ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ซวยฉิบหาย! ผมกลายเป็นเมียเขา [จบจ้า]

    ลำดับตอนที่ #60 : Forbidden rule 6: [TK] โหดรักเกรียน เกรียนก็รักโหด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 16.72K
      59
      1 ส.ค. 56

    16/06/13
    Forbidden rule 5: [TK] โหดรักเกรียน  เกรียนก็รักโหด

    อิพี่ไท




     


    Tai’s part



     

                    ไอ้คิม  ไอ้เด็กเวร  พอปล่อยเข้าผับทำตัวเหมือนปลาถูกปล่อยลงน้ำเลยนะมึง  ได้กินเหล้าหน่อยเอาใหญ่เลยนะเว้ย  ไล่จีบสาวขอนแก่นไม่เห็นหัวกูเลยนะมึง  ระวังเถอะ  กูจะกลายเป็นเสือคาบเด็กไปแดกอย่างที่พวกมึงล้อกูให้ดู ฮึ่ม!

                    วันนี้ผมกับพวกเพื่อนๆ มาเที่ยวบ้านสุดที่รักครับ  บ้านมันเปิดบาร์พวกเราก็เลยมาดื่มกันที่นี่  ที่สำคัญคือดื่มฟรีครับ ฮึๆ แต่ปัญหามันอยู่ที่ไอ้เด็กคิมที่มันดี๊ด๊าเกินเหตุนี่แหละครับ

                    โว้ย! หงุดหงิด! ยิ่งเห็นคู่รักเขาจี๋จ๋ากันผมยิ่งหงุดหงิด  ก็ดูไอ้คิมสิครับ  เที่ยวแจกยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ให้ผู้หญิงเป็นว่าเล่น  ยิ่งสุดที่รักพาเพื่อนเก่ามาแนะนำให้รู้จักไอ้คิมยิ่งเอาใหญ่เพราะผู้หญิงในกลุ่มเพื่อนของสุดที่รักมีแต่คนน่ารักๆ แต่ไม่ติดว่าเกรงใจไอ้คิมผมสอยไปกินสักคนแล้ว  กูเกรงใจมึงขนาดนี้มึงเกรงใจกูบ้างได้ป่ะวะไอ้เด็กเวร!?

                    “เฮ้ยพวกมึงน่ะ  รีบกลับบ้านไปซั่มกันเลยไป  อยู่ที่นี่ก็ขวางหูขวางตา” ผมเดินไปแขวะไอ้ลันกับสุดที่รักที่กำลังสวีตจี๋จ๋ากันอย่างหมั่นไส้  เป็นไปได้อยากจะเดินไปแขวะคู่รักทุกคู่ในร้านเลยล่ะครับ

                    “อะไรของมึงวะไท? เมียนอกใจแล้วพาล?” ไอ้ขลุ่ยเดินเข้ามาแซวเล่นเอาผมหงุดหงิดกว่าเดิม  ไอ้ห่า อย่าพูดแทงใจดำกูได้ป่ะวะ?

                    “ว่าแต่กูเถอะมึง  ตามดูน้องเมฆของมึงให้ดีเถอะ  เมื่อกี้กูเห็นผู้ชายคนหนึ่งมาจีบด้วย เฮอะๆ” ผมพูดโกหกเพื่อสร้างความร้าวฉานในใจให้ไอ้ขลุ่ย  ผมไม่มีความสุขไอ้คนที่มากวนตีนผมก็อย่าหวังว่าจะสุข  ที่จริงไม่มีผู้ชายที่ไหนมาจีบน้องเมฆหรอกครับ  แค่ยั่วให้ไอ้ขลุ่ยมันอารมณ์เสียเหมือนผมก็เท่านั้นแหละ

                    “ถ้าอารมณ์เสียขนาดนั้นกูแนะนำให้ไปฉุด” เฮียลุกซ์ที่เห็นว่าผมอารมณ์เสียบอก  ตอนแรกผมก็ชั่งใจว่าจะเชื่อดีไหมเพราะเฮียแกแนะนำไอ้ลันจนเกือบเลิกกับสุดที่รักแล้วไหมล่ะ

                    “โรงแรมแถวๆ นี้มีไหมสุดที่รัก?” ผมหันไปถามสุดที่รักเมื่อพิจารณาคำแนะนำของเฮียลุกซ์จนถี่ถ้วน  จะกดให้หงอเลยคอยดูเถอะ

                    “ไอ้ไท อย่าไปฟังที่ไอ้เหี้ยนี่มันพูดเลย  แนะนำอะไรเคยได้เรื่องสักอย่างไหม?” ไอ้ลันส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงไม่ให้ผมเชื่อเฮียนัก

                    “ไม่รู้ล่ะ กูใช้ได้ผล” เฮียลุกซ์ยกยิ้มก่อนจะเดินไปป้อสาวอย่างอารมณ์ดี  ถ้าไม่ติดว่าตาคนนี้น่ากลัวล่ะก็ผมจะแขวะเข้าให้  ไม่อยากเห็นคนอารมณ์ดีตอนตัวเองอารมณ์เสียนี่ครับ  เซ็ง

