คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จะรักกันทั้งทีมันต้องมีรุ่นพี่เป็นฐาน
เวลา 18.06 ได้เกิดเรื่องกลมๆบางอย่างขึ้น ชนิดวงเวียนคุณภาพดีก็เอาไม่อยู่ มีคนเคยบอกว่าเราสามารถเปลี่ยนสิ่งของที่มีลักษณะเหลี่ยมให้กลมได้หลายวิธี และคนเราก็ยังทำสิ่งที่กลมให้เหลี่ยมได้ง่ายๆด้วย ทว่าการที่โลกจะเกิดกลมดิ๊กขึ้นมานั้นเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้จริงๆ
“เบส..นี่ไอ แฟนพี่ ส่วนนี้น้องไอเขา..ชื่อเอก น้องเอก นี่น้องชายพี่ชื่อเบสนะ”
เพล้ง!...มือเรียวของเด็กหนุ่มผมสีชมพูอำพันเกิดชักกระตุกขึ้นมากระทันหันจนแก้วในมือตกมาแตก
ดวงตาคู่คมสีน้ำตาลเฮเซลนัทเลื่อนประสานกับเนตรสีทับทิมที่มองตรงมาอย่างอึ้งๆ เหมือนกับโลกนี้มันแตกดับ อุกกาบาตนับร้อยยังพิลึกไม่เท่าความบังเอิญแสนบ้าแสนบอครั้งนี้เลย..
ไม่ใช่แล้ว..นี่มันไม่ใช่แล้ว พุทโธ..ธัมโม..สังโฆ ได้โปรด! บอกทีสิว่ามันล้อเล่น! นายเบส XXX ดีดดิ้นกรีดร้องในใจ ไม่ลืมที่จะจ้องไปที่ชายผมสีน้ำตาลเข้มที่สูงกว่าเล็กน้อยอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ
“โอว้ ชิททท” เอก XXX หนึ่งในนักแคสเกมที่โด่งดังในประเทศไทยถึงกับหลุดคำพูดติดปากออกมา
หลังจากนั้นเบสก็ตะโกนออกมาแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “ไอ้เชี่ยเอกกกกกกก” มึงอยู่ได้ทุกที่เลยหรือไง..
พี่สาวผมสีชมพูอ่อนแซมขาวที่ดูเหมือนกับถอดแบบจากเบสมามองทั้งคู่สลับกัน จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างงงๆ “อ้าว? รู้จักกันหรอกหรอ”
ไม่ใช่แค่รู้จักกัน…เบสคิดพร้อมเกาหัวแบบลูกแมว แต่สนิทกันต่างหาก! โลกนี้มันกลมแบบใช้วงเวียนวาดได้ยังไงกันนะ! “ครับ..รู้จักกัน” สุดท้ายก็ต้องยอมรับ
ทว่ายังไม่ทันหันไปคาดคั้นต่อก็รู้สึกได้ถึงแรงกระชากเบาๆ เหมือนโดนขืนแขนให้ออกห่าง เอกฉุดมือคู่หูเอาไว้..รั้งตัวมาใกล้ๆ พร้อมกับกระซิบเสียงแหบพร่า “ไปคุยกับกูห้องมึง..เดี๋ยวนี้”
ไม่ไปก็ต้องไปแล้วล่ะ..เบสผู้มีรูปร่างบางเฉียบสู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหวก็ต้องยอมทำใจ ให้อีกฝ่ายลากขึ้นห้องไปโดยดี โดยมีสายตาของผู้เป็นพี่จับจ้องอยู่ตลอด..
