คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : SOS :: TWO
T W O {2}
★
วันนี้ไม่มีการเรียนการสอนฮะ เนื่องจากเพิ่งเปิดเทอมวันแรก
อาจารย์บอกให้นั่งจัดตารางเรียนเลือกวิชาเลือก เลือกวิชาชุมนุมกันไป รอเวลากลับบ้านตอนเที่ยง
“ เฮ้ สวัสดีคยองซู ฉันชื่อชานยอลนะ.. ” ชานยอลเริ่มเขยิบเก้าอี้ของตัวเองเข้ามาและแนะนำตัว หลังจากที่อาจารย์ออกจากห้องไป
“ ส่วนนี่ก็เทา และก็ลู่หาน ” สองคนนั้นหามายิ้มและทักทายให้คยองซู
คยองซูก็มองตามนิ้วที่ชานยอลชี้ และพยักหน้าทักทายพร้อมกับยิ้มบางๆให้เช่นเคย
“ อ่ะ นี่ ฉันพอดีฉันรู้ว่านายจะย้ายมา ฉันเลยเตรียมขนมไว้ให้ ” ชานยอลพูดพร้อมกับยื่นกล่องชอคโกแลตมาให้
“ หูย กล้าเนอะ ” ผมพูดออกไป ทันทีที่ห้องกล่องขนมนั้น
“ น้องส้มเกรด 11 กิ๊กเก่ามึง ให้มึงมาเมื่อเช้าไม่ใช่อ๋อวะ ไอชาน ” ลู่หานช่วยผมแขวะชานยอลทันที
“ นั่นดิ่วะ กูก็ว่าคุ้นๆ มึงนี่แม่งไม่ลงทุนเลย ” เทาเองก็ไม่พลาดกับการรุมซ้ำเติมชานยอลในครั้งนี้
“ พวกมึงนี่แม่งงง เพื่อนกุจริงป๊ะว๊ะ ” ชานยอลพูดพร้อมกับหัวเราะแก้เก้อ พวกผมก็พากันหัวเราะไปด้วย
หลังจากพวกเราเริ่มคุยกับคยองซู ก็เริ่มมีเพื่อนในห้องมาทักคยองซูบ้าง
เขาก็ได้ยิ้มบางๆแบบเขินอาย พร้อมกับพยักหน้าโค้งเบาๆ กลับไป
คนเริ่มมารุมล้อมโต๊ะของพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ สารพันคำถามประดังเข้ามา
“ นี่นายย้ายมาจากไหนหรอ ? ”
“ อายุเท่าพวกเราใช่มั๊ย ? ”
“ เป็นคนที่ไหนหรอ บ้านนายอยู่แถวไหน ? ”
บลาๆ....
คยองซูเองก็คอยมองหันตามเสียงที่คนอื่นที่ถามเขา ด้วยสีหน้างงๆ ซ้ายทีขวาที
ใบหน้าที่ใสซื่อ กับตากลมโตคู่นี่ อ่าาาาา ถ้าใครได้เห็นคงรู้สึกเอ็นดูเขาแบบบอกไม่ถูก
แล้วทำไมนี่ผมต้องคอยมองเขาตลอดเวลาด้วยล่ะ !!
