คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : Rule 16 : (Special Khim x Pete) อาการแพ้2
หลังจากเล่นเกมรับรางวัลอะไรกันเรียบร้อยก็เป็นเวลาเย็นแล้ว พวกผมแยกย้ายกันออกไปทำธุระส่วนตัวก่อนจะออกไปรับประทานอาหารที่ห้องอาหารของรีสอร์ท
ทานอาหารเสร็จพวกเราก็ไปทำกิจกรรมนันทนาการที่ห้องโถงของโรงแรม เพราะช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงวันหยุดรีสอร์ทแห่งนี้จึงเงียบแทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลย นั่นมันก็ดีต่อพวกผมเพราะมันดูเป็นส่วนตัว
ผมหลบออกมาจากกิจกรรมนันทนาการเพราะอยากออกมาสูดอากาศดีๆ ตอนกลางคืน ในห้องนั้นร้อนไปหน่อยเพราะมีคนอยู่มาก ผมหลบออกมาแบบนี้คงไม่มีใครสังเกตหรอกเพราะต่างคนต่างก็สนุกกันเต็มที่แต่ผมก็บอกไอ้คิทไว้แล้วว่าผมจะออกมาข้างนอก
ผมเดินออกมาตรงสวนดอกไม้ก่อนจะนั่งลงบนโคนต้นไม้ใหญ่ข้างๆ สวนดอกไม้ ดอกไม้ตอนกลางคืนนี่ก็สวยดีนะแม้พวกมันจะดูซบเซาเหมือนกำลังนอนหลับพักผ่อนก็ตาม
พอมานั่งอยู่คนเดียวแบบนี้ เหตุการณ์เมื่อตอนเช้าก็เข้ามาในหัวผม ที่พี่ขิมจูบผมนั่นมันเพราะอะไรกันนะ เพราะพี่แกชอบผมจริงๆ หรือแค่เล่นๆ แต่เท่าที่ดูเหมือนพี่แกจะเล่นๆ กับผมมากกว่าเพราะพี่แกชอบหว่านเสน่ห์ใส่คนอื่นด้วย
แปะ!
ผมตบยุงด้วยความรำคาญ อยู่บนดอยยุงก็เยอะเหมือนกันนี่หว่า โชคดีนะเนี่ยที่เราพกยากันยุงมาด้วย ผมหยิบเสปรย์ฉีดกันยุงขึ้นมาฉีดใส่แขน นี่ขนาดผมใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวยุงมันยังกัดผมได้เลย ยุงสมัยนี้มันพัฒนาตามเทคโนโลยีจริงๆ
“น้องพีทมียากันยุงด้วยเหรอ? ขอพี่บ้างสิ” เสียงคุ้นๆ ดังขึ้นหลังต้นไม้ผมจึงรีบหันไปมอง พี่ขิมเดินออกมายืนข้างๆ ผมตกใจจนผงะแทบหงายหลัง
“ทำไมมาอยู่ที่นี่??” ผมถามเสียงดัง
“อยู่ข้างในมันอึดอัดน่ะพี่เลยออกมาสูดอากาศข้างนอก ไม่คิดว่าจะมาเจอน้องพีท” พี่ขิมยิ้ม
“ชิ!” ผมถอนหายใจเซ็งๆ พลางทำท่าจะเดินหนี
“นี่ พี่ขอยากันยุงด้วยสิ ยุงเยอะมากเลย” พี่ขิมแบมือขอยากันยุงจากผม เรื่องอะไรผมจะต้องให้ด้วยล่ะ
“ไม่ โดนยุงกัดตายไปเลยยิ่งดี” ผมเบ้ปากใส่พี่ขิมก่อนจะเดินหนี
“อะ อ๊ะ!” ผมยังก้าวไปได้ไม่เท่าไหร่พี่ขิมก็ร้องขึ้นก่อนจะทรุดลงกับพื้น ผมรีบหันไปมองอย่างตกใจแล้วเข้าไปประคองพี่ขิมที่ล้มลงไปอย่างงงๆ
“พี่ขิมเป็นอะไรไป!?!” ผมถามอย่างสงสัย อยู่ดีๆ ก็ล้มลงไปแถมยังหอบหายใจถี่รัวมือจิกเกร็งผมก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา
“พะ...พี่...พี่...พี่แพ้ยุง อึก!” พี่ขิมจิกแขนตัวเองอย่างทรมาน สีหน้าพี่ขิมดูทรมานมาก แล้วผมจะช่วยพี่แกได้ยังไงเนี่ย??
