ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ซวยฉิบหาย! ผมกลายเป็นเมียเขา [จบจ้า]

    ลำดับตอนที่ #19 : Rule 17 : รักน้องต้องดราม่า

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 56


    10/12/12
    edit : 1/1/13

     
    Rule 17 : รักน้องต้องดราม่า

    เนื่องจากอาการบาดเจ็บผมจึงไม่ได้ซ้อมกับคนอื่นๆ เขาได้แค่นั่งมองเพื่อนๆ ซ้อมและให้คำแนะนำกับคนในกลุ่ม  ตอนที่ผมเข้ามาฝึก เพื่อนในกลุ่มผมยกเว้นไอ้เมฆไม่รู้เลยว่าผมสายดำพอรู้เข้าเท่านั้นแหละถึงกับตาค้าง  และคนที่ดูเหมือนจะปลื้มผมที่สุดท่าทางจะเป็นครีมนี่แหละ  ฮั่นแน่ะๆ แอบชอบผมแล้วใช่ไหมล่ะ ฮุๆ

    “ครีม เวลาเตะสูงน่ะขาที่เป็นฐานจะต้องแข็งแรงนะ  เหยียดและยืนให้มั่นๆ ก่อนจะเตะ” ผมชี้นิ้วสั่งครีมที่กำลังฝึกเตะลมตามคำสั่งของไอ้พี่ลุกซ์

    “สั่งอยู่ได้  แน่จริงก็มาเตะให้ดูเลยสิ” ครีมทำหน้าบูดๆ ใส่ผมที่เอาแต่จ้ำจี้จ้ำไชกับเธอคนเดียว

    “แหม...ก็อยากให้เป็นเร็วๆ ถึงได้แนะนำ” ผมพูดยิ้มๆ

    “ไม่ต้องเลย  เอาเวลาไปรักษาขาตัวเองให้หายเถอะย่ะ” ครีมสะบัดหน้าใส่ผม อ่า...น่ารักอีกแล้ว

    ตุบ!!

    เฮือก!! ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ ขวดน้ำก็ถูกวางลงอย่างแรงตรงที่นั่งข้างตัวของผม  คนกำลังชื่นชมความน่ารักของผู้หญิงอยู่ดีๆ ใครกันนะที่มาทำให้ผมตกใจจนสะดุ้งแบบนี้

    ใบหน้าบูดบึ้งของคนที่วางขวดน้ำลงข้างตัวผมทำให้ผมไม่กล้าโมโหใส่  นอกจากจะไม่กล้าโมโหแล้วผมยังกลัวจนหน้าซีดอีกต่างหาก  ถ้าคุณเป็นผมคุณจะกล้าโมโหใส่ประธานปกครองปีสามที่กำลังทำตัวเหมือนเครื่องจักรฆ่าคนเดินได้ไหมล่ะครับ? ไม่กล้าเหมือนกันใช่ไหมล่ะ

    “ดื่มสิ!!” พี่ลันเดินอ้อมจากด้านหลังมานั่งข้างๆ ผมก่อนจะพูดเสียงเหี้ยม  บังคับกันด้วยสีหน้าฆาตกรแบบนั้นใครจะกล้าขัดล่ะครับ  พี่ลันเอ๊ย ถ้ามึงจะทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่ากูขนาดนั้นมึงก็เอามีดมาแทงกูเถอะ  กูกลัวหน้ามึงตอนนี้จริงๆ ว่ะ

    ผมเปิดฝาขวดน้ำเปล่าก่อนจะยกขึ้นดื่ม  ผมหรี่ตามองพี่ลันนิดๆ ก่อนจะถามออกไปเพราะทนความอึดอัดไม่ไหว “พี่เตี้ยเป็นอะไรครับ?” ถามอย่างนอบน้อมครับผม

    “เมื่อกี้ทำอะไร?” ไอ้พี่ลันถามเสียงเคืองแบบสุดตีน

    “ดื่มน้ำไงครับ” ผมตอบซื่อๆ เมื่อกี้ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าผมดื่มน้ำแล้วจะมาถามหาห่าอะไรวะ

    “อย่ากวนตีน” เอื๊อก!! ช็อคครับ ยะ...อย่ากวนตีน...อย่ากวนตีน  โฮก!! ไอ้พี่ลันว่าผมว่าอย่ากวนตีน!!! แล้วกู...ไปกวนตีนอะไรวะ?