“ เฮ้ๆ พวกนายใจเย็นก่อนดิ่ ค่อยๆถามสิ คยองซูเขางงหมดแล้วเห็นไหม ” ผมเริ่มปรามเพื่อน เมื่อเห็นคยองซูเขาเริ่มอึดอัด
“ งั้นฉันเริ่มถามก่อนเลยนะ ... นายมีแฟนยัง ? ” ชานยอลอีกนั่นแหล่ะ ที่เป็นคนเริ่มถามก่อน
“ .... ”
“ .... ”
“ .... ”
คนที่มุงอยู่ก็เงียบ และมองไปที่คยองซูอย่างอยากรู้ในคำตอบ
...ผมเองก็เช่นกัน ทำไมผมต้องรอลุ้นกับคำตอบของเขาด้วยก็ไม่รู้เหมือนกัน
(◑.◑ ) ( ◑.◑) (◑.◑ )( ◑.◑)
คยองซูส่ายหน้าไปมา หัวใจผมยิ่งเต้นแรงขึ้นกว่าเดิมอย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อรู้คำตอบของเขา
“ เยสสสสสสสสสสสส ” ชานยอลร้องออกมาและลุกขึ้นยืน ชูกำปั้น ทำท่าเหมือนฟุตบอลทีมที่มันเชียร์ได้แชมป์
“ นั่งเลยมึง นั่งเลย อย่าออกนอกหน้า ” เทาพูดพร้อมกับดึงชานยอลให้นั่งลง
“ ประชุมอะไรกันอยู่หรอ พวกเด็กห้องเอ ” เสียงบางเสียงดังออกมาจากหน้าห้อง พวกผมหันมองไปตามต้นเสียง
ก็เห็นว่าเป็นกลุ่มของ กวังแจ เด็กจากห้อง B ที่อยู่ข้างๆ แวะเข้ามาทักทาย ??
หึ เจ้ากวังแจนี่เก็เป็นหัวหน้าวงดนตรีเหมือนกับผมล่ะฮะ เราเป็นคู่แข่งกัน
หน้าตามันก็ดีนะ (แต่น้อยกว่าพวกผม..) ความสามารถมันก็มีพอมี แต่นิสัยมันนี่แย่สุดๆ
พวกผมกับพวกมันถึงจะไม่ชอบขี้หน้ากัน ไม่ค่อยถูกกันแต่ก็ไม่เคยมีเรื่องกันหรอกนะ ถือคติต่างคนต่างอยู่
“ อ๋ออ ได้ข่าวว่ามีเด็กใหม่มา กำลังเห่อกันอยู่สินะ ” กวังแจพูดพร้อมกับเดินเข้ามาทางกลุ่มพวกเรา
“ มึงกลับห้องไปเหอะวะ กวังแจ พวกกูไม่อยากมีเรื่องหรอกนะ ” ชานยอลเอ่ยออกไป อย่างรู้นิสัยกวังแจมันดี
“ กูก็แค่แวะ มาทักทายเฉยๆ มึงก็ไม่เห็นต้องโมโหเลยนิหว่า ” กวังแจตอบชานยอลมันก่อนจะหันไปทางคยองซู
“ งั้น... ไว้เดียวฉันหาโอกาสทักทายเองก็ได้ รอให้พวกนายหายเห่อกันก่อนละกัน… ” กวังแจยังคงพล่ามต่อไป
“ ... ”
“ พวกนายก็อย่าชวนเขาคุยเยอะละกันเดียวเขาจะตอบไม่ทัน .. ไม่ใช่นิหว่า ตอบไม่ได้เลยต่างหาก ฮ่าฮ่าๆๆๆๆ ”
กวังแจพูดแขวะ พร้อมหัวเราะ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับกลุ่มของมัน
ผมหันไปมองคยองซู เขานั่งก้มหน้านิ่ง ผมเลยไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไง
แต่ก็คงรู้สึกแย่ไม่น้อยกับการมาเรียนวันแรกแล้วเจอแบบนี้
“ อย่าไปคิดมากกับคำพูดของเจ้านั่นมันเลยนะ คยองซู ” เพื่อนผู้หญิงในห้องคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา
คยองซูเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับยิ้มบางๆ กลับไป
... แม้เขาจะยิ้ม แต่บนใบหน้านั้นก็ยังเคยฉายแววความเศร้าปนออกมาอยู่
“ อย่าไปสนใจมันเลย .. ” ผมเอ่ยออกไปอย่างต้องการจะปลอบใจ แต่ไม่รู้จะพูดยังไงดี
พร้อมกับเอามือไปจับที่หัวไหล่ของเขาเบาๆ เขาหันหน้ามามองผมแว๊บนึง ก่อนจะหันหน้ากลับไป
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
คยองซูล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบโทรศัพท์ของตนออกมา เปิดอ่านข้อความบางอย่างที่เด้งโชว์
แล้วเขาก็เขียนบางอย่างลงไปในสมุด ด้วยท่าทางรีบๆ
“ ฉันกลับก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน ”
จากนั้นเขาก็รีบเก็บของลงกระเป๋า วิ่งออกจากห้องไป... ทุกคนมองตามด้วยความงงงวย ..
