ตอนที่ 9 : The Keyz 9 เปิดตัวชาร์ลีนเมมเบอร์//จดหมาย
[9]
อับอาย! ขายหน้า! อยากเอาหน้ามุดลงดิน T^T!!!
เพราะหลังจากที่ไอ้เจ้าชายบ้านั่นเดินออกไป...สายตาทุกคู่ก็เพ่งเล็งมาที่ฉันแต่เพียงผู้เดียว...และส่วนมากจะเป็นสายตาแบบ..
‘- - ++’(แรงอาฆาต)
‘>O< ++’(แรงริษยา)
‘= = ++’(แรงพยาบาท)
..และอะไรเทือกๆนั้น...จนฉันชักสังหรณ์ตะหงิดๆแล้วว่าจะโดนรุมตื้บในไม่ช้านี้...โฮๆTOT
“หน้าด้าน..”เสียงหนึ่งดังแว่วเข้ามาท่ามกลางเสียงกระซิบกระซาบ...เป็นตัวจุดชนวนให้อีกหลายๆเสียงเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ตามๆกันไป จนมันดังระงมไปทั่วพื้นที่โดยรอบ
(- - ) ( - -) ( =[]=! )
เวรกรรม! แต่ละคนก็ส่งคำอวยพรมาเป็นชุดๆ แบบที่ฉันไม่ทันได้เอ่ยสาธุด้วยซ้ำ...ฮือๆ บอกฉันที...ฉันทำอะไรผิดหรอ T__T
“ไร้ยางอาย!”เวรกรรม...ไม่ไร้หรอกค่ะ ไม่งั้นตอนนี้คงไม่นั่งอับอายอยู่แบบนี้ T^T!!
“ดัดจริต !...อี๋~...ทำเป็นยิ้มหวานให้ท่านทรอนซ์..”ง...ง่ะ...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็ฉันก็จะไม่ยิ้ม ไม่ง้อ ไม่พูดอะไรทั้งนั้น YOY!!
“แล้วดูสิ...ด่าขนาดนี้แล้วยังหน้าด้านอยู่ฟัง..”แง~ สาบานได้เลยว่าฉันก็ไม่อยากอยู่ฟังพวกเธอเห่ากันนักหรอก...แต่...........เจ็บตูดค่ะ TOT (โดนทรอนซ์โยนทิ้งเต็มหน่วง)
“หมั่นไส้! บังอาจแตะตัวท่านทรอนซ์...”เฮ้อ...พวกเธอรู้กฎนิวตันข้อ 2 ไหม...F = ma แปลว่า เมื่อมีแรงลัพธ์ที่ไม่เป็นศูนย์มากระทำต่อวัตถุ จะทำให้วัตถุ มีความเร่งในทิศเดียวกันกับแรงลัพธ์และความเร่ง มีขนาดแปรผันตรงกับแรงลัพธ์ และแปรผกผันกับมวลวัตถุ...ซึ่งนั่นก็หมายความว่าฉันแค่ปลิวไปตามทิศทางเดียวกับแรงลัพธ์...เวร...นี่ฉันสอนฟิสิกส์อยู่หรอเนี่ย =O=”
“ยังมาตีหน้าใสซื่อ? ..เหอะ! ท่านแพทริกซ์คนเดียวยังไม่พอหรอ ? ต้องมาแย่งท่านทรอนซ์กับพวกเราด้วยน่ะ...ห๊ะ?!”
ม...มันจะ...มากไปแล้ว...ฉันน่ะนะ ?...หน้าตาอย่างฉันไม่ต้องทำอะไรก็มีคน(หลงผิด)ตามจีบอยู่แล้วโฟร้ย~!! ไม่ต้องไปง้อใคร(?) ...เชอะ!! >{}<!!
“ทำสำออยอยู่ได้...ดูสิ...ทำตัวน่าสงสาร...เป็นเด็กใหม่..ก็หัดเจียมตัวซะบ้าง...รู้ไว้ด้วย”ค่ะ...ฉันเจียมตัวอยู่นี่ไง...ถึงเถียงพวกเธอในใจ แทนที่จะพูดออกไปเนี่ย ! = =’
ฉันกวาดสายตามองแหล่งต้นเสียงรอบๆตัวที่ปะปนกันมั่วๆจนไม่รู้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร...อย่าให้รู้นะ...
...ถ้ารู้ฉันจะ...................เดี๋ยวค่อยคิดละกัน(- -*)
“..ท่านพิ๊งค์ดูเหมาะสมกับท่านทรอนซ์กว่ายัยนี่ตั้งเยอะ...ดูทำหน้าเข้าสิ เอ๋อชะมัด~”
ง...งะ ? พวกเขาพูดถึงใครนะ...วิ๊งค์ ...เอ่อ...ไม่ใช่...น่าจะเป็น...พิ๊งค์ ? แล้วเขาว่าใครเอ๋อ ...ฉัน? ฉันหรอ !?!
“ใช่ๆ...ท่านพิ๊งค์ออกจะเพอร์เฟ็ค...เสียดายจริงๆ...สงสารท่านทรอนซ์T^T”
แล้วหัวข้อวิจารณ์ก็เปลี่ยนไป...กลายเป็นบทสนทนาเกี่ยวกับ...คนที่ชื่อพิ๊งค์ กับทรอนซ์...ซึ่งฉันก็นั่งเอ๋อรับประทานอยู่บทพื้นหญ้า แอบเงี่ยหูฟังอย่างเงียบๆ...ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องแฮะ...หลายๆปากอย่างนี้ งงค่ะงง =O=”
พวกเขาไม่สนใจฉันแล้วหรอ ? ....เออก็ดี – w –
ฉันค่อยๆดันตัวให้ลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบ...แต่พอจะลุก ความเจ็บปวดก็แล่นผ่าน...ก้น(T^T)...ฉันจึงจำต้องทรุดตัวลงนั่งบนพื้นหญ้านิ่มๆตามเดิม..
ทั่กๆๆ~ ....เสียงฝีเท้าดังแว่วเข้ามาใกล้ๆ...ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ...ฉันจึงแหงนหน้ามองผู้มาเยือนอย่างมีความหวัง..
“แฮ่กๆ...เป็นไงบ้าง...”บุรุษผมสีดำสนิทที่ฉันมั่นใจว่าไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน วิ่งเข้ามาคุกเข่าข้างๆถามไถ่สารทุกข์สุกดิบราวกับรู้จักกันมานาน - -^? “ฉันขอโทษ...ที่ปาดาวกระจายพลาดไปหน่อย...เจ้าม้าตัวนั้นมันวิ่งเร็วจริงๆ ฮึ่ม- -++”
อ๋อ...นายคนที่ปาดาวกระจายเกือบเฉาะหัวฉันสินะ...อืมๆ (._.)
“ขอบใจมากเลยนะ ^--^”ฉันกัดฟันพูด ยิ้มยิงฟันส่งไปให้ตามมารยาท...แต่ต้องขอบใจมันจริงๆแหละ...ที่ปาพลาดน่ะนะ Y__Y
“อ...อะ...ครับ =///=”เย้ย!!~OoO ..ละ...แล้วทำไมนายต้องหน้าแดงฟะ!
“คุณชาร์ลีนคร๊าบ~”อีกเสียงดังแว่วมาจากด้านหน้า...ฉันจึงถอนสายตาจากนัยน์ตาสีดำขลับตรงหน้า แล้วไล่สายตาไปทางต้นเสียง..
