ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic เอกเบส] Try my 'Best' ผู้ครอบครองสีชมพู

    ลำดับตอนที่ #1 : จะรักกันทั้งทีมันต้องมีรุ่นพี่เป็นฐาน

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 56


    เวลา 18.06 ได้เกิดเรื่องกลมๆบางอย่างขึ้น ชนิดวงเวียนคุณภาพดีก็เอาไม่อยู่ มีคนเคยบอกว่าเราสามารถเปลี่ยนสิ่งของที่มีลักษณะเหลี่ยมให้กลมได้หลายวิธี และคนเราก็ยังทำสิ่งที่กลมให้เหลี่ยมได้ง่ายๆด้วย ทว่าการที่โลกจะเกิดกลมดิ๊กขึ้นมานั้นเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้จริงๆ


    “เบส..นี่ไอ แฟนพี่ ส่วนนี้น้องไอเขา..ชื่อเอก น้องเอก นี่น้องชายพี่ชื่อเบสนะ”


    เพล้ง!...มือเรียวของเด็กหนุ่มผมสีชมพูอำพันเกิดชักกระตุกขึ้นมากระทันหันจนแก้วในมือตกมาแตก


    ดวงตาคู่คมสีน้ำตาลเฮเซลนัทเลื่อนประสานกับเนตรสีทับทิมที่มองตรงมาอย่างอึ้งๆ เหมือนกับโลกนี้มันแตกดับ อุกกาบาตนับร้อยยังพิลึกไม่เท่าความบังเอิญแสนบ้าแสนบอครั้งนี้เลย..


    ไม่ใช่แล้ว..นี่มันไม่ใช่แล้ว พุทโธ..ธัมโม..สังโฆ ได้โปรด! บอกทีสิว่ามันล้อเล่น! นายเบส XXX ดีดดิ้นกรีดร้องในใจ ไม่ลืมที่จะจ้องไปที่ชายผมสีน้ำตาลเข้มที่สูงกว่าเล็กน้อยอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ


    “โอว้ ชิททท” เอก XXX หนึ่งในนักแคสเกมที่โด่งดังในประเทศไทยถึงกับหลุดคำพูดติดปากออกมา


    หลังจากนั้นเบสก็ตะโกนออกมาแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “ไอ้เชี่ยเอกกกกกกก” มึงอยู่ได้ทุกที่เลยหรือไง..


    พี่สาวผมสีชมพูอ่อนแซมขาวที่ดูเหมือนกับถอดแบบจากเบสมามองทั้งคู่สลับกัน จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างงงๆ “อ้าว? รู้จักกันหรอกหรอ”


    ไม่ใช่แค่รู้จักกันเบสคิดพร้อมเกาหัวแบบลูกแมว แต่สนิทกันต่างหาก! โลกนี้มันกลมแบบใช้วงเวียนวาดได้ยังไงกันนะ! “ครับ..รู้จักกัน” สุดท้ายก็ต้องยอมรับ


    ทว่ายังไม่ทันหันไปคาดคั้นต่อก็รู้สึกได้ถึงแรงกระชากเบาๆ เหมือนโดนขืนแขนให้ออกห่าง เอกฉุดมือคู่หูเอาไว้..รั้งตัวมาใกล้ๆ พร้อมกับกระซิบเสียงแหบพร่า “ไปคุยกับกูห้องมึง..เดี๋ยวนี้”


    ไม่ไปก็ต้องไปแล้วล่ะ..เบสผู้มีรูปร่างบางเฉียบสู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหวก็ต้องยอมทำใจ ให้อีกฝ่ายลากขึ้นห้องไปโดยดี โดยมีสายตาของผู้เป็นพี่จับจ้องอยู่ตลอด..


