ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic~Reborn Bleach and other

    ลำดับตอนที่ #23 : Fic Reborn:D18:Love me! Part14

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 53


     “แรงไปมั้ยนั่น” เสียงของสึนะดังขึ้นขณะที่กำลังยืนหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ในสุสาน

    “ชั้นก็ไม่อยากให้หมอนั่นต้องร้องไห้หรอกนะ   ชั้นว่าชั้นไปหาเค้าดีกว่า” ร่างใหญ่ทำท่าจะเดินออกจากหลังต้นไม้

    “ไม่ๆ ไม่ต้องเลย   ไอ้หมอนั่นมันควรโดนซะบ้าง” เสียงห้าวๆ ของสโมกกี้บอมบ์ดังขึ้นพลางรั้งร่างใหญ่นั่นไว้

    “ถึงจะน่าสงสาร   แต่ก็ทำให้เค้ารู้ใจตัวเองนะครับ” มุคุโร่พูด

    “แต่ว่าชั้น...”

    “ถ้าหมอนั่นรู้ความจริงขึ้นมาพวกแกได้ตายกันหมดแน่” รีบอร์นโผล่ออกมาพูดเงียบๆ ทำเอาพวกหนุ่มๆ ตกใจกันหมด   เพราะที่ที่พวกเค้าอยู่นั้นคือสุสาน

    “เอ่อ...” ทุกคนคิดหนัก   พลางคิดไปว่าหรือจะให้เจ้าหนุ่มผมทองนี่ตายจริงๆ ไปซะเลย

    “ทุกคน...คงไม่คิดจะให้ชั้นตายจริงๆ หรอกนะ แฮ่ๆ” เจ้าหนุ่มผมทองสังเกตเห็นสายตาของทุกคนที่ส่งมาแล้วค่อยๆ ก้าวถอยหลังหนีทีละก้าว

    ตึกๆ

    “ฮิบาริมาแล้ว หลบๆ” ยามาโมโตะหันไปเห็นฮิบาริที่กำลังจะเดินออกมาจากสุสานจะรีบสะกิดบอกทุกคน

    “ฮึกๆ” ฮิบาริเดินก้มหน้าสะอื้นไม่หยุดทำให้หัวใจดีโน่ตกลงไปอยู่ตาตุ่ม   สงสารคนรักจับใจ

    “ไม่เอาแล้ว   ชั้นไม่อยากให้หมอนั่นต้องร้องไห้เพราะชั้นอีกแล้ว” ดีโน่พรวดพราดออกไปแล้ววิ่งไปกอดฮิบาริจากด้านหลัง

    “อึก...” ฮิบาริเบิกตากว้าง   ทั้งดีใจและตกใจ

    “ชั้นปล่อยนายไปไม่ได้จริงๆ ชั้นรักนายเคียวยะ   อย่าร้องไห้อีกเลยเพราะชั้นใจไม่ดี” ดีโน่พูดขึ้นข้างๆ หูฮิบาริ

    “ดีโน่...แกอยู่ไหน   แกกอดชั้นอยู่ใช่มั้ย?” คำพูดของฮิบาริทำให้ดีโน่ต้องแปลกใจว่าทำไมฮิบาริถึงมองไม่เห็นเค้า   แล้วก็ต้องร้องอ๋อออกมาเมื่อหันไปเห็นเจ้าหนุ่มหัวพืชใช้วิชาอยู่

    “อืม อย่าร้องไห้เพราะชั้นนะเคียวยะ   ชั้นเองก็ทรมานนะที่เห็นนายทุกข์ใจ   ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของนายอย่างมีความสุขเถอะนะเคียวยะ” ดีโน่แนบแก้มลงไปบนผมนุ่มของฮิบาริ

    “จะให้ชั้นมีความความสุขได้ยังไงในเมื่อไม่มีแกอยู่   ชีวิตของชั้นมันถูกแกเติมเต็มพอขาดแกไปก็เหมือนกับขาดอะไรไปซักอย่าง   ขาดยิ่งกว่าเดิมซะอีก อึ๊ก” ฮิบาริปล่อยน้ำตาลงมาอีกรอบ

    “ร้องไห้อีกแล้ว” ดีโน่ผละออกแล้วจับฮิบาริมาให้เผชิญหน้ากับเค้าแม้เจ้าฮิบาริจะมองไม่เห็นเค้าก็ตาม

    “เคียวยะเป็นคนเก่งนะ   เพราะงั้นเรื่องแค่นี้นายทำได้แน่นอน” ดีโน่ยิ้มอย่างอ่อนโยน

