ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ซวยฉิบหาย! ผมกลายเป็นเมียเขา [จบจ้า]

    ลำดับตอนที่ #27 : Rule 21 : รักน้องต้องแต่งหญิง!

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 56


    30/12/12
    edit : 1/1/13

     
    Rule 21 : รักน้องต้องแต่งหญิง!

    ผมถอนหายใจอย่างปลงตกมานับครั้งไม่ถ้วนหลังจากยอมตกลงแต่งหญิงเพื่อเข้าไปหลบภัยที่บ้านครีม  ผมยังทำใจแต่งหญิงไม่ได้เลยครับ  นอกจากจะต้องแต่งหญิงแล้วผมยังต้องทำตัวกระแดะเป็นตุ๊ดอีก  ตายแน่กูงานนี้  ถ้าความแตกหัวกูก็แตกด้วยล่ะวะ!!

    แต่ก่อนที่ผมจะแปลงโฉมผมก็ขอให้ครีมมาส่งผมที่หอเพื่อจะเอาเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนไปด้วย  พรุ่งนี้ผมต้องไปมหาวิทยาลัยและผมมั่นใจว่าผมจะไม่ใส่ชุดนักศึกษาหญิงแน่นอน

    “เมฆ มึงเข้าไปจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วเอามาให้กูข้างล่างหน่อยดิ” ผมกดโทรศัพท์หาไอ้เมฆทันทีที่รถของครีมมาจอดหน้าหอ

    “เออมึง พอดีเลยกูมีเรื่องจะถาม...”

    “หยุด! เดี๋ยวกูจะเล่าทุกอย่างให้มึงฟังเองแต่ตอนนี้รีบเอาเสื้อผ้าพร้อมชุดนักศึกษามาให้กูอย่างด่วนเลย” ผมเบรกก่อนที่ไอ้เมฆมันจะถามเรื่องประตูของผม

    “อะไรของมึงวะ?” ไอ้เมฆทำเสียงงงๆ

    “เออน่า  ว่าแต่...ประตูกูซ่อมเสร็จยังวะ?” ผมถาม

    “เสร็จแล้ว  ผู้ดูแลหอเขาฝากกุญแจใหม่ไว้กับกูเดี๋ยวกูจะเอาลงไปให้พร้อมกับเสื้อผ้าละกัน” ไอ้เมฆพูดก่อนเสียงประตูจะดังขึ้น  ท่าทางมันกำลังเปิดเข้าไปในห้องผม

    “เออๆ ขอบใจมาก” ผมพยักหน้าก่อนจะวางสาย


     

    เพียงไม่นานผมก็เห็นไอ้เมฆวิ่งออกมาหน้าหอ  มันหันซ้ายหันขวามองหาผมก่อนที่ผมจะเปิดกระจกโบกมือเรียกมัน

    “แฮ่ก! มาด้วยกันได้ไงเนี่ย?” ไอ้เมฆส่งกระเป๋าเป้มาให้ผมก่อนจะยืนหอบตัวงอ  ท่าทางจะเหนื่อยมาก  น่าสงสารจังน้องเมฆของพี่(ได้ข่าวว่ามันอายุมากกว่ามึง)

    “เดี๋ยวพรุ่งนี้กูเล่าให้ฟัง  เอ้อ แล้วถ้ามีใครมาถามหากูมึงบอกไม่รู้ไม่เห็นนะ” ผมพูดรัวๆ ไอ้เมฆก็รีบพยักหน้าอย่างเข้าใจ

    ตกลงกันเสร็จครีมก็ออกรถทันที


     

    ครีมพาผมไปแวะร้านเสริมสวยก่อนที่จะพาเข้าบ้าน  ตอนแรกผมอิดออดไม่อยากลงแต่สุดท้ายก็ต้องลงเพราะถูกบังคับ  นี่ถึงกับต้องพาผมเข้าร้านเสริมสวยเลยเหรอ? แต่ที่จริงผมอยากเข้าร้านเสริมหล่อนะ

