คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Rule 10 : รักน้องต้องปล้ำ!(?)
Rule 10 : รักน้องต้องปล้ำ!(?)
ผมกับไอ้พี่ลันเดินจนมืดค่ำและได้ของกินมาเต็มมือ
ตอนนี้คนเริ่มเยอะพวกเราจึงกลับมาที่รถและเปิดกระบะรถเพื่อนั่งกินอาหารที่เราซื้อมา
ไอ้ที่ผมเลือกมามีแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้นแหละครับส่วนของไอ้พี่ลันไม่ต้องพูดถึง จัดหนักมาก!
“ทำไมกินเยอะจังเลย?”
ผมถามเมื่อเห็นไอ้พี่ลันโยนขยะถุงแล้วถุงเล่าลงถังขยะ
ขยะเหล่านั้นล้วนเป็นวัสดุที่ห่ออาหารของไอ้พี่ลันครับ
“ไม่รู้ ก็กินอย่างนี้ประจำ”
พี่ลันบอกก่อนจะหันไปดูดน้ำหวานล้างปาก
“แต่พี่ดูไม่อ้วนเลย ทำอย่างไรครับเนี่ย?” ผมถาม
ไอ้เราก็อิจฉาหุ่นพี่แกเพราะเราอยากจะมีแบบนี้บ้างเหมือนกัน
“ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่ อาจจะเป็นเพราะฉันฝึกที่ยิมเกือบทุกวันล่ะมั้ง”
พี่ลันพูดก่อนจะหันไปซัดอาหารอีกชุด
“งั้นหรือ?
ผมอยากหุ่นดีบ้างจัง เฮ้อ” ผมก้มลงมองหน้าท้องของตัวเองก่อนจะสบถ
ผมเองก็ฝึกประจำนะแต่ทำไมหน้าท้องผมยังแบนราบแบบนี้ล่ะเนี่ย?
“คิดว่าตัวเองผอมล่ะสิ”
พี่ลันหรี่ตามองหน้าท้องของผมเล็กน้อยผมจึงพยักหน้า “ไม่ได้ผอมหรอก โครงร่างนายมันเล็ก หุ่นเท่านี้กำลังพอดี” พี่ลันพูด ผมเบือนหน้าหนี กูร้อนที่หน้าอีกแล้วครับ
“พี่ก็พูดได้สิ พี่หุ่นดีนี่” ผมค้อน
ไอ้พี่ลันวางของกินไว้ข้างตัวก่อนจะรวบเสื้อของผมให้มันแนบติดเนื้อเพื่อดูสัดส่วน
แกรวบเสื้อตัวเองบ้างก่อนจะมองหุ่นของผมกับหุ่นของแกสลับกัน ผมเองก็มองเห็นถึงความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ทั้งความหนาความยาวผมแพ้พี่แกแบบหลุดลุ่ยเลยครับ โอ๊ย!! ทำไมถึงหุ่นดีแบบนี้นะ
“โครงสร้างร่างกายของนายมันเล็ก กระดูกก็เล็กกว่าของฉันไม่แปลกที่หุ่นจะไม่เท่ากัน
ผู้ชายที่ตัวเล็กกว่านายก็มีออกเยอะแยะจะน้อยใจไปทำไม ดูอย่างน้องเมฆสิ ตัวก็เล็กแถมยังเตี้ยอีก น้องเขายังไม่บ่นเลย”
ไอ้พี่ลันพูด โฮ่!