    ปัง!.. ปิดประตูเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว


    “คุณอธิบายผมมาเดี๋ยวเลยครับ..” ว่าแล้วเอกก็โยนตัวประหลาดที่กำลังดิ้นดุ๊กดิ๊กๆลงกับเตียงนอน จากนั้นก็นั่งรอคำตอบอยู่ข้างๆ


    เบสมุดลงไปในผ้าห่ม ตอบเสียงดังจนได้ยินไปถึงหน้าปากซอย “อะไร อะไร อะไรรร กูไม่รู้เรื่องนะ”


    เสียงที่ดูเหมือนกับใส่อีโม ‘T^T’ ลงไปย่อมทำให้อีกฝ่ายใจอ่อนอยู่แล้ว แปลว่าไม่รู้เรื่องจริงๆ..เอกพยักหน้ากับตัวเอง แต่มันก็อดคาดคั้นต่อไม่ได้ “กูไม่ยักรู้ว่าพี่มึงกับพี่กูเป็นแฟนกัน”


    ร่างบางที่นอนหน้าบูดบึ้งอยู่บนเตียงปาหมอนข้างใส่เพื่อน ก่อนจะโวยวายบ้าง “แล้วกูจะไปรู้ไหมวะครับ ตอนนี้ก็รู้พร้อมกันแล้วไง เราต่างออกเดินตามทางของเราเห้อะ” พูดง่ายๆ คืออย่าโกรธเลยนะ..


    จบไหม..เบสลอบชายตามองเพื่อนรักพร้อมกับถามในใจ


    เฉกเช่นรู้ว่าอีกคนกำลังคิดอะไร เอกขมวดคิ้วชนกันพร้อมกันเอนตัวนอนลงข้างๆ ร่างโปร่งของเพื่อน “กูไม่จบ”


    “อะไรอีกล่ะ” เบสหันตัวตะแคงไปตามค้อน “ลุกออกไปเลยนะ นี่เตียงกู ละ..แล้วมึงจะกลับบ้านหรือยัง..?


    เอกวางมือบนหัวเจ้าเพื่อนจอมโวยวายคนนี้แล้วขยี้เบาๆ ถึงใบหน้าของเบสจะโดนผ้าห่มผืนหนาปิดจนมิดก็ยังเดาได้ไม่ยากว่าตอนนี้สีหน้าเป็นยังไง “ยังครับ ณ จุดนี้..กูว่าจะอาบน้ำสักหน่อย ขอใช้ห้องน้ำมึงได้ไหม..?


    “อือ”


    อือ? เอกเลิกคิ้วขึ้นสูง ยอมง่ายๆ เลยงั้นเรอะ..


    ..รู้ทั้งรู้ว่ากำลังเสียเปรียบ แต่ก็ยอมให้ทุกทีไป..


    “เฮ้ย ไอเบส ไม่มีผ้าเช็ดตัวว่ะ”


    นิ้วเรียวชี้ที่ประตู พร้อมกับพูดด้วยเสียงคนใกล้จะหลับ “..ข้างล่างมี ลงไปเอาเองไป”


    นายเบส นักแคสเกมเสียงหวาน(?) เป็นคนที่ทะลึ่งปานกลาง ถือว่าเหมาะสมกับอายุและวัย แต่จะหื่นได้ก็เฉพาะกับผู้หญิง ส่วนผู้ชาย..เกลียดมาก และเอกก็รู้เรื่องนี้ยิ่งกว่าใคร


    “แต่กูแก้ผ้าแล้วนะครับ” ร่างสูงทรุดนั่งลงข้างๆ เตียง ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อก็มีเสียงอุดอู้ออกมาจากผ้าห่ม “กูจะลงไปเอาให้เอง มะ..มึงกลับเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ ไม่ต้องเปิดประตูออกมานะเว้ย ไอ้..


    เมื่อเห็นว่าไอ้เอกยอมกลับเข้าไปในห้องน้ำแล้วล็อคประตูเสร็จสรรพดีแล้ว สองขายาวก็ก้าวลงไปที่ชั้นล่างเพื่อขอผ้าเช็ดตัวผืนใหม่จากพี่มาให้ตัวก่อปัญหาจอมลามกที่สิงอยู่ในห้องน้ำส่วนตัวของเขา

     




    18.40 นาที มีคนสองคนอยู่ในห้อง คนหนึ่งกำลังแก้ผ้ารออาบน้ำ อีกคนถือผ้าเช็ดตัวอยู่ในมือ..


