คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Bleach:My lovely boss 2 (Renji x Byakuya)
“เจ้าช่วยอยู่นิ่งๆ ได้มั้ยข้าเวียนหัว” ลูเคียเบ้หน้า
“เอ้อ ว่าแต่เจ้าเถอะทำไมถึงได้สะบักสะบอมอย่างนี้ล่ะแกด้วยอิจิโกะไปทำอะไรมา?” เร็นจิถามอย่างนึกขึ้นได้พลางสำรวจรอบๆ ตัวลูเคียกับอิจิโกะที่มีแต่บาดแผล
“เปล๊า ไม่มีอะไรสำคัญหรอกน่า ห่วงตัวแกเองเถอะจะถูกเจ้าคุจิกิ เบียคุยะฆ่าอยู่รอมร่อ” อิจิโกะพยายามเบี่ยงประเด็น
“นั่นน่ะสิ หัวหน้าต้องไม่พอใจข้าแน่ๆ เลย” เร็นจิกลับมาครวญครางเรื่องของตัวเองต่อ
“แกตายแน่ๆ” อิจิโกะซ้ำเติมอย่างสะใจ
“อิจิโกะ” ลูเคียมองอิจิโกะอย่างปรามๆ เมื่อเห็นเพื่อนสนิททำท่าจะร้องไห้อยู่แล้ว
“กลับไปที่โซลโซไซตี้เถอะเร็นจิ ไปหาท่านพี่ ข้าว่าท่านพี่ไม่ว่าอะไรเจ้าหรอกน่า” ลูเคียตบไหล่เร็นจิอย่างให้กำลังใจ
“นั่นสิ...คนอุตส่าห์ช่วยแล้วแท้ๆ” อิจิโกะบ่นงึมงำ
“แกว่ายังไงนะ?” เร็นจิถามอย่างสงสัยกับคำบ่นของอิจิโกะ
“เปล่าๆ ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรนี่” อิจิโกะทำท่านอนสบายใจเฉิบกลบเกลื่อนเหงื่อแห่งความพิรุธที่ไหลอาบหน้า
“เอ้อ พูดถึงโซลโซไซตี้...เจ้ารู้ข่าวมั้ยว่ามีพวกเรียวกะบุกไปที่นั่นและนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ข้ามานั่งกลุ้มอยู่เนี่ย ถ้าจับตัวได้นะข้าจะเชือดมันกับมือของข้าเอง” พอจบคำนี้ร่างของอิจิโกะก็กลิ้งตกเตียงทันทีส่วนลูเคียก็นั่งแข็งทื่อเหงื่อกาฬผุดขึ้นเต็มใบหน้า
“เจ้าเป็นอะไรอิจิโกะ” เร็นจิถามร่างที่นอนกองกับพื้น
“มันลื่นๆ” อิจิโกะยิ้มแห้งๆก่อนจะค่อยๆ คลานกลับขึ้นไปนอนบนเตียงเหมือนเดิม
“งั้นข้าไปก่อนนะเดี๋ยวหัวหน้าจะยิ่งเคืองมากกว่าเดิม” เร็นจิบอกลาแล้วจากไปปล่อยให้สองคนนี้ถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะเร็นจิไม่สังเกตเห็นความพิรุธ
“มัตสึโมโต้ เป็นไงบ้างจับพวกเรียวกะได้มั้ย?” เร็นจิถามเมื่อเดินมาเจอกับรองหัวหน้าหน่วยมัตสึโมโตะพอดี
“ไม่ จู่ๆ พวกมันก็หายเงียบไปไม่ได้เบาะแสอะไรเลย” มัตสึโมโตะขมวดคิ้ว
“งืม...ถ้าเจ้าจับมันได้บอกข้าด้วย ข้าอยากเชือดมัน” เร็นจิทำหน้าตาอาฆาตแค้น
“เจ้าไปมีความแค้นอะไรกับมันนักหนาฮึ?” มัตสึโมโตะถามอย่างสงสัย
“ช่างเหอะน่าเอาเป็นว่าเจ้าบอกข้าด้วยละกัน” เร็นจิพูดแล้วเดินจากไปแต่ไปได้ไม่ไกลเค้าก็ต้องชะงักและหน้าขึ้นสีเมื่อเจอกับหัวหน้าคนสำคัญของเค้า
“หะ...หัวหน้า...” ยังไม่ทันได้พูดอะไรชายหนุ่มผมดำก็เดินผ่านไปโดยไม่มองเลยแม้แต่น้อยนั่นทำให้หัวใจเร็นจิแทบแตกสลาย
