ตอนที่ 26 : The Keyz 26 ความจริงที่ปรากฎ
[26]
จิตใต้สำนึก?
ไอ้คำนี้มันจะยิ่งใหญ่แค่ไหนกัน ก็แค่จิตใต้สำนึก
ในหัวพยายามช่างน้ำหนักคำสี่พยางค์ความหมายตรงตัว วิเคราะห์แม้กระทั่งรากศัพท์แต่ละคำจนดูยุ่งยาก แต่แล้วเมื่อหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ฉันก็ถอนใจเลิกคิดต่อ แล้วยิ้มออกมาแทน
ฟังแล้วดูดี
ว่าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้างขึ้นไปอีก พอเห็นแผ่นหลังกว้างของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าห่างไปอีกสองเมตร หัวใจก็พองโตแถมเต้นผิดสเต็ป
ชาร์ลีนนน!!เสียงคนทะเล้นดังขึ้นขอความช่วยเหลือ ฉันกวาดตามองสนามกว้างที่แม้จะแข่งเป็นนัดที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ แต่ฉันก็ยังไม่ชินกับขนาดที่ทั้งด้านข้างด้านยาวนี่กว้างมากจนอยากจะสะกิดมารีอาให้เสกกล้องส่องทางไกลมาให้
พอเห็นเป้าหมายว่าเจ้านั่นกำลังพยายามร่ายเวทย์ ปากขมุบขมิบเปล่งเสียงถ้อยคำประหลาดรัวเร็ว เกราะเวทย์บางๆสีฟ้าเริ่มก่อเป็นไอขึ้นตรงหน้า ใหญ่เท่าความกว้างสนามที่สามารถคุ้มกันได้ทั้งเขตแดน
มิน่า มันถึงไม่มีเวลาไปรักษาร่างโชกเลือดของตัวเอง
ฮีลฉันยอบตัวลง แตะมือลงไปบนพื้นขณะที่ตาจ้องไปยังร่างเป้าหมาย แสงสีฟ้าละมุนสว่างวาบขึ้นจากร่างราล์ฟเฟ
มารีอาถูกส่งออกไปนอกเกราะคุ้มกัน เพื่อบุกชิงธง
ฉันพออ่านเกมได้ลางๆหลังจากยืนมองตั้งแต่ต้นเกม ผ่านมาสิบนาทีแล้วสู้ยังไม่รู้ผล ตอนแรกส่งโพรเทกเตอร์ออกไปลองเชิง แต่ฝ่ายนั้นดูจะถนัดใช้เวทย์มากกว่าฝีมือ ถึงได้ส่งลูกกลมๆเปล่งแสงได้ มาโจมตีไม่หยุดหย่อน ทำเอาเจ้าราล์ฟเผ่นกลับแทบไม่ทัน เลยต้องมาปักหลักทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สร้างเกราะให้เขตแดนที่ถูกทำลายยับแทน
พอรู้สึกถึงเนื้อเยื่อที่ประสานกันสนิท ฉันก็ยืนเต็มความสูงอีกครั้ง มองดูไนท์สาวที่บุกเข้าไปอย่างไม่หวั่นเกรง ก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่
มั้ง เพราะทั้งไนท์ทั้งโพรเทกเตอร์ฝ่ายนั้นดูจะยุ่งกับการใช้เวทย์โจมตีเกราะของราล์ฟที่เริ่มขยายใหญ่จนกินเขตแดนฝั่งตรงข้าม
นี่หรือ
แผนราล์ฟฟริยุปราคา ที่มันพ่นใส่หูเมื่อกี้
มันกะจะรวบเอาทั้งสนามให้อยู่ในอาคมของมัน
เมื่อผู้ใช้เวทย์ตกอยู่ในอาคม ผู้ที่ได้เปรียบย่อมเป็นคนลงอาคม ทีนี้จะเรียกสายฟ้า เรียกลม เรียกฝนได้ไม่อั้น
ทรอนซ์ ช่วยฉันหน่อยเสียงคนปากมากที่เวลานี้ดูเป็นงานผิดหูผิดตา เหงื่อผุดเกาะตามใบหน้าทำให้ฉันอดสงสาร แต่ก็ช่วยไม่ได้ แค่ร่ายเวทย์รักษาได้ ไม่ทำให้ใครตาย นี่ก็บุญโขแล้วจริงๆ
ร่างตรงหน้าฉันขยับนิดๆ ไอเวทย์เริ่มก่อตัวรอบด้าน กลิ่นไอที่แสนคุ้นเคย
มันเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก เกราะคุ้มกันจากทรอนซ์กับราล์ฟเกิดเป็นพลังอำนาจบางอย่าง ชวนให้อุ่นใจ ว่าภายใต้เขตแดนนี้จะไม่มีอันตรายใดใดแทรกผ่านเข้ามาได้
รุกฆาตโพรเทกเตอร์จอมทะเล้นประกาศ หยุดร่ายเวทย์เนื่องจากขอบเขตนั้นไกลโขไปจนถึงอีกฝั่ง แผนบุกกลืนเขตแดนศัตรูประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ฉับพลันสายฟ้าก็ฟาดเปรี้ยง! ไปยังร่างโพรเทกเตอร์และไนท์ฝ่ายตรงข้าม ควันลอยฟุ้งขึ้นบดบังภาพตรงหน้า ราล์ฟถือโอกาสถีบส่งตัวเองบุกเข้าไปยึดธง แต่ทว่า
ฮ่าๆๆๆ คิดว่าจะง่ายอย่างนั้นหรอเสียงประหลาดดังฝ่าหมอกควัน ราล์ฟชะงักฝีเท้าขณะที่วิ่งเข้าไปในเขตนั้นได้แล้วครึ่งทาง
ในใจทุกคนบังเกิดความสงสัย แต่พริบตาต่อมาฉันก็เข้าใจว่ามันจะมาไม้ไหน!