    ก๊อกๆ


    “ไอ้เอก ผมเอาผ้าเช็ดตัวมาแล้วครัเฮ้ย!


    ประตูห้องน้ำถูกเปิดกว้างออกมาโดยไม่ได้นัดหมาย พร้อมกับร่างสูงเปลือยเปล่าที่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าห้องน้ำ..ช่างกล้าจริงๆ ภาพนั้นเรียกให้ผ้าเช็ดตัวมันหลุดมือไปเอง


    “มึงตกใจก็ปิดประตูสิวะ” เอกพูดเชิงล้อเลียน “แต่นี่อะไร ยืนมองค้างอยู่นั่นแหละ กูก็อายเป็นนะเนี่ยย”


    เบสคิดว่าตัวเองบ้าและกำลังรู้สึกอายมาก ใบหน้าสีขาวนวลขึ้นสีชมพูระเรื่อคล้ายกับสีผมของเจ้าตัว แต่ถึงจะอาการหนักขนาดนั้นก็ยังมีแรงพูดด่าปาวๆได้ แม้จะตะกุกตะกักไปหน่อยก็ตาม “อ..เอาผ้าเช็ดตัวไป..แล้ว..ปิดประตู ใส่กลอน โชคดี!


    ว่าแล้วเบสก็เดินเอามือปิดหน้าไปที่ที่นอน ก่อนจะได้ยินเสียงคนดื้อที่ไม่ยอมปิดประตูดังขึ้นมาจากข้างหลัง “มึงมาอาบกับ
    กูดีกว่านะเอก น้ำกำลังอุ่นๆเล
    ปัง!


    เบสใช้มือข้างขวาดันประตูห้องน้ำให้ปิดสนิทเสียที แต่หารู้ไม่ว่าเมื่อกี้มันไปโดนมือของอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง แล้วมันก็เจ็บมากถึงมากที่สุดด้วย


    “โอ๊ยยยยยยยย”


    “เย้ย ไอ้เอกกกก กูขอโทษษษษษ” เบสละล่ำละลักพูดพร้อมกับดึงมือบวมแดงของเพื่อนมาดู เรื่องโป๊น่ะช่างมันเถอะ ยังไงร่างกายของเพื่อนเขาสำคัญกว่าอยู่แล้ว อีกอย่าง..เห็นหลายๆครั้งตาก็ไม่บอดหรอก! เบสพยายามคิดปลอบใจตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงแม้ว่ามันจะไม่ช่วยอะไรเลย

     





    19.00 น. ที่โต๊ะอาหาร มีคู่รักหนึ่งคู่นั่งเคียงข้างกันจนได้กลิ่นโรแมนติกกลายๆ ถึงแม้ในแจกันบนโต๊ะจะไม่ใช่ดอกกุหลาบ แต่เป็นดอกหน้าวัวตรงข้ามกับพวกเขามีหนุ่มสองคนกำลังกุ๊กกิ๊กไม่แพ้กัน..ไม่ใช่


    “มึงเจ็บไหมวะ กูขอโทษนะ..


    เสียงสำนึกผิดของเบสทำให้เอกคิ้วกระตุก มันเขาไม่ใช่หรอที่ทำเพื่อนเสียการควบคุมน่ะ ไอที่เจ็บตัวน่ะไม่เป็นไรหรอก ถ้าได้แลกกับความเป็นห่วงที่เบสแสดงออกมาขนาดนั้น


    “โหย กูไม่เป็นไร” เอกบอกปัดๆ..แต่ความจริงเจ็บน้ำตาไหล


    ออร่าสีชมพูที่ผสมผสานกับสีม่วงอย่างลงตัวทำให้คู่รักหญิงชายที่นั่งตรงข้ามถึงกับผงะ พลางคิดอย่างพร้อมเพรียงกันว่า ต้องเปลี่ยนเรื่องพี่ๆผู้หวังดีไม่อยากให้น้องหลงเข้าไปมีเลือดสีม่วงทั้งสองรีบลุกลี้ลุกล้นคิดหาเรื่องอื่นคุยอย่างด่วน..


