ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ซวยฉิบหาย! ผมกลายเป็นเมียเขา [จบจ้า]

    ลำดับตอนที่ #49 : Rule 37 : กำเนิดสุดที่รัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 19.66K
      61
      3 ม.ค. 64

    06/03/13
    Rule 37 : กำเนิดสุดที่รัก


    ลัน
     



                    เอมิกา  สาวมั่น  สวยแกร่งและทำงานเก่ง  ในระหว่างที่กำลังเรียนอยู่ในระดับอุดมศึกษาเธอได้พบกับเพื่อนชายต่างคณะที่เข้ามาจีบเธอถึงสองคน  คนหนึ่งหล่อ สุภาพ อ่อนโยนและใจดี คอยดูแลเอาใจใส่เธออยู่เสมอและอีกคน หล่อ  เจ้าชู้  นิสัยห่ามๆ  แต่เธอรัก  ชายหนุ่มทั้งสองเป็นพี่น้องต่างสายเลือด  ที่นิสัยต่างกันอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งพวกเขายังเกิดในปีเดียวกันโดยคนพี่อายุห่างกันเพียงไม่กี่เดือน

                    “ลิต  เราขอโทษนะที่เรารับรักเธอไม่ได้  เราเป็นเพื่อนกันจะดีกว่าไหม?” เอมิกาพูดอย่างประนีประนอมเมื่อชายหนุ่มผู้อ่อนโยนมาสารภาพรักหลังจากที่ตีสนิทกับเธอมาหนึ่งปีเต็ม

                    “เรารู้นะว่าเอมรักไอ้ลักษณ์  เราเข้าใจ  แต่ถ้าวันไหนเอมเสียใจเพราะมันเราจะไม่ยอมเด็ดขาด  เรารักเอมนะ” ลลิภัทรประคองมือเอมิกามาจับไว้อย่างอ่อนโยน  เอมิกาเม้มปากซึ้งใจกับความรักที่เขามอบให้แต่หัวใจของเธออยู่ที่หนุ่มเพลย์บอยที่มาขโมยไปแล้วไม่ยอมคืนหนำซ้ำยังตามขโมยหัวใจสาวๆ คนอื่นอีกมากมาย  เธอรู้...ว่าเขาไม่ได้มีเธอเพียงคนเดียว

                    “ขอบใจลิตมากนะที่หวังดีกับเรา  แต่จะไม่ให้เราเสียใจเพราะลักษณ์คงไม่ได้  ลิตก็รู้ว่าลักษณ์เป็นคนอย่างไรแต่เราตัดใจจากลักษณ์ไม่ได้จริงๆ” เอมิกาก้มหน้านิ่ง

                    “เพราะเรารักเอมไง”




     

                    หลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือนเอมิกาก็ตกลงปลงใจคบกับลักษณ์ซึ่งทั้งสองก็ดูจะรักกันมากแต่ลักษณ์ก็ยังแอบมีกิ๊กบ้าง  ลลิภัทรทนไม่ได้กับความมักมากของน้องชายจึงพยายามที่จะแย่งเอมิกากลับคืนมาเพราะไม่อยากจะเห็นน้ำตาของเอมิกาอีก  เพราะความรักมากจนเกินไปทำให้ลลิภัทรผู้แสนอ่อนโยนเปลี่ยนไปเป็นคนเย็นชาและเด็ดขาด  เขาจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งคนที่เขารัก

                    เดิมทีเนื้อแท้ภายในของลลิภัทรก็เป็นจอมเผด็จการแต่ความอ่อนโยนและใจดีมีมากกว่าเขาจึงไม่แสดงด้านที่แข็งกระด้างออกมา  แต่วันนี้น้องชายของเขาทำให้นิสัยด้านนั้นของเขามันปะทุ  ความอ่อนโยนใจดีนั้นจึงไม่มีอีกต่อไป

                    “เอมเป็นของผม! พี่เป็นใคร? มีสิทธิอะไรในตัวเอม!?!” ลักษณ์ขึ้นเสียงใส่พี่ชายที่กำลังจะพาเอมิกาออกจากผับหลังจากที่ทั้งสองมาตามหาลักษณ์ที่แอบมาเที่ยวกับผู้หญิงคนอื่น

                    “คนอย่างแกไม่คู่ควรกับเอม  ไสหัวออกไปจากชีวิตของเอมซะ  ต่อไปนี้ฉันจะดูแลเอมเอง!” ลลิภัทรผลักอกน้องชายที่ตัวเล็กกว่าจนร่างสูโปร่งเซถลาชนแขกคนอื่นๆ จนเกิดเสียงโวยวาย  เอมิกาเห็นคนรักล้มลงไปอย่างนั้นก็คิดจะเข้าไปช่วยแต่ลลิภัทรบีบมือเอาไว้ “แค่ซื่อสัตย์กับคนรักของตัวเองแกยังทำไม่ได้นับประสาอะไรจะมาดูแลชีวิตของคนคนหนึ่ง  อย่ามายุ่งกับเอมอีก!” ลลิภัทรตะคอกก่อนจะฉุดกระชากร่างบางระหงให้เดินตามออกจากสถานบันเทิงทันทีเพราะไม่อยากให้หญิงสาวบริสุทธิ์อย่างเอมต้องมาแปดเปื้อนมลทินในสถานบันเทิงที่เต็มไปด้วยอบายมุขเช่นนี้