ปริ๊นซ์ สุดหล่อ
เสียงเย้ายวนชวนลุ่มหลงดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกล ร่างหญิงสาวนางหนึ่งปรากฎตัวขึ้นข้างๆทรอนซ์ที่ยืนร่ายเวทย์ประคองเกราะคุ้มกันอยู่ หล่อนเอามือไล้ไปยังใบหน้าที่ฉันมองไม่เห็น ไล่มือลงมาที่แผงอก ดวงตาแพรวพราวยิบยับจ้องไปยังร่างสูงหนา
นี่มัน
.กะยั่วชัดๆ
แล้วไอ้บ้านั่นทำอะไรอยู่ ไหนว่าหวงตัวนักหนาไง ปล่อยให้โดนลวนลามแบบนี้งั้นหรอ
หนังที่กำลังฉายสดตรงหน้าทำให้ฉันรู้สึกร้อนๆที่หน้า เส้นเลือดที่ขมับปวดตุบๆ พลังบางอย่างกำลังพลุกพล่านขึ้นมา อัดแน่นจนต้องหาวิธีระบายออกก่อนที่จะเป็นบ้า
ถ้าปริ๊นซ์ไม่ว่าง เพราะกำลังร่ายเวทย์ ดังนั้นคนที่ว่างก็ควรจะจัดการธุระให้สินะ
หนอยฉันพุ่งปราดเข้าไปยังร่างนั้นแล้วเข้าชาร์จสุดแรง ส่งผลให้ทั้งฉันและผู้หญิงคนนั้นล้มกลิ้งไปกับพื้น
อย่าให้อาคมหลุดนะทรอนซ์!!ราล์ฟตะโกนลั่นจากฝั่งตรงข้าม ในขณะที่ประมืออยู่กับนักเวทย์ที่หันมาจับดาบเพราะผลจากอาคมที่ทำให้ผู้ตกให้ห้วงอาคมไม่สามารถใช้เวทย์มนตร์ได้ นอกจากการสู้มือเปล่าหรือหยิบจับอาวุธ
ทรอนซ์ไม่ได้พูดอะไรและฉันก็ไม่รู้ว่าเขาทำหน้ายังไง ไม่มีเวลาสนใจหรอกเพราะฉันกำลังสู้ มือเปล่า กับผู้หญิงที่บุกเข้ามาใช้มารยาแทนการร่ายเวทย์
นี่เธอ!! ปล่อยฉันนะร่างที่โดนฉันจับกดร้องประท้วง แต่ฉันไม่ปล่อยง่ายๆหรอก เธอกล้ามาก
กล้ามากที่
ฉันชะงักกับการกระทำตัวเอง กระพริบตาปริบๆ ไอ้ความโกรธนี่มันคืออะไร ทำไมฉันต้องไปโกรธเขา ในเมื่อให้คนถูกกระทำน่ะมันคนที่พึมพำเวทย์อยู่ต่างหาก แถมมันก็ไม่ยักจะว่าอะไรสักคำ อาจจะดีใจด้วยซ้ำ..?
เธอนั่นแหละคิดจะทำอะไรฉันกระซิบแผ่ว มือกดไปยังไหล่ทั้งสองที่ดิ้นเร่าๆไม่ยอมหยุด ตัวทั้งตัวทาบทับอยู่บนร่างนั้น
ฉันแค่จะจูบเขาร่างข้างใต้พูดขึ้นมาอย่างไม่อายปาก
จูบ!!!
ใช่ ได้ยินว่าทรอนซีราไม่เคยมอบจูบให้ใคร ถ้าฉันอยากจะเป็นคนแรกแล้วเป็นไง?หญิงงามที่เปล่งคำพูดน่าเกลียดนั่นไม่ได้มีอาการขวยเขิน หน้าแดงแต่อย่างใด แต่มันกลับเป็นฉันที่หน้าร้อนซู่ขึ้นมาด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก อีกอย่าง ถ้าจูบฉันดีพอ อาคมของเขาจะถูกทำลายแล้วพวกฉันก็ทำอะไรๆสบายขึ้น
ฉันถลึงตามองร่างที่ไม่มีแววอาทรร้อนใจ คิดว่าที่พูดพร่ำมานี่คงเป็นเรื่องจริงสินะ พอหันไปมองคนร่ายเวทย์ที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย พึมพำอะไรไม่เป็นภาษา ฉันก็ชักหงุดหงิด
ทำไมเล็งจะโจมตีปริ๊นซ์ ไม่ชิงธงไปเลยล่ะง่ายกว่าฉันเสนอขึ้นอย่างลืมตัว แทบอยากจะตะครุบปากตัวเองแต่เกรงว่ามือมันไม่ว่าง
เธอไม่รู้หรือแกล้งโง่กันแน่เจ้าหล่อนหรี่ตาลงนิดๆ ภายใต้เขตอาคมใหญ่ขนาดนี้พวกฉันทำอย่างมากก็แค่เดินถือธงในเขตเธอนั่นแหละ
ในขณะที่ฉันเริ่มงง ร่างที่โดนกดอยู่ก็พลิกกลับมาทาบทับร่างฉันเป็นฝ่ายได้เปรียบแทน
จูบนั่น ฉันขอละกัน
สิ้นเสียงหล่อนก็เตรียมพุ่งเข้าไปยังทรอนซ์ แต่ เหอะ! ขอทีเถอะ คิดว่าฉันจะปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นงั้นหรอ
พลั่ก ฉันเตะไปที่ข้อเท้าที่กำลังออกตัว ทำให้ร่างนั่นสะดุดกึกก่อนจะล้มจ้ำม่ำไปข้างหน้า อารมณ์เดือดปุดๆในใจมันเริ่มปะทุแรงหนักกว่าเก่า บางทีฉันอาจเสียการควบคุมไปแล้วก็ได้
ได้ แค่จูบใช่ไหม บอกเอาไว้ก่อนนะว่าเธอไม่ใช่คนแรกที่ได้จูบเขาฉันกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน มองผู้หญิงอีกคนที่สีหน้าฉายแววงุนงง ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง ฉันยืนหยัดเต็มความสูงแล้วก้าวฉับไปหยุดตรงหน้าร่างสูงที่ยืนนิ่ง ไม่รู้ชะตากรรม
ทรอนซ์ชะงักเล็กน้อย สีหน้าฉายแววประหลาดใจวูบหนึ่ง ความกระดากอายไม่รู้มันปลิวหายไปไหน เพราะอารมณ์โกรธคุกรุ่นอัดแน่นในอก ทำให้ประกาศประโยคต่อไปได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ
อย่าบังอาจมาแตะต้อง คนของฉันฉันยิ้มเหี้ยมไปยังร่างหญิงสาวที่เบิกตาค้าง ตวัดสายตาไปสบกับนัยน์ตาสีทะเลลึกตรงหน้าที่เหมือนจะขอคำอธิบาย
ฉันเบียดตัวเข้าไปพร้อมโน้มหน้าเข้าไปใกล้ เขย่งเท้าส่งตัวขึ้นไป มือพาดวางที่บ่า แล้วประทับริมฝีปากอย่างถือสิทธิ์ กล้าหาญและจริงใจที่สุด
โอ้..เสียงคนดูสูดหายใจเข้าอย่างลุ้นๆถูกกลืนดับหายไปเหลือเพียงเสียงในหัวที่ดังก้องไปมา
อเมทิสต์ เธอทำอะไรลงไป
แม้เสียงในใจจะประท้วง แต่หมดปัญญาที่จะปฏิเสธสัมผัสอุ่นๆแสนคุ้นเคยตรงหน้านี้ได้
ร่างสูงหนาของเจ้าชายน้ำแข็งเกร็งขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มมองดวงหน้าที่อยู่ใกล้ระยะสัมผัสได้ถึงลมหายใจเข้าออก เจ้าตัวดีขยันสร้างเรื่องนั่นหลับตาพริ้ม มอบความหวานละมุนมาให้
หาเรื่อง..
ตาคมเข้มสั่นไหววูบหนึ่ง กล่าวโทษร่างเล็กในอ้อมกอด ที่ดูจะไม่สนใจกับสถานการณ์รอบด้านอีกแล้ว ก่อนจะค่อยๆปรือแพขนตาลงบ้าง
เขากลับยอมให้โดนหาเรื่อง..
