คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Back to Italy
“คนอย่างเคียวยะนะเป็นพวกน่ากลัวแต่ว่าถ้าตื๊อเข้าหน่อยก็ใจอ่อนแล้วล่ะ นายจะต้องตามติดเคียวยะตลอดเลยนะ” ดีโน่กระซิบบอกยามาโมโตะ
“แต่ตื๊อมาก็นานแล้วนะครับ” ยามาโมโตะถอนหายใจเบาๆ
“แล้วถ้านายไม่ยอมตื๊อต่อไปก็แสดงว่านายไม่ได้ชอบเคียวยะจริงๆ แบบนั้นชั้นก็ไม่ยอมหรอกนะชั้นเองก็ไม่อยากให้เคียวยะต้องเจ็บปวดเพราะว่าชั้นก็คิดว่าเคียวยะเปรียบเสมือนน้องชายของชั้นคนหนึ่งเลยนะ” ดีโน่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“คร้าบ” ยามาโมโตะแอบถอนหายใจโดยไม่ให้ดีโน่เห็นเพราะว่าเค้าชักจะท้อกับฮิบาริเสียแล้ว
“ไอ้นี่เหรอ? เล่นไม่ได้หรอกนะ ไว้โตกว่านี้ค่อยเล่นนะ” เด็กชายเอ่ยห้ามคนตัวเล็กกว่าที่กำลังจะหยิบของอันตราย
“ทำไมล่ะครับ ทำไมต้องโตก่อนล่ะ” ร่างเล็กของเด็กชายแปดขวบเงยหน้าถามคนที่สูงกว่าอย่างไม่เข้าใจ
“มันอันตรายน่ะสิ” เด็กชายอายุมากกว่าพูด
“งั้นพี่ชายช่วยสอนผมเล่นไอ้นี่ทีสิ ถ้ามี่ชายสอนผมคงไม่ถูกว่าใช่มั้ยฮะ” ร่างเล็กของเด็กชายเดินไปเขย่าแขนของผู้ที่มีอายุมากกว่าอย่างอ้อนวอน
“ได้สิ นายชื่ออะไร? ถ้าโตขึ้นแล้วชั้นจะสอนนายเอง”
“ผมชื่อ... แล้วพี่ชายชื่ออะไรครับ?”
“ชั้นชื่อดีโน่นะ” เด็กชายผมทองยิ้มหวาน
“ครับ สัญญาแล้วนะครับ” เด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นยิ้มพลางยกนิ้วก้อยขึ้นมา
“ทำอะไรเหรอ? มันคืออะไร?” เด็กหนุ่มผมทองมอนิ้วก้อยเล็กอย่างงงๆ
“มันเป็นเครื่องหมายที่บอกว่าเราสัญญากันแล้วไงครับ”
“อ๋อ สัญญานะ” ดีโน่พยักหน้าเข้าใจก่อนจะเอานิ้วก้อยของตัวเองไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยเล็กน่าทะนุถนอม
ร่างสูงสะดุ้งตื่นครั้งแล้วครั้งเล่ากับความฝัน ความฝันนี้เกือบจะสมบูรณ์ไปแล้วแต่ติดอยู่ตรงที่ชื่อชื่อนั้นที่ไม่ว่าอย่างไรก็นึกไม่ออก ครั้นตอนเด็กคนนั้นบอกในฝันกลับเหมือนสัญญาณที่ขาดหายไปทำให้เขาไม่สามารถรู้ได้เลย
“อ่า!!” ดีโน่ร้องออกมาเบาๆ ด้วยความหงุดหงิดที่นึกไม่ออก ร่างสูงยกมือกุมขมับอย่างเคร่งเครียด ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องมาจมปลักกับอดีตที่ลืมไปแล้ว
เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วดีโน่ก็นอนต่อไม่หลับอีกทั้งนี่มันก็กำลังจะเช้าแล้วร่างสูงจึงออกไปจ้อกกิ้งข้างนอก
วิ่งได้ซักพักก็ไปเจอกับร่างคุ้นตาที่วิ่งนำหน้าอยู่ เห็นดังนั้นดีโน่ก็รีบวิ่งไปขึ้นไปตีคู่
