ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ซวยฉิบหาย! ผมกลายเป็นเมียเขา [จบจ้า]

    ลำดับตอนที่ #16 : Rule 15 : รักน้องต้องงอน

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 56


    25/11/12
    edit : 1/1/13

     

    Rule 15 : รักน้องต้องงอน


    พวกเราถูกเรียกไปรวมตัวกันที่ห้องโถงที่อยู่ติดกับห้องอาหารเพื่อแบ่งกลุ่มซ้อมกันให้เรียบร้อย   พวกเราจะต้องซ้อมกับเป็นกลุ่มโดยที่จะต้องซ้อมอะไรๆ ที่เหมือนกันและต้องซ้อมไปพร้อมๆ กันโดยจะไม่มีใครไปเร็วกว่าใคร  เช่น ถ้าซ้อมวิ่งคนในกลุ่มจะต้องวิ่งเกาะกลุ่มกัน  ซ้อมเตะต่อยก็ต้องซ้อมกับคนในกลุ่มเดียวกันและถ้าต้องขึ้นสังเวียนก็ต้องแข่งกับคนในกลุ่มและผมถูกห้ามลงแข่งเพราะผมสายดำ

    ตอนนี้ผมกับไอ้เมฆก็ได้อยู่กันเรียบร้อยแล้วครับโดยกลุ่มพวกผมมีแปดคนและมีไอ้พี่ลุกซ์เป็นครูฝึก  พวกผู้หญิงเองก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ที่ได้ครูฝึกหล่อๆ มาคุมส่วนพวกที่ได้ครูฝึกแก่ๆ ก็โอดโอยกันยกใหญ่  พวกพี่สต๊าฟผู้หญิงที่มาช่วยก็แทบไม่ได้ช่วยอะไรส่วนมากมีแต่นั่งมองหน้าหนุ่มหล่อสี่คนจากคณะวิศวะและคอยเสิร์ฟน้ำให้  ดูแลแต่คนหล่อๆ เลยวุ้ยพวกผู้หญิงเนี่ย

    “หมั่นไส้ว่ะแม่ง  มองแต่คนหล่ออยู่นั่นแหละ” ขณะที่พวกเรากำลังเตรียมอุปกรณ์มาจับคู่ซ้อมไอ้นะเพื่อนร่วมกลุ่มมันก็บ่นขึ้น  มันตั้งใจบ่นให้เพื่อนผู้หญิงสี่คนในกลุ่มได้ยินนั่นแหละครับเพราะพวกเธอเอาแต่จ้องมองไอ้พี่ลุกซ์กันตาเยิ้มเลย  จะว่าไปผู้ชายกลุ่มพวกผมก็มีแต่คนหน้าตาดีๆ นะแต่แค่ไม่ดีเท่าไอ้สองพี่น้องกับสองคู่หูเสือขลุ่ยเท่านั้นเอง

    “ใช่ไหม  ถ้ารู้ว่าพี่พวกนั้นนิสัยไม่ดีจะชอบหรือเปล่านะ” ผมเอาด้วย

    “นี่พวกขี้เหร่  ไม่หล่อเหมือนพี่เขาแล้วอิจฉาล่ะสิ  อย่าเรียกร้องความสนใจได้ไหมยะอิพวกบ้า” ครีม  ผู้หญิงท่าทางแก่นแก้วเหมือนทอมแต่หัวใจโคตรจะสาวตวาดแว้ด  ครีมเรียนวิศวะคอมครับ  ท่าทางเธอก็เหมาะสมกับการเรียนวิศวะมากพอสมควร

    “ขี้เหร่ตรงไหนไม่ทราบครับ? ฉันออกจะหล่อ  ถ้าฉันทำตัวดีๆ ไอ้พี่พวกนั้นชิดซ้าย” ผมยืดอกอวดๆ  พวกผู้หญิงต่างก็พากันทำหน้ายี้ทันที  ส่วนไอ้พวกผู้ชายก็ยืดตามผมไปด้วย