                    “ฮู้! หงุดหงิด! รู้งี้ไม่พามันมาซะก็ดี” ผมกระทืบเท้าอย่างหงุดหงิดใจก่อนจะกระแทกก้นลงนั่งบนเก้าอี้

                    “กับไอ้คิมพี่เอาจริงใช่ไหม?” สุดที่รักถามขึ้น  ผมนิ่งไปนิดก่อนจะพยักหน้า

                    “อืม” ผมหันไปจ้องไอ้คิมที่กำลังหัวเราะคุยกันอย่างสนุกสนานกับพวกเพื่อนผู้หญิงของสุดที่รัก  อยากให้มันรู้สึกถึงจิตสังหารของผมจริงๆ ครับมันจะได้ครางหงิงๆ มาออดมาอ้อนบ้าง  ถ้าผมได้ดุได้โมโหมันจริงๆ ล่ะก็มันยอมผมทุกครั้งนั่นแหละ  แต่ก็มีบ้างที่มันงอนกลับจนผมต้องตามง้อ  แต่วันนี้มันผิดที่ไปยุ่งกับคนอื่นเพราะฉะนั้นมันจะต้องมาง้อผม!




     

                    ผมนั่งดื่มไปพลางทำหน้าบอกบุญไม่รับไปพลางอย่างไม่สบอารมณ์  นั่งกระดกเหล้าจนกึ่มไอ้บ้าคิมมันยังไม่ผละตัวออกมาจากสาวๆ  คอยดู ผมจะงอนให้มันง้อ  ถ้ามันไม่ง้อผมก็จะกดมันให้ร้องไม่ออกเลยคอยดู

                    จะว่าไป...กูหื่นไปป่ะวะ?

                    “แล้วไอ้สองตัวผัวเมียมันไปไหนแล้ววะ?” เฮียลุกซ์เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะหลังจากนัวเนียกับสาวๆ ไปเรื่อยจนพอใจ

                    “ไปปั๊มลูก” ผมบอก

                    “งั้นคืนนี้พวกเราก็ต้องนอนเบียดกันดิวะ?” เฮียบ่นไปตามประสาคนแก่  จุ๊ๆ อย่าไปบอกเฮียนะครับว่าผมว่าเพราะเดี๋ยวศพผมจะไม่สวยเอา

                    “กูอยากนอนกับน้องเมฆ” ไอ้ขลุ่ยถลาแล่นลมมาหา  ไอ้นี่ก็เหลือเกิน  เด็กตัวนิดเดียวก็กดแม่งเลยดิวะไม่งั้นก็ไม่ได้แดกกันพอดี

                    “ไม่ได้ครับพี่  คืนนี้เราต้องปล่อยให้พวกผู้หญิงเขานอนด้วยกัน” ไอ้วิทที่นั่งเงียบๆ อยู่กับผมอยู่แล้วพูดขึ้น

                    “พวกผู้หญิง?” พวกผมสามคนประสานเสียงกัน

                    “เอ้า ก็...น้องคิมเป็นแฟนพี่ไท  ไอ้เมฆก็เป็นว่าที่แฟนพี่ขลุ่ย  ส่วนพี่พัดก็...ว่าที่แฟนผม...”

                    “ฮะ!?!” พวกผมแหกปากด้วยความอึ้งทันทีที่ไอ้เด็กวิทมันพูดออกมาอย่างนั้น  ไอ้พัดที่คิดว่าตัวเองแมนเสียเต็มประดาเนี่ยนะจะยอมให้ไอ้วิท หรือว่า...ไอ้วิทรับวะ? แต่...เท่าที่มันพูดดูท่ามันจะรุกว่ะเฮ้ย

                    “จีบอยู่ครับ  อืม...ต่อๆ ส่วนพี่เปอร์ถึงจะไม่ได้เป็นแฟนใครแต่พี่แกน่ารักเพราะงั้นก็รวมๆ ไว้กับพวกนั้นแหละ” ไอ้วิทพูด  ผมพยักหน้าเห็นด้วย  มองเผินๆ พวกนั้นก็เป็นเมียพวกผมกันทั้งหมดเพียงแต่ว่าพวกมันไม่ใช่ผู้หญิงจริงๆ  แต่ไอ้เปอร์ก็ยังไม่ได้เบี่ยงเบนแต่หน้าตามันน่ารักเพราะงั้นมันก็เหมือนกับพวกนั้นนั่นแหละ

                    “น่ารักตรงไหน?” เฮียลุกซ์พูดขึ้น

                    “เฮีย ดูดีๆ ดิ  ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นผู้ชายผมสอยมากินแล้วนะเนี่ย” ผมบอก  ก็ไอ้เปอร์มันน่ารักนี่ครับ  ถ้าแต่งหญิงหน่อยนี่คงดูไม่ออกเลยว่าเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิง

                    “แดกตีนกูแทนไหม?” เฮียลุกซ์ตวัดสายตามามองผมดุๆ ผมจึงเงียบปาก  อะไรวะ? แค่นี้ก็ดุ เชอะ!