                    ลักษณ์มองทั้งสองคนเดินจากไปอย่างเจ็บปวด  แรกเริ่มเดิมทีเขาแค่สนใจเอมิกาเพราะพี่ชายเขาสนและเขาก็พยายามหว่านเสน่ห์ให้เอมิกาหลงรักจนสำเร็จ  ไม่ใช่ว่าลลิภัทรหน้าตาดีสู้น้องไม่ได้แต่เขาเป็นคนดีเกินไปและยึดมั่นในกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัดผู้หญิงจึงชอบลักษณ์ที่คารมดีมากกว่า  แต่เอมิกาไม่ได้ตัดสินเช่นนั้น  เธอมองเห็นความดีและความมั่นคงในตัวลักษณ์แม้เจ้าตัวจะไม่ค่อยแสดงออกมาก็ตาม  คนอย่างลักษณ์ถ้าได้รักใครแล้วจะรักมากและรักด้วยหัวใจ  และในวันนี้เขาก็รู้ตัวว่าเอมิกาคือผู้หญิงที่เขาจะต้องดูแล




     

                    ทุกวันหลังจากนั้นลักษณ์ก็ตามตื๊อเอมิกาแต่ไม่ว่าเอมิกาจะไปที่ไหนก็มักจะมีลลิภัทรติดสอยห้อยตามไปโดยตลอด  ลลิภัทรที่เปลี่ยนไปเริ่มทำให้เอมิกาไม่สนิทใจที่จะคบต่อไปแต่ก็ขัดไม่ได้เพราะท่าทางของเขาช่างน่ากลัวและน่าเกรงขามยิ่งนัก

                    “เอม! ผมรักเอมนะ  ผมยอมทุกอย่างแล้ว  ผมเลิกกับทุกคนแล้ว  เอมให้โอกาสผมได้ไหม?” ลักษณ์คุกเข่าอ้อนวอนในวันที่จบการศึกษาขณะที่ลลิภัทรพาเอมิกาเดินหนีไปจากลักษณ์และเมื่อได้ยินเช่นนั้นเอมิกาก็ชะงัก  น้ำตาไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้  ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเธอคิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา  ทุกครั้งที่เขามาง้อขอคืนดีเธอก็อยากจะให้อภัยแต่เพราะลลิภัทรบอกให้ใจแข็งเข้าไว้ลักษณ์จะได้สำนึกเธอจึงต้องใจร้าย  และเพราะเหตุนั้นลักษณ์จึงเกลียดลลิภัทรที่แย่งคนรักไปจากเขา  ตอนที่อยู่บ้านลลิภัทรก็เอาแต่เย็นชาและคอยขัดคอทุกครั้งที่เขาขออะไรๆ จากพ่อจนในที่สุดพี่น้องก็ไม่คุยกันดีๆ อีกเลย

                    “ลิต...” เอมิกาบีบมือลลิภัทรแน่นเพราะตอนนี้เธอคิดอะไรไม่ออกแล้ว  เธอยืนหันหลังให้คนที่เธอรักทำให้เขาไม่เห็นว่าตอนนี้เธอกำลังร้องไห้และเธอเองก็ไม่เห็นว่าเขาเจ็บปวดที่เห็นเธอจับมือกับพี่ชายของเขาแน่น

                    “ไปเถอะเอม  มันเปลี่ยนไปเพราะเอมนะ  ดูแลน้องชายเราดีๆ ถ้ามีปัญหาอะไรเอมจะต้องบอกเรานะรู้ไหม?” ลลิภัทรดึงมือออกจากการเกาะกุมก่อนจะเช็ดน้ำตาให้เอมิกา  เอมิกายิ้มขอบคุณก่อนจะวิ่งเข้าไปหาลักษณ์  ทั้งสองกอดกันในชุดครุย  ความรู้สึกรักล้นปรี่จนไม่อาจหาคำใดมาบรรยายได้

                    ลลิภัทรยิ้มเศร้าๆ ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่หันกลับไปมองเพราะหัวใจบีบอัดจนเจ็บระบม  เพราะทั้งสองคนนั้นเป็นคนที่เขารักเขาจึงไม่อยากจะทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องเจ็บ  แค่แย่งเอมิกามาเป็นของตัวเองทำไมเขาจะทำไม่ได้แต่ถ้าทำเช่นนั้นคนที่เจ็บจะมีถึงสามคนเพราะฉะนั้นเขาจึงยอมที่จะเจ็บเพียงคนเดียว

                    “นี่นาย! เดินชนคนอื่นแล้วทำไมไม่ขอโทษ!? กลับมาขอโทษฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้ผู้ชายเฮงซวย!!” แขนแข็งแรงของชายหนุ่มที่กำลังเดินเหม่อถูกกระชากเอาไว้โดยหญิงสาวร่างผอมบางทว่าทำตัวแก่นแก้วและห้าวหาญจนชายอาย

                    “อะไรของเธอเนี่ย!? น่ารำคาญจริง!” ลลิภัทรโวยวายอย่างอารมณ์เสียที่ถูกขัดอารมณ์แต่เพราะหยาบคายใส่ผู้หญิงเขาจึงถูกด่าว่าเป็นผู้ชายเฮงซวย  ลลิภัทรโมโหปรี๊ดขึ้นมาทันที  เขาทิ้งอารมณ์เศร้าแล้วหันมาต่อปากต่อคำกับยัยผู้หญิงห้าวหาญที่ทำให้เขาโมโห