“แล้วจะให้ผมทำไงอ่ะพี่ จะตายไหมเนี่ย!?!” ผมเงอะงะทำอะไรไม่ถูก
“จุ๊บแก้มทีนึงหายเลย” พี่ขิมหยุดการกระทำเมื่อกี้ทุกอย่างก่อนจะยิ้มหน้าทะเล้น ผมกำมือแน่นก่อนจะผลักพี่ขิมออกจนพี่มันล้มกลิ้ง
“ไอ้คนนิสัยไม่ดี!! ผมไม่อยากจะเสวนากับพี่แล้ว!!” ผมพูดอย่างโกรธๆ ไอ้พี่บ้านี่กวนตีนจริงๆ ผมว่าอีกไม่นานรอยรองเท้าผมคงไปทาบหน้าพี่แกแน่ๆ
“พี่ขอโทษนะ แค่แกล้งเล่นนิดเดียวเอง” พี่ขิมวิ่งมาขวางหน้าผมก่อนจะยิ้มทะเล้น
“ผมไม่ขำ พี่อยากแกล้งใครก็แกล้งไปแต่อย่ามายุ่งกับผม ผมรำคาญพี่จริงๆ ให้ตายสิ!!” ผมทำหน้าไม่พอใจก่อนจะเดินชนไหล่พี่ขิมไปอย่างไม่แยแส เดินชนพี่แกผมก็เจ็บเองเพราะไหล่ผมไม่ได้ชนไหล่แกแต่สิ่งที่ชนไหล่แกน่ะหน้าผมเอง =..=
ตุบ!!
ผมเดินออกมาได้เพียงสองก้าวเสียงวัตถุหนักๆ ก็หล่นกระทบพื้น ผมหันไปมองก็เห็นว่าเป็นพี่ขิมที่ล้มลงไปนอนกองกับพื้นโดยมีอาการเหมือนเดิมกับเมื่อครู่แต่ดูเหมือนจะหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ ฮึ ลูกไม้เดิมๆ มันใช้ไม่ได้ผลเป็นครั้งที่สองหรอกนะจะบอกให้
“อึก ฮึก!!” เสียงพี่ขิมครางอย่างทรมานทำให้ผมหันกลับไปมองแต่ไม่ได้เดินเข้าไปหาเพราะผมยังไม่มั่นใจในตัวพี่ขิม
มือที่กอดตัวเองจิกลงไปที่แขนจนเป็นรอยแดงและไม่นานเลือดก็เริ่มไหลซิบออกมาจากรอยที่ถูกจิก ผมรีบไปประคองพี่ขิมมานอนบนตักก่อนจะดึงมือพี่แกให้มาจับมาผมไว้เพราะถ้าขืนพี่แกจิกแขนตัวเองต่อไปมีหวังเลือดไหลเยอะกว่าเดิมแน่ ครั้งนี้พี่ขิมคงไม่หลอกผมอีกหรอกมั้ง
“พี่ขิม พี่ขิมเป็นไรอ่ะ!?!” ผมถามอย่างตกใจ พี่ขิมบีบมือผมแน่น ตัวพี่แกสั่นระริกเหมือนกำลังจับไข้ หน้าซีดปากสั่นหอบหายใจถี่รัว
“ช่วยด้วย!! ช่วยด้วย!! พี่ขิมเป็นอะไรก็ไม่รู้!!” ผมตะโกนอย่างร้อนใจในค่ำคืนที่เงียบสงัด ผมตะโกนอยู่ซักพักก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ากูใช้โทรศัพท์โทรหาไอ้คิทก็ได้นี่หว่า
“ฮัลโหล” เสียงไอ้คิทดังมาพร้อมกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม
“คิท คิท ช่วยด้วย ช่วยที!! พี่ขิมเป็นอะไรก็ไม่รู้อ่ะมึง!?! ช่วยหน่อยเร็วๆ” ผมพูดเสียงสั่นๆ กลัวเหลือเกินว่าพี่ขิมจะเป็นอะไรไป ท่าทางพี่ขิมเหมือนคนกำลังจะขาดใจเลย
“เออๆ” ไอ้คิทพูดก่อนจะตัดสายไป ผมบีบมือพี่ขิมแน่น พี่ขิม...อย่าเป็นอะไรไปนะพี่!!