แล้ว...ไอ้เจ้านี่มันเป็นใครอีกละเนี่ย ? =[]=”
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลโค้ก ตัดกับนัยน์ตาสีน้ำตาลแดงอย่างน่าประหลาด... รูปร่างค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกับมาตรฐานความสูงชายของที่นี่ (..กะจากสายตา..คงจะสูงกว่าฉันนิดนึงล่ะนะ) ใบหน้าท่าทางใสซื่อไร้เดียงสา แสดงความกังวลอย่างชัดเจน
น่า...รัก.... >//:;//<
“เอ่อ...คือผมต้องขอโทษด้วยที่ช่วยคุณไม่ได้...”สีหน้าของเด็กหนุ่มผู้มาใหม่ฉายชัดถึงความรู้สึกผิด...ร่างเล็กนั่นหยุดตรงหน้าฉัน ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าในท่าเทพบุตร...แล้วบรรจงก้มหัวโค้งงามๆตรงหน้าฉัน....*{}*!? “ผมช่วยคุณไม่ทัน...น่าละอายใจเหลือเกิน...เชือกนั่นยาวไม่พอที่จะไปถึงตัวคุณ...ผมต้องขอโทษจริงๆนะครับ (_ _)”
แล้วเขาก็กดหัวลงต่ำ โค้งงามๆให้อีกครั้ง พลางหลับตาปี๋...ราวกับเด็กที่ทำผิดและกำลังรอรับโทษจากผู้ใหญ่
“นายว่า...ไงนะ?”ฉันทวนคำอย่างงงๆ
“ก็...ฝีมือการโยนเชือกของผมยังอ่อนหัดนัก...ช่วยคุณไม่ทัน...ทำให้คุณต้องมาบาดเจ็บอยู่อย่างนี้”แววตาจริงจังของคนตรงหน้า ทำให้ฉันคลายความรู้สึกที่อยากจะฆ่าคนแถวนี้ลงไปบ้างเล็กน้อย
“ข...ขอบใจ..”ฉันพยายามข่มอารมณ์ให้เย็นลง...หึ! ถ้าฝีมือนายดีกว่านี้ ฉันคงไม่ได้มานั่งเก๊กสวยอยู่ตรงนี้หรอก...ขอบใจจริงๆ T__T
“เฮ้อ...ปลอดภัยสินะ...โทษทีที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย”อีกเสียงดังแผ่วๆเข้ามาในโสตประสาต...เสียงนี้...คุ้นๆแฮะ...?
ฉันชะงักกึก...ก่อนจะค่อยๆหันไปสบกับนัยน์ตาสีเหล็กของเด็กหนุ่มผมสีดำแซมขาวที่ปรากฏกายขึ้นข้างๆ...เขาทอดมองลงมาที่ฉันอย่าง...เอียงอาย?
“ไม่เป็นอะไร...ใช่มั้ย?”แล้วทำไมนายต้องยกนิ้วชี้ขึ้นมาเกาแก้มตัวเองอย่างเขินๆด้วยนะ...เอ๊ะ!?...หนุ่มๆพวกนี้มีอะไรแปลก...- -*
“นายคือ...เวพอนด์สินะ...?”ฉันเลิกคิ้ว จ้องมองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ทำท่าเลิ่กลั่ก...ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “ไม่เป็นไรหรอก...ฉันไม่โกรธนายแล้วล่ะ...”
เรื่องที่มันพยายามฆ่าฉันด้วยหอกบินน่ะนะ =O= ...
สีหน้าของเวพอนด์ดูลคายความเกร็งลงเล็กน้อย เขายิ้มบางๆให้ “บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า...เอ้า พวกนาย...ช่วยดูอาการชาร์ลีนหน่อยสิ”
เด็กหนุ่มสองคนที่กำลังคุกเข่ามองหน้ากัน เจ้าของนัยน์ตาสีดำขลับไหวตัวนิดๆ เลิกคิ้วให้เจ้าหน้าเด็กที่ส่ายหน้าเป็นพัลวัน...แล้วทั้งสองก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“เราเป็นไนท์นะเวพอนด์...เรื่องแบบนี้เราไม่ถนัดน่ะ”เจ้าหนุ่มผมสีโค้กแหงนหน้าไปสบกับคู่สนทนา...แล้วเลื่อนสายตาลงมามองฉันอย่างเสียใจสุดซึ้ง
“ไม่เป็นไร...ฉันสบายมาก”ฉันรีบโพล่งออกไป ก่อนที่พวกเขาเกิดอยากเปลี่ยนใจมาเป็นฮีลเล่อร์จริงๆ...เพราะไม่อย่างนั้น...
เหอๆ...พวกนายจะรักษาก้นอันบอบช้ำให้ฉันหรอ YOY ?
“มา...ฉันช่วย”แล้วพ่อหนุ่มผมสีดำที่คุกเข่าอยู่ข้างๆ ก็พุ่งเข้ามาจับไหล่ทั้งสองข้างของฉันแบบไม่ทันตั้งตัว...เขาพยุงร่างฉันให้ลุกขึ้นเต็มความสูง พอยืนเทียบๆกันแล้ว...ทำไมฉันดูเตี้ยจังฟะ T^T!
“เฮ้~ ชาร์ลีน~>O<”เสียงทุ้มลึกกึ่งทะเล้นดังแว่วเข้ามา...ทำให้ฉันเบือนสายตาไปมอง...ภาพราล์ฟวิ่งเหยาะๆใกล้เข้ามา สีหน้าบ่งบอกถึงความตื่นเต้น “เมื่อกี๊...แฮ่ก...ลีลาขี่ม้าแจ๋วได้ใจมากเลยอ่า~ เก่งจังๆ สอนมั่งดิ >w<”
“จะบ้าเรอะ! ฉันขี่เป็นซะที่ไหนล่ะ! ม้ามันเกิดคึกอะไรขึ้นมาไม่รู้อ่ะ...”ฉันว่า พลางชี้ไปทางร่างม้าที่พยายามดิ้นให้หลุดจากน้ำแข็งที่ถูกใครบางคนร่ายคาถาตรึงขาทั้งสี่ข้างไว้
“อะ...อ้าว...งั้นหรอ...ฉันนึกว่าเธอกำลังสนุก...เลยไม่ได้เข้าไปช่วยน่ะ..”ราล์ฟยิ้มเจื่อนๆ “แต่สุดยอดเลยนะม้าตัวนี้น่ะ ฝีเท้าใช้ได้เลย...เล่นวิ่งจากประตู 4 จนเกือบถึงประตู 1 เลยนี่นะ”
หะ...ห๋า...ประตู 1 ?
“เป็นลานฝึกของเหล่าปริ๊นซ์น่ะ...ประตู 2 เป็นของไนท์...ประตู 3 เป็นของโพรเทกเตอร์..”เวพอนด์อธิบาย
“นี่...อย่าแย่งบทพูดได้มั้ย~ ยิ่งมีน้อยๆอยู่ =O=”ราล์ฟแยกเขี้ยวใส่เวพอนด์...ที่ยิ้มแห้งๆรับ
“เกิดอะไรขึ้น ?”เสียงหวานของสตรีดังแว่วมาอีกทาง ทุกคนไล่สายตาไปยังต้นเสียง
ร่างบางสมส่วนกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามา สีหน้าฉายชัดถึงความกังวล...
“เล่นอะไรของเธอน่ะชาร์ลีน...วุ่นวายกันไปหมด..”มารีอาปรากฏตัวที..เป็นต้องบ่น TOT
“แหะๆ...ม้าพยศน่ะ (._.)”ฉันก้มหน้าสำนึกผิด...เตรียมรอรับโทษ(บ่น+ด่าYOY)
เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นเป็นระลอกๆ...มารีอากวาดสายตามองรอบๆอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
“จะยืนนินทาชาวบ้านอีกนานมั้ยฮะ...ว่างมากนักหรือไง!?”หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ...กวาดสายตามองทุกคนอย่างไม่เกรงกลัว “หรืออยากมีปัญหากับฉันตอนนี้ก็ได้นะ...ชักคันไม้คันมือ = =^”
แล้วทุกคนที่ยืนมุงอยู่ ก็พร้อมใจกันสลายตัวอย่างรวดเร็ว พลางหลบสายตามารีอากันเลิ่กลั่ก..