    “เอ่อ...” ผมเงียบก่อนจะขยับห่างออกจากพี่ลันนิดหน่อย  จู่ๆ ก็มาหาว่าผมไปกวนตีน  ผมทำอะไรให้วะเนี่ย  ฮู้ว! ถ้าจะมาหาเรื่องกันแบบนี้อย่ามาคุยกันเลยดีกว่า  เซ็งว่ะ

    ผมกับไอ้พี่ลันนั่งเงียบอยู่อย่างนั้นโดยไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไรสักคำ  อะไรของเขาเนี่ย  มาทำให้บรรยากาศดีๆ ของคนอื่นเสียหมดแบบนี้เขาต้องการอะไรกันแน่  โอ๊ย!! จะเงียบอีกนานไหมวะกูอึดอัด  ถ้าไม่พูดอะไรงั้นกูพูดเองละกัน  แม่ง ชักจะอารมณ์เสีย

    “โมโหอะไรมาก็อย่าเอามาลงที่ผมได้ไหม?” ผมทำท่าทางไม่พอใจ  ตอนนี้จะโดนไอ้เครื่องจักรข้างๆ ฆ่าผมก็ไม่กลัวแล้วเพราะตอนนี้ผมอารมณ์เสียที่ถูกพาลใส่ทั้งๆ ที่ตัวผมเองก็ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมถึงต้องมารองรับอารมณ์ของไอ้พี่ลันด้วย

    “นายเป็นคนทำให้ฉันโมโห” ไอ้พี่ลันพูดเสียงต่ำดำดิน  ดวงตาก็แข็งกร้าวเหมือนกำลังโมโหสุดๆ  เอ่อ...ชักจะป๊อดแล้วสิเรา

    “ผมทำอะไร?” ผมถามงงๆ  ไอ้เราก็นั่งอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มาว่าเราซะงั้น  งงนะเนี่ย

    “น่าจะรู้อยู่แก่ใจ” ไอ้พี่ลันหรี่ตามองผมเคืองๆ  รู้อยู่แก่ใจเหรอ? แต่ว่า...กูไม่รู้อะไรเลยนะเฮ้ย

    “พี่ลัน...พูดอะไรให้มันเคลียร์ๆ ได้ไหมครับ  พูดเองเออเองแบบนี้ผมจะรู้เรื่องไหมเนี่ย?” เคืองมาผมก็เคืองตอบครับ

    “นายไปยุ่งกับเด็กคนนั้นอีกทำไม?” ไอ้พี่ลันยื่นหน้ามากระซิบถามเสียงเย็นๆ  เอ่อ...น้ำเสียงฟังดูเย้นเย็นแต่ทำไมหน้าผมมันร้อนวะเนี่ย?

    “ทำไมต้องโกรธล่ะ? ผมก็แค่แนะนำเขาเท่านั้นเอง” ผมเบือนหน้าหนีเพราะมั่นใจว่าตอนนี้หน้าผมคงจะแดง

    “แล้วทำไมต้องยิ้มหน้าบานขนาดนั้นด้วย?” ไอ้พี่ลันถามอย่างไม่พอใจ

    “ผมก็ยิ้มอย่างนั้นตลอดนั่นแหละ  อะไรของพี่เนี่ย  แค่ยิ้มก็ไม่ได้” ผมบ่นอุบอิบ

    “ห้ามยิ้ม” อ้าว...? สลัดผักแล้วกู  ห้ามแม้กระทั่งยิ้ม

    “ฮู้ว! ไร้สาระ” ผมส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะหันหน้าหนีไม่อยากคุยด้วย  เป็นอะไรของพี่แกเนี่ย จู่ๆ ก็มาโมโหใส่แบบไม่มีเหตุผลแถมยังสั่งอะไรไร้สาระอีก  ผมควรจะทำตามคำสั่งแกดีไหมเนี่ย


     

    คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่จะได้ค้างที่นี่เพราะเราต้องเดินทางกลับวันพรุ่งนี้ตอนบ่าย   ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่สมควรจะนอนแล้วล่ะครับ  ตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันผมก็ไม่ได้คุยอะไรกับพี่ลันอีกพอมานอนห้องเดียวกันแบบนี้ผมก็เลยไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี

    ผมรีบกลับมาที่ห้องพักก่อนจะรีบอาบน้ำและแกล้งทำเป็นนอน  ตอนนี้ก็ดึกพอสมควรแล้วแต่ไอ้พี่ลันยังไม่กลับมาเลยสงสัยเพราะมัวแต่เคลียร์ของกับพวกพี่สต๊าฟอยู่ล่ะมั้ง  ก็ดีแล้วแหละผมจะได้ทำใจให้นอนหลับได้ก่อนที่แกจะกลับเข้ามา

    แอ๊ด  ขณะที่ผมเคลิ้มจะหลับเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น  ด้วยความระแวงตาผมจึงเบิกโพลงขึ้นมาในความมืดทันที  ผมหรี่ตามองเงาตะคุ่มใหญ่ๆ ที่เดินไปหยิบเสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวก่อนจะรีบหลับตาลงเมื่อรู้สึกว่าเจ้าของเงานั่นหยุดนิ่งก่อนจะหันมาหาผม