“อรุณสวัสดิ์เคียวยะ” ดีโน่ยิ้มทักทายด้วยรอยยิ้มที่แสนจะสดใสแต่แทนที่จะได้รับคำทักทายกลับร่างบางกลับวิ่งเลี่ยงออกไปทางอื่นซึ่งนั่นก็ทำให้ดีโน่งงไม่น้อย
“เราทำอะไรผิดงั้นเหรอ?” ดีโน่เอียงคอก่อนจะรีบวิ่งไปให้ทันฮิบาริ
“นี่ๆ ชั้นอยากจะรู้มานานแล้วแหละว่าทำไมเคียวยะถึงใช้ทอนฟาล่ะ” ดีโน่ถามเสียงใส
“ไม่รู้ มันผุดขึ้นมาในหัวก็เลยใช้” ฮิบาริตอบเสียงแข็ง
“อ๋อ พรุ่งนี้แล้วสินะศึกของนาย งั้นวันนี้ก็เป็นศึกของยามาโมโตะน่ะสิ นายจะไปดูมั้ย?” ดีโน่ชวนคุย
“ไม่ไป” ฮิบาริตอบ
“ไปให้กำลังใจเค้าหน่อยสิ อย่าใจร้ายใจดำไปหน่อยเลย”
“แล้วทำไมนายต้องมายุ่งด้วยล่ะ มันไม่ใช่เรื่องอะไรที่นายจะต้องมาจัดการ ถ้าชั้นอยากไปชั้นก็จะไปแต่นี่ชั้นไม่อยาก ถ้าไม่คิดอะไรก็อย่ามาเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นแบบนี้!!” ฮิบาริวีนแตกก่อนจะรีบวิ่งหนีไปปล่อยให้ดีโน่หยุดชะงัก ยืนนิ่งด้วยความตกใจ แต่ไม่ได้ตกใจที่ฮิบาริตวาดแต่ตกใจที่ฮิบาริบอกว่าตัวเองมีความรู้สึก
“เคียวยะ...เคียวยะคนนั้นรู้สึกอย่างนั้นเหรอ?” ดีโน่อึ้งพลางยิ้ม เจ้ายามาโมโตะอาจจะมีหวังแล้วก็ได้
[[Special Dino Part]]
หวา ใครจะเชื่อกับสิ่งที่ผมได้ยินมั่งเนี่ย เคียวยะบอกว่าห้ามไม่ให้ผมเล่นกับความรู้สึก...แสดงว่าเคียวยะคนนั้น...มีความรู้สึกแล้วงั้นสิ!?! OMG!!
เจ้ายามาโมโตะมีหวังแล้วงั้นสิเนี่ย แต่ผมรู้สึกแปลกๆ นะที่เคียวยะจอมเย็นชาคนนั้นจะชอบใครเป็น จะว่าก็ใจก็ไม่ใช่เสียใจก็ไม่เชิง ผมรู้ว่าหลายๆ คนกลัวเคียวยะแต่ผมไม่ใช่ ผมไม่ได้กลัวแต่ผมเอ็นดู ภายนอกดูเขาจะดูเป็นคนแข็งกระด้างแต่ผมกลับคิดว่านั่นเป็นเพียงเกราะที่เคียวยะสร้างขึ้นมาเท่านั้นผมรู้สึกว่าเปลือกในของเคียวยะไม่ใช่แบบนี้แน่ๆ
“บอสเป็นอะไรครับ เห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว” เสียงแก่ๆ สุดสยองดังขึ้นทำให้ผมตกใจ
“ชะอุ้ย! พวกนายมากันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” ผมต๊กกะใจเมื่อหันไปจ๊ะเอ๋กับโรมาริโอ้เข้า อ๊า...ถ้าโรมาริโอ้รู้ว่าผมแอบว่าเค้าว่าแก่ในใจผมโดนเทศแหงมๆ
“ก็ตั้งแต่บอสออกจากบ้านซาวาดะนั่นแหละครับ” โรมาริโอ้ตอบ เจ้าพวกนี้นี่ตลอดเลยชอบทำตัวนอกเหนือคำสั่ง ทั้งๆ ที่บอกไว้แล้วแท้ๆ ว่าไม่ต้องมาจนกว่าจะเรียก
“พวกนายนี่ขยันตื่นแต่เช้าจริงนะ” ผมพูดประชด
“ก็บอสน่าเป็นห่วงนี่ครับ” เง้อ! เจ้าพวกนี้จะไม่พูดความจริงบ้างไม่ได้รึไง!?!
