบที่สุดหล่ะ ....”
ร่างโปร่งตอบอย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องคิด...
“งานน่ะสิ บ้างานมากที่สุดถึงที่สุด” คำแขวะเล็กๆของร่างโปร่งถึงคำตอบมันจะถูกแต่แกงส้มกลับเพิ่มแอคชั่นเข้าไป
“แน่ะ เหมือนแกงว่าฮั่นเลยอ่ะ...” ฮั่นที่ไม่วายแอบบ่นเมื่อเห็นแกงส้มตอบคำถามอย่างมากแอคติ้งไปนิด
“พูดเรื่องจริงนี่นา แกงจะไปว่าฮั่นทำไมหรือมันไม่จริง....”ร่างโปร่งที่สวนกลับทันควัน สิ่งที่เขาเห็นเป็นอย่างนั้นจริงๆนี่นา
ฮั่นรู้สึกพอใจที่ภาษาที่ใช้แบบเป็นกันเองเริ่มจะเข้าที่เข้าทางกันแล้ว
ภาษาที่เป็นกันเองของคนที่รักกันจะใช้กัน
“อ่ะๆงั้นตาแกงถามฮั่นแล้วถามมาสิ..”
“วันเกิดผม...”
“30 มีนา”ร่างสูงตอบอย่างฉะฉานขณะสายตามองทางขับรถไปด้วย...
“ถูกเป้ะ...งั้น สิ่งที่แกงเกลียดหล่ะ....”
ฮั่นถอนหายใจ จากข้อมูลที่แลกกันทางเมลเมื่อคืน คำตอบนี้ของแกงส้มทำให้เขาปวดหัวยิ่งนัก
แต่ก็จะตอบไปตามข้อมูลที่ท่องมา
“ผู้....ชาย.... นี่แกงคำตอบนี้ฮั่นว่าคุณควรจะเปลี่ยนนะ แกงจะบ้าเหรอถ้าแม่ของฮั่นถามมาแล้วตอบว่าเกลียดผู้ชายน่ะ..มันไม่ดูแปลกๆเหรอ?”
ร่างโปร่งพยักเพยิดอย่างไม่สน ใช่แล้วเขาเกลียดผู้ชายที่เป็นคู่แข่งจีบสาวๆแย่งกับเขา
“อ้าว.... ถ้าคุณแม่ของฮั่นถามผมก็จะบอกกับท่านว่า... ผมเกลียดผู้ชาย แต่ผมชอบเกย์อย่างคุณฮั่นยังไงหล่ะ ฮ่ะๆๆๆ”
ร่างโปร่งที่หัวเราะร่ายิ้มหวานๆสายตาที่มีความสุขของเจ้าตัวนั้น... ฮั่นเองอดที่จะอมยิ้มเสียไม่ได้....
“เห้อะ..นายนี่มัน...”
“ก็ได้ๆ... งั้นตรงนี้แกงจะเปลี่ยนเป็นว่าชอบ..อืม.... ทำอาหารก็แล้วกัน แม่ของฮั่นคงจะชอบ...”
ฮั่นที่พยักหน้าและชื่นชมคนตรงหน้า ที่เหมือนจะเตรียมข้อมูลมาดี....
“แล้วทำเป็นเหรอ.......”ฮั่นถามอย่างสงสัย... หนุ่มเพลย์บอยสไตล์ฝรั่งจ๋าแบบนี้...
“นี่อย่าดูถูกแกงนะคร้าบ...แกงทำเป็นนะ....โด่...”
...เป็นสิเมื่อวานหัดเรียนทั้งวัน อย่างน้อยก็อย่างสองอย่างที่จะทำให้แม่เขาทานล่ะ..
“ไม่ใช่ไปแอบเรียนมาเหรอ......ท่าทางลุยๆแบบนี้ถ้าเป็นคุณแคนเพื่อนของแกงคนนั้น นั่นดูน่าจะแม่บ้านแม่เรือนกว่านายอีกนะแกง”
แกงส้มถึงกับเบ้ปาก .... พูดเหมือนมีตาทิพย์....แต่เรื่องอะไรจะยอมรับล่ะเสียเชิงหมด
“นี่ถ้ามองว่าพี่แคนเป็นแม่บ้านแม่เรือนหล่ะก็.... สยามประเทศอาจจะทรุด น้ำในแม่น้ำคงจะแห้งทั้งปีเลยนะ ได้โปรดเลิกคิดแบบนั้น....ฮั่นอ่ะดูคนแต่ภายนอก คอยดูนะมีโอกาสจะแสดงฝีมือให้ชิม....”