                    “นี่! เห็นไหมว่านายเดินชนฉันจนดอกไม้ฉันตกแล้วยังจะมีหน้ามาเหยียบดอกไม้ฉันอีก  ไอ้คนหน้าไม่อาย!” วิชุตาชี้หน้าด่าทอ  เธอรู้จักเขาเพราะเขาดังพอสมควรเนื่องจากเขาหล่อและเรียนเก่งซ้ำยังรวยมากแต่เธอกลับไม่ได้ชอบเขาเหมือนที่ทุกคนชอบ  เพราะท่าทางเขาหยิ่งๆ นิ่งๆ แลดูเข้าถึงยากทำให้ผู้หญิงหลายๆ คนได้แต่แอบชอบเขาห่างๆ แต่เพราะเขาดูหยิ่งๆ นั่นแหละเธอถึงไม่ชอบขี้หน้าเขา

                    “ชิ! จะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ก็บอกมาไม่ต้องอ้อมค้อม” ลลิภัทรขมวดคิ้วก่อนจะล้วงเอากระเป๋าเงินออกมาเปิดเพื่อหยิบเงินให้วิชุตา

                    “ขอโทษนะแต่ฉันไม่ได้อยากได้เงินของนาย!” วิชุตาโมโหจนหน้าแดงก่ำที่ชายหนุ่มดูถูกหาว่าเธออยากได้ค่าเสียหาย

                    “แล้วเธอจะเอาอะไรก็รีบบอกมาสิ!

                    “ขอโทษ”

                    “เธอมาขอโทษฉันทำไม?”

                    “แม่อยากจะกรี๊ด!” วิชุตากระทืบเท้าอย่างเจ็บใจที่อีกฝ่ายไม่เข้าใจความหมายของเธอ “ฉันไม่ได้ขอโทษนายแต่ฉันบอกให้นายขอโทษฉันต่างหากเล่า!!

                    “ชิ! ไม่ขอโทษแล้วจะทำไม” ลลิภัทรแสยะปากก่อนจะเดินล้วงกระเป๋าหนีไปเฉยเลย

                    “อีตาบ้า! ไอ้ผู้ชายเฮงซวย! ฉันขอแช่งให้นายเป็นหมันไม่มีเมียไม่มีลูกไม่มีใครรัก!! ไอ้หมอนี่มันกวนประสาทว่ะ  อยากจะรู้จริงๆ ว่าคนอย่างไอ้บ้านี่ใครจะเอาไปทำพันธุ์!!” วิชุตาตะโกนด่าไล่หลังโดยไม่อายสายตาของนักศึกษานับร้อยที่มาร่วมงานรับปริญญา  ลลิภัทรแอบขำที่ถูกด่าว่าเช่นนั้นแต่เขาก็ไม่แสดงท่าทางบ่งบอกว่าเขาสนใจผู้หญิงปากกล้าคนนี้ให้ใครรู้และสุดท้ายเขาก็พิสูจน์ให้วิชุตาเห็นว่าคำสาปแช่งของเธอไม่ได้ผลกับเขานอกจากนั้นคำสาปแช่งของเธอยังกลับตาลปัตรเพราะนอกจากเขาจะไม่เป็นหมันแล้วเขายังมีลูกถึงสามคน




     

                    ฝ่ายลักษณ์และเอมิกานั้นหลังจากที่เรียนจบก็ตัดสินใจจะแต่งงานกันแต่เนื่องด้วยทางบ้านของลักษณ์เป็นถึงเจ้าของบริษัทนำเข้ารถและพ่อของเขาก็จัดหาเจ้าสาวไว้ให้เขาแล้วเขาจึงตัดสินใจพาเอมิกาหนีไปที่บ้านเกิดของเธอและแต่งงานกันโดยมีแค่ญาติของฝ่ายหญิงเท่านั้น  เขายอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะได้อยู่กับเธอ  ต่อให้ไม่ได้รวยล้นฟ้า ไม่มีรถแพงๆ ขับเขาก็อยู่ได้  แต่ถ้าไม่มีเอมิกาเขาก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ต่อไปอย่างไร

                    ทั้งสองอยู่ด้วยกัน  ทำงานที่เดียวกันจนเอมิกาตั้งครรภ์  ลักษณ์ตื่นเต้นดีใจมากที่กำลังจะมีลูกซึ่งเป็นตัวแทนความรักของพวกเขาทั้งสองคน

                    “เขาจะออกมาหน้าตาเหมือนผมหรือเหมือนคุณนะ? อยากเห็นหน้าลูกเร็วๆ จังเลยครับเอม” ลักษณ์ที่นั่งซ้อนด้านหลังเอมิกาพลางนวดท้องให้เธอพูดอย่างตื่นเต้น

                    “คุณนี่ก็เห่อลูกเกินไปนะ  ไม่ใช่ว่ามีลูกแล้วจะลืมฉันเหรอ?” เอมิกาพูดเย้าแหย่

                    “จะลืมได้อย่างไรครับ  ผมก็รักทั้งคุณทั้งลูกนั่นแหละครับ” พูดพลางหอมแก้มแดงๆ ไปฟอดใหญ่  ลักษณ์ที่เคยเจ้าชู้และแข็งกระด้างได้เปลี่ยนไปแล้ว  ตลอดเวลาที่ลลิภัทรขัดขวางเขาเขาก็พยายามอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเอมิกาและเขาก็จะคงเส้นคงวาแบบนี้ต่อไปเพื่อเมียและลูก