    “เอ้อ..พี่ไม่เห็นรู้เลยว่าพวกน้องสนิทกัน” ไอกระแอมเบาๆ เป็นการเริ่มบทสนทนาปกติ


    ทว่าคำพูดจากแฟนหนุ่มสุดที่รักของตัวเองทำให้ต้องหันไปมอง..”เอก ยังไงแกก็นอนค้างที่นี่กับเบสเสียเลยสิ เพราะพี่ก็กะจะค้างที่นี่เหมือนกัน”


    ผู้ถูกกล่าวพาดพิงทั้งสองสะดุ้ง เบสเกือบจะคิดอยู่แล้วว่าตัวเองคงได้ยินผิดไป แต่หากลองซูมมาดูสีหน้าอันสุดแสนจริงจังของพี่บาส พี่ชายของตัวเองแล้ว ท่าทางจะพูดจริง..


    นอนค้างคืนกับไอ้เอก..ไม่ดีแล้ววว เบสชักหลอนขึ้นมากทุกที..ภาพปีศาจผีทะเลที่ไม่ใส่อะไรกำลังยืนอยู่หน้าห้องน้ำ..


    “ไม่ดีมั้งครับ” ในที่สุดเอกก็พูดออกมา.. “ผมกลับเองดีกว่า”


    เสียงมารเพื่อนชายได้กลับมาขัดใจอีกครั้ง "ดึกจะตายชัก มึงค้างที่นี่แหละ"

    “ไม่เอาเว้ย กูขับมอ'ไซค์กลับเองได้
    ” น้ำเสียง ท่าที ใบหน้าเรียบเฉยจนผู้ใหญ่ทั้งสองไม่ทันคิดอะไร และคงจะยอมให้กลับแต่โดยดี..ถ้าเอกรับปากว่าจะกลับคงไม่มีอะไร..ทว่า..


    “คุณเอกครับ..คุณเจ็บมือไม่ใช่หรอครับ..


    เอกก้มลงมองมือของตัวเองพลางคิด..เออว่ะ เจ็บมือแล้วจะขับรถยังไง คิดแล้วก็กุมขมับเครียด ไม่ใช่ว่าไม่อยากค้างหรอกนะ..แต่กลัวจะห้ามใจไม่อยู่เท่านั้นเอง รู้ทั้งรู้ว่าถ้าเสียการควบคุมแค่ครั้งเดียวเรื่องมันจะบานปลายขนาดไหน

    รักแค่ไหนก็ไม่อาจครอบครองได้..


    “มึงค้างห้องกูก็ได้” เบสฉีกยิ้มพลางเหงื่อหยดติ๋ง คำพูดนั้นดูเหมือนกับกลัวอะไรอยู่..เอกไม่ได้ดักทางเขา ไม่ได้คิดจะฉวยโอกาสกับเขา แค่นี้ก็น่าจะมากพอให้เชื่อใจกันแล้วไม่ใช่หรอ..


    “ไม่ดีกว่าว่ะ ผมเกรงใจ” ว่าแล้วร่างสูงบนเก้าอี้ก็ลุกขึ้นจากโต๊ะ เสียงช้อนส้อมกระทบกับจานดังเคร้งยิ่งทำให้เบสคิดหนักเข้าไปใหญ่..ฮืออ ไอ้เชี่ยเบสสสส...เขาด่าตัวเอง จะให้ไอ้เอกกลับบ้านคนเดียวเนี่ยนะ ทั้งๆ ที่มือเจ็บแขนเนี่ยนะ ดึกขนาดนี้แล้วเนี่ยนะ แถวนี้มันอันตรายออก!