ราล์ฟหัวเราะเบาๆอย่างชอบใจ “โหดชะมัด~”
มารีอาหันขวับไปมองราล์ฟที่ยิ้มกว้างรับ อย่างไม่พอใจ..ก่อนจะเบือนสายตามองเจ้าคนที่พยุงร่างฉัน...และอีกสองคนที่ยืนหัวเด่อยู่ใกล้ๆ
“พวกนาย...จะฆ่าชาร์ลีนรึไงฮะ - -;”แล้วเธอก็ยกมือขึ้นกอดอก สายตาคมกริบไล่ไปที่เด็กหนุ่มทั้งสามทีละคน “ถ้าไม่เจ๋งจริงก็อย่าไปยุ่ง...ถ้ามันพลาดโดนชาร์ลีนขึ้นมา นายคงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น..”
เด็กหนุ่มผมสีดำคลับไหวตัวเล็กน้อย ก่อนจะออกปาก “พวกเราขอโทษจริงๆครับ...แต่ต่อจากนี้จะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้ว...”
แล้วเด็กหนุ่มร่างเล็กก็ยกมือขึ้น ราวกับกำลังขอตอบคำถามคุณครู “ใช่ครับ! พวกเราจะปกป้องคุณชาร์ลีนเอง!”
ห้ะ......ห๊ะ!!? พวกนาย... OoO!!?
“อืม...พวกเราแอบตกลงกันไว้แล้ว..ว่านับแต่นี้ไป...”
“พวกเราคือ...ชาร์ลีน เมมเบอร์ !!!”
“O____O!!”<<หน้าฉัน
“*{}*!!”<<หน้าราล์ฟ
“= =^”<<หน้ามารีอา
“อืม...ก็อย่างที่เจ้าสองคนนั่นบอก..”เวพอนด์เปรยขึ้นเรียบๆ ..ยกมือขึ้นขยี้ผมอย่างเท่ห์ๆ “ต่อจากนี้...เราจะปกป้องเธอ...ชาร์ลีน”
ฉันไม่รู้ว่ายืนอึ้งตรงนี้นานเท่าไหร่...มารีอาไล่เจ้าพวกนั้นกลับไปแล้ว...ราล์ฟยืนตบไหล่ฉันอย่างให้กำลังใจ พลางหัวเราะท้องแข็งอยู่ข้างๆ...สักพัก...แพทตี้ก็มาตามฉันกลับไปที่ลานฝึกฮีลเล่อร์ พร้อมกับจูงม้าที่ดูสงบขึ้นมากเพียงแค่หล่อนเอามือสัมผัสหัวของมัน
หลังจากเสร็จจากการรับประทานอาหารเย็น...ซึ่งมีแค่ ฉัน ราล์ฟ และ มารีอา...ส่วนอีกคน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันไปตายที่ไหน(เชอะ!) ฉันก็ขอตัวขึ้นมาพักผ่อนบนห้อง เพราะรู้สึกช๊อคค้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ไม่หาย
แต่พอเดินเลี้ยวออกจากโรงอาหาร...
“คุณชาร์ลีนครับ~ ผมชื่อไซน์นะ...ฝากเนื้อฝากตัวด้วยคร้าบ~>w<”เด็กหนุ่มร่างเล็กนั่นรอดักฉันถึงหน้าบันได(- -^)
“อะ...เอ่อ...อืม”ฉันก็แค่ขานรับ พยักหน้าเบาๆให้
“คุณชาร์ลีนจะไปนอนแล้วหรอครับ...นี่ยังไม่ดึกเลยนะ^^”หมอนี่ก็ยังชวนคุย...ขนาดฉันพยายามเลี่ยงด้วยการเดินขึ้นบันไดหนี...เขาก็ยังอุตส่าห์เดินตาม
“อืม...ฉันง่วงแล้ว = =^”ฉันพูดปัดๆไป...โอย~ อะไรของเขาเนี่ย ตื๊อจัง -////-(อ้าว...หน้าแดงเพื่อ?) <<ล้อเล่นๆ -*-
“อ้อ! จริงสิ...แขนคุณเป็นยังไงบ้าง?”
เอ๋...หมอนี่รู้ได้ไง....อ้อ คงเห็นผ้าสีขาวพันอยู่ละมั้ง ~
“อืม..ก็ดี”
“โฮ้~ ดีจริงๆ...คุ้มจริงๆที่อุตส่าห์นั่งทำยาถอนพิษให้ทั้งคืนเลย~ ทันทีที่รู้ว่าคุณโดนหนามพิษ..”
“อืม..”
เอ๊ะ!....แต่!!?....เดี๋ยว!!
“เมื่อกี๊...นายว่าไงนะ!?”ฉันหันขวับไปทางไซน์...สบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลแดงนั่น อย่างเค้นเอาคำตอบ
ไซน์ดูตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้รับความสนใจจากฉัน (=O=)
“ก็...ผมนั่งทำยาถอนพิษให้คุณ...โชคดีจริงๆ ~ คุณทรอนซ์บังเอิญได้ยินตอนที่ผม...เอ่อ...ซ้อมบทสนทนา...ที่จะเข้าไปทักคุณ..=////=”ไซน์หลบตาฉัน แล้วแสร้งเบือนสายตาไปทางอื่น...นี่มันเป็นเอามากนะเนี่ย -*-
แต่...ประเด็นสำคัญคือ …..…!!!
“งั้นแปลว่า...นาย...เป็นคนทำ...ยาถอนพิษให้?”ฉันกัดฟันกรอด...พยายามข่มอารมณ์ที่เริ่มเดือดปุดๆราวกับจะพุ่งทะลักออกมาเต็มที !
“อ่า...ใช่ครับ...ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก ผมทำด้วยใจ ^^//”
หึหึ...ฮึๆ...ฮะๆ...น่าหัวเราะชะมัด T^T ...นี่ฉันเข้าใจอะไรผิดสินะ...ยานั่น...เขาไม่ได้เป็นคนทำสินะ...ไม่ได้ใจดีกับฉันอย่างที่คิด...แล้วมันจะทำเป็นโกรธเพื่อ.. ?
แต่ที่สำคัญ...ฉันดันไปง้อเขาซะแล้ว...TOT !!
ฮึ่ม!! ~ ทรอนซีรา....!!! ฉัน..ฉัน....ฉันจะฆ่านายให้ได้เลย !!! อ๊ากกกกกกก !!! >O<!!!
เช้าวันต่อมา...อารมณ์เดือดปุดๆ หงุดหงิดราวกับประจำเดือนมาก็ยังคงค้างคาอยู่ในอก...เมื่อคืนก็นอนแทบไม่หลับ กระสับกระส่าย จนต้องตื่นขึ้นมาชกหมอน งับผ้าห่ม ปาหมอนข้าง จนห้องมีสภาพเละเทะ...แล้วความซวยก็มาเยือนฉันอีกแล้ว...T^T
ทันทีที่เปิดประตูออกมา...
“เอ่อ...สวัสดีค่ะ...นี่แม่บ้านค่ะ...ขอเข้าไปทำความสะอาด...ได้มั้ยคะ?”ฉันมองสตรีวัยกลางคน ที่ยืนรออยู่หน้าห้อง...เธอสวมชุดสีฟ้า ทาบด้วยผ้ากันเปื้อนสีขาว...
เวร...ยังไม่ได้เก็บห้องเลย...*[]*!
ฉันหัวเราะแห้งๆ...ขณะที่คุณแม่บ้านกวาดสายตาไปทั่วห้อง...สภาพน่ะหรอ...เกินบรรยาย =[]=”
“ตั้งแต่ฉันทำงานที่นี่มา...”เสียงแหบพร่าเปรยขึ้น...ทำให้ฉันรู้สึกเสียวสันหลังวาบตะหงิดๆ “..ไม่เคยเลย..ไม่เคยเห็นห้องไหนมีสภาพ...เช่นนี้มาก่อน..”
ป้าด่าหนูเถอะ...พูดแบบนี้หนูอับอายคนอื่นเขา TOT
“ไปเรียนเถอะค่ะ...ฉันจะจัดการให้”ฉันมองร่างเล็กที่ให้ความรู้สึกหลอนๆยังไงชอบกล...แล้วรีบปิดประตูหนีทันที ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจหันมาฆ่าฉันแทนน่ะนะT__T
แต่แล้ว...สายตาอันเฉียบคมของฉันก็ไปสบกับ...>> = =; << นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มคมกริบที่ยืนจ้องอยู่ก่อน
ดูเหมือนเขาจะเพิ่งออกมาจากห้องนะ...ดี! รู้สึกว่าฉันกับเขามีเรื่องที่จะต้องสะสางกัน!