รีบไปไหนของเขานะ??? ผมได้แต่มองตามแล้วคิดในใจ …
.
.
.
วันต่อมา ...
ขณะที่พวกผมกำลังจะก้าวเข้าห้องเรียน ก็เห็นกลุ่มของกวังแจกำลังยืนล้อมอยู่แถวๆโต๊ะคยองซู
“ หึ มาเรียนแต่เช้าเลยนะ แต่วันนี้ไม่เห็นมีใครมารุมล้อมเหมือนเมื่อวานเลยนิ.. ” กวังแจพูดขึ้น
“ ...ฉันคุยกับนาย แล้วทำไมนายไม่ตอบฉันล่ะ.. ห๊ะ!! อ๋อลืมไปว่านาย.. ฮ่าๆๆๆๆ ”
กวังแจยังพูดไม่หยุด และหัวเราะดูถูกในประโยคสุดท้าย เพื่อนในกลุ่มของกวังแจก็หัวเราะเช่นกัน
คนในห้องยังไม่มีใครมา เนื่องจากมันยังเช้าเกินไป...
ที่วันนี้พวกผมมาเช้ากันก็เพราะ บังเอิญว่าเมื่อวานลู่หานมันลืมโทรศัพท์ไว้ใต้โต๊ะ วันนี้มันเลยรีบมาเอา
“ ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! พวกนายหัวเราะอะไรหรอ ขอหัวเราะด้วยคนสิ ” ลู่หานพูดออกไปด้วยท่าทางร่าเริง
พร้อมกับเดินเข้าไปหากลุ่มพวกนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น ถึงแม้จะดูเหมือนไม่มีอะไร
แต่ท่าทางแบบนี้สำหรับคนที่รู้จักลู่หานดีนั้น มันน่ากลัวสุดๆ เลยทีเดียว
พวกกลุ่มของกวังแจ เริ่มถอยออกจากโต๊ะของคยองซู ผมมองไปที่คยองซู เขานั่งก้มหน้านิ่ง
“ อ่า นายกำลังแกล้งเด็กใหม่กันนี่หน่า ฉันไม่เห็นว่ามันจะสนุกเลยนะ นี่มันน่าผิดหวังจริงๆเลย ฮู้ววว ”
ลู่หานพูดและถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมแสร้งตีหน้าผิดหวังสุดๆ
“ ฉันรู้นะว่าอะไรที่สนุกสำหรับนาย.. ” เทาเอ่ยขึ้นมาพร้อมเดินเข้าไปยืนข้างลู่หาน
พวกผมเริ่มคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้ คยองซูเองก็เช่นกัน
ดังนั้นคยองซูจึงรีบยืนขึ้นด้วยท่าทางตกใจ เหมือนจะพยายามห้ามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ไม่รู้จะทำยังไง
“ นี่ กวังแจ เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรอวะ ว่าจะต่างคนต่างอยู่ ” ผมพูดขึ้น เพื่อยับยั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแทนคยองซู
“ กูก็แค่อยากทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ห้องมึงเท่านั้นเอง หึ.. ” กวังแจตอบกลับผมมาด้วยท่าทางกวนประสาท
ท่าทางแบบนี้ผมน่าจะปล่อยให้เจ้าสามคนนี้ซักมันซักที สองทีนะ ..
