คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Rule 8 : รักน้องต้องร่วมเตียง
ผมหยุดยืนอยู่หน้าร้านเหล้าก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
เพื่อเตรียมใจโดนโขกสับ
มือกระชับเสื้อช็อปเพื่อความเรียบร้อยก่อนเท้าจะค่อยๆ ก้าวผ่านประตูไป
ไอ้พี่สายรหัสผมมาซะพร้อมเพรียงกันเลยทีเดียวครับ T^T
กูสาย...กูโดนแน่
“มาสาย!” นั่นไง คำทักทายของไอ้พี่ลุกซ์เล่นซะผมสะดุ้ง
“ก็ไม่ได้นัดเวลาที่แน่นอน จะไปว่าน้องมันทำไม” ไอ้พี่เปอร์เถียงให้ กราบตีนเลยครับพี่ ขอบคุณครับ “ไอ ไปนั่งข้างพี่ลันสิ”
ไอ้พี่เปอร์พูดพลางผายมือไปที่ว่างข้างพี่ลัน
ตอนนี้คนที่นั่งตรงกลางทำตัวกร่างเป็นนักเลงคุมซอยคือไอ้พี่ลุกซ์โดยข้างกายของแกมีสาวสวยและถัดจากสาวสวยเป็นพี่เปอร์ที่นั่งทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่ พี่เปอร์กับไอ้พี่ลุกซ์มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่าวะ ไอ้พี่ลุกซ์นี่ก็ศัตรูเยอะเหลือเกิน
ทั้งไอ้พี่ลันและไอ้พี่เปอร์
อีกไม่นานคงจะรวมผมเข้าไปด้วย(น้องรหัสทั้งนั้น)
“ขอโทษนะครับที่มาสาย”
ผมก้มหน้าก้มตาขอโทษขอโพย
“ซ่อม”
ไอ้พี่ลุกซ์เลื่อนแก้วเหล้าสีอำพันมาไว้ตรงหน้าผม
โดนมอมอีกแล้วกู
“ครับ” ผมพยักหน้ารับก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นจิบแต่เมื่อเห็นสายตาดุๆ
ของไอ้พี่ลุกซ์ผมจึงจำใจกรอกเหล้าลงคออย่างรวดเร็ว
ผมหลับตาปี๋กับความขมของเหล้าก่อนจะพ่นลมออกจากปากเบาๆ อ่าห์...ดื่มรวดเดียวแบบนี้มันก็สะใจไม่หยอกแฮะ
“สนใจสาวซักคนไหม? คุณชื่ออะไรนะ?” ไอ้พี่ลุกซ์ซุกไซ้คอสาวข้างกายก่อนจะหันมาถามผม
เป็นรุ่นพี่ที่ดีเหลือเกินที่มาเล่นฉากเลิฟซีนให้น้องดู
“เอ่อ...ผมชื่อไอครับ ส่วนผู้หญิง...ไม่เป็นไรหรอกครับ”
ผมพูดอย่างเกรงใจ
ไม่ได้เกรงใจอะไรหรอก
ผมยังเป็นหนุ่มบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่อยากเปื้อนมลทินตอนนี้ ถ้าจะให้ผมพาผู้หญิงเข้าโรงแรมผมขอพาผู้หญิงที่ผมรักเข้าดีกว่า แต่มันก็...น่าเสียดายแฮะ เด็กนั่งดริ๊งค์ที่ร้านนี้แจ่มๆ ทั้งนั้น
“อ้อ
มีไอ้ลันอยู่แล้วเลยไม่จำเป็นต้องมีสาวสินะ ฮึๆ” หนอย...ไอ้พี่ลุกซ์!
ที่กูจูบกับไอ้พี่ลันก็เพราะมึงนั่นแหละที่อุตริสั่งให้กูจูบคนให้ดูต่อหน้า!
“พูดเหี้ยอะไรของมึง?”
