คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Rule 2 : รับ(รัก)น้องต้องมอมเหล้า
Rule 2 : รับ(รัก)น้องต้องมอมเหล้า
ช่วงบ่ายอันแสนทรหดอดทนก็มาถึงหลังจากถูกรุ่นพี่เลี้ยงข้าวเลี้ยงขนมจนอิ่มอ้วกแตก
ผมที่หลงดีใจไปกับน้ำใจอันดีงามที่รุ่นพี่อุตส่าห์ซื้อขนมมาเลี้ยงก็ต้องมานั่งเสียใจทีหลังเมื่อขนมมากมายเหล่านั้นผมต้องกินให้หมดคนเดียว ถ้าไม่หมดผมก็โดนเล่นสิครับ จำไว้เลยนะ ไอ้พี่เสือ กับ ไอ้พี่ขลุ่ย(แต่เสือกเล่นกลอง)
ฮึ่ม!
ดีนะครับที่ช่วงบ่ายพวกพี่ให้ทำกิจกรรมกันใต้ตึกจึงไม่ต้องไปทนตากแดดอยู่แบบนั้น อีกทั้งแดดช่วงบ่ายมันก็เสี่ยงต่อมะเร็งเหลือเกิน
ไอ้พวกพี่ว้ากเกอร์เซ็ตแรกถูกเปลี่ยนออกไปแต่ก็ยังมาทำหน้าที่ช่วยว้ากใส่รุ่นน้องที่ไม่กระตือรือร้นในการทำกิจกรรมบ้าง
คราวนี้รุ่นพี่ที่เป็นพิธีกรเขาก็ได้ใช้ไมค์จริงๆ
แล้วครับไม่เหมือนไอ้พี่ลันที่มีไมค์อยู่ในมือแต่ดันใช้เสียงสด
“ต่อจากนี้จะเป็นการเล่นเกมกระชับสัมพันธ์ระหว่างรุ่นน้องและรุ่นพี่นะครับ
พวกปีสองเข้าไปแทรกแถวอยู่กับน้องเลยนะครับ
พี่สต๊าฟครับช่วยแบ่งกลุ่มให้พวกน้องทีครับแล้วแต่ละกลุ่มให้มีน้องผู้หญิงอย่างน้อยกลุ่มละสองคนนะครับ”
รุ่นพี่ผู้ชายพูดเสียงนุ่มผ่านไมค์ต่างจากเสียงแหบๆ ของไอ้พี่ลันอย่างสิ้นเชิง เสียงแบบนี้ค่อยน่าฟังขึ้นมาหน่อย
ผมที่ลุกขึ้นยืนตามคำสั่งของพี่สต๊าฟเพื่อสะดวกต่อการจัดกลุ่มก็ต้องแอบใจเต้นเล็กน้อยเมื่อมีสาวสวยผมยาวดัดเป็นลอนมายืนข้างๆ
ผม
ดูจากหน้าตาและท่าทางคงจะเป็นพี่ปีสองนั่นแหละครับ เนื่องจากคณะของเราคือวิศวะทำให้มีผู้หญิงไม่ค่อยมากเท่าไหร่และยิ่งเป็นสาขาเครื่องกลแล้วด้วยผู้หญิงยิ่งลดน้อยลงมากกว่าเดิม แต่หญิงเทียมมีเยอะทีเดียวครับ
แต่จะว่าไปพวกพี่ปีสองก็เป็นพี่ปกครอง(ก็พี่ว้ากนั่นแหละ)แล้วทำไมจะต้องมาทำกิจกรรมกับปีหนึ่งอย่างพวกผมอีกนะส่วนพวกที่ดำเนินการเป็นพวกพี่ปี3
อืม...ชื่อกิจกรรมก็บอกอยู่นี่นาว่าเป็นเกมกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง
“อ้าวๆ
กลุ่มนี้จัดแถวให้เป็นระเบียบหน่อย! น้องผู้หญิงน่ะมายืนอยู่หัวแถว เร็วๆ อย่าช้า!”