                   

                    ชีวิตที่คาดว่าจะดำเนินไปอย่างราบรื่นก็สะดุดเมื่อครอบครัวของลลิภัทรมาเยี่ยมเยียนครอบครัวของลักษณ์  ลักษณ์ห่วงและกังวลว่าพี่ชายจะกลับมารักภรรยาของตนอีกครั้งแต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้เพราะเอมิกาขอไว้เนื่องจากลลิภัทรเองก็มีภรรยาและมีลูกแล้วสองคนโดยลูกของเขาทั้งสองเกิดมาอายุไล่เลี่ยกัน

                    “เห็นลิตแบบนี้ไม่คิดเลยนะว่าจะมีลูกก่อนเราตั้งสองคนแน่ะ” เอมิกาพูดเย้าแหย่ขณะที่กำลังนั่งหยอกล้อกับเด็กผู้ชายสองคนที่ลลิภัทรพามาด้วย  หลังจากที่ทั้งสองหนีมาอยู่ด้วยกันเอมิกาก็ติดต่อกับลลิภัทรตลอดในฐานะเพื่อนและขอให้เขาพาลูกกับภรรยามาหาบ้างเผื่อจะได้ขอคำแนะนำในการเลี้ยงลูก

                    “ช่วยไม่ได้นะเอม  ถ้าเธออยู่กับเราเธออาจจะมีลูกแฝดก็ได้นะ” ลลิภัทรยิ้มเจ้าเล่ห์พลางหรี่ตามองภรรยาที่ทำให้บูดบึ้งไปเรียบร้อยตามระเบียบ  แม้จะมีลูกด้วยกันสองคนแล้วแต่ลลิภัทรก็ยังชอบแกล้งให้ภรรยาโมโหและเสียใจบ่อยๆ  เขาไม่เคยบอกรักแต่แท้จริงในใจเขารักมากเพราะภรรยาของเขามาช่วยเขาไว้ในวันที่เสียใจ  เพราะเธอเขาถึงลืมความเจ็บปวดนั่นได้  การทะเลาะกันเธอทุกๆ วันทำให้เขามีความสุขเขาจึงหาเรื่องเธอบ่อยๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่าการกระทำนั้นทำให้เธอเสียใจมากแค่ไหน

                    “เธอก็พูดไป  ถ้าวิเสียใจแล้วหนีเธอไปเราจะหัวเราะเข้าให้” เอมพูดหยอกเมื่อเห็นว่าวิชุตาหน้าเสีย

                    “เราไม่ได้รั้งไว้เลยนะเนี่ย” ลลิภัทรยังแกล้งวิชุตาต่อไป  วิชุตาเม้มปากขอบตาร้อนผ่าว  ยิ่งมาอยู่ต่อหน้าคนที่ลลิภัทรรักเธอยิ่งอยากจะร้องไห้แต่ต้องอดทนเอาไว้เพราะเธอไม่เคยร้องไห้ให้เขาได้เห็นสักครั้ง

                    “พอเลยลิต  ไม่พูดเรื่องนี้ละ  เอ้อ เจ้าตัวเล็กนี่ชื่ออะไรเหรอวิ?” เอมิกาพูดตัดบทเพราะเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงด้วยกัน  ถึงภายนอกจะดูแข็งแกร่งแต่แท้จริงแล้วก็อ่อนแอ

                    “ลันจ้ะ” วิชุตากลืนน้ำตากลับเข้าไปก่อนจะยิ้มตอบ

                    “อายุเท่าไหร่เหรอ? ดูท่าทางจะอายุใกล้เคียงกันนะ” เอมิกาถามต่อ

                    “ผมอายุฉามขวบคับ ส่วนน้องชายฉองขวบ” เด็กชายผู้เป็นพี่คนโตพูดเสียงใสพลางทำท่ากอดน้องเอาไว้ตอนที่บอกว่าอายุสองขวบ  เอมิกามองแล้วก็หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู

                    “หนูชื่ออะไรครับ?” เอมิกาถาม

                    “ชื่อลุกซ์คับผม น้องชื่อลัน  ลันพูดบ้างสิ พูดกับคุณน้า” ลุกซ์พูดพลางสะกิดน้องที่นั่งซึมกระทือไม่พูดไม่จาให้พูดกับเอมิกา  ความไร้เดียงสาของเด็กทั้งคู่ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะยิ้ม

                    “นี่ ถ้าลูกของเอมเป็นผู้หญิงวิต้องให้ลูกของเอมแต่งงานกับลูกของวินะ ฮะๆ” เอมิกาพูดขำๆ

                    “ได้สิเอม  เด็กๆ ใครอยากแต่งงานกับน้องที่อยู่ในท้องคุณแม่เอมบ้างเอ่ย?” วิชุตายิ้มให้เอมิกาก่อนจะก้มลงถามลูกๆ ที่กำลังนั่งเล่นต่อตัวอยู่ที่พื้น

                    “ผมคร้าบ!” ลุกซ์ยกมือขึ้นพลางยิ้มแป้นจนตาหยี  ลันผู้เป็นน้องหรี่ตามองพี่ก่อนจะผลักเบาๆ แล้วลุกเดินเข้าไปหาเอมิกา  ทุกคนมองลันอย่างสงสัยว่าเขากำลังจะทำอะไร