เพียงไม่นานพวกพี่ๆ กรรมการนักเรียนก็วิ่งออกมาพร้อมกับไอ้คิทและไอ้มินทร์ ผมร้อนใจลุกลี้ลุกลนจนทำอะไรไม่ถูก
“พี่ขิมเป็นไรอ่ะครับ? พี่ขิมเป็นไร??” ผมหันหน้าไปถามพี่คิท
“มันโดนยุงกัดรึเปล่า??” พี่คิทถามพลางกดโทรศัพท์โทรเรียกรถพยาบาล
“คงงั้นแหละครับ” ผมพยักหน้ารัวๆ
“ไอ้ขิมมันแพ้ยุงน่ะ สงสัยโดนกัดหลายตัว อาการหนักเลย” พี่คิทพูดกับผมก่อนจะพูดกับโรงพยาบาล ที่พี่ขิมเป็นแบบนี้เพราะผมสินะ เพราะผมไม่ยอมให้ยากันยุงกับพี่ขิม
“แล้วพี่ขิมจะเป็นไรไหมครับ??” ผมถามเสียงสั่น ถ้าผมเชื่อพี่ขิมและยอมให้พี่ขิมใช้ยากันยุงมันคงไม่เป็นแบบนี้ ยิ่งเห็นท่าทางทรมานของพี่ขิมผมยิ่งรู้สึกแย่
“ไม่รู้สิ ชิ! รถพยาบาลมาช้าจริงโว้ย!” พี่คิทสบถก่อนอุ้มพี่ขิมขึ้นและพยักพเยิดให้พี่ดินไปเอารถของทางรีสอร์ทออก อุ้มอ่ะ...พี่คิทอุ้มพี่ขิมในท่าเจ้าสาวอ่ะ อยากจะกรีดร้องด้วยความฮา แต่ทำตอนนี้ไม่ได้
“บอล มึงไปบอกอาจารย์ อย่าทำให้นักเรียนแตกตื่น ถ้ามีอะไรกูจะติดต่อมาอีกที” พี่ดินพูดก่อนจะวิ่งไปเจรจาขอยืมรถและขับออกมา พี่คิทอุ้มพี่ขิมยัดใส่เบาะหลังก่อนตัวเองจะอ้อมไปนั่งข้างคนขับ
“พี่ ผมไปด้วย!” ผมตะโกนก่อนที่รถจะออกแล้วรีบกระโจนขึ้นรถจนไอ้คิทกับไอ้มินทร์ห้ามไว้ไม่ทัน เรื่องนี้กูผิดกูต้องรับผิดชอบ
ถนนที่เงียบสงัดสะท้อนเสียงล้อรถเสียดสีกับพื้นถนนดังก้อง ผมที่นั่งบีบมือพี่ขิมอยู่ในรถใจเต้นระส่ำเมื่อรถตวัดทิ้งตัวไถลไปตามทางที่โค้งวน พี่ดินขับรถได้ตีนผีสุดๆ และที่ผมไม่อยากจะเชื่อก็คือพี่ดินแกดริฟท์รถได้!!
