คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : Fic Reborn:D18:Love me! Part14
“ชั้นก็ไม่อยากให้หมอนั่นต้องร้องไห้หรอกนะ ชั้นว่าชั้นไปหาเค้าดีกว่า” ร่างใหญ่ทำท่าจะเดินออกจากหลังต้นไม้
“ไม่ๆ ไม่ต้องเลย ไอ้หมอนั่นมันควรโดนซะบ้าง” เสียงห้าวๆ ของสโมกกี้บอมบ์ดังขึ้นพลางรั้งร่างใหญ่นั่นไว้
“ถึงจะน่าสงสาร แต่ก็ทำให้เค้ารู้ใจตัวเองนะครับ” มุคุโร่พูด
“แต่ว่าชั้น...”
“ถ้าหมอนั่นรู้ความจริงขึ้นมาพวกแกได้ตายกันหมดแน่” รีบอร์นโผล่ออกมาพูดเงียบๆ ทำเอาพวกหนุ่มๆ ตกใจกันหมด เพราะที่ที่พวกเค้าอยู่นั้นคือสุสาน
“เอ่อ...” ทุกคนคิดหนัก พลางคิดไปว่าหรือจะให้เจ้าหนุ่มผมทองนี่ตายจริงๆ ไปซะเลย
“ทุกคน...คงไม่คิดจะให้ชั้นตายจริงๆ หรอกนะ แฮ่ๆ” เจ้าหนุ่มผมทองสังเกตเห็นสายตาของทุกคนที่ส่งมาแล้วค่อยๆ ก้าวถอยหลังหนีทีละก้าว
ตึกๆ
“ฮิบาริมาแล้ว หลบๆ” ยามาโมโตะหันไปเห็นฮิบาริที่กำลังจะเดินออกมาจากสุสานจะรีบสะกิดบอกทุกคน
“ฮึกๆ” ฮิบาริเดินก้มหน้าสะอื้นไม่หยุดทำให้หัวใจดีโน่ตกลงไปอยู่ตาตุ่ม สงสารคนรักจับใจ
“ไม่เอาแล้ว ชั้นไม่อยากให้หมอนั่นต้องร้องไห้เพราะชั้นอีกแล้ว” ดีโน่พรวดพราดออกไปแล้ววิ่งไปกอดฮิบาริจากด้านหลัง
“อึก...” ฮิบาริเบิกตากว้าง ทั้งดีใจและตกใจ
“ชั้นปล่อยนายไปไม่ได้จริงๆ ชั้นรักนายเคียวยะ อย่าร้องไห้อีกเลยเพราะชั้นใจไม่ดี” ดีโน่พูดขึ้นข้างๆ หูฮิบาริ
“ดีโน่...แกอยู่ไหน แกกอดชั้นอยู่ใช่มั้ย?” คำพูดของฮิบาริทำให้ดีโน่ต้องแปลกใจว่าทำไมฮิบาริถึงมองไม่เห็นเค้า แล้วก็ต้องร้องอ๋อออกมาเมื่อหันไปเห็นเจ้าหนุ่มหัวพืชใช้วิชาอยู่
“อืม อย่าร้องไห้เพราะชั้นนะเคียวยะ ชั้นเองก็ทรมานนะที่เห็นนายทุกข์ใจ ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของนายอย่างมีความสุขเถอะนะเคียวยะ” ดีโน่แนบแก้มลงไปบนผมนุ่มของฮิบาริ
“จะให้ชั้นมีความความสุขได้ยังไงในเมื่อไม่มีแกอยู่ ชีวิตของชั้นมันถูกแกเติมเต็มพอขาดแกไปก็เหมือนกับขาดอะไรไปซักอย่าง ขาดยิ่งกว่าเดิมซะอีก อึ๊ก” ฮิบาริปล่อยน้ำตาลงมาอีกรอบ
“ร้องไห้อีกแล้ว” ดีโน่ผละออกแล้วจับฮิบาริมาให้เผชิญหน้ากับเค้าแม้เจ้าฮิบาริจะมองไม่เห็นเค้าก็ตาม
“เคียวยะเป็นคนเก่งนะ เพราะงั้นเรื่องแค่นี้นายทำได้แน่นอน” ดีโน่ยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ชั้นไม่อยากใช้ชีวิตโดยลืมแก ฮึก” ฮิบาริก้มหน้าสะอื้นตัวโยน
