ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ซวยฉิบหาย! ผมกลายเป็นเมียเขา [จบจ้า]

    ลำดับตอนที่ #6 : Rule 5 : รักน้องต้องสอนจุ๊บ

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 61


    15/02/13

    Rule 5 : รักน้องต้องสอนจุ๊บ

    วันนี้ซว1ยสุดๆ เลยครับเมื่อพวกเราต้องมานั่งดื่มเหล้ากับพี่ประธานปกครอง  มันจะไม่ซวยหรอกถ้าไอ้พวกพี่ลันไม่ดันไปสนิทชิดเชื้อกับพวกพี่เขาพวกผมก็เลยถูกบังคับให้ไปนั่งร่วมโต๊ะกับเหล่าพี่บิ๊กคุมคณะเดือดร้อนถึงพี่เทคของผมกับพี่เทคของไอ้เมฆด้วยเลย  และที่มานั่งกินเหล้าอยู่ที่นี่ไม่ได้มีแต่วิศวกรรมโยธานะครับ  มันเล่นมาเกือบทั้งคณะวิศวกรรมศาสตร์เลยทีเดียว

                “กินเข้าไปให้หมดแก้ว เร็วๆ!” ไอ้พี่ประธานนามว่าลุกซ์ขมวดคิ้วสั่งก่อนจะกระดิกเท้าที่วางพาดไว้บนโต๊ะเพื่อเร่งให้พวกผมดื่มเหล้าให้หมดแก้ว  วันนี้กูก็คงถูกมอมเหล้าอีกตามเคย  พี่ประธานปกครองเนี่ยเรียนสาขาเครื่องกลครับ

                “ไอ อยากกลับแล้วว่ะ” ไอ้เมฆที่รู้สึกกดดันจนอยากจะร้องไห้กระซิบกับผมเบาๆ

                “อดทนหน่อย” ผมกระซิบคืน

                “ตรงนั้นน่ะนินทาผมเหรอ? ยืนขึ้น!!” ไอ้พี่ลุกซ์ตะคอกพลางชี้หน้าพวกผม  แม่ง  กระซิบกันก็ไม่ได้  ดุกว่าไอ้พี่ลันอีกนะเนี่ย “ผมบอกให้ยืน!!” สิ้นคำสั่งผมกับไอ้เมฆก็รีบลุกขึ้นยืนตัวตรงทันที “จูบกันให้ผมดู!!” เหี้ย!! สั่งอะไรวะเนี่ย  นี่คือบทลงโทษหรือ  ผมกับไอ้เมฆยืนอึกอักเลิ่กลั่กไม่กล้าขยับตัว  กลัวเหลือเกิน

                “นี่น้อง เขาสั่งอะไรก็ต้องทำ” ไอ้พี่ปีสี่ที่เป็นเพื่อนพี่ลุกซ์บอกพลางยกยิ้มที่มุมปาก  อะ...ไอ้พวกวิปริต  โรคจิตหรือเปล่าวะเนี่ย!?!

                “ผมบอกให้พวกคุณจูบกัน  เดี๋ยวนี้!!” ไอ้พี่ลุกซ์ตะเบ็งเสียงดังจนพวกผมสะดุ้ง  ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะกลัวว่าหากไม่ทำตามพวกผมอาจจะถูกยำก็ได้  ขนาดผมยังกลัวขนาดนี้แล้วไอ้ทึ่มบวกป๊อดอย่างไอ้เมฆจะกลัวแค่ไหน

                เอ่อ...ไม่ต้องคิดให้มากแล้วล่ะครับว่าไอ้เมฆมันกลัวแค่ไหน  มันคงกลัวมากแหละครับ  ปาดน้ำตาป้อยๆ เชียว

                “ร้องไห้ทำไม? ญาติเสียเหรอครับ?” ไอ้พี่ลุกซ์กระดิกเท้าถามเสียงเข้ม  ไอ้เมฆมันได้ยินก็สะอื้นใหญ่  พวกพี่ลันไม่คิดจะช่วยกันบ้างเลยหรือไงนะ  เอาแต่นั่งกรึ๊บเหล้าไม่สนใจพวกผมเลยซักกะนิด

                “อึ๊ก ไอ กูกลัว ฮือ” ไอ้เมฆส่ายหน้าไปมาก่อนจะโผมากอดผมไว้  ตัวมันสั่นระริกอย่างน่าสงสาร