แต่พอหันไปเห็นหน้าคยองซูแล้ว ผมเลยคิดว่าอย่าให้มีเรื่องเลยดีกว่า คยองซูจะไม่สบายใจเปล่าๆ
“ พวกกูเองก็ไม่ได้อยากมีเรื่องกับพวกมึงหรอกนะ แต่พอมีเด็กใหม่เข้ามา
กูก็แค่ต้อนรับด้วยธรรมเนียมรับน้องของกู ... จริงๆ พวกมึงก็รู้เรื่องนี้ดีนิ แล้วพวกมึงจะเข้ามายุ่งทำไม ”
ก็ตามที่กวังแจพูดแหล่ะฮะ ทุกครั้งที่มีเด็กใหม่เข้ามา ไม่ว่าเกรดไหน กวังแจมันจะหาวิธีแกล้ง
หาวิธีรับน้องให้เด็กใหม่เกรงกลัวมัน ซึ่งพวกผมก็รู้ แต่ไม่เคยคิดจะเข้าไปยุ่งเรื่องของมัน
“ นี่ เขาเป็นเด็กห้องกู กูขอยุ่งหน่อยละกัน ” ผมพยายามไกล่เกลี่ย
ถึงแม้จะมั่นใจในฝีมือการต่อสู้ของพวกเราเองก็เหอะ ว่าสู้ได้ไม่แพ้ใคร แต่ก็ใช่ว่าผมอยากจะมีเรื่องกับเขาไปทั่ว..
สำหรับผมต้องพยายามใช้เหตุผลก่อน แต่ถ้าเป็นไอสามคนข้างๆผมนี่เอะอะตีอย่างเดียว
“ เว้นไว้คนละกัน ” ผมพูดออกไปอย่างพยายามใจเย็น
“ ขอร้องกูสิ ”
“ ... ”
“ แล้วกูจะเว้นไว้ .. ” ผมเริ่มโมโห แต่ต้องพยายามสงบนิ่งไว้ และก็ยกมือห้ามไอสามตัวข้างๆ ผมไว้
ผมรู้สึกได้ว่าพวกมันเดือดจนจะอยากจะพุ่งเข้าไปซัด ไอกวังแจเต็มทน
“ ... ”
“ แต่พวกมึงคงไม่ลดตัวไปขอร้องแทนคนพิการคนเดียวหรอนะ หึ ”
ผลัวะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ
สติสัมปชัญญะของผมขาดผึ่ง ... หมัดของผมลอยพุ่งเข้าหาปากมันทันที ไอห่านี่ มันจะดูถูกคนมากไปแล้วนะ
ปกติผมไม่ใช่คนโมโหอะไรง่ายๆ แต่หลังจากได้ยินประโยคนั้น .. ความโกรธของผมก็พุ่งปรี้ดทันที
“ มึงอย่าดูถูกเขาให้กูได้ยินอีก !! ” ผมพูดออกไป
ทุกคนในที่นั้น ทั้งกลุ่มของกวังแจ และกลุ่มเพื่อนผมต่างก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ทุกคนรู้ดีว่าผมไม่เคยต่อยใครมาก่อน เพราะ สามคนนี้จะปกป้องผมเสมอ
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมลงมือเอง มันเป็นครั้งแรกที่ผมปกป้องใครซักคน ...
ความตกตะลึงของแต่ละคน ทำให้ปัญหาในวันนี้ไม่รุนแรงขึ้นไปกว่านี้
ประกอบกับเสียงออดเข้าเรียนดังขึ้นพอดี… คนบนตึกเริ่มมากขึ้น...
กวังแจมันจึงจำต้องกลับห้องของมันไปก่อน แต่ผมมีลางสังหรณ์ว่ามันคงไม่จบแค่นี้แน่
.
.
.