ปัง!.. ปิดประตูเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว
“คุณอธิบายผมมาเดี๋ยวเลยครับ..” ว่าแล้วเอกก็โยนตัวประหลาดที่กำลังดิ้นดุ๊กดิ๊กๆลงกับเตียงนอน จากนั้นก็นั่งรอคำตอบอยู่ข้างๆ
เบสมุดลงไปในผ้าห่ม ตอบเสียงดังจนได้ยินไปถึงหน้าปากซอย “อะไร อะไร อะไรรร กูไม่รู้เรื่องนะ”
เสียงที่ดูเหมือนกับใส่อีโม ‘T^T’ ลงไปย่อมทำให้อีกฝ่ายใจอ่อนอยู่แล้ว แปลว่าไม่รู้เรื่องจริงๆ..เอกพยักหน้ากับตัวเอง แต่มันก็อดคาดคั้นต่อไม่ได้ “กูไม่ยักรู้ว่าพี่มึงกับพี่กูเป็นแฟนกัน”
ร่างบางที่นอนหน้าบูดบึ้งอยู่บนเตียงปาหมอนข้างใส่เพื่อน ก่อนจะโวยวายบ้าง “แล้วกูจะไปรู้ไหมวะครับ ตอนนี้ก็รู้พร้อมกันแล้วไง เราต่างออกเดินตามทางของเราเห้อะ” พูดง่ายๆ คืออย่าโกรธเลยนะ..
จบไหม..เบสลอบชายตามองเพื่อนรักพร้อมกับถามในใจ
เฉกเช่นรู้ว่าอีกคนกำลังคิดอะไร เอกขมวดคิ้วชนกันพร้อมกันเอนตัวนอนลงข้างๆ ร่างโปร่งของเพื่อน “กูไม่จบ”
“อะไรอีกล่ะ” เบสหันตัวตะแคงไปตามค้อน “ลุกออกไปเลยนะ นี่เตียงกู ละ..แล้วมึงจะกลับบ้านหรือยัง..?”
เอกวางมือบนหัวเจ้าเพื่อนจอมโวยวายคนนี้แล้วขยี้เบาๆ ถึงใบหน้าของเบสจะโดนผ้าห่มผืนหนาปิดจนมิดก็ยังเดาได้ไม่ยากว่าตอนนี้สีหน้าเป็นยังไง “ยังครับ ณ จุดนี้..กูว่าจะอาบน้ำสักหน่อย ขอใช้ห้องน้ำมึงได้ไหม..?”
“อือ”
อือ? เอกเลิกคิ้วขึ้นสูง ยอมง่ายๆ เลยงั้นเรอะ..
..รู้ทั้งรู้ว่ากำลังเสียเปรียบ แต่ก็ยอมให้ทุกทีไป..
“เฮ้ย ไอเบส ไม่มีผ้าเช็ดตัวว่ะ”
นิ้วเรียวชี้ที่ประตู พร้อมกับพูดด้วยเสียงคนใกล้จะหลับ “..ข้างล่างมี ลงไปเอาเองไป”
นายเบส นักแคสเกมเสียงหวาน(?) เป็นคนที่ทะลึ่งปานกลาง ถือว่าเหมาะสมกับอายุและวัย แต่จะหื่นได้ก็เฉพาะกับผู้หญิง ส่วนผู้ชาย..เกลียดมาก และเอกก็รู้เรื่องนี้ยิ่งกว่าใคร
“แต่กูแก้ผ้าแล้วนะครับ” ร่างสูงทรุดนั่งลงข้างๆ เตียง ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อก็มีเสียงอุดอู้ออกมาจากผ้าห่ม “กูจะลงไปเอาให้เอง มะ..มึงกลับเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ ไม่ต้องเปิดประตูออกมานะเว้ย ไอ้..”
เมื่อเห็นว่าไอ้เอกยอมกลับเข้าไปในห้องน้ำแล้วล็อคประตูเสร็จสรรพดีแล้ว สองขายาวก็ก้าวลงไปที่ชั้นล่างเพื่อขอผ้าเช็ดตัวผืนใหม่จากพี่มาให้ตัวก่อปัญหาจอมลามกที่สิงอยู่ในห้องน้ำส่วนตัวของเขา
18.40 นาที มีคนสองคนอยู่ในห้อง คนหนึ่งกำลังแก้ผ้ารออาบน้ำ อีกคนถือผ้าเช็ดตัวอยู่ในมือ..