                “เอ่อ...พี่ครับ  พวกเราขอกลับก่อนได้ไหมครับ” ผมถามเสียงอ่อยพลางทำหน้าตาให้น่าสงสารที่สุด

                “ไม่ได้! บอกมาซิว่าร้องไห้เพราะอะไร!?!” ไอ้พี่ลุกซ์ยังคงตะคอกถาม

                “เมฆ บอกไปเลยว่ากลัวมันน่ะ” ผมกระซิบบอกไอ้เมฆ ไอ้เมฆส่ายหน้าไปมาเหมือนกับว่ามันกำลังกลัวแบบหยุดไม่อยู่พูดอะไรก็ไม่ออก

                “เป็นผู้ชายประสาอะไรวะ!?! ตุ๊ดหรือเปล่า?” ไอ้พี่ลุกซ์โมโหชี้หน้าด่าทอ

                “พี่ครับ! ถ้ายอมให้เพื่อนผมกลับผมยอมให้พี่ทำโทษผมอย่างไรก็ได้  หนักแค่ไหนก็ได้” ผมต่อรอง  สงสารไอ้เมฆมัน  เมื่อเห็นผมพูดออกไปแบบนั้นไอ้เมฆก็เงยหน้ามองผมแล้วก็ส่ายเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องทำแบบนั้น

                “โฮ่!” ไอ้ลุกซ์แสยะยิ้ม

                “โอเคไหมครับ” ผมถามย้ำ  ทำไมกูรู้สึกเสียใจจังวะที่พูดแบบนั้นออกไป  ไอ้ตอนพูดมันก็กล้าอยู่หรอกนะแต่พอเห็นรอยยิ้มแสยะของไอ้พี่ลุกซ์แล้วผมชักอยากจะคืนคำขึ้นมาตงิดๆ

                “น่าสนุกดี  เอางั้นก็ได้” ไอ้พี่ลุกซ์ยอมรับแต่โดยดี  ดูจากสีหน้าและแววตา...กูตายชัวร์ครับคืนนี้

                “เมฆกลับไปก่อน” ผมบอกไอ้เมฆแต่มันกลับไม่ยอมกลับหนำซ้ำยังจับชายเสื้อผมเอาไว้แน่น “เมฆ เราน่ะแข็งแรงนะ” ผมกระซิบบอกมัน  มันเงยหน้ามองผมก่อนที่ผมจะยิ้มให้มัน

                “ไอ ไม่...เราไม่กลับหรอก  โดนก็โดนด้วยกันสิ” ไอ้เมฆมันพูดเสียงสั่น

                “เอ่อ...พี่ขลุ่ยครับ  รบกวนไปส่งไอ้เมฆทีครับ” ผมมองหาคนช่วยดึงไอ้ตัวน่าสงสารออกไปก่อนจะหันไปสบตากับไอ้พี่ขลุ่ยพอดี  แบบว่า...แกส่งสายตาสงสารมาให้อ่ะนะ

                “ไอ เราไม่ไป!” ไอ้เมฆพูดก่อนมือมันจะถูกแกะออกจากชายเสื้อของผมโดยไอ้พี่ขลุ่ย  พี่ขลุ่ยหิ้วไอ้เมฆออกไปทั้งๆ ที่มันยังโวยวายอยู่แต่ถึงจะโวยวายอย่างไรมันก็คงดิ้นจากแขนพี่ขลุ่ยออกมาไม่ได้ง่ายๆ แน่  ผมว่าพี่ขลุ่ยเองก็คงจะคิดเหมือนผมว่าไอ้ป๊อดนั่นไม่เหมาะที่จะถูกแกล้งแรงๆ แบบนี้

                “เชิญครับ” ผมยิ้มรับชะตากรรมที่กำลังจะได้รับ  กูอยากจะบอกเหลือเกินว่ากูยิ้มทั้งน้ำตา(ที่กำลังตกอยู่ในใจ)

                “เอาล่ะ  ในเมื่อเพื่อนชายสุดน่ารักของคุณไปแล้วคุณก็ต้องไปหาจูบคนอื่น  ในร้านนี้...คุณจะเลือกพาใครมาจูบต่อหน้าผมก็ได้  ผมไม่เกี่ยงว่าจะเป็นชายหรือหญิง” ไอ้พี่ลุกซ์แสยะยิ้ม  ไอ้พี่เวรนี่มันโรคจิตหรือเปล่าวะ