    “ชั้นไม่อยากใช้ชีวิตโดยลืมแก ฮึก” ฮิบาริก้มหน้าสะอื้นตัวโยน

    “งั้นก็อย่าลืมชั้น   ชั้นเองก็ไม่ได้อยากให้นายลืมหรอกนะแต่นายต้องใช้ชีวิตโดยที่ไม่จมปลัก   ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” ดีโน่เชยคางฮิบาริขึ้นมาแล้วโน้มหน้าลงไปเลียน้ำตาที่ไหลลงมาไม่ขาดสาย

    “ไม่เอาแล้ว   ถ้านี่เป็นการล้อเล่นก็พอเถอะชั้นจะไม่โกรธหรอก   แต่อยู่อย่างนี้ชั้นใจจะขาด ฮือๆๆๆ” ฮิบาริโผเข้าไปกอดดีโน่แล้วซบลงบนไหล่

    “อึก เคียวยะ...” ดีโน่หลับตาลงเพราะไม่อยากที่จะทำให้คนรักเสียใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว

    ดีโน่ก้มลงไปประกบปากจูบฮิบาริเบาๆ แต่เนิ่นนาน

    “ชั้นรักนายเหลือเกิน” ดีโน่กอดฮิบาริแนบอกแน่น

    “ทั้งๆ ที่อยากจะอยู่ด้วยกันให้มากกว่านี้   ไปเที่ยวด้วยกันให้มากกว่านี้   ทำอะไรให้มากกว่านี้   แต่ทำไมต้องไปจากชั้นด้วย” ฮิบาริทุบลงไปโดนอกดีโน่เข้าพอดิบพอดี

    “ทำ...เหรอ?

    “พอเรื่องลามกล่ะหูผึ่งจริงนะไอ้ม้าแก่” ฮิบาริหัวเราะทั้งน้ำตา

    “เคียวยะ...” ดีโน่เรียกฮิบาริให้เงยหน้าขึ้นมาหาเค้า

    “ดีโน่...” ฮิบาริเบิกตากว้างมองดีโน่ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปลูบใบหน้าของเค้า

    อ้าว...เจ้ามุคุโร่มันเลิกใช้พลังตั้งแต่ตอนไหนวะ ดีโน่แอบคิดในใจ

    “นี่...อย่าคืนมันให้ชั้นอีกนะ” ดีโน่ล้วงเอาแหวนออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายให้ฮิบาริ

    “อืม ไม่ถอดอีกแล้ว” ฮิบาริก้มหน้าลงไปซบอกดีโน่

    “เคียวยะ เคียวยะ   ไปก่อนนะ” ดีโน่พูดแล้วยิ้มก่อนรอยยิ้มนั้นจะเริ่มจางหายไปพร้อมๆ กับเจ้าคนตัวโต

     

    “คุณดีโน่ครับ   คุณฮิบาริซึมมาหลายวันแล้วนะครับ” สึนะบอกหลังจากทนไม่ได้ที่เห็นฮิบารินั่งเศร้าอยู่ตลอดเวลาเหมือนคนบ้า

    “ชั้นกลัวนี่นา   กลัวว่าเคียวยะจะโกรธแล้วลุกขึ้นมาฟาดชั้น” ดีโน่พูด

    “คุณไม่สงสารคุณฮิบาริเหรอครับที่ต้องมานั่งร้องไห้ทุกๆ วันอย่างนี้” สึนะถาม

    “สงสารมากที่สุดเลยล่ะ   ชั้นไม่อยากเห็นน้ำตาของเคียวยะหรอกนะ” ดีโน่ก้มหน้าคิด

    “เอางี้   เดี๋ยวผมจะลองไปพูดดู” ยามาโมโตะเสนอขึ้น

    “แกจะพูดอะไรของแกยามาโมโตะ” โกคุเดระถามห้วนๆ

    “เอาน่า   พูดได้ละกัน” ยามาโมโตะยิ้ม

    “ฝากด้วยนะ ยามาโมโตะ” ดีโน่มองยามาโมโตะอย่างอ้อนวอน

    “ได้เลย” ยามาโมโตะยิ้มรับก่อนจะเดินออกไปหาฮิบาริซึ่งทุกคนก็แอบย่องตามไปดูเช่นกัน

     

    “ฮิบาริ   ยังไม่เลิกเศร้าอีกเหรอ?” ยามาโมโตะเดินเข้าไปถามฮิบาริ

    “ถ้าเจ้าสโมกกี้บอมบ์ตายแกจะเศร้ามั้ยล่ะ?

