คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : มนตราที่3 :: การทดสอบ
มนตราที่ 3
การทดสอบ
การทดสอบที่ไม่มีการอธิบายรายละเอียดใดๆ ทำเอาพวกเธอถึงกับอึ้งสนิท หลังจากยืนิ่งกันได้พักหนึ่ง ป้ายไฟที่ลุกพรึ่บบริเวณหน้าอกสร้างความฉงนให้กับผู้เข้าสอบอีกครั้ง
"อีกเรื่อง ป้ายไฟที่หน้าอกของเธอจะมีรหัสประจำตัวอยู่ เราได้ผู้ผ่านรอบแรกครบเมื่อไหร่ ป้ายของเธอจะเปลี่ยนเป็นสีดำ การคัดเลือกใช้ได้เฉพาะมีดเวทมนตร์และดาบที่ทางเราเตรียมให้เท่านั้น เรียกเป็นกันใช่ไหม 'แกลดิอัส'* กับ 'เวเนฟ'* น่ะ แต่ถึงอย่างไรมิติปิดกั้นนี่ก็เรียกมีดกับดาบของเธอออกมาไม่ได้อยู่แล้ว เอาล่ะ เริ่มการทดสอบได้!"
(*แกลดิอัส - ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์ใช้เรียกดาบ)
(*เวเนฟ - ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์ใช้เรียกมีดเวทมนตร์)
สิ้นคำประกาศ แต่ละคนก็แยกย้ายไปตามส่วนต่างๆ ของปราสาท มีจำนวนไม่น้อยที่สวมชุดคลุมปิดหน้าปิดตาเช่นเดียวกับซินเธีย ภายในปราสาทยังคงความมืดมนไว้ได้ดี มืดเสียจนจนน่าขนลุก
เสียงลมหวีดหวิวช่วยขับให้ปราสาทแห่งนี้คลับคล้ายคลับคลาปราสาทผีสิงขึ้นทุกทีจนอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นลูบแขนตัวเอง "แข่งกันหาตราหรือเล่นทดสอบความกล้ากันแน่"
เวลาสั้นๆ กลับดูยาวนานเมื่ออยู่ภายในปราสาทมืดๆ ที่ไม่มีเครื่องบอกเวลา ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มีวี่แววของตราสถาบัน เปลวไฟบนหน้าอกยังคงลุกโชตช่วงเช่นเคย เธอกลอกตาอย่างเบื่อหน่ายเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นถึงอย่างนั้นกลับไม่มีเสียงกระทบจากรองเท้าให้ได้ยิน การเก็บเสียงคงกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว
ประกายเล็กๆ จากหลังคาโถงสูงลิบเรียกความสนใจได้เป็นอย่างดี คนเป็นเจ้าหญิงที่ลดศักดิ์ตัวเองมาอยู่ในฐานะทหารรับจ้างหรี่ตามองที่มาของแสงอย่างไม่แน่ใจก่อนที่รอยยิ้มพึงพอใจจะฉาบบนใบหน้าอ่อนวัย ตราสัญลักษณ์สีทองอร่ามขนาดเท่าฝ่ามือถูกวางอย่างหมิ่นเหม่อยู่ปลายหอกของรูปปั้น ดาบไขว้ใต้มงกุฎราชา สัญลักษณ์เรียบง่ายแต่ให้ความรู้สึกทรงอำนาจ
ตราสถาบันนั่นเอง
"ไม่นึกว่าจะได้เจอเร็วขนาดนี้"
"เวเนฟ"
มีดเวทมนตร์สีเงินยวงปรากฏขึ้น นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่จากเฮมิสเฟียร์ไปที่เธอใช้เวทมนตร์ สายลมโชยมาจากทุกทิศหอบตราสถาบันลงมา ทั้งที่ไม่น่าจะมีลมพัดเข้ามาได้ ซินเธียหรี่ตาลงอย่างไม่ไว้ใจ
ทุกอย่างดูง่ายเกินไป
เธอก้มลงเก็บสิ่งของที่ต้องการอย่างระมัดระวัง และเมื่อปลายนิ้วสัมผัสกับตราโลเอนสไตน์ พื้นก็เริ่มสั่นสะเทือน
ปลายหอกคมๆ ในมือรูปปั้นพุ่งปักตำแหน่งที่ซินเธียยืนอยู่ เธอกำตราในมือแน่นพร้อมกระโดดหลบ เสียงปะทะระหว่างหอกและพื้นดังลั่นส่วนคนเฉียดตายหน้าซีด
เกือบไปแล้วไหมล่ะ
รูปปั้นขยับตัวช้าๆ ราวกับมีชีวิต ดวงตาว่างเปล่าพุ่งเป้ามาที่เธอ อากาศเย็นลงจนบาดผิว นิ่งกันไปเกือบนาที ในที่สุดรูปปั้นก็เป็นฝ่ายโจมตีก่อน ริมฝีปากงามขยับเป็นรอยยิ้มหวาน
"เป็นแค่รูปปั้นกระจอกแท้ๆ ริอาจมาหือกับข้า.."