                ผมยืนนิ่ง  กูยังไม่รู้จักใครเลยครับแล้วมึงจะให้กูไปลากใครมาจูบครับพี่?  ที่รู้จักและนั่งอยู่ในร้านนี้ก็มีแค่ไอ้พี่ลัน พี่เสือ พี่เปอร์แล้วก็พี่พัด(พี่เทคไอ้เมฆ)เท่านั้น  แล้วคนทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชาย  เคยจูบกับไอ้พี่เสือแล้วก็จริงแต่มันก็แค่ปากแตะปากแล้วผมก็ไม่คิดจะทำมันอีก  ขณะที่ผมเบนสายตาไปมองไอ้พี่ลันหัวใจผมก็สั่นระรัว  ภาพริมฝีปากสีแดงอมส้มของแกที่กำลังเผยอขึ้นรับเหล้าจากแก้วทำให้ผมไม่สามารถละสายตาไปได้  ผมตัดสินใจแล้ว...

                “พี่เตี้ย...” ผมเรียกไอ้พี่ลัน  พวกพี่ๆ ที่นั่งร่วมโต๊ะตกใจที่ผมเรียกพี่ลันแม้กระทั่งไอ้พี่ลุกซ์เองก็ยังหันไปมองพี่ลันอย่างตกใจเช่นกัน  แล้วมึงจะตกใจทำไมครับ  ขนาดเจ้าตัวเขายังไม่ตกใจเลยครับ

                ไอ้พี่ลันหันกลับมามองผมด้วยสายตาแขยงนิดๆ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ และกวักมือเรียกผมไปนั่งข้างๆ  ผมเดินไปนั่งข้างพี่ลันก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

                “พี่เตี้ย...ขอยืมหญิงในสต็อกพี่ซักคนสิ” รู้สึกเหมือนได้ยินเสียง แป่ว!! ดังในใจของหลายๆ คนครับ  ปากไอ้พี่ลันมันน่าจูบก็จริงแต่ถึงอย่างไรพี่มันก็เป็นผู้ชาย  กูจูบไม่ลงหรอกครับ

                “เฮ้อ” ไอ้พี่ลันถอนหายไปก่อนจะหรี่ตามองผมด้วยแววตาสมเพช  กูขอโทษครับที่กูไม่มีหญิงในสต็อกก็เลยต้องไปยืมหญิงมึง  กูผิดเองที่เกิดมาไม่หล่อสาวตรึมเหมือนมึง  โด่!!

                “นะพี่นะ” ผมเขย่าแขนพี่ลันอย่างอ้อนวอน  ไอ้พี่ลันปัดมือผมที่จับแขนมันออกอย่างไม่หยี่หระ  ผมเบือนหน้าหนีก่อนจะลุกขึ้นยืนหวังจะไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเพราะดูเหมือนไอ้พี่ลันมันจะหวงหญิงของมัน  ดูพี่มันทำกับผมสิครับ...นอกจากจะไม่ช่วยแล้วยังเมินอีก  แล้วมึงเรียกกูไปนั่งด้วยทำไมวะ!?!

                ตุบ! ผมเหลือบตาไปมองไอ้พี่ลันที่วางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะอย่างตัดพ้อ  มันก็น่าจะรู้ว่าผมรู้จักคนไม่มากทำไมไม่ช่วยหน่อยวะ  แค่มันออกปากเรียกสาวๆ มาพวกสาวๆ ก็ขี้คร้านแทบจะบึ่งมาหา  เฮ้อ  หรือกูจะไปขอจูบกับไอ้พี่เสือเลยดีวะ...?

                หมับ!

                ตุบ!

                อุ๊บ!!

                ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อข้อมือของผมถูกกระชากก่อนร่างของผมจะปลิวไปนั่งบนตักของไอ้คนที่กระชาก  มือที่จับข้อมือของผมถูกปล่อยก่อนมือนั้นจะจับหน้าผมกดไปหาหน้าตัวเอง  สุดท้าย...ปากผมก็ถูกประกบ!