ก๊อกๆ
“ไอ้เอก ผมเอาผ้าเช็ดตัวมาแล้วครั…เฮ้ย!”
ประตูห้องน้ำถูกเปิดกว้างออกมาโดยไม่ได้นัดหมาย พร้อมกับร่างสูงเปลือยเปล่าที่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าห้องน้ำ..ช่างกล้าจริงๆ ภาพนั้นเรียกให้ผ้าเช็ดตัวมันหลุดมือไปเอง
“มึงตกใจก็ปิดประตูสิวะ” เอกพูดเชิงล้อเลียน “แต่นี่อะไร ยืนมองค้างอยู่นั่นแหละ กูก็อายเป็นนะเนี่ยย”
เบสคิดว่าตัวเองบ้าและกำลังรู้สึกอายมาก ใบหน้าสีขาวนวลขึ้นสีชมพูระเรื่อคล้ายกับสีผมของเจ้าตัว แต่ถึงจะอาการหนักขนาดนั้นก็ยังมีแรงพูดด่าปาวๆได้ แม้จะตะกุกตะกักไปหน่อยก็ตาม “อ..เอาผ้าเช็ดตัวไป..แล้ว..ปิดประตู ใส่กลอน โชคดี!”
ว่าแล้วเบสก็เดินเอามือปิดหน้าไปที่ที่นอน ก่อนจะได้ยินเสียงคนดื้อที่ไม่ยอมปิดประตูดังขึ้นมาจากข้างหลัง “มึงมาอาบกับ
กูดีกว่านะเอก น้ำกำลังอุ่นๆเล…ปัง! ”
เบสใช้มือข้างขวาดันประตูห้องน้ำให้ปิดสนิทเสียที แต่หารู้ไม่ว่าเมื่อกี้มันไปโดนมือของอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง แล้วมันก็เจ็บมากถึงมากที่สุดด้วย…
“โอ๊ยยยยยยยย”
“เย้ย ไอ้เอกกกก กูขอโทษษษษษ” เบสละล่ำละลักพูดพร้อมกับดึงมือบวมแดงของเพื่อนมาดู เรื่องโป๊น่ะช่างมันเถอะ ยังไงร่างกายของเพื่อนเขาสำคัญกว่าอยู่แล้ว อีกอย่าง..เห็นหลายๆครั้งตาก็ไม่บอดหรอก! เบสพยายามคิดปลอบใจตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงแม้ว่ามันจะไม่ช่วยอะไรเลย
19.00 น. ที่โต๊ะอาหาร มีคู่รักหนึ่งคู่นั่งเคียงข้างกันจนได้กลิ่นโรแมนติกกลายๆ ถึงแม้ในแจกันบนโต๊ะจะไม่ใช่ดอกกุหลาบ แต่เป็นดอกหน้าวัว…ตรงข้ามกับพวกเขามีหนุ่มสองคนกำลังกุ๊กกิ๊กไม่แพ้กัน..ไม่ใช่
“มึงเจ็บไหมวะ กูขอโทษนะ..”
เสียงสำนึกผิดของเบสทำให้เอกคิ้วกระตุก มันเขาไม่ใช่หรอที่ทำเพื่อนเสียการควบคุมน่ะ ไอที่เจ็บตัวน่ะไม่เป็นไรหรอก ถ้าได้แลกกับความเป็นห่วงที่เบสแสดงออกมาขนาดนั้น
“โหย กูไม่เป็นไร” เอกบอกปัดๆ..แต่ความจริงเจ็บน้ำตาไหล
ออร่าสีชมพูที่ผสมผสานกับสีม่วงอย่างลงตัวทำให้คู่รักหญิงชายที่นั่งตรงข้ามถึงกับผงะ พลางคิดอย่างพร้อมเพรียงกันว่า ‘ต้องเปลี่ยนเรื่อง’ พี่ๆผู้หวังดีไม่อยากให้น้องหลงเข้าไปมีเลือดสีม่วงทั้งสองรีบลุกลี้ลุกล้นคิดหาเรื่องอื่นคุยอย่างด่วน..