เสียงเรียกร้องในใจอย่างยากที่จะปฏิเสธ เขาบดริมฝีปากลงไปหนักหน่วงขึ้นเป็นการทำโทษเจ้าตัวดีที่ทำอะไรไม่รู้เวล่ำเวลา
กึก
เกร๊ง
เสียงแตกหักทำเอาสติที่เกือบจะหลุดลอยกับรสจูบกลับคืนมา เจ้าชายน้ำแข็งลืมตาขึ้น ยอมผละจากความสุขตรงหน้าแล้วเหลือบขึ้นไปมองรอบด้าน
เวทย์อาคมกำลังจะถูกทำลาย
ไม่มีเวลาให้คิดอีกต่อไป เขาเรียกเกราะคุ้มกันอ่อนๆขึ้นมาพร้อมดึงร่างที่ยืนโอนเอนงงๆเหมือนเพิ่งรู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป ลงไปหมอบกับพื้นพร้อมเรียกเกราะเวทย์น้ำแข็งขึ้นมา
ตู้ม!!
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวจนผืนดินสั่นกราว ปริแตกออกเป็นรอยแยก
หลังการระเบิด ความเงียบวังเวงก็เข้าปกคลุม ไม่มีใครกล้าเปิดบทสนทนา กลุ่มคนดูได้หมอบลงไปติดพื้นเช่นกันตั้งแต่แว๊บแรกที่เห็นรอยปริแยกของเกราะเวทย์มหึมา
ส่วนต้นเหตุที่ทำให้มันถูกทำลายนั้นปิดหูปิดตาตัวสั่นด้วยความกลัว
อาคมจะถูกทำลายได้ถ้าอารมณ์ของผู้ใช้เวทย์สั่นไหว
หมายความว่าสาวน้อยคนนั้นสามารถสั่นคลอนภูเขาน้ำแข็งที่แสนเย็นชานั่น?
ในใจเกิดคำถามต่างๆนานา แต่ยังไม่มีใครกล้าพอที่จะถาม
ในสนามรบเหลือเพียงเกราะเวทย์สีฟ้า สามจุด
จุดแรกคุ้มครองเจ้าชายน้ำแข็งและฮีลเลอร์ต้นเหตุ ร่างหนานั่นกดทับร่างบางจากแรงระเบิดอย่างปกป้อง
จุดที่สองคุ้มครองร่างโพรเทกเตอร์แห่งทรอนซีรา ตาฟ้าเทาสั่นริกๆเหมือนเจอเรื่องสนุก
จุดที่สามคุ้มครองไนท์สาวที่นั่งหอบ ปักดาบไว้ข้างกาย
ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของผู้แข่งขันที่เหลือ สภาพสนามสุดจะพรรณนา มันต่างจากก่อนหน้านั้นโดยสิ้นเชิง รอยปริ รอยแตกแยกพื้นดินบ่งสภาพได้เป็นอย่างดีว่าแรงระเบิดนั้นรุนแรงเพียงใด ธงยิ่งไม่ต้องพูดถึง มันได้แหลกเป็นผงกองอยู่บนพื้นไว้ให้ดูต่างหน้า
ปี๊ดดดดดดดดดด..
เสียงแหลมเล็กบอกยุติการแข่งขัน
ทรอนซีราทีม ชนะ!!
หมายความว่าเธอถึงกับอาสา
จูบปริ๊นซ์ของเราแทนผู้บุกรุก?ราล์ฟทวนเสียงสูง เลิกคิ้วขึ้นแสร้งทำเป็นประหลาดใจแต่ตางี้สั่นริกๆเหมือนจงใจยั่ว
มันอันตรายเกินไป ความจริงเธอไม่สมควรทำอย่างนั้นนะ ถึงฉันจะพอเข้าใจว่าทำไมมารีอาพยักหน้าเนิบๆ ทำเอาคนถูกเข้าใจหน้าร้อนวูบ แต่ไม่วายตำหนิ น่าจะปล่อยยัยนั่นไป ยังไงฉันก็มั่นใจว่าอาคมไม่พังยับแบบนี้แน่
หมายความว่าฉันทำกับยัยนั่นทำมันไม่เหมือนกันรึไงฉันอดเถียงไม่ได้ ยังไงก็ต้องถือหางตัวเองไว้ก่อน
ไม่เหมือน
เพราะ..
การร่ายเวทย์ลงอาคมนั้นอาศัยพลัง สมาธิแกร่งกล้า ต้องไม่วอกแวกคิดเรื่องอื่น อารมณ์ต้องสงบปกติราล์ฟแทรกขึ้นมาหน้าด้านๆ มารีอาเลยหันควับมองตาเขียวปั๊ด อาคมจะถูกทำลายได้ถ้าอารมณ์ของผู้ใช้เวทย์สั่นไหว
ผู้ใช้เวทย์ที่ถูกกล่าวถึงขยับตัวนิดๆ ถึงจะแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ เอาแต่นั่งถือผ้า เช็ดดาบน้ำแข็งจนเงาวับ
การแข่งขันวันนี้สิ้นสุดลงแล้ว เหลือเพียงผู้ชนะสองทีมที่ต้องต่อศึกรอบชิงชนะเลิศต่อในวันพรุ่งนี้ เห็นทีจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
แพทริกซ์ VS ทรอนซีรา ทีม
ฉันไม่รู้นี่นาว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้ ดีที่ไม่มีคนตาย เฮ้อฉันพูดเสียงแผ่วลงเมื่อนึกถึงคำอธิบายจากราล์ฟว่าที่ชนะได้นั่นเพราะอีกฝ่ายไม่สามารถแข่งขันได้ต่อไปเนื่องจากโดนแรงระเบิด เสี้ยววิผู้ใช้เวทย์ที่ดูแลการแข่งขันก็เรียกตัวแต่ละคนออกจากสนามแข่งก่อนที่ร่างจะได้แหลกเป็นจุล
ทำอะไรไม่รู้จักคิดเสียงติเรียบๆดังขึ้นจากคนที่ไม่พูดเลยนับแต่ได้นั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่น
ขอโทษเถอะนะ แล้วคนคิดก่อนทำอย่างนายทำไมไม่ปฏิเสธปากยังคงหาเรื่องแก้ตัวไปเรื่อย แสร้งตีหน้าเคร่งทั้งที่กำลังยิ้มในใจ ผลักฉันออกไปก็ได้นี่นะ แต่ไม่ทำ แถมยัง..
