ตอนที่ 29 : The Keyz 29 ความรัก...?
[29]
ภายในห้องทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วยชุดโต๊ะและโซฟาไม้ ตั้งอยู่ใกล้เตาผิงที่มีเปลวไฟโชนแสง มอบความอบอุ่นภายในห้อง แม้หน้าต่างบานใหญ่จะเปิดอ้ารับลมเย็น ก็มิได้ทำให้ร่างทั้งสามสะท้านหนาว เงาร่างคนสามคนสะท้อนบนกำแพงห้อง สงบนิ่ง ไร้การเคลื่อนไหว
ฉันต้องขอโทษพวกเธอ ที่ทำให้เรื่องเลยเถิดมาถึงขนาดนี้เสียงหวานทรงพลังเปรยขึ้นเนิบๆ เรียกสายตาสีแดงเพลิงของคนทั้งสองที่นั่งเผชิญหน้า โดยมีโต๊ะทำงานสีดำเงาวับคั่นตรงกลาง
นัยน์ตาสีชาอ่อนเบือนไปสบกับดวงตาทั้งสองคู่ ก่อนจะหยุดที่ดวงหน้าหวานละมุนของอะความารีน แม้อยู่ในชุดเดรสสีขาวเรียบๆ แต่ร่างนั้นขับเสน่ห์ให้คนมองอยากหันกลับไปมองแล้วมองอีก
พลังสร้างอำนาจ ยิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งเป็นที่สะดุดตา
ความงามที่ชวนให้ลุ่มหลง สัมผัสของกลิ่นไอเวทย์ของธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ปะปนกันจนเป็นกลิ่นหอมหวน ไม่ว่าใครก็อยากจะครอบครองพลังวิเศษนี้
หลังจากการตายของเธอเมื่อสองปีก่อน ฉันได้เรียกผู้ใช้เวทย์ดิน น้ำ ลม ไฟ บริสุทธิ์มาทำพิธีประกอบกล่องเวทมนตร์ชิ้นใหม่ให้เธอสตรีร่างเล็กปราดมองร่างตรงข้ามที่ขยับตัวน้อยๆ ภายใต้กรอบแว่นสีทอง หล่อนเพ่งดวงหน้าใสเนียนของหญิงสาวอย่างพินิจพิจารณา และคนที่ร่ายเวทย์ซ่อนพลังให้เธอ คือเซอร์ ออกัส ฮีลเลอร์
เมื่อเอ่ยนามบุรุษที่ถูกกล่าวถึงอีกคน บุรุษคนเดียวในห้องก็ขยับตัวเล็กน้อย แล้วหันไปมองสบสายตากับคนรักที่หันมามองก่อน
ท่านออกัสปิดผนึกเวทย์ด้วยตัวของท่านเอง?แพทริกซ์กระซิบแผ่ว รู้สึกเครียดในใจ เพราะแม้แต่ท่านพ่อของอะความารีนยังร่วมลงมือในภารกิจลับนี้ด้วย มันคงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
ท่านพ่อ?เสียงหวานย้ำคำ นึกถึงบุรุษนัยน์ตาสีแดงเพลิงที่อยู่ในความฝัน คนที่ยืนระบายยิ้มและมอบความอบอุ่นให้เธอ
หลังจากนั้นเธอก็ถูกลบความทรงจำ และป้อนความจำใหม่ในนามสาวน้อย อเมทิสต์ ออกไปปะปนกับนักเรียนภาคสามัญเพื่อที่เราจะได้ดูแลอย่างใกล้ชิดอาจารย์ใหญ่เปรยต่อ น้ำเสียงมั่นคง ไพเราะน่าฟัง และได้มอบหมายให้ เอลี่ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งแคปริคอร์นเลี้ยงดูมาตลอดสองปี
แม้แต่ป้าเอลี่ คนนั้น
ยังเป็นผู้ใช้เวทย์ อย่างนั้นหรือ
อะความารีนกระพริบตาถี่ๆ ไล่ความมึนงง
คิดว่าตนไร้ญาติขาดมิตร พ่อแม่จากไปนานแล้ว มีเพียงป้าเอลี่ที่เลี้ยงดู
แต่ไหงกลับกลายเป็นว่า พ่อแม่ยังอยู่ดี ส่วนป้าคนนั้นกลับไม่ใช่ญาติคนเดียวอย่างที่คิด?
เด็กสาวรับรู้ถึงมืออุ่นๆที่เอื้อมมากุมไว้ เมื่อมองเห็นดวงหน้าคมคายของใครบางคนที่ระบายยิ้มให้กำลังใจ หัวใจก็พลันสงบลง พยายามลำดับความคิดใหม่
ส่วนนักศึกษา ชาร์ลีน ตัวจริงนั้นถูกส่งไปยังโทรปิคอร์น เพราะเธอมีเชื้อสายภูตปีศาจ ฉันจึงมอบภารกิจสืบข่าวจากวงใน พวกเราเพิ่งได้รับข่าวจากหล่อนว่าโทรปิคอร์นมีการเคลื่อนไหว
เสียงหวานนั้นเหมือนค่อยๆแผ่วเบาลงไป หัวสมองตอนนี้คล้ายจะปฏิเสธการรับรู้
เรื่องทุกอย่าง มันถูกกำหนดไว้แล้วตั้งแต่ต้น
ไม่ใช่ความบังเอิญ หรือโชคชะตาฟ้าลิขิต
ทุกอย่างนั้นดำเนินไปตามแผน ของสตรีสูงศักดิ์ตรงหน้า
แต่สิ่งที่อยู่นอกแผน
คือความรู้สึกของอะความารีนในนามอเมทิสต์ ที่ไปหลงรักเจ้าชายน้ำแข็งจอมเย็นชา
เอี๊ยด..
