ตอนที่ 32 : The Keyz(2) 32 ปะทะ
[32]
ดวงหน้าชายหนุ่มทั้งสามนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย เริ่มจากคนแรก บุรุษผมสีดำแซมขาวกับนัยน์ตาสีเทาเหล็กกระดกยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะก้มหน้างุดๆหลบสายตา พอเบือนไปมองอีกคน ผมสีดำสนิทรับกับนัยน์ตาสีเดียวกับผม กับชุดรัดรูปเหมือนหน่วยทหารลับดูคล่องแคล่วทะมัดทะแมง คนสุดท้ายที่ดูตัวเล็กกว่าใครพวก ประสานสายตากับฉันแล้วยิ้มกว้างๆให้ ตาสีน้ำตาลอ่อนฉายแววตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด
ฉันไล่สายตาพิจารณาใบหน้าแต่ละคนที่หยุดยืนให้มองอย่างสงบ ก่อนจะหันไปมองบุรุษข้างๆอย่างขอคำอธิบาย
แพทริกซ์ที่นิ่งเงียบมานานเมื่อรับรู้ถึงเควสชั่นมาร์คในสายตาฉันที่ส่งไปให้ ก็ขยับตัวเล็กน้อยแล้วเอ่ยปาก
เวพอนด์ อาร์เซซิน ไซน์คนถูกเรียกค้อมตัวลงรับชื่อตนเอง น้ำเสียงทรงพลังของท่านพี่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนพวกเขาเป็นทหารฝึก ที่อยู่ภายใต้คำบัญชาการ รายงานตัว
พวกเราถูกส่งไปคุ้มครองเขตแดนทางเหนือครับ! หลังจากทราบข่าวมาว่าทางนั้นกำลังถูกโจมตีอย่างหนัก ทางโรงเรียนสามารถต้านกำลังไว้ได้อยู่ นักเรียนแต่ละคนถูกเกณฑ์ไปประจำเขตแดน อารักขาโรงเรียนและบ้านเรือนเหล่าผู้ใช้เวทย์คนสำคัญบุรุษร่างเล็กอธิบายเสียงใส ตาสีน้ำตาลจ้องมองมายังฉัน ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าถึงได้รู้สึกว่าเหมือนมีหัวใจหลายๆดวงเปล่งแสงได้พุ่งออกมาจากตาคู่นั้นน่ะ- - เอ่อ ขอโทษครับ
ชายหนุ่มร่างเล็กนั้นก้มหน้างุดๆตามเดิมเมื่อเบือนหน้าไปสบสายตากับท่านพี่ที่ยืนอยู่ใกล้ฉันไม่ห่าง ฉันขมวดคิ้วสงสัยจึงได้เหลือบไปมอง เสี้ยวหน้าของท่านพี่ดูตึงเครียด รู้สึกถึงไอร้อนที่แผ่ออกมาจากร่าง
แต่ก็ยังดีที่ไม่มีอะไรอยู่ในมือ ที่จะทำให้ท่านพี่แกล้งทำของหลุดอยู่เรื่อย
นึกแล้วก็อดนึกถึงราล์ฟไม่ได้ เจ้านั่นโดนของบินไปหาหลายต่อหลายรอบแล้วไม่รู้จักเข็ดสักที
แต่ไม่ต้องให้คิดถึงนาน เสียงเจื้อยแจ้วนั้นดังมาแต่ไกล
อ้าว พวกนายไหงมาอยู่ที่นี่?-O- ชาร์ลีนเมมเบอร์นี่นาประโยคสุดท้ายถูกลดเสียงให้ได้ยินแค่ฉันคนเดียว ราล์ฟพาร่างมาหยุดอยู่ข้างๆ หรี่ตาลงมองพิจารณาใบหน้าแต่ละคนแว๊บนึง
พวกเราถูกส่ง..