“รถคันนี้ดริฟท์ได้ด้วยเหรอวะ?” พี่คิทถามเมื่อพี่ดินดริฟท์ในโค้งแรก
“เออดิ ตอนที่กำลังขอยืมรถของรีสอร์ทพอดีกับที่ลูกชายเจ้าของรีสอร์ทมาพอดี เขาได้ยินว่ามีคนป่วยเลยให้ยืมรถมา รถแต่งมาดีซะด้วยสิ” พี่ดินพูดเสียงร่าเริง นี่พี่ครับ หยุดสนใจเรื่องรถแล้วมาสนใจพี่ขิมเถอะ ตายแหล่มิตายแหล่แล้วเนี่ย
“งั้นมึงรีบเหยียบเลย” พี่คิทพูดพี่ดินจึงเหยียบคันเร่งจนผมหลับตาปี๋ด้วยความกลัว
พี่ขิมต้องนอนโรงพยาบาลเพราะพี่แกช็อคตอนนี้ยังไม่ฟื้นเลย พวกพี่คิทไปฟังหมอวินิจฉัยโรคส่วนผมก็ตรงเข้าไปหาพี่ขิมในห้องพักฟื้น
พี่ขิมนอนนิ่งอยู่บนเตียงใบหน้าซีดเผือด แขน คอ และใบหน้าของพี่ขิมเต็มไปด้วยผื่นแดงๆ ดูเหมือนว่าพี่ขิมจะมีอาการแพ้ยุงอย่างรุนแรงจนถึงขั้นช็อค นี่ถ้าผมให้ยากันยุงพี่ขิมคงจะไม่เป็นแบบนี้ ตอนนี้ผมรู้สึกผิดมากที่ทำให้พี่ขิมต้องเข้าโรงพยาบาล อาการของพี่แกดูร้ายแรงจนผมอยากจะร้องไห้
แอ๊ดดด
“น้องพีท จะกลับเลยไหมครับ นี่ก็ดึกมากแล้ว” พี่ดินเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับพี่คิทแล้วถามขึ้น
“พวกพี่จะกลับแล้วเหรอครับ พี่ขิมยังไม่ฟื้นเลยนะฮะ” ผมถาม
“พรุ่งนี้ต้องไปฟังบรรยายที่ มช ด้วยนี่คงต้องกลับแล้วล่ะ” พี่ดินพูด นั่นสิ พรุ่งนี้มีฟังบรรยายและมีการเที่ยวชมมหาวิทยาลัยด้วยนี่นา โอกาสดีๆ ที่จะได้ตัดสินใจเลือกเรียนมหาวิทยาลัยแบบนั้นถ้าไม่ไปคงน่าเสียดาย
แต่ตอนนี้ผมอยู่แค่ม.4 เรื่องแบบนั้นยังไม่ต้องคิดมากก็ได้มั้ง
“ผมขออยู่เฝ้าพี่ขิมได้ไหมครับ? ผมมีส่วนทำให้พี่ขิมเป็นแบบนี้ผมคงไม่มีอารมณ์ไปฟังบรรยายหรอกครับ” ผมพูด
“พี่ว่าอย่าดีกว่า โอกาสที่จะได้เข้าฟังบรรยายแบบนั้นหาไม่ได้ง่ายๆ นะน้องพีท เดี๋ยวพี่จะเฝ้าไอ้ขิมเอง” พี่คิทพูด
“ผมยังมีเวลาเหลือให้ตัดสินใจเลือกเข้ามหาวิทยาลัยอีกตั้งหลายปี แต่ถ้าพี่ขิมตายผมคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต” ผมก้มหน้าพูด
“เอางั้นเหรอ? อืม...งั้น ถ้าไอ้ขิมมันฟื้นแล้วก็โทรมาบอกพี่ละกันนะ พี่จะอัดวิดีโอตอนฟังบรรยายมาให้ละกัน” พี่ดินพูดพลางอมยิ้ม ยิ้มทำไม??
“ครับ เดี๋ยวผมโทรบอก” ผมพูดพลางยื่นโทรศัพท์ให้พี่ดินกดเบอร์ให้
“งั้น...พรุ่งนี้เดี๋ยวพี่มารับละกัน” พี่ดินกับพี่คิทโบกมือก่อนจะเดินออกไปโดยไม่ลืมปิดประตู
“อึก...อย่า...ตรงนั้นมัน...”
“หืม?ตรงนี้...สนุกเหรอ?”
“อ่ะ จะ...เจ็บ!! ฮา...อย่ารุนแรงนักสิ อึก...อ่า...นี่มันครั้งแรกของผมนะ”
“น่าดีใจจังเลยที่พี่เป็นคนแรกของน้องพีท” เสียงนุ่มๆ กระซิบอยู่ข้างหูทำให้อารมณ์พลุ่งพล่านยิ่งกว่าเดิม
“ผมก็ดีใจที่ผมเป็นของพี่...อ่ะ อือ อย่าหยุดนะครับ ฮา...”