“เอ้อ..พี่ไม่เห็นรู้เลยว่าพวกน้องสนิทกัน” ไอกระแอมเบาๆ เป็นการเริ่มบทสนทนาปกติ
ทว่าคำพูดจากแฟนหนุ่มสุดที่รักของตัวเองทำให้ต้องหันไปมอง..”เอก ยังไงแกก็นอนค้างที่นี่กับเบสเสียเลยสิ เพราะพี่ก็กะจะค้างที่นี่เหมือนกัน”
ผู้ถูกกล่าวพาดพิงทั้งสองสะดุ้ง เบสเกือบจะคิดอยู่แล้วว่าตัวเองคงได้ยินผิดไป แต่หากลองซูมมาดูสีหน้าอันสุดแสนจริงจังของพี่บาส พี่ชายของตัวเองแล้ว ท่าทางจะพูดจริง..
นอนค้างคืนกับไอ้เอก..ไม่ดีแล้ววว เบสชักหลอนขึ้นมากทุกที..ภาพปีศาจผีทะเลที่ไม่ใส่อะไรกำลังยืนอยู่หน้าห้องน้ำ..
“ไม่ดีมั้งครับ” ในที่สุดเอกก็พูดออกมา.. “ผมกลับเองดีกว่า”
เสียงมารเพื่อนชายได้กลับมาขัดใจอีกครั้ง "ดึกจะตายชัก มึงค้างที่นี่แหละ"
“ไม่เอาเว้ย กูขับมอ'ไซค์กลับเองได้” น้ำเสียง ท่าที ใบหน้าเรียบเฉยจนผู้ใหญ่ทั้งสองไม่ทันคิดอะไร และคงจะยอมให้กลับแต่โดยดี..ถ้าเอกรับปากว่าจะกลับคงไม่มีอะไร..ทว่า..
“คุณเอกครับ..คุณเจ็บมือไม่ใช่หรอครับ..”
เอกก้มลงมองมือของตัวเองพลางคิด..เออว่ะ เจ็บมือแล้วจะขับรถยังไง คิดแล้วก็กุมขมับเครียด ไม่ใช่ว่าไม่อยากค้างหรอกนะ..แต่กลัวจะห้ามใจไม่อยู่เท่านั้นเอง รู้ทั้งรู้ว่าถ้าเสียการควบคุมแค่ครั้งเดียวเรื่องมันจะบานปลายขนาดไหน
รักแค่ไหนก็ไม่อาจครอบครองได้..
“มึงค้างห้องกูก็ได้” เบสฉีกยิ้มพลางเหงื่อหยดติ๋ง คำพูดนั้นดูเหมือนกับกลัวอะไรอยู่..เอกไม่ได้ดักทางเขา ไม่ได้คิดจะฉวยโอกาสกับเขา แค่นี้ก็น่าจะมากพอให้เชื่อใจกันแล้วไม่ใช่หรอ..
“ไม่ดีกว่าว่ะ ผมเกรงใจ” ว่าแล้วร่างสูงบนเก้าอี้ก็ลุกขึ้นจากโต๊ะ เสียงช้อนส้อมกระทบกับจานดังเคร้งยิ่งทำให้เบสคิดหนักเข้าไปใหญ่..ฮืออ ไอ้เชี่ยเบสสสส...เขาด่าตัวเอง จะให้ไอ้เอกกลับบ้านคนเดียวเนี่ยนะ ทั้งๆ ที่มือเจ็บแขนเนี่ยนะ ดึกขนาดนี้แล้วเนี่ยนะ แถวนี้มันอันตรายออก!