ผมเข้าไปนั่งที่นั่งของตัวเองด้วยอารมรณ์ที่ยังขุ่นมัวอยู่
สามคนนั้นก็พอเดาอารมณ์ผมได้ จากสีหน้าของผม เลยยังไม่ได้เข้ามาพูดอะไรกับผม
ส่วนคยองซูเองก็หันมามองผมด้วยสีหน้าที่ผมก็ตีความไม่ได้
คาบเรียนแรกเริ่มต้นขึ้น ผมพยายามคิดเรื่องเพลง เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นบ้าง
เวลาผ่านไปซักพัก ผมไม่ได้สนใจรอบข้างอะไรทั้งนั้น รวมถึงคนข้างๆด้วย...
แรงสะกิดจากคนบางคนทำให้ผมหลุดจากภวังค์แห่งความคิด
คยองซูนั่นเองที่สะกิดผม เขายื่นกระดาษบางอย่างมาให้ผม
“ ฉันขอโทษนะ กับเรื่องเมื่อเช้า ที่ทำให้นายมีเรื่อง..
ฉันเสียใจที่ทำให้นายอารมณ์ไม่ดี
นายจะโกรธฉันก็ได้นะ แต่ยิ้มซะหน่อยเถอะ ...
อย่าทำหน้าแบบนี้เลย .. เพื่อนนายเขาเป็นห่วงนายนะ ”
ผมอ่านจบและมองไปที่คยองซู หน้าเขาดูรู้สึกผิดอย่างปิดไม่มิด เขาชี้นิ้วไปที่เพื่อนผมสามคน
ที่คอยหันหน้ามามองผมเป็นระยะๆ อย่างเป็นห่วง
... ผมเลยยิ้มบางๆ และพยักหน้าออกไป แค่นั้นเจ้าพวกนี้ก็รู้แล้วว่าอารมณ์ผมดีขึ้นมาบ้างแล้ว
ผมอ่านข้อความบนกระดาษนั่นอีกครั้ง แค่ข้อความสั้นๆ แต่ก็ทำเอาผมรู้สึกดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ...
ผมหันไปมองหน้าคยองซู แล้วกระซิบถามออกไปอย่างติดตลก
“ ฉันทำหน้ายังไงหรอ.. ? ”
คยองซูทำหน้าลังเลอยู่ซักพักก่อนจะ ก่อนจะทำหน้านิ้วคิ้วขมวด และทำปากยู่หน่อยๆ
“ ฮ่าๆๆๆ ” ผมหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว ใบหน้าเมื่อกี้ที่เขาทำมันน่ารักชะมัด
คนอื่นๆ แถวๆที่นั่งผมหันมามองผมที่อยู่ดีก็หัวเราะออกมา ยังดีที่ไม่ได้หัวเราะดังมากนัก ไม่งั้นโดนอาจารย์ดุแหงๆ
คยองซูเองก็ก้มหน้างึดๆ คงอายที่ผมหัวเราะเยาะเขา..
“ ฉันไม่ได้โกรธนายหรอกนะ ไม่ต้องคิดมาก.. ” ผมกระซิบบอกกับคยองซูต่อไป
เขาเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมกับสีหน้าที่ดีขึ้น ผมอ่านข้อความนั้นเป็นรอบที่สาม ก่อนจะเอ่ยถามออกไป
“ ...แล้วนายไม่เป็นห่วงฉันบ้างหรอ ^^ ”
------------------------------------------------------------
น้องแบคเริ่มแมนแล้วน่ะเอ่อออ อาจจะยังมีหลายจุดที่ยัง งง ๆ กันเนอะ
เดียวตอนหน้า เป็นส่วนของคยองซูบรรรยายเรื่องบ้างแล้ววว :D
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามน๊ะค๊ะ ซึ้งน้ำตาจิไหล
ทีเซอร์หนุ่มๆก็ออกแล้วด้วย น้ำตาจิไหลจริงๆ :D
ความคิดเห็น