    “ว่าใครจะชิดซ้ายหรือครับสุดที่รัก?” เสียงเย็นๆ นิ่งๆ ดังขึ้นข้างหูเล่นเอาผมที่กำลังยืดเหี่ยวลงทันทีพลางรีบกระโดดหนีรัศมีความหล่อของพวกที่เพิ่งเดินมายืนอยู่ข้างหลังผม  พวกมันมากันครบองค์ความหล่อเลยล่ะครับ

    “เมื่อกี้พี่ไทเรียกใครว่าสุดที่รักนะคะ?” ครีมเบิกตากว้างพลางถามอย่างสงสัยและตกใจ  พวกนี้คงไม่รู้จักชื่อจริงของผมสินะ

    “ก็หมอนี่ไง  น่ารักใช่ไหมล่ะ?” ไอ้พี่เสือหัวเราะพลางรวบคอผมไปกอดเอาไว้  ผมทำหน้าแหยทันที  ไอ้พี่คนนี้มันจะทำให้คนอื่นจิ้นไปไกลทำไมวะครับ  ดูจากหน้าที่แสดงอารมณ์ของผู้หญิงในกลุ่มแล้วทำให้ผมรู้ว่าพวกผู้หญิงเหล่านี้เป็นสาววาย

    “สองคนนี้คบกันเหรอคะ?” ครีมถามอย่างตกใจ

    “ใช่แล้ว” เฮ้ย!! ปฏิเสธหน่อยสิเฟ้ยไอ้พี่เสือหน้าโหด! ไอ้ดำเอ๊ย อย่ามาทึกทักเอาเองนะเฟ้ย!  ขืนยัยพวกนี้เชื่อจริงๆ ผมจะกล้าจีบได้อย่างไรเนี่ย  ผมเล็งๆ ยัยครีมเอาไว้อยู่ครับ ฮ่าๆ

    “อ๊ายยยย กูฟิน” พวกผู้หญิงจับกลุ่มกันซุบซิบด้วยใบหน้ที่แดงก่ำก่อนจะทำหน้าฟินเสียเต็มประดา

    “ไม่ใช่  หมอนี่ชื่อสุดที่รักต่างหาก” เสียงเย็นๆ ทุ้มต่ำดำดินดังขึ้นทำให้เสียงหัวเราะเงียบไป  พวกเพื่อนๆ ในกลุ่มของผมนิ่งกันไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมาดังๆ  ชื่อผมมันน่าอายจริงๆ ด้วย! แม่นะแม่  ทำไมต้องตั้งชื่อน่าอายแบบนี้ให้ผมด้วย  โฮว!

    อ้อ...เสียงที่พูดเมื่อกี้คือเสียงไอ้พี่ลันครับ  น้ำเสียงของพี่มันแสดงความหงุดหงิดจนพี่เสือกับพี่ขลุ่ยมองหน้าเลยทีเดียว

    “นายไอ  ชื่อนายน่ารักมากนะเนี่ย  ไม่เข้ากับหนังหน้าของนายเลยจริงๆ” ยัยครีมหัวเราะจนน้ำตาเล็ด  ผมทำปากบู้ใส่ยัยครีมอย่างงอนๆ

    “พี่ไทอย่าทำให้คนอื่นเข้าใจผิดอีกนะครับเดี๋ยวไอ้ไอมันจีบครีมไม่ได้ ฮ่าๆ” ไอ้เมฆแซว  แบบว่า...ผมบอกไอ้เมฆว่าหน้าตากับท่าทางของครีมเข้าตาผมอย่างจังเลย  ถ้าผมจีบติดก็คงจะดี  ผมจะได้มีหญิงเอาไว้เย้ยไอ้พี่ลันบ้าง

    “ร้ายนี่หว่าฮันนี่  ริจะจีบหญิงถามสามีตัวเองหรือยัง?” ไอ้พี่ขลุ่ยเดินมากอดคอผมเอาไว้บ้าง  ประโยคที่หลุดออกมาจากปากพี่ขลุ่ยเมื่อครู่ทำให้ผมอึ้งและหันหน้าไปมองไอ้พี่ลันที่กำลังมองหน้าผมเหมือนกัน  หรือว่าไอ้พี่ขลุ่ยมันรู้ว่าผมกับพี่ลัน...