    “ยัยครีมเธอพาหนุ่มที่ไหนมายะ? หล่อนะ” เจ๊กระเทยที่ท่าทางจะเป็นเจ้าของร้านทักครีม  ไอ้ผมก็เขินสิครับที่ถูกทักว่าหล่อ

    “เรื่องมันยาวน่ะเจ๊  เอาเป็นว่าเจ๊ช่วยแปลงโฉมเขาให้กลายเป็นสาวสวยหน่อยสิ” ครีมพูดอย่างสนิทสนม  เอ่อ...คือว่าผมอยากหล่ออ่ะครับไม่ได้อยากสวยเล้ย

    “ว้ายตาย! เป็นเหมือนเจ๊หรอกเหรอเนี่ย? น่าเสียดายเนอะ  ถึงจะหน้าจืดไปหน่อยแต่ก็ดูดีเนอะ  ถ้าหนูเป็นเหมือนเจ๊แบบนี้เจ๊ก็แย่สิจ๊ะ” ยัยเจ๊กระเทยยังพูดต่อ

    “เป็นอะไรเหรอครับ?” ผมถามหน้าซื่อ

    “ว้ายตาย! ก็เป็นเหมือนเจ๊ไงจ๊ะ  เป็นสาวสวยที่มีด้าม” คำพูดของเจ๊แกทำเอาครีมหัวเราะพรืดออกมาอย่างอดไม่อยู่  ไอ้ผมก็อยากจะหัวเราะอยู่หรอกถ้าไม่ติดตรงที่เจ๊แกดันหาว่าผมเป็นเหมือนตัวเองน่ะสิ  ผมล่ะอยากจะตะโกนแสกหน้าเจ๊แกจริงๆ ว่า กูเป็นผู้ชายครับ

    “คิกๆ เจ๊ นายนี่ไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอกแต่ที่ให้ช่วยเพราะเขาขอไปอยู่บ้านครีมซักพัก  ครีมกลัวพ่อด่า” ครีมหัวเราะก่อนจะอธิบายให้เจ๊ฟัง

    “นี่เธอ เดี๋ยวนี้ไวไฟนะ!” เจ๊กระเทยเท้าสะเอวก่อนจะเอานิ้วจิ้มไหล่ครีมอย่างหมั่นไส้

    “โอ๊ยเจ๊! ไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกนะ  หมอนี่ถูกโรคจิตตามไปพังบ้านเลยนะครีมสงสารก็เลยจะให้ไปอยู่ด้วยสักพัก  อีกอย่างหมอนี่ไม่มีเพื่อนที่ไหนเลย” ครีมบอก

    “ถ้าอย่างนั้นก็มาอยู่กับเจ๊สิจ๊ะ  เจ๊ยินดีรับเลี้ยงไปตลอดชีวิตเลยนะ” เจ๊กระเทยส่งสายตาวิ้งวับมาให้ผม  ผมสะดุ้งทันที

    “แล้วถ้าเจ๊ตายวันนี้แล้วผมจะไปอยู่กับใครล่ะครับ?” ผมทำหน้าใสซื่อถามออกไป  ไอ้คนอย่างผมเนี่ยหน้าใสใจเชือดคอนะขอบอก ฮ่าๆๆ

    “ว้าย! กระเทยโดนขู่  ปากคอเราะร้ายนะตัวเธอ” เจ๊แกสะดุ้งอย่างตกใจผมจึงหัวเราะเป็นเชิงบอกว่าล้อเล่น

    “เอางี้นายไอ  นายไปลองชุดก่อนละกันจะได้ดูว่ามันจะเหมาะกับผมทรงไหน?” ครีมพูดก่อนจะยัดกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอใส่มือผม  ผมอิดออดครีมก็เลยต้องลากผมให้เข้าไปที่ห้องลองชุด  ผมเปิดม่านออกมามองครีมอย่างอ้อนวอนเพราะไม่อยากแต่งแต๋วแต่พอเจอสายตาดุๆ เข้าผมก็รีบผลุบเข้าไปทันที