ไอ้พี่ลันถามเสียงต่ำอย่างไม่พอใจ
“อ้าว พวกมึงไม่ได้คบกันเหรอ เห็นจูบกันซะดูดดื่มขนาดนั้น”
ไอ้พี่ลุกซ์พูดพลางหัวเราะร่าไปกับสาวข้างกายมัน
อิเจ๊นั่นรู้เรื่องกับเขาด้วยเหรอถึงหัวเราะไปกับเขาน่ะ ชิ!
“ที่เป็นแบบนั้นเพราะใครล่ะไอ้ควาย!”
ไอ้พี่ลันพูดลอดไรฟันเหมือนพยายามจะกลั้นอารมณ์โกรธที่ถูกล้อ
“พูดดีๆ นะเว้ยลัน กูเป็นรุ่นพี่มึงนะ”
ไอ้พี่ลุกซ์ถลึงตามองไอ้พี่ลันอย่างกวนตีน
สองคนนี้ต่างกันก็ตรงนี้แหละครับ
ไอ้พี่ลันจะเงียบๆ
ไม่ค่อยเถียงคนแต่ไอ้พี่ลุกซ์มันใส่สุดใจขาดดิ้นเลยล่ะครับ อะไรที่พี่มันเถียงได้มันเถียงหมดนั่นแหละถ้าเถียงไม่ได้ล่ะก็สั่งทำโทษลูกเดียวเลย นิสัยแย่จริงๆ
“รุ่นพี่อย่างมึงกูไม่อยากนับถือว่ะ!”
ไอ้พี่ลันแสยะปากนิดๆ ก่อนจะจิบเหล้าต่อส่วนไอ้พี่ลุกซ์ก็ไม่สนใจไอ้พี่ลันอีก แล้วหันไปนัวเนียกับสาวข้างกาย
ผมมองไอ้พี่ลุกซ์อย่างขยาดเล็กน้อยก่อนจะจิบเหล้าของตัวเองบ้าง
ผมหันไปมองไอ้พี่เปอร์ที่ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดียกเหล้าซดไม่หยุดมือก่อนที่ผมจะซดบ้าง
เห็นคนกรึ๊บเหล้าหนักแบบไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมแบบนี้ผมก็อยากจะทำบ้าง ไหนๆ พรุ่งนี้ก็วันหยุดผมขอเต็มที่บ้างละกัน
ผมเพิ่งมานึกได้เมื่อกี้นี่เองว่าพรุ่งนี้วันหยุด วันนี้ผมอุตส่าห์เตรียมแผนแกล้งเมามาใช้แท้ๆ
เชียว
สงสัยวันนี้แผนเราคงจะเป็นหมันเพราะเราเองก็อยากดื่มหนักๆ เหมือนกัน แฮะๆๆ
“พี่เตี้ย ทำไมชอบทำหน้านิ่งว้า ยิ้มหน่อยนะยิ้มหน่อย คิกๆ” กูเมาแล้วครับ
อาการกวนตีนรุ่นพี่แบบนี้แสดงว่ากูเมาแถมยังไม่เมาคนเดียวนะฮะ ผมยังมีไอ้พี่เปอร์เมาเป็นเพื่อนด้วย
รายนั้นเมาแล้วน่ากลัวกว่าผมเยอะเพราะรายนั้นเมาแล้วท้าคนต่อยครับ และที่ไอ้พี่เปอร์มันท้าจะเป็นใครที่ไหนไปไม่ได้นอกจากไอ้พี่ลุกซ์ที่ตอนนี้ไร้สาวข้างกาย พี่ลุกซ์เองก็มึนๆ เหมือนกันครับ จู่ๆ
แกก็โวยวายแล้วไล่สาวไปไกลๆ เฉยเลย
“อย่ามายุ่ง!”
ไอ้พี่ลันที่หน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์เหล้าปัดมือผมที่ดึงแก้มแกออก ไอ้พี่ลันเองก็มึนๆ เหมือนกัน ซวยเช็ดละ
เมาจนสติเหลือน้อยกันทุกคนแบบนี้แล้วจะกลับบ้านอย่างไรวะ
“อะไรกัน หน้าตาแบบนี้ถ้ายิ้มล่ะก็คงหล่อมากเลย นะๆๆ ผมชอบหน้าพี่ตอนยิ้มที่สุดเลย”
ผมพูดก่อนจะประคองหน้าไอ้พี่ลันเอาไว้
ตอนที่พี่ลันยิ้มแกคงไม่รู้ตัวหรอก
แต่เท่าที่ผมจำได้...พี่แกยิ้ม พี่แกหัวเราะก็เพราะการกระทำปะหลาดๆ
ของผม ผมไม่ได้หลงตัวเองใช่ไหมครับ?