    “คระ...ใครครับสามีผม!?!” ผมถามเสียงดัง  ผมลนลานกลัวพี่ขลุ่ยจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับไอ้พี่ลันจริงๆ

    “ไอ้ไทไง  เมื่อกี้พวกนายยังบอกอยู่เลยว่าเป็นแฟนกัน ฮ่าๆ” ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก  ไอ้พี่ขลุ่ยมันยังไม่รู้สินะ

    “งั้น...สามีจะอนุญาตให้สุดที่รักจีบหญิงไหมครับ?” ผมรีบปรับสีหน้าให้กวนตีนก่อนจะถามไอ้พี่เสือ  ผมแอบหรี่ตามองครีมเล็กน้อยก็พบว่าเธอกำลังหน้าแดงอยู่แต่ก็ยังวางฟอร์มเหมือนไม่ได้หวั่นไหวกับสิ่งที่ผมพูด

    “ไม่อนุญาต” ผมตกใจเมื่อไอ้พี่ลันสวนขึ้น  ผมอยากจะตะโกนแสกหน้าพี่มันจริงๆ ว่าอย่าพูดอะไรตอนนี้  ยิ่งไอ้พี่ลันพูดคนอื่นก็ยิ่งสงสัยและที่ผมบอกว่าจะจีบครีมก็เพราะกลัวพี่ขลุ่ยจะจับได้ต่างหาก  ผมชอบผู้หญิงแบบครีมก็จริงแต่เราเพิ่งรู้จักกันผมก็ยังไม่กล้าทำอะไรมากหรอกครับ  อีกอย่างผมมี...เอ่อ...ช่างมันเถอะ >///<

    “อะไรของมึงไอ้ลัน  หรือมึงชอบน้องผู้หญิงเขาล่ะ” พี่ขลุ่ยแซว  โฮ่ย! โล่งอก  นึกว่าพี่ขลุ่ยจะสงสัยอะไรแปลกๆ ซะอีก

    “ได้ไหมล่ะ?” ไอ้พี่ลันหันไปมองครีม  ยัยครีมหน้าแดงกว่าเดิมเมื่อได้ยินพี่ลันถามแบบนั้น  โคตรแม่ง!! อย่ามาแย่งกันนะไอ้พี่ลัน  ตัวเองก็มีผู้หญิงเต็มสต็อกอยู่แล้วทำไมต้องมาแย่งผมด้วย  คอยดูเถอะ! ผมจะไม่ยอมไปที่คอนโดพี่มันอีกเลย ฮึ่ม!! โกรธโว้ยโกรธ!

    “อย่าพูดเล่นสิคะพี่ลัน” ยัยครีมเขินม้วนต้วนส่วนผมก็หน้าบูดบึ้ง  เมื่อกี้ผมยังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่เลยพอถูกไอ้พี่ลันตัดหน้าไปแบบซึ่งๆ หน้าแบบนี้ผมก็ยิ้มไม่ออก  ผมโกรธไอ้พี่ลันด้วยหลายๆ สาเหตุและตอนนี้ผมก็ไม่อยากจะเห็นหน้าพี่มันเลย

    “น้องมันโกรธแล้วนะลัน  ถ้ามึงแกล้งมันอยู่ก็เลิกซะเถอะ” ไอ้พี่เสือพูดเมื่อเห็นผมเดินหนีออกให้ห่างจากพวกพี่ๆ พลางไปนั่งขัดเป้าล่อตีนเงียบๆ

    “ก็ไม่นี่” ไอ้พี่ลันยักไหล่  ผมเหล่ตามองไอ้พี่ลันนิดหน่อยก็จะเบือนหน้าหนี  อะไรของมันวะ  ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว  พี่มันทำท่าทางหงุดหงิดแล้วอยู่ดีๆ ก็มาแย่งกันแบบนี้ได้ไง   มันจะแจกเบอร์ใครที่ไหนคุยกับใครที่ไหนผมไม่เคยว่าเลยสักครั้งแล้วพอผมอยากจะมีผู้หญิงบ้างมันกลับมาขัดแข้งขัดขา  มันจะเอาไงกับผมแน่เนี่ย

