คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1
ณ..มหาลัย..
“นิยัยอุนจิเธอดูซิในซุ้มม้านั่งตรงโน้นมีผู้ชายนิสัยแย่มากเลยแหละ”
หึน่าหมันไส้ชะมัดเลยนิสัยก็เลว น่าตาก็ไม่ได้เรื่องแถมยังปากไม่ดีอีก(ที่พูดมาทั้งหมดตรงข้ามหมดเลย)
“ฉันนะอยากจะกระโดดสกายคลิกสัก 5 รอบจับหัวกระแทกพื้นสัก10 ทียังไม่พอเลยแหละ”
“แกหรือเขากันแน่ ตกลงเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่หะยัยมะเฟือง”
“นิฉานบ้อกแกแล้วว่าฉานชื่อแคนดี้ไม่ได้ชื่ออะไรนั่น”
2 ชั่วโมงก่อนหน้านี้
ฉันได้ขับรถอย่างสบายใจเฉิบพอถึงปากทางเข้ามหาลัย ..เอี้ยดดด..ด
“นินาย
“นิคุณนั่นแหละขับรถไม่รู้จักดูคนข้ามบ้างเลย”
พอนายนั่นพูดจบเขาก็ชี้ไปทางสัญญาณคนข้ามได้ ฉันถึงกับเอ๋อในทันใด
“0_๐ ก็..นายนั่นแหละที่ผิดฉันไม่ผิดซะหน่อย”
“อื้อหือ..นี่หรอปาก ผมถามจริงเถอะนี่ปากหรืออะไร ทำผิดแล้วโยนให้คนอื่นแถมด่าเขาอีกผู้หญิงอะไรใช้ไม่ได้เลย”
“ทำไมจะเรียกร้องค่าเสียหายหรอได้”
ฉันหยิบเงินขึ้นมา 5 พันแล้วยื่นให้นายนั่น นายนั่นรับมาแล้วฉีดซะละเอียดยิบเลย
“นินายบ้านรวยรึไงหะถึงไม่รับเงินของฉันนะหะ”
“ถึงบ้านผมจะจนผมก็ไม่ได้อยากได้เงินของคนอื่นหรอกนะจำไส่หัวอัน
ซื่อบื่อของคุณเอาไว้เลย”
นายนั่นพูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆแล้วหันหลังที่อื่นในทันที
“หะๆๆสมแล้วที่เขาว่าแกแค่นี้ เป็นฉันฉันด่ายิ่งกว่านี้ร้อยเท่า”
กรี๊ง..ง..ง
“สวัสดีค่ะนักศึกษาทุกๆคนอาจารย์ชื่อเพ็ญศรีนะคะนักศึกษาทุกๆคน”
ฉานเบื่อปากยัยนี่เต็มทนแล้วชอบจ้องหน้าฉานแปลกๆทุกทีฉันต้องคอยหลบหน้า..ของยัยปากมากเจ้าเดิมที่คอยจ้องจะกัดฉันตั้งแต่ปีก่อนแล้วว..ว
“นี่คุณแคนดี้ค่ะชอบนั่งเหมอใช่ใหมค่ะ”
“คะ คะ อะไรนะค่ะ”
“ดิฉันขอให้คุณย้ายไปนั่งกับคุณโยกิค่ะ เผื่ออะไรๆจะได้ดีขึ้น”
ยัยปากมากนั่นเน้นคำว่าดีขึ้นมาบ้างทำให้ฉันรู้สึกอายและขายหน้ามากๆในวินาทีนั้นเองมีเสียงตวาดขึ้น
“ทางโน้นค่ะคุณแคนดี้”
พอฉันเก็บสัมพาระเสร็จเรียบร้อยแล้วฉันก็หันไปดูหน้าไอ้หมอนั่นในทันใดนั้นเอง
“นินาย...”
