คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Chap.VIII เทพีรีอา
CHAPTER VIII.
เทพีรีอา
เมืองอัลทราสที่เรย์นาและเทรซิสอยู่นั้นเป็นเมืองขนาดกลางที่สามารถรองรับผู้เล่นได้พอสมควร เมืองนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมต่างๆ ทั้งโบสถ์และวิหาร ซึ่งมีทั้งโบสถ์หรือวิหารร้างและที่ยังใช้อยู่ แต่ก็มีบ้านเรือนปกติที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในโลกจริงอยู่ด้วยส่วนมากแล้วบ้านเรือนเหล่านั้นจะเป็นร้านค้าหรือโรงเรียนจากระบบ
สถานที่ที่ผู้เล่นนิยมไปเก็บระดับที่สุดคือวิหารผนึกซึ่งอยู่ห่างจากเมืองนี้ไปพอสมควร วิหารสลักลายแห่งนี้แม้จะดรอปของระดับไม่สูงมากนักแต่สามารถเก็บค่าประสบการณ์ได้เร็วและมากกว่าสถานที่อื่นๆ ในเมืองนี้ เรย์นาเองก็ตั้งใจจะไปที่วิหารผนึกหลังจากซื้อของที่จำเป็นเสร็จเช่นกัน
สิ่งที่เรย์นาสนใจในตอนนี้คืออุปกรณ์เกี่ยวกับผู้ติดตามที่สามารถเรียกหรือผนึกผู้ติดตามจากอุปกรณ์นั้นๆ ได้เพราะเรย์นารู้สึกว่าการที่เธอไปไหนมาไหนโดยมีสิงโตยักษ์เดินประกบแทบจะตลอดเวลานั้นออกจะเป็นจุดสนใจมากเกินไป เรย์นาเดินหาสิ่งของที่ต้องการไปเรื่อยๆ จนไปเจอร้านหนึ่งที่เธอสนใจเป็นพิเศษ ร้านแห่งนี้เป็นตรอกเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีผู้เล่นสนใจเท่าไรนักเนื่องจากทำเลที่มองเห็นได้ยากและบรรยากาศลึกลับที่แผ่ออกมา
ทุกสิ่งที่คุณต้องการจะมาเมื่อคุณเรียก
นี่คือตัวอักษรที่ป้ายหน้าร้านแขวนไว้ ร้านแห่งนี้ถูกตกแต่งโดยเน้นสีดำเป็นหลักสินค้าตั้งโชว์บางชิ้นนั้นเก่าคร่ำคร่าราวกับมันได้อยู่ที่แห่งนี้มานานแสนนาน บางชิ้นเมื่อมองหรือสัมผัสแล้วให้ความรู้สึกหดหู่ราวกับมันสามารถทำให้ใครก็ตามที่มองมันนานเกินไปฆ่าตัวตายได้เลย เรย์นาพยายามไม่สนใจของเหล่านั้นและมายังเคาท์เตอร์ของร้าน
“ธิดาของโพไซดอนรึ” เสียงของสตรีนางหนึ่งดังขึ้นเรย์นาหันไปมองต้นเสียงก็พบว่าลึกเข้าไปในร้านนั้นมีบันไดวนอยู่อีก สตรีในชุดกระโปรงแบบกรีกโบราณยืนอยู่ตรงบันไดและมองมายังเธอ
ใบหน้าของสตรีผู้นั้นไร้กาลเวลาราวกับเธอจะไม่แก่ขึ้นอีกแล้ว ในขณะเดียวกันเธอก็ไม่เคยเด็กกว่าที่เป็นอยู่แม้ว่าจะในอดีตก็ตาม เธองดงามแต่กลับแฝงไปด้วยประกายแห่งความเศร้าและความหวัง สตรีนางนั้นสะบัดมือเบาๆ สิ่งของที่วางกันระเกะระกะก็กลับไปอยู่ในที่ทางของมันเมื่อสิ่งของที่สุมอยู่หายไปจนหมด เรย์นาจึงสังเกตว่ามีโต๊ะน้ำชาตั้งอยู่บริเวณนั้นด้วยสตรีคนเดิมเดินมานั่งยังโต๊ะน้ำชาและผายมือเชื้อเชิญเธอ
“มนุษย์ผู้มีเลือดเนื้อเชื้อไขแห่งเทพ… ช่างหายากยิ่งนัก ไม่มีมนุษย์เช่นเจ้าปรากฏตัวมานานหลายศตวรรษแล้ว” เธอเปรยขึ้น ประกายในดวงตาแฝงไว้ด้วยความยินดี
“ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็นธิดาของโพไซดอน” เรย์นาถามขึ้น สตรีตรงหน้ามองเธอราวกับบนหน้าผากของเธอมีคำว่า “ลูกสาวเทพปลา” เขียนไว้