ไอ้พี่ลันมันเดินมาเต๊ะท่าขรึมพลางแหกปากใส่แถวของกลุ่มผมเสียงดังจนพวกผมสะดุ้งเฮือกไปตามๆ
กัน
หน้าตาก็หล่ออยู่หรอกแต่แม่.งโคตรดุเลยว่ะ
เมื่อได้ยินคำสั่งจากไอ้พี่ลันตัวเตี้ยพวกผมก็รีบกุลีกุจอจัดแถวให้เป็นระเบียบโดยให้ผู้หญิงอยู่ข้างหน้าและยืนต่อกันเป็นแถวตอนเรียงตามส่วนสูง กลุ่มที่ผมสังกัดอยู่ตอนนี้ผมสูงที่สุดเลยล่ะครับ
แหม...น่าภูมิใจจริงๆ (ที่กลุ่มตัวเองมีแต่คนเตี้ยๆ)
“เฮ้ย!! ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย
นี่กิจกรรมรับน้องนะไม่ใช่กิจกรรมกินขี้!
เอาแต่ทำหน้าตาเบื่อโลกแบบนั้นอยากจะสดชื่นโดยการออกไปยืนรับวิตามินดีไหม!?!” ไอ้พี่ลันตวาดใส่กลุ่ม ผมจึงต้องคลายคิ้วที่ขมวดเป็นปมออก กูขมวดคิ้วก็ผิด โธ่!
ทำไมไอ้พี่ลันจะต้องมายุ่งกับกลุ่มผมด้วยวะ
กลุ่มอื่นมันทำหน้าบูดเป็นตูดหมาไม่เห็นจะโดนด่าเลย แง่ม!
“เอาล่ะครับ ปกติแล้วคณะเราจะมีกิจกรรมเชื่อมสัมผัสระหว่างคณะโดยการให้อมลูกอมเม็ดเดียวกันต่อไปเรื่อยๆ
แต่อันนั้นพวกน้องได้ทำไปตอนรับน้องรวมแล้วเพราะฉะนั้นตอนนี้พวกเรามีกิจกรรมที่ดีกว่านั้นมาให้ทำ ชื่อกิจกรรมคือ จ๊วบ...เชื่อมสัมพันธ์...”
ไอ้รุ่นพี่พิธีกรคนเดิมพูดหลังจากจัดกลุ่มเรียบร้อยแล้ว
ตอนรับน้องรวมพวกเราก็ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนต่างสาขาไปเรียบร้อยแล้วซึ่งตอนนั้นผมก็ทำความรู้จักกับเพื่อนต่างสาขาจริงๆ
พอมาเข้าสาขาตัวเองผมก็เลยไม่มีเพื่อน
ก็ตอนรับน้องรวมพวกที่อยู่รอบๆ ตัวผมมีแต่สาขาอื่นทั้งนั้นเลยนี่หว่า
แต่...แค่ได้ยินชื่อกิจกรรมตูก็อยากอ้วกแล้วฟ่ะ
ผมมองพวกผู้ชายตัวเตี้ยที่ได้ยืนข้างหลังผู้หญิงแล้วก็อดอิจฉาขึ้นมาไม่ได้
ถ้ากิจกรรมนั้นต้องให้ทำกันในกลุ่มโดยให้ทำต่อกันมาเรื่อยๆ เรียงตามความสูงแล้วล่ะก็...รอบตัวผมมีแต่ผู้ชายอ่ะ เขาอยากจ๊วบกับผู้หญิงอ่ะ!
“แต่ล่ะกลุ่มจะได้รับกระดาษซับมันไปหนึ่งแผ่น
ถ้าพี่ให้สัญญาณน้องที่อยู่หัวแถวจะต้องเอากระดาษนั่นแปะที่ปากของตัวเองแล้วส่งต่อไปโดยห้ามใช้มือนะครับ ถ้ากระดาษตกต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่แรกกลุ่มไหนเสร็จเป็นกลุ่มสุดท้ายจะถูกลงโทษ ส่วนกลุ่มที่เสร็จเป็นกลุ่มแรกจะได้ลงโทษเพื่อนนะครับ”
ไอ้พี่พิธีกรพูดจบก่อนจะสาธิตให้ดูว่าทำอย่างไรซึ่งแกก็ทาบกระดาษไว้ที่ปากก่อนจะหันไปส่งต่อให้เพื่อนโดยใช้วิธีส่งแบบปากต่อปาก
พวกผมที่เห็นแบบนั้นก็พากันโห่
ทั้งโห่แซวที่พวกพี่แกเล่นกับผู้ชายกันเองทั้งโห่ประท้วงเพราะไม่อยากเล่นกิจกรรมนี้ ไอ้พวกที่ได้ยืนใกล้ผู้หญิงมันก็เปรมสิครับ