นายนั้นยิ้มเยาะฉันและเอามือตีโต๊ะแล้วพยัคหน้า
“มีปัญหารึป่าวค่ะคุณแคนดี้”
“ปะปะป่าวค่ะอาจารย์”
“งั้นเชิญไปนั่งค่ะเพื่อนรอคุณอยู่”
ยายปากมากนั้นว่าฉันเห็นแกตัว..........ฉันไปนั่งที่โต๊ะข้างนาย
“สวัสดีครับคุณ 5 พัน”
“นินาย...!กล้าดียังไงถึงมาเรียกฉันว่าคุณ 5 พัน”
“คุณจำเมื่อเช้าได้หรือป่าวครับ”
ฉันหยุดไปซักประมาน 2 นาที
“เออ...แล้วแล้ว..วไงละ”
“ป่าวครับ นั่นและที่มาของคุณ 5 พัน”
ฉันทำเป็นไม่ได้ยินเพราะถ้าได้ยินจะอายไปมากกว่านี้
“นี่คุณ..นี่คุณ...ณ ไฟไหม้ ไฟไหม้”
“หะหะไฟไหม้ ไฟไหม้”
พอฉันตั้งสติได้ทุกคนในห้องก็ขำฉันแทบจะทุกคนแล้ว เจ๊ปากมากขาเดิมก็มองค้อนฉันด้วย หวืยสยิว
“ นิเธอ แอบหลับหรอ”
“ค่ะ”
“ฉันสอนนักศึกษามา30กว่าปีไม่เคยมีใครกล้าหลับเวลาที่ฉันสอน”
ท่าทางยัยนี่คงจะโกรธและเคืองฉันไม่น้อยที่ฉันแอบหลับในห้องเอามากมาก
“ก็แหงละค่ะก็คงไม่มีใครกล้าเพราะคงจะโดนธรรมนิเทศนานานแน่และน้ำเสียงอันไม่ได้เรื่องของอาจานหรอกค่ะ”
“หนอยนิฉันจะไปฟ้องอาจารย์ใหญ่”
“ค่ะ”
พอศึกของฉันจบลงทุกคนให้องก็ไม่มีใครกล้าที่จะมองหรือคุยกับฉันอีก
กรี๊งงงงงงงงงงงง
“นิจิไปหาไรกินกันฉันหิวจนกินแกได้ทั้งตัวแล้วไปเร็ว”
พอฉันพูดจบฉันก็ลากยัยจิไปหาไรหร่อยๆกินกัน
“เออนิฉันขอถามไรหน่อยิยัยแคนดี้”
“อือถามมาดิ”
“แกกล้าเถียงเจ๊เพ็ญศรีได้ไงวะ”
“ก็ปากมันไปเอง อะดิ”
“ฉันอึ้งเลยไม่มีใครกล้าเถียงเลยนะเว้ย”
“ก็ฉันนี่ไง”
“แล้วแกจะกลับยังไงวะยัยแคนดี้”
“เออไม่ได้เอารถมาด้วย ไม่เป็นไรไปขึ้นรถตู้เอาก็ได้”
“จะบ้ายบายพรุ้งนี้เจอกันนะเพื่อนLove”
“อย่าลืมโทรหานะจ๊ะ”
“จ้า...”
ตืดๆ “อะไรเนี่ยเบอร์ใครไม่คุ้นเลย”
ฉันเปิดดูข้อความที่ส่งเข้ามาหาฉัน
- สวัสดีครับจาก....งงอะดิอย่าเพิ่งโกรธ ยุบหนอพองหนอ ท่องนะโมตะส ะนะโมตะสะ ไปซะจะได้ไม่เป็นคุณ...มีปัญหา! บายนอนหลับฝันดีนะครับคนLovely-
“อะไรเนี่ยรู้จักกันก็ไม่รู้จักยังส่งข้อความมากวนอีก”
-ไอ้โรคจิต เป็นใครเนี่ย ไอ้บ้า-
ตื้ดๆๆ
-เปรียบเสมือนผมเป็นกระจกเงานะครับ-
แล้วฉันก็ตัดสินใจโทรไปเบอร์ปริศาเบอร์นี้
ตู้ด ๆ ๆ ๆ
“เอ๊ะทำไมไม่รับ ไอ้บ้าโรคจิต วิปริต วิตรถาน ผิดเพศ และๆๆๆๆๆและอะไรอีกฟะ”
ตื้ดๆๆ
-ไม่รับหรอกครับ อย่าโทรให้เสียเวลาเลย -
“อย่าให้รู้นะว่าแกเป็นใคร ไอ้บ้าเอ้ยยยยยยยย...”