“นายเมาแล้ว กลับเถอะ”
ไอ้พี่ลันปรือตามองผมก่อนจะลุกขึ้นยืนและหิ้วคอเสื้อผมไปด้วย
“ไม่ไปๆ อยากกินเหล้าต่อ ไม่เอาไม่ไป”
ผมงอแงก่อนจะดิ้นจนพี่ลันต้องปล่อยคอเสื้อผม
“ไป!” ไอ้พี่ลันขู่ ผมจึงยอมเดินตามพี่แกต้อยๆ ผมจะรอดไหมเนี่ย? ไอ้พี่ลันก็ดูมึนๆ เมาๆ
แล้วจะขับรถไหวเหรอ?
ถ้าไม่ติดว่าไอ้พี่ลันบังคับให้ผมไปด้วยล่ะก็ผมจะเดินกลับหอด้วยตัวผมเอง
แสงแดดยามสายที่ส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาเลียใบหน้าทำให้ผมค่อยๆ
ลืมตาตื่นขึ้นมาและรีบเอามือปิดหน้าไว้เพราะรู้สึกแสบจากการถูกแดดเผา ผมกะพริบตาถี่ๆ ไล่ความมึนงงก่อนจะค่อยๆ
สำรวจดูตัวเอง...
เอ๊ะ!
เกิดอะไรขึ้นกับตัวของผม? แล้วห้องที่ผมอยู่มันคือห้องของใคร? แล้วไอ้ที่นอนกอดผมอยู่มันคือใคร? แล้วทำไม...
...ผมถึงไม่ได้ใส่เสื้อผ้า!!!!!!!!!
ผมที่เปิดผ้าห่มเพื่อส่องดูสภาพของตัวเองก็ต้องช็อคเมื่อไม่มีอะไรอยู่บนร่างกายของผมเลยแม้แต่อย่างเดียว ผมส่องไปดูร่างกายส่วนล่างของคนที่นอนอยู่ข้างๆ
บ้างก็พบว่าไอ้หมอนี่มันยังใส่กางเกงอยู่(แล้วทำไมกูไม่ได้ใส่วะครับ) ที่ผมรู้ว่าคนที่นอนข้างๆ
ผมเป็นผู้ชายก็เพราะแขนที่มันก่ายลงบนลำตัวของผมมันล่ำเกินกว่าจะเป็นแขนผู้หญิงได้ แต่เอ๊ะ!?! หรือว่าผมจะถูกสาวนักกล้ามลากมาข่มขืน? โอ้! ไม่นะ!!!!
ผมทำหน้าแขยงนิดๆ
ก่อนจะค่อยๆ เขี่ยแขนล่ำๆ นั่นออกจากตัวและคลานลงเตียง แต่แม่ง!!
ไอ้แขนที่ผมเขี่ยออกเมื่อกี้มันดันขยับมาโอบรอบเอวของผมเอาไว้ทำให้ผมลุกไปไหนไม่ได้ พระเจ้า!! กูอยากร้องไห้ TOT
ผมค่อยๆ
หันไปมองคนที่กำลังกอดเอวผมอยู่ก่อนจะค่อยๆ
แกะมือมันออกเมื่อเห็นว่ามันแค่ละเมอมากอดผมเท่านั้น
และทันทีที่ผมก้าวลงจากเตียงร่างผมก็ทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นเย็นๆ ผมเพิ่งสำเหนียกได้ว่า...แข้งขาผมมันอ่อนแรงแถมยังปวดหนึบๆ
ที่สะโพก เอื๊อก!! ไอ้ล่ำนี่มันทำอะไรกับร่างกายของกู!!