“งั้นก็อย่าลืมชั้น ชั้นเองก็ไม่ได้อยากให้นายลืมหรอกนะแต่นายต้องใช้ชีวิตโดยที่ไม่จมปลัก ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” ดีโน่เชยคางฮิบาริขึ้นมาแล้วโน้มหน้าลงไปเลียน้ำตาที่ไหลลงมาไม่ขาดสาย
“ไม่เอาแล้ว ถ้านี่เป็นการล้อเล่นก็พอเถอะชั้นจะไม่โกรธหรอก แต่อยู่อย่างนี้ชั้นใจจะขาด ฮือๆๆๆ” ฮิบาริโผเข้าไปกอดดีโน่แล้วซบลงบนไหล่
“อึก เคียวยะ...” ดีโน่หลับตาลงเพราะไม่อยากที่จะทำให้คนรักเสียใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ดีโน่ก้มลงไปประกบปากจูบฮิบาริเบาๆ แต่เนิ่นนาน
“ชั้นรักนายเหลือเกิน” ดีโน่กอดฮิบาริแนบอกแน่น
“ทั้งๆ ที่อยากจะอยู่ด้วยกันให้มากกว่านี้ ไปเที่ยวด้วยกันให้มากกว่านี้ ทำอะไรให้มากกว่านี้ แต่ทำไมต้องไปจากชั้นด้วย” ฮิบาริทุบลงไปโดนอกดีโน่เข้าพอดิบพอดี
“ทำ...เหรอ?”
“พอเรื่องลามกล่ะหูผึ่งจริงนะไอ้ม้าแก่” ฮิบาริหัวเราะทั้งน้ำตา
“เคียวยะ...” ดีโน่เรียกฮิบาริให้เงยหน้าขึ้นมาหาเค้า
“ดีโน่...” ฮิบาริเบิกตากว้างมองดีโน่ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปลูบใบหน้าของเค้า
อ้าว...เจ้ามุคุโร่มันเลิกใช้พลังตั้งแต่ตอนไหนวะ ดีโน่แอบคิดในใจ
“นี่...อย่าคืนมันให้ชั้นอีกนะ” ดีโน่ล้วงเอาแหวนออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายให้ฮิบาริ
“อืม ไม่ถอดอีกแล้ว” ฮิบาริก้มหน้าลงไปซบอกดีโน่
“เคียวยะ เคียวยะ ไปก่อนนะ” ดีโน่พูดแล้วยิ้มก่อนรอยยิ้มนั้นจะเริ่มจางหายไปพร้อมๆ กับเจ้าคนตัวโต
“คุณดีโน่ครับ คุณฮิบาริซึมมาหลายวันแล้วนะครับ” สึนะบอกหลังจากทนไม่ได้ที่เห็นฮิบารินั่งเศร้าอยู่ตลอดเวลาเหมือนคนบ้า
“ชั้นกลัวนี่นา กลัวว่าเคียวยะจะโกรธแล้วลุกขึ้นมาฟาดชั้น” ดีโน่พูด
“คุณไม่สงสารคุณฮิบาริเหรอครับที่ต้องมานั่งร้องไห้ทุกๆ วันอย่างนี้” สึนะถาม
“สงสารมากที่สุดเลยล่ะ ชั้นไม่อยากเห็นน้ำตาของเคียวยะหรอกนะ” ดีโน่ก้มหน้าคิด
“เอางี้ เดี๋ยวผมจะลองไปพูดดู” ยามาโมโตะเสนอขึ้น
“แกจะพูดอะไรของแกยามาโมโตะ” โกคุเดระถามห้วนๆ
“เอาน่า พูดได้ละกัน” ยามาโมโตะยิ้ม
“ฝากด้วยนะ ยามาโมโตะ” ดีโน่มองยามาโมโตะอย่างอ้อนวอน
“ได้เลย” ยามาโมโตะยิ้มรับก่อนจะเดินออกไปหาฮิบาริซึ่งทุกคนก็แอบย่องตามไปดูเช่นกัน
“ฮิบาริ ยังไม่เลิกเศร้าอีกเหรอ?” ยามาโมโตะเดินเข้าไปถามฮิบาริ
“ถ้าเจ้าสโมกกี้บอมบ์ตายแกจะเศร้ามั้ยล่ะ?”