                    “ผม...แต่งงาน...กับน้อง” ลันพูดออกมาเบาๆ เหมือนกับเด็กเพิ่งหัดพูดเพราะปกติเขาเป็นคนไม่ค่อยพูดและไม่ค่อยร้องและไม่ซนเหมือนลุกซ์  อ้อมแขนเล็กๆ กอดหมับเข้าที่ท้องที่กำลังโตพลางซุกหน้าแนบท้องหลับตาพริ้มเหมือนกับให้สัญญากับก้อนเนื้อในท้องที่กำลังเติบโต

                    “ฮะๆๆ ตาลันท่าทางจะเอาจริงนะเนี่ย  ปกติไม่ค่อยทำอะไรแบบนี้หรอกนะ ฮ่าๆ” วิชุตาอึ้งไปพักใหญ่ก่อนจะหัวเราะทั้งๆ ที่ยังตกใจไม่หายกับปฏิกิริยาของลูกชายคนเล็ก  ไม่ใช่แค่วิชุตาที่อึ้งแม้แต่คนเป็นพ่อและพี่ยังอึ้งกับการกระทำของลันไปด้วยและตอนนี้เด็กชายก็หลับไปทั้งๆ ที่ยังซบอยู่ที่ท้องของเอมิกา

                    “ฮ่าๆ จริงเหรอวิ  สงสัยโตขึ้นต้องให้สองคนนี้แต่งงานกันจริงๆ ซะแล้วสิ ฮ่าๆ” เอมิกาลูบศีรษะเล็กๆ ก่อนจะอุ้มไปนั่งบนตัก  ตอนหลับลันน่ารักมากจนเธออดไม่ได้ที่จะฟัดแก้มแดงๆ ย้วยๆ นั่น  ลุกซ์เห็นแบบนั้นก็เข้าไปอ้อนบ้างเอมิกาจึงอุ้มลุกซ์ไปนั่งตักอีกข้าง

                    “แล้วนี่เจ้าลักษณ์ไปไหนซะล่ะ?  ตั้งแต่มายังไม่เห็นเลย” ลลิภัทรถามหาน้องชาย  ไม่ได้เจอกันนานเขาเองก็อยากจะปรับความเข้าใจกับน้องเสียที

                    “ไปทำงานน่ะ  เดี๋ยวก็คงมาเพราะเห็นบอกว่าจะลางานครึ่งวัน” เอมิกาบอก

                    “สงสัยกลัวว่าเราจะลักพาตัวเธอไปล่ะมั้งถึงต้องรีบลางาน ฮึๆ” ลลิตภัทรหาเรื่องแกล้งแหย่วิชุตาอีกครั้งเพราะอยากเห็นเธอโวยวาย

                    “นี่ลิต พอได้แล้วนะ” เอมิกากระซิบปรามเมื่อเห็นรอยยิ้มของวิเจื่อนไป

                    ตึกๆๆๆ

                    ยังไม่ทันได้พูดอะไรมากเสียงฝีเท้าหนักๆ ก็ดังขัดจังหวะการคุยเสียก่อน  ลักษณ์วิ่งเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าตื่นตกใจผสมกับโกรธเคืองอะไรบางอย่างทำให้คนอื่นๆ ตกใจไปด้วย

                    พลั่ก!!

                    ร่างสูงใหญ่ของลลิภัทรกระเด็นไปกระแทกผนังเมื่อจู่ๆ ลักษณ์ก็พุ่งเข้ามาผลักพี่ชายต่างสายเลือดทำให้ทุกคนตกใจปนสงสัยกันมากกว่าเดิม

                    “อะไรของแกน่ะลักษณ์!?!” ลลิภัทรตะคอกถามอย่างไม่เข้าใจก่อนยกแขนขึ้นกันหมัดลุ่นๆ เอาไว้แล้วผลักลักษณ์ออกให้ห่างโดยไม่สวนกลับ

                    “พี่ลิต!! พี่มาพาพวกนั้นมาทำไม!? พี่พาพวกนั้นมาทำลายความสุขของครอบครัวผมเพราะพี่ยังรักเอมใช่ไหม!?!” ลักษณ์ตะคอกถามหน้าแดงก่ำ

                    “อะไรลักษณ์? ฉันพาใครมา?” ลลิภัทรขมวดคิ้วถามอย่างงงๆ

                    “ฉันเอง!” เสียงเข้มดุดันดังขึ้นหน้าประตูทำให้ทุกคนผวา  ลุกซ์กับลันที่หลับไปพลันตื่นขึ้นมาร้องไห้จ้าละหวั่นเมื่อเห็นชายร่างใหญ่หลายคนเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับคนที่ตัวเองเรียกว่าปู่

                    “พ่อ!!” ลลิภัทรเบิกตากว้างอย่างตกใจ

                    “ฉันไม่คิดว่าแกจะสมรู้ร่วมคิดให้น้องของแกมาอยู่กับผู้หญิงต่ำๆ คนนี้นะ” ผู้เป็นพ่อที่แก่ชราทว่าน่าเกรงขามพูดเสียงดุดัน