“อาบาราอิคุง เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ?” ฮินาโมะริที่เดินผ่านมาถามอย่างสงสัยเมื่อเร็นจิทรุดลงไปนั่งกับพื้น หน้าซีดเหมือนคนป่วย
“ไม่...ไม่เป็นไร” เร็นจิตอบเสียงเบา
“แน่นะจ๊ะ?” ฮินาโมริถามเพื่อความแน่ใจ เร็นจิพยักหน้าก่อนจะเดินจากไปทิ้งให้ฮินาโมริยืนงงอยู่คนเดียว
หลายวันผ่านไปสภาพของเร็นจิยิ่งดูเหมือนศพขึ้นเรื่อยๆ จนเพื่อนร่วมงานต้องถอยออกให้ห่าง และทุกๆ วันที่ผ่านมาเบียคุยะก็ช่างเย็นชากับเร็นจิเหลือเกิน เค้าไม่พูดอะไรกับเร็นจิอีกเลยแม้แต่คำเดียว พอเจอหน้าก็จะเดินผ่านไปโดยไม่แม้แต่จะมองเลยด้วยซ้ำ
เร็นจิพาร่างกายที่พร้อมจะกลายร่างเป็นศพได้ทุกเมื่อไปหาลูเคียที่บ้านอิจิโกะอีกครั้ง
“แว้กๆๆ ฮอลโล! อิจิโกะกลายร่างเป็นยมทูตเร็วเข้า!” คอนร้องเสียงหลงแล้วรีบวิ่งไปเกาะอาเจ๊ของมันทันที
“อ้าว...เร็นจิ!” ลูเคียอุทานเมื่อสังเกตดีๆ แล้วว่านั่นคือเพื่อนสนิทของเธอ
“สภาพยังกะศพเดินได้ แกไปทำอะไรมา” อิจิที่กำลังจะเป็นยมทูตหยุดชะงักแล้วหันมาถามตัวต้นเหตุที่ทำให้พวกเค้าตกใจ
“โฮ~ ลูเคีย...หัวหน้า...หัวหน้าไม่คุยกับข้าเลย ทั้งเย็นชาและไม่มองหน้าข้า...ข้าจะตายอยู่แล้วนะ ข้าควรทำอย่างไรดี” เร็นจิงอแงโผเข้ากอดลูเคียจนอิจิโกะต้องกระถีบเค้าออก
“แกทำอะไรของแกน่ะไอ้บ้าเอ๊ย!!” เร็นจิแหกปากเสียงดังหลังจากถูกถีบโครมใหญ่
“ฮึ” อิจิโกะยิ้มเยาะเย้ยร่างศพที่ล้มกลิ้งอยู่กับพื้นก่อนสงครามย่อยๆ จะเกิดขึ้นในห้องของอิจิโกะ
โป๊ก!!
หลังจากสภาพของทั้งสองเริ่มดูไม่ได้ลูเคียก็ได้แจกมะเหงกจนทั้งสองมานั่งเรียบร้อยต่อหน้าลูเคียที่ดูเหมือนผู้มีอิทธิพล
“ทำตัวยังกะเด็ก!@#$%^&&*(*&#@$” แล้วคำเทศนายาวเหยียดก็ออกจากปากลูเคียจนทั้งสองหนุ่มหูชารวมไปถึงคอนที่ได้รับผลกระทบนั้นด้วย
“เฮ้อ~ ข้ามาปรึกษาพวกนี้ไม่ได้เลยจริงๆ” เร็นจิบ่นหลังจากออกจากบ้านของอิจิโกะแล้วมาเดินตากลมอยู่ข้างนอก
“อ้าว...คุณอาบาราอิไม่ใช่เหรอกครับ?” อิชิดะที่เดินอยู่แถวนั้นทักขึ้น เร็นจิที่เดินคอตกอยู่จึงเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มร่างบาง
“อิชิด๊า~” เร็นจิเห็นที่พึ่งใหม่จึงรีบกระโดดเกาะทันที
“ทำอะไรน่ะครับ!?!” อิชิดะตกใจเบิกตากว้าง
“อิชิดะช่วยอะไรข้าหน่อยสิ” เร็นจิขอร้อง
“อะไรนะครับ!?! จะหาของง้อคุณคุจิกิน่ะเหรอครับ?” อิชิดะแทบพ่นน้ำชาที่ตนกำลังดื่มหลังจากเชิญเร็นจิมาที่บ้าน
“อือ...ข้าคิดมากไม่ได้นอนมากว่าห้าวันแล้วเนี่ย หัวหน้าแม้แต่จะมองหน้าข้าด้วยซ้ำ” เร็นจิทำหน้าหงอย
“ผมไม่รู้ซะด้วยสิว่าคุณคุจิกิชอบอะไร อืม...เอางี้ละกัน...” อิชิดะดีดนิ้วดังเป๊าะอย่างคิดขึ้นได้
“หือ?”