                    “แต่ว่าพวกเราก็เป็นผู้ชายด้วยกันหมด  นอนคละๆ กันก็ได้ไม่ใช่เหรอวะ?” ไอ้ขลุ่ยขัดขึ้น

                    “มันก็ได้อยู่หรอกแต่ถ้าบังเอิญว่าพี่ไทได้นอนใกล้น้องคิม คนที่นอนห้องเดียวกันจะไม่ได้ดูหนังสดเหรอครับ?” ไอ้วิทพูด  ไอ้ห่า...ดูมันยกตัวอย่าง  ยกตัวอย่างคนอื่นไม่ได้รึไงวะเนี่ย  ทำไมต้องกู?

                    “เฮ้ย กูไม่ได้หื่นขนาดนั้น” ผมแย้ง

                    “แต่มึงมากกว่านั้น” ไอ้ขลุ่ยว่าผมจึงพยักหน้าจากนั้นเฮียลุกซ์ก็ประเคนฝ่ามือลงกลางกบาลของผม  ไปเปิดตลกคาเฟ่กันเถอะ  รับมุกกันดีเหลือเกินนะแต่ละคนเนี่ย

                    “กูว่าเอาตามนั้นแหละ  พวกเราก็นอนห้องใหญ่ให้พวกตัวเตี้ยๆ แคระๆ นอนห้องเล็กไป” เฮียลุกซ์ว่า

                    “แต่เมียผมสูงว่ะพี่” ผมขัดขึ้น

                    “เตี้ยกว่าพวกเราไหม?” เฮียยิ้มเย็นๆ ถาม  สงสัยจะอยากกระทืบผมที่ผมกวนเต็มเหนี่ยวแล้วนะเนี่ย  แหมๆ ผมก็แค่หยอกเล่น

                    แต่ว่า...ผมอยากนอนกับไอ้คิมนี่หว่า  อย่างน้อยๆ ก็อยากจะให้มันรู้ว่าตอนนี้ผมงอนมันอยู่พอตอนนอนมันจะได้มาอ้อนมาง้อผมไง  นี่ผมคิดไปไกลหรือเปล่าเนี่ย?  เฮ้อ ช่างมันเถอะ




     

                    พอเราจะกลับบ้านกันไอ้คิมก็เดินมาแซะผมเหมือนจะกวนแต่ผมไม่เล่นด้วยมันจึงหน้าหงอยไป  ให้มันรู้ซะบ้างว่าบังอาจมานอกใจกันต่อหน้าแล้วจะเจออะไร  เห็นกูขี้เล่นแต่ก็หึงจริงหึงจังนะมึง!

                    “เสือ...เป็นอะไรวะ? หยอกแค่นี้ก็ไม่ได้” ไอ้คิมกอดอกทำหน้ามุ่ย  ไอ้บ้านี่บางทีก็เรียกผมว่า ดำบ้างเสือบ้างตามโอกาสซึ่งตอนแรกๆ ผมก็ไม่ยอมหรอกแต่ตอนนี้ก็ชินซะแล้วล่ะ

                    “ตอนอยู่ที่บาร์มึงทำอะไร?” ผมถามเสียงเข้มพลางเดินไปนั่งที่โซฟาห้องนั่งเล่น  พอมาถึงบ้านคนอื่นๆ ก็แยกย้ายกันไป  บ้างก็ไปอาบน้ำบ้างก็ไปเดินเล่นในสวนส่วนผมกับไอ้คิมมาที่ห้องนั่งเล่นโดยไม่เปิดไฟ

                    “ก็กินเหล้าไง” มันตอบหน้าซื่อๆ

                    “อะไรอีก!?” ผมตะคอกถาม

                    “ก็...คุยกับพวกเพื่อนพี่ไอ  ก็แค่คุยนะเว้ย” ไอ้คิมขมวดคิ้วพูด  มันคงจะคิดว่าผมงี่เง่าล่ะสิ  แต่ถ้าลองมาเป็นผมแล้วจะรู้สึก  คนของตัวเอง เมียของตัวเองไปคุยกับคนอื่นโดยไม่สนใจเราเลยซักนิดใครไม่โกรธก็ตายด้านแล้วล่ะครับ  ขนาดไอ้ลันที่ว่าหน้าตายๆ นิสัยด้านๆ แบบนั้นยังหึงยังหวงจนแทบชักปืนออกมายิงชู้(?)สุดที่รักแล้วอย่างผมจะเหลือเหรอ?

                    “ถ้ามึงคิดว่ามึงแค่คุยโดยไม่สนใจอะไรก็ตามใจมึงเถอะ  อยากจะคุยอยากจะอ่อยใครก็เชิญ  แต่ถ้าเห็นหัวกูก็ช่วยทำตัวสงบเสงี่ยมหน่อย” ผมกอดอกเก๊กหน้าขรึม

                    “นี่ไง ทำไมจะไม่เห็น  หัวเกรี๊ยนเกรียน” ไอ้คิมว่าพลางเอื้อมมือมาลูบหัวผมเหมือนตั้งใจจะหยอกไปด้วยง้อไปด้วยแต่ผมก็ยังเก๊กงอน  จะหลอกให้ง้อซะให้เข็ด  ให้ตายเถอะ  ผมหายงอนตั้งแต่ที่มันทำหน้าหงอยๆ เพราะผมไม่เล่นด้วยแล้วล่ะครับ