    แต่จะว่าไปผมก็ไม่มีสิทธิไปโกรธไอ้พี่ลันหรอกไม่ว่าจะในสถานะไหนก็ตาม  ผมกับไอ้พี่ลันมีอะไรกันก็จริงแต่เราก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน  ผมจะโกรธที่พี่ลันไม่ได้มีผมคนเดียวไม่ได้และผมจะโกรธเรื่องที่พี่ลันมาจีบครีมตัดหน้าก็ไม่ได้เหมือนกันเพราะถ้าพี่ลันชอบครีมจริงๆ ผมก็ไม่มีสิทธิเพราะผมไม่ได้เป็นอะไรกับทั้งครีมและไอ้พี่ลัน   ตอนแรกผมก็แค่จะหยอกครีมเล่นๆ พอเจอพี่ลันทำแบบนี้ผมชักจะอยากจีบครีมขึ้นมาจริงๆ ซะแล้วสิ

    “โกรธเหรอที่ถูกตัดหน้า?” ไอ้พี่ลุกซ์เดินมานั่งยองๆ ข้างๆ ผมก่อนจะถาม “หรือโกรธที่ถูกนอกใจ?” ผมตกใจกับคำถามต่อมา

    “นอกใจอะไรครับ?” ผมแสร้งทำเป็นรู้เรื่อง

    “ก็ที่ไอ้ลันจีบผู้หญิงต่อหน้านายไง” พี่ลุกซ์พูด

    “พูดอะไรน่ะครับผมไม่รู้เรื่อง?” ผมยังแสร้งโง่ต่อไป

    “นายกับไอ้ลันไม่ได้เป็นอะไรกันเหรอ?” ไอ้พี่ลุกซ์ถามอย่างสงสัย

    “ก็ไม่นี่ครับ” ผมส่ายหน้าปฏิเสธ  แค่ตอบความจริงออกไปแค่นี้ทำไมผมถึงเจ็บแปลกๆ นะ  มันเป็นความจริงไม่ใช่เหรอทำไมผมจะต้องหวังอะไรแปลกๆ ด้วยนะ

    “งั้น...ถ้าฉันจะจีบนายก็คงได้สินะ” ไอ้พี่ลุกซ์คลี่ยิ้มบางๆ  ผมตกใจก่อนจะรีบถอยห่างจากไอ้พี่ลุกซ์  เมื่อกี้ไอ้พี่ลุกซ์พูดว่าอะไรวะ? มันพูดว่าอะไรครับ!?!?!!?

    “หา!?!?!” ผมส่งเสียงแห่งความสงสัยออกมาเสียดังจนพวกพี่เสือที่ยืนคุยกันอยู่หันมามอง “อะ...เปล่าครับไม่มีอะไร  คุยกันต่อไปเถอะ” ผมหันไปพูดกับกลุ่มนั้นก่อนจะหันมาทำหน้าตกใจใส่ไอ้พี่ลุกซ์อีกรอบ

    “ฉันพูดจริงๆ นะ” ไอ้พี่ลุกซ์ยิ้มจนตาหยีก่อนจะลุกขึ้นเดินจากไป  ผมมองตามไอ้พี่ลุกซ์จนแกเดินลับตาไปและพบว่าหน้าของผมร้อนฉ่าจนแทบระเบิด  หัวใจผมเต้นแรงจนแทบดิ้นหลุดออกจากอก  ไอ้พี่ลุกซ์...มันทำให้ผมหวั่นไหวได้ง่ายๆ เลยนะเนี่ย

    พี่ลุกซ์ชอบผมเหรอ?  ไอ้ที่แกแกล้งผมไว้ตอนแรกๆ นี่ก็เพราะถูกใจผมใช่ไหม?  ถ้าแกชอบผมจริงๆ ผมควรจะทำอย่างไรดีล่ะครับ?  พี่ลุกซ์ชอบผมแต่ผมดันไปมีอะไรๆ กับน้องชายของพี่ลุกซ์  ความสัมพันธ์แบบนี้มันแปลกๆ ใช่ไหมล่ะครับ?  แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจหรอกนะถ้าพี่แกจะชอบผมจริงๆ  ไหนๆ ผมก็หลวมตัวไปมีอะไรกับผู้ชายแล้วนี่นา  แต่จะให้ไปคบผมคงทำไม่ได้เพราะหัวใจผมก็ยังอยากจะคบกับผู้หญิงอยู่นะครับ