“เฮ้ย อย่าบ่นๆ
ขนาดอมลูกอมเม็ดเดียวกันพวกน้องยังทำมาแล้วเลย
อันนี้แค่ปากแตะกันผ่านกระดาษเฉยๆ น้องจะคิดอะไรมาก หรือถ้าใครมีปัญหาเชิญคุยกับพี่ปกครองได้นะครับแล้วน้องจะได้รับการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด”
ไอ้พี่พิธีกรพูด หือ? ถ้าไปคุยกับพี่ว้ากมีหวังถูกสั่งให้คลานเป็นหมารอบคณะแหงแซะ
เมื่อถูกขู่แบบนั้นพวกเราก็เงียบปากและรอฟังสัญญาณกันอย่างใจจดใจจ่อเพราะไม่อยากแพ้ ผมมั่นใจว่าบทลงโทษของผู้แพ้มันไม่ธรรมดาแน่
“เอาล่ะนะครับ รอฟังสัญญาณนะครับ”
ไอ้พี่พิธีกรพูดก่อนจะวางไมค์ลง มือประสานกันก่อนจะเอาไปจ่อไว้ที่ปาก
จังหวะนั้นคนที่อยู่หัวแถวก็ยกกระดาษขึ้นพอพี่พิธีกรเป่าลมออกจากปอดเปล่งออกมาเป็นเสียงหวีดหวิวกิจกรรมก็ได้เริ่มต้นขึ้น เสียงเชียร์ของพวกรุ่นพี่กับเสียงของคนในกลุ่มที่เร่งให้รีบทำเร็วๆ
ดังสอดประสานเซ็งแซ่กันอึกทึก
ผมยืนยิ้มรอรับกระดาษ
ผมเป็นคนสุดท้ายของแถวจึงสบายที่ไม่ต้องต้องกังวลอะไรมากมาย
พวกนั้นทำกระดาษหล่นกันสองสามรอบเลยต้องกลับไปทำใหม่ตั้งแต่ต้น
ไอ้ผู้ชายที่ได้ประกบปากกับผู้หญิงมันก็มีความสุขสิครับแต่ผู้ชายที่ต้องประกบปากกับผู้ชายกันเองก็ทำหน้าแหวะไปตามๆ
กัน คราบน้ำลงน้ำลายติดแปะมาตามกระดาษ
มันก็น่าแหวะอยู่หรอกแต่ผมก็แค่ต้องรับกระดาษจากไอ้คนข้างหน้าแล้วรีบเอาออกจากปากตัวเองก็พอ
ไม่ต้องไปทนแหวะหลายต่อหลายครั้งเหมือนพวกที่ยืนอยู่แถวกลางๆ ฮ่าๆ
ได้เห็นหน้าพวกผู้ชายทำหน้าอยากอ้วกแล้วขำชะมัด
นาทีนี้วินาทีนี้ผมไม่หวังชัยชนะขอแค่ไม่เป็นกลุ่มสุดท้ายเป็นพอ
เสียงเชียร์ในกลุ่มเราดังขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อพวกนั้นกำลังส่งกระดาษมาเรื่อยๆ
จนเกือบจะถึงผมแล้ว
พวกผมตื่นเต้นกันเป็นพิเศษครับเนื่องจากตอนนี้มีหลายกลุ่มที่เสร็จไปเรียบร้อยแล้ว
“เชี่ยลัน
กลุ่มที่มึงจัดเมื่อกี้คนไม่ครบนี่หว่า”
ขณะที่ผมกำลังตื่นเต้นกับการลุ้นจนตัวโก่งว่าตัวเองจะเป็นกลุ่มสุดท้ายหรือไม่เสียงของไอ้พี่เสือก็ดังขึ้น
“เฮ้ย!
ไม่จริงน่า เมื่อกี้กูนับครบแล้วนะ”
เสียงของไอ้พี่ลันดังตามมา
“ก็น้องผู้หญิงคนหนึ่งเขาหน้ามืดไปก็เลยออกจากกลุ่ม นี่มึงไม่ได้เช็คเหรอ?” ไอ้พี่เสือพูดเสียงเครียดๆ
“กูก็ไม่ได้ดูว่ะ”
โห คำพูดของพี่ไอ้พี่ลันดูไม่มีความรับผิดชอบเอาซะเลย
“ถ้าทีมนี้ถูกปรับแพ้มึงต้องรับผิดชอบนะเว้ยเพราะมึงเป็นคนจัดเองเลยนี่หว่า
ทำอะไรซักอย่างสิกระดาษจะถูกส่งมาถึงคนสุดท้ายแล้วนะ”
ไอ้พี่เสือเร่งให้พี่ลันคิด
“เออ ช่างแม่.ง”
เฮ้ย!! ไอ้พี่เตี้ย!