                เสียงฮือดังขึ้นขณะที่ริมฝีปากบนของผมถูกงับและถูกดูดเบาๆ  ทำได้แค่นั้นเราก็ผละออกจากกันแต่ผมยังนั่งอึ้งอยู่บนตักของไอ้พี่ลันอยู่  แขนของผมพาดอยู่ที่คอของไอ้พี่ลันตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้ผมรู้สึกไร้เรี่ยวแรงที่จะเคลื่อนตัวออกจากตักของพี่ลัน  ตาของผมยังคงเบิกกว้างมองใบหน้าตั้งตรงของพี่ลันที่กำลังมองตรงไปที่พี่ลุกซ์

                “พอใจหรือยัง?” เสียงไอ้พี่ลันดังขึ้น  คงจะพูดกับไอ้พี่ลุกซ์ล่ะมั้ง  แต่ไอ้พี่ลันนี่กล้าเนาะ  พูดห้วนๆ กับประธานปกครองได้อย่างไร  แกไม่กลัวถูกสั่งทำโทษบ้างเหรอ

                “ยัง  ให้มันดูดดื่มหน่อย  แค่นั้นมันไม่พอให้เรียกว่าจูบหรอกนะ” ไอ้พี่ลุกซ์พูด  พี่ลันเบนหน้ามามองผม  พนันได้เลยว่าตอนนี้หน้าผมต้องแดงแน่ๆ เพราะผมรู้สึกหน้าร้อนเหมือนมีใครเอาไฟมาลนอย่างไรอย่างนั้น  และยิ่งได้สบตาไอ้พี่ลันในระยะประชิดแบบนี้ผมยิ่งหายใจไม่ออก  จังหวะหัวใจเต้นมั่วไปหมด

                “เด็กคนนี้จูบไม่เป็น” พี่ลันจ้องตากับผมพักหนึ่งก่อนจะเบนสายตาไปมองพี่ลุกซ์  ตอนนี้ผมไม่สามารถขยับสายตาผมได้เลยเหมือนถูกสะกดให้ตามันค้างอยู่อย่างนั้น  นี่ผมเป็นอะไรไปเนี่ย  อยากจะลุกออกจากตักพี่ลันแต่แข้งขาอ่อนยวบยาบไปหมดจนลุกไม่ได้  ใครก็ได้มาลากผมออกไปที

                “รู้ได้ไง?” ไอ้พี่ลุกซ์ถาม

                “ก็ดูจากเมื่อกี้ก็รู้” ไอ้พี่ลันตอบ

                “งั้นสอน” ไอ้พี่ลุกซ์สั่ง

                “ทำไมกูต้องทำ” ไอ้พี่ลันขัด  กูเลยเร้อไอ้พี่ลั้น!(เพื่อเสียงครับผม)

                “กูสั่งให้ทำอะไรมึงก็ต้องทำ  กูสั่งในฐานะรุ่นพี่” ไอ้พี่ลุกซ์พูด  ทำไมต้องบอกด้วยวะว่าสั่งในฐานะรุ่นพี่  พวกพี่มีฐานะอื่นที่ไม่ใช่รุ่นพี่กับรุ่นน้องด้วยเหรอวะ

                ไอ้พี่ลันเบนสายตามองมาที่ตาของผมอีกครั้งก่อนมือเย็นๆ ของพี่แกจะประคองที่หน้าของผม  ผมตกใจเอามือรั้งอกพี่แกเอาไว้  ป้าด  อกแน่นมากพี่ (อิจฉา)  ผมหมุนหน้าหนีจากการประคองของมือแกอย่างตกใจ  เมื่อกี้ถ้าผมฟังไม่ผิดไอ้พี่ลุกซ์สั่งให้ไอ้พี่ลันสอนผมจูบเนี่ยนะ  กูจะบ้าตาย

                “ถ้าไม่ทำอาจจะโดนหนักกว่านี้” ไอ้พี่ลันพูดเสียงเบาเมื่อเห็นผมต่อต้าน

                “ฮื่อ” ผมส่ายหน้าไปมา  ถามว่าอยากจูบกับพี่ลันไหมผมตอบไม่ได้จริงๆ  จะว่าอยากก็ไม่ใช่ไม่อยากก็ไม่เชิง

                ไอ้พี่ลันขึงตาดุมองผมเป็นเชิงบอกว่าถึงผมไม่อยากทำก็ต้องทำ “อ้าปาก” ไอ้พี่ลันสั่ง  ผมกัดริมฝีปากอยู่พักหนึ่งก่อนจะค่อยๆ อ้าปาก  ไอ้พี่ลันขมวดคิ้วถอนหายใจพลางทำหน้าเซ็งๆ อะไรวะ  บอกให้อ้าก็อ้าแล้วไง  อ้ากว้างๆ เลยด้วย “ไม่เซ็กซี่เลยว่ะ” ไอ้พี่ลันบ่นเสียงเบาที่คงจะมีแค่ผมเท่านั้นที่ได้ยิน