คืนนี้ฉันนอนไม่หลับ เพราะ ไอ้ข้อความบ้าๆนี่
“โอ้ย เช้าแล้วหรอ กรี้ดดดด ตาฉันๆ ทำไมตาฉันมันดำอย่างงี้เนี่ย ฮือๆๆ”
ตื้ดๆๆ
-อรุณสวัสดิ์ครับ คุณคงนอนหลับฝันดีใช่มั้ยล่ะ คงจะฝันถึงผมล่ะซิ stop stop หยุดความคิดถึงผมไว้แค่นั้นก่อน เดี๋ยวผมจะไปมหาลัยไม่ทัน บ๊ายบายสุดที่รัก-
“อ๊ายยยยยยยย...................”(วัดความสั่นสะเทือนได้ 8.55 ริกเตอร์ : ผู้แต่ง)
- นี่ถ้าแกส่งมาอีกนะ ฉันจะปาโทรศัพท์ทิ้งซะ-
ตื้ดๆๆ
- เรื่องของคุณซิ โทรศัพท์คุณไม่ใช่โทรศัพท์ผม แบร่ๆๆ-
“ใครวะมันกล้าลองดีส่งข้อความ บัดสีบัดซบ มาให้ฉันมันต้องตายยยยยยยย!”
ฉันพูดพร้อมกับ เขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง ( บนที่นอนนะ) อย่าคิดว่าบนพื้นเด็ดขาด เพราะว่า ฉานทำไม่ลง มันราคาตั้ง 55,000 ดอนล่าเชียวนะถึงฉันจะรวยล้นฟ้าฉันก็ทำไม่ลงเพราะมันมีรูปพี่ เป๋อ ณัฐวัติ สกิตดาว สุดที่ร๊ากกกกกกกกกกของฉันอยู่นี่นา 0_o! อุตส่าห์ขอถ่ายคู่กับพี่เป๋อตัวต่อตัวเลยนะเกือบโดนเหยียบตายคา teen พวกชะนี and 11ร ดพวกนั้นมาได้แทบตายแหนะ
ณ..ห้องเรียนของอาจารย์เพ็ญศรรรรรรรรรี
“หวัดดีครับคุณ 5 พัน สบายดีไหมครับ”
“ฉันจะสบายกว่านี้ ถ้าฉันไม่เห็นหน้านาย ไอ้จิตตก”
“ทีผมเข้าวัดไม่เห็นมีใครเหมือนคุณเลย อยู่วัดสบายหูกว่าอยู่กับคุณเยอะ”
“งั้นนายก็ไปอยู่วัดซะสิ ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอๆๆๆๆๆ”
ป้าบๆๆ
ฉันยังพูดไม่ทันจบ ยัยเพ็ญศรรรรรรี ก็เอาไม้ขึ้นมาตีโต๊ะ ฉันกับนายนั่นถึงกับอึ้ง
ไปประมาณ 3 วินาที
“คุณ แคนดี้รู้สึกว่าคุณจะปัญหาเยอะจริงๆเลยนะ”
“เรื่องของหนูเจ๊ เอ้ย ครู เอ้ย อาจารย์ ไม่เกี่ยวค่ะ”
“นิ่ เธออย่ามาเหิมเกริมกับฉันนะ”
พอเจ๊ปากมากนั่นแพ่มจบฉันก็วางของแล้วรีบสะบัดก้นออกไปนั่งม้าหินอ่อนหน้าห้อง โดยมีเลย์ 2 ห่อ เป็นเสบียง อร้อย อร่อย
กรี๊งงงงง เสียงสวรรค์มาถึงแล้ว
“นิยัยแคนดี้แกทำอะไรลงไปหะหะยัยยย ฉันไม่รู้จะสันหาอะไรมาด่าแกเลยวะ โอ้ยยย ฉันละปวดหัวกับแกวะ”