“นายทรอนซีรา...”ฉันเอ่ยทัก ขณะที่ร่างหนาของเขากำลังเดินก้าวผ่านหน้าห้อง ที่มีฉันยืนหัวโด่อยู่ อย่างไม่สนใจ...
เขาชะงัก...แล้วค่อยๆหันมาด้วยสีหน้า...เรียบเฉย
นั่นทำให้อุณภูมิในร่างกายฉันพุ่งสูงปรี๊ดเกิน
“นายหลอกฉัน!”ฉันแผดเสียงลั่น พลางชี้นิ้วไปที่เขาอย่างเอาเรื่อง
“อะไร = =;”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากริมฝีปากเรียว...เจ้าของร่างเลิกคิ้วขึ้นเหมือนกับไม่รู้ว่าฉันกำลังพูดถึงเรื่องอะไร...และนั่นทำให้ฉันแทบอยากจะกระโดดกอด เอ๊ย! กระโดดไปขย้ำ เอ๊ย! เออ!...เอาเป็นว่ากระโดดเข้าไปกระชากคอเสื้อแล้วซัดหมัดหนักๆใส่จริงๆ >O<!
“ยาถอนพิษนั่น...นายไม่ได้ทำมันกับมือ!”
“แล้วใครบอกว่าฉันทำ = =;”เขาพูดแทรกขึ้นมาแทบจะทันที...นั่นทำให้สมองอันปราดเปรื่องของฉันเริ่มฉายภาพย้อนกลับ...ทวนความทรงจำที่ผ่านมา....
“ไม่มี...แต่นายก็รู้ว่าฉันเข้าใจว่าอย่างนั้น! แล้วทำไมไม่บอกฉันห้ะ! ปล่อยให้ฉันงะ...โง่ตั้งนาน..”เกือบ...เกือบหลุดคำว่า ‘ง้อ’ ไปซะแล้ว...ขืนหลุดไปฉันคงไม่กล้าเจอหน้าหมอนี่ไปอีกนาน...อับอายตัวเอง YOY
“= =;”ทรอนซ์ก็ถอนหายใจเบาๆอย่างปลงๆ...ก่อนจะหันหลังให้ แล้วเดินลงบันไดโดยไม่เหลียวหลังกลับมามองเลยสักนิด
ดีล่ะ...นายหาเรื่องฉันก่อนเองนะ...หึ! ทั้งเรื่องศิลาเวทย์นั่น และมาเรื่องที่ทำให้ฉันขายหน้าอีก...นายคอยดูแล้วกัน...หึหึ=;:= (แสยะยิ้มชั่วร้าย)
ฉันรีบวิ่งบันไดตามหลังเข้าไป...
และพอมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย...ก็มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 5-6คน เดินเข้ามาทักทรอนซ์...พูดอะไรบางอย่างด้วย...แต่ทรอนซ์ก็เดินต่อไป ราวกับผู้หญิงพวกนั้นเป็นธาตุอากาศ..
หยิ่ง....
ฉันแสยะยิ้มเยี่ยงนางมารร้าย แล้วแอบเดินตามพวกนั้นไปอย่างเงียบๆ
“นะคะ...คืนนี้ดินเน่อร์กับพวกเราด้วย...ได้โปรดเถอะค่ะปริ๊นซ์สุดหล่อ~”เสียงหนึ่งในผู้หญิงกลุ่มนั้นเปรยขึ้น ทำสีหน้าแอ๊บแบ๊ว(-*-) ออดอ้อนกันเต็มที่...
เหอะ! ทุ้ย ! ปริ๊นซ์สุดหล่อ..?!
“น้า~...ทรอนซ์คุง~...พวกฉันอยากทานข้าวด้วยซักมื้อ...นะคะๆ นะ *w*”ยัยผู้หญิงหัวฟ้าวิ่งเข้าไปขวางหน้าทรอนซ์ พลางเอามือประสานกันไว้ที่อก...เหอะๆ น่ารักตายล่ะ=[]=”
“ทรอนซ์ขา~...ดาร์ลิ๊งค์~...สนใจฉันหน่อยนะ ^w^”
“อะไรยะ! ต้องสนใจฉันสิ! >O<...ใช่มั้ยคะทรอนซ์ ^///^”
“นี่หล่อน!~ จะมากไปแล้วย่ะ! ทรอนซ์น่ะของฉัน!!..ใช่มั้ยคะ >//;://<”
เวรกรรม...แล้วพวกนั้นก็ทะเลาะกันเองซะงั้น...ท่าทางฉันต้องเข้าไปสมานสามัคคีให้พวกนั้นแล้วล่ะ...หึหึ...ดูเหมือนทรอนซ์จะไม่ชอบยัยพวกนี้เอาซะเลย
“อ้าวทรอนซ์...เย็นนี้นายว่างนี่...เห็นบอกรอสาวๆชวนไปดินเน่อร์ไม่ใช่หรอ?”ฉันกล่าวเปิดตัว...ก่อนจะเดินเข้าร่วมวงสนทนา พลางฉีกยิ้มกว้าง
“หล่อนมาจากไหนยะ!...อ๋อ~ นี่คิดจะมาแย่งทรอนซ์ใช่มั้ยฮะ!?”
“กริ๊ด! ยัยชาร์ลีน...คนที่ฉวยโอกาสกอดท่านทรอนซ์หน้าด้านๆ>O<!!”
อ้าวเฮ้ย!...ไหงเป็นงั้นฟะ !?
“นี่พวกเธอ...”ฉันเบิกตากว้างแทบถลนออกมา...นี่ฉันมาช่วยพวกหล่อนพาเขาไปดินเน่อร์นะ!...ไม่ได้มาให้พวกหล่อนรุมด่ากันแบบนี้ !
และแล้ว...เพราะความโกรธที่อัดแน่นมานาน...ฉันก็เปลี่ยนแผนแบบที่ไม่ได้คิดมาล่วงหน้า
“ที่รักคะ...วันนี้จะทานอะไรดีน้า~...ส้มตำปาร้าดีมั้ยคะ...ชาร์ลีนช๊อบชอบ~”ฉันปราดเข้าไปควงแขนทรอนซ์ ที่ยื่นนิ่งแล้วทำหน้าแบบ >>= =;<< นี้
“ธ...เธอ!!”
“ม...ไม่นะ!!”
“ทำไมยะ!?...หลีกไปเลย~ เราสองคนกำลังจะไปสวีทกิ๊บกิ้วกันอยู่..ไม่เห็นหรอ? ^^”ฉันโปรยยิ้มให้เด็กสาวที่มองด้วยสายตาทิ่มแทงจนตัวแทบทะลุ อย่างสะใจ
ฮ่าๆๆๆ~ เล่นกับใครไม่เล่น~ ..วะฮ่ะฮ่าๆๆ ^O^ ขออีกทีละกัน~
“เย็นนี้อย่าลืมนะคะที่รัก...ที่ชวนชาร์ลีนไปดินเน่อร์น่ะ...อุ๊ย~ อดใจรอไม่ไหว...ไม่เป็นไรค่ะ...ยังไงที่รักก็อยู่ข้างๆชาร์ลีนตลอดเวลาอยู่แล้ว^^;:”ฉันแสร้งทำเสียงสูงกว่าปกติ ดัดจริตที่สุดเท่าที่ทำได้(ดูละครหลังข่าว...แล้วเลียนแบบนางร้าย_ _)ฉันออกแรงลากแขนทรอนซ์ให้เดินไปข้างหน้า แล้วหันมาแลบลิ้นใส่พวกผู้หญิงกลุ่มนั้นอย่างกวนประสาทที่สุด
เสร็จงานนี้ฉันต้องหาภาชนะมารองรับอ้วกตัวเองแล้วล่ะ...ทำไปได้เนอะเรา =;:=’
พอเดินมาได้ไกลพอสมควร...เสียงกริ๊ดแสบหูนั่นก็แทบไม่ได้ยินแล้ว ฉันจึงปล่อยแขนหมอนี่
“ทำอะไรของเธอ = =;”ทรอนซ์เปรยขึ้น ขณะที่เท้าก็ยังเดินมุ่งตรงไปยังประตูโรงอาหารที่อยู่ใกล้ๆนี้
“อะไร...ฉันทำอะไร..?”ฉันยักคิ้วให้อย่างกวนๆ
“ก็ที่พูดแบบนั้น...”