                    “เอมไม่ใช่คนต่ำ!” ลักษณ์เถียงขึ้นทันใด

                    “เธอน่ะ  ต้องการเท่าไหร่? ออกไปจากชีวิตลักษณ์ซะ  เขามีอนาคตที่ดีกว่านี้” คนพ่อพูด  เอมิกาถึงกับชะงักพูดอะไรไม่ออกและคิดตาม

                    “ไม่! อนาคตของผมคือเอม!” ลักษณ์ดึงภรรยาเข้าไปกอดเอาไว้เพื่อยืนยัน  เอมิการู้สึกอุ่นใจแต่ในขณะเดียวกันก็เศร้าเพราะคิดตามคำพูดของพ่อสามี

                    “ลองคิดดูให้ดีๆ ลักษณ์เป็นถึงลูกของประธานบริษัทอย่างฉัน  ก็จริงที่คนที่ต้องรับช่วงต่อจากฉันคือเจ้าลิตแต่ลักษณ์ก็มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีไม่ต้องมาตกต่ำเหมือนอยู่กับเธอ!!

                    “เอม คุณไม่ได้ทำให้ผมตกต่ำนะ  อย่าไปคิดตามเขาสิ” ลักษณ์จับมือเอมแน่นเมื่อเห็นสีหน้าเอมดูเครียดๆ และเธอก็กำลังร้องไห้  ทั้งๆ ที่เป็นหญิงแกร่งแต่พอเจอเรื่องแบบนี้เธอจึงกลายเป็นคนอ่อนแอไปโดยปริยาย

                    “ค่ะคุณลักษณ์” เอมิกาพยักหน้าพลางซุกหน้าลงบนไหล่แกร่งของคนเป็นสามี

                    “ฮึ! ฉันจะให้เวลาเธอคิดนะว่าเธอควรจะฉุดให้ลักษณ์ตกต่ำไปกับเธอด้วยหรือเปล่า” พูดจบคนเป็นพ่อก็พาลูกน้องกลับไปโดยพาลูกสะใภ้อย่างวิชุตาและหลานๆ กลับไปด้วยลลิภัทรจึงต้องตามกลับไปอย่างช่วยไม่ได้




     

                    ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันต่อไปอย่างกระท่อนกระแท่นเพราะเรื่องนั้นยังรบกวนจิตใจพวกเขาทั้งสองอยู่และในที่สุดเอมิกาก็ตัดสินใจหนีจากลักษณ์โดยติดต่อให้คนที่บ้านมาพาตัวลักษณ์ไปและเธอก็หนีออกจากตัวเมืองของจังหวัดบ้านเกิดไปอยู่ที่บ้านหลังเดิมที่เคยอยู่กับพ่อและแม่ทั้งๆ ที่ท้องแก่ใกล้คลอดเต็มที

                    เอมิกาขอให้ลลิภัทรพาเธอหนีออกไปจากลักษณ์โดยแกล้งทำเป็นไปอยู่ที่ไกลๆ แต่ที่จริงเธอแค่กลับไปอยู่ที่บ้านเดิม  ลักษณ์เจ็บปวดมากที่พี่ชายเป็นคนพาภรรยาไปจากตนทั้งๆ ที่คิดว่าเข้าใจกันแล้ว  และนอกจากลักษณ์แล้วยังมีอีกคนที่เจ็บปวดนั่นก็คือวิชุตาก็เข้าใจผิดไปเองว่าคนเป็นสามียังรักเอมิกาและพาเธอหนีไปเพื่อที่จะได้แอบไปหา

                    หลังจากพาเอมิกาไปส่งที่บ้านลลิภัทรก็กลับมา  ลักษณ์โวยวายจนเส้นเสียงอักเสบแต่ลลิภัทรก็ยังทำเป็นเย็นชาไม่พูดไม่บอกเรื่องจริงที่ว่าเอมิกาอยากจะรักษาอนาคตของลักษณ์เอาไว้จึงต้องหนีไปและเขาเองก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะพรากลูกพรากเมียใครเพราะเขาเองก็มีคนรักอยู่แล้ว

                    “พี่ทำแบบนี้พี่ไม่คิดถึงใจวิบ้างเหรอ? วิเป็นเมียพี่แถมยังมีลูกด้วยกันตั้งสองคนพี่ยังจะกล้าพาลูกพาเมียผมไปอีกงั้นเหรอ!?!” ลักษณ์ยังคงโวยวายทั้งๆ ที่คอแสบแดงและเสียงแหบแห้งจนน่ากลัว

                    “แล้วจะทำไม? เมื่อเอมเขาต้องการจะไปฉันก็พร้อมที่จะเป็นที่พึ่งของเอม!” ลลิภัทรตะคอกกลับ

                    “เอมไปเพราะรักผม ผมรู้! แต่ทำไมต้องเป็นพี่!? ทำไมต้องเป็นพี่ที่พาเมียผมไป!? ทำไม!?!” ลักษณ์ตะโกน  ขอบตาแดงก่ำ

                    “เพราะฉันยังรักเอมไงล่ะ” ลลิภัทรพูดทำให้น้องโกรธเพื่อที่จะให้ความโกรธเข้ามาแทนที่ความเสียใจ  แต่เขาไม่รู้เลยว่าทุกคำพูดนั้นวิชุตาได้ยินจนหมดสิ้น  เธอกอดลูกทั้งสองในอ้อมแขนแน่นก่อนจะร้องไห้เงียบๆ  เมื่อลุกซ์กับลันเห็นว่าแม่ร้องไห้ทั้งสองจึงผละออกจากอ้อมกอดแม่แล้ววิ่งเข้าไปหาพ่อด้วยความไร้เดียงสา