แล้วฉันก็ทำสิ่งผิดพลาดเป็นครั้งที่สองในรอบวัน แทบจะปิดปากตัวเองไม่ทัน หน้าร้อนขึ้นเมื่อนึกถึงจังหวะที่เขาเบียดริมฝีปากเข้ามาหนักหน่วง พอสบสายตากับตาคมกริบก็แทบอยากจะอันตรธานไปจากที่นี่
อะแฮ่ม จะจีบกันก็ไปจีบที่อื่นดิ อิจฉา-3-ราล์ฟเฟบ่นเสียงดัง มองฉันกับทรอนซ์สลับกันไปมา นี่พวกนายติดใจตั้งแต่ชาร์จพลังตอนนั้นใช่มะ ฉันว่าแล้วๆบรรยากาศมันวาบหวิวแปลกๆ
คนถูกอิจฉาก็มองหน้ากันไม่ติด อารมณ์เริ่มปั่นป่วนทั้งที่อยากจะปฏิเสธแต่เรื่องมันมาไกลเกินจะเถียง
ฉันมองทรอนซ์ที่สีหน้ายังคงนิ่ง แต่อะไรบางอย่างในแววตาเขาเปลี่ยนไป
ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ หรือฉันไม่เคยสังเกตุ?
ไม่สงสัยเลยหรือ วันนี้ในการประลองได้เป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี
เขาไม่ปล่อยให้ฉันตกอยู่ในอันตราย เขาที่ยืนหยัดปกป้องฉันทุกวิถีทาง
นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มคู่สวยนั่นคอยหันกลับมามองเป็นระยะ เพื่อเช็คดูความปลอดภัยของฉัน
ฉันคงจะใจร้ายเกินไป ถ้าคิดว่าการกระทำนั่นเป็นเพียงความรับผิดชอบของปริ๊นซ์?
เอาเถอะ ดึกแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ ศึกใหญ่พรุ่งนี้ยังรออยู่มารีอาเปรยก่อนจะยกมือปิดปากหาววอด สีหน้าอิดโรยบ่งสภาพเหนื่อยล้าจากการแข่งขันได้เป็นอย่างดี ในตำแหน่งไนท์ฉันรู้แล้วว่ามันแสนลำบากยากเข็ญขนาดไหน เทียบกับฉันที่ยืนนิ่งคอยส่งพลังจากที่ไกลๆนั่นนับว่าฉันได้งานที่สบายมากกว่ามากทีเดียว
หึหึ สนุกแน่ราล์ฟยิ้มพราย ขณะที่บิดขี้เกียจเอื้อมมือไปนวดไหล่ประคบยา ที่มันบ่นตั้งแต่แข่งเสร็จว่าเมื่อย พอฉันจะเข้าไปรักษามันก็บอกให้เก็บพลังเอาไว้ใช้ เพราะวันนี้ทุ่มเทพลังไปมาก ราล์ฟแอบกระซิบให้ฉันไปขอพลังจากทรอนซ์ ผลคือฉันอดไม่ได้
ที่จะกระโดดถีบหมอนั่น ดูยังไงก็รู้ว่าจงใจยั่วชัดๆ- -//
หลังจากนั้นร่างมารีอาเดินงัวเงียออกจากห้องนั่งเล่น ตามติดไปด้วยราล์ฟที่มือยังประคบไหล่ดูน่าเวทนา เสียงขยับตัวทำให้ฉันเหลือบไปมองทรอนซ์ที่ลุกจากโซฟา เก็บดาบคู่ของเขาไปแล้วก้าวขึ้นบันไดโดยไม่รอ
เฮ้ย รอด้วยสิฉันจึงรีบวิ่งปราดตามไปติดๆ
ทรอนซ์มีสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม ฉันพยายามร้องเรียก สะกิด แต่แล้วเขาก็ไม่หันกลับมามองสักนิด คงกำลังโกรธละมั้ง เอาแต่ปราดตามองดุๆ แล้วก็เงียบ นิ่ง ไม่พูดไม่จา จนสุดขั้นบันไดชั้นสอง เขาเดินมุ่งเข้าไปในห้อง
เส้นอารมณ์ของฉันก็ขาดผึง
เป็นอะไรไปอีก ทำไมต้องทำตัวเหินห่าง..
มาคุยกันก่อนฉันออกคำสั่งสั้นๆทั้งที่รู้ว่าไม่มีผล เขาจับลูกบิดประตูแล้วแทรกร่างเข้าไป เป็นจังหวะที่ฉันรออยู่แล้วเพราะฉันเบียดตัวเข้าไปในห้องด้วยแบบที่เจ้าของห้องตั้งตัวไม่ติด
ตาสีทะเลลึกปรายสายตามาอย่างดุๆ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน พุ่งชาร์จร่างหนานั้นดันไปจนติดกำแพง
นายเป็นบ้าอะไรฉันมองไปข้างหน้าอย่างตัดพ้อ เห็นแววสั่นไหวในตาคู่คมกริบวูบหนึ่งก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชายากจะหยั่งถึงอย่างเคย
ทรอนซ์
ฉันเรียกชื่อเขาอีกครั้ง สายตาเว้าวอนนี่คงพ่ายแพ้ให้กับความเย็นชา ห่างเหินกับกำแพงที่เขาก่อขึ้นมาสินะ ทำยังไงฉันถึงจะทำลายมันไปได้ เกราะน้ำแข็งหนาปึ้กที่เขากันตัวเองออกห่างจากทุกคน?
งั้นก็ได้ นายไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูดฉันพยักหน้าเนิบๆ ก่อนจะประกาศกร้าว แต่พลังของฉันมันคงไม่พอสำหรับพรุ่งนี้ คงต้องขอให้นายช่วย
ฉันไม่สนใจว่าเขาจะปฏิเสธหรือเปล่า ความกล้าจากไหนไม่รู้เป็นพลังให้ฉันมีแรงฉุดคอเสื้อร่างสูงหนาตรงหน้าให้โน้มหน้าลงมาใกล้ก่อนจะประทับจุมพิต แล้วรอ
นัยน์ตาสีเข้มนั้นนิ่งสงบยากแก่การคาดเดา เขาค่อยปรือตาลง แสงสีฟ้าจากร่างเขาพุ่งผ่านริมฝีปากอุ่นมายังฉันที่รับรู้ถึงพลังอ่อนๆ แต่ฉันกลับไม่ใส่ใจ
หลังจากที่ผละจากร่างหนานั่นเพราะเกรงว่าพลังที่ให้มาจะทำให้คนตรงหน้าที่ยังฟื้นตัวนั้นกระอักเลือดเพราะเกินขีดจำกัด ฉันประสานสายตากับเขานิ่ง พยายามค้นมหาสมุทรลึกตรงหน้า ความนิ่งเงียบทำให้ใจที่ชุ่มชื้นแกว่งน้อยๆอย่างน่าใจหาย ฉันถอนใจเบาๆก่อนจะยกมือขึ้นประคองดวงหน้าแข็งกร้าวนั่น
ถ้าฉันหายไป นายจะคิดถึงไหมฉันกระซิบเบา ไม่รู้ทำไมถึงโพล่งออกไปอย่างนั้น ลางสังหรณ์บางอย่างท้วงเตือนขึ้นมาว่าต้องมีการลาจาก แต่ที่น่าเสียดายคงเป็นการจากลาทั้งที่ยังค้นหาคำตอบจากดวงตาคู่สวยตรงหน้าไม่ได้ ถ้าหากไม่มีการชาร์จพลัง ฉันที่เป็นคนธรรมดาคงต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิม คนธรรมดาคนหนึ่งที่หลงเข้ามายังเขตของพวกเด็กพิเศษ ดีไม่ดีความทรงจำทั้งหมดกับคนพิเศษตรงหน้าอาจหายวับไปโดยไม่รู้ตัว
ถ้าเธอหายไปทรอนซ์ย้ำ เสียงแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน ตาสีน้ำเงินสั่นไหววูบหนึ่ง ฉันจะรู้สึกดีมาก
เป็นคำตอบที่เหมือนสายน้ำเย็นสาดเทโครมมาที่หัวใจ ฉันนิ่วหน้าก่อนจะให้โอกาสคนตรงหน้าอีกครั้ง
นายแน่ใจนะฉันหรี่ตาลงอย่างจับพิรุธ ไอ้การกระทำกับคำพูดของเขามันสวนทางกันอยู่ชัดๆนี่นา แล้วหมอนี่จะเล่นบทหนีเอาดื้อๆเลยงั้นหรอ นายแน่ใจนะว่าจะรู้สึกดี
ทรอนซีรา!