แคปริคอร์นกระจายกำลังให้นักเรียนออกมาอารักขาดินแดนอาร์เซซิน ชายหนุ่มในชุดรัดรูปคล้ายหน่วยทหารเป็นผู้ตัดบท ดักคอก่อนที่ไซน์เด็กหนุ่มผู้แสนซื่อนั้นจะพูดรายงานยาวเหยียดอีกรอบ
โอ้โห ส่งไนท์มาสามคน แคปริคอร์นช่างใจปล้ำดีจริงๆราล์ฟว่า อย่างไม่รู้ว่ามันชมหรือประชด
พวกนั้นประกาศสงครามชัดเจนเวพอนด์ หนุ่มตาสีเหล็กพูดขึ้นมาบ้าง น้ำเสียงฟังดูเครียดขึ้นพวกมันรวมพลอมนุษย์ทั่วโลก เพื่อจัดกำลังมาขยี้แคปริคอร์น
คำพูดที่ทำให้เลือดในกายเย็นเฉียบ ขนลุกซู่ สัมผัสถึงการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า สงครามระหว่างผู้ใช้เวทย์และอมนุษย์ ที่มีมาตั้งแต่ช้านาน ท่านพ่อท่านแม่เคยเล่าให้ฉันฟังแค่ว่าพวกเรากับพวกนั้นไม่ถูกกันมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ แบ่งแยกกันแค่เพราะต้นกำเนิดที่แตกต่าง จนคนรุ่นหลังถูกปลูกฝังคำว่า แคปริคอร์นและโทรปิคอร์น เป็นศัตรูที่ไม่อาจลงรอย รุ่นลูกๆแทบไม่รู้ที่มาความขัดแย้งเหล่านั้นแต่รู้เพียงแค่ว่ามีแต่คำว่าจงเกลียดจงชัง
ความหวังของพวกเราทุกคน คือท่านอะความารีนอาร์เซซินหันมาสบตากับฉัน เป็นสายตาที่มีความหวัง และความเชื่ออย่างมากถึงมากที่สุด ทำให้ฉันถึงกับ
กลืนน้ำลายไม่ลงเลยทีเดียว
งั้นแคปริคอร์นก็เตรียมถูกขยี้ได้เลยราล์ฟเอ่ยปากแซว ทำให้ฉันหันไปแยกเขี้ยวแวววับ ทั้งที่ในใจเห็นด้วยไปแล้วกว่าครึ่ง
ฉันจะเอาอะไรไปสู้คะ T^T ถามหน่อย ว่าการยัดพลังธาตุแท้ทั้งสี่ลงในร่างฉันแล้วมันมีดีอะไรขึ้นมาบ้างงั้นหรอ? นอกจากต้องฝึกความคุมอารมณ์ พยายามไม่แผ่ไอเย็น ทำแค่นี้ฉันยังว่ามันยากมากเลยนะ
จากนั้นไซน์ก็ยื่นจดหมายสีชาอ่อนดูคุ้นๆตามาให้ฉัน
ท่านมารีอาฝากจดหมายมาให้ครับ
ฉันเหลือบมองราล์ฟที่กำลังเดินออกจากวงสนทนาทันที
มันต้องเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านี่แหงๆ ไม่อย่างนั้นถ้าเป็นเรื่องมารีอามันต้องทำตัวกระดี๊กระด๊าเข้ามาแย่งจดหมายในมือฉันไปอ่านแน่นอน แต่นี่ทำเหมือนไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ?
ฉันเก็บงำความสงสัยไว้ในใจ ก่อนจะเปิดซองออกมา คลี่กระดาษที่อยู่ด้านใน
อย่ากังวล ทำหน้าที่ของเธอให้ดีที่สุด ตั้งใจฝึกล่ะ
มารีอา
แต่ก่อนที่จะได้เก็บแผ่นกระดาษใส่ในซองจดหมาย เสียงฝีเท้าคนวิ่งทั่กๆดังแว่วเข้ามา ทำให้ทุกคนยืนเกร็งตัวกันอย่างระวังภัย จากที่ยืนกระจัดกระจายก็เดินเข้ามากระจุกเป็นกลุ่มใหญ่ ฉันมองไปรอบๆด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แพทริกซ์เดินขึ้นไปบังร่างฉันอยู่ด้านหน้าก้าวสองก้าว ทรอนซ์ยืนเยื้องถัดไปด้านขวา ราล์ฟเดินกลับมายืนข้างๆฉันที่เดิม โดยมีไนท์สามคนนั้นยืนคุ้มกันอีกชั้นหนึ่ง
เป็นการกระทำที่รวดเร็วมาก
ฉันกระพริบตาปริบๆ อยู่ท่ามกลางวงล้อมการคุ้มครอง
อึกร่างบุรุษในชุดคลุมสีดำวิ่งถลามา ก่อนจะสะดุดก้อนหินล้มไปกองอยู่บนพื้นหญ้า เลือดสีแดงสดหลั่งทะลักออกมาเป็นวงกว้าง ทำให้รู้ว่าเขากำลังบาดเจ็บ
ในเมื่อเห็นว่าทุกคนยืนนิ่ง ฉันจึงแหวกกลุ่มคนเหล่านั้นออกไป ซึ่งพวกเขามองหน้ากันแล้วเดินตามมาประกบ ล้อมเป็นวงกลม
พวกมัน
ตามมา
หนีไป เร็ว
ชายคนเดิมกล่าวพร้อมลมหายใจที่เริ่มติดขัด เลือดทะลักจากริมฝีปาก
ฮีลฉันก้มตัวลงพลิกร่างนั้นให้นอนหงาย แสงสีขาวสะอาดตาถูกถ่ายทอดจากฝ่ามือ ที่กำลังทาบทามบนอกซึ่งมีแผลฉกรรจ์ รอยข่วนทั้งห้าบ่งบอกว่าผู้ที่ฝากรอยแผลนั้นคงไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา
เมื่อเนื้อเยื่อถูกประสานกันจนสนิท ความช้ำจากภายนอกและภายในบรรเทาลงจนหายเป็นปลิดทิ้ง บุรุษผู้ซึ่งควรจะนอนหอบหายใจระรินนั่นก็เด้งตัวขึ้นมา บิดขี้เกียจด้วยท่าทางกระฉับกระเฉงต่างจากเมื่อกี้ลิบลับ เขาตวัดสายมามองมาทางฉันแล้วมองใบหน้าของกลุ่มคนที่มายืนล้อมไว้ลวกๆ
สาวน้อย ขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้ และถ้าไม่รังเกียจ ฉันขอมอบจุมพิตนี้ให้แด่เธอเป็นการขอบคุณไม่ว่าเปล่า มือหนานั้นเอื้อมมาสัมผัสมือฉัน ดวงหน้าค่อยๆก้มลงมาเตรียมประทับจุมพิตที่ด้านหลังฝ่ามือ ฉันอ้าปากจะห้าม
พลั่ก! ตุบ! โครม!