    จุ๊บ!! ผมแอบสะดุ้งเมื่อจู่ๆ ไอ้พี่ลันก็เดินมาหอมแก้มผมที่นอนทำตัวลีบๆ อยู่ตรงขอบเตียง

    หลังจากขโมยหอมแก้มผมไปฟอดใหญ่พี่ลันก็เดินผิวปากเข้าไปในห้องน้ำเฉยเลย  ไอ้บ้าเอ๊ย! คนเขากำลังโกรธอยู่อย่ามาทำให้เขินได้ไหมเนี่ยเดี๋ยวก็หายโกรธหรอก  เฮอะ! ผมไม่ได้ใจง่ายยอมหายโกรธพี่ลันทั้งๆ ที่เขายังไม่ง้อหรอกนะครับ  แต่ลองมาเจอแบบผมดูสิแล้วคุณจะรู้ว่าผมต้านทานไอ้พี่คนนี้ไม่ได้จริงๆ  แค่เขาอ้อน(?)นิดหน่อยผมก็พร้อมที่จะลืมทุกอย่างเลยล่ะครับ  เฮ้อ  ตอนไหนผมจะมีภูมิคุ้มกันเรื่องไอ้พี่ลันเนี่ย


     

    แสงไฟในห้องน้ำสาดทาบตัวผมก่อนจะดับลงเมื่อมือหนาๆ กดสวิตช์ให้ปิดลง  เตียงหนานุ่มยุบตามน้ำหนักตัวของคนที่เพิ่งทิ้งกายลงบนเตียงก่อนพื้นที่บริเวณที่ผมนอนจะค่อยๆ ยุบตามไปเมื่อไอ้พี่ลันขยับเข้ามากอดผมไว้

    “อย่ามาทำรุ่มร่ามกับผมนะครับ” ผมรีบโวยวายพลางพลิกตัวไปผลักพี่แกออกจนพี่แกเกือบตกเตียง  สมน้ำหน้า  น่าจะกลิ้งตกไปเลยซะก็ดี

    “เป็นอะไรไป?” ไอ้พี่ลันม้วนตัวกลับมานอนข้างๆ ผมก่อนจะถามเสียงนิ่งๆ ตามแบบฉบับของตัวเอง

    “พี่นั่นแหละเป็นอะไร  จู่ๆ ก็มาหาเรื่องชวนทะเลาะแล้วพอมาตอนนี้ก็ทำตัวเหมือนไม่มีอะไร” ผมพูดเสียงแข็ง 

    “อย่าไปยุ่งกับน้องคนนั้นให้มากจะได้ไหมล่ะ?” ไอ้พี่ลันพลิกตัวหันหลังให้ผม  ผมหันไปมองแผ่นหลังพี่ลันก่อนจะแอบยิ้มบางๆ แต่ก็ยังแกล้งทำเป็นโกรธอยู่

    “ทำไมผมจะยุ่งไม่ได้ล่ะครับ?” ผมแกล้งแหย่  ที่จริงผมก็อยากจะได้ยินคำบางคำจากปากไอ้พี่ลันเพื่อยืนยันความรู้สึกในใจผม

    “หึง” พี่ลันพูดเสียงอู้อี้  ผมได้ยินชัดเต็มสองรูหูแต่ก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน  ได้ฟังแบบนั้นเลือดมันสูบฉีดไปเลี้ยงสมองแทบไม่ทันเลยทีเดียว

    “ว่าไงนะครับ?”

    “หึง!” ไอ้พี่ลันพูดดังขึ้นก่อนจะพลิกตัวนอนคว่ำเหมือนกำลังประหม่า  เอ๊ะๆ เขินล่ะสิ  เขินล่ะเซ่ ฮุๆ น่ารักจุงเบย เอ้ย จังเลย

    “หึงทำไม  ไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย” พอนึกถึงจุดนี้ผมก็อดเสียใจขึ้นมาไม่ได้  นั่นน่ะสิ...ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย  ทำไมพี่ลันไม่ทำอะไรให้มันชัดเจนไปเลยล่ะ  ถ้าชอบก็บอกสิ ถ้าคิดว่าเป็นแค่เซ็กส์เฟรนด์ผมก็จะได้สำเหนียกตัวเองว่าไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของพี่ลันให้มากนัก

    “เป็นมากกว่านั้นไม่ใช่หรือไง” ไอ้พี่ลันเอียงหน้ามามองหน้าผมก่อนจะพูดเสียงแผ่วเบาแต่มันกลับดังก้องอยู่ในหัวผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    “อะ...อะไรกันครับ” ผมรีบพลิกตัวหลบสายตาไอ้พี่ลันทันที  เจอแบบนี้ผมไปไม่เป็นเลยครับ  อ่า...หน้าผมร้อนจนแทบระเบิดแล้วล่ะ