ของก็ได้แล้ว
งานก็จบแล้ว
ที่ไม่จบก็มีแค่ไอ้พี่เบิ้มที่ขวางทางอยู่..
"หึ! รูปปั้นแค่นี้.."
........โกยสิจ๊ะ.........
คิดได้ดังนั้นร่างเล็กๆ ก็หมุนตัวกลับและโกยแน่บด้วยความเร็วที่ไม่น่าทำได้จากขาสั้นๆ คู่นี้ ในเวลาสั้นๆ เธอก็วิ่งมาจนถึงหน้าประตูปราสาทที่เธอเข้ามาโดยไม่หลงแม้แต่ครั้งเดียว แต่ปัญหาถัดมาคือ..
ประตูล็อค
...ฉิบหาย
เสียงโครมครามที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งทำให้สมองของซินเธียหมุนจนแทบจะรวน ..และในที่สุดเธอก็งัดยุทธวิธีก้นหีบที่ถูกส่งต่อกันในตระกูลมาใช้
ขอตั้งชื่อยุทธวิธีนี้ว่า "วิชามารผ่านประตู"
กิ๊บทั้งหลายทั้งแหล่บนหัวพร้อมใจกันยอม(โดนบังคับ)สละชีวิตเพื่อให้ผู้เป็นนายได้ใช้มันเป็นวัตถุดิบในการใช้วิชามาร
มือเรียวดัดกิ๊บดำที่ติดมาด้วยอย่างชำนาญก่อนจะแหย่เข้าไปเพื่อสะเดาะกลอนประตู ..ในที่สุดเทคนิคโจรกรรมระดับ(โคตร)เซียนก็ถูกดึงมาใช้ และใบหน้าเคร่งเครียดแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแสยะอย่างจอมมารทันทีที่ได้ยินเสียงกริ๊ก!
เธอผลักประตูเต็มแรงและวินาทีถัดมาใบหน้ายิ้มแย้มก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแหย ประตูบานยักษ์ส่งเสียงกึก! ก่อนจะขยับเล็กน้อยและนิ่งสนิท ใบหน้าที่ปกติก็ซีดอยู่แล้วเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว พื้นที่เริ่มสะเทือนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ซินเธียยิ่งสติแตก ในที่สุดก็มีความคิดที่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ผุดขึ้นมาในหัว เธอถอยไปตั้งหลักและง้างอวัยวะเบื้องล่างขึ้น
เปิดดีๆ ไม่ได้ ก็ถีบแม่งเลยแล้วกัน
จากนั้นประตูบานเก่าคร่ำครึก็โดนฝ่าพระบาทจากผู้ทดสอบร่างเล็ก(เตี้ย)ในชุดคลุมยันโครมออกมาจนกระเด็นออกมาทั้งยวง
ตามด้วยเจ้าของผลงานที่พรวดพราดออกมา และมิวายดันประตูบานนั้นขึ้นก่อนจะทั้งลากทั้งยก(อดีต)บานประตูไปวางไว้ที่เดิมจนได้
เปลวไฟบนหน้าอกเปลี่ยนเป็นสีเขียวบ่งบอกว่าเธอผ่านการทดสอบเป็นที่เรียบร้อย ซินเธียเดินลากขาออกห่างจากประตูเจ้าปัญหาท่ามกลางความงุนงงของเหล่าอาจารย์ผู้คุมสอบ
"กุญแจประตูยังอยู่ที่รูปปั้นอยู่เลยไม่ใช่รึ"
"ดูเหมือนว่าเขาจะใช้วิธีสะเดาะกลอนประตูออกมานะ"
"นี่เราจะรับโจรเข้ามาในเรียนในโรงเรียนการทหารเรอะ!"