หยุดทำแบบนั้นสักทีในที่สุดเขาก็เปรยเนิบๆ เหมือนมีคลื่นก่อตัวขึ้นจากทะเลลึก คำสาปของฉันไม่ใช่เรื่องที่เธอจะเข้ามายุ่งเกี่ยว
ฉันนิ่งขึ้นมาบ้าง มองไปยังคนข้างหน้าที่ปากบอกว่าไม่รู้สึก ไม่ใส่ใจ แต่
เขาจะรู้ไหมว่าที่กำลังทำอยู่น่ะมันยิ่งกว่านั้น
ฉันอาจเป็นคนที่ทำร้ายเธอ แม้กระทั่งฆ่าเธอ มันไม่ใช่เรื่องยากสายตานั้นฉายรอยจริงจัง ดวงหน้าเกร็งเครียดที่มองแล้วต้องเผลอยิ้ม
นายจะบอกให้ฉันอยู่ห่างๆนายงั้นสิฉันยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อเห็นอีกฝ่ายชะงัก ราวกับรู้ใจ
ทรอนซีรา
โถๆๆ นายนี่มันน่า
นัก
รู้ไหมการกระทำของนาย กับคำพูดที่บอกว่ารู้สึกดีถ้าไม่มีฉันน่ะ มันขัดกันมากแค่ไหนฉันหัวเราะเบาๆ มองดวงหน้าคนตรงหน้าที่ไม่เข้าใจตัวเอง สีหน้าฉายรอยงุนงงวูบหนึ่ง ว้า
แต่นายคงไม่เข้าใจ ฉันขี้เกียจอธิบายละ ขอตัวก่อน
ฉันหมุนตัวออกไปจากห้อง สบตากับเจ้าของห้องครั้งสุดท้าย แล้วปิดประตูให้อย่างใจดี
ทรอนซ์
ที่แท้นายก็เป็นห่วงฉันเหมือนกัน
ฉันยิ้มออกมาจากใจ ความสุขล้นปรี่จนแทบอยากจะหัวเราะออกมาดังๆเหมือนคนบ้า แต่ยังดีที่คุมสติไว้ได้
นายก็เหลือเกิน หลงรักฉันเข้าแล้วยังไม่รู้ตัวอีก
ฉันหัวเราะเบาๆอย่างคนอารมณ์ดี แล้วเดินไปยังห้องตรงข้ามที่เป็นห้องพักของฉันเอง
ไว้จบการแข่งบ้าๆนี่ แล้วฉันจะไขข้อข้องใจให้นายเอง จะทำให้นายรู้ใจตัวเองซักที ไม่ใช่ดีแต่สร้างเกราะ หนีหัวใจตัวเองแบบนี้
งี่เง่า
เช้าของการประลองนัดชิงชนะเลิศของปริ๊นซ์ผู้โด่งดังเรียกความสนใจจากคนทั้งโรงเรียน แน่นอนว่าแค่แผนกเด็กพิเศษ บรรยากาศยามเช้านั้นดูคึกคักมาขึ้นมาทันตา โรงอาหารจากที่ถ้าเช้าขนาดนี้จะไม่ค่อยมีคนเข้ามาใช้บริการกลับมีมากจนล้นหลาม เสียงพูดคุยเกี่ยวกับการแข่งขันที่จะเริ่มนั้นดังขึ้นระงมจนฟังไม่ได้ศัพท์ นักเรียนบางกลุ่มถึงกับวางพนันเดิมพันกัน แน่นอนว่าไม่ใช้เงิน แต่เป็นแพ้ให้เตะ แพ้ให้ถีบ อะไรเทือกนั้นแทน
ฉันพุ่งความสนใจไปที่อาหารในจานข้าว กลิ่นหอมน่าตาน่ากินแต่ฉันกลับรู้สึกกระเดือกไม่ลง ขณะที่ราล์ฟที่นั่งถัดไปตักข้าวใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆอย่างคนอารมณ์ดี
กินเข้าไปหน่อยเถอะ วันนี้เธอต้องใช้แรงมากมารีอาเหลือบมองจานข้าวของฉันที่ดูจะไม่ลดปริมาณลงเลย
ฉันกินไม่ลงTTฉันพูดออกไปตรงๆ นั่นเป็นเพราะความกังวล ตั้งแต่ตื่นนอนมาเหมือนสมองจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าศัตรูที่ต้องเผชิญในวันนี้เป็นใคร กับลางสังหรณ์ประหลาดที่คอยตามหลอนตั้งแต่ในฝันเมื่อคืน
อิน อ่อย อ้า อะ ไอ้ อี แอง(กินหน่อยน่าจะได้มีแรง)ราล์ฟพูดทั้งที่อาหารยังอยู่ในปาก มารีอาควัดสายตาไปมองอย่างดูแคลนแต่ขี้เกียจจะบ่น
ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย
ฉันพึมพำเบาเหมือนพูดกับตัวเอง ความกดดันประหลาดนั่นคืออะไร อาจเป็นเพราะกังวลมากเกินไป?