    ไอ้พี่ลันขยับตัวเข้ามาใกล้ผมก่อนจะโถมตัวเข้ากอดจนผมจมหายเข้าไปในตัวพี่แกเพราะขนาดตัวต่างกันพอสมควร “เมียน่ะ...สำคัญกว่าแฟนอีกนะ” พี่ลันกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู  ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน  หลังจากหายตกใจผมก็แทบแหกปากร้องให้ก้องโลก  ประโยคเมื่อกี้ผมไม่ได้ทึกทักเอาเองใช่ไหม!?!

    “ผะ...ผมเป็นผู้ชายนะครับ” ผมมุดหน้าหนีสายตาไอ้พี่ลัน  เดี๋ยวพี่มันรู้ว่าตอนนี้ผมแสดงความดีใจออกทางสีหน้ามากแค่ไหน

    “แล้วนายจะยอมมาเป็นคนของฉันไหมล่ะ?” ผมนิ่งอึ้งกับสิ่งที่พี่ลันถาม “เป็นของฉันคนเดียว ห้ามมีคนอื่น” ไอ้พี่ลันกระซิบก่อนจะจูบปลายหูผมเบาๆ

    “ไม่เอาด้วยหรอกครับ  เป็นคนของพี่คนที่เท่าไหร่ล่ะ?  ผมว่า...ถ้าพี่ไม่รู้สึกอะไรเลยก็ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปดีกว่าเพราะถ้าวันหนึ่งพี่หรือผมเกิดเบื่อขึ้นมามันจะได้ไม่มีอะไรยุ่งยาก” ผมพูดกึ่งประชด  ไอ้พี่ลันมีผู้หญิงในสต็อกเยอะจะตาย  มันไม่มีหลักประกันเลยว่าพี่แกจะหยุดที่ผมคนเดียว  ฮู้! เสียใจว่ะ!

    “ฉัน...ไม่เบื่อ...” ไอ้พี่ลันกลิ้งออกจากตัวผมก่อนจะเอามือก่ายหน้าผากพลางนิ่งคิดอยู่นานก่อนจะพูดออกมา

    “มันไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้หรอกครับ  ตลกยังหมดมุขแล้วทำไมความหลงชั่วขณะมันจะหมดไปไม่ได้” ผมนอนตะแคงพูดเสียงเบา  พอนึกถึงตรงนี้ความรู้สึกที่สื่อออกมามันก็เป็นแบบนี้เสียแล้ว  ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมพูดออกไปแบบนั้นแต่ผมรู้สึกอย่างที่พูดออกไปจริงๆ  ผมปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีกับพี่ลันแต่ว่า...ผมกลัวใจพี่ลันจริงๆ   เท่าที่เคยเห็นมาพี่ลันไม่เคยง้อผู้หญิงคนไหน  ไม่เคยควงใครได้นานแล้วกับผมที่เป็นผู้ชายมันจะยั่งยืนแค่ไหนกัน  อ่า...อยากร้องไห้ชะมัด

    “ถ้านายอยากให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปก็ได้  จนกว่าจะถึงวันที่เราต้องจากกันจริงๆ ฉันไม่มีทางปล่อยนายไปแน่” ไอ้พี่ลันพูดเสียงจริงจัง  ผมหันกลับไปมองหน้าพี่ลันก่อนริมฝีปากของเราจะประกบกันอย่างแผ่วเบาและค่อยๆ ลึกล้ำขึ้นทีละน้อยจนไม่อาจจะถอนจูบหอมหวานนี้ออกไปง่ายๆ

    อนาคตเราจะเบื่อกันหรือไม่ผมไม่รู้แต่ว่าตอนนี้ผมมีความสุขที่ได้อยู่ข้างๆ พี่ลัน  ผมรู้สึกดีที่ได้ใกล้ชิดกับพี่ลัน  เรื่องของความรักปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตาก็แล้วกัน

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ขอโทษนะคะที่หายไปนาน  แบบว่า...คอมเจ๋งไปหนึ่งอาทิตย์เศษๆ เลยล่ะค่ะ
    ที่จริงเวลาที่ใช้ซ่อมคอมมันก็แค่สองวัน  แต่อีกหลายวันที่เหลือคือไรเตอร์อู้ไม่ยอมเอามันไปซ่อมซักทีมันก็เลยนาน
    ขอโทษจริงนะคะที่ทำให้รอ TOT

    ปล. เจอคำผิด บอกด้วยนะ
    ปล.ของปล. ขอบคุณที่เตือนเรื่องคำผิดนะคะ


     

    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×