“ครับ น้องพีท รักนะครับ”
“อ๊า พี่...พี่ขิ...”
เฮือก!!!
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึก เหงื่อกาฬไหลอาบเต็มหน้า ทั้งร่างกายสั่นเทิ้มไปหมด ครั้นพอก้มลงไปมองน้องชายหน้าผมก็ยิ่งร้อนกว่าเดิม นี่...นี่ผมฝันบ้าฝันบออะไรเนี่ย!!!!
“น้องพีทจะไปไหนครับ?” ผมสะดุ้ง ขาที่กำลังจะก้าวไปที่ห้องน้ำพลันชะงักก่อนที่ผมจะหันไปหาต้นเสียง เสียง...อ๊ากกกก เสียงเหมือนในฝันเลย แง!!
“ปะ...ไปห้องน้ำ” ผมรีบตอบก่อนจะรีบเดินไปที่ห้องน้ำ ให้ตายเถอะ! ทั้งเสียง ทั้งหน้าตาเหมือนไอ้คนที่มันอยู่ในฝันผมเลย
แล้วนี่...กูจะมาเกิดอารมณ์ตอนนี้ทำไมวะ!!
ผมกัดฟันก่อนจะปลดปล่อยอารมณ์ที่มันค้างมาจากความฝัน เมื่อเรียบร้อยผมจึงเดินออกจากห้องน้ำ ยังไม่อยากเจอพี่ขิมเลยแฮะ
“ฝันร้ายเหรอ ทำไมถึงตื่นขึ้นมาตอนดึกๆ แบบนี้” พี่ขิมถาม
“พี่นั่นแหละ ทำไมเพิ่งมาตื่นเอาตอนนี้” ผมทำหน้าไม่พอใจก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาที่เป็นที่นอนของผม ผมไม่พอใจเพื่อกลบเกลื่อนหน้าแดงๆ ของผมนี่แหละ
“อ้าว ก็มันตื่นเองนี่นา แล้วนี่พี่มาอยู่นี่ได้ไง” พี่ขิมถาม
“พี่คิทอุ้มมา” ผมตอบ คือผมยังขำไม่หายเรื่องที่พี่คิทอุ้มพี่ขิมในท่าเจ้าสาว
“หา? ไอ้บ้านั่นทำเรื่องน่าอายอีกแล้วเหรอ?” พี่ขิมบ่นกับตัวเอง
“อีกแล้ว?” ผมทวนคำงงๆ
“หา เอ่อ...เวลาพี่เป็นอะไรไอ้คิทมันจะอุ้มตลอด เอ่อ เฮ้ย มันไม่ได้อุ้มพี่คนเดียวนะ ก็...ไม่มีใครอุ้มพี่ได้แล้ว เอ่อ...พูดอะไรวะเนี่ย น่าอายจัง” พี่ขิมเบือนหน้าไปด้านอื่นพลางเกาแก้มที่เริ่มแดงเบาๆ นี่พี่แกอายงั้นเหรอ น่ารักดีเหมือนกันนี่
“...” เมื่อพี่ขิมไม่พูดผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรจึงเงียบ
“แล้วไม่กลับเหรอครับ? พรุ่งนี้มีเยี่ยมชมมหาลัยด้วยนี่ ถ้าไม่ไปถือว่าพลาดโอกาสดีๆ เลยนะ” พี่ขิมพูดขึ้นโดยไม่มองหน้าผม
“ผมต้องมาดูให้เห็นกับตาก่อนน่ะครับว่าผมไม่ได้ทำให้พี่ตาย” ผมพูด
“พี่ดีใจนะเนี่ยพี่น้องพีทเป็นห่วงพี่” พี่ขิมหันมามองหน้าผมพลางยิ้ม
“ใคร? ใครเป็นห่วงพี่ครับ พูดดีๆ นะพี่” ผมพูดเสียงห้วนกวนตีนพี่ขิมจึงหัวเราะออกมาเบาๆ
“ดีจังน้า ปกติเวลาเจอหน้ากันน้องพีทจะชอบทำหน้าบึ้ง เย็นชาใส่พี่ตลอดเลย สงสัยต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ ซะแล้วสิเนี่ย” พี่ขิมกรอกตามองเพดานพลางยิ้มไม่หยุด บ้า มองเพดานแล้วยิ้ม มองหน้ากูแล้วยิ้มไม่ได้รึไงวะ >///<
“ตอนนี้ผมก็ไม่ได้ยิ้มให้พี่ซักหน่อยนี่ จะดีใจทำไม”
“ความรู้สึกมันแตกต่างนะ” พี่ขิมพูด
“เอาเถอะ ฟังแล้วเลี่ยนๆ ยังไงก็ไม่รู้ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วผมว่าพี่นอนเถอะ ผมก็จะนอนแล้ว” ผมพูดพลางล้มตัวลงนอนบนโซฟา
“มานอนกับพี่ไหม?? นอนโซฟามันหนาวนะ” พี่ขิมชวน บ้าสิ เมื่อกี้ผมเพิ่งฝันนะเฮ้ย!!