การทดสอบทั้งสองรอบถูกจัดภายในวันเดียวกัน ดังนั้นผู้ที่ผ่านการทดสอบรอบแรกจึงมารวมตัวกันที่ลานเดิมเพื่อรอรับการสอบสัมภาษณ์ ในรอบนี้ไม่อนุญาตให้ผู้เข้าสอบแต่งกายปิดบังใบหน้า ด้วยเพราะกลัวจะเกิดการก่อการร้ายขึ้น ซินเธียรวมทั้งคนอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งจึงจำใจต้องทิ้งชุดคลุมไปอย่างช่วยไม่ได้
บรรยากาศในลานรวมพลเต็มไปด้วยความตึงเครียด จะมีเสียงพูดคุยก็เพียงเล็กน้อย ส่วนมากมักมาจากกลุ่มเพื่อนที่มาสอบและผ่านมาด้วยกัน หลังผู้ผ่านการทดสอบคนสุดท้ายออกจากปราสาทไม่นาน การประกาศผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ก็เริ่มขึ้น
ด้วยความที่ซินเธียทำเวลาได้ดีมาก(ด้วยวิธีที่น่าภูมิใจมากเช่นกัน) เธอจึงถูกเรียกไปสัมภาษณ์เป็นคนแรกๆ
ในการสอบสัมภาษณ์ต้องนั่งเกวียนต่อไปอีกประมาณยี่สิบนาที ดังนั้นในแต่ละรอบจะถูกเรียกไปรอบละเจ็ดคน และเธอก็ถูกเรียกไปในรอบที่สาม
แม้จะอยู่ในเกวียน ความอึมครึมของบรรยากาศรอบกายแต่ละคนก็ยังตามหลอกหลอนซินเธียมาได้ เธอมีความรู้สึกว่าสภาพอากาศทุกฤดูกาลสามารถเกิดขึ้นได้ในเกวียนเล็กๆ เล่มนี้ ไม่ว่าจะฝนตก พายุหิมะเข้า รวมถึงแดดชนิดจองตั๋วติดขอบเวทีดวงอาทิตย์
แต่เมื่อคิดดูอีกที ทั้งหมดนี้อาจเกิดในเวลาเดียวกันเลยก็เป็นได้
“มีใครรู้สึกว่าพวกเราควรทักทายอะไรกันหน่อยไหม”
ในที่สุดความมาคุอย่างหาที่เปรียบมิได้ก็ถูกทำลายลงโดยชายหนุ่มท่าทางเฮ้วๆ ที่ทนความน่าอึดอัดนี้ไม่ไหว
“ข้า”
น้ำขึ้นให้รีบตัก คนชวนคุยให้รีบตอบ เธอไม่รอช้า หาเพื่อนคุยทันที เขายิ้มกว้างก่อนจะจับมือซินเธียและเขย่าแรงๆ เป็นการทำความรู้จัก ..ที่เธอรู้สึกว่ามันค่อนข้างจะฮาร์ดคอร์ไปไม่น้อย
“บอยส์ จงอย่าคุยกันโดยไม่มีข้า”
เสียงทุ้ม นุ่ม น่าขนลุกดังขึ้นต่อจากการเช็คแฮนด์รุ่นเฮฟวี่เวท ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในเกวียน เธอคิดว่าเขาคงลุกขึ้นมาเต้นด้วยท่าของเอลวิสแล้ว
“บอยส์เหรอ..”
เธอค่อนข้างมั่นใจทีเดียวว่าไม่มีส่วนไหนของเธอเหมือนผู้ชาย โดยเฉพาะส่วนสูง
“บอยตัวเล็ก อย่าสนใจเรื่องยิบย่อยเลย ข้ามีนามว่า เคฟฟ์.. เคฟฟ์ เวย์แลนด์ เดอะ วอยซ์ แอคเตอร์ ออฟ เจนีวา”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป ..ในทางดีขึ้น พร้อมผายมือราวกับนักมายากล แต่คำว่าบอยตัวเล็กยิ่งยุให้ซินเธียคิ้วกระตุกมากขึ้น
“น่าสนใจดีนี่ เอาไว้เจ้าได้พากย์ในสถาบันเมื่อไหร่ ข้าจะรอฟังแล้วกัน”
“เจ้าดูมั่นใจว่าเจ้าจะสอบผ่านเหลือเกินนะ”
หญิงสาวคนหนึ่งโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงแกมประชดประชัน แต่เขาเพียงหัวเราะในลำคอและตอบกลับอย่างมั่นใจ
“แน่นอน! ข้าดูดวงมาแล้ว!”
“.........”
-------------------------
ความคิดเห็น