“พอแล้ว!” พอรู้ตัวว่าออกอาการก็รีบหยุดตัวเอง ทว่าช้าไป..เอกที่สังเกตท่าทีมาตั้งแต่แรกเริ่มหลุดขำออกมา
ไม่รอให้ร่างสูงเดินไปไหน เจ้าของผมสีชมพูประกายกระโดดเข้าตะครุบร่างอีกฝ่ายเหมือนหมาโดดงับกระดูก แต่ท่านี้แถวบ้านคงเรียก ‘การกอดจากข้างหลัง’ เสียมากกว่า
เอกเริ่มจะไม่ขำ แต่กลับมามองคนกอดอย่างเก้ๆกังๆแทน สัมผัสนี้..ความอบอุ่นแบบนี้มันไม่ธรรมดา มันทำให้รู้สึกพิเศษ ย้ำเตือนทุกลมหายใจว่ามีคนๆนี้อยู่ใกล้ตัวเสมอ ถึงเจ้าตัวจะไม่แสดงออก แต่สายตาฟ้องหมดว่าเห็นเขาสำคัญแค่ไหน.. “..อะไรของมึงว้า” สำเร็จ..พูดให้ปกติจนได้
“ไอ้เอก มันดึกแล้ววว มึงนอนกับกูเหอะนะ กูขอร้อง นอนกับกูนะ นะ นะ” คนพูดคำหนึ่งก็มุดหน้าเข้าไปลึกขึ้นเรื่อย ความอายตามสัญชาตญานพุ่งเต็มแม็กซ์ชนิดเน็ต 100 MB ก็เอาไม่อยู่ ความรู้สึกมันช่างร้อนแรงยิ่งกว่าอากาศประเทศไทย ไวยิ่งกว่า 4G ประเทศเกาหลี..
คำว่า ‘นอนกับกูนะ’ ยังคงดังก้องอยู่ในสมองของเอก HRK. ที่สติเตลิดไปดาวอังคาร ถ้าเพื่อนไม่คลายอ้อมกอดในเร็วไวนี้เขาต้องเลือดกำเดาไหลแน่ๆ..หมอเอกฟันธง!
คำพูดแบบนี้ ลักษณะคล้ายๆแบบนี้ ไม่ทราบว่าใครที่ไหนจะตีความว่ายังไง แต่เอกคิดว่ามันเป็นคำพูดที่ค่อนข้างยั่วอารมณ์และเชื้อเชิญให้เข้าหา เหมือนกับกำลังดึงดูดดวงตาและหัวใจด้วยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานนั้น และใช้ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตนั้นถล่มสติสตังค์เขาจนพินาศ..!
การต่อสู้ในระยะประชิดอันตราย คุณครูพลศึกษาท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ โดยเฉพาะการต่อสู้กับผู้ชายที่คบกันมา 1 เดือนในระยะ..ไม่มีระยะห่างแน่ชัด มันไม่ง่ายเลยจริงๆ.. “ตกลง เบส ผมจะนอนกับคุณ ปล่อยผมเถ้อะ” ใช่แล้ว..มารมันกำจัดไม่ได้
ไอรู้สึกตัวก่อนพร้อมกับพูดด้วยเสียงสั่นเครือ…เข้าใจแจ่มแจ้งแดงแจ๋ทำไมเพื่อนร่วมงานของเธอถึงได้มีรูปการ์ตูนสองคนนี้กอดกันนัวเนีย..แต่ไม่เหมือนกัน! การมาเห็นด้วยตาตัวเองมันรู้สึกดีกว่าเยอะ.. “เดี๋ยวพี่ล้างจานเอง สองคนขึ้นไปนอนเถอะ”
“ครับ…” กว่าจะรู้สึกตัว เจ้าคนซื่อที่รุกผู้ชายครั้งแรกก็หายตัวไปแล้ว..
21.45 น. เอกคิดว่าตัวเองเห็นก้อนกลมๆ คล้ายกับพลังงานบางอย่างอยู่ในซอกหลืบมืดของห้อง มีเสียงดัง 'ฉ่าๆ' เหมือนอะไรที่ร้อนจนสุก ก้อนนั้นขดเข้าเป็นกลมจนตัวสั่น..คงจะอายมาก ร่างสูงคิดพลางเดินเข้าไปสะกิด “เบส..ไอ้เบสครับ”
ก้อนกลมน้อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองตาละห้อย อึกอักเหมือนต้องการจะขอโทษ “กูขอ…ขอ..ขอ..ขอผ้าขนหนูหน่อย จะอาบน้ำ” จะขอโทษทำไมเล่า เขาเสียหายแท้ๆ เชี่ยเอ๊ย..