“อูย” ยามาโมโตะถึงกับเจื่อนเมื่อได้ยินคำตอบเมื่อกี้
“นี่ถามหน่อยสิ...ถ้าคุณดีโน่เค้ากลับมาหานายนายจะรู้สึกอย่างไง” ยามาโมโตะเงียบไปนานกว่าจะพูดขึ้นมาได้
“ดีใจ” ฮิบาริตอบเสียงเบาเหมือนจะไม่อยากให้ใครได้ยิน
“นายไม่อยากฆ่าเค้าเหรอ?”
“อืม อาจจะรู้สึกแค้นเพราะมาหลอกกัน แต่ชั้นดีใจมากกว่าเพราะชั้นจะรอคอยเค้าแม้เค้าจะไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว” ฮิบาริตอบเบาๆ
“แล้วนายไม่อยากตามเค้าไปเหรอ?”
“อยาก แต่ดีโน่บอกให้ชั้นมีชีวิตต่อไป ชั้นก็จะอยู่” ฮิบาริก้มหน้าลงต่ำเหมือนซ่อนอะไรไว้บนใบหน้า
“ถ้าเค้ามาจริงนายมั่นใจนะว่าจะไม่โกรธเค้าน่ะ หืม?” คำถามของยามาโมโตะทำให้ฮิบาริแอบสงสัย
“หมายความว่าไง?” ฮิบาริถามเสียงเขียวเล่นเอายามาโมโตะสะดุ้ง
“ก็ เปล่า...แค่อยากรู้เฉยๆ ว่านายจะรู้สึกอย่างไง” ยามาโมโตะกรอกตา
“ถ้ายังไม่ตายจริงก็โกรธ โกรธมากด้วยที่มาหลอกกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็คงจะดีใจอยู่ลึกๆ ล่ะนะ” ท้ายประโยคฮิบาริพูดเสียงเบาจนเหมือนว่าลมจะพัดคำพูดนั้นให้ปลิวไปด้วย
“ชั้นอยากรู้จังถ้าคุณดีโน่ปรากฏตัวต่อหน้านายแบบคนเป็นๆ นายจะจัดการเค้ายังไง” ยามาโมโตะทำเป็นถามไปด้วยหัวเราะไปด้วย
“ซัดซักเปรี้ยง...” กอดซักครั้ง จูบซักที คำพูดเหล่านี้ฮิบาริไม่กล้าพูดต่อออกไป
คำตอบของฮิบาริทำให้ดีโน่ที่แอบอยู่สะดุ้งสุดตัว
“โหดจังเลยนะนาย แต่ยังไงมันก็คงเป็นไปไม่ได้หรอกที่คุณดีโน่จะยังไม่ตาย เสียใจด้วยนะฮิบาริ”
ฮิบาริก้มหน้านิ่ง น้ำตาไหลออกมาเป็นทางแต่เจ้าตัวก็กลั้นเสียงสะอื้นไว้ได้และเพราะความมืดจึงทำให้ยามาโมโตะไม่สังเกตเห็นน้ำตาของฮิบาริ ยามาโมโตะเดินจากมาเงียบๆ เข้าไปยังกลุ่มที่แอบฟังอยู่
“ผมช่วยไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะครับ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่ที่คุณแล้วล่ะนะ” ยามาโมโตะบอกยิ้มๆ ก่อนจะลากโกคุเดระขึ้นไปบนห้องของพวกเค้า
เวลาผ่านไปอีกสองวัน ดีโน่ก็ยังปอด ไม่กล้าเข้าหาฮิบาริได้แต่แอบมองอยู่ห่างๆ ชายหนุ่มรู้สึกเศร้าจับหัวใจทุกครั้งที่เห็นน้ำตาของคนร่างเล็ก อยากจะเข้าไปกอดให้หายคิดถึงซักครั้งแต่ก็ทำไม่ได้ซักที
ร่างโปร่งบางนั่งพิงป้ายชื่อหลุมศพอยู่อย่างนั้นทุกวันตั้งแต่เช้าจรดเย็นโดยไม่ลุกออกไปไหนซักที ข้าวก็ไม่ทานจนร่างกายซูบผอมอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าขาวเนียนกระจ่างใสบัดนี้หมองหม่นจนไม่อยากจะเชื่อว่าคนคนนี้คือ ฮิบาริ เคียวยะคนนั้น