     

    ผมมองชุดกระโปรงในมือก่อนจะถอนหายใจ  นี่ผมจะต้องใส่มันจริงๆ เหรอเนี่ย?  โอ๊ย!! แล้วทำไมผมต้องมาแต่งตัวแบบนี้ต่อหน้าผู้หญิงที่ผมเล็งไว้ด้วยเนี่ย  สวรรค์โกรธเคืองอะไรผมนักหนา  จูบแรกของผมก็เป็นผู้ชาย  เรื่องบนเตียงครั้งแรกก็ผู้ชายแล้วนี่ยังจะให้ผมแต่งหญิงอีก!  ใครก็ได้...เอามีดเอาปืนมาฆาตกรรมกูที!

    ผมปลดกระดุมเสื้อช็อปก่อนจะหยิบชุดเดรสกระโปรงสั้นมาสวม  ผมสวมมันเข้าทางหัวอย่างยากลำบากเพราะติดไหล่  ไอ้ผมก็เป็นผู้ชายไม่แปลกที่จะไหล่กว้างกว่าผู้หญิงแต่โชคดีหน่อยที่ชุดนี้เป็นผ้ายืด  พอพ้นไหล่ไปชุดมันก็มาติดอยู่ที่เอว  ผมมองกางเกงก่อนจะค่อยๆ ถอดมันออกเหลือแต่บ็อกเซอร์

    ผมใส่ชุดเรียบร้อยผมก็มองตัวเองในกระจก...

    ...

    ...

    บอกได้คำเดียวครับ...

    ...อุบาทว์สิ้นดี!!!

    ผมแทบร้องไห้เมื่อเห็นสภาพตัวเอง  ไอ้ตัวผมก็ใช่จะเล็กๆ แล้วให้มาใส่ชุดของผู้หญิงที่ตัวเล็กนิดเดียว  ประมาณจากสายตา...หากครีมใส่ชุดนี้กระโปรงคงยาวเท่าเข่า  คิดดูสิครับ...ครีมสูงประมาณ 160 cm แล้วผมสูง 174 cm  คิดดูสิว่ากระโปรงมันจะสั้นแค่ไหน  บ็อกเซอร์ผมยังยาวกว่าเลย

    นอกจากกระโปรงจะสั้นเกินเหตุแล้วตรงช่วงไหล่ของผมยังคับจนเสื้อแทบปริ  ที่จริงมันจะต้องรูดซิบด้านหลังด้วยนะครับแต่ว่ามันแน่นเกินไปจนรูดไม่ขึ้นหลังของผมจึงเปลือยเปล่า  แล้วสภาพแบบนี้...ผมจะกล้าออกไปให้ใครเห็นครับ

    “นายไอออกมาได้แล้ว!” เสียงครีมดังเร่ง  ผมกระทืบเท้าอย่างขัดใจอยู่คนเดียวก่อนจะเดินอายๆ ออกจากห้องลองชุด

    และทันทีที่ผมออกไปอย่าถามเลยครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น...

    “ก๊ากกกก ฮ่าๆๆๆ อะไรกันล่ะนั่น? ฮ่าๆๆ” ครีมหัวเราะสอดประสานกับเสียงพนักงานและลูกค้าในร้านเสริมสวยอย่างไม่ถือตัวว่าตัวเองเป็นผู้หญิง  ครีม...เธอหัวเราะได้แมนกว่าฉันอีก T^T

    T__________T” ผมทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก

    “โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว  นายฮามากไอ  ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อยเหอะ” ครีมหัวเราะน้ำตาเล็ดน้ำตาไหลก่อนจะกดถ่ายรูปผมรัวๆ ผมจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องลองชุด

    “เธอให้ฉันทำบ้าอะไรเนี่ย!?!” ผมรีบถอดชุดออกก่อนจะดึงผ้าม่านคลุมตัวแล้วโผล่หน้าออกไปข้างนอกนิดหน่อยอย่างอายๆ