ไม่จริงใช่ไหม...ผมเคยอ่านเจอในหนังสือ(โป๊)นะว่าสำหรับคนที่มีอะไรครั้งแรกมันจะปวดสะโพกจนแทบเดินไม่ไหว แต่ว่าผมเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง ผมต้องเป็นฝ่ายทำให้ผู้หญิงเจ็บจนเดินไม่ไหวสิแล้วทำไมผมถึงเป็นฝ่ายเจ็บซะเอง แต่ว่า...ไอ้ที่มันนอนกกผมอยู่มันก็ผู้ชายนี่หว่า ว็อทเดอะฟ้ากกกกกก!!!
ผมคว้าเสื้อผ้าของตัวเองที่หล่นอยู่บนพื้นก่อนจะกระดึ๊บๆ
เข้าไปในห้องน้ำ ปวดเอวฉิบหาย จะกลับหอไหวไหมเนี่ย? นอกจากจะปวดเอวแล้วผมยังปวดหัวอีกด้วย เมื่อคืนดื่มหนักไปจริงๆ แต่โชคดีเหลือเกินที่วันนี้ไม่มีเรียนผมจะได้พักผ่อน
ผมเบิกตาโตส่องกระจกมองภาพตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไอ้รอยจุดแดงๆ ช้ำๆ
ที่มีอยู่เต็มตัวผมนี่มันคืออะไรวะครับ?
รอยนี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่า...คิสมาร์ก? TOT กูอยากตายอีกแล้วครับ
แกรกๆ แอ๊ด เหี้ย!!! ผมว่าผมล็อคประตูห้องน้ำแล้วนะครับแต่ว่าทำไมประตูมันเปิดออกมาได้ล่ะ แล้วสภาพผมตอนนี้มันอุบาทว์สุดตีน
เสื้อผ้าก็ยังไม่ใส่แถมท่ายืนยังยืนหนีบเป็นเป็ดก้นโด่งอีก พระเจ้า!!
“อะไรวะเนี่ย!?!” ไอ้คนที่เปิดประตูเข้ามามองผมอย่างตกใจก่อนที่มันจะแหกปากโวยวาย กูนี่...กูต่างหากที่ต้องโวยวายเพราะกูเป็นผู้เสียหาย โฮ!!!
“พี่เตี้ย!!!!??” ผมมองคนที่เปิดประตูห้องน้ำเข้ามาอย่างตกใจ นี่กูเสียเอกราชให้ลุงรหัสตัวเองเหรอเนี่ย เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่วะ
“ไอ้สูง!?! มาอยู่นี่ได้ไง? แล้วสภาพนั่นมันอะไรวะ?” ไอ้พี่ลันมองผมตั้งแต่เท้าจรดหัวด้วยสีหน้าปะหลาดๆ
“ผมต่างหากที่ควรถาม!
พี่ทำอะไรกับผม? ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้!?!” ผมรีบใส่กางเกงก่อนจะเดินกะเผลกๆ
ไปถามพี่แกใกล้ๆ ก็แบบ...ยืนใกล้ๆ
แล้วมันวีนได้สะใจดี
“...ไม่รู้ว่ะ”
ไอ้พี่ลันมองผมนิดหน่อยก่อนจะเบือนหน้าหนีแล้วตอบ
“อ๊ากกกก!!! อยากจะกรีดร้อง! ทำไมพี่พูดแบบไม่รับผิดชอบแบบนี้! พี่ลากผมมาที่นี่พอผมรู้ตัวอีกทีผมก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แถมปวดเอวโคตรเลย!!”
ตอนนี้ผมทั้งโกรธทั้งงงจึงกล้าว้ากใส่ไอ้พี่ลันอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจมืด ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงจะกล้าหรอก =..=
“ก็จะให้ทำอย่างไรล่ะวะ ก็ไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปนี่หว่า!