                “ก็พี่บอกให้อ้าปากนี่” ผมพูดเสียงเบาเช่นกัน

                พี่ลันช้อนสายตามองผมก่อนจะบีบแก้มผมเบาๆ พอให้ปากผมเผยอขึ้น “แค่นี้ก็พอ  ต่อไปก็ทำตามแล้วกัน  ถ้าหายใจไม่ออกก็บอก” พี่ลันพูดก่อนจะดึงคางผมเข้าไปหา  เพราะว่าผมนั่งอยู่บนตักไอ้พี่ลันตำแหน่งหน้าของผมก็เลยสูงกว่าพี่แก

                ริมฝีปากของผมถูกกดลงก่อนจะถูกดูดเบาๆ  ผมกลัวตัวเองจะเคลิ้มจึงเม้มริมฝีปากไว้  เมื่อเห็นว่าผมไม่ตอบรับไอ้พี่ลันก็บีบคางผมจนปากผมเผยอขึ้นอีกครั้ง  พี่ลันค่อยๆ จุมพิตตั้งแต่มุมปากจนมาถึงรอยหยักของริมฝีปาก  แกงับริมฝีปากของผมเหมือนกำลังค่อยๆ ละเลียดกินอมยิ้ม  ตอนนี้ผมขนลุกจนต้องดันพี่แกออก

                “พี่เตี้ย ผมกลัว” ผมพูดเสียงเบาเพราะตอนนี้ริมฝีปากของผมกับของไอ้พี่ลันห่างกันแค่นิดเดียว

                “กลัวอะไร?” พี่ลันถามเสียงเบา  ทำไมมันฟังดูเซ็กซี่จังวะ หรือผมคิดไปเอง

                “ไม่รู้ ผมรู้สึกแปลกๆ” ผมขมวดคิ้วก้มหน้าลง

                “ถ้ามัวแต่อิดออดล่ะก็นายได้จูบฉันยันเช้าแน่  ถ้าอยากให้เสร็จเร็วๆ ก็อย่าดิ้น” ไอ้พี่ลันพูดก่อนจะดันคางผมขึ้นและกดริมฝีปากลงมาอีกครั้ง “ถ้าฉันทำอะไร นายต้องทำตาม” พี่ลันถอนริมฝีปากก่อนจะพูดเสียงเบา  ผมพยักหน้า

                พี่ลันเอียงหน้าก่อนจะจูบลงที่ปากของผม  เมื่อรับรู้ถึงแรงดูดผมก็ทำคืนบ้างซึ่งดูเหมือนไอ้พี่ลันจะพอใจเพราะพี่แกเริ่มรุกเข้ามาจนผมตามไม่ทัน  พี่ลันค่อยๆ แทรกลิ้นเข้ามาเล่นกับลิ้นผมเล็กน้อยก่อนจะโหมหนักจนผมหายใจไม่ทัน  ผมหลับตาปี๋ขยำไหล่พี่ลันอย่างทรมานแต่หลังจากนั้นพี่ลันก็ค่อยๆ พาผมผ่อนลมหายใจ  ทำไมกันนะ...ผมรู้สึกคุ้นเคยกับริมฝีปากพี่ลันมาก  เหมือนกับเคยสัมผัสมาก่อน

                ผมเริ่มชินกับสัมผัสอันหนักหน่วงแล้วจึงจูบตอบไป  มือผมที่วางพาดไหล่พี่ลันค่อยๆ เลื่อนไปโอบรอบคอให้แน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว  มันไปเองครับ สถานการณ์มันพาไป

                “อือ พี่ลัน อื้ม...” ผมครางละเหี่ยเพราะความรู้สึกดี  ไอ้พี่ลันจูบเก่งมากเล่นซะผมเคลิ้มเลยครับ  ที่ผมเรียกชื่อพี่แกก็เพราะจะบอกให้พอเพราะผมเคลิ้มจนรู้สึกเกินเลยไปแล้วครับ  อยากไปห้องน้ำจังเลย(อายจัง)

                พี่ลันไม่ฟังเสียงเรียกของผมเอาแต่รุกจูบจนความรู้สึกผมแตกซ่าน  สงบหน่อยสิลูกสงบหน่อย  ถ้าแกตื่นขึ้นมาตอนนี้พ่ออาจจะไม่ได้คุยกับไอ้พี่ลันอีกเลยก็ได้นะเว้ย  ให้ตายเถอะ...แค่จูบทำให้เป็นถึงขนาดนี้เลยหรือวะ 