    “ฮ่าๆ เอางี้ไหมคะคุณน้องขา  เดี๋ยวให้น้องผู้ชายเขายืมชุดเจ๊ไปก่อนก็แล้วกัน  ดูขนาดตัวเราก็น่าจะเท่ากันนะเนี่ย” เจ๊คนเดิมหัวเราะไปพูดไป  อย่าหัวเราะกันได้ไหมครับ  กูอายฉิบหาย

    ผมมองการแต่งตัวของเจ๊แกก่อนจะหน้าซีดเผือด  กางเกงแนบเนื้อลายดอกสีสันสดใสกับเสื้อทรงแม่หมอยิปซีเนี่ยนะที่จะให้ผมยืม?  ฆ่ากูเถอะแบบนี้

    “อย่ามองเจ๊อย่างนั้นสิยะ  เห็นแบบนี้แต่เจ๊ก็มีชุดออกงานออกเยอะแยะ  เจ๊จะสงเคราะห์ให้หล่อนยืมสักสองสามชุด  จะเอาไหมยะ?” ยัยเจ๊เท้าสะเอวมองหน้าผมดุๆ ผมจึงรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว  ใส่ชุดเจ๊แกก็น่าจะดีกว่าใส่ชุดคับๆ ของครีมล่ะนะ “ยัยครีม ไปเลือกชุดที่ห้องเจ๊ได้เลย  เดี๋ยวเจ๊ทำผมให้ลูกค้าก่อน” เจ๊แกสั่งก่อนที่ครีมจะเดินขึ้นบนชั้นสอง  ผมไม่ตามไปเอาแต่ยืนสวดมนต์ส่งวิญญาณตัวเอง


     

    “แบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ เจ๊ว่าให้มาทำผมก่อนดีกว่า  ผมน้องเค้าสั้นเกินไปดูยังไงมันก็ผู้ชายชัดๆ” เจ๊ดาด้า(เพิ่งรู้ชื่อ)พูดอย่างหงุดหงิดหลังจากที่ผมลองชุดของเจ๊แกมาไม่ต่ำกว่าห้าชุด  ลองไปกี่ชุดๆ ผมก็ยังดูเป็นผู้ชายอยู่ดีแม้ชุดที่ใส่มันจะทำให้ผมเริ่มดูเหมือนผู้หญิงขึ้นบ้างก็ตาม

    “ทุกอย่างเข้ากับชุดหมดแล้วนะเหลือก็แต่ผมเนี่ยแหละ” ครีมลูบคางอย่างพินิจพิเคราะห์  ยัยครีมท่าทางแมนกว่าผู้ชายซะอีกให้ตายเถอะ “ขาก็โอเค สวยกว่าผู้หญิงหลายคน  แขนกับไหล่ก็ไม่ใหญ่จนเกินไปแต่นายผอมจนเห็นเส้นเลือดชัดแบบนี้มันดูแมนไปหน่อยไหม?” ครีมเดินวนพลางสำรวจร่างกายของผม  อายวุ้ย

    “เจ๊ว่าเพราะน้องเค้าเกร็งมากเกินไปเส้นเลือดก็เลยปูดมากกว่ามั้ง”

    “นี่นาย เลิกเกร็งดิ๊!” ยัยครีมเตะขาผมเล่นซะผมแทบทรุด  ยัยนี่โหดฉิบ!

    “นี่เธอจะอะไรนักหนาเล่า  ไหนบอกว่าจะให้ฉันแต่งเป็นตุ๊ดไง  ไม่เห็นต้องทำให้เหมือนผู้หญิงขนาดนั้นก็ได้นี่” ผมขมวดคิ้วบ่น

    “ไม่ได้นะยะ  ถึงจะเป็นตุ๊ดแต่เราก็ต้องสวยเอาไว้ก่อน” ยัยเจ๊พูดก่อนจะทำท่าเชิดๆ หยิ่งๆ  ผมมองหน้าเจ๊แกแหยๆ ก่อนจะคิดว่า...เจ๊สวยตรงไหนวะ?