แต่มันก็ไม่ทันเสียแล้ว
U_U
ฉันอ้าปากค้างมองภาพตรงหน้า กลุ่มคนที่ล้อมฉันไว้เมื่อกี้ได้ทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม ชุดคลุมสีดำมีรอยเท้าปะปนกันมากมายจนแยกไม่ออกว่ารอยไหนของใคร แต่ร่างบุรุษคนนั้นได้ล้มคว่ำลงไปนอนบนพื้นหญ้าอีกครั้งและเหมือนจะไม่อยากโผล่หน้าขึ้นมาอีกแล้วด้วย_ _
อา
ท่าทางจะเจ็บหนักนะนั่นราล์ฟมองไปยังร่างบนพื้นอย่างสงสารเห็นใจ แต่ฉันแอบเห็นเท้ามันยกค้างอยู่ แสดงว่ามันยังไม่ได้ประทับรอยอะไรกับเขา ไม่อย่างนั้นถึงจะเป็นนักเวทย์ฝีมือดีแค่ไหนก็คงฮีลไม่ฟื้นเหมือนรอบที่แล้วแน่
ก๊า ก๊า ..
เสียงหวีดร้องแสบแก้วหูดังขึ้นมาจากฟากฟ้า เมื่อทุกคนพร้อมใจกันเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบกับสิ่งมีชีวิตประหลาด มันมีปีกขนาดใหญ่กว่าตัว ลำตัวมองดูคล้ายคนแต่ตั้งแต่คอขึ้นไปนั้นเป็นใบหน้าคล้ายนกเหยี่ยว ปากแหลมคมของมันกำลังอ้าส่งเสียงร้องดัง
เผ่นนนนนนหันมาอีกที ร่างบุรุษผู้ที่นอนจมดินอยู่นั่นก็เด้งขึ้นมา แล้วใส่เกียร์หมาหนีไปอีกทาง
ก่อนจะเข้าใจว่าทำไมถึงได้รีบร้อนนัก หูก็ได้ยินเสียงเหมือนๆกันดังระงมไปทั่วท้องฟ้า และที่ต้องเบิกตากว้างเท่าไข่ห่าน นั่นก็เพราะจำนวนที่มาสมทบนั้นมีมากจนนับไม่ถ้วน เหมือนฝูงแมลงวันบินตอมดมเหนือถังขยะแห้ง(?) เสียงร้องครั้งแรกคงเป็นการเรียกพรรคพวกมาสินะ
แต่ทว่า
คิดได้ตอนนี้ ดูเหมือนจะสายไปซะแล้ว T^T
ร่ายเวทย์คุ้มกัน ราล์ฟเฟแพทริกซ์ออกคำสั่งหนักแน่น ตาคมกริบหรี่ลงมองสิ่งมีชีวิตที่บินวนอยู่บนฟ้า เหมือนรอการเคลื่อนไหวหรือคำสั่งให้บุกโจมตี
ทันใดนั้น ท่านพี่ก็กระโดดออกไปด้านนอกเกราะเวทย์ที่เพิ่งถูกเสกขึ้นมาโอบล้อมรอบตัวฉันไว้ พร้อมๆกับทรอนซ์ เวพอนด์ อาร์เซซิน และไซน์ ที่พุ่งตัวออกไปรับการโจมตีจากฝูงมนุษย์เหยี่ยวพวกนั้นด้วย
ท่านแพทริกซ์ ระวังตัวด้วยนะคะ!!โรสเซลล่ากรีดเสียงร้องแข่งกับนกอุบาทว์ที่ไม่หยุดส่งเสียงน่ารำคาญ ฉันกวาดตามองไปรอบๆรู้สึกว่าตัวทั้งตัวชาวาบ ยังไงกำลังคนก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถึงแม้พวกเขาจะเก่งกาจแต่จำนวนทางนั้นมากกว่าเป็นเท่าตัว
โถ่เว้ย! ไอ้พวกนกหมู่นั่น
.!
อืม
ดี ไม่ต้องออกแรง
บุรุษนัยน์ตาสีฟ้าเทากำลังประคองพลังเวทย์ให้เกราะคุ้มกันทำหน้าที่ของมัน ไม่มีอมนุษย์ตนไหนกล้าเฉียดกรายเข้ามาอีกเลยนับตั้งแต่ตัวแรกที่นึกลองดี จนร่างร่วงผล็อยลงไปชักกระตุกบนพื้น หมดสภาพที่จะบินโฉบขึ้นฟ้าได้อีก
เหลือบมองดวงหน้าเล็กของเจ้าเพื่อนซี้ข้างๆ ที่ฉายชัดถึงความกังวลแล้วนึกอยากจะหัวเราะขึ้นมา
นี่มันจะรู้ตัวบ้างไหมว่าเป็นคนสำคัญกับใครหลายคน?