เสียงประตูไม้เปิดออก ตามมาด้วยร่างกลุ่มคนจำนวนหนึ่งก้าวผ่านขอบประตูเข้ามาบริเวณห้องแล้วหยุดเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดาน ไล่จากซ้ายไปขวาโดยมี ทรอนซีรา มารีอา ราล์ฟเฟ การ์มี โซล แพทตี้และโรสเซลล่าที่เดินปิดท้าย
อะความารีนกวาดสายตามองทุกคนอย่างอึ้งปนทึ่ง สบตาสีฟ้าเทาของเพื่อนรักที่ยักคิ้วมาให้พร้อมรอยยิ้มกว้าง อีกทั้งยังสองคนที่ยืนขนาบข้างนั้นดูแข็งแรงดีไม่มีการบุบสลาย แล้วเลื่อนสายตาไปหยุดที่ดวงหน้าคมคายหล่อเหลาที่นิ่งราวรูปสลัก นัยน์ตาสีเข้มมองตรงไปข้างหน้าอย่างสงบ ก่อนที่เสียงอาจารย์ใหญ่จะดังขึ้นเรียกความสนใจให้หันกลับไปมอง
พวกเธอมาก็ดีแล้วเสียงหวานดูจะสูงขึ้น ดวงหน้าเล็กระบายยิ้ม ทรอนซีรา ราล์ฟเฟ โรสเซลล่า ฉันขอมอบหมายภารกิจให้พวกเธอคุ้มกันอะความารีนไปยังคฤหาสน์ฮีลเลอร์ ณ เมืองโรสควอตซ์ เริ่มเดินทางในอีกสองวันข้างหน้า
อ้อ แน่นอนเธอด้วย แพทริกซ์
คนถูกมอบหมายมองหน้ากัน ดวงสีหน้าและอารมณ์ที่หลากหลาย
เดี๋ยว
เดี๋ยวก่อนค่ะอาจารย์คนถูกคุ้มกันยกมือหย็อยๆ หมดภาพลักษณ์ของอะความารีน ทายาทคนสำคัญของตระกูลฮีลเลอร์ที่ราล์ฟแอบหลุดขำออกมาเบาๆ นี่มันยังไม่ปิดภาคเรียนไม่ใช่หรอคะ แล้วทำไมถึงต้อง
กลับบ้าน
ท่านอาจารย์นิมฟอริด้าขยับยิ้ม นึกเอ็นดูกับท่าทางเป็นกังวลปนตื่นเต้นของเด็กสาว
จากนี้เธอต้องได้รับการฝึก
ฝึก!!หญิงสาวคนสำคัญเบิกตาค้าง ไม่สนสายตาปรามๆเรื่องมารยาทจากมารีอา และเสียงหัวเราะที่กลั้นไม่อยู่ของราล์ฟ
อย่าลืมว่าพลังในตัวเธอตอนนี้ไม่ธรรมดา เธอยังไม่รู้จักควบคุมมัน ดังนั้นนี่เป็นเหตุผลที่ฉันเรียก แพทริกซ์ผู้ใช้เวทย์ธาตุไฟ ทรอนซีราผู้ใช้เวทย์ธาตุน้ำ โรสเซลล่าผู้ใช้เวทย์ธาตุดิน เป็นคณะคุ้มครองเธอกลับบ้าน แล้วทำการฝึก
ขออนุญาติครับเสียงทะเล้นเอ่ยขัดขึ้นพร้อมมือที่ยกขึ้นสุดตัว เรียกสายตาดุจากทายาทไทรีนอลที่ยืนอยู่ข้างๆ คือผมก็เข้าใจอยู่ว่าแพทริกซ์ไฟ ทรอนซีราน้ำ โรสเซลล่าดิน แต่ๆๆ อาจารย์คงเข้าใจผิด ผมน่ะธาตุเทียมไฟฟ้านะครับ ไม่ใช่ลม
อาจารย์นิมฟอริด้าหัวเราะออกมาเบาๆ พยักหน้ารับคำ
ฉันรู้ แต่จากการแข่งขันมันพิสูจน์ได้ว่าเธอจะสามารถปกป้องอะความารีนได้ดีพอ ภารกิจนี้เธอเหมาะสมที่สุด เด็กจากบ้านตระกูลครอสเป็นโพรเทกเตอร์ที่มีชื่อเสียงทั้งนั้น
จริงไหมจ้ะ
คนถูกชมลดมือลงเกาหัวแกรกๆ อับจนด้วยคำพูด ทำสีหน้าปั้นยาก
อีกอย่างเธอสามารถสอนให้อะความารีนฝึกทักษะด้านความเร็วได้ ทดแทนพลังลมเสียงหวานเปรยสมทบ ส่วนพวกเธอที่เหลือจะได้รับมอบหมายให้คุ้มกันโรงเรียน ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานจะต้องเกิดเรื่องวุ่นวายแน่
การ์มี โซล มารีอา และแพทตี้พยักหน้ารับคำ
ผมไม่เห็นด้วยเสียงทุ้มลึกทรงพลังดังขึ้นจากร่างบุรุษผู้ครองนัยน์ตาสีโลหิต เรียกตาสีชาอ่อนไปสบแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ทำไมอะความารีนจำเป็นต้องฝึก เธออาจได้รับอันตรายได้
กระแสความห่วงใยเจือในน้ำเสียงทำให้บรรยากาศในห้องวาบหวามและตึงเครียดปนๆกันไป บุรุษเลือดร้อนที่ยืนกรานจะปกป้องหญิงที่ตนรักสุดชีวิต ทุกคนรับรู้ถึงความรู้สึกนั้น หากแต่..