    “เอางี้ เจ๊เลือกวิกผมให้หมอนี่แล้วก็ลองแต่งหน้าอ่อนๆ ให้ดูก่อนละกันนะ  ส่วนนาย...ไปเปลี่ยนชุดแล้วมาหาเจ๊ซะ” ยัยครีมสั่งผมจึงเดินกลับเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดเดิมของตัวเองแต่ผมไม่ได้ใส่เสื้อเพราะขี้เกียจ

    พอผมเดินออกมาจากห้องลองเสื้อทั้งๆ ที่ท่อนบนเหลือแค่เสื้อกล้ามยัยครีมกับเจ๊ก็เบิกตากว้างมองผมทันที

    “ที่จริงนายก็เอวคอดนะยะเนี่ย” ยัยครีมเดินเข้ามาหาผมก่อนจะจับเอวหมุนไปมา  เอ่อ...เกรงใจกูหน่อยเฮ้ย T^T

    “ว้ายตาย  หุ่นแบบนี้กระเทยอิจฉา” เจ๊แกก็เอาอีกคน 

    เมื่อกี้ที่ผมลองชุดผู้หญิงน่ะตรงช่วงเอวของชุดที่ผมลองส่วนใหญ่มันจะซ่อนรูปไม่ให้เห็นรูปทรงของเอวชัดนักคนอื่นๆ จึงไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเอวผมเล็ก  เซ็งอยู่เหมือนกัน...อยากจะเข้าฟิตเนสอัพกล้ามแต่ไม่มีเวลาว่างเลย


     

    “ไอ...เจ๊อิจฉาหนูจริงๆ นะลูก  มองบางมุมหนูก็หล่อสมเป็นผู้ชายอยู่หรอกแต่พอมองดีๆ แล้วหนูน่ารักมากเลยนะ  ยิ่งแต่งหน้าแล้วหนูยิ่งน่ารัก  ถ้าบอกว่าเป็นผู้หญิงเจ๊ก็เชื่อนะเนี่ย” ขณะที่ผมนอนหลับตาปล่อยให้เจ๊ดาด้ายำหน้าตัวเองเจ๊แกก็พูดพล่ามไปเรื่อย  ผมตอบโต้ไม่ได้เพราะต้องเม้มปากตามคำสั่งเพื่อสะดวกต่อการแต่งหน้า “หนูเคยมีผู้ชายมาจีบไหมลูก?” เจ๊แกถาม  ผมนิ่งนึก

    ไอ้พี่เสือ...พี่มันชอบพูดว่าผมเป็นเมียมันบ่อยๆ และชอบเรียกผมว่าสุดที่รักก็จริงแต่นั่นเป็นแค่การแกล้งกันเล่นๆ  ส่วนไอ้พี่ขลุ่ยเรียกผมว่าฮันนี่...แต่พี่มันก็ไม่ได้คิดอะไร  ไอ้พี่ลุกซ์ล่ะ...มันเคยบอกว่าชอบผมนี่  แต่พี่มันแค่อยากลองใจผมเฉยๆ นี่หว่า  แล้วก็...ไอ้พี่ลัน  ถึงจะได้กันไปแล้วแต่พี่แกเคยจีบผมเหรอ? ก็ไม่นี่หว่า...?  ที่สำคัญ...เรื่องระหว่างผมกับพี่ลันมันเกิดขึ้นด้วยความเต็มใจซะที่ไหนล่ะ 

    สรุป...ผมไม่เคยมีผู้ชายมาจีบ...

    “ไม่นี่ครับ” ผมหาโอกาสตอบเมื่อเจ๊แกไม่ได้ละเลงอุปกรณ์แต่งหน้าบนหน้าผมแล้ว  แต่พอตอบเสร็จปุ๊บเจ๊แกก็เริ่มละเลงต่อ

    “งั้นผมจีบได้ไหมครับ?”