“ก็ฉานลืมตัว อะดิ”
“ไม่ต้องมาทำหน้าขอความช่วยยเหลือเลย แกจะลืมตัวแบบนี้บ่อยๆไม่ได้นะเดี๋ยวแกก็ถูกส่งกลับ อเมกาหรอก ไม่รู้จักคิด”
“ฉันขอโทษ ต่อไปฉันจะไม่ทำอีกแล้ว”ฉันพูดพร้อมกับทำหน้าให้น่าสงสารเผื่อยัยจิจะได้เลิก เทศฉันซักกะที
“ปะไปเที่ยวสยามพลาเกิ้ลกันยัยแคนดี้ ฉันกะว่าจะไปช๊อปซักกะหน่อย”
“เออดี งั้นไปเลยแล้วกันนะ”พอพูดจบฉันก็เดินนำหน้าไปด้วยความอยากได้เสื้อผ้าใหม่
“เดี๋ยวก่อนนนนน”
“อะอะอะไรรร”
“กระเป๋าแกอยู่ในห้อง”
“เออจริงด้วย งั้นแกไปรอฉันที่รถเลย เดี๋ยวฉันไปเอากระเป๋าก่อนนะ”
“จ๊ะเร็วๆนะ”
หลังจากฉันเอากระเป๋าคู่ใจของฉันออกมาได้แล้วฉันก็รีบไปที่รถของยัยจิ
พอถึงที่สยามฉันก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำและในขณะที่ฉันเดินไปเข้าห้องน้ำก็มีเสียงข้อความใหม่เข้ามา
-กลับถึงบ้านหรือยังครับ ถ้ายังกลับเร็วๆนะ ผมเป็นห่วง แต่ถ้าถึงแล้วอย่าลืมทาน ข้าวนะครับคนดีของผม- ฉันอ่านพร้อมกับบิดตัวไปมาแล้วตอบกลับ
-ยังค่ะกำลัง shopping อยู่คะ แล้วทำอะไรอยู่ค่ะ-
ตืดๆๆ
-กำลังคิดถึงคนอ่านข้อความอยู่ครับ แล้วรีบกลับด้วยละเดี๋ยวจะมืดมัน
อันตราย-
-ค่ะจะรีบกลับ-
พอพิมพ์ข้อความจบ เบอร์ปริศนาก็โทรมา
“ฮัลโหลสวัสดีค่ะ”
“อยู่ที่ไหนครับ”
“อ๋อ สยามค่ะ”
“นิยัยแคนดี้ ตกส้วมตายแล้วหรอออกมาได้แล้ว”
“จ๊ะๆ กำลังออกจ้าอย่าเพิ่งเครียด”ฉันเปิดประตูพร้อมกับคุยโทรศัพท์ไปด้วย
“อ่าวแล้วคุยกับใครนะ”
“ไม่รู้ซิ”
“อะ ยัยนี่บ้าไปแล้วหรอ เพื่อนฉันไปซะแล้ว”
“ฮัลโหลค่ะ”
“ครับ คุณก็บอกเพื่อนคุณไปซิครับว่าเราเป็นอะไรกัน”
“อะไรนะ จะบ้าหรอ”
“ไม่บ้าหรอกครับ”
“ไม่เอาไม่พูดด้วยแล้ว”พอพูดจบฉํนก็ตัดสายทิ้งทันทีจากนั้นฉันก็มีหน้าตาที่สดใสกล่าทุกวัน แล้วฉันก็หยิบกระจกขึ้นมาชมหน้าตา อันสระสวย
“โอ้โห รู้งี้คุยกับเบอร์ปริศนาตั้งงนานแล้ว” (จะชมตัวเองว่า น่ารักว่างั้นเหอะ:ผู้แต่ง)
“ว้ายยยย!”