ด้วยนิสัยที่เป็นกันเอง เป็นตัวของตัวเอง ที่ไม่เปลี่ยนเลยไม่ว่าจะเป็นชาร์ลีน อเมทิสต์หรืออะความารีน แม้จะมีพลังมากขนาดนั้น อำนาจที่พวกเขา ณ ที่นี้รวมตัวกันก็อาจจะเทียบไม่ติด แต่อะความารีนก็คืออะความารีน
ไอ้นิสัยห่วงคนอื่นยิ่งกว่าตัวเองนั่นคงแก้ไม่หาย
แต่นั่นก็ทำให้หล่อนกลายเป็นที่รัก
ไปนั่งในใจคนได้ไม่ยาก
ราล์ฟ ส่งฉันออกไปนินทาในใจได้ไม่ทันไร เพื่อนสาวข้างๆก็หันมาออกคำสั่งด้วยสายตามุ่งมั่นแน่วแน่ เอาอีกแล้ว โรคเก่ากำเริบ
ฉันยังไม่อยากตาย เดี๋ยวพวกนั้นรุมกระทืบ
หมดหล่อกันพอดี^^เขาเลยแย๊บใส่ไปหนึ่งที ก่อนจะหัวเราะหึหึเมื่อย้อนไปนึกถึงตอนที่ยังไม่ทันลงเท้า
แต่ดูท่าทางพระบาทของปริ๊นซ์สอง และไนท์สามนั้นหนักไม่น้อย เล่นเอาดินยุบไปหลายเซ็นเลยทีเดียว
พวกนั้นมีเยอะกว่า แถมมีปีกด้วย มีแต่ฉันเท่านั้นที่อาจบินได้อะความารีนกระโดดเถียงหย็องเหย็ง ส่งสายตาขู่แกมบังคับให้เขาทำอะไรที่ไม่อยากทำ ยิ่งเป็นสิ่งที่ทำแล้วอาจถึงตายนี่
เฮ้อ ไม่ว่าจะถูกไฟลวกหรือถูกแช่แข็ง แบบไหนก็ไม่โสภาทั้งนั้น
แล้วแกเคยบินหรอ?ราล์ฟอดสงสัยไม่ได้ ถามพลางเลิกคิ้วพลาง
ก็นี่ไง จะสาธิตให้ดูเจ้าตัวดียิ้มแผละ ก่อนจะค่อยๆพาร่างลอยขึ้นๆ ราล์ฟหัวเราะออกมาอย่างชอบอกชอบใจ เรื่องน่าสนุกแบบนี้เขาเองก็ไม่อยากจะพลาด อีกอย่าง จะไปบังคับมันทำไมในเมื่อสาวน้อยตรงหน้าไม่ถนัดเล่นบทถูกปกป้อง
เขาก็คงต้องขอลุยบ้าง^^
เกราะเวทย์หายวับไปกับตา ร่างหนาถีบส่งตัวเองเข้าสู่สนามรบหย่อมๆ มือที่มีไฟฟ้าแลบแปลบๆนั้นพุ่งเข้าซัดร่างคนเหยี่ยวที่ถูกคนเพิ่งหัดบินจับกดลงมาฟาดพื้น
เป็นการร่วมงานที่สนุก เข้าขากันได้อย่างดีเยี่ยม
หากแต่อีกด้านหนึ่ง บุรุษนัยน์ตาสีเพลิงตวัดไปมองเหตุการณ์วุ่นๆด้านหลังแล้วสบถออกมาเบาๆ
ไอ้เจ้าบ้าราล์ฟเฟ
เจ้าชายน้ำแข็งเบี่ยงกายหลบกรงเล็บขนาดยักษ์ ก่อนจะถีบเท้าพุ่งเข้าไปปักกริชเงินไว้บนอก ส่งผลให้ร่างอมนุษย์นั้นนอนกระพือปีกรัวเร็วด้วยความทรมาน แล้วค่อยๆนิ่งสงบลงพร้อมลมหายใจสุดท้าย
ยุ่งพอๆกันน้ำเสียงเย็นเยียบดังออกมาพร้อมเสียงถอนหายใจ ทรอนซีราย่อมรู้ดีว่าสองเพื่อนซี้นั้นรักการก่อเรื่องมากขนาดไหน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่นอกเหนือความคิดของเขาเลยสักนิด
การสู้รบกำลังดำเนินต่อไป โดยฝ่ายบุกเสียกำลังลงไปมาก ซากนกล้มเกลื่อนพื้นดิน บ้างก็บาดเจ็บ ปีกหัก หรือแม้กระทั่งสิ้นลมหายใจก็มีไม่น้อย
มนุษย์มีอาวุธ ที่สามารถล้มฝูงอมนุษย์ได้ แม้จะเสียเปรียบด้านความสามารถในการบินในอากาศ แต่ดูเหมือนนั่นจะไม่เป็นปัญหา เพราะผู้ใช้เวทย์กลุ่มนี้ถนัดการต่อสู้ระยะไกล ทั้งดาวกระจายพิฆาตที่ปาได้อย่างแม่นยำโดยอาร์เซซิน ไซน์ใช้เชือกห้าถึงหกเส้นที่โยนพร้อมกันได้นกเหยี่ยวตกลงมามากกว่าจำนวนเชือก เข็มนับสิบเล็มถูกตวัดออกจากฝ่ามือเวพอนด์ ด้วยความเร็วที่มองไม่เห็น ร่างมีปีกนั่นร่วงกราวราวกับเซตเวลาไว้ ลูกไฟจากมือแพทริกซ์นั่นทำให้ร่างอุ่นๆของนกแปรเปลี่ยนเป็นไหม้เกรียมทันทีที่ตัวสัมผัสพื้น ลิ่มน้ำแข็งจากทรอนซ์ปาโดนเป้าทุกตัว เห็นได้ชัดว่าการบินอยู่บนท้องฟ้าไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด
อะความารีนมองสถานการณ์รอบๆ ร่างลอยค้างอยู่กลางอากาศ ก่อนสายตาจะเข้าไปปะทะกับร่างเหยี่ยวที่กำลังพุ่งทะยานเข้ามา พลังลมในกายถูกรีดออกมาใช้หนักที่สุด ร่างบางพุ่งเข้าชาร์จร่างมีปีกลงพื้นดิน เกิดฝุ่นตลบอบอวล