มันจะไม่ปัดความรับผิดชอบไปหน่อยเหรอ
กลุ่มกูนะเฮ้ย กลุ่มกู!!
“งั้นกูจัดการเอง”
พูดจบเสียงของไอ้พี่เสือกับไอ้พี่ลันก็เงียบไป
จังหวะนั้นแหละที่กระดาษถูกส่งมาถึงผมซึ่งเป็นคนสุดท้าย
ทันทีที่ผมรับกระดาษมาใบหน้าของผมก็ถูกมือหนาประคองก่อนจะจับหมุนไปด้านหลังจนตัวผมต้องหมุนตามไปด้วย(ไม่อย่างนั้นคอผมจะหักเอา)
และจังหวะนั้นเองกระดาษก็หลุดออกจากปากผมเพราะผมไม่คิดว่าจะมีคนมาจับหน้าผมหันแบบนี้ก็เลยไม่ได้คาบกระดาษให้แน่นๆ
พอกระดาษหลุดออกจากปากภาพที่ผมเห็นต่อจากนั้นก็คือริมฝีปากสีซีดที่กำลังโน้มเข้ามาหวังจะงับกระดาษออกไป
แต่มันซวยตรงที่กระดาษมันหลุดออกจากปากผมไปแล้วน่ะสิ!! สิ่งที่ถูกริมฝีปากสีซีดงับจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากปากของผม!! โอ้แม่เจ้า!!!!
จูบแรกของกู...จูบแรกของผมต้องสูญเสียให้กับผู้ชายหรือนี่ โฮ กูอยากหลั่งน้ำตา
ผมเบิกตากว้างจ้องตากับเจ้าของริมฝีปากที่กำลังแนบกันอยู่อย่างตกใจ
ไอ้เจ้าของริมฝีปากนั้นก็ตกใจไม่แพ้ผมเหมือนกัน
ไม่รู้ว่ามันโชคดีหรือเคราะห์ร้ายกันแน่ที่ตอนนี้นอกจากคนในกลุ่มแล้วก็ไม่มีใครสนใจเหตุการณ์ที่ผมกำลังเจออยู่ตอนนี้เลยเพราะต่างคนก็ต่างลุ้นกับกลุ่มของตัวเองเหมือนกัน
แต่ทันทีที่ผมผละออกจากเจ้าของจูบแรกของผม
ผมก็เพิ่งตระหนักได้ว่านอกจากคนในกลุ่มที่ลุ้นกันจนตัวโก่งแล้วยังมีไอ้รุ่นพี่บ้าที่ไม่ยอมรับผิดชอบกับความผิดพลาดของตัวเองกำลังมองอยู่ซึ่งพี่แกก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกัน
“ถุย!
แหวะ!” ผมกับไอ้พี่เสือต่างก็ผลักกันออกก่อนจะหันไปโก่งคออ้วกคนละทาง
มือของพวกเราต่างก็ถูริมฝีปากกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพราะต่างคนต่างก็แขยงที่ได้จุ๊บกัน สายตาของคนในกลุ่มที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเปลี่ยนจากสายตาตกใจมาเป็นสายตาเลิ่กลั่ก ก็คงจะทำอะไรไม่ถูกที่เห็นผู้ชายจูบกันต่อหน้า
คือ...ที่จริงแล้วมันก็มีโอกาสผิดพลาดเผลอจูบกันแบบนี้ได้เพราะเกมนี้มันก็มีจุดประสงค์ให้เป็นแบบนั้นแต่พอดีว่าผมกับไอ้พี่เสืออึ้งไปนานหน่อยเราก็เลยไม่ได้ผละออกจากกันทันทีเหมือนที่คนอื่นๆ
เขาทำ อย่างมากคนอื่นๆ
เขาก็แตะโดนปากกันแค่นิดหน่อยแต่ในกรณีของผมกับไอ้พี่เสือนี่มันแตะกันไปทั้งปากเลยอ่ะครับ
“สุดที่รักทำไมทำกับพี่แบบนี้!”