พูดให้กำลังใจคนอื่นก็เป็นหรือนายคนนี้
รู้สึกดีจัง
“มันบ่นกรอกหูผมทุกวันต่างหาก คราวหน้าผมจะไม่อยู่ใกล้พี่แล้ว มันเห็นความแตกต่างชัดเจนเกินไป”
ผมสะบัดหน้าหนีอย่างงอนๆ
ผมเดินไปกับไอ้พี่คนนี้ทีไรผมรู้สึกว่าตัวเองด้อยมากทุกที
คนอย่างไอ้พี่ลันแค่เห็นหุ่นอย่างเดียวผู้หญิงก็หลงแล้วไหนยังจะมีหน้าตาหล่อขั้นเทพที่เป็นไปตามธรรมชาติอีก ผู้หญิงที่ไหนไม่ชอบน่ะสิแปลก
“ไร้สาระ”
ไอ้พี่ลันส่ายหน้านิดๆ ก่อนจะหันไปกินต่อ
ผมกลับไปหอหลังจากถูกไอ้พี่ลันมันบังคับให้กินข้าวกินน้ำจนอิ่มเกือบอ้วกแถมยังเทยากรอกปากผมแบบไม่มีความสงสารกันบ้างเลย จะอ่อนโยนด้วยหน่อยก็ไม่ได้หรืออย่างไร เชอะ!
ผมชะงักเท้าเมื่อเดินขึ้นไปถึงชั้นที่ตัวเองอยู่ ไอ้เมฆมันยืนทำหน้าบึ้งอยู่หน้าห้องผมครับ
ผมรีบผลุบเข้ามุมทันทีเพราะหน้าตาไอ้เมฆตอนนี้น่ากลัวมาก ถ้าผมเอาไม้ไปจิ้มตูดมันผมคงโดนฝ่าเท้ามันทาบหน้าอ่ะครับ ทำไงดีๆๆ
ดูเหมือนไอ้เมฆมันจะโกรธมากทีเดียวที่ผมไม่กลับหอซักที จะโดนคนน่ารักฆ่าไหมหนอกู
ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ
ก่อนจะกลั้นหายใจและเดินไปที่ห้องตัวเองไม่วายยังทำหน้าตาให้น่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้
“มึงรู้ไหมว่ากูเป็นห่วงมากแค่ไหน”
ไอ้เมฆถามเสียงเย็นโดยที่ไม่มองหน้าผมสักนิด
“ครับผม”
ผมตอบรับจ๋อยๆ
“โทรหาก็ไม่ติด
ไปตามที่ร้านก็ไม่เจอ
กูนึกอยู่นานเลยนะว่ามึงจะไปค้างที่ไหนแต่กูก็นึกไม่ออกเพราะมึงไม่รู้จักใครนอกจากกู!
คราวหน้าคราวหลังหัดเปิดโทรศัพท์ซะบ้างกูจะได้ไม่ต้องกังวล แล้วนี่มึงหายหัวไปไหนมา ทำไมเพิ่งกลับ!?!”
ไอ้เมฆมันหันมาแว้ดใส่หน้าผม
บ่นเป็นแม่เลยนะมึง
“อ่า...ก็กูจัดหนักไปหน่อยก็เลยเมา พี่ลันก็เลยพาไปค้างด้วย” ผมตอบเสียงเบา ไอ้เมฆมันทึ่มคงไม่สงสัยอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้แต่เป็นไปแล้วหรอก
“หวังว่าคงไม่ได้กันตอนเมาหรอกนะ”
เหี้ย!! เสือกฉลาดรู้ทันกูอีก
“จะให้มีอะไรวะ กูกับพี่ลันก็แม่งเป็นผู้ชายด้วยกัน กูเป็นผู้ชายทั้งแท่งเลยนะเว้ย”
ผมพูดอย่างจริงจังก่อนจะก้มลงไปมองเป้ากางเกงเพื่อยืนยันความเป็นชาย เอาน่า...ยังไงผมก็เป็นผู้ชายแม้จะถูกจิ้มก็เหอะนะ
T^T
“ทะลึ่งจริงๆ”
ไอ้เมฆผลักหัวผม
ผมกับไอ้เมฆเคลียร์กันเสร็จเรียบร้อยปรากฏว่าไอ้เมฆมันไม่โกรธอะไรมากมายที่ผมหายหัวไปไหนไม่บอกไม่กล่าว พอได้รู้จักกันจริงๆ
ไอ้เมฆมันนิสัยน่ารักมากเลยครับแต่เวลาโกรธนี่ก็น่ากลัวไม่หยอกเหมือนกัน ดีนะเนี่ยที่ผมคบมันเป็นเพื่อน ตอนแรกๆ ผมไม่ได้ตั้งใจจะคบหมอนี่เป็นเพื่อนสนิทหรอกเพราะดูมันซื่อเกินไปผมไม่อยากเหนื่อยใจกับพวกซื่อๆ มีหลายคนนะครับที่ความซื่อของมันมาพร้อมกับความโง่เง่าแต่ไอ้เมฆไม่ใช่
รุ่งเช้าวันอาทิตย์ที่คิดว่าสดใสเพราะได้นอนเต็มอิ่มโดยไม่มีอาการแฮงก์เกิดขึ้นถูกทำลายเมื่อเสียงเคาะประตูบวกถีบประตูดังอึกทึกจนเกรงว่าตึกนี้ทั้งตึกจะสั่นสะเทือนไปด้วย โอ๊ย!