                    “มึงเห็นกูเป็นอะไร? กูอายุมากกว่ามึงกี่ปี?” ผมแกล้งโหด  ไอ้คิมนิ่งไปก่อนจะดึงมือตัวเองกลับด้วยสีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้

                    “กูหยอกแค่นี้ไม่ได้ใช่ไหม? แค่กูคุยกับคนอื่นแค่นี้มึงก็โกรธ  เออ! กูเล่นกับมึงไม่ได้เลยนี่  ต่อไปนี้มึงจะให้กูเรียกมึงว่าพี่ไหม? จะให้กูเลิกใช้คำว่ากูกับมึงไหมล่ะ? ถ้ามึงจะเอาความต่างของอายุมาอ้างล่ะก็กูก็จะทำตามที่มึงต้องการ!” ตายห่า! แกล้งมากไป  จากที่เราโกรธมันดันโกรธเราซะงั้น

                    “...” ผมเงียบเพราะพูดอะไรไม่ออก

                    “ผมไปนอนแล้วนะครับพี่ไท” ไอ้คิมเม้มปากแน่นก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงสั่นๆ

                    “อะไรของมึงเนี่ย? กูยังไม่ได้บอกซักคำว่าจะให้มึงพูดจาสุภาพกับกู  ฟังแล้วแสลงหูว่ะ” ผมแกล้งโมโหหน่อยๆ

                    “ก็แล้วจะให้ทำยังไง? กับคนที่อายุมากกว่าก็ต้องพูดแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?” ไอ้คิมพูดอย่างตัดพ้อ  ไอ้เหี้ย...นี่มึงจะมางอนกูทำไมวะ  คนที่ต้องงอนมันกูนี่หว่า!

                    “แล้วทำไมไม่คิดได้ว่าต้องพูดแบบนี้กับกูตั้งแต่แรกฮะ!?

                    “ก็...กูเกลียดมึง” ไอ้คิมพูดอ้อมแอ้มแต่ก็ยังคงท่าทางโกรธๆ เอาไว้อยู่

                    “แล้วตอนนี้?” ผมถามอย่างมีความหวัง  เอาล่ะ ถ้ามึงพูดว่ารักกู กูจะยอมง้อมึงเลยเอ้า

                    “กูเกลียดมึง” อ้าวไอ้ห่า!

                    “งั้นเหรอ? นั่นสินะ  กูคงเป็นแค่ตัวคั่นเวลาของมึงล่ะสิ  อย่างมึงคงหาได้ดีกว่ากูเยอะ” ผมลุกขึ้นยืนหันหลังให้ไอ้คิมพลางพูดเหมือนคนน้อยใจเสียเต็มประดา

                    “ใช่  อย่างกูน่ะหาได้ดีกว่ามึงแน่ๆ” ผมนิ่งไปเมื่อมันพูดออกมาแบบนั้น  อย่าบอกนะว่ามันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ “แต่มึงคือคนที่ดีที่สุดสำหรับกูไม่ใช่หรือไง?” ผมอึ้งเมื่อไอ้คิมพูดออกมาแบบนั้น  ซวยละ...เขินซะแล้วเรา

                    “...” ผมเขินจนพูดไม่ออกเลยล่ะครับ  ไม่กล้าหันไปมองหน้ามันด้วย

                    “มึงแม่งไร้สาระว่ะ  งอนด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เป็นผู้หญิงไปได้  กูก็แค่คุยเป็นมารยาทไม่ได้ชอบพวกนั้นซักหน่อย  ถ้าไม่หันมาคุยกับกูภายในห้าวิเราเลิกกัน” ไอ้คิมมันพูดขู่  ไอ้ห่า...ให้เวลากูเขินแค่ห้าวิมันจะไปพออะไรวะ “หนึ่ง...สอง...สาม...สี่...สี่แล้วนะ...อีกหนึ่งวิก็จะห้าแล้วนะ...มึงจะเลิกกับกูจริงๆ ใช่ไหม? ฮึก! ถ้าเรื่องแค่นี้มึงไม่เข้าใจกูการเลิกกันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ฮึก!” ผมตกใจเมื่อจู่ๆ ไอ้คิมมันก็ร้องไห้ออกมา  โอ๊ย เด็กหนอเด็ก  ไม่รู้เลยรึไงว่ากูเขินมึง  น่ารักขนาดนี้กูจะเลิกทำไมวะ?

                    “ร้องไห้ทำไม? กูเขินอยู่” ผมหันกลับไปยิ้มให้มันก่อนจะดึงตัวมันเข้ามากอด  ตัวเท่าควายเสือกใจเท่ามด  ไอ้คิมเอ๊ย  ขี้แยอย่างนี้ปล่อยไปไหนไม่ได้หรอก

                    “ฮือ! ไอ้ดำ! ไอ้คนเฮงซวย! ฮือ มึงเลิกกับกูแล้วไม่ต้องมากอด ฮึก! ฮือ!!” ไอ้คิมพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนผมโดยการทุบและจิกไหล่แต่ผมก็ไม่ยอมปล่อย  มันร้องไห้ได้น่าสงสารมากเลยครับ  ปล่อยโฮเหมือนคนกำลังเสียใจแบบสุดๆ  ผมก็เสียใจนะที่ทำให้มันร้องไห้แต่ผมก็ดีใจที่มันรักผมมากขนาดนี้