“เอาเถอะๆ ชั้นจะกลับไปบ้านสึนะแล้วพวกนายจะไปไหนก็ไป”
“งั้นพวกเราไปกับบอสนะครับ”
“ชั้นไม่อยากให้หม่าม้าตกใจ เพราะงั้นพวกนายไปที่อื่นเถอะ จะเป็นออนเซ็นหรือคาราโอเกะก็ไป...” ผมอยากจะบอกว่าผมยังไม่ทันพูดจบเจ้าพวกนั้นก็หายไปเสียแล้ว เรื่องเล่นล่ะไปเร็วนักเจ้าพวกนี้
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงซึ่งผมก็แอบมานั่งจับเจ่ากับยามาโมโตะอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนนามิโมริ ในฐานะพ่อสื่อผมก็ต้องทำให้ดีที่สุดล่ะเนอะ
“ผมท้อแล้วนะครับคุณดีโน่” ยามาโมโตะถอนหายใจแรงๆ อย่างเหนื่อยอ่อน
“อะไรกัน แค่นี้นายก็ไม่เอาแล้วเหรอยามาโมโตะ” ผมขมวดคิ้ว เจ้าหมอนี่ไม่น่าจะท้อเร็วขนาดนี้นะ
“ผมไม่รู้น่ะ ตอนนี้ผมรู้สึกแปลกๆ แยกอะไรไม่ถูกเลย” ยามาโมโตะกุมขมับแน่น
“แยกอะไรไม่ถูก?” ผมเอียงคอถาม ไอ้หมอนี่มันจะเอายังไงกันแน่ฟะ
“ก็ผม...รู้สึกแปลกๆ กับโกคุเดระ ผมคิดว่าช่วงนี้ผมยังไม่อยากจะเข้าไปตื๊อฮิบาริมากเท่าไหร่” เจ้ายามาโมโตะพูด
“ยามาโมโตะชั้นขอเตือนว่าอย่าเล่นกับความรู้สึกของเคียวยะมากนะ ชั้นบอกแล้วว่าชั้นห่วงเคียวยะ ถึงจะเป็นนายชั้นก็ไม่ไว้หน้านะจะบอกให้” ผมโกรธขึ้ง ผมคิดเสมอว่าเคียวยะเหมือนน้องชายของผมคนหนึ่ง มันผูกพันที่เราได้ฝึกด้วยกันมา
“ขอเวลาผมอีกหน่อย ถ้าผมจัดการเรื่องโกคุเดระได้แล้วผมจะมาให้คำตอบกับคุณ” ยามาโมโตะพูดแล้วเดินลงจากดาดฟ้า เฮ้อ อะไรกันเนี่ย!?!
“เคียวยะ วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ชั้นต้องฝึกให้นายและแน่นอนว่าหลังจากนี้ชั้นจะกลับอิตาลี่เลย คงไม่มาอยู่กวนใจนายซักพักล่ะนะ” เมื่อถึงเวลาเคียวยะก็เดินขึ้นมาหาผมที่บนดาดฟ้า และเมื่อเห็นหน้าเคียวยะผมก็แจ้งแถลงความไปในทันที
“ทำไม?” เคียวยะถามเสียงแข็ง เจ้าเด็กนี่มันจะทำตัวน่ารักๆ บ้างได้มั้ยเนี่ย อ่ะโด่!