ไม่มีอะไรหรอกน่ะ อย่าคิดมากมารีอาตัดบทฉับ แล้วทุกคนก็เร่งจัดการอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
แอบชำเลืองมองใบหน้าเจ้าคนพูดน้อย พบว่าตาสีเข้มคู่นั้นจ้องมองมาก่อนอยู่แล้ว
ไม่เป็นไร
มันจะต้องไม่มีอะไร แค่เห็นใบหน้าของใครบางคนกลับทำให้ใจที่กระสับกระส่าย เริ่มสงบจนสามารถคุมอารมณ์ได้
ทรอนซีรา ดูเหมือนว่าหัวใจนี่มันจะปล่อยให้นายเข้ามาควบคุมมากกว่าฉันที่เป็นเจ้าของซะอีก
อัฒจรรย์โค้งรอบสนามใหญ่จุคนได้เป็นหลักร้อยปลายๆ บัดนี้อัดแน่นไปด้วยผู้คนที่แห่มาดูการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศประจำปี ประเภททีม เบื้องล่างเป็นพื้นหญ้าสีเขียวขจี แต่กลับมีเครื่องตกแต่งต่างจากเมื่อวานเล็กน้อยคือต้นไม้รกหูรกตาเหมือนจงใจจัดเป็นฉากในป่า ไม่ให้ดูว่างโล่งเกินไป
แต่นั่นไม่ได้เรียกความตื่นเต้นเท่ารายชื่อปริ๊นซ์ที่จารึกด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ เหนือฮอลล์ ลอยเด่นเป็นสง่าประกาศศักดาผู้ท้าชิง
Patrix VS Tronzera
รายงานปริ๊นซ์ ออฟ ไฟร์ ปะทะ ปริ๊นซ์ ออฟ ไอซ์
คู่ที่ทุกคนต่างจับตามอง กับพลังเวทย์เหลือร้ายที่คงไม่มีคนกล้าเข้าไปยุ่ง
แล้วยังฮีลเลอร์สาวแห่งทรอนซีรา
ลือกันว่าเธอเป็นว่าที่ควีนแห่งแพทริกซ์ แต่การกระทำเมื่อวานมันออกจะชัดไปหน่อยที่เจ้าหล่อนประกาศเองว่า ทรอนซีราเป็นคนของหล่อน
นั่นยังคงเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์ต่อไปอย่างดุเดือดเผ็ดมันส์
เสียงดังหนาหูเริ่มอื้ออึงก่อนที่เสียงพิธีกรจะดังขึ้นดำเนินรายการ เรียนเชิญท่านอาจารย์ใหญ่ออกมากล่าวเปิดงานให้ดูพอเป็นพิธี คณาจารย์ทั้งหลายถูกเชิญให้นั่งอยู่บนที่นั่งกิตติมศักดิ์ที่ถูกจัดรอไว้ก่อนแล้ว เหล่านักเวทย์ที่จบการศึกษาไปแล้ว ก็แห่กันเข้ามาดูการแข่งขันสำคัญประจำปี ทำให้กลุ่มนักเรียนและกลุ่มนักเวทย์ตัวจริงปะปนกันประปราย
ศึกครั้งนี้ยิ่งใหญ่มากสำหรับเราในฐานะนักเรียน ห้ามพวกนายก่อเรื่อง เข้าใจไหม!?นัยน์ตาสีชาอ่อนเพ่งมองไปสบกับตาสีฟ้าเทาของโพรเทกเตอร์จอมทะเล้นที่แลบลิ้นแผล็บๆ ก่อนจะเบือนไปสบกับตาสีม่วงอเมทิสต์ของฮีลเลอร์ที่กระพริบตาปริบๆเป็นคำตอบ
เฮ้อ ยังไงฉันก็ไม่อยากวางใจพวกนายเลยจริงๆว่าแล้วมารีอาก็กุมขมับเครียด หลังจากพ่นคำสั่งห้าม ห้ามๆๆไปกว่าค่อนชั่วโมง หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะซึมซับไปยังเจ้าคนหาเรื่องเก่งทั้งสองคน แต่ก็นั่นแหละ มันก็เท่านั้น ถ้าไม่มีเรื่องก็คงไม่ใช่ราล์ฟเฟและชาร์ลีน สองคู่หูเพื่อนซี้ที่ดูเข้ากันได้ดี
วางใจเถอะ ฉันไม่ทำให้ทีมขายขี้หน้าหรอกราล์ฟพุ่งเข้าประเด็น ร่างบางที่ยืนถัดไปก็พยักหน้าสนับสนุน
ฉันจะพยายามไม่ให้เกิดเรื่องอีกชาร์ลีนมองด้วยสายตาแน่วแน่ ไนท์สาวถอนหายใจเบาๆก่อนจะเปรย
ฉันไม่ได้หวังในชัยชนะ แต่ขอให้ทำเต็มที่ แล้วก็รักษาตัวกันให้ดีเสียงหวานอ่อนลงจนแผ่วแทบไม่ได้ยิน
พวกเขาเปลี่ยนตัวฮีลเลอร์ทรอนซ์ที่เพิ่งเข้ามาในห้องเก็บตัวเปรยขึ้น ก่อนจะต่อ ช้อกกี้ พิงค์เล่นตำแหน่งฮีลเลอร์แทนแพทตี้ ดูเหมือนจะยังไม่ฟื้นตัว
ชาร์ลีนเบิกตาค้างทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น แล้วยกมือลูบอกตัวเองเบาๆ นึกคำปลอบในใจสงบที่เริ่มจะพลุกพล่าน ลางสังหรณ์นั่นมันช่างแม่นยำเหลือเกิน
ขอเชิญพบกับผู้เข้าแข่งขัน ฝ่ายแพทริกซ์ เดอะ ปริ๊นซ์,โซล เดอะ ไนท์,การ์มี เดอะ โพรเทกเตอร์ และ ช้อกกี้ พิงค์ เดอะ ฮีลเลอร์ซึ่งมาแทนแพทาลีนัมที่บาดเจ็บ..เสียงบรรยายเอื่อยๆจากพิธีกรจำเป็นดังขึ้นเรียกให้คนในห้องเก็บตัวขยับกายนิดๆ มองสบตากัน ให้สัญญาณด้วยการพยักหน้าก่อนจะก้าวออกจากห้องพร้อมการบรรยายต่อมา
อีกฝ่าย ทรอนซีรา เดอะ ปริ๊นซ์,มารีอา เดอะ ไนท์,ราล์ฟเฟ เดอะ โพรเทกเตอร์ และ ชาร์ลีน เดอะ ฮีลเลอร์..
ผู้ที่ถูกกล่าวนามเดินเรียงเป็นแถวเดี่ยวออกจากห้องเก็บตัว ก้าวลงบันไดทั้งสองข้าง เสียงเชียร์ดังกระหึ่มหนาหู ป้ายเชียร์สีฟ้ากับสีแดงถูกชูขึ้นคละกันไป โดยไม่สามารถตัดสินได้ว่าเสียงเชียร์ข้างไหนมากกว่า
เมื่อผู้เข้าแข่งกันทั้งสองทีมเข้าประจำตำแหน่ง หันหน้าเผชิญหน้ากัน เสียงเซ็งแซ่ก็ค่อยๆผ่อนเบาจนสงบลง ทุกคนรับรู้ถึงบรรยากาศตรึงเครียด รายการปะทะกันระหว่างเจ้าชายน้ำแข็งกับราชามัจจุราชไฟ เรียกเลือดในกายให้ลุกซู่ด้วยความตื่นเต้น
เมื่อทุกคนประจำที่แล้ว
เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเสียงพิธีกรดังแทรกความเงียบ เริ่มได้!!
ตู้ม!!