“ไม่!!”
“เย็นชาจังเลยน้า”
พอตอนเช้าหมอก็มาบอกอาการของพี่ขิมและบอกว่าวันนี้เย็นๆ ค่อยออกจากโรงพยาบาล ผดผื่นบนร่างกายของพี่ขิมลดลงมากจนหายห่วง ก่อนหมอออกไปพี่ขิมก็โดนฉีดตูด ก่อนถูกฉีด พี่ขิมหันมามองผมก่อนจะบอกให้ผมหันหน้าไปทางอื่น นี่พี่แกเขินเหรอเนี่ย ฮ่าๆๆ ฮาตับแตกเลย!!
หลังจากหมอออกไปได้ไม่นานพวกพี่ดินก็มากันครบเซ็ตโดยมีเด็กสองคนติดมาด้วย
“ไม่พาพวกน้องๆ ไปชมมหาลัยรึไงวะ” พี่ขิมถามเมื่อเห็นเพื่อนเข้ามา
“แอบดอทออกมา ขโมยรถตู้ของโรงเรียนมา ฮ่าๆๆ เกือบโดนตำรวจซิวไปแล้วไหมล่ะ” พี่ดินพูดขำๆ พลางโยนแอปเปิ้ลลูกโตไปที่เตียงคนป่วยซึ่งพี่ขิมก็รับได้อย่างแม่นยำก่อนจะกัดเสียคำใหญ่ อยากกินด้วยอ่ะ
“มีด่านเหรอ?” พี่ขิมถาม
“เออดิ โชคดีพ่อกูใหญ่” พี่ดินยืดอกก่อนจะตบที่อกตัวเองเบาๆ
“พี่ดินขับรถเก่งจังเลยนะครับ” ผมพูด ตั้งแต่เจอพี่แกดริฟท์ครั้งนั้นผมก็ช็อคละ
“อยากเป็นนักแข่งรถก็เลยฝึกมาตั้งแต่ม.ต้นแล้ว” พี่ดินยิ้มภูมิใจ มิน่าล่ะ เก่งซะ
“แล้วนี่หมอมาตรวจยัง?” พี่บอลเดินอ้อมไปที่ข้างเตียงอีกด้าน
“อืม ออกตอนเย็นนี้แหละ” พี่ขิมพยักหน้าพลางพูด แม่ง แอปเปิ้ลเต็มปาก
“เออนี่ น้องเขาอยากมาเยี่ยมก็เลยพามาด้วย” พี่ดินพูดพลางพยักพเยิดไปที่เด็กรุ่นเดียวกันกับผมสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตู
“น้องจิว?” พี่ขิมมองคนคนนั้นก่อนจะยิ้มบางๆ
“พี่ขิมเป็นอะไรไม่บอกผมเลย ผมเป็นห่วงนะครับ” ไอ้คนที่คาดว่าชื่อจิวเดินมาข้างเตียงก่อนจะวางมือลงบนหลังมือของพี่ขิม อะไรกัน??