“ข้าย่อมรู้ว่าผู้ใดมีความเกี่ยวพันธ์เช่นใดกับเหล่าบุตรธิดาของข้า” สตรีผู้นั้นตอบด้วยรอยยิ้ม แววตาที่มองเธอนั้นให้ความรู้สึกเดียวกับคุณยายที่ผ่านโลกมามากมองหลานตัวเล็กๆ ของเธอ
“ท่านคือเทพีรีอา…!! เพราะเหตุใดท่านถึงได้มาประทับยังเมืองแห่งนี้ ท่านไม่ได้อยู่ที่ภูเขาไอดางั้นหรือ”
“ข้าขอตอบว่าทั้งใช่และไม่ใช่ ถูกต้องแล้วเด็กเอย ข้าคือเทพีรีอา มารดาบแห่งทวยเทพ และไม่ใช่ ข้าไม่ได้ประทับยังเมืองแห่งนี้ ข้าอยู่ทุกที่ ทุกกาลเวลา ข้าสถิตอยู่ทุกที่เพื่อรอเลือดเนื้อเชื้อไขของข้า เพียงแต่มนุษย์เช่นเจ้าเท่านั้นที่สามารถเห็นข้าได้”
“ดังนั้นไม่สำคัญว่าเจ้าจะอยู่ที่เมืองนี้หรือไม่ ข้ามิได้อยู่ ณ ที่แห่งนี้ และมิได้อยู่ ณ ที่แห่งใด ตราบใดที่เจ้ามีสัญชาติญาณแห่งเทพและมนุษย์เจ้าจะสัมผัสได้ถึงการมีตัวตนของข้า”
เมื่อเทพีรีอาพูดจบเรย์นาก็เริ่มรู้สึกว่าสิ่งของต่างๆ ในร้านนี้นั้นไม่ได้มีกลิ่นอายจากโลกมนุษย์หากแต่เป็นสิ่งของที่สาบสูญจากช่วงกาลเวลาต่างๆ ซึ่งหากพยายามมองสิ่งของเหล่านั้นจะเลือนหายไปราวกับไม่เคยมีมาก่อน
“ที่เจ้ามาที่นี่ เจ้าต้องการสิ่งใดงั้นรึ” เทพีรีอาถามขึ้น เรย์นาจึงนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังหาอุปกรณ์สำหรับคิเมร่าอยู่จึงบอกไปตามตรง เทพีทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย
“นี้เจ้ายังไม่ได้ทำตราสัญลักษณ์แห่งท้องทะเลงั้นรึ” เทพีถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจแต่เมื่อเห็นท่าทางของเรย์นาหลังจากได้ยินคำว่าสัญลักษณ์แห่งท้องทะเล เทพีรีอาก็เปลี่ยนจากถามไปเป็นอธิบายแทน
“บุตรธิดาแห่งเหล่าทวยเทพต้องสลักตราสัญลักษณ์ไว้เพื่อให้สามารถดึงพลังแห่งสายเลือดมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ยื่นแขนมาสิ” เรย์นายื่นแขนขวาไปที่เทพีบอก เทพีใช้ชิ่นปักผมของเธอเขียนอะไรบางอย่างรอบข้อมือของเรย์นา เมื่อเขียนเสร็จแล้วลวดลายเหล่านั้นก็เรืองแสงสีฟ้าสว่างจ้า สว่างมากพอที่จะทำให้ห้องที่มืดมนกลายเป็นสว่างไสวได้ชั่วคราว
ผู้เล่น เรย์นา ได้ทำการประทับตราพันธะสัญญาโบราณ ลายสลักวารี
ผู้เล่น เรย์นา สามารถอัญเชิญสัตว์อสูรทุกชนิดที่ผู้เล่นครอบครองมาหาตนเองได้
ผู้เล่น เรย์นา ได้รับ สร้อยข้อมือผลึกวารี
เสียงประกาศจากระบบดังขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่เทพีทำสัญลักษณ์ให้ ความสามารถที่เทพีพูดถึงคงเป็นความสามารถในการอัญเชิญสัตว์เลี้ยงหรือผู้ติดตามที่เป็นสัตว์อสูรมาหาตนนั่นเอง เรย์นาเปิดดูข้อมูลเกี่ยวกับพันธะสัญญาลายสลักวารี และสร้อยข้อมือผลึกวารีแต่ข้อมูลทั้งหมดกลับว่างเปล่า
ตราพันธะสัญญาโบราณ ลายสลักวารี