ไอ้พี่เสือหันมาต่อว่าผม
คำต่อว่าของมึงนี่ชวนจิ้นฉิบหายเลยว่ะ
สำหรับคนอื่นอาจจะช่วยจิ้นแต่สำหรับผมมันชวนอ้วกครับ!
“พี่นั่นแหละ จู่ๆ
ก็โผล่มาแบบนั้นใครจะทันตั้งตัววะ!!” ผมเอามือถูปากไม่เลิกก่อนจะต่อล้อต่อเถียงกับไอ้พี่เสือ
“นี่พี่เข้ามาช่วยกลุ่มแกนะสุดที่รัก”
มึงเลิกเรียกชื่อกูเหอะพี่
ยิ่งเรียกยิ่งชวนอ้วกว่ะ
“ช่วยบ้าช่วยบออะไรเนี่ย!?! แพ้แล้วครับพี่
กลุ่มผมแพ้ก็เพราะพี่มาช่วยนั่นแหละ” ผมเบ้หน้าอยากร้องไห้ นอกจากจะเสียจูบแรกให้ผู้ชายกูยังต้องมาถูกทำโทษอีกเหรอวะเนี่ย
WTF!
“งั้นเดี๋ยวพี่บอกประธานปกครองให้ลงโทษเบาๆ
แล้วกันเนอะ แฮะๆ”
เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นคนทำให้ทีมพวกเราแพ้ไอ้พี่เสือก็ค่อยก้าวถอยหลังช้าๆ
เพื่อชิ่งหนี โฮ่!
พวกพี่ปกครองไม่มีความรับผิดชอบเลยว่ะ
สุดท้ายพวกผมก็ถูกลงโทษกันอย่างหนักหน่วงโดยที่พวกผู้หญิงไม่โดนแต่พวกผู้ชายอย่างผมโดนเต็มๆ และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือนอกจากจะถูกพวกพี่ๆ
แกล้งแล้วยังถูกพวกกลุ่มที่ชนะแกล้งอีกด้วย
ผมต้องถอดกางเกงนักศึกษาออกเหลือแต่บ็อกเซอร์ตัวกระจิ๋วก่อนจะถูกสั่งให้คลานไปกับพื้นคอนกรีตอันแสนร้อนระอุ
เท่านั้นยังไม่พอพวกรุ่นพี่ยังแกล้งโดยการสตาร์ทรถมอเตอร์ไซคันเก่าๆ แล้วบิดเครื่องแรงๆ
เพื่อให้ควันดำมันลอยโขมงจนพวกผมสำลัก
จะลุกหลบควันก็ไม่ได้ไม่อย่างนั้นโดนทำโทษหนักกว่าเดิม
ไอ้ผมนี่ยังไม่เท่าไหร่หรอกครับเพราะผมยังใส่บ็อกเซอร์อยู่แต่ไอ้ที่คลานอยู่ข้างหน้าผมแม่.งน่าสงสารเพราะมันใส่แค่กางเกงในสีขาวตัวเดียว แต่ไอ้หมอนี่มันผู้ชายแน่เหรอ
ขาเนียนมากขาวมากแต่เสียอย่างเดียวหวมเล็กไปหน่อย ฮ่าๆๆ
“ทำไมไม่ใส่บ็อกเซอร์วะ?”
ผมคลานขึ้นมาเทียบเคียงกับไอ้ตัวเล็กข้างหน้าก่อนจะถาม มันหันมามองผมด้วยสีหน้าเหมือนคนกำลังจะร้องไห้
“เราไม่เคยใส่” โห!! ไม่เคยใส่บ็อกเซอร์
ไอ้นี่มันเป็นคนประเภทไหนวะ
“เอ่อ จริงง่ะ?”
“อือ
แต่โดนแบบนี้สงสัยต้องไปหาซื้อมาใส่แล้วสิ
แต่ว่าเราเพิ่งมาอยู่ที่นี่เลยไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหนอ่ะ”
ไอ้หมอนี่ทำหน้าตาหมาหงอย
“นายเป็นคนต่างจังหวัดเหรอ?