    “ได้สิครับ...หะ...หา!?!?!?!” ผมทะลึ่งพรวดจากเตียงนอนสำหรับแต่งหน้าทันทีจนเจ๊ดาด้าตกใจผงะลุกขึ้น  ผมตกใจกับเสียงทุ้มๆ ของผู้ชายที่ดังอยู่ใกล้ๆ ที่ถามคำถามแสลงหูและผมดันโง่ตอบรับเสียอย่างนั้น

    ผมเอี้ยวตัวไปมองผู้ชายหน้าหล่อที่ยืนยิ้มแฉ่งข้างเตียงก่อนจะทำหน้าเหวอ  ไอ้ห่านี่ก็แม่งหล่อแล้วเสือกมาขอผู้ชายคบ

    “ไม่เอาน่าคิม  อย่าล้อเล่นกับลูกค้าเจ๊สิ” เจ๊ดาด้าตีแขนผู้ชายข้างๆ ก่อนจะนั่งลงที่เดิมเพื่อแต่งหน้าให้ผมต่อ  ผมถอนหายใจ...ที่แท้มันก็แค่หยอก  เล่นซะกูใจหายวาบเลย

    “เจ๊หวัดดีครับ  วันนี้ลูกค้าเยอะเนอะ” ไอ้หล่อหน้าตี๋มันหัวเราะนิดๆ ก่อนจะเดินไปหยิบแม็กกาซีนแล้วเดินอ้อมไปนั่งบนโซฟา  ผมที่ยังไม่นอนลงประจำที่มองมันผ่านกระจกบานใหญ่ตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์

    พอละสายตาจากไอ้หล่อนั่นผมก็เหลือบตามองตัวเองในกระจก...

    เหี้ย!! นี่กูหรือนี่!?!

    ผมมองหน้าตัวเองในกระจกอย่างไม่อยากจะเชื่อ  พอแต่งหน้าออกมาแล้วผมหน้าหวานขนาดนี้เลยเหรอ?  ทั้งๆ ที่ไม่ได้แต่งอะไรมากแค่ทาตากรีดอายไลเนอร์เขียนคิ้วตบแป้งและลงบรัชออนสีชมพูอ่อนที่หน้านิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง  ทำไมหน้ากูมันเปลี่ยนได้ขนาดนี้วะเนี่ย?

    “มาหาเจ๊มีธุระอะไรยะ?” เจ๊ดาด้าทึ้งหัวผมให้นอนลงก่อนจะถามไอ้หล่อคนเดิม

    “ผมกะจะมาเหล่ลูกค้าเจ๊ซักหน่อยเผื่อจะเจอคนที่ถูกใจ  และผมก็เจอซะด้วย” ไอ้หล่อลากเสียงยาวในตอนท้ายอย่างเจ้าเล่ห์  ตอนนี้ผมสังเกตสีหน้ามันไม่ได้เพราะถูกยัยเจ๊ดาด้าล็อกหน้าไว้ให้อยู่เฉยๆ จนหันไปมองใครไม่ได้

    “นี่ เด็กคนนี้เป็นผู้ชายนะยะ” เจ๊พูดก่อนจะชี้หน้าผม  อ้าว...แสดงว่าไอ้หล่อนั่นมันสนใจผมจริงๆ งั้นเหรอเนี่ย?

    “ผมรู้ครับ” หมอนั่นพูดอย่างอารมณ์ดี

    “ปกติเห็นแต่กินสาวๆ วันนี้นึกคึกอะไรขึ้นมาถึงอยากกินหนุ่มล่ะยะ?” เจ๊ดาด้าถามก่อนจะโน้มตัวลงมาหาผม  ผมหลับตาปี๋ได้แต่หวังในใจว่าเจ๊แกจะไม่ทำอะไรผม  แต่สุดท้ายก็ต้องคลายความกังวลเมื่อเจ๊แกแค่ทาลิปสติกที่ปากของผมก็เท่านั้น