โทรปิคอร์นรู้การเคลื่อนไหวของเราแล้วสตรีร่างเล็กเผยสีหน้ากลัดกลุ้ม ดวงหน้าหวานดูอิดโรยราวกับเหนื่อยล้าเต็มทน ถ้าไม่เร่งเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังในตัว อะความารีนจะยิ่งตกอยู่ในอันตราย
ความกดดันประหลาดแผ่คลุมทั่วห้อง ทุกคนนิ่งเงียบรับรู้ถึงพลังในกายที่แล่นพล่าน สงครามครั้งใหญ่กำลังจะอุบัติ และกุญแจดอกสำคัญที่จะนำมาซึ่งชัยชนะ อยู่ในเงื้อมมือผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่นั่งช้อคค้างราวกับวิญญาณได้หลุดออกจากร่างไปแล้ว
ถ้าหากอะความารีนเป็นอะไรไปเสียงทุ้มลึกเปรยทิ้งท้าย นัยน์ตาคมกริบจ้องนิ่งฉายแววเอาจริง ผมจะกลับมาทวงความรับผิดชอบ
สตรีผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดในห้องกระดกยิ้ม ทอดมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างนึกโกรธปนเอ็นดู สายตาของเธอมองไม่ผิด ตั้งแต่วันแรกที่เขาก้าวเข้ามาในโรงเรียน ตาสีแดงเพลิงที่ฉายชัดถึงความเป็นผู้นำ เป็นที่พึ่งพาได้ทำให้เขาได้เป็นประธานนักเรียนแห่งสภาโรงเรียนได้ในเวลารวดเร็ว แม้จะปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลไปหน่อย แต่ข้อนี้ต้องใช้ประสบการณ์ ไม่เร็วก็ช้าคนตรงหน้าจะต้องได้เรียนรู้อย่างแน่นอน
ตาสีชาอ่อนเบือนไปสบกับดวงตากลมโตคู่สวยของเด็กสาวข้างๆร่างหนา
คนที่มีอำนาจสามารถทำได้ทุกอย่าง ถ้าอำนาจนั้นตกไปอยู่ในคนโลภ เห็นแก่ตัว มันจะถูกใช้ไปในทางลบ ในทางกลับกันถ้ามันถูกใช้ไปในทางที่ดี จะเกิดประโยชน์มหาศาลให้กับอีกหลายชีวิต
ร่างบางขยับตัวเมื่อถูกจ้อง แต่กระนั้นก็ไม่ได้หลบสายตา ตากลมโตคู่เดิมสะท้อนวูบ
อะความารีน เธอเท่านั้นที่จะควบคุมอำนาจเหล่านั้นได้
มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น
หลังจากที่ร่างอาจารย์ใหญ่ก้าวผ่านบานประตูออกจากห้องไป ทั้งห้องก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว บทสนทนาจึงถูกเปิดโดยคนที่ชอบพูดมากที่สุด ณ ที่นี้
ชาร์
อะความารีน เป็นไงบ้าง รู้สึกยังไงตอนนี้ เจ็บรึเปล่า?ราล์ฟพุ่งตัวเข้ามาพอๆกับฉันที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ กำลังจะรับกอดจากเพื่อนที่คิดว่ามันตายไปแล้วในสนามแข่ง แต่บุรุษข้างๆฉันกลับรั้งร่างนั้นไว้ ไม่ให้ขยับ
แพทริกซ์ นายต้องรู้จักแยกแยะนะว่าฉันไม่ได้คิดอะไรเกินเลยราล์ฟหรี่ตาลง ตาสีฟ้าเทาสั่นริกๆ
ท่านพี่ฉันเอ่ยเรียกพร้อมส่งสายตาอ้อนวอน ในที่สุดมือหนานั่นก็ยอมปล่อยร่างราล์ฟ ทันทีที่ถูกปล่อย ฉันก็เป็นฝ่ายเข้าไปกอดเขาก่อน
แกรอดได้ไงราล์ฟเฟฉันพูดเสียงอู้อี้ รู้สึกยินดีจนน้ำตาแทบไหล วินาทีนั้นฉันคิดว่าฉันเสียเพื่อนที่ดีที่สุดคนนึงไปแล้วตลอดกาล
คนมันดวงแข็งอะนะ ถ้าคนหล่ออย่างฉันตายไปสาวๆบนโลกคงจะเฉาตายคนชอบพูดโม้ไปว่อน เมื่อสบตากับบุรุษตาสีเพลิงที่เขาฉลาดพอที่จะแปลความหมายที่ดวงตาคู่นั้นต้องการจะสื่อ จึงต้องยึดหลักเอาตัวรอดเปรยประโยคถัดไป ง่า ยกเว้นเธอคนนึงละกัน
อยากตายก็ตายไปคนเดียว ไม่ใช่ลากคนอื่นไปด้วยการ์มีอดแขวะไม่ได้ ฉันจึงคลายอ้อมกอดจากราล์ฟแล้วมองหน้าคนพูด นึกขอบคุณที่พวกเขายังมีชีวิต
ฉันเห็นตั้งแต่วันแรกแล้ว ดวงชะตาของเธอ เกิดมาเพื่อเป็นฮีลเลอร์แพทตี้เปรยเรียบๆ ฉันยิ้มนิดๆ ก่อนหน้านี้เธอเคยบอกฉันแล้วแต่ ก็นั่นแหละ ใครจะไปเชื่อว่าฉันไม่ได้เกิดมาเพื่อตามช้อน?