เราก็เป็น
แต่เรามาที่นี่บ่อยเลยรู้จักสถานที่ต่างๆ
ถ้านายไม่รังเกียจให้เราพาไปซื้อไหมล่ะ” ผมเสนอ
ดีใจครับเจอเด็กต่างด้าวเหมือนกัน
“ไปสิ ขอบใจนายมากนะ
นายชื่อสุดที่รักใช่ไหม เราชื่อเมฆนะ” ไอ้เมฆยิ้มแป้นแล้น
“อ่า
นั่นมันชื่อจริง
นายเรียกเราว่าไอดีกว่าเนอะ” ผมยิ้มให้
มันจะเป็นคนแรกที่เรียกชื่อที่ผมเต็มใจให้เรียก ก็ดูแต่ละคนเรียกผมสิครับ ไอ้พี่ขลุ่ยก็เรียกว่าฮันนี่ ไอ้พี่เสือก็เรียกว่าสุดที่รัก ส่วนไอ้พี่ลันก็เรียกว่าสูง แต่ละชื่อมันน่าให้เรียกจริงๆ ฮึ่ม
“เฮ้ย!! ตรงนั้นน่ะอย่ามัวแต่คุยกัน!!”
เสียงตะโกนดังขัดจังหวะการสานสัมพันธไมตรีระหว่างเพื่อน ผมกับไอ้เมฆสะดุ้งก่อนจะรีบคลานเพราะถ้าขืนคุยกันไปมากกว่านี้พวกเราอาจจะต้องคลานบนพื้นคอนกรีตโดยปราศจากเสื้อผ้าก็เป็นได้
แต่สุดท้ายผมกับไอ้เมฆก็ถูกทำโทษอีกจนได้
โทษที่พวกเราได้รับหลังจากนั้นก็คือให้ตบหน้ากันคนละห้าที ถ้าตบเบาๆ พวกพี่ปกครองจะมาตบให้ดูเป็นตัวอย่างพวกเราจึงตบกันกับแก้มบวมแดงกันไปข้างแต่พอจบพวกเราก็มาขอโทษขอโพยกันทีหลัง
หลังจากจบกิจกรรมรับน้องในช่วงบ่ายพวกผมก็ดีใจเพราะคิดว่าจะได้ไปนอนพักผ่อนที่หอแต่ที่ไหนได้
พอจบกิจกรรมรับน้องบ่ายพวกเราก็ต้องไปต่อช่วงดึกอีก นั่นคือการที่พวกรุ่นพี่พารุ่นน้องไปเลี้ยงเหล้า ผมไม่มีปัญหาหรอกครับเพราะผมมันคนชอบดื่ม เหอๆ
อีกทั้งได้ดื่มฟรีแบบไม่อั้นแบบนี้ก็ลาภปากสิครับ
“ไอ
เราดื่มไม่เก่งว่ะ”
ไอ้เมฆที่เดินตามหลังผมเข้าร้านเหล้าที่พวกรุ่นพี่พามากระซิบเสียงแผ่วๆ
ร้านเหล้าที่พวกพี่พามาอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนักอีกทั้งยังอยู่ใกล้หอพักของผมอีกด้วย ดีสิแบบนี้
เมาแค่ไหนก็ไม่ห่วงเพราะเดินกลับหอได้สบายๆ
“เอาน่า ถึงเมาเดี๋ยวพวกรุ่นพี่ก็ดูแลเองแหละ เอางี้...เราคอแข็งอยู่ ถ้านายถูกมอมเดี๋ยวเราช่วยดูแลให้ก็ได้ อยู่ใกล้ๆ เราไว้ล่ะ” ผมเสนอ ไอ้เมฆนี่ท่าทางหัวอ่อนแล้วก็น่าแกล้งด้วยเพราะฉะนั้นผมคิดว่ารุ่นพี่หลายคนต้องรอมอมเหล้ามันแน่เลย
“ขอบใจนะไอ”
ไอ้เมฆมองผมตาแป๋วอย่างขอบคุณ
มันจะรู้ไหมนะว่าสายตามันอ้อนมาก
หืม...ถ้าเป็นผู้หญิงกูลากเข้าห้องแล้วนะเนี่ย (กล้าเหรอวะ
ขนาดจูบแรกมึงยังถูกผู้ชายเอาไปเลยไม่ใช่เหรอวะไอ้ไอ!)