    “ผมไม่ได้เจ้าชู้ขนาดนั้นซักหน่อยเจ๊  แต่คนนี้หน้าตาตรงสเป็กเลย” คำพูดของไอ้ตี๋ผมเอาผมสะดุ้งอย่างตกใจ  เจ๊ที่กำลังทาลิปสติกอยู่ทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างหงุดหงิดก่อนจะเอาทิชชู่มาเช็ดมุมปากที่เปื้อนเนื่องจากผมสะดุ้งจนมือเจ๊แกพลาด

    “เฮ้ย! อย่ามาพูดจากวนตีนนะเว้ยอย่าหาว่ากูไม่เตือน” ผมปัดมือเจ๊ที่กำลังจะทาลิปให้ผมอีกรอบออกก่อนจะลุกขึ้นนั่งและหันไปมองหน้าไอ้ตี๋อย่างหาเรื่อง  พอถูกจีบซึ่งๆ หน้าแบบนี้แล้วตีนกระตุกว่ะ  ถ้าเป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง

    “อุย! โหดจัง  แต่น่ารักอ่ะ” ไอ้ตี๋วางแม็กกาซีนลงก่อนจะเอามือค้ำคางมองหน้าผมแล้วยิ้มจนตาหยี  กวนประสาท!!

    “บอกว่าหล่อสิวะ!” ผมฉุนกึก

    “แหม...ใจเย็นๆ สิ  ดุไม่เข้ากับหน้าเลย  ตอนนี้หน้าตากำลังน่ารักเลยนะ” ไอ้หมอนั่นยังคงยิ้มเหมือนไม่สะทกสะท้านกับคำขู่ของผม

    “หมอนี่มันวอนตีนว่ะ! กูไม่ชอบให้ใครมาบอกว่าน่ารักโดยเฉพาะผู้ชายด้วยกัน” แต่ผู้หญิงผมให้อภัย

    “ใจเย็นๆ นะหนูไอ  คิม อย่าไปกวนพี่เขาสิลูก” เจ๊ดาด้ายกมือปรามผมกับไอ้เด็กหน้าตี๋นั่นก่อนจะหันไปบอกลูกน้องที่กำลังทำผมให้ลูกค้าว่าไม่มีอะไร

    “เอะอะอะไรกันน่ะเจ๊  ใครมากวนเหรอ?” เสียงครีมดังลงมาจากชั้นสอง  ผมหันไปมองก็พบว่าเธอกำลังหิ้วเสื้อผ้าของเจ๊ดาด้าลงมา “คิม...? มาได้ไงน่ะ?” ครีมหันไปมองไอ้หนุ่มหน้าตี๋อย่างข้องใจ  รู้จักกันเหรอเนี่ย?

    “พี่! ผมว่าแล้วว่าพี่ต้องอยู่ที่นี่” ไอ้เด็กนั่นหันไปยิ้มให้ครีม  พี่...?

    “แล้วนี่...? ทะเลาะกันเหรอ?” ครีมมองผมกับไอ้เด็กคิมสลับกันไปมา

    “เปล่าหรอกครับ  ผมแค่แหย่เล่นๆ นิดๆ หน่อยๆ เขาก็เลยโกรธ  ว่าแต่...พี่รู้จักเหรอ?” ไอ้เด็กคิมถาม

    “อื้อ นี่ไอเป็นเพื่อนที่มหาลัยน่ะ  ส่วนนี่น้องชายฉันเองชื่อคิมอยู่ม.5” เหยดเปียด! ไอ้เด็กคิมเป็นน้องยัยครีมเหรอเนี่ย?  แล้วแม่งไอ้เด็กคิมมันหันมาหาผมแล้วยักคิ้วหลิ่วตาใส่ด้วยอ่ะ  กวนประสาทสิ้นดีเป็นแค่เด็กแท้ๆ ฮึ่ม!!