    “อูย” ยามาโมโตะถึงกับเจื่อนเมื่อได้ยินคำตอบเมื่อกี้

    “นี่ถามหน่อยสิ...ถ้าคุณดีโน่เค้ากลับมาหานายนายจะรู้สึกอย่างไง” ยามาโมโตะเงียบไปนานกว่าจะพูดขึ้นมาได้

    “ดีใจ” ฮิบาริตอบเสียงเบาเหมือนจะไม่อยากให้ใครได้ยิน

    “นายไม่อยากฆ่าเค้าเหรอ?

    “อืม อาจจะรู้สึกแค้นเพราะมาหลอกกัน   แต่ชั้นดีใจมากกว่าเพราะชั้นจะรอคอยเค้าแม้เค้าจะไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว” ฮิบาริตอบเบาๆ

    “แล้วนายไม่อยากตามเค้าไปเหรอ?

    “อยาก  แต่ดีโน่บอกให้ชั้นมีชีวิตต่อไป   ชั้นก็จะอยู่” ฮิบาริก้มหน้าลงต่ำเหมือนซ่อนอะไรไว้บนใบหน้า

    “ถ้าเค้ามาจริงนายมั่นใจนะว่าจะไม่โกรธเค้าน่ะ หืม?” คำถามของยามาโมโตะทำให้ฮิบาริแอบสงสัย

    “หมายความว่าไง?” ฮิบาริถามเสียงเขียวเล่นเอายามาโมโตะสะดุ้ง

    “ก็ เปล่า...แค่อยากรู้เฉยๆ ว่านายจะรู้สึกอย่างไง” ยามาโมโตะกรอกตา

    “ถ้ายังไม่ตายจริงก็โกรธ   โกรธมากด้วยที่มาหลอกกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า   แต่ก็คงจะดีใจอยู่ลึกๆ ล่ะนะ” ท้ายประโยคฮิบาริพูดเสียงเบาจนเหมือนว่าลมจะพัดคำพูดนั้นให้ปลิวไปด้วย

    “ชั้นอยากรู้จังถ้าคุณดีโน่ปรากฏตัวต่อหน้านายแบบคนเป็นๆ นายจะจัดการเค้ายังไง” ยามาโมโตะทำเป็นถามไปด้วยหัวเราะไปด้วย

    “ซัดซักเปรี้ยง...” กอดซักครั้ง  จูบซักที   คำพูดเหล่านี้ฮิบาริไม่กล้าพูดต่อออกไป

    คำตอบของฮิบาริทำให้ดีโน่ที่แอบอยู่สะดุ้งสุดตัว

    “โหดจังเลยนะนาย   แต่ยังไงมันก็คงเป็นไปไม่ได้หรอกที่คุณดีโน่จะยังไม่ตาย   เสียใจด้วยนะฮิบาริ”

    ฮิบาริก้มหน้านิ่ง   น้ำตาไหลออกมาเป็นทางแต่เจ้าตัวก็กลั้นเสียงสะอื้นไว้ได้และเพราะความมืดจึงทำให้ยามาโมโตะไม่สังเกตเห็นน้ำตาของฮิบาริ   ยามาโมโตะเดินจากมาเงียบๆ เข้าไปยังกลุ่มที่แอบฟังอยู่

    “ผมช่วยไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะครับ   ที่เหลือก็ขึ้นอยู่ที่คุณแล้วล่ะนะ” ยามาโมโตะบอกยิ้มๆ ก่อนจะลากโกคุเดระขึ้นไปบนห้องของพวกเค้า

     

    เวลาผ่านไปอีกสองวัน   ดีโน่ก็ยังปอด ไม่กล้าเข้าหาฮิบาริได้แต่แอบมองอยู่ห่างๆ   ชายหนุ่มรู้สึกเศร้าจับหัวใจทุกครั้งที่เห็นน้ำตาของคนร่างเล็ก   อยากจะเข้าไปกอดให้หายคิดถึงซักครั้งแต่ก็ทำไม่ได้ซักที

    ร่างโปร่งบางนั่งพิงป้ายชื่อหลุมศพอยู่อย่างนั้นทุกวันตั้งแต่เช้าจรดเย็นโดยไม่ลุกออกไปไหนซักที   ข้าวก็ไม่ทานจนร่างกายซูบผอมอย่างเห็นได้ชัด   ใบหน้าขาวเนียนกระจ่างใสบัดนี้หมองหม่นจนไม่อยากจะเชื่อว่าคนคนนี้คือ ฮิบาริ เคียวยะคนนั้น