ตกลงว่า เธอคืออะความารีนสินะมารีอาขัดขึ้น ทำให้บรรยากาศในห้องพลันตึงเครียดไปในทันใด แต่ยังไม่ได้ตอบอะไร ท่านพี่ก็เข้ามาดึงมือฉัน
ทักทายกันเสร็จแล้ว ฉันขอตัวพาควีนของฉันไปพักผ่อนสิ้นเสียง ท่านพี่ก็พาฉันออกไปจากห้อง ซึ่งฉันทำปากขมุบขมิบกับราล์ฟอย่างรัวเร็วไว้แล้วว่า ไว้เดี๋ยวค่อยคุย
หลังจากร่างทั้งสองก้าวพ้นบานประตู ราล์ฟกับมารีอาก็หันมามองหน้ากัน พร้อมใจกันเหลือบมองบุรุษอีกคนที่ยังคงยืนนิ่งราวรูปสลัก ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์จนติดจะเย็นชา
เฮ้อ
เกราะน้ำแข็งบางๆ ถูกสร้างขึ้นมาอีกแล้ว
หลังจากได้กลับเข้าไปในห้องพักอีกครั้ง ได้มองจนทั่วแล้วก็พบว่าการตกแต่งเรียบๆง่ายๆ ยังคงเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยนไปจากเมื่อสองปีก่อน จะมีก็แต่ดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่หลายช่อที่ถูกนำมาวางไว้ตามโต๊ะเล็กข้างเตียง ขอบหน้าต่าง มุมห้อง จนทำให้ทั้งห้องดูแคบลงถนัดตา
อะความารีนมองตามบุรุษร่างหนาที่เดินตรงไปยังหน้าต่าง มือหนาเลื่อนผ้าม่านให้ออกไปด้านข้าง ผลักบานหน้าต่างขึ้นไป ปล่อยให้แสงจันทร์เข้ามาเป็นแสงสว่างสลัวๆภายในห้อง
แล้วเจ้าของร่างเดิมก็หันกลับมาส่งยิ้ม พร้อมเดินเข้ามาเกือบจะชิดตัว ร่างบางเอียงคอนิดๆเป็นเชิงถาม
ให้เกียรติเต้นรำกับผมนะครับ
อะความารีน ฮีลเลอร์เสียงทุ้มนุ่มนวลถูกเปล่งจากริมฝีปากเรียว ฟังดูมีเสน่ห์ สายตาอ่อนโยนราวกับจะหลอมทุกสิ่งอย่างตรงหน้าให้เหลวเป็นน้ำ ร่างนั้นผายมือพร้อมโค้งตัวคำนับอย่างให้เกียรติ
คนถูกขอเต้นรำยอบกายลงช้าๆ ตาคู่โตไม่ได้ละจากสายตาน่ามองตรงหน้า ริมฝีปากอวบอิ่มระบายยิ้มน่ารัก ทำให้คนมองหลงเข้าไปในมนตร์เสนห์อย่างไม่อาจถอนตัว
ได้ค่ะ^^
มือเรียวเล็กข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นทาบลงบนบ่ากว้างของร่างบุรุษตรงหน้า ขณะที่อีกข้างวางประกบบนมือหนาที่ยกรอไว้อยู่แล้ว
นัยน์ตาสีแดงสดประสานกันแน่นิ่ง ใช้เสียงลมและเสียงหัวใจเป็นดนตรีบรรเลง เท้าคนคนตัวเล็กกว่าขยับไปตามคนตัวหนา ที่พาร่างบางเล็กขยับพลิ้วราวกับมีปีก
หลังจากที่มือหนายกขึ้นสูง พาร่างบางให้หมุนรอบตัวเองได้สองสามรอบ เจ้าตัวก็ดึงร่างนั้นเข้ามาแนบชิด พร้อมเปลี่ยนจังหวะเป็นช้าลง ผ่อนคลาย โดยที่คนในอ้อมกอดก็พิงซบอกกว้าง แนบแก้มเนียนชิดเข้าหาไออุ่น
ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้เสียงทุ้มลึกมีเสน่ห์ดังขึ้นแผ่วๆ เรียกนัยน์ตากลมโตสดใสขึ้นมาช้อนสบ วันที่ได้เห็นหน้าเธออีกครั้ง
ท่านพี่เมื่อเห็นตาคมกริบฉายรอยอาวรณ์ รอยยิ้มบนดวงหน้าคมคายนั้นดูเศร้าสลด บ่งบอกว่าสองปีที่ผ่านมาเขาทนเจ็บปวดมามากเพียงใด ภายในใจอะความารีนรู้สึกปวดร้าวยิ่งกว่า มารีน่าขอโทษที่ทิ้งท่านไว้คนเดียว
ดวงหน้าคมคายก้มลงพิงบ่าเล็กๆของร่างบางในอ้อมกอด กลิ่นหอมอ่อนๆลอยกรุ่นจากร่างนั้นทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม ความไม่สบายใจพลันมลายหายไปหมดสิ้น ตาสีเพลิงหลุบลงต่ำรับรู้ถึงสัมผัสนุ่มนิ่ม รับรู้ถึงการมีตัวตนของคนรัก เขาไม่ต้องการสิ่งใดมากกว่านี้อีกแล้ว
อย่าให้ฉันต้องอยู่โดยไม่มีเธออีกเลยนะ
สิ้นเสียงทุ้มลึก บรรยากาศในห้องก็ถูกปกคลุมด้วยอารมณ์รัก แม้โดยปราศจากคำพูดแต่เสียงหัวใจของคนสองคนก็สามารถรับรู้ได้ เสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกันไม่ผิดเพี้ยน
นัยน์ตากลมโตสีแดงสดเบือนออกไปมองนอกหน้าต่าง เป็นคืนที่ไร้แสงดาวระยับประดับท้องฟ้า มีเพียงดวงจันทร์ลอยเด่นอยู่อย่างโดดเดี่ยว เคว้งคว้าง กับลมหนาวที่ลอยพัดเข้ามาทางขอบหน้าต่าง
ถ้าฉันหายไป นายจะคิดถึงไหม
ถ้าเธอหายไป
ฉันจะรู้สึกดีมาก
หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น
ทรอนซีรา คนที่ดีแต่สร้างเรื่อง จะไม่อยู่กวนใจนายอีกต่อไป
ฉันค้นพบแล้วว่าแสงสว่างบนท้องฟ้านั้น อยู่ไกลเกินกว่าจะไขว่คว้า ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนที่จะคว้ามา สุดท้ายในมือก็พบแต่ความว่างเปล่า
คงทำได้เพียง
มองจากที่ไกลๆ
นัยน์ตาคู่เดิมตัดใจละจากภาพธรรมชาติตรงหน้าด้วยการหลุบซ่อนภายใต้เปลือกตา ไออุ่นที่ชิดใกล้ช่วยคลายความหนาวเหน็บของลมเย็น หากแต่ไม่สามารถลบความหนาวยะเยือกภายในใจได้
แสงสว่างนั้น
ไม่ว่าจะไกลกันแค่ไหน จะเฝ้ามองอยู่เสมอ จากที่นี่ ตรงนี้
จรดลึกในหัวใจ ไม่มีวันลืม
ห้องสีขาวสะอาดพร้อมเครื่องตกแต่งครบชุด อาบด้วยแสงจันทราที่ทอแสงผ่านขอบหน้าต่างที่เปิดอ้า เงาของร่างบุรุษผู้ยืนพำนักพิงขอบหน้าต่างทอดยาวลงบนพื้นพรม เรือนผมสีเงินสะบัดพลิ้วรับแรงลม นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้ม นิ่งลึกยิ่งกว่าท้องฟ้ายามรัตติกาลนั้นจับจ้องไปยังสิ่งที่ลอยเด่นอยู่บนฟากฟ้า
โดยปราศจากแสงดาว ดวงจันทร์ก็สามารถทำหน้าที่มอบความสว่างให้แก่สิ่งมีชีวิต
แม้ไม่มีดาว ดวงจันทร์ก็สามารถฉายแสงได้
ดวงหน้าคมคายราวรูปสลักนั้นเรียบเฉย จมดิ่งอยู่ในห้วงความคิด ปากเรียวเม้มเป็นเส้นตรง ไร้การเคลื่อนไหวใดใดในห้อง
ตาสีทะเลลึกหลุบต่ำลง ข่มอารมณ์บางอย่างที่ทำให้ข่มตานอนไม่หลับ มันเป็นความอัดอั้นในอก ความหงุดหงิดสับสน และเจ็บปวด
ความรู้สึกที่เขาไม่เข้าใจ
เธอว่าไงนะ..