    สมัยผมยังมีแฟนผมทำได้แค่หอมแก้มเองครับแต่พอจะพัฒนาไปเป็นอื่นผมก็ต้องเร่งอ่านหนังสือเลยไม่มีเวลาไปกระหนุงกระหนิงเลยถูกบอกเลิก  ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากทำนะ  อยากแทบขาดใจแต่มันไม่มีเวลานี่หว่า  กับแฟนคนก่อนๆ ผมยังไม่กล้าทำเพราะแฟนที่ผมคบส่วนมากมีแต่คนอายุอ่อนกว่า ผมก็แค่ไม่อยากทำลายอนาคตน้องเขาเท่านั้นเอง

    “พอไหม?” ไอ้พี่ลันถอนจูบก่อนจะเงยหน้าถาม  ผมหลับหูหลับตาพยักหน้า  กูอยากพอตั้งนานแล้วครับมันรู้สึกดีเกินไปจนกลัวว่าจะไม่อยากหยุดเพราะฉะนั้นหยุดตั้งแต่ตอนนี้เป็นดีที่สุด

    “พี่เตี้ย เอาผมลงจากตัวพี่ที  ผมขยับไม่ได้” ผมเบ้หน้าอยากร้องไห้  ก็ผมอายนี่ครับที่ระทวยจนไปไหนไม่ได้

    ไอ้พี่ลันกอดเอวผมก่อนจะอุ้มลงไปนั่งข้างๆ  ผมผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆ เป็นจังหวะเพื่อปรับสภาพการเต้นของหัวใจให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง  เมื่อกี้ผมเพิ่งจูบปากแลกลิ้นกับไอ้พี่ลันอย่างดุเดือดเลยสินะ  ให้ตายสิ  ชาตินี้กูจะได้จูบแต่ผู้ชายเลยหรือไงวะ  แต่มันก็ไม่ได้แย่ไปซะทีเดียว  โชคดีชะมัดที่ไอ้พี่ลันมันหยุดก่อนที่ลูกชายผมจะตื่นอย่างเต็มภาคภูมิ >///<

    “กูไม่คิดว่ามึงจะกล้าทำขนาดนี้นะลัน” ไอ้พี่ลุกซ์ยิ้มที่มุมปากก่อนจะพูด  ไอ้พี่ลันช้อนสายตาดุๆ มองไอ้พี่ลุกซ์อย่างไม่ชอบใจ  เฮ้ย! ไอ้พี่ลันกล้าทำขนาดนี้เลยเหรอ  ไม่กลัวถูกสั่งให้ไปจูบปากหมาขี้เรื้อนหรือวะ

    “หมาตัวไหนสั่งให้กูทำวะ” เอิ๊ก!! คำพูดของไอ้พี่ลันนับประโยคยิ่งทำให้หัวใจผมจะวาย  พี่เล่นของสูงอยู่นะพี่  ไม่กลัวตายหรือครับ  ไอ้ที่พี่กำลังพูดด้วยมันประธานปกครองเลยนะพี่!!

    “ฮะๆๆ สนุกว่ะ  ดีๆ จริงๆ ที่ไอ้เด็กนี่รู้จักกับมึง ฮึๆ สะใจชะมัด” ไอ้พี่ลุกซ์หัวเราะอย่างชอบใจ  มึงชอบแต่กูอายครับพี่  ผมเพิ่งรู้สึกตัวครับว่าตอนนี้สายตาคนในโต๊ะมองผมแบบแปลกๆ แม้กระทั่งไอ้พี่เสือกับไอ้พี่เปอร์

    “ถ้าจะแกล้งกูก็อย่าเอาคนอื่นเข้ามาเกี่ยวดิ วิปริต!” เห็นด้วยครับพี่ลัน ผมเห็นด้วยอย่างแรง!

    “ช่างกู” ไอ้พี่ลุกซ์ยักไหล่อย่างไม่หยี่หระ  กูเกลียดมึงจริงๆ ไอ้พี่ลุกซ์  มึงทำให้กูตื่นเพราะผู้ชาย ไอ้เวรเอ๊ย!! “เอ้า! ไอ้เด็กใจกล้า  กินเหล้าๆ” ไอ้พี่ลุกซ์ละสายตาจากไอ้พี่ลันก่อนจะยื่นแก้วเหล้าให้ผม  แหม...เป็นเกียรติต่อวงศ์ตระกูลเหลือเกินที่พี่ประธานปกครองชงเหล้าให้!