“คุณก็เย็บตุ๊กตารูปคุณคุจิกิให้สิครับ ผมว่ามันมีคุณค่าทางจิตใจมากเลยนะครับ” อิชิดะยิ้ม
“บ้าเรอะ!! ข้าทำแบบนั้นเป็นที่ไหนล่ะ” เร็นจิตกใจกับข้อเสนอจนแทบหงายหลัง
“เดี๋ยวผมสอนให้ครับ”
“อะไรเนี่ย?ยังกะตุ๊กตาชัคกี้! แบบนี้ใช้ไม่ได้” อิชิดะบ่นเมื่อสอนเร็นจิเย็บตุ๊กตามาเป็นเวลาเกือบหนึ่งวันเต็มและตุ๊กตาที่เร็นจิเย็บมาหลายตัวนั้นก็เป็นผีดิบแทบทุกตัว
“ข้าทำไม่ได้หรอก” เร็นจิทำหน้าเศร้า ถึงจะอย่างนั้นแต่เค้าก็ถูกอิชิดะเคี่ยวเข็ญอีกจนกระทั่งได้ตุ๊กตาที่ดูดีขึ้นหน่อยมา
“อย่างนี้คงพอมองออกว่าเป็นคุณคุจิกิอยู่หรอกนะครับ” อิชิดะยกตุ๊กตาขึ้นมาพิจารณา
เร็นจิแอบย่องเข้าไปในห้องทำงานของเบียคุยะเมื่อเจ้าของห้องไม่อยู่แล้ววางตุ๊กตาที่เค้าทำเองไว้บนโต๊ะพร้อมกับทิ้งโน้ตไว้ด้วยแล้วย่องกลับออกมาเหมือนเดิม
คุณชายเย็นชากลับมาที่ห้องทำงานของตัวเองแล้วต้องแปลกใจเมื่อมีตุ๊กตาปะหลาดวางอยู่บนโต๊ะของเค้าพร้อมกับโน้ตแผ่นหนึ่ง
‘ข้าขอโทษนะขอรับ ข้ารู้ว่าสิ่งที่ข้าทำไปอาจจะทำให้ท่านหัวหน้าไม่พอใจ ข้ารู้สึกเศร้าใจยิ่งนักเมื่อรู้ว่าตัวข้าได้ทำให้หัวหน้ารำคาญใจข้าไม่รู้ว่าจะขอโทษท่านด้วยวิธีใดจึงเย็บตุ๊กตามาให้ มันอาจจะสวยไม่เท่าตัวจริงของท่านแต่ข้าก็ทำมาจากใจ ข้าไม่อยากให้ท่านเมินข้าเช่นนี้ ท่านไม่ยอมพูดกับข้าไม่ยอมมองหน้าข้าทำให้ข้ากังวล ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ท่านจะทำอะไรกับข้าข้าก็ยอม...แม้กระทั่งชีวิต...ข้าก็ขอมอบให้ท่าน’
พออ่านจบเบียคุยะก็คว้าเจ้าตุ๊กตามาบีบไว้ในมือแล้วก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องทำงาน
ใต้ต้นซากุระใหญ่ชายหนุ่มผมแดงได้แต่ยืนรอคอยความหวังว่าหัวหน้าอันเป็นที่รักยิ่งของเค้าจะได้เห็นสิ่งที่เค้านำเข้าไปให้
“หะ...หัวหน้า...” เร็นจิชะงักกับใบหน้าเย็นชาของคุณชาย
“เจ้าสำนึกผิดอะไรถึงต้องมาขอโทษข้า” เบียคุยะพูดเสียงเย็นพอๆ กับใบหน้ายิ่งทำให้อากาศรอบตัวที่หนาวอยู่แล้วหนาวขึ้นไปอีกจนเร็นจิต้องยอกมือขึ้นกอดตัวเองเอาไว้แม้จะอยากกอดคนต้องหน้ามากกว่าก็ตาม
“ที่ข้า...กอดท่าน...ท่าน...ท่านคงไม่ชอบใจ ข้า...ข้าขอโทษ” เร็นจิเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก
“อะไรทำให้เจ้าคิดเช่นนั้น” เบียคุยะรุกไล่ถามต่อ
“ก็ท่าน...เมินข้า ไม่พูดกับข้า ไม่มอง...หน้าข้า” เร็นจิก้มหน้านิ่งพูดอย่างกระท่อนกระแท่น
“ใช่ ที่ข้าทำอย่างนั้นก็เพราะเจ้ากอดข้า” คำพูดแสนเย็นชาของเบียคุยะทำให้หัวใจของเร็นจิหนาวสั่นยิ่งนัก
“ข้าขอโทษ”
“แต่ที่ข้าเป็นอย่างนั้นไม่ใช่เพราะข้าโกรธเจ้า...” คำพูดและน้ำเสียงที่อ่อนลงทำให้หัวใจของเร็นจิชื้นขึ้นและเค้าก็กล้ามองหน้าของหัวหน้าที่รักที่กำลังแดงระเรื่อ
“ข้า...ข้าไม่กล้ามองหน้าเจ้าเพราะข้าอาย...” คราวนี้เป็นเบียคุยะซะเองที่พูดตะกุกตะกักและก้มหน้า
“หัวหน้า...ข้ารักท่าน...” เร็นจิเอ่ยเสียงอ่อนโยนก่อนจะดึงผู้ที่เค้ารักยิ่งกว่าชีวิตมากอดแนบอก
“ข้าก็...รัก...เจ้า” พูดจบเร็นจิก็ก้มหน้าลงมามอบจูบอ่อนหวานให้กับเบียคุยะ
แถม
“อะไรนะ!?! พวกเจ้านี่เองที่ไปบุกโซลโซไซตี้ซะป่วนไปหมด!!” เร็นจิที่รู้ความจริงว่าคนที่ไปป่วนโซลโซไซตี้ก็คือลูเคียกับอิจิโกะก็มาวีนถึงโลกมนุษย์
“ที่พวกเราทำไปก็เพราะอยากช่วยให้แกสมหวังเร็วๆ นะ” อิจิที่หลบดาบของเร็นจิได้อย่างหวุดหวิดพูดไปตัวสั่นไป
“ช่วยให้ข้าตายเร็วสิไม่ว่า!!” เร็นจิตะโกนพลางเหวี่ยงดาบอีกคราวนี้เล่นเอาเตียงของอิจิโกะขาดครึ่งเลย
“นี่ๆ ฉันไม่เกี่ยวอะไรด้วยก็อย่าทำให้ฉันเดือดร้อนเซ่~” คอนโวยวายเมื่อถูกปลายดาบเฉือนขนหัวไป
“แกนั่นแหละตัวดีไอ้ตุ๊กตางี่เง่า” อิจิโกะรีบชี้ใส่ความคอนทันที
“พวกแกไปตายซะไป๊!!” เร็นจิเงื้อขาเตะโด่งทั้งสองคนจนลอยไปสุดขอบฟ้า
“ลูเคีย” เร็นจิเรียกนิ่งๆ ทำเอาลูเคียที่หลบอยู่ในตู้เก็บที่นอนตัวสั่นหงึกๆ
“เร็นจิ...เราเป็นเพื่อนกันมานานแล้วนะ” ลูเคียพยายามเก็บอาการสั่นไว้แล้วเปิดประตูออกไปสู้หน้ากับเร็นจิ
“ไปตายซ้า!!” แล้วเร็นจิก็เตะโด่งลูเคียไปอีกคนก่อนจะกลับโซลโซไซตี้ไปครองรักกับเบียคุยะเช่นเดิม
ตอนนี้ข้าได้สมหวังกับรักครั้งใหม่ของข้าแล้ว ข้าต้องขอโทษเจ้าจริงๆ ที่ข้าทำผิดต่อเจ้าโดยการไปมีรักใหม่แต่ข้าคิดว่าเจ้าคงต้องยินดีกับข้าแน่ๆ ใช่มั้ย...ฮิซานะ?
___________________________________________
END
ความคิดเห็น