ผมกับไอ้เมฆถูกพวกพี่ขลุ่ยลากไปนั่งร่วมวงด้วยและดูเหมือนว่าไอ้พวกพี่กลุ่มนี้จะเป็นพี่บิ๊กของพวกพี่ปกครองเสียด้วย
ตอนนี้ผมต้องมานั่งเผชิญหน้ากับไอ้พี่เสืออย่างช่วยไม่ได้แต่เราก็มองหน้ากันติดนะ
คือผมน่ะ...มองหน้าแกด้วยสายตาอาฆาตส่วนไอ้พี่เสือก็ทำได้เพียงส่งยิ้มเจื่อนๆ
มาให้
แต่ที่นั่งร่วมวงกับพวกพี่บิ๊กเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงผมกับไอ้เมฆหรอกนะยังมีสาวสวยประจำคณะนั่งอยู่ด้วยซึ่งนั่นก็เป็นอาหารตาอาหารใจเหลือเกินแต่ติดตรงที่ว่าผู้หญิงเหล่านั้นดูเหมือนจะเป็นฮาเร็มของไอ้พี่ลันว่ะ แม่.งเกิดมาหล่อมันก็ดีอย่างนี้นี่เอง
และนอกจากมีสาวสวยประจำคณะแล้วยังมีพี่ปี2
ที่เป็นพี่เทคแคร์ของผมกับไอ้เมฆมานั่งร่วมวงด้วย
พี่เทคของผมนั้นจัดได้ว่าหน้าตาดีแต่ก็ไม่ได้หล่อขั้นเทพเหมือนไอ้พี่ลันกับไอ้พี่ขลุ่ยหรอกแถมพี่แกยังใจดีอีกด้วยนะ แกพูดดีๆ พูดจาน่ารักถามด้วยว่าเหนื่อยไหม?
กดดันไหม? อยู่ตลอดเลย
พวกพี่ว้ากพี่ปกครองน่าจะพูดดีๆ แบบนี้ด้วยว่ะ
“เปอร์
ชงเหล้าให้น้องมึงด้วย” ไอ้พี่ขลุ่ยสั่ง
พี่เปอร์นั้นคือพี่เทคของผมเองครับ
“ครับพี่”
พี่เปอร์พยักหน้าก่อนจะรินเหล้าลงในแก้วและรินน้ำตามลงไป ดูเหมือนแกจะสงสารผมครับแกชงซะอ่อนเชียวส่วนพี่เทคของไอ้เมฆก็เล่นชงซะเข้มแบบไม่ปรานีกันเลย ดูจากหน้าตาพี่เทคของไอ้เมฆแล้วน่าจะเป็นประธานปกครองคนต่อไป
แต่...จนถึงตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าประธานปกครองนั้นคือใคร ท่าทางจะโหดมากเลยทีเดียวส่วนหน้าตาคงคล้ายๆ
กับไอ้พี่เสือนี่แหละมั้ง ฮ่าๆ
“ไอ มันเข้มไป
ขมปี๋เลย” ไอ้เมฆเอาลิ้นแตะเหล้านิดหน่อยก่อนจะทำหน้าเหยเกหันมากระซิบผม มันน่าสงสารจริงๆ นะครับ ทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้เลยว่ะ
“เอางี้ นายเอาแก้วมาวางไว้ใกล้ๆ
แก้วเราระหว่างนั้นเราจะชวนพวกรุ่นพี่คุยแล้วเผลอหยิบแก้วผิด” ผมกระซิบกลับ
“เอางั้นเลยเหรอ?
นายไหวแน่นะ” ไอ้เมฆถามอย่างเป็นห่วง
เป็นห่วงตัวมึงก่อนเหอะว่ะ
“ไหว
แค่นี้สบายมาก” ผมยักคิ้วก่อนจะหันไปยิ้มให้กับพี่เทคของตัวเอง
“ดื่มสิไอ”
ไอ้พี่เปอร์ยิ้มพลางคะยั้นคะยอให้ผมดื่ม
“แฮะๆ ได้ครับได้”
ผมยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะแกล้งทำเป็นหยิบแก้วผิด
“อ่ะแฮ่ม!
นั่นไม่ใช่แก้วของคุณนะครับคุณน้องสูงชะลูด”
ขณะที่เหล้ากำลังไหลจากก้นแก้วเข้าสู่ปากผมเสียงแหบๆ เข้มๆ
ของไอ้พี่ลันก็ดังขึ้นขัดผมจึงหุบยิ้มลง
หนอย...รู้ทันกูอีก
“นั่นสินะครับ”
ผมวางแก้วลงก่อนจะหันไปมองไอ้เมฆ
มึงช่วยเหลือตัวเองไปก่อนนะเพื่อน
ซ่า!!