ฉะ...ฉัน...ว่าไงหรอ ? ^ ^
เธอเป็นนักเรียนใหม่ที่ไม่รู้เรื่อง หรือเป็นใครที่ไหนไม่รู้และบังเอิญมาที่นี่ได้..?
ง่า...ฉันว่าอันหลังๆดูเหมาะกับฉันดีนะ ฮ่าๆๆๆ~TOT
ตั้งแต่วันแรกที่เจอ เธอคนนั้นสามารถทำให้อารมณ์นิ่งๆของเขาเริ่มไม่คงที่อีกต่อไป นัยน์ตาสีอเมทิสต์คู่นั้น สดใสเปล่งประกายทักทายกลับมาเสมอ
พูดว่าอะไรนะ
ฉันบอกไปแล้ว แต่ ว้า นายไม่ได้ยินซะแล้ว ก็เพราะเอาแต่แกล้งหลับอะนะ เลยอ่านปากฉันไม่ออกหรอก^^
ฉันรักนาย...ใช่รึเปล่า พอดีฉันแอบดูอยู่
บ..บ้า!! ฉันพูดว่า ฉันชอบกินเฟรนฟรายด์ต่างหาก!!=[]=//
เป็นคำแก้ตัวที่งี่เง่าสิ้นดี
ริมฝีปากเรียวขยับยิ้มนิดๆที่มุมปาก ก่อนจะชะงักแล้วถอนใจอีกครั้งที่ปล่อยให้ใครบางคนเข้ามาครอบงำความคิดอีกแล้ว
อะความารีน ฮีลเลอร์
เด็กสาวที่หล่นลงมาทับบนตัวเขาในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ขณะที่อารมณ์ความคิดของเขานิ่งสงบที่สุด
เธอเข้ามาป่วน ทำให้ความรู้สึกที่เคยคิดว่าควบคุมได้ดี สูญเสียการความคุมอย่างไม่เป็นท่า
สายตานั้นที่ปกป้องคนที่เธอรัก ฉายแววเด็ดเดี่ยวไม่ลังเล ตาคู่นั้น
เป็นแบบเดียวกันรึเปล่า ในวันนี้ จากที่เป็นคนคร่าชีวิตเธอเมื่อสองปีก่อน กลับกลายเป็นคนที่เธอปกป้องแทน
ดูเหมือนจะไม่มีเหตุผลที่จะเกลียดเธอได้ลง
นอกจากนิสัยส่วนตัวที่ขยันหาเรื่องให้เขาตามแก้นั่น
ยังมีอีกอย่าง
ในเมื่อเธอคิดจะกลับไปหาคนรัก ทำไมจะต้องมองกลับมา
แม้ในเวลาที่เธอมอบจูบให้กับแพทริกซ์ เธอยังละสายตาจากเขาไม่ได้
งี่เง่าสิ้นดี..
ดวงหน้าเจ้าชายน้ำแข็งพลันอ่อนลงโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นอย่างมีหวังก่อนจะแปรเป็นสงบตามเดิม
แม้ไม่มีดาว ดวงจันทร์ก็สามารถฉายแสงได้
แต่ท้องฟ้านั้นดูหม่นลงถนัดตา ดาวจะรู้ไหมว่ามันสำคัญขนาดไหน
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนจะปรากฏเป็นเงาร่างบางสมส่วนที่เบียดแทรกผ่านบานประตู กวาดตามองหาร่างเจ้าของห้อง ก่อนที่สีหน้าจะผ่อนคลายเมื่อพบร่างชายหนุ่มที่ยืนนิ่งพิงขอบหน้าต่าง
ทรอนซ์
มารีอาพาร่างมาหยุดตรงหน้าร่างเพื่อนชาย ตาสีชาอ่อนสั่นไหววูบหนึ่งก่อนจะค่อยๆสงบลง
ไร้เสียงตอบรับจากเจ้าของนาม ดวงหน้าหล่อเหลายังคงทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง ลมที่ตีเข้ามาไม่ได้ส่งผลกระทบกับร่างหนานั้นแม้แต่น้อย ตาคมกริบดูเลื่อนลอยยากจะหยั่งถึง
ฉันขอถามนายตามตรงหญิงสาวสูดอากาศเข้าเต็มปอด ดวงตาฉายแววแน่วแน่แม้ในใจจะลังเลอยู่ไม่น้อย นายชอบอะความารีนใช่ไหม
เจ้าชายน้ำแข็งยังคงรักษาสีหน้าได้ดี นัยน์ตาสีเข้มตวัดมามองคู่สนทนาเงียบๆแต่ไม่ได้ให้คำตอบ
ไม่เป็นไร นายไม่ต้องบอกฉันก็ได้ แต่ถ้าสายตาฉันมองไม่ผิด
ตาสีชาอ่อนหรี่ลงนิดๆพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก นายหลงรักอเมทิสต์ สาวน้อยคนนั้น
ตาคมกริบปราดมองเพื่อนสาวอย่างดุๆ ก่อนจะเบือนหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง ทำให้คนเปรยยิ้มไม่หุบ เสมองออกไปข้างนอกบ้างราวกับจะค้นหาว่ามีอะไรน่าสนใจคนข้างๆถึงได้จ้องนักจ้องหนา
รู้ไหม อัญมณีถึงจะเปลี่ยนรูป เปลี่ยนสี แต่เนื้อเดิมมันไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นอเมทิสต์ หรืออะความารีน มันก็คืออัญมณีเสียงหวานเปรยเนิบๆต่อไป ไม่ใส่ใจกับแววตาดุกร้าวของคนข้างๆตัว ของที่ต้องการ ไม่ว่าใครก็ต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มันมา การนิ่งเฉยมองดูสิ่งของสำคัญหลุดลอยไป ระวังจะเสียใจทีหลัง
มารีอาเสียงเยียบเย็นไม่ต่างจากลมหนาวที่พัดมาเป็นระลอก
ฉันก็แค่มาพูดลอยๆไม่ต้องใส่ใจนักหรอกสาวเจ้ายักไหล่ เหลือบมองเสี้ยวหน้าของบุรุษผู้เย็นชา ที่ดูจะเกร็งขึ้นทันตา ปากเล็กได้รูปขยับรอยยิ้มอย่างพอใจ ฉันไปล่ะ ฝันดีนะ
ตาคมกริบปราดมองตามหลังเพื่อนสาวที่เข้ามาพูดลอยๆใส่ไม่กี่ประโยคแล้วจากไป จนประตูสีขาวปิดสนิท ดวงตาสีทะเลลึกบังเกิดความแปรปรวนราวกับมีคลื่นโหมกระหน่ำก่อตัวขึ้นมาพร้อมพายุเฮอริเคน อารมณ์ที่เพียรจะให้สงบก็พังครืนลงด้วยคำพูดลอยๆนั่น!