    “ไอ้ลุกซ์พูดอะไรกับนาย” ไอ้พี่ลันเดินมายืนตรงหน้าผมที่นั่งอยู่ก่อนจะถามเสียงเย็น

    “ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่นี่ครับ” ผมเบะปากพูดเสียงแข็ง  ผมโกรธอยู่ครับ

    “พูดอะไร?” พี่ลันถามย้ำอีกครั้ง  ผมขมวดคิ้วนิดๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในกลุ่มและบอกเพื่อนๆ ให้เริ่มซ้อมกันเสียทีเพราะกลุ่มอื่นเองก็เริ่มซ้อมกันแล้ว

    ไอ้พี่ลันทำหน้าหงุดหงิดเมื่อไม่ได้คำตอบดั่งใจ  พี่มันเดินกลับไปที่กลุ่มของตัวเองโดยไม่ลืมที่จะมองหน้าผมด้วยสายตาดุๆ เพื่อปรามไม่ให้ผมดื้อกับพี่มันอีก  แต่เสียใจ...ผมไม่กลัว!


     

    ระหว่างที่ซ้อมผมกับครีมก็กลับมาคุยกันได้อย่างปกติโดยมีเพื่อนในกลุ่มแซวกันเรื่องที่ผมชอบครีม  ยัยครีมเองก็ดูเขินๆ แต่ก็ทำตัวกร่างๆ ห้าวๆ เพื่อกลบความเขินนั้นแต่ผมก็มองออกว่าเธอเองก็เริ่มหวั่นไหวเมื่อรู้ว่าผมชอบ  ที่ครีมมีท่าทีแบบนั้นกับผมแสดงว่าเธอไม่ได้ตอบรับไอ้พี่ลัน  แต่ก็ดีแล้วล่ะเพราะขืนตอบรับไปก็คงได้เป็นแค่กิ๊กเท่านั้นแหละ  อย่างไอ้พี่ลันน่ะหรือจะรักใครเป็น  อย่างมากก็รักได้แค่ทางกายเท่านั้นแหละ

    กว่าจะถูกปล่อยให้กลับไปอาบน้ำพักผ่อนนั่นก็เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว  ผมกลับเข้าห้องตัวเองโดยไม่มองหน้าไอ้พี่ลันเลยแม้ว่าผมกับพี่ลันเราจะเดินกลับห้องพักพร้อมกันก็ตามที


     

    ผมอาบน้ำเสร็จก่อนจึงแอบนอนก่อนไอ้เมฆเพราะผมเหนื่อยทั้งกายและใจ  ผมอึดอัดใจพอสมควรที่จะต้องนอนร่วมบ้านกับไอ้พี่ลันแบบนี้  อารมณ์โกรธของผมที่มีต่อไอ้พี่ลันตอนนี้มันคืออะไรผมก็ไม่รู้  รู้แต่ว่าผมหงุดหงิดงุ่นง่านทุกครั้งที่ไอ้พี่ลันไปคุยกับผู้หญิงคนอื่นโดยไม่ปฏิเสธที่จะให้เบอร์ติดต่อ  การที่ผมนอนกับพี่ลันหลายครั้ง...บางครั้งมันก็ทำให้ผมคิดไปเองว่า...พี่ลันเป็นของผม

    ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินไปยืนรับลมอยู่ริมระเบียง  อากาศบนเขาที่หนาวเย็นกระทบผิวกายแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมกลับเข้าไปหลบหนาวอยู่ในห้อง  อากาศตอนกลางคืนมันดีมากเลยล่ะครับ

    แกร่ก...แกร่ก...แกร่ก

    ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเหมือนคนเดินเหยียบไม้  ผมรีบกวาดสายตามองไปรอบๆ กายที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยความมืดทันที ใครที่ไหนมาเดินในที่แบบนี้ดึกๆ ดื่นๆ กันนะ  หรือว่ามันอาจจะเป็นขโมยก็ได้  พอนึกขึ้นได้ว่าอาจจะมีขโมยผมก็กำหมัดแน่นทันที  โผล่มาเมื่อไหร่พ่อจะอัดเข้าให้!!