ขณะที่ผมกำลังจะหยิบแก้วของตัวเองมาดื่มไอ้พี่ลันที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็คว้าแก้วผมไปแล้วสาดน้ำในแก้วออกจนเกลี้ยง ผมมองด้วยสายตาละห้อย เสียดายอ่ะ
“ท่าทางน้องสูงเขาอยากจะดื่มเหล้าแรงๆ
เดี๋ยวผมชงให้เอง” ไอ้พี่ลันดึงมือออกจากไหล่มนของหญิงสาวข้างกายก่อนจะเอนตัวมาจัดแจงชงเหล้าให้ผมด้วยตัวเอง นายคนนี้ตั้งใจแกล้งผมแน่ๆ ดูแกทำสิ แกรินเหล้าลงไปครึ่งแก้วแล้วใส่น้ำแค่จึ๋งเดียว นี่มันไม่ต่างจากการให้กูกินเหล้าเพียวๆ
เลยนะเว้ย
“ไอ้ลัน
มันไม่เข้มไปหน่อยเหรอวะ? หน้าตาอย่างฮันนี่คงกินเหล้าไม่เป็นว่ะ”
ไอ้พี่ขลุ่ยแย้งขึ้น พี่ขลุ่ย
ที่บอกว่าเหล้าเข้มไปผมไม่เถียงแต่ไอ้ที่ว่าหน้าตาผมไม่เหมาะกับเหล้าผมเถียงสุดใจครับ กูนี่แหละคอทองแดงตัวยงเลย
“ช่างสิ
แต่รุ่นพี่ชงให้แล้วไม่กินรู้ไหมว่าต้องเจอกับอะไร” ไอ้พี่ลันขู่ เข่ากูเป็นแผลจากการคลานยังไม่หายเจ็บเลยครับ
กูไม่อยากจะคลานเป็นหมารอบคณะเพื่อสร้างบาดแผลให้กับตัวอีกหรอกนะครับ
“ผมยังไม่ได้บอกซักคำว่าผมจะไม่กิน”
ผมยักคิ้วให้ไอ้พี่ลัน
ไม่กลัวหรอกนะเว้ยขอบอก
บ้านผมที่ต่างจังหวัดน่ะเปิดร้านเหล้า
ผมจึงคลุกคลีอยู่กับเหล้ามาตั้งแต่เด็ก
ได้กลิ่นเหล้าทุกวันจนชิน
พอโตพ่อก็ฝึกให้กินเพื่อเข้าสังคมและผมก็เข้าสังคมบ่อยจนกลายเป็นคนคอแข็ง
เหอๆ
ผมยกเหล้าแก้วเหล้าขึ้นจ่อปากก่อนจะค่อยๆ
ละเลียดกินมัน เหล้าขมๆ แบบนี้ต้องค่อยๆ
กินมันถึงจะได้รสชาติ
ขืนกินรวดเดียวต่อให้คอแข็งแค่ไหนก็เซได้ง่ายๆ
เลยล่ะครับเพราะเหล้ามันแรงมาก
“ดื่มให้หมด”
ไอ้พี่ลันสั่งเมื่อเห็นผมลดแก้วลง เหี้.ย!
นี่กะจะมอมเหล้ากันนี่หว่า
หนอย...ไอ้พี่ลัน ไอ้ว้ากเกอร์ตัวเตี้ย!!
พอสิ้นคำสั่งผมก็ได้แต่ด่าพี่แกทางสายตา(ขืนด่าออกมาตรงๆ
กูก็โดนคลานเป็นหมาสิครับ)ก่อนจะกระดกแก้วกรอกเหล้าลงคออย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมว่านะ ไอ้พี่ลันมันตั้งใจแกล้งผมคนเดียวแน่ๆ
เพราะมันสั่งให้ผมดื่มคนเดียวโดยไม่ได้หันไอ้สั่งให้ไอ้เมฆดื่มบ้างเลย นี่มึงโกรธเหรอครับที่กูว่ามึงเตี้ย
แต่มึงไม่เห็นต้องโมโหเลยเพราะมึงไม่ได้เตี้ยจริงๆ อ่ะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เอาล่ะค่ะ เรื่องนี้ใครจะคู่ใครกันนะ ระหว่าง...
พี่เสือ x น้องสุดที่รัก
พี่ขลุ่ย x น้องฮันนี่
พี่ลัน x น้องสูง
และ... ไอ x เมฆ
ฮุๆ ติดตามต่อไปค่ะ ตอนต่อไปเราจะได้รู้กันแล้วล่ะค่ะว่าใครคู่ใครกันแน่
ความคิดเห็น