รัก
คำนั้นไม่เคยอยู่ในหัว ไม่เคยคิดจะเอื้อนเอ่ย เพราะคนอย่างเขาไม่ควรจะมีคำคำนี้ นับแต่วันที่เกิดมา เขาไม่คู่ควรที่จะได้รับความรักจากท่านพ่อ ท่านแม่ หากพวกท่านรู้ว่าสิบเจ็ดปีให้หลัง เด็กน้อยที่พวกท่านพร่ำบอกว่ารักนั้นจะย้อนกลับมาทำลายทุกสิ่งให้พินาศ
พวกท่านจะยังบอกว่า รัก เด็กคนนั้นอีกไหม
?
ดวงตาคมกริบฉายรอยเจ็บปวดวูบหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉยตามเดิมเมื่อลมพัดเข้ามาปะทะร่าง ใจที่โอนเอนพลันมั่นคง รับรู้ถึงจุดยืนที่แน่ชัด ลมนั้นช่วยพัดเอาสติและการรับรู้ตัวตนของเขากลับคืนมา
ถ้าเพียงแต่เขาไม่ใช่เจ้าชายทรอนซีราแห่งโซลิเซียร์
ผู้ที่เกิดมาพร้อมความหายนะและคำสาป ผู้ที่ไม่มีที่ว่างให้ใครขึ้นมายืนข้างๆ
บางที
ทรอนซ์หลุบตาลงต่ำ ปล่อยห้วงความคิดสุดท้ายไปพร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
บางทีเขาอาจจะเอื้อมมือคว้า
ไม่ให้อัญมณีนั้นหลุดลอยไป
หลังจากก้าวพ้นบานประตูไม้สีขาว ร่างบางสมส่วนพลิกตัวก่อนจะก้าวเดิน แต่แล้วร่างเล็กของสตรีคนนึงก็ดึงความสนใจ เธอยืนพิงเสาหินสีขาว นัยน์ตาสีฟ้าดูเลื่อนลอยเสมองไปนอกหน้าต่างราวกับจมในห้วงภวังค์ แม้ว่ากำลังถูกจับจ้องร่างนั้นก็ไม่ได้รู้สึกตัว
ช้อกกี้พิงค์?เสียงหวานทักขึ้นก่อนจะพาร่างไปหยุดยืนข้างๆ จับจ้องดวงหน้าหวานละไมที่ดูหมองลง
มารีอาน้ำเสียงสั่นเครือชวนเวทนา กับน้ำตาที่ไหลลงอาบแก้มอย่างรวดเร็ว บ่งบอกว่าภายในใจผู้หญิงตรงหน้านั้นปวดร้าวมากเพียงใด
ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?
นั่นสิคะ ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่
ตาสีชาอ่อนเบือนไปสบกับคู่สนทนาที่ดูจะตีความหมายของเธอผิดไป แต่ดูเหมือนคนข้างๆจะต้องการพึ่ง เธอจึงหลับตาเสกชุดโต๊ะเก้าอี้พร้อมชาอุ่นๆขึ้นมา
เธอคงมีเรื่องอยากจะระบาย
ขอบคุณค่ะร่างบางทิ้งตัวลงบนเก้าอี้เบาะนิ่ม รับถ้วยชาจากผู้หญิงตรงหน้า เธอยังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่ไหม มารีอา
คนถูกถามชะงักกึก ก่อนจะเทน้ำชาลงในถ้วยต่อไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ถ้าเธอยังคิดว่าฉันเป็นเพื่อนเธอ ฉันก็ยังคงเป็นเพื่อนเธอ พิงค์
ฮึก..สาวน้อยคนข้างๆพยายามกลั้นสะอื้นสุดกำลัง น้ำใสๆไหลรินไม่ขาดสาย ทำให้มารีอาต้องเอื้อมมือไปปลอบ
เรื่องที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้มันแล้วไปเถอะ อย่ายึดติดกับอดีตอีกเลย มันยิ่งจะทำให้หัวใจเธอทนไม่ไหวน้ำเสียงอ่อนโยนราวปลอบปละโลมชวนให้คนฟังรู้สึกอบอุ่น นัยน์ตาสีฟ้าสั่นระริกฉายแววซาบซึ้งใจ
ฉันผิดเองมารีอา ฉันทำร้ายทรอนซ์อย่างไม่น่าให้อภัย ทั้งที่เขาเปิดใจให้แล้วแท้ๆ
ช้อกกี้พิงค์ระบายความในใจเป็นคำพูด เพราะคำสาปนั่น คืนนั้นฉันเห็นอีกหนึ่งร่างของทรอนซ์ มันเหมือนฝันร้าย ฉันไม่อาจอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป เลยเลือกที่จะขอท่านนิมฟอริด้าให้ลบความทรงจำให้
มารีอาชะงัก พอเข้าใจคนร่างเล็กข้างๆถึงสาเหตุที่เธอจากไปเมื่อสองปีก่อน แต่มีบางเรื่องที่ไม่เข้าใจ..