เมื่อคืนมันเมา” พี่ลันตะคอกกลับแต่ผมกลับไม่หดหัวเหมือนเมื่อก่อน
ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติที่ผมถูกพี่ลันตะคอกล่ะก็ป่านนี้หัวผมคงลงไปมุดอยู่ในกระโปรงนักศึกษาแล้วล่ะครับ
“โอ๊ย!! ผมอยากจะร้องไห้จริงๆ” ผมขมวดคิ้วก่อนจะทรุดลงนั่งบนพื้นห้องน้ำอย่างไม่นึกรังเกียจ จังหวะที่ก้นกระแทกลงพื้นผมต้องนิ่วหน้าแบบสุดๆ
เลยเพราะมันเจ็บบรรลัย
“แล้วนี่...มีอาการอะไรบ้าง?”
ไอ้พี่ลันถอนหายใจหนักๆ หนึ่งเฮือกก่อนจะถามขึ้น
“เจ็บก้น!”
ผมตอบประชดๆ
“ชัวร์เลย” ไอ้พี่ลันตบหน้าผากตัวเองดังแป๊ะอย่างเครียดๆ
“ชาตินี้ทั้งชาติไม่คิดเลยว่าจะซั่มผู้ชายได้ลง” อ๊ากกกก!! ดูคำพูดคำจาสิ!!
ชาตินี้ทั้งชาติกูก็ไม่คิดว่ากูจะถูกเข้าข้างหลังเหมือนกันนั่นแหละเว้ย!!! โคตรแม่ง!!
“โอ๊ย!! อยากจะบ้าตายจริงๆ” ผมกุมขมับอย่างเครียดๆ
“ช่างมันเถอะน่า มันเกิดจากความเมา”
“ช่างได้ที่ไหนเล่า!! พี่อาจจะช่ำชองกับเรื่องแบบนี้แต่ผมไม่ใช่นี่!”
ผมโวยวาย อยากร้องไห้จริงๆ ครั้งแรกของผมอะไรๆ
ก็เป็นของผู้ชายไปซะหมด
ไม่ว่าจะจูบครั้งแรก หรือ ซั่มครั้งแรก
โอย! อยากตาย!
“แล้วจะให้ทำยังไง?
ให้คบนายเป็นแฟนเหรอ?” ไอ้พี่ลันตะคอกถาม
ผมสะอึกพูดไม่ออก นั่นสินะ
ผมโวยวายแล้วมันได้อะไรขึ้นมากันนะ
โวยวายแล้วพี่ลันจะรับผิดชอบอย่างไรในเมื่อผมไม่ใช่ผู้หญิง “เอาเถอะ นายไปอาบน้ำก่อน แล้วค่อยมาคุยกันอีกที”
ไอ้พี่ลันเงียบไปสักพักก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้ผมและปิดประตูห้องน้ำให้
ผมถอนหายใจก่อนจะไปอาบน้ำแต่โดยดี
นี่ผมจะต้องทำความสะอาดข้างหลังด้วยใช่ไหม?
ทันทีที่ผมสัมผัสผมก็แทบร้องจ๊ากเมื่อมันเจ็บแปลบๆ มันบวมมากเลยทีเดียว T^T แถมพอผมชักมือกลับมาดูผมก็พบคราบเลือดจากสิ่งที่ผมสัมผัส ฮือ เจ็บโว้ย!!
พอผมอาบน้ำเสร็จผมก็ออกไปนั่งเจี๋ยมเจี้ยมในห้องนั่งเล่นเพื่อรอให้พี่ลันอาบน้ำบ้าง ตอนนี้ผมไม่กล้ามองหน้าพี่ลันเลยว่ะ เมื่อคืนผมจำไม่ได้จริงๆ ว่าผมรู้สึกอย่างไร
แต่ที่มันออกมาเป็นแบบนี้แสดงว่ามันคงจะแย่สุดๆ
รู้สึกอึดอัดเป็นบ้าเลย
“ที่นี่คอนโดของฉันเอง”
ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ ไอ้พี่ลันก็พูดขึ้น
ออกมาตอนไหนวะ ไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลย
“อ่าครับ”
ผมพยักหน้าตอบรับ
“หิวไหม?”
พี่แกถาม ผมจึงพยักหน้า
ท่าทางเมื่อคืนจะใช้แรงไปเยอะพอควรพอตื่นมาท้องผมถึงร้องประท้วงโครกครากขนาดนี้ “กินพิซซ่าไหม?”