ร่างโปร่งที่ยกยอตัวเองแบบขำขำ แต่สายตาของฮั่นนั้นกลับมองว่ามัน
“น่ารัก....” เสียงที่เบาแผ่วที่หลุดออกมาจากปากของร่างสูง
“ห่ะหา..มะกี้ฮั่นว่าไงนะเบาอ่ะแกงฟังไม่ถนัด...”
ความคิดที่ดุสะเหล่อในความคิดของเขา แต่กลับหลุดโพล่งออกมาอย่างไม่ตั้งใจ...
“อ่อ.... คือ.... ถ้านายตอบไปแบบนี้ว่าทำอาหารเก่งแม่ของฮั่นก็ชอบแน่ๆ แถมนายน่ารักแบบนี้ด้วย แผนของเราคงจะราบรื่น...”
ฮั่นถึงกับเกาหัวแกรกๆก่อนจะส่ายหัวแบบมึนๆเบาๆ อย่างไม่เข้าใจตัวเอง...
ความเงียบที่ก่อเกิดหลังจากตรียมความพร้อมกันสักพักร่างโปร่งจึงโพล่งถามอีกครั้ง.....
“คุณแม่จะมากรุงเทพเมื่อไหร่เหรอ....”
“อีกประมาณอีกสองอาทิตย์น่ะเตรียมตัวให้ดีก็แล้วกัน....”
แกงส้มพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาก็อยากให้ละครบทนี้มันจบลงภายในหนึ่งเดือน แกงส้มอยากจะหวังให้เป็นเช่นนั้น....
ทั้งฮั่นและแกงส้มมาถึงทางเข้าโรงแรมระดับห้าดาว สถานที่จัดงานของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ส่งออกจิลเวอรี่ ในวันนี้
ฮั่นคว้าข้อมือของร่างโปร่งก่อนจะกุมแน่น.....
ก่อนจะก้าวเข้าไปในงานด้วยกัน
ร่างสูงมองแกงส้มพร้อมสูดลมหายใจเข้าปอดเบาๆ
“พร้อมนะ ฉันหวังไว้กับการแสดงของนายมากเลยนะ...”
แกงส้มกำลังตื่นเต้น เจ้าตัวกำลังท่องไว้ว่า เขาแมน เราแมน เขาแมน เราแมน
ก่อนจะเงยหน้ามาตอบร่างสูงอย่างมั่นใจ
“ฮั่นไม่ต้องห่วง ผมไม่ทำให้เสียชื่อOK Loveแน่นอน ผมมืออาชีพพอ...”
พูดจบแกงส้มก็กุมมือกลับไปยังร่างสูงที่เสมือนว่าพร้อมแล้วสำหรับการเป็นคู่รักกำมะลอในครั้งนี้...
ก่อนจะเดินเข้างานไปอย่างตื่นเต้น....
สายตาแทบทุกคู่....
กำลังจับจ้องมาที่คนสองคนที่เข้ามาใหม่....
คนหนึ่งสูงสง่าคมเข้มสายตาที่ดูจริงจัง ใบหน้าที่สาวๆในบริษัทต่างเพ้อเสมอ ฮั่น อิสริยะ
ส่วนอีกคนที่มีใบหน้าน่ารักกึ่งหวานๆ แต่แฝงไปด้วยความทะมัดทะแมง สูงโปร่งขาว ประกอบกับรอยยิ้มออร่านั่น....
สาวๆถึงกับเพ้อ....
แต่นั่นยังไม่น่าตกใจมากพอเท่ากับ......
ทั้งคู่เดินจับมือจูงกันมาอย่างแนบแน่น บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
แกงส้มที่กำลังดูเหมือนเหงื่อตก เขากำลังยิ้มสู้อยู่นั่นเอง
“ทนไว้ไอ้แกง...ทนไว้ ไฮโซแบบนี้ไม่มีใครรู้จักเราหรอก... ยิ้มไว้งาน....เพื่องาน...”
ฮั่นพาแกงส้มไปทักทายทั้งผู้ใหญ่..และเพื่อนร่วมงาน ในคราแรกต่างก็ตกใจในการเปิดตัวแฟนของร่างสูง...
แต่หลังจากทั้งสองผ่านไปแล้ว
“โหย ถ้าผมเป็นเจ้าฮั่นก็เอาวะน่ารักกว่าผู้หญิงอีก”
“โหยอิจฉาพี่ฮั่นจัง น่ารักแบบนั้นเป็นหนูนะ หนูก็ไม่สนแล้วว่าจะชายหรือหญิง..”