                    “โอ๋ๆ ไม่เลิกๆ ชู่วว ไม่ร้องไห้นะ ไม่ร้องนะครับ” ผมลูบหัวปลอบมันแต่มันก็ยังปล่อยโฮออกมาอย่างอัดอั้น  สงสัยผมจะแกล้งมันแรงไปจริงๆ แฮะ

                    “ไม่ต้องมาพูดเพราะกับกู! ฮือ! ไอ้เหี้ย! ไอ้คนเฮงซวย!” ไอ้คิมก่นด่าพลางทำร้ายร่างกายของผมไปด้วย  เมื่อก่อนผมคงโกรธที่มันเอาแต่ตบตีผมแบบนี้แต่ตอนนี้ผมให้อภัยเพราะมันร้องไห้ได้บีบใจผมสุดๆ

                    “เมื่อกี้แค่แกล้งงอนเฉยๆ หายงอนตั้งแต่เห็นหน้าหงอยๆ น่ารักๆ แล้ว  ไม่ร้องนะ เป็นเด็กดีนะ โอ๋ๆ” ผมพยายามปลอบไอ้คิมสุดชีวิตแต่มันก็ยังคงแหกปากร้องไห้ต่อไป  ผมกลัวพ่อกับแม่ของสุดที่รักจะได้ยินน่ะสิ “เราจะไม่เลิกกันนะ  เพราะอะไรรู้ไหม?”

                    “กูไม่รู้เหี้ยอะไรทั้งนั้น!! ฮือ!!” ไอ้นี่ก็ตั้งหน้าตั้งตาร้องไห้จังวุ้ย!

                    “เพราะพี่ไทรักน้องคิมไงครับ” ไอ้คิมหยุดดิ้นทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น  เป็นไงล่ะ  อึ้งเลยล่ะสิ  ผมพูดน่ารักป่ะล่ะ?  น่ารักเหมือนหนังหน้าผมนี่แหละ ฮ่าๆ

                    “...” ไอ้คิมเงียบไป

                    “ถ้ามึงไม่รักกูมึงจะเลิกกับกูก็ได้นะ  แต่อยากให้รู้ไว้ว่ากูรักมึง  รักมึงคนเดียวด้วย” ผมก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของไอ้คิมเบาๆ สักพักมันก็ยกแขนขึ้นกอดผมเอาไว้แล้วก้มหน้าซุกลงที่ไหล่ของผม  ผมยิ้มนิดๆ ก่อนจะเอียงหน้าจุ๊บแก้มมันเบาๆ เล่นเอาหน้ามันแดงก่ำเลยล่ะครับ

                    “กู...ฮึก...ไม่เลิกหรอก” ไอ้คิมพูดเสียงอู้อี้  อ่า...มันน่ารักมากเลยครับ  ทำไงดีล่ะ  ผมอยากกดมันซะแล้วสิ  แต่จะกดที่ไหนล่ะเนี่ย!?!

                    “คิมครับ น้องพี่ไทตื่นแล้วครับ” ผมพูดเสียงกลั้วหัวเราะทำให้ไอ้คิมมันทุบหลังผมหนึ่งที

                    “ไอ้หื่น!” ไอ้คิมด่า

                    “ทำที่ไหนดีวะ? ในสวนไหม?” ผมมองไปมาก่อนจะถาม  ผมไม่ได้พูดเล่นนะ  ผมเอาจริง  กับไอ้คิมไม่ว่าจะที่ไหนผมก็ทำได้ทั้งนั้นนั่นแหละ  ครั้งแรกที่ผมได้กับมันก็ที่ซอกตึกของคณะที่มหาลัย  พิสดารป่ะล่ะ?

                    “ทุเรศ” ปากมันก็ว่าผมอย่างนั้นแต่แขนมันกลับกอดผมแน่นแถมยังยกขาจะก่ายเอวผมอีกผมจึงอุ้มมันขึ้นโดยที่มันหันหน้าเข้ามาหาผมและขาทั้งสองข้างมันยกลอยเหนือพื้น




     

                    พอเดินเข้าไปในสวนที่มืดสนิทโดยหวังจะเอาไอ้คิมตรงนั้นผมก็ต้องหยุดนิ่งและเอามือปิดตาไอ้คิมเอาไว้หลังจากที่ปล่อยมันลง

                    เชื่อเถอะครับ! ผมเห็น...เห็น...เห็นเฮียลุกซ์กำลังปล้ำจูบไอ้เปอร์อยู่ที่สวน  ดูเหมือนไอ้เปอร์มันจะไม่ยอมเพราะพอไอ้เปอร์หันมาเห็นผมกับไอ้คิมมันก็รีบผลักเฮียออกแล้วตบหน้าเฮียฉาดใหญ่ก่อนจะรีบวิ่งหนีไป  ผมกระซิบบอกไอ้คิมให้ไปนอนก่อนเพราะผมคิดว่าผมจะต้องคุยอะไรกับเฮียซักอย่าง