    หมับ!

    จู่ๆ ก็มีมือเย็นๆ มาวางทาบไหล่ผม  ผมรีบปัดมือเย็นๆ นั่นก่อนจะหมุนตัวจับแขนไอ้คนด้านหลังบิดไพล่หลังทันที

    “โอ๊ยยย  เล่นบ้าอะไรของมึงวะ” ไอ้เมฆร้องโวยวายผมจึงรีบปล่อยมือ  ไอ้เราก็นึกว่าขโมยที่ไหน

    “มึงโผล่มาเงียบๆ กูก็ตกใจสิวะ” ผมถอนหายใจเบาๆ อย่างโล่งอกที่เจ้าของมือเป็นไอ้เมฆ

    “แล้วมึงเป็นอะไร  ท่าทางตกใจเชียว” ไอ้เมฆสะบัดมือตัวเองเพื่อคลายความเจ็บหลังจากถูกบิดเสียแรง

    “เมื่อกี้ได้ยินเสียงคนเดินน่ะ  กลัวว่าจะเป็นขโมย” ผมบอกพลางเอนหลังพิงระเบียง

    “แม่ง กูว่าไม่ใช่ขโมยหรอก” ไอ้เมฆพูดขึ้น  ผมมองหน้าแหยๆ เหมือนจะร้องไห้ของมันอย่างสงสัย  สายตากล้าๆ กลัวๆ ของมันมองผ่านหน้าผมไปที่ด้านหลังของผม

    “อะไรของมึง” สายตาของไอ้เมฆทำให้ผมสงสัยผมจึงหันไปมองตามสายตาของมัน

    หลังต้นไม้ใหญ่มหึมาด้านหลังของผมปรากฏเห็นแสงสีเขียวๆ ลอยเหนือกับพื้นพร้อมกับเงาตะคุ่มๆ ของอะไรบางอย่างที่เป็นเส้นๆ เหมือนเส้นผมพัดโบกไปมาตามแรงลม   ผมไม่ใช่กลัวผีนะครับแต่ว่า...

    “อ๊ากกกกกกกกก!!” ผมกับไอ้เมฆแหกปากร้องพร้อมกันก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องทันที


     

    เนื่องจากพวกผมแหกปากร้องโวยวายเพราะความตื่นกลัวพวกพี่ๆ ที่อยู่บ้านหลังเดียวก็ออกจากห้องมาดูว่าพวกผมเป็นอะไร  ผมกับไอ้เมฆกอดกันกลมเพราะสิ่งที่เห็นมามันทำให้ผมขนลุก

    “เมฆเป็นอะไร  ร้องไห้ทำไม?” ไอ้พี่ขลุ่ยเดินมาจับไหล่พวกผมเอาไว้ 

    “พี่ขลุ่ย  ฮือ ผี...ผี!” ไอ้เมฆผละจากผมก่อนจะโผไปกอดไอ้พี่ขลุ่ยไว้  อ้าวแล้วกูล่ะเมฆ? มึงทิ้งกูไปหาไอ้พี่ขลุ่ยทำไมฟะ?

    “พวกคุณเจออะไรมา?” ไอ้พี่ลุกซ์เดินมาจับไหล่ผมแทนที่ที่ไอ้พี่ขลุ่ยเคยจับ

    “ผะ...ผี...ผี” ผมชี้เข้าไปในห้องของตัวเองไอ้พี่ลุกซ์จึงรีบเปิดประตูเข้าไปดูพร้อมกับพี่เสือส่วนไอ้พี่ลันก็ยืนนิ่งๆ ด้วยสีหน้าซีดๆ  ก็พี่ลันน่ะกลัวผีซะยิ่งกว่าอะไรดี