“พี่จะเอาเวลาไหนไปบอกล่ะครับ ฮึ?” พี่ขิมยิ้มก่อนจะขยี้ศีรษะได้คนที่คาดว่าจะชื่อจิว แล้วอีกคนหนึ่งนั่นคงแค่มาเป็นเพื่อนล่ะมั้ง โดนเพื่อนทิ้งแล้วมึงเอ๊ย
“ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองแพ้ยุงแล้วทำไมออกไปตากยุงทั้งๆ แบบนั้นล่ะ” ไอ้จิวคนนั้นตีพี่ขิมอย่างงอนๆ เฮ้ย นี่มันเป็นเหี้ยไรกันวะ บอกกูที
“พี่ก็แค่ออกไปตากลมเฉยๆ ถ้าเป็นห่วงพี่แล้วทำไมถึงไม่ออกไปตามพี่ล่ะ”
ผมยืนขบกรามก่อนจะถอยออกมานั่งบนโซฟาตัวเดินที่เคยนอน ไอ้เราก็เกือบหลงเชื่อคารมพี่แก คิดว่าพี่แกชอบเราจริงๆ ฮึๆ แม่งเอ๊ยยยย กูหงุดหงิด!! ไม่ได้หึงนะขอบอกไว้ ณ ตรงนี้ แค่หงุดหงิด ใครเคยเป็นคงจะเข้าใจผมอย่างลึกซึ้งว่าถ้ามีคนมาชอบเราแล้วจู่ๆ ก็มาป้อคนอื่นต่อหน้าเรามันจะรู้สึกอย่างไร ฮึ่ม!!
“พี่ๆ ครับ ผมขออยู่กับพี่ขิมจนกว่าพี่ขิมจะออกจากโรงพยาบาลได้ไหมครับ?” ไอ้คนที่ชื่อจิวอะไรนั่นหันมาอ้อนพวกพี่ดิน แม่ง...หน้าตาน่ารักแล้วแอ๊บแบ๊วนะมึง
“ไม่ กลับไปกับพวกนี้ดีกว่า การไปฟังบรรยายของมหาลัยมันดีนะ เผื่อเราชอบมหาลัยนี้ไง เชื่อพี่นะครับน้องจิว” ทำเป็นพูดดี แหวะ กูล่ะหมั่นไส้
“ไม่อ่ะ พี่ขิมไปมหาลัยไหนผมก็จะไปด้วยเพราะงั้นผมจะอยู่กับพี่ขิมที่นี่” ไอ้หมอนั่นดื้อ
“ดื้อจริงๆ เลย ไปเถอะ พี่ขอนะเพื่ออนาคตของเราด้วย” พี่ขิมพยายามเกลี้ยกล่อม โอย กูหยะแหยงงงงง
“โอ๊ย! เขาอยากอยู่แล้วจะไปรั้งทำไมล่ะคร้าบ อยู่ไปเถอะ!” ผมพูดขึ้นพลางนั่งไขว่ห้างวางมาด
“ถ้าน้องจิวอยู่น้องพีทจะไปเหรอครับ?” พี่หันมาถาม
“แล้วจะให้ผมอยู่ทำไมล่ะ? อยู่ทั้งคืนละ เบื่อ!” ผมยกยิ้ม คอยดูเถอะ ถ้าพี่ขิมพูดอะไรมาผมจะไม่หลงระเริงไปกับคำพูดของพี่แกเลย ถึงจะมาทำดีกับผมผมก็จะไม่ใส่ใจ!
“งั้น ฝากด้วยนะพวกมึง” พี่ขิมหันไปพูดกับพวกพี่ๆ
“สรุปคือ น้องพีทกับน้องคนนี้กลับส่วนน้องจิวอยู่ที่นี่?” พี่ดินถามซ้ำอีกครั้ง ไอ้ที่มาเป็นเพื่อนไอ้จิวนั่นดูไร้ความหมายจนเกือบลืมไปเลยแฮะ
“อืม เป็นงั้นแหละ” เมื่อพี่ขิมตอบอย่างนั้นผมก็ลุกออกไปทันที ฮึๆ พอมันมาก็อยากให้กูกลับ ไอ้...ไอ้เกย์เจ้าชู้เอ๊ย
Special part end.
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขิมมมม ทำไมนายทำแบบนี้อ่า เชอะ!!
ปล.ตอนหน้าเป็นของคู่หลักละคร้าบ ^<>^
ความคิดเห็น