โรสเซลล่าเรียกเถาวัลย์ออกมารัดร่างที่ดิ้นเร่าๆพยายามกลับคืนสู่ท้องนภา ก่อนที่ราล์ฟจะพุ่งเข้ามาปิดเกมด้วยการปล่อยกระแสไฟฟ้า หยุดการเคลื่อนไหวของมัน
ไม่กล้าแม้แต่จะปลิดชีวิต แล้วริอยากจะเปลี่ยนอาชีพจากฮีลเลอร์เป็นไนท์^^ชายหนุ่มอดหันไปแขวะเพื่อนอวดดีข้างๆไม่ได้ เรียกรอยยิ้มกัดฟันอย่างฝืนๆจากร่างนั้น
ช่างฉันเถอะน่าเสียงหวานตอบอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะพุ่งทะยานตัวขึ้นไปโบยบินบนฟ้าอีกครั้ง
ไม่นานหลังจากนั้น ผู้ใช้เวทย์ก็สามารถกำราบผู้บุกรุกได้หมดเรียบ ไม่เหลือแม้แต่เสียงร้องน่ารำคาญ โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
อะความารีน ฮีลเลอร์น้ำเสียงเยียบเย็น ดุดัน ทรงพลังแบบนี้
ไม่ถามก็รู้เลยว่าเป็นเสียงของใคร
ท่านพี่ แหะๆ ^-^ยิ้มเอาใจไว้ก่อน เป็นสิ่งที่สัญชาติญาณการเอาตัวรอดกระซิบบอกฉัน ณ เวลานี้ เดาได้ไม่ยากถึงสาเหตุที่ท่านพี่เรียกชื่อฉันเต็มสตรีมแบบนี้ ก็คงเป็นเพราะเรื่องที่ฉันไปร่วมการต่อสู้ที่เพิ่งจบไปหมาดๆเมื่อสักครู่นี้ไงล่ะ_ _
ราล์ฟเฟ ครอสนัยน์ตาสีแดงตวัดกลับไปมองบุรุษอีกคนที่ยืนข้างๆฉัน ซึ่งมันกำลังทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม ตากลมแป๋วนั่นหวังจะเรียกคะแนนสงสารสินะ
เออ ก็ดี ฉันทำมั่งดีกว่า *-*
= =;;
*-*/*^*
แต่แล้วท่านพี่ก็ชะงักไป คงเป็นเพราะใจอ่อน(?)ที่เห็นสีหน้าและแววตาเว้าวอนสำนึกผิดของฉันกับราล์ฟ เขาถอนหายใจเล็กน้อยก่อนสะบัดหน้าไปทางอื่น
ช่างเถอะ
ฉันกับราล์ฟหันมามองหน้ากันด้วยสีหน้าซาบซึ้งยินดี ประหนึ่งว่าได้กู้เอกราชคืนกลับมาได้แล้ว และทันทีที่กำลังจะโผเข้ากอดกันแล้วร้องไห้เหมือนเราได้ผ่านศึกหนักร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกัน เสียงหนึ่งก็ขัดขึ้นก่อน
เก็บลิ่มน้ำแข็งของนายคืนไป เดี๋ยวฉันทำมันหลุดมือท่านพี่โยนมีดสั้นสีเงินไปให้ทรอนซ์ที่รับไว้อย่างแม่นยำ แต่
ใครจะไปเชื่อว่าท่านพี่ใจดีขนาดเก็บมีดให้ทรอนซ์เล่า!
ราล์ฟถอยกรูดห่างจากฉันไปหลายก้าว ทำเอาฉันเซถลาไปข้างหน้าเล็กน้อยแล้วถอนหายใจฟู่=O=
เกือบแล้วไหมเจ้าราล์ฟ ถ้าสิ่งที่อยู่ในมือท่านพี่คือลิ่มน้ำแข็ง ฉันก็ไม่อยากจะจินตนาการต่อเลยว่าสภาพราล์ฟหลังจากกอดฉันแล้วมันจะเป็นยังไง
ท่านแพทริกซ์
เวพอนด์หันมาเรียก ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จากนั้นความเงียบก็เข้าปกคลุม พวกเขาสื่อสารกันผ่านนัยน์ตา ซึ่งฉันก็แปลไม่ออก..
อืม
ตกลงท่านพี่เอ่ยสั้นๆ พร้อมพยักหน้าเบาๆ สามคนนั่นมองหน้ากันแล้วยิ้มออกมา
ก่อนที่ฉันจะขยับปากถาม แพทริกซ์ก็หันหน้ากลับมา กวาดสายตามองทุกคนจนหยุดอยู่ที่ฉันเป็นคนสุดท้าย
จากนี้ฉันจำเป็นต้องไปคุ้มครองชายแดนชั่วคราว เนื่องจากกำลังคนของเราไม่พอ
น้ำเสียงฉายชัดถึงความกังวล แต่สายตาหนักแน่นมั่นคงของท่านพี่ เต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจของผู้นำ
ภารกิจที่เหลือฉันคงต้องฝากพวกนายด้วย ทรอนซีรา ราล์ฟเฟ โรสเซลล่า
ราล์ฟถอนหายใจอย่างโล่งอก ทำให้ท่านพี่ตวัดสายตาไปมองแว๊บนึงเขาก็แสร้งทำหน้าตาแป๋วแหววอีกเช่นเคย ฉันอยากขำอยู่หรอก แต่เรื่องนี้
ท่านพี่กำลังจะไปที่ไหนนะ ชายแดน? ที่ที่เขาว่าอันตรายที่สุด เสี่ยงต่อการโจมตีของโทรปิคอร์นน่ะหรอ?