- ตราพันธะสัญญาโบราณ เฉพาะผู้เล่นที่เป็นบุตรหรือธิดาของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเท่านั้นจึงมีสิทธิในการทำตราพันธะสัญญา
- ไม่ระบุความสามารถแน่ขัด
สร้อยข้อมือผลึกวารี
- สร้อยคือมือที่มีพลังแห่งท้องทะเลสถิตอยู่
- สามารถอัพเกรดระดับไอเทม
- ความสามารถจะประกาศหลังผู้เล่นสามารถอัพเกรดระดับไอเทม
“ผู้ติดตามที่เป็นมนุษย์ของเจ้านั้นเป็นอัศวินมิใช่ริ” เทพีมถามโดยมองไปยังเทรซิสที่ยืนรอเรย์นาอยู่ด้านหน้าของร้าน เรย์นาพยักหน้าเล็กน้อย
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ผู้ติดตามของเจ้าไม่ควรอยู่ในเมืองแห่งนี้ เมืองที่พวกเจ้าอยู่ตอนนี้นั้นเป็นเมืองที่เน้นสายเวทมนตร์เป็นหลัก สำหรับเจ้าแล้วคงไม่มีผลกระทบเท่าไรนัก แต่สำหรับผู้ที่จะเป็นอัศวินเช่นผู้ติดตามของเจ้านั้นการมาอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์จะรบกวนการฝึกของอัศวิน ทางที่ดีเจ้าควรให้เขาไปอยู่ยังเมืองที่ไม่มีไอเวทมนตร์ปะปนมากมายเท่าเมื่องนี้”
"เจ้าต้องไปแล้ว จำคำพูดของข้าไว้ จงไปยังวิหารทางตะวันตก วิหารแห่งนั้นมีผนึกบางอย่างซึ่งข้าไม่อาจรู้ได้ว่ามันคือสิ่งใด มีเพียงมนุษย์ครึ่งเทพเท่านั้นที่คลายผนึกได้ แต่จะคลายผนึกนั่นหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าข้าเพียงแค่แนะนำเท่านั้น"
ทุกสิ่งที่อยู่ในร้านค่อยๆ เลือนหายไปรวมถึงองค์เทพีเหลือเพียงเรย์นายืนอยู่ แต่พื้นที่เธอใช้ยืนนั้นกลับกร่อนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่เหลือที่ให้ยืนอีกเทรซิสเห็นดังนั้นจึงรีบมาคว้าแขนของเรย์นาไว้ก่อนที่เธอจะตกลงไป เรย์นารู้ได้ในทันทีว่าเหวนั้นเป็นทางตรงสู่ทาร์ทารัสเป็นการลงที่รุนแรงและไม่มีทางขึ้นมา เรย์นานึกถึงคำพูดของเทพีรีอาก่อนจะจากมาที่พูดถึงเทรซิสเธอบอกเทรซิสไปตามที่ได้รับคำแนะนำ แต่อัศวินหนุ่มกลับยืนยันว่าเรย์นาอยู่ไหนเขาก็จะอยู่ด้วยแม้ว่าไอเวทมนตร์จะรบกวนการฝึกก็ไม่เป็นไร เรย์นากล่อมอยู่นานจนสุดท้ายก็ใช้คิเมร่ามาเป็นข้ออ้างในการให้เทรซิสไปอยู่ในเมืองของสายอัศวิน
“ข้าจะให้คิเมร่าไปกับเจ้า ด้วยตราพันธะสัญญาถ้าหากข้ามีเรื่องเดือดร้อนข้าสามารถอัญเชิญมันมาที่นี่ได้ทันทีหรือถ้าเกิดอะไรผิดปกติขึ้นมันก็จะรู้ตัว” เรย์นายื่นคำขาด เธอพยายามพูดทุกทางแล้วถ้ามุกนี้ใช้ไม่ได้อีกเธอก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วเหมือนกัน
เทรซิสมีท่าทีอึกอักเหมือนกับไม่อยากไปแต่สุดท้ายเมื่อโดนเรย์นากรอกหูมากๆ เข้าก็ยอมในที่สุด โดยเรย์นาต้องสัญญาว่าเมื่อเกิดอะไรขึ้นต้องเรียกทั้งคู่ทันทีซึ่งเธอก็เออออไปตามน้ำ พูดกับเทรซิสจบเรย์นาก็ยังต้องไปพูดกับคิเมร่าอีก ซึ่งรายนี้ออกจะง่ายกว่าหน่อยเพราะเมื่อมันสัมผัสได้ถึงความต้องการของผู้เป็นนาย ความดื้อรั้นก็ค่อยๆ ลดลงจนยอมตกลงไปกับเทรซิสด้วย
ความคิดเห็น