    ไอ้พี่ลุกซ์เดินออกมาก่อนจะถาม “ไม่เห็นมีอะไรเลย”

    “ระเบียง...หลังต้นไม้” ผมพูดตะกุกตะกักก่อนจะกระโดดไปเกาะแขนไอ้พี่เสือที่เดินตามออกมาเอาไว้  ผมกลัวนี่ครับ 

    ไอ้พี่ลุกซ์เดินไปดูตามที่ผมบอกก่อนจะเดินออกมาแล้วยืนยันคำเดิมว่าไม่มีอะไร  แต่ถึงอย่างนั้นผมกับไอ้เมฆก็ไม่กล้ากลับเข้าไปนอนในห้องของตัวเองแล้วล่ะครับ  มันน่ากลัว

    “เอางี้  เดี๋ยวผมมานอนที่ห้องนี้เองเพราะถ้าจะนอนอัดกันสามคนบนเตียงเดียวคงจะไม่ไหว” ไอ้พี่ลุกซ์พูดขึ้น

    “พี่ไม่กลัวเหรอครับ?” ผมถามอย่างหวั่นๆ  พี่กับน้องนี่ต่างกันเป็นบ้าเลยแฮะ  คนหนึ่งก็กล้าอีกคนก็โคตรจะกลัว เฮ้อ ไอ้พี่น้องคู่นี้มันอะไรกันเนี่ย

    “มันไม่เห็นจะมีอะไรสักหน่อยทำไมต้องกลัว  ไร้สาระ” ไอ้พี่ลุกซ์ถอนหายใจนิดๆ ก่อนจะเข้าไปในห้องตัวเองเพื่อเก็บของย้ายออกมาส่วนไอ้เมฆก็ลากพี่ขลุ่ยเข้าไปในห้องเพื่อเก็บของของตัวเองย้ายไปอยู่ห้องอีกห้องแทนพี่ลุกซ์

    “สุดที่รักย้ายไปอยู่กับไอ้ลันนะเดี๋ยวพี่ไปอยู่กับพี่ลุกซ์เอง” ไอ้พี่เสือพูด

    “ไม่ล่ะครับ  ถ้าพี่ลุกซ์ไม่กลัวผมก็ไม่กลัวเหมือนกัน  ที่จริงผมก็ไม่ได้เชื่อเรื่องผีเพราะฉะนั้นผมจะนอนห้องเดิม” เรื่องอะไรผมจะต้องไปนอนห้องเดียวกันกับไอ้หน้าเซ็งจิตด้วยล่ะ?  ถ้าพี่ลันไม่ยอมมาขอโทษเรื่องที่ตัดหน้าจีบครีมล่ะก็ผมไม่ยอมคุยด้วยแน่

    “เอาอย่างนั้นก็ได้แต่ถ้าถูกแกล้งก็รีบมาขอความช่วยเหลือล่ะ” ไอ้พี่เสือหัวเราะนิดๆ ก่อนจะลากพี่ลันกลับเข้าไปในห้อง

    เฮ้ย! นี่ไอ้พี่ลันไม่คิดจะขัดขวางอะไรหน่อยเหรอเนี่ย?  ที่ผมบอกว่าจะนอนห้องเดียวกันกับไอ้พี่ลุกซ์เพราะผมอยากประชดนะเฮ้ย  แล้วไหงพี่มันไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยวะเนี่ย  จำไว้เลยนะไอ้พี่ลัน  ถ้าพี่จะไปอยู่กับใครที่ไหนผมก็จะไม่รู้สึกเหมือนกัน  โว้ย!!! หงุดหงิด!!

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    ช่วงนี้ไรเตอร์เครียดเรื่องเข้ามหาวิทยาลัยมากเลยค่ะเนื้อเรื่องมันก็เลยออกมาไม่รู้เรื่องแบบนี้  ไรเตอร์ต้องขอโทษกับความไม่รู้เรื่องของเนื้อเรื่องที่ออกมาด้วยนะคะ

    เจอคำผิดที่ไหนบอกที่นั่นนะจ๊ะที่รัก จุ๊บบบ


     

    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×