ท่านพี่ฉันเรียกเบาๆ ร่างหนาเดินเข้ามาใกล้ ขยับยิ้มอ่อนโยนอย่างเคย
ไม่ต้องเป็นห่วง แล้วพี่จะกลับมาอย่างแน่นอนแพทริกซ์กระซิบเบาๆพอให้ฉันได้ยิน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่คลายความกังวลในใจ การจากลาเป็นสิ่งที่ฉันไม่อยากเจออีกแล้ว
ดูแลตัวเองดีๆ แล้วก็กลับมาไวไวนะคะฉันพึมพำตอบ ก่อนจะฝืนยิ้มให้บ้าง นั่นทำให้ตาสีแดงคู่นั้นสั่นไหววูบหนึ่ง เขายกมือขึ้นมาขยี้หัวฉันเล่นเบาๆ
ทำตัวดีๆล่ะ
อยู่ห่างๆหมอนั่นบ้างก็ดี- -ท่านพี่ปรายสายตามองราล์ฟที่สะดุ้งเฮือก แล้วเบือนหน้ากลับมาด้วยใบหน้าอ่อนโยนอีกครั้ง แบบว่า
ถ้าท่านพี่จะเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วขนาดนี้
ค่ะ ท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วงถึงปากจะพูดไปอย่างนั้น แต่ลึกๆกลับไม่สบายใจ มีลางสังหรณ์ว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น หวังไว้แต่ว่าเรื่องไม่ดีนั้นจะไม่เกิดกับชายตรงหน้าฉัน
ดวงหน้าละมุนตรงหน้าฉายชัดถึงความกังวล นั่นทำให้ไฟอุ่นๆในใจใครบางคนทวีความร้อนขึ้นมา นึกเสียดายที่ต้องจากกันชั่วคราว เพราะการกลับมาของเธอยังทำให้เขาหายคิดถึงไม่ได้ซักวัน
นัยน์ตาสีแดงเพลิงตัดใจจากภาพตรงหน้า พลิกกายกลับไปยังกลุ่มคนสามคนที่รอการเดินทางอยู่ก่อนแล้ว มุ่งสู่ชายแดนทิศเหนือ
ขณะที่ผ่านร่างของเจ้าชายน้ำแข็ง แพทริกซ์ตวัดสายตาไปสบ นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มนั้นนิ่งสงบยากแก่การคาดเดาอารมณ์เช่นเคย
ตาสีแดงเพลินสั่นไหว ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกผ่านทางสายตา
ดูแลอะความารีน อย่าให้เธอได้รับอันตราย
ตาสีทะเลลึกหลุบลงต่ำ รับรู้ถึงข้อความผ่านสายตานั่น ปากเรียวเม้มแน่นสนิท
เสียงฝีเท้าคนสี่คนพุ่งจากไป ด้วยพลังไอน้ำที่ฝ่าเท้า พวกเขาต้องเร่งเดินทางให้ถึงโดยเร็วที่สุด เพราะการสูญเสียกำแพงอันเป็นรั้วของแคปริคอร์น จะนำมาซึ่งหายนะในเร็ววัน เขตแดนจะต้องไม่ถูกตียับ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้คิง ออฟ แคปริคอร์น ถูกคำสั่งเรียกตัวไปเป็นกำลังหลัก
โฮ้ยย โล่งอกไปที ฉันนึกว่าจะโดนย่างสดซะแล้วสิเสียงบ่นกระปอดกระแปด ดังมาจากราล์ฟเฟ ครอส ร่างหนานั้นคลายความเกร็งลงไปบ้าง มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบอกอย่างปลอบขวัญตัวเอง
กลุ่มคนสามคนด้านหน้าเรียกความสนใจจากนัยน์ตาสีบลอนด์ โดยเฉพาะร่างหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงกลาง โดยมีชายหนุ่มเจ้าของฉายาเจ้าชายเย็นชายืนขนาบด้านขวา และโพรเทกเตอร์จอมทะเล้นประกบซ้าย
เจ้าหล่อนคงมีความสำคัญมากสินะ
ร่างบางกำหมัดแน่น ข่มอารมณ์ขุ่นมัว เมื่อนึกถึงบุรุษในดวงใจที่เธอเฝ้าตามมาเป็นปีๆ ซึ่งเขาไม่เคยมอบความสำคัญเช่นนี้ให้เธอเลยสักครั้ง
ท่านแพทริกซ์
เด็กสาวตรงหน้านี้คงสำคัญกับท่านมาก
ไฟรักเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นไฟแค้น ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะหวานใส พร้อมรอยยิ้มจริงใจมาจากร่างนั้น เหมือนยิ่งตอกย้ำในหัวใจให้เจ็บปวด เหมือนกำลังถูกเยาะเย้ยถากถางถึงความพ่ายแพ้