“ก็บ้านชั้นอยู่อิตาลี่นี่นา อีกอย่างงานชั้นก็เยอะด้วย มาฝึกให้นายนานแล้วงานชั้นคงกองท่วมหัวแล้วมั้งป่านนี้” ผมบ่นพลางนึกถึงเอกสารต่างๆ นาๆ อ๊าก ก ก เอามันออกไปผมกลัวเอกสาร ฮือ อ อ
“แล้วจะกลับมาอีกมั้ย?” เอ่อ...ผมหูฝาดหรือเปล่า ผมได้ยินว่าเคียวยะถามว่าผมจะกลับมาอีกมั้ยน่ะ
“กลับสิ” ผมพยักหน้าตอบซื่อๆ
“กลับมาทำไม กลับไปแล้วก็ไม่ต้องกลับมาอีกสิ” อ๊ากกก ไอ้เด็กนี่มันไม่น่ารักเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ
“ชั้นจะกลับมาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลับมาให้นายเห็นหน้าหรอกนะ ชั้นเองก็มีธุระที่นี่เหมือนกันนั่นแหละ” ผมตอบอย่างงอนๆ ไม่อยากเจอก็จะไม่มีให้เจอล่ะวะ
“อึก!” เสี้ยววินาทีหนึ่ง ดวงตาเรียวเบิกกว้างอย่างหวาดหวั่นแต่ก็กลับคืนสภาพได้อย่างรวดเร็ว
“วันนี้ที่มาหานายก็เพราะจะมาบอกว่าให้นายพักผ่อนเยอะๆ ก่อนวันแข่ง การพักผ่อนก็ถือว่าเป็นการฝึกนะเคียวยะ ถึงชั้นจะไม่ได้มาดูนายแต่ชั้นเชื่อว่านายจะทำได้ดีที่สุด ดูแลตัวเองด้วยนะเคียวยะ” ผมเดินเข้าไปบีบไหล่เคียวยะเบาๆ กะจะดราม่าครับ ถ้าเคียวยะไม่ดราม่าด้วยผมซวยแน่ๆ อ่ะเหอๆ
“ไม่ต้องมาพูดดี” เคียวยะปัดมือของผมออกจากไหล่ของตัวเอง ผมไม่เข้าใจเอาซะเลยว่าเจ้ายามาโมโตะชอบเคียวยะที่ตรงไหน ให้ตายเหอะ!
“อย่าดื้อได้มั้ยเคียวยะ!” ผมตวาดเสียงดังทำให้เคียวยะแอบสะดุ้ง อย่ามาแต่เคียวยะเลยผมเองยังตกใจที่ตัวเองตวาดเคียวยะแบบนั้น
“ใช่สิชั้นมันดื้อ เพราะงั้นก็อย่ามายุ่งกับชั้นอีกเลย ออกไป!” เคียวยะตวาดใส่ผมกลับด้วยสีหน้าโกรธจัด อ่า...โดนโกรธซะแล้วมั้ยล่ะ
“ขอโทษ เคียวยะชั้นขอโทษ” ผมรู้สึกสำนึกผิดที่ตวาดออกไปแบบนั้น อ่า...เคียวยะน่ากลัวจังเลย
“ไม่ต้องมาขอโทษหรอก อันที่จริงชั้นก็รู้ตัวเองดี สัตว์กินพืชอย่างนายเข้าใจชั้นได้แบบนี้มันช่างน่าตกใจจริงๆ” เคียวยะแสยะยิ้ม เฮ้อ ไอ้เด็กนี่มันไม่น่ารักเลยจริงๆๆๆ ผมรู้ตัวว่าผมพูดบ่อยแต่มันจริงนี่นา!
“เฮ้อ เด็กดื้อ ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยละกัน” ผมใช้วิธีเอาน้ำเย็นเข้าลูบโดนการพูดอย่างอ่อนโยนพลางลูบผมนุ่มลื่นนั้นเบาๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้เคียวยะหยุดยิ้มแบบนั้นได้ไปพักหนึ่ง
“ไม่จำเป็นต้องให้นายมาบอกหรอก” เคียวยะเบี่ยงตัวหลบสัมผัสจากผมก่อนจะหันหน้าไปด้านอื่น
“คร้าบ ไปแล้วนะ บาย”
Special Dino Part end.
___________________________________________________________________________________________
ทำไมโน่ทำอย่างเน้!! T^T
ความคิดเห็น