ไอ้ห่าเหวหอกหักตัวไหนมารบกวนการนอนของผมฟะ
ไอ้เรากะจะตื่นตอนที่แดดส่องก้นแต่ผมต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพราะเสียงเคาะประตูแบบไม่เกรงใจของผู้มาเยือน
ผมเหลือบไปมองนาฬิกาข้อมือที่ถอดไว้ข้างหัวเตียงก่อนจะลุกขึ้นอย่างเซ็งๆ ตี 5 ครับพี่น้อง
มันมาปลุกผมตั้งแต่ตี 5! ถ้าไอ้คนที่มาทำร้ายประตูห้องผมเป็นคนที่เคาะห้องผิดล่ะก็อย่าหวังเลยว่ามันจะกลับไปโดยสวัสดิ์ภาพ ผมจะแร็ปด่ามันให้เสียหมาเลยคอยดูสิ!
ผมแง้มประตูออกไปส่องดูคนที่มาเยือนด้วยสายตาที่แผ่รังสีอำมหิตพิศวาส(รู้สึกอันหลังจะไม่เกี่ยว) รู้สึกเหมือนมีออร่าดำๆ ลอยฟุ้งออกจากตัวผมเพื่อกดดันให้คนมาเยือนสำเหนียกไว้ว่ามันไม่ควรมาปลุกผมตอนนี้
กูต้องแหกขี้ตาตื่นเพราะเสียงมึงปล้ำน้องประตูสุดที่รักกูนะเว้ย!
และแล้วออร่าสีดำของผมก็หายวับไปกับตาเมื่อถูกออร่าสีดำของคนที่มาหากลบเสียมิด ดวงตาคมหรี่ต่ำลงมองผมพร้อมกับคิ้วที่ขมวดมุ่น เอ่อ...ขอโทษนะครับ
ได้ข่าวว่ากูควรโกรธที่มึงมากวนเวลานอนของกูไม่ใช่เหรอแต่ทำไมกูรู้สึกเหมือนกูถูกมึงโกรธอ่ะ มึงไปแดกรังแตนที่ไหนมาหรือเปล่าครับไอ้พี่ลัน ทำหน้าเหมือนกูไปเผาบ้านมึงอ่ะ
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
ผมทักด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
เมื่อกี้ผมอุตส่าห์เก๊กหน้าดุกะว่าจะออกมาด่าซักหน่อยแต่สุดท้ายหน้าดุๆ
ของผมก็ไม่ได้ใช้งานซะอย่างนั้น
“ฉันจะไปซ้อมที่ยิม ไปด้วยไหม?”
พี่ลันคลายคิ้วที่ขมวดกันแน่นออก
สงสัยแกจะโมโหที่ผมมาเปิดประตูให้แกช้า
“เห?