เป็นเพราะฤทธิ์ของป่าโลหิต ที่มีอำนาจดึงความมืดในใจออกมา จมดิ่งอยู่กับห้วงความทุกข์ทรมาน ย้อมหัวใจให้กลายเป็นสีดำทมิฬ
โรสเซลล่าขยับยิ้มเหี้ยม
สายตาฉายแววเด็ดเดี่ยว จ้องเขม็งไปยังร่างบางผู้ซึ่งได้รับความคุ้มครองอย่างดี
อ๊ะ
ฉันว่ากลิ่นมันตุๆอะความารีนสะดุ้งเฮือก รู้สึกเหมือนมีไอเย็นและกลิ่นอาฆาตพยาบาทลอยวนอยู่ทั่วบริเวณ หากแต่คนข้างๆคงเข้าใจไปอีกเรื่อง
แหงล่ะ ก็ไม่ได้อาบน้ำกันมากี่วันแล้วล่ะราล์ฟเฟโคลงหัวไปมา แล้วก้มลงสูดดมใต้รักแร้ตนเองบ้าง โหย กลิ่นเหงื่อ รับไม่ได้><
ทุเรศสิ้นดี-O-หญิงสาวแหวเข้าให้ พลางใช้ศอกกระทุ้งสีข้างของเพื่อนชายที่ทำอะไรไม่รู้จักเกรงใจสายตาชาวบ้าน
ก็มันจริงอะ กลิ่นแกก็ใช่ย่อย
โป๊ก! ท่านหญิงอะความารีนจึงประทานมะเหงกไปหนึ่งลูก
พูดจาทำร้ายหญิงสาว นายมันไม่ใช่ผู้ชาย_ _//
มีแหล่งน้ำอยู่ข้างหน้า..เสียงเรียบๆดังขึ้นจากบุรุษผู้พูดน้อยที่สุด เรียกความสนใจจากทุกคนให้หันไปมองด้านหน้าซึ่งไม่มีวี่แววของเสียงน้ำไหล
โอ้โห~...จมูกดีจังแฮะอะความารีนยกมือขึ้นปิดปาก หลังจากหลุดให้ความคิดออกมาวิ่งแล่นจนได้ยินกันถ้วนหน้า คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างคุ้นๆว่าเหตุการณ์เหล่านี้เคยเกิดขึ้นแล้ว
ฮ่ะๆๆ...จริงด้วยๆ จมูกดีจังทรอนซ์^^ราล์ฟเสริม ยิ่งทำให้หญิงสาวคนสำคัญเบิกตากว้างเพราะมันเป็นบทสนทนาเดียวกันกับตอนเริ่มภารกิจค้นหาแหล่งน้ำในป่าโลหิต
ตอนที่เธอยังคงเป็นอเมทิสต์ในนามชาร์ลีน
สายตาดุๆปราดมองแว๊บหนึ่งก่อนจะมองตรงไปข้างหน้าอย่างไม่ใส่ใจ
แหล่งน้ำที่เห็นตรงหน้า และเสียงน้ำไหลซู่เรียกความสนใจทุกคนให้ตรึงอยู่กับภาพสวยงาม น้ำใสๆหลั่งเทลงมาจากบนลงล่างโดยไหลคดเคี้ยวตามซอกหินเปื้อนตะไคร่สีเขียว ที่วางขวางเส้นทางไหลของน้ำ ราล์ฟเฟพุ่งเข้าไปกวักน้ำขึ้นมาดื่มกิน และล้างหน้าล้างตาเป็นคนแรก
สดชื่นที่สุดในโลก^O^ว่าพลางกวักมือคนอื่นๆให้ตามมา ตาสีฟ้าเทาฉายแววตื่นเต้นกระตือรือร้น ก่อนจะคว้ามือหญิงสาวข้างๆอย่างลืมตัว ป่ะ ไปอาบน้ำกัน
O_Oอะความารีนอ้าปากค้างแต่ก็ยังไม่ทันได้ให้คำตอบ ก็โดนเจ้าเพื่อนที่ไม่รู้จักโต ขั้นที่ว่าลืมว่าร่างกายชายกับหญิงนั้นต่างกันไฉน ลากลงน้ำจนอยู่ในระดับลึกเท่าเข่า
หมับ
ฝ่ามือหนาคว้าตะปบไหล่ซ้ายของร่างบุรุษผู้ลืมตัว ตาสีเข้มตวัดไปสบอย่างดุๆ
มาทางนี้เสียงเย็นเยียบยิ่งกว่าน้ำตกออกคำสั่ง จากนั้นก็ลากเจ้าคนไม่รู้จักกาลเทศะออกไปโดยไม่สนสีหน้าอึ้งปนทึ่งของร่างบางที่ยืนเหวอ ทำอะไรไม่ถูก
อะความารีนมองร่างเพื่อนชายที่โดนใครบางคนลากขึ้นฝั่งไปอีกด้าน ก่อนจะเลือกที่จะไม่ใส่ใจ มือปลดกระดุมตัวนอกออกช้าๆ หันสายแลขวา ก็พบแต่โรสเซลล่าที่ยืนอยู่บนฝั่ง
เอ้า ลงมาสิมือเล็กๆกวักเรียก ทำให้คนถูกเรียกชะงักเล็กน้อย ก่อนจะลงมือปลดเสื้อผ้าตนเองออกบ้าง สวมทับแต่กระโจมอกที่ปกปิดเรือนร่าง
อะความารีนโยนเสื้อผ้าขึ้นไปบนที่แห้ง ก่อนจะสวมทับผ้าที่สูงจากอกลงไปสุดที่เข่าซึ่งพาดไว้บนไหล่ จัดการเสร็จสรรพจากนั้นก็ค่อยๆหย่อนกายลง