สักพักก็เพื่อนก็ส่งผ้าขนหนูให้ “หาของมึงไม่เจอ..เอาของกูไปละกัน ที่เพิ่งเอาขึ้นมาให้เมื่อกี้อ่ะ”
ก้อนนั้นแผ่รังสีมาคุทันที “สกปรก ใครจะไปใช้ลงวะ!” มิวายคว้าผ้าที่อีกฝ่ายส่งให้โยนลงไปในตะกร้า
“งั้นกูจะลงไปเอาใหม่ให้” เอกมองตามผ้าขนหนูของตัวเองไปก่อนจะหรี่ตาลง “ขอโทษที่ทำให้มึงรังเกียจนะคร้าบ”
ไม่ได้รังเกียจ..เบสชักจะรู้สึกผิดมหันต์แต่พูดไม่ออก ไม่ทันได้อธิบายอะไร อีกฝ่ายก็ออกจากห้องไปแล้วโดยที่ประตูเปิดอ้าอยู่ ท่าทางจะรีบมาก..
อาภรณ์แต่ละชิ้นค่อยๆถูกปลดออกและไปกองรวมอยู่ในตะกร้าสีชมพูใบจิ๋ว เผยให้เห็นร่างที่มีกล้ามเนื้อแสดงออกถึงบุรุษเพศถึงแม้จะไม่มาก ผิวสีขาวเนียนสะอาดสมกับเป็นผู้ชายที่รู้จักดูแลตัวเอง เขาขยับคอไปมาเพื่อมองรอยแดงที่ซอกคอซึ่งได้มาเพราะการพยายามจะตัดป้ายเสื้อคันๆของตัวเอง แต่ดันไปปาดโดนคอเข้า..งี่เง่าจริงๆ
“ไอ้เบส กูจะเข้าไปแล้วนะคร้าบ” คนที่พาดผ้าเช็ดตัวไว้บนแขนเปรยถามลอยๆ เนื่องจากเฉลียวใจว่าถ้าเปิดทันทีจะไปเห็นภาพไม่ดีไม่งามเข้า..
แว่วเสียงตะโกนตอบกลับมาจากข้างในห้อง “ไอ้..เชี่ย..เอก อะ..โอ๊ยยยย”
เอกผลักประตูเข้าไปทันที แต่พอไม่เห็นร่างของเพื่อนที่ตัวเองตามหาก็ได้แต่ยิ้มเฝื่อนๆ..กลบเกลื่อน “ไอ้เบส มึงอำกูหรอ ไม่
ขำนะเว้ยยย” พูดจบก็พยายามมองหาร่างเล็กต่อไป ไม่รู้ว่าคราวนี้จะมามุกไหน..?
..ไม่มีเสียงตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก..เอาแล้วไง “เบส มึงอยู่ไหน” จากคิดว่าเป็นเรื่องตลกก็เปลี่ยนมาซีเรียสสุดๆได้ในหยิบมือ เอกพุ่งไปเกาะขอบหน้าต่าง..หรือว่าหงายหลังตกลงไป?
“ไอ้..เอก ช่วยกูที กูลื่น..อยู่ในห้องน้ำ”
“..!”
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มันเป็นฟีลลิ่งอย่างหนึ่ง..สองคนนี้ เราเป็นสาววาย ไม่ใช่ติ่งวาย เราไม่แอนตี้อะไรทั้งนั้น แต่มีขอบเขตของเราก็พอ..รักพี่เอกกับพี่เบสมากนะคะ ฟิคสนองนี้ดมันเหมือนกับได้ปลดปล่อยอย่างแท้จริง..
ความคิดเห็น