“ทำไม?...นายหวั่นไหวหรอ?”และแล้ว...ฉันก็อยากจะฆ่าตัวตายรอบที่หนึ่งร้อย...ไม่สิ...เย็บปากรั่วๆนี่ก็พอ(ยังไม่อยากตาย)...นี่ฉันพูดอะไรออกไปฟะเนี่ย >x<!
“= =;”สีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ประจักษ์แก่สายตา...เหอะ! เธอพูดอะไรออกไปฟะ! คำว่า ‘หวั่นไหว’ มันคงไม่อยู่ในพจณานุกรมของหมอนี่ด้วยซ้ำ...เพราะถ้าจะให้มี...ก็สอนคำว่า ‘ยิ้ม’ ให้เขาก่อนเถอะ - -*
“เออ...ช่างเหอะ...ไม่เข้าใจสินะ”ฉันพูดลอยๆ ก่อนจะเดินนำเข้าโรงอาหาร โดยไม่คิดเหลียวหลังกลับไปมองสักนิด...
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย...ฉัน ราล์ฟ มารีอา และทรอนซ์ ก็ถึงกับต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่ง เพราะนี่มันก็ใกล้เวลาเรียนเต็มทีแล้ว...และแน่นอนว่าดูเหมือนทรอนซ์กับมารีอาที่เดินนำอยู่จะได้เปรียบด้านช่วงเท้าที่ยาวกว่า...ราล์ฟก็ชะล้อฝีเท้าอยู่รั้งท้ายรอฉัน...โฮก~ ซึ้ง TOT
ตารางเรียนวันนี้
8.30-10.30 => ศาสตร์การทำนาย
10.30-12.30 => การรักษาเบื้องต้น
เฮ้อ...วิชาบ้าอะไรฟะเนี่ย...เกิดมาไม่เคยรู้จัก =O=’
เมื่อทุกคนเข้านั่งประจำที่ เสียงคุยจ้อกแจ้กก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เป็นการฆ่าเวลาเมื่ออาจารย์ผู้สอนยังไม่มาถึง..
“เฮ้~ ราล์ฟเฟ”ฉันหันไปเรียกราล์ฟ ที่นั่งร้องเพลงหงุงหงิงเหมือนคนใกล้ตายอยู่บนเก้าอี้ด้านซ้ายมือ.....เสียงร้องก็มิใช่เบาๆเลยนะ-*-
“หืมม์...อะไรรึ?”
“ช่วยอธิบายรายละเอียดวิชานี้หน่อยได้มั้ย...ศาสตร์การทำนาย?...อาจารย์จะสอนเราทำนายอนาคตหรอ..”ฉันเลิกคิ้วขณะถาม พลางจ้องหน้าราล์ฟที่ทำสีหน้าครุ่นคิด
“อ่า...อย่างนั้นล่ะมั้ง..”ดู...ดูมันตอบ - -*
“อย่าถามหมอนั่นเรื่องวิชาการเลย..”มารีอาเปรยขึ้นลอยๆ เธอนั่งครองโต๊ะตัวเดิมที่อยู่ถัดจากฉันไปทางขวา “หลับตลอดแหละ..นึกยังไงถามเจ้านั่นนะ= =^”
“ง่ะ...”แล้วราล์ฟมันจะทำหน้าเหมือนรู้ไปเพื่ออะไรฟะ (_ _)
“อ๊า~ ไม่ใช่ซักหน่อย...นอกจากเคมีแล้ว ฉันก็เทพวิชานี้นะจะบอก = w =”ราล์ฟหันมาปรายตามองมารีอา...นัยน์ตาสีฟ้าเทาสั่นระริกฉายชัดถึงความกะล่อน “เธออยากได้ติวเตอร์ส่วนตัวมั้ยล่ะ”
มารีอาสะบัดหน้าพรืด...ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปคุยกับทรอนซ์...เอ่อ...เรียกว่าไปเล่าอะไรให้ฟังจะดีกว่า...เพราะดูเหมือนหมอนั่นจะไม่พูดอะไรเลย นอกจากคำว่า‘อืม’ หรือพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงรับรู้เท่านั้น..
ฉันเบือนสายตากลับมาหาราล์ฟ...ยิงคำถามทุกคำถามที่นึกออก..โฮ้ย~ จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ไงล่ะ...ฉันไม่เคยเรียนวิชาแบบนี้นี่นา~ มันเป็นวิชาแบบไหนกันนะ >O<
ผ่านไป 10 นาที...อาจารย์เจ้าของวิชาก็มาปรากฏตัวหน้าประตู ชะโงกหน้าเข้ามาถามว่า นี่วิชาอะไร...หล่อนเป็นผู้หญิงที่ดู...ลึกลับน่าค้นหาดีหรอก...เธอใส่ชุดแซ็กส์สีม่วง สวมทับด้วยเสื้อหนังสีดำ ดูเหมือนหลุดออกมาจากองกรลับที่ไหนซักแห่ง...นัยน์ตาสีดำรัตติกาล สีเดียวกับเรือนผมดำขลับที่ถูกมัดเป็นเกลียวทรงเก๋ไว้ด้านหลัง...
ทุกคนมัวแต่นั่งอึ้ง...ไม่มีใครกล้าปริปากบอกความจริงว่า คาบนี้น่ะวิชาอาจารย์นั่นแหละ...ผู้กล้าประจำห้อง(ทายซิ...ว่าใคร = =) จึงอาสาเป็นตัวแทนนักเรียน ยกมือขึ้น แล้วบอกไปตามตรงว่า ‘วิชานี้เป็นวิชาศาสตร์การทำนายครับ!’
ซึ่งอาจารย์คนนั้นก็พยักหน้าหงึกหงักเป็นอันเข้าใจ...แล้วเดินจากไป....?
ฉันถึงกับต้องเกาหัวแกรกๆอย่างงงๆ ก็ไหนมารีอาบอกว่าคนนั้นเป็นอาจารย์วิชาศาสตร์การทำนายไม่ใช่เรอะ! แถมเป็นอาจารย์เก่าแก่ซะด้วย...แล้วเจ๊เขาไปไหนของเขาล่ะนี่ ?!
ทุกคนอยู่ในสภาพงงงวยไม่ต่างกันนัก...อีก 5 นาทีผ่านไป...อาจารย์เจ้าของร่างเล็กคนเดิมก็เดินเข้ามาทักทาย แนะนำตัวราวกับเพิ่งเริ่มคาบเรียน(?)
“ครูชื่อ บาลิน โรซ่า...ยินดีที่ได้รู้จัก...คาบนี้เลิกกี่โมงจ้ะ?”และขนาดเพิ่งเข้าสอน...อาจารย์ก็ทำเหมือนอยากจะยกเลิกชั้นเรียนซะให้ได้...ช่างเป็นอาจารย์ที่นักเรียนหลายคนใฝ่ฝันจริงๆ =O=
“10ครึ่งฮะ..”มีเสียงดังแว่วๆมาจากทุกมุมห้อง...อาจารย์บาลินพยักหน้าหงึกหงัก แล้วเริ่มด้วยการไล่ทำนายอนาคตให้นักเรียน คนต่อคน O[]O”
“เธอ...ชีวิตจะไปได้สวย...ในนอกรั้วโรงเรียนนะ...”
“สวัสดี...ครอบครัวคือที่พึ่งพายามยาก...ดูเหมือนเธอไม่มีเป้าหมายในชีวิตใช่ไหม?”