    “ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ไอ้เด็กคิมลุกขึ้นแล้วเดินมาหาผมที่นั่งอยู่บนเตียงสำหรับแต่งหน้า  มันยื่นมือมาทักทายแต่ผมไม่อยากจับเลยว่ะ  ชิ! ถ้าไม่ติดว่ายัยครีมมองอยู่ผมไม่จับให้เสียมือหรอก

    ผมถอนหายใจเซ็งๆ ก่อนจะยื่นมือไปจับแต่โดยดี  ทันทีที่ผมจะชักมือกลับไอ้เด็กนั่นก็จับมือผมขึ้นไปจูบเฉยเลย  พ่อง!! กูอยากโดดถีบหน้าคนโว้ย!

    ไม่ใช่แค่ผมนะครับที่ตกใจ  คนแทบทั้งร้านที่มองมาพอดิบพอดีตกใจจนเบิกตาค้างเลยทีเดียว  แล้วแม่งร้านนี้ก็เสือกใหญ่แถมดูหรู ลูกค้าที่เข้ามาก็มีแต่คนแลดูไฮโซ  แล้วผมก็แม่งมาทำขายหน้าตั้งแต่แต่งชุดยัยครีม  ป่านนี้คนทั้งร้านจะคิดว่าผมเป็นอะไรแล้วเนี่ย?

    “คิม! ทำอะไรน่ะ!?!” ยัยครีมเลิกช็อคก่อนจะเดินมาดึงน้องชายออกให้ห่างจากผม

    “พี่...ผมชอบคนนี้อ่ะ” ไอ้เด็กคิมยังยืนท่าเดิมเหมือนตอนที่จับมือผมขึ้นไปหอม  ดูมันพูดสิ  เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้ว!!

    “ไอ นายไปเปลี่ยนชุดก่อนเถอะ  ชุดที่จะให้ใส่แขวนอยู่ในห้องแล้วนะ” ยัยครีมถอนหายใจเหมือนจะปลงตกก่อนจะโบกมือไล่ผม  ผมทำตามอย่างว่าง่ายแต่ไม่วายยกนิ้วกลางใส่ไอ้เด็กคิมโดยไม่ให้ยัยครีมเห็น

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    มาอัพแย้วจ้า
    ตอนแรกไรเตอร์คิดจะแต่งสเปเชียลของวันปีใหม่แต่คิดไปคิดมากลัวรีดเดอร์จะค้างก็เลยไม่แต่งดีกว่า  แต่จะเซอร์วิสให้รับปีใหม่ละกันเนอะ
    ส่วนรูปน้องไอแต่งหญิงคงมีแต่รูปวาดล่ะค่ะ  อาจจะไม่สวยเท่าไหร่เพราะไรเตอร์วาดเอง (เอิ๊กกก) และส่วนมากรูปที่ไรเตอร์วาดไรเตอร์จะลงไว้ที่ทวิตมากกว่าเพราะเวลาวาดเสร็จไรเตอร์ก็จะถ่ายรูปเอาแล้วอัพอินสตาแกรมก่อนแล้วค่อยเอาลงทวิตอีกที พอจะเอามาแปะที่นี่มันกลับแปะไม่ได้  เซ็งเบาๆ 
    แต่ใครอยากจะวาดน้องไอแต่งหญิงก็วาดมาเลยนะคะ  เค้าก็อยากเห็นนนนนน ฮ่าๆๆๆ

    อ้อ...มีข่าวมาบอกนิดนึง  ตอนนี้ไรเตอร์แต่ง Side story ของเรื่องนี้อยู่โดยพระเอกเรื่องนั้นเป็นไอ้พี่ลุกซ์  คือ...มันจะเป็นเรื่องยาวก็เลยไม่อยากเอามาแปะไว้ที่นี่อ่ะค่ะ  ในนิยายเรื่องนั้นเราจะได้เห็นมุมอีกมุมที่พี่ลุกซ์ไม่เคยแสดงให้เห็น  อยากอ่านป่าว??? ฮ่าๆๆๆ

    ปล. เจอคำผิดก็บอกกันจ้า

     

    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×