    “นายคิดว่าการมานั่งอดข้าวเฝ้าหลุมศพของหมอนี่แล้วเค้าจะดีใจงั้นเหรอฮิบาริ” รีบอร์นที่จู่ๆ ก็โผล่มาถามขึ้นแต่นั่นก็หาได้ทำให้ฮิบาริตกใจไม่

    “ชั้นไม่อยากกิน   มันกินไม่ลง” ฮิบาริพูดอย่างเหม่อลอย

    “การฝืนตัวเองแบบนี้ทำให้หมอนั่นเศร้าไปด้วยนะฮิบาริ   หมอนั่นคงจะเสียใจมากยิ่งกว่านายซะอีกนะถ้าเห็นนายเป็นแบบนี้” คำพูดของรีบอร์นทำให้ดีโน่อยากจะเข้าไปกราบเท้าอาจารย์งามๆ เพราะเค้าช่วยพูดให้ฮิบาริดูแลสุขภาพ

    “อืม   เดี๋ยวจะกลับไปกินละกัน” ฮิบาริพูดแล้วเอนตัวพิงป้ายชื่อหลุมศพต่อไป

     

    “เห็นรึยังดีโน่   คนรักที่เฝ้ารอแกทั้งๆ ที่รู้ว่าแกจะไม่กลับมาอีกแล้ว   แกนี่มันไม่สมกับเป็นลูกศิษย์ของชั้นเลย” รีบอร์นเดินไปหาดีโน่ที่ยืนหลบอยู่หลังต้นไม้

    “ชั้นก็เสียใจไม่แพ้กันนะรีบอร์น” ดีโน่ทำหน้าเศร้า

    “งั้นถามหน่อย   ว่าทำไมแกถึงไม่ยอมออกไปให้ฮิบาริรู้ว่าแกยังมีชีวิตอยู่?” คำถามนั้นของรีบอร์นทำให้ดีโน่สะอึกเพราะตัวเค้าเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม   ทำไมกันนะ?

    “ขอบใจนะรีบอร์น! ชั้นจะไปหาเคียวยะเดี๋ยวนี้แหละ!” ดีโน่คิดดูอย่างถ้วนถี่ในที่สุดเค้าก็ได้คำตอบว่าเค้าไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปหลบฮิบาริเลย

    ชายหนุ่มยิ้มกว้างแล้ววิ่งออกไปยังหลุมศพที่มีร่างบางนั่งเหม่อลอยเฝ้าอยู่

     

    ร่างสูงบวกกับผมประกายทองยืนอยู่เบื้องหน้าของเด็กหนุ่มร่างเล็กทำให้ทำนบน้ำตาแตกอีกครั้ง   ร่างบางค่อยๆ ลุกยืนอย่างไม่ค่อยจะเชื่อสายตาตัวเองเท่าไหร่

    “ชั้นขอโทษ” ดีโน่ยืนนิ่ง   มือบางเอื้อมมือลูบไล้ใบหน้าเนียน

    “...”

    “ยกโทษให้ชั้นนะเคียวยะ   ชั้นไม่ได้ตายหรอก” ดีโน่เสมองไปทางอื่น

    ผลัวะ!!

    ทอนฟาที่มักจะซ่อนไว้อยู่เสมอถูกคว้าออกมาฟาดเขาที่ใบหน้าของดีโน่จนหน้าหันไปพร้อมๆ กับเลือดที่กระเด็นออกมาด้วย

    เคร้ง!

    พอฟาดเสร็จทอนฟาก็ร่วงลงกระทบกับพื้นก่อนที่คนตัวโตจะถูกโอบกอดจากคนที่ตัวเล็กกว่า   ปากที่มีเลือดไหลออกมาซิบๆ ยิ้มออกมาอย่างดีใจและยกมือขึ้นมาโอบกอดร่างบางไว้อย่างโหยหา

    ไม่มีคำพูดใดๆ ในที่แห่งนั้นแต่ทั้งสองก็เข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง   แม้ไม่ต้องมีคำพูดสวยหรูแต่มีเพียงความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันเท่านั้นความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นก็ไม่มีทางขาดไปได้   แม้ความตายจะพรากพวกเขาออกจากกันหากแต่เยื่อใยอันแน่นแฟ้นก็ยังคงอยู่ตลอดไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×