“อ่า...เธอดู...เป็นคนอ่อนไหวง่ายเกินไป...หากรู้จักเข้มแข็งกว่านี้ซักนิด...อะไรๆก็จะดีขึ้นเอง..”
“อื่ม...พลังของเธอกำลังอ่อนลง...ฉันว่าเธอเตรียมศิลาเวทย์ไว้จะดีกว่า...”
แล้วคุณเธอก็ไล่ตามโต๊ะในแนวนอน...เพียงแค่สบตากับนักเรียนแว๊บนึง...ก็สามารถตีเป็นคำทำนายได้เป็นประโยคเลยทีเดียว...
ฉันขยับตัวนิดๆอย่างไม่ค่อยสบายใจ...ถ้าฉันกับอาจารย์สบตากันวิ๊งๆ แล้วคำทำนายมันจะออกมาเป็นยังไงนะ T^T ...คงจะเป็น... ‘ความอยากรู้อยากเห็นเป็นเหตุ...ให้อนาคตเธอมาจบอยู่ที่นี่...หึ!...ฉันรู้...ว่าเธอไม่ใช่...พวกเรา’
อ๊ากกกกกกก !!~ ต้องเป็นเยี่ยงนั้นแน่ๆ!! แงแง~ ดับอนาถคาที่ตรงนี้แล~ ชีวิตยัยอเมทิสต์ในนามชาร์ลีน TOT
อาจารย์เริ่มใกล้เข้ามาทุกที...ฉันพยายามหลุบตาข่มสติ...ไม่น่า...ไม่หรอก...อาจารย์ไม่มีทางรู้...
แต่ถ้าหากว่า...อาจารย์สามารถอ่านใจได้ล่ะ.......จบ....จะทางไหนก็จบทั้งนั้นT__T
“เป็นอะไรอ่ะ...ตื่นเต้นล่ะสิ>O<”ราล์ฟเอามือเท้าคาง นั่งในท่าที่สบายและกวนตีนที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็น “ฉันก็อยากรู้ ว่าอนาคตจะสวยหรูหรือเพอร์เฟค~^^”
ฮือ~ เอากับมัน T^T ....เออ ใช่สิ๊ ชีวิตนายมันโรยด้วยกลีบกุหลาบ...แต่ฉันได้ดับกับดิ้น(ไม่หลุด)ล่ะครานี้ ~
“ถ้าอาจารย์...รู้เรื่องที่ฉันเข้ามายังไง...นายว่า...จะเกิดอะไรขึ้น..”ฉันกระซิบตอบ พยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติอย่างแนบเนียนที่สุด...อาจารย์อยู่แถวหน้าฉันแล้ว...ยังไงก็คงหลบไม่พ้น อ๊ากๆๆ ~!!
“หืมม์?...จะเป็นไปได้หรอ..”ราล์ฟขมวดคิ้วอย่างชั่งใจ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “อืมนั่นสิเนาะ...ท่าทางจะเป็นไปได้”
ขอบใจมากเพื่อน = =’
“มารีอา...T^T”ฉันส่งสายตาด้วยสีหน้าเหมือนคนจะตายไปให้...เธอคงได้ยินที่ฉันพูดแหละ...ถึงไม่ได้ยิน ฉันว่าเธอคงรู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่...
“-*-”มารีอาขมวดคิ้ว พลางส่งสายตาปรามๆมาให้ “ทำเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้”
ขอบคุณค่ะมารีอา YOY
โอเค้~ ...ไม่มีทางหนี ก็ต้องดึงวิชาแถขึ้นมาใช้ล่ะ...ถ้าหากมีอะไรผิดพลาดน่ะนะ...
อาจารย์เลี้ยวมาทางโต๊ะราล์ฟ ที่อยู่ด้านซ้ายสุด ...ในใจฉันเต้นรัวเหมือนมีคนตีกลองสัก10ชุด(เว่อร์ไปไหน)...สมองก็คิดประโยคแก้ตัวไว้ล่วงหน้าแล้ว...หากสถานการณ์เป็นไปอย่างที่คิด...ถ้าหาก...ถูกจับได้...
“ชีวิตเธอเต็มไปด้วยความสุขก็จริง...แต่ลึกๆแล้ว...เอ้อ...พ่อหนุ่มน้อย~”อาจารย์สบตาราล์ฟเฟ ที่จ้องตอบกลับไปด้วยสีหน้าทะเล้น...ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ แล้วเดินย่างกรายเข้ามา...หยุดที่หน้าโต๊ะฉัน ! >___<
ตึกๆ..ตึกๆ..ตึกๆ..ตึกตึกตึกตึกตึกตึก..ปี๊ดดดด...(ชีพจรจะหยุดเต้นในไม่ช้าT^T)
“มองตาฉัน..”อาจารย์สั่งเรียบๆ...ฉันที่ก้มหน้างุดๆจับจ้องมือตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะเรียน
“อ๋า~ อาจารย์คะ หนูเป็นโรคแพ้คนแปลกหน้า ~”ฉันพูดเสียงอู้อี้...ในใจภาวนาให้อาจารย์เดินผ่านออกไปเร็วๆ TOT (ว่าแต่..คิดได้ไงวะเนี่ย สดๆร้อนๆ~)
“หืมม์...มีด้วยเหรอ- -^”เสียงหวานฉายแววฉงนเจือปนในน้ำเสียง
“คะ...ค่ะ...หนู...เป็นโรค...กลัวคนแปลกหน้า...จนตัวสั่น..กึกๆๆ”ฉันทำท่ากอดตัวเอง สั่งให้กล้ามเนื้อแขนสั่นพอเป็นพิธี...ฟันกระทบกันกึกๆเหมือนคนกำลังสั่นสะท้านด้วยความหนาว...
“อืม...ญาติของฉันก็เคยเล่าให้ฟังอยู่...เอาเป็นว่าจบคาบนี้แล้วเธอไปพักผ่อนซะนะ”เสียงอาจารย์กระซิบแผ่วๆ ฉันขมวดคิ้วเมื่อสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนปนห่วงใยในน้ำเสียง
“ขะ...ขอบคุณค่ะ...”เวรกรรม! แถครั้งนี้ฉันว่าเสี่ยงสุดๆแล้วนะ! นี่เจ๊แกเชื่อหรอเนี่ย *0*!?
ฉันไม่กล้าชำเลืองมองร่างนั่นเลย...กลัวว่าเงยหน้าขึ้นมาจะไปจ๊ะเอ๋กับนัยน์ตาสีนิลเข้า...
“ร้ายกาจ...เข้มแข็ง...แต่ก็อ่อนโยน...เหมือนท่านนิมฟอริด้า...”คำทำนายจากปากอาจารย์บาลิน...เรียกรอยสีชมพูจางๆบนดวงงามของมารีอา...นัยน์ตาสีชาอ่อนหลุบต่ำลง ปากยิ้มขอบคุณนิดๆ...(ฉันแอบชำเลืองดูน่ะ)
นัยน์ตาสีดำรัตติกาล...สบกับนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้ม ที่จ้องตอบอย่าไม่หวั่นเกรง...คิ้วเรียวของอาจารย์ขมวดเข้าหากัน...ริมฝีปากเม้มแน่น จนฉันสงสัยว่าอาจารย์ลืมทานข้าวเช้ารึเปล่า...(มันเกี่ยว’ไรฟะ-*-)...ใบหน้าไร้รอยตีนกานั่นเริ่มบิดเบี้ยวไปมา เหมือนกำลังใช้ความคิด...
นานไปมั้ยฟะ...?
ฉันอดแอบปรายตามองไปดูสถานการณ์ไม่ได้...บรรยากาศในห้องเงียบกริบ...ไม่ได้ยินกระทั่งเสียงหายใจ...ทุกคนต่างกำลังจดจ่อ รอผลจากการทำนายของบุรุษเจ้าของฉายาเจ้าชายเย็นชา..
“อืม...”อาจารย์ครางเบาๆ...หลุบตาลง...ก่อนจะจ้องเขม็งไปยังดวงหน้าคมคาย ที่ยังมองตอบกลับมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์เช่นเดิม “ยาก......ชะตาของเธอ......มันไม่ธรรมดาจริงๆ...”