                    “คุณพ่อครับ  คุแม่ร้องไห้ใหญ่เลย ไม่รู้ว่าเป็นอะไร” วิชุตาตกใจรั้งลูกไม่ทัน  ลลิภัทรได้ยินว่าวิชุตาร้องไห้จึงรีบวิ่งเข้าไปหาตรงที่เธอหลบอยู่  เขาเบิกตากว้างไม่คิดว่าวิชุตาจะร้องไห้

                    “วิ คุณร้องไห้ทำไม?” เขาถามแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเธออาจจะร้องไห้เพราะคำพูดของเขาเมื่อครู่

                    “ฉันคิดว่ามันต้องมีสักวันที่เป็นอย่างนี้  เมื่อวานฉันไปที่เขตเพื่อขอใบหย่า  ฉันรอแค่ลายเซ็นของคุณเท่านั้น” วิชุตาปาดน้ำตาก่อนจะพูดเสียงแข็งกระด้าง ลลิภัทรอึ้ง

                    “คุณพูดเรื่องอะไรของคุณ?”

                    “ส่วนลูกฉันจะดูแลเอง  ฉันจะเลี้ยงลูกของฉันเอง” วิชุตาไม่สนใจที่จะตอบคำถามของเขาแต่พูดความประสงค์ของตัวเองต่อ

                    “คุณพูดอะไร? เด็กสองคนนี้ก็ลูกผม  ถ้าจะอยู่ก็ต้องอยู่ด้วยกัน!” ลลิภัทรพูดเสียงดัง 

                    “หลังจากหย่ากันฉันจะเลี้ยงพวกเขาเอง”

                    “วิ! ผมบอกสักคำหรือยังว่าผมจะหย่ากับคุณ!?

                    “การกระทำและคำพูดของคุณมันบอกฉันมาโดยตลอด  คุณคงรอวันนี้มานานสินะ วันที่จะได้อยู่กับคนที่คุณรักจริงๆ ไม่ใช่ตัวแทนอย่างฉัน  ฉันจะยอมหย่าให้โดยไม่เรียกร้องค่าเลี้ยงดูใดๆ ทั้งสิ้น” วิชุตาพูดพลางปาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย  ยิ่งพูดเธอยิ่งเจ็บปวดเพราะคิดมาโดยตลอดว่าเขาไม่ได้รักเธอเลยและไม่เคยรัก

                    “คุณไม่เหมือนเอมเลยสักนิด” เขาพูด  วิชุตาน้ำตาไหลพราก  แม้แต่ตัวแทนยังเป็นไม่ได้แล้วเธอเป็นอะไรสำหรับเขา? หรือเป็นเครื่องบำเรอความใคร่และดันบังเอิญว่าพ่อแม่รู้จักกันจึงจับแต่งงานกันเท่านั้น  เมื่อก่อนเธอไม่เคยรักเขาแต่เพราะครั้งแรกของเธอและทุกๆ อย่างของเธอเป็นของเขาเธอจึงตกหลุมรักเขาอย่างหมดใจ  แต่ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมาเธอไม่เคยมีความสุขจากความรักของเขาเลยสักครั้ง

                    “ลุกซ์ ลัน  มาหาแม่มาลูก  ไปเก็บของกันเถอะครับ แม่จะพาไปหาคุณตากับคุณยายนะ” วิชุตามองลลิภัทรอย่างตัดพ้อก่อนจะทรุดลงนั่งพลางอ้าแขนออกให้ลูกวิ่งเข้าไปหาแต่แขนของลูกทั้งสองถูกคนเป็นพ่อดึงเอาไว้

                    “เขาก็เป็นลูกของผม  ผมมีสิทธิที่จะเลี้ยงดูเขา”

                    “พวกเขาไม่ได้เกิดมาจากความรักของคนที่ขึ้นชื่อว่าพ่อ  อยู่ด้วยแล้วจะมีความสุขอะไร  ฉันรักและดูแลพวกเขาด้วยหัวใจของฉัน...หัวใจของคนเป็นแม่  ถ้าหย่ากันไปคุณก็ไม่มีสิทธิจะเรียกพวกเขาว่าลูก!” วิชุตาตะคอกทั้งน้ำตา

                    “ผมไม่หย่า!

                    “ทำไม? มันน่าจะดีสำหรับคุณไม่ใช่เหรอ? รู้ไหมว่าฉันทรมานมากแค่ไหนที่อยู่กับคุณ  ฉันไม่เคยร้องไห้! ไม่เคยโมโหที่คุณบอกว่าคุณรักใครชอบใคร! แต่คุณจะรู้บ้างไหมว่าฉันเจ็บ! เจ็บจนทนไม่ได้และฉันจะไม่ทนอีกต่อไป!” วิชุตาเดินไปผลักลลิภัทรก่อนจะดึงลูกมากอดเอาไว้เสียเอง

                    “คุณไม่คิดถึงลูกหรือไง? ถ้าหย่ากันไปพวกเขาจะมีปมด้อยเรื่องพ่อแม่”

                    “เพราะอย่างนั้นฉันถึงตัดสินใจหย่า  ถ้าอยู่กับพ่อแม่ที่ไม่ได้รักกันพวกเขายิ่งจะมีปม  สู้ไม่มีพ่อไปเลยยังจะดีกว่า  คุณพร้อมจะเซ็นวันไหนขอแค่บอกเพราะฉันพร้อมเสมอ”

                    “วิ...ผมรักเอม...”