    “ขอบคุณครับ” ผมพยักหน้าก่อนจะหยิบแก้วเหล้ามาอย่างสงบเสงี่ยม

    ฟึ่บ! ขณะที่ผมกำลังจะซดเหล้า แก้วเหล้าก็ถูกแย่งไปเสียก่อน  ผมหันไปมองไอ้พี่ลันอย่างงงๆ  แกทำหน้าไม่พอใจก่อนจะเทเหล้าทิ้งอย่างไม่เสียดาย  เฮ้ย!! นั่นมันเหล้าที่ไอ้พี่ลุกซ์ชงให้นะเว้ย กล้าเทได้ไงวะไม่กลัวถูกสั่งประหารเหรอพี่!?!

    “หมอนี่เมาแล้วทำตัวอุบาทว์” ไอ้พี่ลันพูดนิ่งๆ ก่อนจะหันไปซดเหล้าในแก้วของตัวเอง

    “ที่กูมาด้วยก็เพราะอยากเห็นความอุบาทว์ของรุ่นน้องเพราะฉะนั้นมึงอย่าห้ามแล้วชงเหล้าให้มันใหม่ด้วย” ไอ้พี่ลุกซ์ชี้หน้าไอ้พี่ลัน  แปลกจริงๆ ครับ ไอ้พี่ลุกซ์โหดๆ คนนี้ทำไมถึงไม่โกรธที่ไอ้พี่ลันจองหองใส่วะ

    “มึงสั่งกูเหรอ?” ไอ้พี่ลันถาม

    “กูเป็นรุ่นพี่มึง!” พอไอ้พี่ลุกซ์พูดอย่างนั้นไอ้พี่ลันก็ยอมอีกตามเคย  ไอ้พี่สองคนนี้มันมีซัมติงอะไรกันหรือเปล่าวะ

    ไอ้พี่ลันขมวดคิ้วไม่พอใจก่อนจะชงเหล้าให้ผม  คราวนี้มันเติมน้ำเยอะหน่อย  สงสัยผมตอนเมาจะทำตัวอุบาทว์จริงๆ แฮะ  น่าอายจัง

    “เอาเข้มๆ ดิวะ” ไอ้พี่ลุกซ์สั่งเสียงดังไอ้พี่ลันจึงต้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ส่วนผมก็ต้องกระเดือกมันอย่างช่วยไม่ได้  แต่วันนี้ผมไม่เมาแม้จะดื่มไปหลายแก้วแล้วก็ตาม  ก็วันนี้ไม่มีใครแกล้งให้ผมดื่มเหล้าเพียวๆ นี่ครับ  รับรองว่าวันนี้ผมต้องกลับไปแบบมีสติ(เกือบ)ครบ 100% แน่ๆ

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    สารภาพตามตรงว่าแต่งไปแต่งมาไรเตอร์เกือบเปลี่ยนคู่ จาก พี่ขลุ่ยกับน้องเมฆ เป็น พี่ลุกซ์กับน้องเมฆซะแล้วแต่กลัวจะทำร้ายรีดเดอร์เกินไปไรเตอร์ก็เลยหาคู่ให้ไอ้พี่ลุกซ์สุดโหดใหม่ซะเลย  จะเป็นใครน้า ฮุๆ (เดาได้ไหม?)
    ส่วนไอ้พี่ลุกซ์คนนี้เป็นอะไรกับพี่ลันรีดเดอร์คงจะเดาออก ฮ่าๆ

    เมื่อวานที่ไม่ได้มาอัพก็เพราะไรเตอร์ไปสอบมาค่ะ T^T ข้อสอบไม่ได้ยากแต่ไรเตอร์ก็ทำไม่ได้! 
    ช่วงนี้เดินสายสอบหลายจังหวัดจริงๆ ค่ะ T^T  ยิ่งเดือนหน้าไรเตอร์อาจจะไม่ได้อัพบ่อยๆ ก็ได้ค่ะเพราะสอบเยอะมาก
    เอาเป็นว่าถ้าไม่มีเวลามาอัพก็อย่าทิ้งกันไปนะจ๊ะ  จุ๊บบบบ


     

    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×