อะไรล่ะ...บอกเร็วๆสิคะ >O< (แอบลุ้นตัวโก่ง)
“..ซับซ้อน...ละเอียดอ่อน...วุ่นวาย...”อาจารย์ยังคงพูดเป็นคำ...ถ้าฉันมองไม่ผิด...นัยน์ตาสีดำขลับนั่น เริ่มค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีทอง! *0*..
“..สับสน..หวาดกลัว..ผิดหวัง..”อาจารย์ยังคงพล่ามต่อไปเป็นคำๆ...ทรอนซ์เริ่มขมวดคิ้วนิดๆ...นัยน์ตาของอาจารย์ตอนนี้...มันกลายเป็นสีทองประหลาดไปแล้ว!
“โหดร้าย...เยือกเย็น...เข่นฆ่า...”
คำแต่ละคำที่เปล่งเสียงออกมา...มันดูมีอำนาจ...มีพลัง...ฟังแล้วชวนขนลุก...
“คำสาป...อาถรรพ์...ลบล้าง...”
ให้ตายเถอะ...หยุด...หยุดซักที...
ฉันยกมือขึ้นปิดหู...คำพูดของอาจารย์ดูเหมือนจะดังสะท้อนก้องไปมาในหัว...ระดับเสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ...ราวกับบีบให้สมองแตกออกเป็นเสี่ยงๆ!
“อาจารย์คะ..”มารีอากระซิบแผ่ว...ใบหน้าซีดเผือดแบบนั้น...เธอคงจะรู้สึกเหมือนฉันสินะ
ฉันกวาดสายตามองทุกคนในห้อง...บางคนร้องไห้ออกมา พร้อมกับพยายามกลั้นเสียงสะอื้น...บางคนสลบไปแล้ว...ที่เหลือคือพวกที่ยังมีสติอยู่ ก็พากันเอามืออุดหูไม่ต่างอะไรจากฉัน
“ความตาย...สูญเสีย...ร่ำไห้...”
หยุด....หยุดนะ !!
ฉันกรีดร้องในใจ...ทรมาน...มันรู้สึกทรมาน...!
“อาจารย์ครับ!...หมดเวลาแล้วครับ!!”เสียงทุ้มค่อนข้างแหบพร่า ดังขึ้นข้างๆ..ฉันอยากจะหันไปขอบคุณเสียงสวรรค์นั่น...
อาจารย์ชะงักค้าง...กระพริบตาถี่เหมือนกำลังมึนงง...นัยน์ตาเริ่มเปลี่ยนกลับมาเป็นสีรัตติกาลเช่นเดิม...
“อ่า...จริงหรอจ๊ะ...ว๊า~..ยังเหลืออีกตั้งเยอะ...ที่ยังไม่ได้ทำนาย...”อาจารย์บาลินถอนหายใจเบาๆพลางกวาดตามองรอบๆห้อง...ก่อนจะเบือนสายตาไปสบกับทรอนซ์ที่จ้องเขม็งตอบกลับไปอย่างไร้มารยาท
“อื่ม...โทษนะ...ฉันยังไม่ทันทำนายให้เธอเลย..แฮ่ๆ^^”อาจารย์ทำหน้าราวกับเพิ่งมายืนหยุดที่หน้าโต๊ะทรอนซ์ พลางยิ้มบางๆให้เขา...เป็นรอยยิ้มที่ดู...อบอุ่น...แตกต่างจากคนเมื่อกี้ลิบลับ “ฉันเห็นนะ...อันนี้ค่อนข้างชัดเจน...เธอจะได้มาซึ่งอัญมณีล้ำค่า...รักษามันให้ดี...และเห็นคุณค่ามันมากๆ”
ทรอนซ์กลับมาทำสีหน้าเรียบเฉยตามเดิม...
ฉันมองตามร่างอาจารย์ที่เดินออกจากห้องอย่างเงียบๆ...ทุกคนในห้องก็เช่นกัน...ราวกับนัดกันไว้แล้วว่าจะไม่มีใครพูดอะไร...
“ยัยอาจารย์นั่นต้องเป็นญาติแพทตี้แน่ๆ ให้ตายเหอะ!”ราล์ฟสบถอุบ ทันทีที่เลิกชั้นเรียน...
“อืม...รู้สึกหลอนๆชอบกล...แต่เฮ้~ แพทตี้เขาเป็นคนดีมากเลยนะ”ฉันเอ่ยแย้ง..ขายังก้าวเดินต่อไปอย่างไม่รู้ทิศ...เพียงแค่เดินตามทรอนซ์กับมารีอาที่เดินนำก็เป็นพอ...
“เฮ้อ! อึดอัดเป็นบ้า...คาบหน้ามีวันไหนอีกล่ะ...ฉันขอโดดนะ”ราล์ฟพ่นลมหายใจออกทางจมูก...ทำสีหน้าเหยเก ดูไม่ประทับใจกับชั่วโมงนี้เท่าใดนัก
“..นายบอกว่า...คาบนี้เขาให้รับภารกิจ ?”ฉันเปลี่ยนเรื่องคุย...เด็กเรียนกับเรื่องโดด คงไม่ถูกกันเท่าไหร่นัก...แต่ถ้าเป็นวิชานี้ ก็คงต้องตกลงกันในที่ลับตาคนกว่านี้หน่อย(ฮ่าๆ)
“อ่า..ช่าย~ แล้วเริ่มทำพรุ่งนี้..สนุกมากๆเลยล่ะ หึหึ”ราล์ฟกลับมาทำสีหน้ายิ้มแย้มได้อีกครั้ง ราวกับไม่มีเรื่องทุกข์ใจมาก่อน (มันเปลี่ยนอารมณ์ได้ไวดีจริงๆ= =^) แล้วหันมาโม้กับฉันเรื่องภารกิจที่เคยทำผ่านๆมาเมื่อปีที่แล้ว...ฟังดูแล้วน่าสนุกแฮะ...อ๊า~ ชักตื่นเต้นแล้วสิ^^
ภารกิจ...ในที่นี้ถูกจำกัดในคาบเรียน...เป็นเหตุการณ์สมมติ เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกการเป็นผู้นำ...การตัดสินใจ...ความกล้าหาญ...และอะไรอีกหลายๆอย่าง...เพื่อพร้อมที่จะรับมือกับโลกภายนอก
“ห๋า...อะไรคือโลกภายนอกที่เราต้องรับมือด้วย?”ฉันเลิกคิ้วถาม...มองสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เดินผ่าน...สถานที่ที่เขาเรียกกันว่า’สนามประลอง’
“แหม~ มีฝ่ายธรรมะ ก็ต้องมีอธรรม...มีสว่างก็ต้องมีมืด...มีขาว ก็ต้องมีดำ...โลกของพวกเราก็เหมือนกัน...มีพวกนี้ปะปนกันไป”ราล์ฟเอามือประสานกันที่ท้ายทอย สายตามองไปตรงข้างหน้า แล้วเริ่มอธิบาย “อ่านะๆ...เรียนจบแล้วเราก็ต้องอยู่รับใช้ที่นี่...โดยจะมีภารกิจเสี่ยงๆให้ทำ...แต่ก็นั่นแหละ...หมายถึงเราต้องผ่านการทดสอบอะไรมากมาย พวกเขาถึงจะวางใจมอบหมายงาน..”
ราล์ฟยิ้มนิดๆ...แววตาสั่นระริกเหมือนอยากได้ของเล่นที่ถูกใจ...ฉันมองตรงไปด้านหน้า...มันเป็นทางเข้า...ป่า ?
“เห้ย~...นี่ต้องบุกเข้าป่าเลยเรอะ!?”ฉันเกิดอาการขาไม่อยากเดินต่อ(?) กลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่...เหงื่อเริ่มผุดเกาะบนใบหน้า..