ยิมเปิดด้วยเหรอครับ?” ผมถามงงๆ
วันนี้มันวันอาทิตย์นี่หว่า
“ยิมที่มหาลัยเราเปิดให้นักศึกษาเข้ามาฝึกได้ตลอดเวลาแล้วแต่ใครจะสะดวก เห็นบ่นว่าตัวเองตัวเล็กก็เลยมาชวน” พี่ลันพูด อ่า...มึงมาหากูขนาดนี้กูคงจะกล้าปฏิเสธคำชวนมึงหรอก
“อ่า...ถ้าอย่างนั้นผมขอเวลาล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนชุดก่อนนะครับ เข้ามาก่อนสิครับ” ผมยิ้มแหยๆ
ก่อนจะเปิดประตูให้กว้างกว่าเดิมเพื่อต้อนรับพี่ลัน
โชคดีนะครับที่เมื่อวานผมเพิ่งจัดห้องไปไม่อย่างนั้นพี่ลันแกคงจะรู้ว่าผมชอบวางหนังสืออย่างว่าไว้ข้างหัวเตียงแต่ตอนนี้หนังสือเหล่านั้นถูกซุกไว้ใต้เตียงเรียบร้อย พอดีว่าผมไม่อยากให้ไอ้เมฆที่ชอบเข้ามาเล่นในห้องผมใจแตกเพราะหนังสือเหล่านั้นอ่ะครับ
แฮะๆ
เพราะไอ้พี่ลันเร่งให้ผมรีบจนผมลืมชวนไอ้เมฆออกไปฝึกด้วย
แต่เพราะอย่างนั้นแหละครับผมกับไอ้พี่ลันก็เลยได้มาอยู่ในโรงยิมกันสองต่อสอง ไอ้เราก็นึกว่าจะมีคนมาฝึกเยอะแยะ ที่ไหนได้ไม่มีใครเลย วังเวงแบบนี้ผมอึดอัดมากครับ
“ประมาณ 6 โมงก็เริ่มมีคนมาแล้ว”
เหมือนอ่านใจผมออก
ไอ้พี่ลันที่เพิ่งไปหยิบอุปกรณ์มาซ้อมพูดขึ้น แต่ตอนนี้มันเพิ่งจะตี 5:20 เองนะ
ให้เค้าอยู่กับพี่ลันสองต่อสองแบบนี้เดี๋ยวเค้าก็โดนกดหรอก(กระแดะจริงกู)
วันนี้พี่ลันหล่อมากครับ ขนาดยังมึนๆ เพราะมีอาการเมาขี้ตาแต่แกยังหล่อได้อีก แกสวมชุดออกกำลังกายได้ดูดีสุดๆ เพราะหุ่นแกดี
พี่ลันใส่กางเกงขาสามส่วนที่ผ้าบริเวณต้นขาจะย้วยๆ แล้วมันจะรัดตรงหัวเข่าสีเทาซึ่งนั่นก็ทำให้ขาแกดูยาวสวย ขาที่โผล่พ้นเนื้อผ้ามานั้นเนียนมากครับ
ขนงี้แทบไม่มี ส่วนท่อนบนพี่แกสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีเหลืองอ๋อยทับเสื้อกล้ามสีดำขลับมาพร้อมกับรองเท้าผ้าใบของ
DC สีเหลืองดำ
ผมซอยสั้นชี้โด่ชี้เด่ไม่เป็นระเบียบยิ่งทำให้แกดูมาดแมนสมเป็นนักกีฬา ผมไม่อยากเห็นไอ้พี่ลันเลยจริงๆ เห็นทีไรต่อมอิจฉามันทำงานหนักทุกที
“พี่ลัน มานี่ๆ”
ผมกวักมือเรียกไอ้พี่ลันขณะที่แกกำลังเช็ดเป้าล่อตีนอยู่
ผมจะเอาผมแกลงให้เรียบร้อยครับเพราะผมทรงนี้มันดูหล่อแปลกตา พอไม่คุ้นผมก็มักจะมองบ่อย ผมไม่อยากให้แกสงสัยว่าผมคิดอะไรกับแกหรือเปล่าถึงมองแกบ่อยขนาดนั้น ที่จริงก็ไม่ได้คิดอะไรนะครับ แค่เห็นว่าแกหล่อเท่านั้นเอง จริงๆ นะ เชื่อผมสิ
“อะไร?”