                    “เฮีย...” ผมเรียกเฮียหลังจากที่ไอ้คิมกลับเข้าบ้านไปได้สักพัก  ไม่อยากจะเชื่อเลยแฮะว่าเฮียกับไอ้เปอร์จะมีความสัมพันธ์กันแบบนี้  ผมไม่คิดว่าเฮียกับไอ้เปอร์จะสนิทกันด้วยซ้ำแม้จะเป็นพี่น้องสายรหัส  ให้ตายเถอะ  สายรหัสสายนี้แดกกันเองทั้งสายเลยว่ะ

                    มิน่าล่ะ...ตอนที่ผมบอกว่าไอ้เปอร์มันน่ารักเฮียถึงมองผมตาขวางๆ

                    “เหยียบไว้นะไอ้ไทไม่งั้นกูเหยียบมึงจมดินแน่” เฮียคาดโทษผม

                    “เฮียกับไอ้เปอร์เป็นอะไรกัน?” ผมถาม

                    “...” เฮียนิ่งไปก่อนจะตอบ “อย่างที่มึงคิด”

                    “แต่เมื่อกี้ไอ้เปอร์เหมือนจะไม่ยอมเฮียนะครับ” ผมจับผิด

                    “ก็มันโกรธอะไรไร้สาระ” เฮียลุกซ์บ่น

                    “มีเมียเด็กก็งี้แหละเฮีย  ต้องง้อต้องเอาใจ  เมื่อกี้ก็เพิ่งง้อเสร็จ” ผมว่า  แต่มีเมียเด็กมันก็กระชุ่มกระชวยอ่ะนะ ฮ่าๆ

                    “มึงง้อยังไงวะ?” เฮียถามอย่างสงสัย

                    “พูดหวานๆ บอกรักมันแค่นั้นก็หายงอนแล้ว” ผมบอกพลางหรี่ตามองเฮียนิดๆ  หน้าลำบากใจแบบนี้ท่าทางจะไม่ไหวแฮะ  หน้าอย่างเฮียลุกซ์คงไม่เคยบอกรักไอ้เปอร์แน่ๆ  ก็สมควรที่มันจะงอนนั่นแหละ  ขนาดไอ้ลันยังอยากจะถีบเฮียเลย

                    “มึงดูหนังหน้ากูดิ? กูพูดเหี้ยอะไรแบบนั้นไม่เป็นหรอก” เฮียลุกซ์ทำหน้าเซ็งๆ

                    “เฮียก็เลือกเอาเองแล้วกันว่าจะเสียอะไรระหว่าง...หน้า...กับคนรัก  ผมน่ะไม่ว่าหน้าจะแตกกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแต่ถ้าทำให้ไอ้เด็กนั่นมันรักผมมากขึ้นได้ผมก็ยอม  ชีวิตของคนเรามันไม่ได้ยืนยาวหรอกนะเฮีย  วันนี้หรือวันหน้าอะไรจะเกิดขึ้นกับผมหรือไอ้คิมก็ไม่รู้  มัวแต่เก๊กไปก็ไม่ได้อะไร  เวลามันเอาคืนกลับมาไม่ได้นะเฮีย” ผมพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง  ฮึ่ย! คิดได้ไงวะเนี่ย? คึๆ คำพูดผมหล่อเหมือนหน้าเลยว่ะ!

                    “ก็ใช่ว่ากูจะไม่เคยบอก  แต่...มันไม่ฟังกู  มันไม่เชื่อในตัวกูเลย” เฮียเบนสายตาหลบพลางขยี้หัวจนยุ่งไปหมด

                    “เฮียต้องถามตัวเองแล้วล่ะว่าเฮียเคยทำอะไรให้มันมั่นใจหรือเปล่า  อย่างผมน่ะ...ตอนแรกก็เก๊กอย่างเฮียนี่แหละ  แต่พอมันหายไปจากชีวิตแค่ไม่กี่วันผมก็แทบคลั่งแล้ว  คนเราจะรักกันได้ต้องมั่นใจซึ่งกันและกัน  รู้สึกยังไงก็แสดงให้มันเห็นสิ  รักมันก็ดูแลมันหน่อย  ดูตัวมันสิ  บางจนจะเหลือแต่กระดูกอยู่แล้ว” ผมว่า  จริงๆ นั่นแหละ  ไอ้เปอร์มันสูงก็จริงแต่ตัวบางจนเกินไปแล้ว  ดูท่าทางเฮียจะไม่ป้อนข้าวป้อนน้ำล่ะสิ

                    “กูบังคับให้มันแดกจนปากเปียกปากแฉะแต่มันเคยฟังกูบ้างไหมล่ะ? พอกูอ่อนให้ก็เอาใหญ่  เอาแต่ใจขี้ประชดจนประสาทแดกกบาลกูแล้วเนี่ย!” เฮียบ่นพลางทำท่ากระฟัดกระเฟียดจนผมแอบขำ

                    “ไปทำอะไรมันไว้ล่ะมันถึงดื้อใส่  ปกติเวลาพวกผมพูดอะไรมันก็ออกจะเชื่อฟังและเป็นเด็กดี  น่ารักจะตาย” ผมแกล้งพูดยั่วให้เฮียหึง  แต่ไอ้เปอร์มันก็ไม่เคยดื้อกับพวกผมจริงๆ นั่นแหละ