ป่า?!...ป่าทึบๆแบบนั้นอ่ะนะ!! จากที่ดู Discovery Channel รายการสารคดีท่องป่าดิบชื้น...มีทั้งสัตว์อันตราย พืชหนามมีพิษ...ที่สำคัญ! หากขาดแคลนเสบียงก็ต้องกินแมลงเป็นอาหารแทน T^T!! (อันนี้สำคัญมาก!)
“โอ๊ย~ อย่ากลัวไปเลย...เราทำงานเป็นทีมอยู่แล้วน่า...สนุกจริงๆ เชื่อเหอะ!^w^”ก็เพราะ...มันออกมาจากปากนายไงล่ะ...มันถึงดูไม่น่าเชื่อถือน่ะ T__T
คนจำนวนมากราวๆ 5 ถึง 6 ร้อยคนได้ เริ่มทยอยเข้าสู่เขตป่า...ทางเดินค่อยๆแคบลงเรื่อยๆ บ่งบอกถึงพื้นที่อาณาเขตที่ไม่ใช่ของโรงเรียนอีกต่อไป...กลิ่นหญ้าลอยโชยเข้ามาแตะจมูก...ทำให้รู้สึกเหม็นเขียว พะอืดพะอมชอบกล
ฉันกวาดตาต้นไม้ใหญ่น้อย ที่แข่งกันแผ่กิ่งก้านใบดอก พยายามแย่งแสงจากดวงอาทิตย์...ต้นเล็กๆอย่าหวังจะได้แสงเลย...ยืนโชว์ใบเหลืองๆเหี่ยวๆอยู่ใต้ต้นใหญ่ๆนั่นแหละ...แต่ก็ต้องขอบคุณเหล่าต้นไม้พวกนี้ ที่ช่วยกรองแสงแดดและยูวีให้พวกเรา...ไม่อย่างนั้นคงได้ไหม้เกรียมกันไปข้างนึงแน่
“เอาล่ะๆ...เมื่อทุกคนมาถึงแล้ว ฉันจะแจกใบคัมภีร์ ในนั้นจะระบุว่าพวกเธอถูกมอบหมายให้ทำอะไรบ้างในวันพรุ่งนี้..”ร่างสูงของอาจารย์ ทิม สตรองค์ ยืนหยัดอย่างสง่าอยู่บนก้อนหินยักษ์ขนาดสูงพอทุกคนจะเห็นอย่างแจ่มชัด..
ม้วนกระดาษจำนวนมากถูกโปรยลงมาจากท้องฟ้า...ลงไปตกอยู่บนมือของหัวหน้าทีม...นั่นคือ ปริ๊นซ์...แล้วอาจารย์ทิมก็เปรยต่อ ท่ามกลางเสียงคุยจ้อกแจ้กจอแจ
“เอาล่ะ...รู้แล้วสินะว่าต้องทำอะไร...ไม่มีใครได้เปรียบใครหรอกนะ...พรุ่งนี้ 8 โมงให้รายงานตัวที่นี่ เตรียมเริ่มภารกิจ...ไปได้!”
แล้วฉันก็อยากจะกระโดดถีบอาจารย์ชุดนี้จริงๆ...(บาปนะคะ=[]=”)...ก็ในเมื่อเรียกมารับภารกิจแค่นี้...ทำไมต้องให้แห่กันมาเป็นร้อยฟะ!!?
เสร็จจากการรับภารกิจ(ที่น่าถีบ) ...พวกเราก็ทยอยกันกลับหอ...ให้ตายเหอะ ใช้เวลาเดินมาที่นี่เกือบชั่วโมง...ฟังอาจารย์บ่นไม่ถึงนาที...แล้วแจกกระดาษทดเลข(?)ให้...
มันช่าง...คุ้มกับการลากสังขารมาจริงๆเลยค่ะอาจารย์ TOT
ฉันขอตัวขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า...(เป็นเสื้อของมารีอาน่ะ หุหุ~) ส่วนราล์ฟ มารีอา และทรอนซ์ ก็รวมตัวกันนั่งวิเคราะห์โจทย์ของภารกิจอยู่ด้านล่าง...
เฮ้อ...เหนื่อยชะมัด! โรงเรียนนี้ยิ่งเรียนยิ่งเจออะไรเพี้ยนๆ(เหมือนตัวเองไม่เพี้ยน?/บาบิQ)
ฉันถอนหายใจปลงๆ...เดินไปทิ้งตัวลงที่เตียงสีชมพูนุ่มนิ่ม...ยกมือขึ้นเกยหน้าผากอย่างเหนื่อยล้า...อืม...ขอสักงีบละกัน...
และในขณะที่ตะแคงตัวไปทางซ้าย...สายตาอันเฉียบคมก็ดันไปสะดุดกับ...กระดาษสีชมพูที่ถูกแปะอยู่บนโต๊ะเล็ก(ที่ถูกยกขึ้นมาตั้งดีๆแล้ว= w =)
เอ๊ะ...นั่นอะไรน่ะ...
ฉันแอบคิดเล่นๆว่ามันคงเป็นจดหมายรักจากใครสักคน(หึหึ ก็แบบนะ ฮ่าๆๆ>o<//)<<ดูมันๆ -*-
...ฉันดันตัวลุกขึ้นนั่ง...พลางเอื้อมมือไปหยิบกระดาษแผ่นนั้น ที่ขยับนิดๆราวกับเรียกร้องให้ฉันหยิบมันขึ้นมาอ่าน...
ฉันขมวดคิ้ว ขณะที่สายตาเริ่มอ่านไล่ตั้งแต่ตัวอักษรแรกไปช้าๆ...
‘ถึง...ตัวปลอม...
ฉันรู้ว่าเธอปลอมตัวเป็นฉัน...แต่ฉันไม่รู้เหตุผลว่าทำไม...
พรุ่งนี้ตอนทำภารกิจ...เลี่ยงเส้นทางมาพบฉัน...เรามีเรื่องต้องคุยกัน...
หลังจากที่เธออ่านข้อความนี้จบ...กระดาษจะเปลี่ยนเป็นแผนที่...หวังว่าเธอจะมา...ไม่อย่างนั้น...ฉันคงไม่รับรองความปลอดภัยของเธอ...
Charlene’
กระดาษสีชมพูค่อยๆเปลี่ยนเป็นรูปวาดคล้ายแผนที่..ตามที่เนื้อความในจดหมายบอก!
ฉันเบิกตาโพลง...มือสั่นระริก จนแผนที่ร่วงผล็อยกางแผ่อยู่บนเตียง
“ให้ตายสิ...นี่มัน....!”
Writer: ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ _ _
*อย่าลืมเม้นน๊า ~J
ตอนต่อไปรออยู่~ ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คำทำนายพระเอกน่ากลังง่าา
รักราฟที่สุดด
ไม่วายแอบฮานางเอกเป็นพักๆ
แอบใจตรงกันตอนที่อยากกระโดดถีบอาจารย์ อ่ะ
แบบเรานึกแล้วอ่านต่อ
โอ๊ะ โป๊ะเชะ ^^!
จะเปนไงหนอ
เสียว ๆๆๆ --_o
น่ากลัวจริง
ฮานางเอกมากมาย
สนุกดี
อ่านต่อๆๆๆ
รั่วทุกสถานการณ์จริงจริง
แอ๊วววว~! อยากเป็นฮีลเลอ
PS ตอนนี้ยาวเจงๆ
PS 2 ตอนอ่านเรื่องนี้ ถึงกับขนาดไปซื้อแวมไพร์ ไนท์มาอ่านเลยทีเดียว! O_o
เด๋วพรุ่งนี้มาอ่านต่อน้า~
แพทตี้แอบหลอนน~นนน +0+
ชาร์ลีนก็ยังติ๊งต๊องเสมอต้นเสมอปลาย ^_^
อ่านแล้วลื่นไหลดีค่ะ
แต่ยังไงก็ยังรั่วได้ตลอด
555+หนุกๆๆๆๆ
แพตตี้ก็ใจเฮะ ยอมมาสอนเวทย์ให้นางเอกเราด้วย
สู้ๆ น้าอเมทิส์
ชาร์ลีนติดตลกเสมอเลย ^O^