แล้วทำไมเธอถึงกลับมา?
ในวินาทีที่เขาจะลบความทรงจำของฉัน ฉันก็เกิดอยากเปลี่ยนใจ ในหัวมีแต่เรื่องทรอนซ์ ฉันเพิ่งค้นพบว่าฉันรักเขามาก มากกว่าสิ่งอื่นใดในโลก ความรู้สึกนี้มันยังคงอยู่ เมื่อพบทรอนซ์ ฉันจึงรู้สึกได้..
เฮ้อ
มารีอาถอนหายใจ ยกมือขึ้นกุมขมับ กับเรื่องรักๆใคร่ๆชวนน่าปวดหัวตรงหน้า ไม่รู้ใครเล่นตลกอะไร เรื่องถึงได้กลับตาลปัตรแบบนี้
มารีอา เธอรู้ไหม อีกร่างของทรอนซ์
คือปีศาจที่ฆ่าพ่อกับแม่ฉัน
!!!!
นั่นเป็นสาเหตุที่ฉันทนรับไม่ได้ ไม่ใช่ว่าฉันรังเกียจหรอกนะคะ แต่ฉันจะรักเขาได้ยังไง..
เหลวไหล!!มารีอาสะบัดหน้าพรืด สีหน้าฉายชัดถึงความตระหนกสุดขีด ทรอนซ์ไม่เคยฆ่าใครในร่างนั้น หลังจากที่ถูกพาตัวมาจากโซลิเซียร์เขาก็ควบคุมมันได้
ยกเว้นเหตุการณ์สองปีก่อนที่เธอเห็นร่างนั้น
แต่ฉันมั่นใจว่าเป็นปีศาจตนเดียวกัน
ถ้างั้น
หรือว่า
!
ตาทั้งสองเบิกกว้าง แล้วค่อยๆหลุบต่ำลงด้วยหัวใจที่เต้นรัว สิ่งที่เพิ่งค้นพบเรียกความกลัวจนสุดก้นบึ้งของหัวใจ
คำสาปนั้น ไม่ได้มีแค่ทรอนซีราคนเดียวหรอกหรือนี่
ร่างสตรีสมส่วนเดินผ่านทางเดินยาวที่ไล่ไปจนสุดหอพักธาตุพิเศษ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรง ในหัวพลันรู้สึกหนักอึ้งราวกับผ่านการใช้ความคิดมามากมาย
เป็นเวลาดึกสงัดไร้ผู้คนเดินพลุกพล่าน เสียงฝีเท้าของเธอจึงดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน ลมพัดมาหวิวๆทำให้เส้นผมหยักศกสีชานั้นปลิวไสว มือเรียวยกขึ้นปัดไรผมที่ปรกหน้า ก่อนจะหยุดกึกเมื่อพบว่ามีร่างบุรุษผู้หนึ่งปราดมาหยุดตรงหน้า
ความเร็วแบบนี้ มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง
ราล์ฟเฟ- -ว่าพลางชักสีหน้าหงุดหงิด เพียงแค่เรื่องในวันนี้ก็น่าปวดหัวพออยู่แล้ว ยิ่งมาเจอคนสร้างเรื่องเก่ง ก็ชวนให้ปวดขมับจนนึกอยากจะนอนพักเสียตรงนี้
ใช่ ฉันเอง^^เจ้าตัวดียิ้มร่าไม่สนสายตาดุๆ
มีอะไร
ถามงี้เลยหรอ-w-ตาสีฟ้าเทากระพริบปริบๆ เหลือบมองดวงหน้าสาวเจ้าที่เริ่มยุ่ง สายตาก็พลันเปลี่ยนเป็นนิ่งสงบ น้ำเสียงหนักแน่นจริงใจ คิดถึง
คำที่คนฟังชะงัก แล้วสบถด่ากลับมาทั้งที่ดวงหน้านวลนั้นขึ้นสี
คนสร้างเรื่องเก่งก็ยังคงถนัดสร้างเรื่องน่าปวดหัว
ฉันไม่ว่างมาฟังนายพร่ำเพ้อหรอกนะ ขอตัวร่างบางเดินจ้ำออกไปอีกทาง แต่ก็ต้องหยุดค้างเมื่อรับรู้ถึงไออุ่นจากร่างคนที่สวมกอดข้างหลัง
เธอจะไม่คิดถึงฉันหน่อยหรอ อีกสองวันฉันต้องเดินทางแล้วนะน้ำเสียงกระเง้ากระงอด ฟังดูน่าขันเมื่อมันถูกเปล่งมาจากบุรุษ ไม่ใช่เด็กน้อย
จะไปไหนก็ไปเถอะ ปล่อยฉันได้แล้วรับรู้ถึงร่างที่ดิ้นในอ้อมกอด เจ้าตัวดีก็กอดรัดร่างนั้นแน่นขึ้น สายตาที่มองไปนั้นอบอุ่นยิ่งกว่าครั้งไหนๆ หากแต่ไม่มีวันที่ใครจะได้เห็น
เบื้องหลังใบหน้ายิ้มแย้มร่าเริงของบุรุษนามราล์ฟเฟ ครอส
มารีอา ไทรีนอลเสียงทุ้มแหบพร่าฟังดูมีเสน่ห์อย่างน่าขนลุก ทำให้คนถูกเรียกลืมดิ้นแล้วเบิกตาค้างพร้อมกับหัวใจเต้นถี่รัว ฉันรักเธอ
คำสารภาพจากปากจอมปากมาก ทำไมถึงฟังดูมีพลัง หนักแน่นยิ่งกว่าครั้งไหน
คราวนี้ดูเหมือนคำคำนั้นจะสูบพลังงานออกจากร่างไปจนหมด เพราะร่างบางไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืนอีกต่อไป ตาสีชาอ่อนหลุบลงต่ำซ่อนอารมณ์หวั่นไหว
ฉันแค่อยากจะรู้
ซักครั้งก็ยังดี ว่าในหัวใจเธอ มีฉันบ้างไหมคำที่ฟังดูเลี่ยนกลับกลายเป็นลื่นหูชวนให้หัวใจสั่นสะท้าน ตาสีชาอ่อนตวัดไปสบกับดวงตาคมกริบ ไม่มีแววล้อเล่นแต่อย่างใด
ราล์ฟ
ร่างนั้นพลิกตัวกลับไป มือเรียวยกขึ้นทาบอกบุรุษตรงหน้า สายตาสั่นริกๆราวกับต้องการสื่อความนัย ปากเรียวเผยอขึ้นเตรียมจะพูด แต่เสียงหนึ่งดังขัดขึ้น
ปล่อยว่าที่ภรรยาของฉัน ถ้านายไม่อยากเจอดีเสียงทุ้มลึกดึงขึ้นก่อนจะปรากฏเป็นร่างหนาของบุรุษผู้ครอบครองตาสีน้ำตาลแดง คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างไม่สบอารมณ์
เอริค
เสียงมารีอาแผ่วเบาจนน่าใจหาย ราล์ฟตวัดสายตามองคนในอ้อมกอด สลับกับผู้มาเยือนที่กล้าประกาศลั่นว่าสตรีผู้นี้เป็นว่าที่ภรรยา?