    “พอแล้ว!” พอรู้ตัวว่าออกอาการก็รีบหยุดตัวเอง ทว่าช้าไป..เอกที่สังเกตท่าทีมาตั้งแต่แรกเริ่มหลุดขำออกมา


    ไม่รอให้ร่างสูงเดินไปไหน เจ้าของผมสีชมพูประกายกระโดดเข้าตะครุบร่างอีกฝ่ายเหมือนหมาโดดงับกระดูก แต่ท่านี้แถวบ้านคงเรียก การกอดจากข้างหลังเสียมากกว่า


    เอกเริ่มจะไม่ขำ แต่กลับมามองคนกอดอย่างเก้ๆกังๆแทน สัมผัสนี้..ความอบอุ่นแบบนี้มันไม่ธรรมดา มันทำให้รู้สึกพิเศษ ย้ำเตือนทุกลมหายใจว่ามีคนๆนี้อยู่ใกล้ตัวเสมอ ถึงเจ้าตัวจะไม่แสดงออก แต่สายตาฟ้องหมดว่าเห็นเขาสำคัญแค่ไหน....อะไรของมึงว้า” สำเร็จ..พูดให้ปกติจนได้


    “ไอ้เอก มันดึกแล้ววว มึงนอนกับกูเหอะนะ กูขอร้อง นอนกับกูนะ นะ นะ” คนพูดคำหนึ่งก็มุดหน้าเข้าไปลึกขึ้นเรื่อย ความอายตามสัญชาตญานพุ่งเต็มแม็กซ์ชนิดเน็ต 100 MB ก็เอาไม่อยู่ ความรู้สึกมันช่างร้อนแรงยิ่งกว่าอากาศประเทศไทย ไวยิ่งกว่า 4G ประเทศเกาหลี..


    คำว่า นอนกับกูนะยังคงดังก้องอยู่ในสมองของเอก HRK. ที่สติเตลิดไปดาวอังคาร ถ้าเพื่อนไม่คลายอ้อมกอดในเร็วไวนี้เขาต้องเลือดกำเดาไหลแน่ๆ..หมอเอกฟันธง!


    คำพูดแบบนี้ ลักษณะคล้ายๆแบบนี้ ไม่ทราบว่าใครที่ไหนจะตีความว่ายังไง แต่เอกคิดว่ามันเป็นคำพูดที่ค่อนข้างยั่วอารมณ์และเชื้อเชิญให้เข้าหา เหมือนกับกำลังดึงดูดดวงตาและหัวใจด้วยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานนั้น และใช้ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตนั้นถล่มสติสตังค์เขาจนพินาศ..!


    การต่อสู้ในระยะประชิดอันตราย คุณครูพลศึกษาท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ โดยเฉพาะการต่อสู้กับผู้ชายที่คบกันมา 1 เดือนในระยะ..ไม่มีระยะห่างแน่ชัด มันไม่ง่ายเลยจริงๆ.. “ตกลง เบส ผมจะนอนกับคุณ ปล่อยผมเถ้อะ” ใช่แล้ว..มารมันกำจัดไม่ได้


    ไอรู้สึกตัวก่อนพร้อมกับพูดด้วยเสียงสั่นเครือเข้าใจแจ่มแจ้งแดงแจ๋ทำไมเพื่อนร่วมงานของเธอถึงได้มีรูปการ์ตูนสองคนนี้กอดกันนัวเนีย..แต่ไม่เหมือนกัน! การมาเห็นด้วยตาตัวเองมันรู้สึกดีกว่าเยอะ.. “เดี๋ยวพี่ล้างจานเอง สองคนขึ้นไปนอนเถอะ”


    “ครับ” กว่าจะรู้สึกตัว เจ้าคนซื่อที่รุกผู้ชายครั้งแรกก็หายตัวไปแล้ว..

     





    21.45 . เอกคิดว่าตัวเองเห็นก้อนกลมๆ คล้ายกับพลังงานบางอย่างอยู่ในซอกหลืบมืดของห้อง มีเสียงดัง 'ฉ่าๆ' เหมือนอะไรที่ร้อนจนสุก ก้อนนั้นขดเข้าเป็นกลมจนตัวสั่น..คงจะอายมาก ร่างสูงคิดพลางเดินเข้าไปสะกิด “เบส..ไอ้เบสครับ”


    ก้อนกลมน้อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองตาละห้อย อึกอักเหมือนต้องการจะขอโทษ “กูขอขอ..ขอ..ขอผ้าขนหนูหน่อย จะอาบน้ำ” จะขอโทษทำไมเล่า เขาเสียหายแท้ๆ เชี่ยเอ๊ย..