“อะไรก็ได้ครับ” ผมตอบพี่แกจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรสั่งพิซซ่า
พอสั่งเรียบร้อยแกก็เดินมานั่งโซฟาตัวตรงข้ามกับผมด้วยใบหน้าเครียดๆ
“จะให้จัดการกับเรื่องนี้อย่างไร?”
พี่แกถามเสียงต่ำ
ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าไอ้พี่ลันนิดหน่อย
“ผมมาคิดๆ
ดูแล้วนะครับ
เรื่องนี้มันจะโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ไม่ได้ในเมื่อเราก็เมากันทั้งคู่
อีกอย่างผมเป็นผู้ชายเรื่องแบบนี้คงไม่มีปัญหาเหมือนผู้หญิง” ผมพูด
“อืม”
ไอ้พี่ลันพยักหน้า
“ในเมื่อพวกเราก็จำอะไรกันไม่ได้เลยผมเลยคิดว่าลืมๆ
มันไปน่าจะง่ายกว่า” ถึงผมจะพูดไปอย่างนั้นแต่ผมกลับรู้สึกโหวงเหวงเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป มันรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูกที่ครั้งแรกของผมเป็นผู้ชายอีกอย่างเป็นคนที่ผมไม่ได้รัก ผมไม่เคยมีประสบการณ์กับเรื่องแบบนี้มันก็เลยรู้สึกแย่มากพอสมควร
เฮ้อ!
ปวดใจหนึบๆ เลยว่ะ
“ฉันก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่นายคิดได้แบบนั้นก็ดีเพราะฉันเองก็ไม่รู้จะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร”
ไอ้พี่ลันขมวดคิ้วนิดๆ
“ครับ”
ผมก้มหน้านิ่งๆ
“นายโอเคแน่นะ?”
ไอ้พี่ลันถามซ้ำเมื่อเห็นผมหน้าเสีย
เอาเถอะ เรื่องแบบนี้คงต้องทำใจกันนานหน่อย
“ตอนนี้ยังแต่เดี๋ยวคงดีขึ้นเอง”
ผมคลี่ยิ้มฝืนๆ
แต่ก่อนที่เราจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้เสียงกริ่งก็ดังขึ้นซึ่งคนที่กดกริ่งก็คือคนส่งพิซซ่านั่นเอง
หลังจากกินเสร็จผมก็คิดจะกลับแต่สภาพแบบนี้กลับไปไอ้เมฆคงจะสงสัยผมจึงอยู่ที่ห้องพี่ลันก่อน
วันนี้ทั้งวันไอ้พี่ลันเองก็ไม่ได้มีแพลนจะออกไปไหนเราก็เลยตัดสินใจนั่งดูหนังแผ่นของไอ้พี่ลันที่ห้องของแก
พี่ลันปิดม่านปิดไฟจนห้องมืดและเปิดลำโพงเสียงดังๆ
จนให้บรรยากาศเหมือนโรงหนัง
“ฮ่าๆๆๆ ก๊ากกกก”
ผมหัวเราะท้องคัดท้องแข็งเพราะหนังตลกที่กำลังดูอยู่
ให้ตายเถอะ...ผมขำจนน้ำตากับน้ำลายไหลกันเลยทีเดียวผิดกับไอ้พี่ลันที่นั่งหาวหวอดๆ
อยู่ข้างๆ นายคนนี้จะหน้าตายไปไหน ขนาดหนังตลกยังไม่คิดจะหัวเราะออกมาสักแอะ
“พี่เตี้ย มันไม่ตลกเลยเหรอ” ผมหันไปถามพี่ลันอย่างสงสัย