พี่ลันเดินมาหาผมก่อนจะขมวดคิ้วงงๆ
ผมดึงคอเสื้อไอ้พี่ลันลงมาก่อนจะลูบผมแกลง
จังหวะที่พี่ลันเงยหน้าขึ้นหน้าผากแกเฉียดปลายจมูกผมไปนิดหน่อยก่อนที่แกจะชะงัก พี่ลันชะงักได้ตรงจุดมากครับ ทำไมมึงไม่ชะงักหลังจากมันยืนตรงดีๆ
แล้วล่ะครับพี่
มึงมาชะงักตอนที่จมูกมึงกับจมูกกูจรดกันทำไมวะครับ หน้ากูร้อนเลย
ชิ! อย่ามองตาสิวะ เดี๋ยวหน้ากูก็ระเบิดหรอกเฮ้ย แล้วมึงจะค้างอยู่ท่านี้อีกนานไหมครับ ช่วยขยับออกไปได้ไหมเพราะกูขยับเองไม่ได้ ตัวกูแข็งเป็นหินแล้วเนี่ย
ขณะที่ผมกำลังก่นด่าไอ้พี่ลันในใจริมฝีปากของผมก็แนบสนิทชิดเชื้อกับริมฝีปากของไอ้พี่ลัน เอาอีกแล้ว...ได้เวลาหวิวอีกแล้วกู
ผมหลับตาปี๋เม้มปากแน่นเพราะตกใจแต่เม้มได้ไม่นานไอ้พี่ลันก็บีบแก้มผมจนริมฝีปากผมเผยอขึ้นรับกับริมฝีปากแก
ตัวผมถูกดันจนหลังชนผนังโรงยิมก่อนมือทั้งสองข้างจะถูกตรึงไว้กับผนัง ถ้าปากว่างผมจะตะโกนบอกพี่ลันดังๆ เลยครับว่า
ถึงไม่ขึงกูไว้
กูก็ไม่ขัดขืนมึงหรอกไอ้ห่า
ที่ไม่ขัดขืนไม่ใช่เพราะผมใจง่ายนะแต่เป็นเพราะมันระทวยจนไม่มีแรงน่ะสิ
ถ้าไอ้พี่นี่คิดจะปล้ำผมล่ะก็มันคงจะปล้ำผมได้อย่าง่ายดายเลยล่ะครับ ตอนไหนผมจะชินกับจูบของแกซักทีนะ ถ้าชินแล้วผมก็คงจะไม่ระทวยจนแข้งขาอ่อนแบบนี้หรอก
“พี่ลัน...”
ผมเอามือวางทาบไว้บนไหล่แกก่อนจะดันออกเบาๆ
กูหายใจไม่ทันครับพี่ เมื่อผมเอียงหน้าหลบเพื่อไปหายใจแกก็คงคิดว่าผมหันหน้าหนีแก เมื่อไม่ได้หน้าแกก็ก้มลงซุกที่ซอกคอผมทันที
เอื๊อก! จั๊กจี้เว้ย
ผมเงยหน้าขึ้นสูงก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพราะผมรู้สึกว่าผมหายใจไม่ทั่วท้องเหมือนตับไตไส้พุงผมมันปั่นรวมกัน หัวใจเต้นระรัวเร็วจนเหมือนจะทะลุออกมาเต้นแทงโก้โชว์ไอ้พี่ลัน ผมอยากจะบอกให้แกหยุดแต่เสียงของผมมันหายลงไปในลำคอทุกครั้งที่พยายามจะพูด
ความรู้สึกเสียววาบมันแล่นผ่านสันหลังขึ้นไปที่ท้ายทอยก่อนขนจะลุกซู่ ยิ่งถูกมือเย็นๆ
ล้วงเข้ามาในเสื้อผมยิ่งเสียววาบๆ จนร่างกายสั่นเทิ้ม อิพี่...มึงหยุดเถอะ!
“ทำ...ได้ไหม?”
ไอ้พี่ลันผละหน้าออกจากคอผมก่อนจะถามด้วยเสียงที่ฟังดูแล้วแทบละลายลงไปกองแทบเท้า
ดวงตาพราวระยับวิ้งวับสบตาผมเหมือนจะอ้อนจนผมเกือบจะพยักหน้าตกลงแต่โชคดีที่ผมยังมีสติสตางค์จึงส่ายหน้าปฏิเสธไป
พี่ลันรั้งเอวของผมเข้าหาตัวเหมือนไม่พอใจในคำตอบ
ลำแขนแกร่งกดร่างผมเสมือนจะให้จมหายเข้าไปในร่างของตัวเองจนผมขยับไปไหนไม่ได้ ปล่อยเถอะ!