“เป็นอะไร ยัยจิ”
“ข้างหน้า ข้างหน้า”
“ว้ายยย จริงด้วย เร็วๆยัยจิเดี๋ยวไม่ทัน”พอพูดจบฉันก็ พาเอ้ย ลากยัยจิไปดูเสื้อผ้า ลดห้าสิบเปอร์เซ็น อย่างเร็ว
“นิยัยแคนดี้ ดูซิเหมาะกับฉันไหม”ยัยจิหยิบเสื้อคอเต่า แขนยาว สีชมพูขึ้นแนบตัวแล้วยิ้ม
“นิแกใครเขาสั่งสอนแกให้เลือกเสื้อผ้าเชย ลาวเลยแหละวะ มานี่ฉันจัดการให้”
“ฉันก็ใส่แบบนี้มาตลอดนี่นา ออกจะน่ารัก”
“แกเคยเห็นฉันชมชุดแกหรือป่าวหะ”
“ป่าว”
“เออ นั่นแหละที่ฉันชอบ ชวนแกไปไหนมาไหนทั้งที่ใส่ชุดนักศึกษาไง”
“อะนี่”ฉันหยิบเสื้อสีฟ้าอ่อนคล้องคอรัดรูปและกางเกงขาสั้นสีขาวยื่นให้ยัยจิ
“เฮ้ยไม่เอาหรอก โป้ฉันไม่กล้าใส่”
“เออไม่เป็นไร”
ฉันทำถ้าโกรธแล้วไม่มองหน้าไม่คุยด้วย
“เอออะเอาก็ได้”
“หิหิ พรุ้งนี้วันอาทิตย์ไปเดิน เดอะมอลบางกะปิกันแล้วใส่ชุดนี้ไปด้วย”
“จ้า แม่คุณชอบสั่ง”แล้วฉันก็หยิบชุดแซกเหนือเข่าสีทองกางเกงขาสั้นสีขาวแล้วฉันก็ไปเดินหาสร้อย แต่ต้อง sall นะ
เช้าวันอาทิตย์
เพราะว่ารักกก เพราะว่าฝัน ฉันก็เลยทุ่มเทมดใจทุกที เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ฮาโหลลโทรมาทำไมแต่เช้าเนี่ยหะ”
“นิยัยแคนดี้ นี่มันเที่ยงแล้วนะแกเป็นคนนัดฉันเองนะ”
“นัด นัด อะไร เฮ้ยนี่มันเที่ยงแล้วหรอตายแล้ว”
“ก็เออสิ”
“ยัยจิ งั้นฉันขอไปอาบน้ำก่อนนะเดี๋ยวจะรีบไป”
“จ๊ะ”หลังจาก วางสายยัยจิฉันก็รีบไปทำธุระส่วนตัวของฉันเรียบร้อยฉันก็รีบแจ้นไปที่หน้าเดอะมอล
“เอะแล้วยัยจิอยู่ไหนเนี่ย นั่นไงเจอแล้ว”ฉันก็เดินเข้าไปทัก
“เฮ้ยจิ”
“อ้าวกว่าจะมาได้”
“อ้าวแล้วทำไมขาสั่นอย่างนั้นละ”
“ก็ฉันรู้สึกหวิวหวิวขานี่ ก็มันสั้นอะ”
“โถ่ ไอ้บ้องเอ้ย”
“ก็คนมันไม่เคยนี่”
“ไปหาอะไรกินกันเหอะ ฉันหิวจนหน้ามึดแล้ว”
“เออไปกินร้าน ฮะจิบัง กันพี่ฉันทำงานอยู่”
“เออร้านไหนก็ได้ ตอนนี้ทุกอย่างอร่อยหมดแหละ”
“ปะ”
“เห้ย นี่มันนานยกขี้นี่นามากับผู้หญิงน่ารักซะด้วย”
“เขาชื่อโยกิ”
“นั่นแหละทีนายนั่นยังเรียกฉันว่า คุณ 5 พันได้เลยทำไมฉันจะเรียกนายนั่นว่ายกขี้ไม่ได้ฮะ”
“เออ ว่าคนอื่นเขาเพลินลืมหิวเลยซิแก”
“เออไปหิวแล้ว”หลังจากที่รับประทานอาหารแสนอร่อยเสร็จเรียบร้อยแล้วฉันกับยัยจิก็พากันไปซื้อตั๋วหนัง