เสียงระเบิดดังขึ้นจากเขตแดนทรอนซีรา ฝีมือการโจมตีจากโพรเทกเตอร์แห่งแพทริกซ์
เป็นการเปิดเกมที่เหมือนทุกครั้งของแพทริกซ์ทีม ควันตลบอบอวลบดบังทรรศนียภาพ
ราล์ฟเฟกวาดตามองผ่านหมอก ตาสีฟ้าเทามีประกายแปลบๆในดวงตา ประจุอิเล็กตรอนกระพริบท่ามกลางอากาศธาตุ และแล้วโพรเทกเตอร์แห่งทรอนซีราก็แย้มร้อยยิ้มพราย ก่อนจะถีบตัวส่งไปกระแทกหมัดใส่ผู้บุกรุก
เนื่องจากคนมีประจุเป็นกลาง เป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้ใช้เวทย์ธาตุพิเศษ-ไฟฟ้าอย่างราล์ฟเฟที่จะมองปราดเดียวก็รู้ตำแหน่ง อากาศนั้นมีประจุบวกลบปนๆกันไป จุดบอดนั่นสามารถบอกที่อยู่ศัตรูได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
ไอ้จอมปากมากการ์มีสบถเมื่อโดนหมัดหนักๆซัดเข้าใส่หน้า เขาพ่นเลือดออกทางปาก แล้วยัดระเบิดกลับไปในทันที
ตู้ม!
ประกายไฟแล่บแปลบๆ ร่างเจ้าหนุ่มไฟฟ้าลอยปลิวออกไป ต้องขอบคุณความเร็วปานแสงที่ทำให้เขารอดจากแรงระเบิดเพียงเสี้ยววิ
เกร๊ง..
เสียงดาบปะทะกันดังขึ้นจากอีกฟาก รายการไนท์ปะทะไนท์กำลังเริ่มต้นเช่นกัน
ตาสีชาอ่อนฉายแววเอาจริง ร่างบางสมส่วนในชุดเกราะขยับตัวพลิ้วหลบคมดาบ ในจังหวะเดียวกันก็ยกดาบฟาดบุกไม่ยั้ง ผลัดกันรุกผลัดกันรับ นับเป็นการต่อสู้ของนักดาบอย่างถ่องแท้
ดูเหมือนจะเป็นคู่ต่อสู้ที่สูสีทั้งสองฝ่าย
โพรเทกเตอร์ ปะทะ โพรเทกเตอร์
ไนท์ ปะทะ ไนท์
แล้วปริ๊นซ์
?
นัยน์ตาสีเพลิงดูสงบเยือกเย็นจนน่ากลัว แม้อยู่ในระยะไกลแต่ผู้ถูกจ้องก็รับรู้ถึงรังสีอำมหิต จึงจ้องกลับไปอย่างไม่สะทกสะท้าน นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มยากแก่การคาดเดาอารมณ์
ไกลออกไป ในตำแหน่งที่ยืนอยู่ห่างกันที่สุด ฮีลเลอร์แห่งแพทริกซ์กวาดตามองสถานการณ์โดยรอบ ก่อนจะหันกลับมามองปริ๊นซ์ของตนที่ยืนนิ่งอยู่ด้านหน้า
ถ้าคุณไม่กล้าโจมตีเพราะกลัวว่าชาร์ลีนจะเป็นอะไรไปล่ะก็ ฉันขอบอกว่ามันไร้ประโยชน์ช้อกกี้พิงค์กระซิบแผ่ว แต่ดังพอที่เสียงหวานนั่นจะเข้าสู่โสตประสาทของบุรุษตรงหน้า
ตาสีแดงเหลือบมองร่างบางด้านหลังที่พูดราวกับเข้ามานั่งกลางใจ
เมื่อวานก็เห็นแล้วนี่คะ สองคนนั้น
เขารักกันเสียงสั่นเครือแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน แต่กระนั้นเสียงหวานก็พูดต่อแม้จะเป็นประโยคที่แทงใจตนด้วยก็ตาม ฉันแค่จะบอกว่าการกระทำของคุณมันไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ
แพทริกซ์ปรายตามองร่างบางเล็กด้านหลัง ก่อนจะเบือนหน้าไปมองไกลสุดตา จับจ้องร่างที่ยืนหยัดอยู่ด้านหลังบุรุษที่เขาเกลียดชังที่สุด
แม้จะมองไม่เห็นดวงหน้า กับนัยน์ตาสีม่วงประหลาด แต่นั่นก็ทำให้อารมณ์ที่เคยสงบสั่นไหววูบหนึ่ง ก่อนตาคู่เดิมจะทอประกายกล้า
ถ้าอย่างนั้น ฉันคงต้องกำจัดเสี้ยนหนามที่ขวางทางแพทริกซ์เปรยเย็นๆ ทำเอาร่างที่ยืนด้านหลังสะท้าน ตาสีฟ้าคู่สวยฉายแววตระหนก
คุณจะทำอะไรคะ แต่ขอบอกว่าฉันจะไม่ยอมให้คุณทำร้ายทรอนซีรา
ไม่มีคำตอบให้กับคำถามและคำขู่จากปากเรียว เพราะมันกระซิบเป็นคาถารัวเร็ว น้ำเสียงน่ากลัว ดุดัน น่าเกรงขาม หยุดการต่อสู้ย่อยๆชั่วคราวแล้วหันมาจับจ้องบุรุษผู้ครอบครองตาสีโลหิต
เปลวไฟลุกพรึ่บขึ้นมาจากผืนดิน เผาไหม้ต้นไม้ใบหญ้า ลามไปจนล้อมสนามกว้างในพริบตา!
แม้แต่ผู้ชมที่นั่งตามอัฒจรรย์ยังต้องเสกเกราะเวทย์อ่อนๆขึ้นมากันจากไอร้อนที่พวยพุ่งทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในสนาม
ฟู่..
ไอเย็นแทรกเข้ามาแทน พายุหิมะกำลังก่อตัวขึ้น เปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำค่อยๆปลิวเอนจนมอดลงเป็นกองเล็ก
เริ่มแล้วสินะ
หัวใจผู้ชมทุกคนล้วนแต่เต้นรัวเป็นจังหวะเดียวกัน
รายการ น้ำ ปะทะ ไฟ
เจ้าชายน้ำแข็ง ปะทะ ราชาไฟ
ระวังข้างบน!!เสียงโพรเทกเตอร์แห่งทรอนซีราดังขึ้นเรียกความสนใจจากทั้งคนในและคนนอกสนามแข่ง ที่ไม่เหลือเค้าโครงเดิมอีกเพราะโดนไฟนรกเผาวอดจนเหลือแต่ซากไม้ผุๆ
ลูกอุกกาบาตกำลังทิ้งดิ่งลงมาด้านล่างเขตแดนทรอนซีรา ความเร็วนั่นทำให้เกิดแรงเสียดกับอากาศ จากลูกไฟก้อนเล็กแปรเปลี่ยนเป็นใหญ่ขึ้น
ราล์ฟสบถ ก่อนจะรีดพลังในร่างเสกเกราะเวทย์ให้ปริ๊นซ์และฮีลเล่อร์ที่ไม่ทันระวังตัว เกราะสีฟ้าอ่อนๆสว่างวาบขึ้นมา เขาได้ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แกเสร็จฉันการ์มีประกาศชัยชนะก่อนจะคว้าช่วงเวลาที่คู่ต่อสู้ร่ายเวทย์ พุ่งอัดลูกระเบิดห้าหกลูกในมือ ก่อนจะรีบพรางกายหลบแรงระเบิด
เป็นวินาทีดับจิต ตาสีฟ้าเทาเบิกกว้าง..