“ตอนแรกตกใจเหมือนกันนะ แต่พอมองแล้วเข้าใจไอ้ฮั่นมันเลยอ่ะ... เป็นเราก็คงจะหลงเสน่ห์คนที่มีรอยยิ้มแบบนั้น...”
เสียงคนวิพากวิจารณ์เริ่มสนุกปาก
ฮัทที่เดินอยู่ในงานและได้ยินบทสนทนานั้น เขาจึงยิ้มอย่างอารมณ์ดี อย่างน้อยผลการวิจารณ์ส่วนใหญ่เป็นไปในแง่บวก....
“ยินดีด้วยนะไอ้พี่ฮั่นแบบนี้ข่าวถึงหูแม่พี่ไวแน่ๆ...”ฮัทพูดจบพลางยกเครื่องดื่มกระดกพรวดก่อนจะหันไปคุยกับผู้ใหญ่ในบริษัทโดยหันมามองคู่รักกำมะลอนั่นก่อนจะยกยิ้มอย่างขำๆ
ฮั่นที่ยืนกุมมือร่างโปร่งอย่างไม่ห่างไปไหน
“เป็นไงแกงไหวไหม....”ร่างสูงที่ถามอย่างเป็นห่วง....
“ไหวสิ..คนหรูๆแต่งตัวดีๆไปหมดเลย... ”แกงส้มที่มองไปยังด้านหน้างานที่มีผู้คนมากไปหมด....
ฮั่นยิ้มก่อนจะกระชับมือขาวนั่นแน่นขึ้น
“ฮั่นต้องขอบใจนะถ้าไม่ได้แกง ....”ร่างสูงเว้นช่วงไว้อย่างนั้น.....
“จริงๆต้องขอบคุณคุณฮัทถึงจะถูกนะถ้าไม่ได้เขามารู้จักกับบริษัทผม ”
ฮั่นถึงกับพยักหน้าเชิงเห็นด้วย....
“แต่ถ้าวันนี้คนที่ฮั่นมาควงไม่ใช่แกง...ฮั่นคิดว่ามันคงไม่ราบรื่นแบบนี้หรอก นายสังเกตสิมีแต่คนชมนายทั้งนั้น...”
ร่างโปร่งกลับรู้สึกแปลกๆที่เห็นร่างสูงชื่นชมเขาแบบนั้นอย่างจริงใจ.....
“ฮั่นมาพูดแบบนี้...บอกตรงๆ..ผมก็เขินเหมือนกันนะแห่ะๆ...”ร่างโปร่งที่ยกมือข้างที่ว่างเกาหัวอย่างอายๆ...
ฮั่นกลับมีความรู้สึกแปลกๆว่า.....ไม่อยากให้งานเลี้ยงนี้ จบลงเลย...
ให้ตายสิ...
ก่อนที่สติจะกลับมา......
ฮั่นนั้นก็เห็นอะไรบางอย่าง....
“แกง... นั่นมาแล้วคนที่เป็นคู่ดูตัวของฮั่นน่ะ....” ฮั่นกระซิบเบาๆที่ข้างหูทำเอาร่างโปร่งถึงกลับขนลุกแบบแปลกๆที่ริมฝีปากของฮั่นนั้น โดนที่บริเวณปลายหูของเขาอย่างไม่ตั้งใจ...
ร่างโปร่งหันไปตามสายตาของฮั่น หญิงสาวที่ว่ามาถึงตัวฮั่นเสียแล้ว....
“สวัสดีค่ะพี่ฮั่น พี่มานานหรือยังคะ”
หญิงสาวที่เห็นภาพร่างสูงตรงหน้า... กำลังจับมือกับคนน่ารักข้างๆ....
คนน่ารักที่ว่านั้นกลับเป็นคนที่เธอเองดันรู้จักเป็นอย่างดี....
แม้แต่แกงส้มที่ว่าตาโตอยู่แล้วถึงกับเหวอและตกใจออกมาอย่างขีดสุด....
“พี่แกงส้ม?....”
“ฉะ...ฉะ...เฌอเบลล์...”
กิ้กลำดับที่หนึ่งของนายแกงส้ม คนที่แวะเจอหวานแหววกันบ่อยสุด กิ้กที่แกงส้มรักมากที่สุดในบรรดาที่เขามี
“ฉิบหายแล้ว......” แกงส้มงานเข้าอีกแล้ว ร่างโปร่งสบถออกมาอย่างลืมตัว
ทำไมโลกแห่งความรักของแกงส้มถึงได้กล้มกลม ขนาดนี้นักนะ....
TBC……
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเม้นท์นะครับ
สงสารแกงส้มกันหรือยังครับ ก๊ากกกกกกกก
ความคิดเห็น