ร่างนั่นสะดุ้งสุดตัวกับน้ำเย็นๆที่เข้ามาปะทะร่าง ก่อนจะพยายามปรับธาตุอุ่นๆในกาย
อากาศเย็นแบบนี้ไม่เหมาะกับการเล่นน้ำตก
หญิงสาวเหลือบมองร่างบางอีกคนที่ยืนห่างไปไกลโข ก่อนจะกวักมือเรียก
โรสเซลล่า มาทางนี้สิ เดี๋ยวฉันต้มน้ำอุ่นๆให้^^รอยยิ้มจริงใจเปิดเผยแต่งแต้มบนดวงหน้าละมุนน่ารัก แม้อยู่ในที่ไกลๆก็ยังสัมผัสได้
โดยที่ไม่ตั้งใจ โรสเซลล่ากำหมัดแน่นใต้น้ำ ก่อนจะค่อยๆเยื้องกรายกรีดสายน้ำไปยังร่างที่จมอยู่ในน้ำถึงระดับอก
อุ่นจริงด้วย
ตาสีบลอนด์ตวัดไปมองร่างบางเล็กที่แสดงสีหน้าคลายความกังวล รอยยิ้มเล็กๆบนริมฝีปากอวบอิ่มนั้นดูดีจนคนมองเผลอมองจนเพลิน ก่อนจะสะบัดหน้าไล่ความรู้สึกแปลกๆออกไปจากใจ
เธออึดอัดหรือเปล่า ต้องมาลำบากเดินทาง ฉันต้องขอโทษจริงๆนะร่างบางนั่นยังแย้มรอยยิ้มต่อไป ตากลมโตสีแดงสดเปล่งประกายเป็นมิตร ยังไงซะฉันก็เป็นผู้หญิง ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจก็ปรึกษาได้ อย่าไปคุยกับเจ้าพวกนั้นเลย คนนึงก็ปากมากน่าปวดหัว ส่วนอีกคนก็เย็นชางี่เง่าเอาแต่ใจ
น้ำเสียงฟังคล้ายจะเป็นการต่อว่า หากแต่สีหน้าคนตรงหน้าไม่ได้ฉายแววขุ่นเคืองแต่อย่างใด แต่มันกลับเผยถึงความสุขที่กลั่นตรงมาจากหัวใจ
โรสเซลล่ารู้สึกอิจฉาคนตรงหน้า ที่มีพร้อมไปหมด ทั้งคนรักและมิตรภาพ
หากแต่
ใจลึกๆกลับรู้สึกว่า คนตรงหน้าช่างไม่มีอะไรให้เธอเกลียดได้ลง
ถ้าเพียงแต่ หล่อนไม่ใช่อะความารีน ฮีลเล่อร์ คนที่แย่งกุมหัวใจของท่านแพทริกซ์ที่เธอเคารพรัก
บางที
โรสเซลล่ามองรอยยิ้มงดงามตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนจะหลุบตาลงต่ำ สลัดความคิดงี่เง่าออกไปจากหัว ไฟในใจกำลังแผดเผา จนลืมหูลืมตา ไม่อาจมองเห็นความถูกต้อง
มือใต้น้ำขยับวูบ เถาวัลย์หนาที่ลากจากฝั่งเลื้อยลงมาจุ่มลงน้ำ
รอยยิ้มเหี้ยมกระตุกบนริมฝีปากเรียวบาง ก่อนจะตวัดมืออีกครั้งส่งสัญญาณการลงมือ!
ไม้เลื้อยแหวกว่ายลงไปใต้น้ำ พุ่งตรงไปยังร่างบางที่หลงระเริงสนุกสนานกับการเล่นน้ำโดยไม่รู้สักนิดว่าอันตรายกำลังคืบคลานถึงใกล้ตัว
ฟุ่บ!!
ตาสีแดงเบิกกว้าง รับรู้ถึงสัมผัสที่ข้อเท้าถูกพันธนาการไว้อย่างแน่นหนา ร่างทั้งร่างถูกกดลงไปใต้น้ำอย่างรวดเร็ว รุนแรง จนน้ำกระเซ็นออกไปเป็นวงกว้าง..
To Be Con.
Writer: Happy New Year นะคะ ขอมอบบทนี้เป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ขอให้นักอ่านที่น่ารักทุกท่านมีความสุข สุขภาพแข็งแรงตลอดปีและตลอดไป ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สนุกมากเยยย
รอตอนหน้าน้า
ของขวัญปีใหม่ของไรเตอร์เซอร์ไพส์เกินไปแล้ว T[]T !! รีบมาอัพน้า~~~~
ปล. HNY 2012 ค่า ^O^
มาอัพเร็วๆนะไรเตอร์ ><~
Have a wish on chirstmas
ตอนนี้สนุกมากค่ะ ชอบนิยายเรื่องนี้ที่สุดดดดดดดดด
*-*
ข้ารออ่านต่ออยู่น่ะ
ปล. ตรงที่เขียนว่า ฝูงแมลงวันบินตอมเหนือถังขยะแห้ง ? ..คือ ถังขยะเปียก รึปล่าว หรือว่า... ไรท์เตอร์อยากจะเขียนว่า ขี้หมาแห้ง ก็บอกมา ฮิ ๆ