มันจะมากไปแล้วนะเว้ยตาสีฟ้าเทาสั่นไหววูบหนึ่ง ปล่อยร่างบางในอ้อมอก กระแสไฟฟ้าแลบแปลบๆมาจากอุ้งมือ
เท้าทั้งสองถีบส่งร่างให้พุ่งตรงเข้าสู่คนที่บังอาจพูดจาไม่เข้าหู
อย่า!!แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อร่างบางสมส่วนนั้นวิ่งเข้ามาขวาง ตาสีชาอ่อนเบือนหลบไปแว๊บหนึ่ง ก่อนจะกลับมาโชนแสงเหมือนเดิม คนคนนี้คือคู่หมั้นของฉัน
!ดวงตาเบิกกว้าง มองจับจ้องไปยังดวงหน้าสตรีตรงหน้าที่ยังสงบ
และถ้าขืนแตะต้องว่าที่ภรรยาฉันอีกละก็ ฉันกับนายคงต้องเจอกันสักตั้ง
ตอนนี้เลยได้ไหมวะ!
ราล์ฟเฟ เอริค หยุดเดี๋ยวนี้!!เสียงหวานประกาศกร้าว ด้วยดวงตาแน่วแน่ไม่แพ้กัน ทำให้ทั้งคนก่อเพลิงและคนที่กำลังกระโดดเข้าไปในเพลิงปิดปากเงียบ
ถ้าพวกนายสู้กัน ฉันนี่แหละจะฆ่าพวกนายทั้งสองคน!!อัศวินสาวประกาศลั่น ก่อนจะเดินดุ่มๆออกจากวงทะเลาะอันมีเธอเป็นต้นเหตุอย่างไม่สบอารมณ์
ความรัก
มันช่างเล่นตลกกับผู้คนได้อย่างโหดร้าย
หนทางที่ไม่อาจเลือก ทางเดินที่ถูกกำหนดไว้แล้ว รอให้สองเท้าเดินย่ำเข้าไปแม้ไม่รู้ว่าปลายทางนั้นสิ้นสุดตรงไหน
หน้าที่ของไทรีนอล คือสิ่งที่ทายาทอย่างเธอพึงปฏิบัติ
เติบโตเป็นไทรีนอลที่แข็งแกร่งเท่านั้น ส่วนเรื่องของหัวใจ มันไม่อยู่ในกฎของวงศ์ตระกูล
ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะเลือก เมื่อผู้อาวุโสแห่งตระกูลมีคำสั่งลงมาแล้ว ก็ไม่อาจขัดขืน
มารีอา ไทรีนอล ถูกกำหนดให้เป็นคู่ชีวิตของ เอริค ฟิลเลอร์ ทายาทคนสำคัญของตระกูลนักดาบในตำนาน
เป็นความจริงที่ต้องก้มหน้ายอมรับอย่างไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
To Be Con.
Writer: อ๊าย จะจบภาค1แล้วนะคะอีกตอนเดียวเท่านั้น!!
รับรองว่าภาค2ไม่มีดราม่าค่ะ(มีแต่น้อย) มีแต่รั่วกับฮา-w- เพราะเอาชาร์..เอ้ย อะความารีนมาประกบคู่กับราล์ฟเฟ รับประกันความมันส์!
เนื้อเรื่องพลอตไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดค่ะ แล้วจะนำทีเซอร์ มาแจกตอนหน้านะคะ ^^
อย่าลืม!! อ่าน+เม้น = กำลังใจ (สมการที่เป็นจริงทุกกรณี)
Amethyst Aquamarine
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

โทษทีค่ะ เรื่องหน้าจะพยายามไม่ให้ดราม่าหนักแล้วล่ะ
มารีอาก็มีคู่หมั้น แล้วราล์ฟเฟละ
ทรอนซีราอีก แล้วที่ต้องคำสาปอีกคนละ
แล้วตกลงเรื่องราวเป็นไงต่อน้ออ~~~~
สนุกมากเลยค่า
อยากให้จบแบบนางเอกรักกับพระเอกนร้าๆๆๆๆๆๆ อย่าจบต้างเรยพลีสสสส~~~~!!!!
อัพไวไวนะคะ อยากอ่านภาค 2 จัง
แต่เค้าอยากเฝ้าไรเตอร์บอกทรอนซ์นะ อย่าปล่อยมือจากอะความารีนเด็ดขาด เพราะเค้าเชียร์ทรอนซ์อยู่
ปล.อัพไวๆนะค่ะ