    สักพักก็เพื่อนก็ส่งผ้าขนหนูให้ “หาของมึงไม่เจอ..เอาของกูไปละกัน ที่เพิ่งเอาขึ้นมาให้เมื่อกี้อ่ะ”


    ก้อนนั้นแผ่รังสีมาคุทันที “สกปรก ใครจะไปใช้ลงวะ!” มิวายคว้าผ้าที่อีกฝ่ายส่งให้โยนลงไปในตะกร้า


    “งั้นกูจะลงไปเอาใหม่ให้” เอกมองตามผ้าขนหนูของตัวเองไปก่อนจะหรี่ตาลง “ขอโทษที่ทำให้มึงรังเกียจนะคร้าบ”


    ไม่ได้รังเกียจ..เบสชักจะรู้สึกผิดมหันต์แต่พูดไม่ออก ไม่ทันได้อธิบายอะไร อีกฝ่ายก็ออกจากห้องไปแล้วโดยที่ประตูเปิดอ้าอยู่ ท่าทางจะรีบมาก..


    อาภรณ์แต่ละชิ้นค่อยๆถูกปลดออกและไปกองรวมอยู่ในตะกร้าสีชมพูใบจิ๋ว เผยให้เห็นร่างที่มีกล้ามเนื้อแสดงออกถึงบุรุษเพศถึงแม้จะไม่มาก ผิวสีขาวเนียนสะอาดสมกับเป็นผู้ชายที่รู้จักดูแลตัวเอง เขาขยับคอไปมาเพื่อมองรอยแดงที่ซอกคอซึ่งได้มาเพราะการพยายามจะตัดป้ายเสื้อคันๆของตัวเอง แต่ดันไปปาดโดนคอเข้า..งี่เง่าจริงๆ


    “ไอ้เบส กูจะเข้าไปแล้วนะคร้าบ” คนที่พาดผ้าเช็ดตัวไว้บนแขนเปรยถามลอยๆ เนื่องจากเฉลียวใจว่าถ้าเปิดทันทีจะไปเห็นภาพไม่ดีไม่งามเข้า..


    แว่วเสียงตะโกนตอบกลับมาจากข้างในห้อง “ไอ้..เชี่ย..เอก อะ..โอ๊ยยยย”


    เอกผลักประตูเข้าไปทันที แต่พอไม่เห็นร่างของเพื่อนที่ตัวเองตามหาก็ได้แต่ยิ้มเฝื่อนๆ..กลบเกลื่อน “ไอ้เบส มึงอำกูหรอ ไม่
    ขำนะเว้ยยย” พูดจบก็พยายามมองหาร่างเล็กต่อไป ไม่รู้ว่าคราวนี้จะมามุกไหน
    ..?


    ..ไม่มีเสียงตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก..เอาแล้วไง “เบส มึงอยู่ไหน” จากคิดว่าเป็นเรื่องตลกก็เปลี่ยนมาซีเรียสสุดๆได้ในหยิบมือ เอกพุ่งไปเกาะขอบหน้าต่าง..หรือว่าหงายหลังตกลงไป?


    “ไอ้..เอก ช่วยกูที กูลื่น..อยู่ในห้องน้ำ”


    ..!








    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    มันเป็นฟีลลิ่งอย่างหนึ่ง..สองคนนี้ เราเป็นสาววาย ไม่ใช่ติ่งวาย เราไม่แอนตี้อะไรทั้งนั้น แต่มีขอบเขตของเราก็พอ..รักพี่เอกกับพี่เบสมากนะคะ ฟิคสนองนี้ดมันเหมือนกับได้ปลดปล่อยอย่างแท้จริง..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×