“เรื่องนี้...ดูหลายครั้งจนไม่ตลกแล้ว”
ไอ้พี่ลันหาวอีกรอบก่อนจะตอบ
ผมอยากเห็นไอ้พี่ลันหัวเราะแบบเอาเป็นเอาตายสักครั้งจริงๆ หน้าพี่แกจะเป็นแบบไหนนะ
“งั้นเปลี่ยนเรื่องก็ได้นะ ที่จริงเรื่องนี้ผมก็เคยดูแล้ว” ผมบอกก่อนจะลุกไปนั่งเลือกหนังที่ตั้งกองกันอย่างเป็นระเบียบอยู่หน้าเครื่องเล่น
DVD
“อืม แล้วแต่”
ไอ้พี่ลันบอก
“งั้นเอาเรื่องนี้ละกันผมยังไม่เคยดู”
ผมพูดยิ้มๆ ก่อนจะยัดแผ่นหนังผีตลกใส่เครื่องและกลับไปนั่งข้างพี่ลันเหมือนเดิม
พอหนังเริ่มเล่นที่ว่างระหว่างผมกับไอ้พี่ลันก็แคบลง ผมหันไปมองไอ้พี่ลันที่ขยับเข้ามาใกล้อย่างงงๆ
แต่พี่แกก็ยังทำหน้านิ่งๆ อยู่เหมือนเดิม
“ชอบเหรอ?” ไอ้พี่ลันพาดแขนลงที่พนักพิงก่อนจะถาม
“ใช่พี่ ผมชอบหนังผีนะ
มันหลอนดี ฮ่าๆ” ผมพูดพลางหัวเราะ
ผมไม่ได้โรคจิตนะแต่ผมชอบจริงๆ ก็ผมคิดว่าผีมันไม่มีจริงนี่นา ผมชอบที่จะเห็นจินตนาการของคนที่ออกมาเป็นรูปร่างแบบนี้
“บ้าจริง” ไอ้พี่ลันบ่นงุบงิบแต่ผมไม่ได้สนใจอะไรเพราะผมกำลังสนุกกับหนังที่ผมกำลังดู
แต่ระหว่างนั้นที่ว่างระหว่างผมกับไอ้พี่ลันก็แคบลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ
จนตอนนี้ผมกับไอ้พี่ลันนั่งชิดกันแล้วครับ
ผมไม่ได้ขยับเข้าไปหานะ
“พี่เตี้ย...เป็นอะไร?”
ผมถาม แสงจากจอทีวีขนาดใหญ่ส่องกระทบผิวหน้าทำให้ผมรู้ว่าหน้าพี่ลันตอนนี้กำลังซีดสนิทเลยทีเดียว
“เปล่านี่ หนาวนิดหน่อย”
ไอ้พี่ลันเบือนหน้าไปที่ประตูก่อนจะตอบ
พี่แกกำลังลังหลบตาผมอ่ะครับ
หลบทำไมครับพี่?
“หนาวหรือกลัว?”
ผมยิ้มแหย่ๆ หน้าซีดแบบนี้พี่แกกลัวแน่เลย ฮ่าๆๆ ไอ้โหดอย่างพี่ลันเนี่ยนะกลัวผี โอ๊ย! ไอ้ไออยากจะหัวเราะให้ก้องโลกจริงๆ
“พูดมากน่า”
ไอ้พี่ลันหันมาขึงตาดุใส่ผมแต่แกก็ต้องผงะอย่างตกใจเพราะตอนนี้ผมกำลังทำหน้าเป็นผีใส่อยู่ ฮ่าๆๆ
ตลกอ่ะ พี่ลันกลัวผี!!
“โอ๋ๆ
ไม่กลัวนะครับไม่กลัวนะ ฮ่าๆ” ผมลูบไหล่ไอ้พี่ลันอย่างปลอบประโลมก่อนจะหัวเราะอย่างขำขัน
“นี่!
ทำแบบนี้อยากโดนเหรอ?” ไอ้พี่ลันมองผมดุๆ ที่ผมไปล้อปมแก
“ขอโทษครับ”
ผมก้มหน้าจ๋อยๆ ก่อนจะหันไปสนใจทีวีต่อ
ไอผู้น่าสงสารเอ๋ย ชาตินี้ทั้งชาติแกคงหาเมียไม่ได้แล้วล่ะ ไปเป็นเมียเขาแทนดีกว่าเนอะ
ใครเห็นด้วยกับไรเตอร์ยกมือขึ้นสองข้างด่วนๆ เลย >O<
เห็นคำผิดตะโกนบอกเค้าดังๆ นะตัวเอง
ความคิดเห็น