                    “ฉันไม่อยากรู้ว่าคุณจะรักใครมาแค่ไหน!! ไม่ต้องมาบอกฉัน! แค่นี้คุณยังใจร้ายกับฉันไม่พอใช่ไหม!?!” วิชุตาตวาดเสียงสูงทั้งน้ำตาที่ไหลทะลักออกมาเหมือนเขื่อนแตก

                    พอตวาดเสร็จเธอก็รีบจูงลูกหนีขึ้นบนบ้านทันทีปล่อยให้ลลิภัทรยืนนิ่งอยู่ที่เดิม  เขาแค่จะบอกว่าเขารักเอมิกา...แต่นั่นเป็นเพียงอดีต  ตอนนี้เขารักเพียงวิชุตาคนเดียว

                    “กรรมมันติดจรวดดีนี่  พรากลูกพรากเมียคนอื่นไปตัวเองก็เลยถูกพรากไปบ้าง  รู้หรือยังว่าผมเจ็บปวดมากแค่ไหน” ลักษณ์เย้ย  ลลิภัทรตวัดสายตาไปมองน้องชายต่างสายเลือดก่อนจะเดินหัวเสียออกจากบ้าน




     

                    หลังจากนั้นลักษณ์ก็เริ่มสงบสติอารมณ์ได้หลายวันต่อมาจึงออกตามหาเอมิกา  ฝ่ายลลิภัทรยืนกรานไม่ยอมหย่าแต่ก็ไม่ยอมบอกออกไปว่าเขารักทั้งเมียทั้งลูกมาแค่ไหนทำให้วิชุตาต้องทนอยู่กับเขาต่อไปทั้งๆ ที่เจ็บปวดจนแทบกระอัก

                    สี่เดือนที่ลักษณ์ตามหาเอมิกาเขาก็สืบพบว่าเธอกลับไปอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ของเธอและตอนนี้ลูกของทั้งสองคนก็ลืมตาดูโลกได้สองเดือนแล้ว

                    ลักษณ์ตามง้อเอมิกาเท่าไหร่เธอก็ไม่ยอมใจอ่อนเพราะอนาคตของลักษณ์จะต้องสดใสกว่าที่เป็นอยู่  ลักษณ์เจ็บปวดมากจนสุดท้ายเขาก็ยอมรับเงื่อนไขที่ว่าเขาสามารถมาเจอลูกได้แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก

                    “ชื่อของลูกคือสุดที่รัก  เพราะคุณรักผมมากสินะเอม” ลักษณ์เอ่ยพลางยิ้มขมขื่นขณะที่กำลังอุ้มประคองลูกอยู่ในอ้อมแขน

                    “...” เอมิกาเงียบไม่ตอบเพราะปฏิเสธไม่ได้

                    “คุณจะหยุดอยู่ที่ผมคนเดียวใช่ไหม? ผมคือคุณสุดท้ายที่คุณจะรักใช่ไหมเอม?” ลักษณ์ถาม ขอบตาแดงก่ำน้ำตาพาลจะไหลเสียให้ได้

                    “...” เอมิกาหันหน้าหนี  มือบางปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

                    “สุดที่ลักษณ์...สุดที่รัก” ลักษณ์พูดออกมาก่อนน้ำตาลูกผู้ชายจะไหลออกมา

                    ลักษณ์เทียวมาเยี่ยมเยียนลูกชายที่น่ารักของเขาอยู่สามสี่ปีเขาก็เลิกมาเพราะเอมิกาตัดสินใจแต่งงานใหม่กับชายชาวญี่ปุ่น  เขาไม่อยากมาเจอภาพบาดตาบาดใจจึงไม่มาให้ครอบครัวที่เขาเป็นเพียงแค่ส่วนเกินเห็นอีก  หัวใจที่บอบช้ำของเขาไม่สามารถรักใครได้อีกและไม่มีวันลืมว่าใจดวงนี้...สิ้นสุดอยู่ที่เอมิกา

                    สุดที่ลักษณ์คือคุณจะสิ้นสุดอยู่ที่ผม  และสุดที่รักก็คือตัวแทนของความรักเขาเรา  ผมรักคุณนะ...เอมิกา

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    ลันไปเขารักกันมาตั้งแต่เด็กค่า  ฮ่าๆๆ  แล้วทำไมอิพี่ลุกซ์มันถึงเกรียนตั้งแต่เด็กขนาดนั้นเล่า คึๆๆ

    *แก้ไขเล็กน้อยในส่วนนี้ ตรงจุดที่บอกว่าพ่อลันกับพ่อไอเป็นพี่น้องต่างสายเลือดกันเลยค่า เพราะไม่อยากให้มีกรณี incest ค่ะ (พ่อลักษณ์เป็นลูกติดภรรยาใหม่ของคุณปู่นะคะ)



    ปล.ตอนนี้ไรเตอร์ยังมิได้หนังสือเลย แต่คาดว่าใกล้จะเสร็จแล้วอ่ะน้า

    Free Theme dek-d By i'nutberry
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×