                    “ไอ้ไท  ระวังความคิดของมึงด้วยไม่งั้นเมียเด็กของมึงได้ตบเกรียนมึงแตกแน่  รวมทั้งกูด้วยที่จะตบมึง” เฮียลุกซ์ทำตาดุใส่ผม

                    “โธ่ ผมไม่กล้าคิดอะไรกับเมียเฮียหรอก  ดูท่าจะหวงเอาเรื่อง คึๆ  ผมไปสวีตกับเด็กของผมก่อนละ  ส่วนเฮียก็ทบทวนสิ่งที่ผมพูดให้ดีก็แล้วกันนะครับ” ผมหัวเราะคิกคักที่ได้สอนเรื่องความรักให้กับเฮีย  สำหรับคนที่เก่งไปซะทุกเรื่องอย่างเฮียก็มีข้อผิดพลาดด้านความรักเหมือนกันนี่หว่า  แต่อย่างเฮียน่ะรักใครได้ก็บุญแล้ว

     



     

                    ผมเดินหลั่นล้ากลับเข้าไปในบ้านก่อนจะเห็นไอ้คิมนั่งหน้าบึ้งอยู่ที่เก้าอี้  แหมๆ สงสัยจะทรมานที่ผมปล่อยให้มันอารมณ์ค้างอยู่คนเดียวล่ะมั้ง  สงสัยต้องจัดให้ชุดใหญ่ๆ

                    “มาต่อกันเถอะ” ผมเดินไปกอดเอาใจไอ้คิม

                    “ไม่! เมื่อกี้คุยอะไรกันนักหนา? ทำไมไม่ให้กูรู้เรื่องด้วย?” ไอ้คิมพูดเสียงนิ่ง

                    “มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเฮียลุกซ์เขาน่ะ  กูไม่กล้าพูดอะไรหรอกเดี๋ยวตายไม่รู้ตัวแล้วมึงจะเป็นหม้ายเอา” ผมแกล้งหยอด

                    “กูไปนอนละ” มันบอกพลางปัดแขนผมออกแล้วยืนขึ้น

                    “มึงอยากนอนกับกูไหม?” ผมถาม  ถ้ามันอยากนอนผมก็จะนอนกับมันที่โซฟานี่แหละ  ผมอยากนอนกอดมันจังเลย

                    “ไม่เอา! ถ้านอนกับมึงกูคงไม่ได้นอน  อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึงคิดจะทำอะไรกู? เมื่อกี้ถ้าไม่มีคนอยู่ที่สวนมึงก็จะกดกูที่นั่นจริงๆ ใช่ไหม? เอาไม่เลือกที่จริงๆ” ไอ้คิมย่นจมูกใส่ผม

                    “อะไรวะ? เมื่อกี้ก็เห็นสมยอมอยู่เลย” ผมทำหน้างงๆ กับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของไอ้คิม

                    “ก็กูเพิ่งมานึกขึ้นได้นี่  มึงน่ะ  ถ้ามีอารมณ์ที่ไหนก็เอาแม่งที่นั่น  คราวหน้ากูไม่ยอมมึงแล้ว  ไอ้หื่น! ไอ้เสือหื่น!” ไอ้คิมมันด่าผมก่อนจะวิ่งปรู๊ดขึ้นไปด้านบนทันที  อะไรของมันวะ  อารมณ์แปรปรวนจริงๆ เมนมารึไง?

     



     

                    ผมแทบไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะคิดเรื่องของไอ้เด็กดื้อคนเดียว  พอตื่นเช้ามานั่งกินข้าวไอ้คิมมันก็ทำหน้าหงิกใส่ผมจนผมไม่รู้จะเข้าหามันยังไง  ผมรู้ว่าผมไม่ดีที่มีอารมณ์ที่ไหนก็กดมันที่นั่นแต่ใครบอกให้มันยั่วผมโดยไม่ตั้งใจเองล่ะ  แค่มันหน้าแดงผมก็รู้สึกอยากจะกดมันแล้ว  เรื่องนี้จะโทษผมคนเดียวก็ไม่ได้เพราะมันนั่นแหละที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้

                    หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็ลากไอ้คิมออกมาคุยกันตามลำพังครับ  มันจะหาเรื่องมางอนผมแบบนี้ไม่ได้  เฮ้อ เด็กก็คือเด็ก  นี่แหละเหตุผลที่ผมไม่ชอบเด็ก  แต่ทำไงได้ล่ะครับ  กับคนนี้ผมรักไปซะแล้ว

                    “หายงอนซักทีน่า  กูสัญญาว่าจะไม่กดมึงในที่แปลกๆ อีกแล้ว” ผมขมวดคิ้วบอก  ก็แบบ...ที่แปลกๆ มันตื่นเต้นดีนี่หว่า  กระตุ้นอารมณ์ได้เป็นสองเท่าเลย

                    “ถ้ามึงทำ?”