ตู้มมมมม!!
ควันหนาลอยคลุ้งกินพื้นที่อาณาบริเวณไปเกือบเมตร ทุกคนต่างเฝ้ารออย่างลุ้นระทึก ถ้าร่างนั้นโดนแรงอัดขนาดนี้ไปเต็มๆ คงยากที่จะบอกว่าเขาจะยังคงมีลมหายใจอยู่หรือไม่
ร..ราล์ฟเฟ!!ฮีลเลอร์แห่งทรอนซีราตะโกนลั่น นัยน์ตาสีอเมทิสต์ฉายชัดถึงความกังวล เสียงนั้นทำให้คนสองคนหันกลับไปมอง ดวงหน้าหวานนั่นซีดเผือดไร้สีเลือด
ฮ่าๆๆๆ จั๊กจี้หวะเสียงหนึ่งดังขึ้นจากกลุ่มควัน เสียงคนทะเล้นที่ทำให้คนในทีมที่ลุ้นใจหายใจคว่ำถอนหายใจด้วยความโล่งอก
คิดจะยัดระเบิดใส่ฉัน มันเร็วไปสิบปีมั้งราล์ฟเฟในสภาพที่ดูไม่เก่งอย่างปากว่า ก้าวออกจากกลุ่มหมอก ชุดคลุมนักบวชนั่นมีรอยเขม่าดำเปื้อนไปทั่ว รอยขาดตามชายผ้าบ่งสภาพได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าคนช่างพูดคงไม่ได้หนีพ้นระเบิดนั่นไปเสียทีเดียว
ไอ้เวรการ์มีพ่นลมหายใจออกทางจมูกกับคำปรามาส แล้วควักลูกระเบิดที่ใหญ่กว่ากำมือออกมาโยนขึ้นโยนลง คราวนี้แกไม่พ้นแน่
ฉันว่านายลาออกไปขายอาวุธเถอะ สงสัยคงรวยเละราล์ฟสนทนนาต่อไปเหมือนกำลังนั่งจิบน้ำชายามบ่าย ไม่ใช่นั่งรบ
ฮีลชาร์ลีนยอบกายลงส่งมอบพลังให้โพรเทกเตอร์ผู้ไม่เจียมบอดี้ แต่แล้วก็มีเสียงขัด
ไม่ต้อง ชาร์ลีนราล์ฟเฟหันไปมองเพื่อนสนิทที่ใบหน้าฉายแววตระหนกแตกตื่นอย่างเห็นได้ชัด แล้วยิ้มร่าเริงให้ เดี๋ยวมันก็จบแล้ว ไม่ต้องห่วง
ไม่ต้องห่วง..
มันเป็นคำพูดที่ยากจะทำตามในขณะนี้ ตาสีม่วงมองเพื่อนรักในสภาพจะล้มไม่ล้มแหล่แล้วพูดเสียงสั่น
อย่าเป็นอะไรนะน้ำตาไหลผ่านแก้มดวงหน้าฮีลเลอร์ผู้กังวลราล์ฟเฟ แกห้ามล้มเด็ดขาด
รู้น่า ฉันไม่แพ้เจ้านี่หรอก^^คนปากดียังพูดต่อไป น้ำเสียงสดใส แล้วหันหน้าไปเผชิญกับศึกตรงหน้า
ครั้งสุดท้าย..
ก็ลองดูว่าจะแพ้ไม่แพ้การ์มีหรี่ตาลง ถือจังหวะที่โยนระเบิดขึ้นไป แล้วกระโดดถีบตัวเองขึ้นกลางอากาศ ก่อนพลิกตัววาดเท้าฟาดลงไปที่ลูกกลมๆนั้นสุดแรง
ราล์ฟแสยะยิ้ม พุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่หวาดเกรง
ฮีลเล่อร์สาวมองการกระทำของเพื่อนรักแล้วเหมือนวิญญาณจะหลุดจากร่างไปแล้ว สีหน้าบ่งบอกว่ากำลัง ช้อคสุดขีด
ฉันไม่แพ้เว้ย! แต่แค่ไม่ชนะด้วยเท่านั้นเองราล์ฟทิ้งท้ายก่อนจะคว้าหมับเอาลูกกลมๆที่ถูกขว้างมา ไว้ด้วยมือข้างนึงแล้วพุ่งชาร์จร่างที่เท้าเพิ่งจะแตะพื้น หมดโอกาสหลบหนี ตาสีทองนั่นเบิกกว้าง
ตู้ม!!!
เสียงระเบิดดังลั่นกว่าเก่า หมอกควันเริ่มจางลง แล้วร่างของโพรเทกเตอร์ทั้งสองก็หายไปจากสนาม
ทิ้งไว้เพียงกองเลือดกว้างๆไว้ให้จินตนาการถึงภาพสยดสยอง
ลมหายใจผู้เห็นเหตุการณ์เริ่มติดขัด เหมือนวิญญาณยังไม่กลับเข้าร่าง เพราะไม่มีใครกล้าเปิดปากพูดอะไร
โพรเทกเตอร์นั่นบ้าระห่ำ ถึงกับเอาชีวิตตัวเองไปเดิมพัน
ปิดฉากได้แสบทีเดียว พลิกสถานการณ์จากฝ่ายเสียเปรียบมาเป็นเสมอ?
ราล์ฟเฟ ครอส
เด็กหนุ่มผู้ร่าเริงคนนั้น?
ไม่นะ
ไม่!!!เสียงหวานดังแทรกความเงียบ ร่างบางทรุดลงไปกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้มไม่ขาดสาย เสียงสะอื้นร่ำไห้เรียกความสงสารจากผู้ชมทั้งฮอลล์ ความปวดร้าวในน้ำเสียงกำลังกรีดหัวใจทุกคนให้ร้องไห้ตามกัน
ราล์ฟเฟ และ การ์มี เดอะ โพรเทกเตอร์ ไม่สามารถแข่งขันต่อได้ ออกจากการแข่งขัน
Writer : เนื่องจากเป็นวันหยุด เลยอัพเต็มๆกันไปเลย
รบกวนทิ้งคอมเม้นไว้ด้วยนะคะ^^
ช่วงนี้อากาศเย็น รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
ปิดท้ายด้วยอิมเมจราล์ฟเฟ-ชาร์ลีน สองเพื่อนซี้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ราล์ฟเฟคงไม่เป็นอะไรหรอกใช่มั้ยอ่า
แกเป็นไรอะ
แกอย่าไปไหนนะ
แกกลับมาหาชั้นก่อนดิ
ซึ้ง ๆๆๆ T-T
ค้างอ่าค่ะ ราล์ฟจะเป็นไรมั้ยเนี่ย
ชาร์ลีนก็น่ารักมากเลย
อัพต่อไวๆนะ
ไรเตอร์ToT