ถ้าอารมณ์กูขึ้นแล้วมันจะไม่ดี นะพี่นะ T^T ขอร้องเถอะ กูไม่อยากอับอายต่อหน้ามึงนะพี่
“พี่ลัน ปล่อยเถอะครับ” ผมทุบอกพี่ลันเบาๆ
เพื่อให้แกปล่อยผมแต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุยิ่งบอกให้ปล่อยพี่แกก็ยิ่งกดเอวผมเข้าหาตัวเองมากขึ้น
“นายยั่วฉันเหรอ?” หา!?! กูไปยั่วมึงตอนไหนครับพี่!! ที่กูทุบเบาๆ ก็เพราะไม่อยากให้มึงจุก นี่กูสงสารมึงนะครับ!!
“พี่ลัน!
เราไม่ควรทำอะไรแบบนี้นะครับ
มันไม่ถูกต้อง
เราเป็นผู้ชายทั้งคู่อีกอย่างที่นี่ก็เป็นมหาวิทยาลัย มันผิด!” พอนึกถึงเรื่องศีลธรรมผมก็ปัดความเขินออกไปพลางพูดอย่างจริงจัง
“แต่เราก็เคยมีอะไรกันมาแล้ว”
พี่ลันขมวดคิ้วนิดๆ เนื่องจากไม่พอใจที่ผมขัดขืน
“นั่นเพราะเราไม่รู้ตัว ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก”
ผมขมวดคิ้วบ้างก่อนจะเบนสายตาหลบตาพี่ลัน
“มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ผมไม่รู้”
ก็คนมันเมาไม่ได้สตินี่หว่าแล้วจะเอาเวลาไหนไปเพลิดเพลินกับรสสวาทของมึงกันล่ะครับ? กูจำไม่ได้หรอกว่ามันรู้สึกอย่างไร
“งั้น...ถ้าแค่จูบล่ะ?”
ไอ้พี่ลันก้มหน้าลงมาผมจึงเอนตัวไปข้างหลังเพื่อหลบ
“ถ้านายจูบฉันก่อนล่ะก็ฉันจะไม่ทำอะไรนายก็ได้” ไอ้พี่ลันต่อรอง นี่พี่แกไปมีอารมณ์มาจากไหนวะ!?!
“พี่ลัน...จะอะไรมันก็ไม่ถูกทั้งนั้นแหละ”
ผมเบ้หน้า
ตอนนี้ผมเริ่มจูบเป็นแล้วก็จริงแต่ส่วนมากผมเป็นผู้ตาม จะให้ไปจูบใครก่อนผมทำไม่ได้หรอก อีกอย่าง...ผมก็ไม่ได้อยากจูบกับพี่ลันขนาดนั้นเสียหน่อย ที่ทำทุกครั้งเพราะบรรยากาศมันพาไปต่างหาก
“ถ้าอย่างนั้น...”
ไอ้พี่ลันทำเสียงเจ้าเล่ห์ก่อนจะเลื่อนมือที่ตะปบเอวผมอยู่ลงต่ำไปเรื่อยๆ
แต่ก่อนที่มือแกจะสัมผัสกับบั้นท้ายของผมผมก็รีบเขย่งเท้าขึ้นจุ๊บที่ปากแกเบาๆ
ทันที
ขืนให้แกยุ่งกับประตูเมืองผมอีกล่ะก็อีกนานกว่ามันจะหายบวม ตอนนี้ก็ยังไม่หายเจ็บเลยเนี่ย
“พอใจหรือยัง?” ผมถามอย่างไม่พอใจ
“โอเค วันนี้ปล่อยไปก่อนก็ได้”
พี่ลันคลายอ้อมแขนที่รัดเอวผมออกก่อนที่ผมจะรีบพุ่งตัวหลบรัศมีวงแขนไอ้พี่ลันอย่างรวดเร็ว โฮ่! โล่งอกหน่อย
ตับไตไส้พุงผมกลับมาประจำตำแหน่งไม่ปั่นรวมกันเหมือนเมื่อกี้แล้วล่ะครับแต่หัวใจก็ยังเต้นแรงไม่หยุดเลย
“พี่เป็นเกย์เหรอ?”