“นายคิดว่าการมานั่งอดข้าวเฝ้าหลุมศพของหมอนี่แล้วเค้าจะดีใจงั้นเหรอฮิบาริ” รีบอร์นที่จู่ๆ ก็โผล่มาถามขึ้นแต่นั่นก็หาได้ทำให้ฮิบาริตกใจไม่
“ชั้นไม่อยากกิน มันกินไม่ลง” ฮิบาริพูดอย่างเหม่อลอย
“การฝืนตัวเองแบบนี้ทำให้หมอนั่นเศร้าไปด้วยนะฮิบาริ หมอนั่นคงจะเสียใจมากยิ่งกว่านายซะอีกนะถ้าเห็นนายเป็นแบบนี้” คำพูดของรีบอร์นทำให้ดีโน่อยากจะเข้าไปกราบเท้าอาจารย์งามๆ เพราะเค้าช่วยพูดให้ฮิบาริดูแลสุขภาพ
“อืม เดี๋ยวจะกลับไปกินละกัน” ฮิบาริพูดแล้วเอนตัวพิงป้ายชื่อหลุมศพต่อไป
“เห็นรึยังดีโน่ คนรักที่เฝ้ารอแกทั้งๆ ที่รู้ว่าแกจะไม่กลับมาอีกแล้ว แกนี่มันไม่สมกับเป็นลูกศิษย์ของชั้นเลย” รีบอร์นเดินไปหาดีโน่ที่ยืนหลบอยู่หลังต้นไม้
“ชั้นก็เสียใจไม่แพ้กันนะรีบอร์น” ดีโน่ทำหน้าเศร้า
“งั้นถามหน่อย ว่าทำไมแกถึงไม่ยอมออกไปให้ฮิบาริรู้ว่าแกยังมีชีวิตอยู่?” คำถามนั้นของรีบอร์นทำให้ดีโน่สะอึกเพราะตัวเค้าเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม ทำไมกันนะ?
“ขอบใจนะรีบอร์น! ชั้นจะไปหาเคียวยะเดี๋ยวนี้แหละ!” ดีโน่คิดดูอย่างถ้วนถี่ในที่สุดเค้าก็ได้คำตอบว่าเค้าไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปหลบฮิบาริเลย
ชายหนุ่มยิ้มกว้างแล้ววิ่งออกไปยังหลุมศพที่มีร่างบางนั่งเหม่อลอยเฝ้าอยู่
ร่างสูงบวกกับผมประกายทองยืนอยู่เบื้องหน้าของเด็กหนุ่มร่างเล็กทำให้ทำนบน้ำตาแตกอีกครั้ง ร่างบางค่อยๆ ลุกยืนอย่างไม่ค่อยจะเชื่อสายตาตัวเองเท่าไหร่
“ชั้นขอโทษ” ดีโน่ยืนนิ่ง มือบางเอื้อมมือลูบไล้ใบหน้าเนียน
“...”
“ยกโทษให้ชั้นนะเคียวยะ ชั้นไม่ได้ตายหรอก” ดีโน่เสมองไปทางอื่น
ผลัวะ!!
ทอนฟาที่มักจะซ่อนไว้อยู่เสมอถูกคว้าออกมาฟาดเขาที่ใบหน้าของดีโน่จนหน้าหันไปพร้อมๆ กับเลือดที่กระเด็นออกมาด้วย
เคร้ง!
พอฟาดเสร็จทอนฟาก็ร่วงลงกระทบกับพื้นก่อนที่คนตัวโตจะถูกโอบกอดจากคนที่ตัวเล็กกว่า ปากที่มีเลือดไหลออกมาซิบๆ ยิ้มออกมาอย่างดีใจและยกมือขึ้นมาโอบกอดร่างบางไว้อย่างโหยหา
ไม่มีคำพูดใดๆ ในที่แห่งนั้นแต่ทั้งสองก็เข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง แม้ไม่ต้องมีคำพูดสวยหรูแต่มีเพียงความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันเท่านั้นความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นก็ไม่มีทางขาดไปได้ แม้ความตายจะพรากพวกเขาออกจากกันหากแต่เยื่อใยอันแน่นแฟ้นก็ยังคงอยู่ตลอดไป
ความคิดเห็น