                    “เอ่อ...กูยอมให้มึงจูบกูเลยเอ้า” เหอๆ ข้อเสนอเอาแต่ได้จริงๆ เลยผมนี่

                    “ได้” เฮ้ย! เสือกตกลง “แต่กูจะจูบปากมึงด้วยตีน” ไอ้คิมพูดนิ่งๆ เหมือนจะเอาจริง

                    “เฮ้ยๆ เอาใหม่ๆ มึงเสนอมาดิ” ผมรีบยกเลิกข้อเสนอของผมทันที

                    “ให้กูทำมึง”

                    “หา!?!?!” ผมแหกปากทันที  จะบ้าเรอะ! ไม่เอา ไม่มีทางเด็ดขาด

                    “ไม่ต้องตกใจ  แค่มึงรักษาสัญญาได้มึงก็ไม่ต้องเสียเอกราช” ไอ้คิมยกยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า  เอ่อ...ถ้าผมยอมผมจะเข้าข่ายคนในสมาคมกลัวเมียหรือเปล่าครับ?

                    “เอ่อ...ก็ได้วะ” ผมยอมตกลงแต่โดยดี  แค่อดใจไว้ทำในห้องนอนผมก็ชนะแล้วสินะ  เฮ้อ ก็อยากจะบอกว่าไม่ยอมอยู่หรอกครับแต่ทำไงได้  กลัวเด็กมันงอนนี่หว่า

                    “รักษาสัญญาด้วย” ไอ้คิมบอกก่อนจะกอดอกแล้วเดินกลับเข้าบ้าน

                    “เดี๋ยว...!” ผมเรียกมันไว้ก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้ไม้ที่อยู่ในสวน “ทำให้กูไม่ได้นอนทั้งคืน  มาขอโทษเดี๋ยวนี้” ผมยกยิ้มพลางชี้ไปที่ตักของตัวเอง  ไอ้คิมมองตามก่อนหน้าจะขึ้นสีแดงก่ำ

                    “ขะ...ขอโทษ!” มันพูดแค่นั้น

                    “อย่าดื้อ!” ผมแกล้งทำหน้าดุขู่ไอ้คิมจึงรีบวิ่งมานั่งหันข้างทับตักของผมแล้วกอดคอผมเอาไว้  น่ารักอีกแล้ว  แต่คนตัวโตสองคนมานั่งตักกันแบบนี้มันดูแปลกๆ แฮะ  ช่างแม่ง! มีเมียตัวโตก็ต้องทำใจ

                    “จุ๊บ!” ไอ้คิมโน้มหน้ามาจุ๊บปากผมเบาๆ ก่อนจะเบือนหน้าหนีเพราะความอาย

                    “ดีมาก  คราวหน้าถ้ามีอะไรก็บอกตรงๆ อย่าเก็บไปงอนคนเดียวเดี๋ยวก็ได้ทะเลาะกันเป็นเรื่องใหญ่โตเหมือนคู่อื่นๆ เค้าหรอก” ผมบอก  ผมหมายถึงเฮียลุกซ์น่ะครับ

                    “มึงก็ด้วย  ห้ามไปจีบใครทั้งต่อหน้าและลับหลังกู” ไอ้คิมชี้หน้าคาดโทษ

                    “ไม่จีบหรอกน่า  แต่ถ้ามีคนมาจีบจะบอกว่ามีเมียแล้ว” ผมยิ้มเอาใจพลางกอดเอวมันเอาไว้

                    “ไอ้บ้า!” ไอ้คิมก้มหน้าเหนียมอายพลางทุบมาที่อกผม

                    “คิม...มึงรักกูไหม?” ผมถามอย่างจริงจัง  ไอ้คิมอ้าปากค้างอึ้งกับคำถามก่อนหน้ามันจะแดงไปทั้งหน้า

                    “หือ? เอ่อ...อือ” ไอ้คิมเลิ่กลั่กก่อนจะพยักหน้าขึ้นลง

                    “รักไหม?” ผมถามซ้ำเพราะอยากได้ยินคำว่ารักจากปากมัน

                    “อือ รัก” ไอ้คิมพูดเบาๆ ก่อนจะก้มหน้ามุดไหล่ผม  ผมยิ้มก่อนจะกระชับเอวมันให้แน่นขึ้น  ผมมีความสุขที่ได้เจอกับมันและคิดว่ามันจะเป็นคนสุดท้ายในชีวิตของผม  ผมจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปเด็ดขาด

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    อ๊ากกกก เหลืออีกตอนเดียวเท่านั้นเรื่องนี้ก็จะจบลงซะแล้ววววว ><
    ใจหายมากๆ เลยอ่า  แต่อีกหนึ่งตอนสุดท้ายนี้ไรเตอร์ต้องขอบอกว่าจะมาช้ามากอีกเช่นเคยเพราะช่วงนี้ติดกิจกรรมมาก  มาอัพได้แค่ลุกซ์เปอร์  ช่วงนี้อัพเรื่องนั้นบ่อยแต่ว่าคงจะอัพบ่อยได้อีกไม่นาน  ฮ่าๆๆ  ส่วนเรื่องคิทคิทจะบอกว่ายังจะอัพต่ออีกน้า  ไม่ทิ้งแน่นอน
    ส่วนเรื่องหนังสือขอให้จบไปก่อนแล้วจะมาบอกรายละเอียดอีกทีนะคะ ^++^

    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry
    +Nutzto
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×