ผมถามก่อนจะทำหน้าแหยงๆ
“เปล่านี่
แค่คาใจเรื่องความรู้สึกตอนมีอะไรกับนายก็เท่านั้น” ไอ้พี่ลันตอบหน้าตาเฉย
“หมายความว่า...” ผมอ้าปากค้าง
“ใช่
ถ้ายังไม่ได้พิสูจน์ความรู้สึกนั้นนายก็ไปไหนไม่ได้
ถ้าไม่อยากให้เรื่องนี้มันยืดเยื้อก็รีบเตรียมตัวเตรียมใจเข้าล่ะ ฮึๆ”
ไอ้พี่ลันยิ้มที่มุมปากก่อนจะเดินไปหยิบเป้าล่อตีนมาถือไว้ในมือ
นี่พี่ยังมีอารมณ์จะให้ผมซ้อมกับพี่อยู่อีกเหรอ? พระเจ้า!! นายคนนี้เปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วยิ่งกว่าจิ้งจกเปลี่ยนสีซะอีก!
“ผมกลับแล้ว!”
ผมทำหน้าอยากร้องไห้ก่อนจะเดินกระแทกเท้าออกจากโรงยิม จะให้ผมฝึกกับคนที่คิดจะปล้ำผมเนี่ยนะ ไม่มีทางซะล่ะ
ไอ้พี่ลัน...ไอ้ตัวอันตราย ไอ้เราก็นึกว่าจะเป็นคนเงียบขรึมทั้งอารมณ์ที่แสดงออกมาและอารมณ์ทางเพศ ที่ไหนได้!
อารมณ์ใต้ร่มผ้าของแกไม่ได้ขรึมเหมือนนิสัยเลย!!
ต่อไปนี้ผมจะไม่หลงกลไปไหนมาไหนกับไอ้พี่ลันสองต่อสองอีกแน่นอนเพราะถ้าผมพลาดผมอาจจะเข้าไปนอนแก้ผ้าในห้องแกแบบไม่รู้ตัวก็ได้
“ให้ไปส่งไหม?” ไอ้พี่ลันตะโกนถาม
“ไม่ต้อง!”
ผมหันไปตะโกนใส่แกก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีอย่างรวดเร็ว
ยอมเสียเงินค่ารถเมล์ดีกว่าเสียตัวให้ผู้ชายล่ะวะ!!
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ฮัลโหยววววว แอบมาอัพก่อนไปสอบจ้า ฮุๆๆ
ตอนนี้แอบเซอร์วิสเบาๆ เพราะตอนหน้ามีดาราม่าอ่ะ!! O_o
มีคำผิดบอกเค้าด้วยนะ พลีสๆๆ
ตัวอย่างตอนต่อไป...
อิพี่ลันนึกสนุกอยากแกล้งน้องไอที่น่ารัก(?)เลยทำให้น้องมันงอนแดก!!
มีเพื่อนใหม่ในกลุ่มน้องไอโผล่เพิ่มมาหนึ่งหนุ่ม เป็นหนุ่มซื่อๆ (แต่เมะ) ที่ไม่มีเพื่อนเพราะเวลาพูดมักหลุดสำเนียงบ้านเกิด!
แล้วอิพี่ลันจะง้อน้องไหมนะ? นิสัยอย่างพี่มันจะง้อน้องเป็นหรือไม่? แล้วน้องจะยอมให้ไอ้พี่ลันมันอะจะป่ะจึ๊หรือเปล่า!?!
สปอยล์เยอะไปไม่ดี ฮี่ๆ บ๊ายบายนะจ๊ะรีดเดอร์ที่น่ารัก เดี๋ยวสอบเสร็จเค้ามาลงให้อ่านอีกนะ เม้นเยอะๆ นะที่รัก จุ๊บๆ
ความคิดเห็น