“ยัยจิ เหลือเวลาอีกตั้ง 2 ชั่วโมงกว่า จะไปทำอะไรดีละ”
“ไปร้องเพลงกันดีปะ”
“เออดีดี ปะ”ฉันกับยัยจิก็พากันไปหาตู้เพลง
“พี่ค่ะเพลงละเท่าไหร่ค่ะ”
“อ่านดูซิ ข้างหน้าเธอ”
หือยัยสัป-ประ-รัง-เค เอ้ย ปากไม่มีหรือไง ลูกค้าคือพระเจ้าไม่รู้หรือไง เช่อสวยก็ไม่สวยน่ารักก็ไม่น่ารักยังปากไม่ดีอีกเดี๋ยวก็โดน จีบหรอก(ไม่กล้าพวกมันเยอะ)
“ค่ะ งั้นเอา 6 เพลงค่ะ”ต้องจำใจพูดเพราะไม่งั้นฉันต้องตายคาteenพวกมันแน่เลย
“เออ งั้นไปตู้ 8 เลย”
“ค่ะ”ระหว่างทางฉันเดินไปที่ตู้เพลงก็มีกลุ่มพวก ขี้หรีแซวฉันกับยัยจิ
“ว่าไงจ๊ะน้องสาว”นายปัดผมเป๋หน้าอย่างกับปังคุงปวด...
“ไม่ว่าไงหรอกยะถอยไปนะ”
“อู้ปากดีซะด้วย ปากดีอย่างนี้มาเป็นแฟนกับพี่มาพี่ชอบ”
“ไอบ้าใครเป็นน้องแก ฉันไม่เคยมีพี่หน้าตาเหมือนปังคุงอย่างนายหรอก”
“ถึงบ้าก็บ้ารักนะตัวเองนะจ๊ะ”
“ไอ้พวกบ้าหลบไปนะ”พอฉันพูดจบฉันก็รีบผ่ากลางวงดึงมือยัยจิไปอย่างเร็วแต่แล้วฉันก็โดนคนในกลุ่มหมาเน่าดึงแขนฉันไว้ โอ๊ยทำไมฉันถึงต้องมาเจอไอพวกบ้าๆด้วย หือๆๆใครก็ได้ช่วยฉันทีฉ้าน กลัว
“ไอโรคจิตปล่อยฉันนะ”
“ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้นะไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน”
“ไม่ จะทำไม ไอโรคจิต ไอบ้า ไอจิตตก อุ๊บ” ฉันพูดยังไม่ทันจบนายนั่นก็เอาปากเข้ามาปะทะกับปากฉันอย่างเต็มแรง คายก็ด้ายช่วยฉันทีเวอจิ้นฉันไปแล้วหือๆๆๆ ฉัน พลักตัวนายนั่นออกจากตัวฉันอย่างแรง อยู่ดีดีน้ำตาฉันก็ไหลออกมาอย่างกับฉันเปิดก๊อก พอนายนั่นออกจากตัวฉันได้ฉันก็เอามือนิ่มๆของฉันตบเข้าที่หน้าของนายนั่นอย่างจัง
“โอ้ยนี่ฉันช่วยเธอนะ”
“นี่นายยกขี้นิ”
“ก็ช่วยเธอไง”
“นายกล้าดียังไงมาจูบฉันฮะ หือๆๆ”
“ฉันขอโทษฉันไม่ตั้งใจ”
“ไม่ต้องมาพูด นายจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจนายก็ทำมันลงไปแล้ว จะเอากลับคืนมาได้ไหม้ฮะฉันขอถามหน่อย หือๆๆ”
“ทำอย่างกะเธอไม่เคยกะคนอื่นอย่างงั้นแหละ”
“ก็ไม่อะสิ หือเวอจิ้นฉัน”ฉันตะคอก
“เธอจะบ้าหรอใครเขานับจูบเป็นเวอจิ้นกันละยัยบื่อ”
“อ่าวหรอ”
“ก็เออดิ”
ความคิดเห็น